แชร์

บทที่ 247

ผู้เขียน: มู่อวิ๋นเฉิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-09 17:00:01
เมื่อมองเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้วของแม่นางน้อย กู้จิ่งซีก็ถามอย่างสนใจว่า “ฮูหยินมีแผนอย่างไรงั้นหรือ?”

เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาหันมามองเขา ก็เห็นบุรุษผู้นี้กำลังมองดูตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงได้มีความรู้สึกไว้วางใจเขาอย่างแปลกประหลาด ลังเลเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เล่าแผนทั้งหมดให้เขาฟัง

กู้จิ่งซีฟังแม่นางน้อยพูดจนจบ อันที่จริงแผนของแม่นางน้อย สำหรับเขาแล้วยังไม่ประสีประสายิ่งนัก ทว่าสตรีที่อยู่แต่ในเรือน สิ่งที่สามารถทำได้มีข้อจำกัด จึงสามารถทำได้แค่นี้เท่านี้

เขาพยักหน้าแผ่วเบา พลางตอบไปสองคำ “ไม่เลว”

เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังคำยืนยันจากเขา รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าก็กว้างขึ้น ยันข้อศอกไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองเท้าคาง ยิ้มหวานพลางถามว่า “ท่านพี่มีแผนที่ดีกว่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”

กู้จิ่งซีหันมามองนาง พยักหน้าแล้วตอบว่า “มี ทว่าไม่เหมาะกับเจ้า”

เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียง ‘หืม?’ อย่างไม่เข้าใจ เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน หมายจะสอบถาม

กู้จิ่งซีกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เป็นสตรี อย่าใช้วิธีการเปื้อนเลือดจะดีกว่า”

เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 248

    จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว แม่สามีของนางในตอนนี้ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น จึงได้เชิญท่านย่าของนางไปที่ตระกูลกู้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ท่านย่าของนางจึงวางใจได้เสียที และจัดเตรียมการแต่งงานให้กับนางกู้จิ่งซีดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่นางกล่าวออกมา จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยินก็เป็นแม่คนแล้วเช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยา “…”หากเป็นลูกอกตัญญูเหมือนเช่นกู้ซิวหมิงก็ช่างเถิด นางไม่ต้องการ มีลูกอย่างกู้ซิวหมิง อายุคงสั้นลงไปอีกหลายปี……วันรุ่งขึ้น ใบหน้าของเฉียวหมอมอเต็มไปด้วยความกังวล นางติดตามหลี่เฉิงบุตรชายมารออยู่ที่ห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาที่ตกลงกันไว้ ก่อนหน้านี้มิใช่ว่าบุตรชายไม่เคยติดหนี้การพนัน ทว่าก็ไม่เคยติดหนี้มากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องถึงห้าพันตำลึงของโรงบ่อน ต่อให้เป็นรายได้ของที่ดินที่ขาดดุลหนึ่งพันตำลึงนั่น นางก็ไม่สามารถเอามาคืนได้เช่นกันนางเป็นหมอมอคนสนิทที่อยู่ข้างกายฮูหยิน แต่กลับกำลังจะทำข้อตกลงกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน นางทำเช่นนี้เป็นการทรยศฮูหยินที่เคยมีบุญคุณต่อนางอย่างไม่ต้องสงสัยความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจทรมานไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ถึงเวลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 1

    จวนหย่งชางป๋อเป็นตระกูลขุนนางตกอับ แต่เมิ่งจิ่นเหยาผู้เป็นบุตรีคนโตของภรรยาเอกกลับได้ตบแต่งเข้าจวนฉางซินโหวที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ[1] ใครบ้างจะไม่บอกว่าเมิ่งจิ่นเหยาโชคดี?อย่างไรก็ตาม เมิ่งจิ่นเหยากลับไม่คิดเช่นนั้น หากนางโชคดีจริง เหตุใดคู่หมั้นจึงไม่มารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองในวันวิวาห์? แต่ให้คุณชายรองของจวนฉางซินโหวอุ้มไก่ตัวผู้มาที่จวนหย่งชางป๋อเพื่อรับตัวเจ้าสาวแทนเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย จึงไม่อาจมารับด้วยตนเองทั้ง ๆ ที่หลายวันก่อนนางเห็นกู้ซิวหมิงผู้เป็นซื่อจื่อดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี เหตุใดจู่ ๆ ก็ล้มป่วยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น มารับตัวเจ้าสาวไม่ได้กันเล่า? พูดตามตรงคือจวนฉางซินโหวไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นถึงได้ดูแคลนนางเช่นนี้ หากท่านปู่ของนางยังอยู่ ต่อให้ล้มป่วยจริง ตราบใดที่ไม่ถึงขั้นลุกจากเตียงไม่ไหว ก็คงจะมารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองการแต่งงานกระชั้นชิดแล้ว แม่เลี้ยงกับบิดาอยากเชื่อมสัมพันธ์กับจวนฉางซินโหว ไฉนเลยจะละทิ้งการแต่งงานดี ๆ ที่กำหนดไว้เมื่อสิบปีก่อนนี้? ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะทำให้นางไม่ได้รับความเป็นธรร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 2

    เมื่อสิ้นเสียงกล่าวของนาง ทุกคนล้วนตกตะลึงไม่หยุดบัดนี้จวนหย่งชางป๋อไม่ใช่จวนหย่งชางป๋อเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว หลังจากที่หย่งชางป๋อผู้เฒ่าเสียชีวิต หย่งชางป๋อคนปัจจุบันมีความสามารถพื้น ๆ ธรรมดา ทายาทผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์มีอายุเพียงสิบสองปี ยังไม่ได้เข้ารับราชการ ปัจจุบันยังไม่สามารถตั้งตัวได้ บุตรชายคนโตที่เกิดจากอนุภรรยาก็มีอายุเพียงสิบสามปีเช่นกัน จวนหย่งชางป๋อตกอับแล้ว แม้กู้ซิวหมิงหลบหนีงานแต่งงาน สกุลกู้ก็ยังจัดพิธีวิวาห์ตามกำหนดการ ตบแต่งเมิ่งจิ่นเหยาเข้าสกุลส่วนเมิ่งจิ่นเหยาก็ยอมตามน้ำไป แต่งงานกับกู้ซิวหมิง เป็นฮูหยินของซื่อจื่อที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี แม้สตรีนางอื่นได้รับความรักความโปรดปรานจากกู้ซิวหมิงอีกเพียงใด สุดท้ายก็เป็นได้เพียงอนุภรรยาที่ไม่มีหน้ามีตาเท่านั้น วันหน้าค่อยจัดการในภายหลังทว่าบัดนี้เมิ่งจิ่นเหยากลับบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าว?จวนฉางซินโหวมีสามบ้าน บ้านใหญ่กับบ้านรองล้วนเกิดจากอนุภรรยา บ้านสามคือบุตรที่เกิดจากภรรยาเอก ซึ่งเกิดจากฮูหยินผู้เฒ่ากู้ หลังจากที่ท่านโหวผู้เฒ่าเสียชีวิตแล้วก็ได้มีการสืบทอดตำแหน่งฉางซินโหวคนใหม่ ฉางซินโหวกู้จิ่งซีม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 3

    ทุกคนมองไปตามทิศทางที่เมิ่งจิ่นเหยาชี้ หลังจากที่สายตาทอดมองบนร่างของกู้จิ่งซี พวกเขาก็พากันสูดลมหายใจเย็นเยียบเมิ่งจิ่นเหยาบ้าไปแล้วหรือนี่? เดิมทีกู้จิ่งซีเป็นว่าที่พ่อสามีของนาง บัดนี้ว่าที่ลูกสะใภ้จะกลายเป็นว่าที่ภรรยาหรือ?หากกู้จิ่งซีและกู้ซิวหมิงเป็นคนรุ่นเดียวกัน เช่นนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่กู้จิ่งซีเป็นบิดาของกู้ซิวหมิง เป็นผู้อาวุโส แล้วผู้อาวุโสจะแต่งภรรยาที่ควรเป็นเด็กรุ่นหลังได้อย่างไร?นี่มันผิดหลักจริยธรรมกู้จิ่งซีเป็นผู้ที่แม้ภูเขาไท่ซานถล่มตรงหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวอันน่าตกตะลึงของว่าที่ลูกสะใภ้ สีหน้าของเขาก็แตกร้าวในพริบตา ก่อนจะหรี่ตามองเมิ่งจิ่นเหยาเมื่อเมิ่งจิ่นเหยาสบสายตาอันเย็นชาของกู้จิ่งซี หัวใจของนางก็สั่นเทิ้ม หากบอกว่าไม่ประหม่าไม่หวาดกลัว นั่นคงเป็นการโกหก ทว่านางเลือกเด็กรุ่นหลานสองคนนั้นของสกุลกู้ไม่ได้ แต่กู้จิ่งซีกลับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นางไม่มีทางถอยแล้ว หากกลับไปที่สกุลเมิ่ง สถานการณ์ก็คงไม่ดีไปกว่าการอยู่ในสกุลกู้ กู้ซิวหมิงทำผิดต่อนาง ทำให้นางเป็นที่ขบขันในวันวิวาห์ นางไม่อาจเป็นเจ้าสาวของกู้ซิวหมิง เช่นนั้นก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 4

    “หนึ่งคำนับฟ้าดิน!”“สองคำนับบิดามารดา!”“สามีภรรยาคำนับกันและกัน!”“พิธีเสร็จสิ้น ส่งตัวเข้าห้องหอ!”งานแต่งงานที่เหลวไหลเป็นไปไม่ได้แต่กลับกลายเป็นความจริง เมิ่งจิ่นเหยาไม่ได้เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ แต่กลายเป็นฮูหยินของฉางซินโหวแทนบรรดาแขกเหรื่อต่างมึนงง รู้สึกว่าเข้าร่วมงานแต่งงานมามากมาย ทว่าครั้งนี้เป็นงานที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ช่วงเวลาว่างหลังดื่มชารับประทานอาหารจะมีเรื่องใหม่ให้พูดคุยกันแล้ว และพวกเขายังเป็นประจักษ์พยานที่ได้เห็นกับตาตัวเองอีกด้วยต้องกล่าวว่าเมิ่งจิ่นเหยามีสายตาแหลมคมมาก กู้จิ่งซีมีทั้งความสามารถและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น บัดนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีศาลต้าหลี่ หากไม่ใช่เพราะช่วยเหลือฮ่องเต้จนได้รับบาดเจ็บ เป็นโรคที่มิอาจกล่าวได้ และถูกคู่หมั้นถอนหมั้นจนหมดกำลังใจเรื่องแต่งงานมาตลอด ก็คงไม่ถึงตาให้เมิ่งจิ่นเหยามาเก็บตกไปได้คนของบ้านใหญ่กับบ้านรองก็มึนงงเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป คิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่ากู้จะเห็นด้วยกับเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ได้ อีกทั้งกู้จิ่งซีที่เคร่งครัดมาตลอดก็แต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้ในตอนแรกเช่นกัน พรุ่งนี้บ้านของพวกเขาย่อมก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 5

    หลังจากแขกเหรื่อแยกย้ายกลับกันไปหมดแล้ว กู้จิ่งซีก็กลับมาที่เรือนของตัวเอง ภายในเรือนจุดโคมไฟสว่างไสววันนี้เขาดื่มไปไม่น้อย เมาได้ห้าหกส่วนแล้ว เขานวดหว่างคิ้ว เหลือบมองไปทางห้องหลัก ตัวเขาเองก็คิดว่าเรื่องมันเหลวไหล เห็นชัดว่าเป็นลูกสะใภ้ สุดท้ายกลับจับพลัดจับผลู กลายเป็นเขาที่แต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้แทนนี่เป็นเรื่องที่ออกนอกลู่นอกทางที่สุดที่เขาเคยทำตลอดยี่สิบเก้าปีที่ผ่านมา เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาเลือกเขาอย่างแน่วแน่ ดึงดันที่จะแต่งงานกับเขา เมื่อเขาสบสายตาที่เด็ดเดี่ยวของเมิ่งจิ่นเหยา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดความคิดแบบไหนถึงดลใจให้ตอบตกลงโดยไม่รู้ตัวในขณะนั้น เมิ่งจิ่นเหยาลบเครื่องสำอางออกแล้ว หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็นั่งรออยู่ในห้องด้วยความกระสับกระส่าย เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู นางจึงคลายมือที่กำแน่นออก เชยตามองไปก็เห็นบุรุษร่างสูงตระหง่านราวกับต้นสน ก้าวเดินเข้ามาอย่างมั่นคง เวลานี้ไม่มีผู้ชมรอบข้างคอยชมละคร สภาพจิตใจของนางกลับไม่ได้สงบนิ่งไปกว่าตอนที่มีผู้ชมอยู่เลย นางฝืนเดินเข้ามาโดยแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามทำหน้าที่ภรรยาอย่างเต็มที่ เอ่ยถามอย่างนอบน้อมว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 6

    คู่บ่าวสาวห่มผ้านอนหลับเฉย ๆ อย่างที่คาดไว้ไม่ผิดหลังจากที่วุ่นวายมาตลอดทั้งวัน อีกทั้งผ่านการแต่งงานที่เหลวไหลเช่นนี้ เมิ่งจิ่นเหยาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แม้ว่าตนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย และยังมีบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่นอนอยู่ข้างกาย แต่นางก็ผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ ถึงอย่างไรสามีผู้นี้ของนางก็มีโรคที่มิอาจบอกผู้ใดได้ นางจึงไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ต่อให้สามีไม่มีโรคที่มิอาจบอกผู้ใดได้ นางก็ไม่ปฏิเสธที่จะใช้ชีวิตครองคู่กันอย่างสมบูรณ์ แต่งงานก็แต่งไปแล้ว ยังอยากรักษาความบริสุทธิ์เป็นหญิงพรหมจรรย์อีกทำไม เช่นนั้นก็ไม่มีความหมายแล้ว กู้จิ่งซีก็นอนลงโดยที่ไม่รู้เช่นกันว่ารู้สึกอย่างไร เขาใช้ชีวิตมายี่สิบเก้าปี เพิ่งจะเคยนอนหลับร่วมเตียงกับสตรีเป็นครั้งแรก เขานึกว่าอีกฝ่ายเป็นสตรีย่อมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่คิดไม่ถึงว่าแค่ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังมาที่ข้างหู เขาเบนศีรษะด้วยความประหลาดใจ มองภรรยาที่เพิ่งแต่งงานนอนหลับสนิทโดยไร้ความระแวดระวัง แม่นางน้อยเพิ่งจะอายุสิบห้าสิบหก กลับมีจิตใจที่สงบนิ่งและปรับตัวไปตามสถานการณ์ สุขุมจนไม่เหมือนกับแม่นางน้อยในวัยนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 7

    โถงโซ่วอันโถงโซ่วอันที่เคยเงียบเหงาเปลี่ยนเป็นคึกคักเพราะสะใภ้ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเช้าตรู่นี้ บรรดาเด็กรุ่นหลังในตระกูลมาที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่ากู้กันแต่เช้า รอดูว่าวันนี้สะใภ้ใหม่จะรับมือเช่นไรบ้านใหญ่กับบ้านรองไม่รู้ว่าผ่านข้ามคืนด้วยอารมณ์แบบใด กู้ซิวหมิงหลบหนีการแต่งงาน ในฐานะที่กู้จิ่งซีเป็นว่าที่บิดาสามีจึงแต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้ เรื่องที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ย่อมแพร่กระจายออกไปแล้ว ตระกูลของพวกเขาก็กลายเป็นที่ขบขันของทั้งเมืองหลวง ระหว่างที่รอ คนของทั้งสองบ้านแอบส่งสายตาให้กันไม่รู้กี่ครั้งวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่ากู้กลับดูกระปรี้กระเปร่า ดวงหน้ามีรอยยิ้มใจดี เรื่องการแต่งงานของบุตรชายเป็นปัญหาทางใจของนาง บัดนี้บุตรชายมีภรรยาแล้ว นางก็ปีติยินดีในใจ ใช้ชีวิตของตัวเอง นางไม่สนใจว่าคนนอกจะพูดอะไร ขอเพียงบุตรชายมีภรรยา ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพังจนแก่เฒ่าก็พอแล้ว นางจางเห็นแบบนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “คนเราเมื่อพบเจอเรื่องน่ายินดีก็จะเบิกบานใจจริง ๆ ด้วย วันนี้ท่านแม่อารมณ์ดียิ่ง”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา เจ้าสามมีครอบครัวแล้ว ในที่สุดข้าก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 248

    จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว แม่สามีของนางในตอนนี้ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น จึงได้เชิญท่านย่าของนางไปที่ตระกูลกู้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ท่านย่าของนางจึงวางใจได้เสียที และจัดเตรียมการแต่งงานให้กับนางกู้จิ่งซีดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่นางกล่าวออกมา จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยินก็เป็นแม่คนแล้วเช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยา “…”หากเป็นลูกอกตัญญูเหมือนเช่นกู้ซิวหมิงก็ช่างเถิด นางไม่ต้องการ มีลูกอย่างกู้ซิวหมิง อายุคงสั้นลงไปอีกหลายปี……วันรุ่งขึ้น ใบหน้าของเฉียวหมอมอเต็มไปด้วยความกังวล นางติดตามหลี่เฉิงบุตรชายมารออยู่ที่ห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาที่ตกลงกันไว้ ก่อนหน้านี้มิใช่ว่าบุตรชายไม่เคยติดหนี้การพนัน ทว่าก็ไม่เคยติดหนี้มากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องถึงห้าพันตำลึงของโรงบ่อน ต่อให้เป็นรายได้ของที่ดินที่ขาดดุลหนึ่งพันตำลึงนั่น นางก็ไม่สามารถเอามาคืนได้เช่นกันนางเป็นหมอมอคนสนิทที่อยู่ข้างกายฮูหยิน แต่กลับกำลังจะทำข้อตกลงกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน นางทำเช่นนี้เป็นการทรยศฮูหยินที่เคยมีบุญคุณต่อนางอย่างไม่ต้องสงสัยความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจทรมานไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ถึงเวลา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 247

    เมื่อมองเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้วของแม่นางน้อย กู้จิ่งซีก็ถามอย่างสนใจว่า “ฮูหยินมีแผนอย่างไรงั้นหรือ?”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาหันมามองเขา ก็เห็นบุรุษผู้นี้กำลังมองดูตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงได้มีความรู้สึกไว้วางใจเขาอย่างแปลกประหลาด ลังเลเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เล่าแผนทั้งหมดให้เขาฟังกู้จิ่งซีฟังแม่นางน้อยพูดจนจบ อันที่จริงแผนของแม่นางน้อย สำหรับเขาแล้วยังไม่ประสีประสายิ่งนัก ทว่าสตรีที่อยู่แต่ในเรือน สิ่งที่สามารถทำได้มีข้อจำกัด จึงสามารถทำได้แค่นี้เท่านี้เขาพยักหน้าแผ่วเบา พลางตอบไปสองคำ “ไม่เลว”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังคำยืนยันจากเขา รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าก็กว้างขึ้น ยันข้อศอกไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองเท้าคาง ยิ้มหวานพลางถามว่า “ท่านพี่มีแผนที่ดีกว่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”กู้จิ่งซีหันมามองนาง พยักหน้าแล้วตอบว่า “มี ทว่าไม่เหมาะกับเจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียง ‘หืม?’ อย่างไม่เข้าใจ เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน หมายจะสอบถามกู้จิ่งซีกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เป็นสตรี อย่าใช้วิธีการเปื้อนเลือดจะดีกว่า”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 246

    เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา ครุ่นคิดอย่างลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ถามอีกว่า “ที่ดินในเขตชานเมืองของข้าขาดผู้ดูแล เจ้ายินดีไปหรือไม่?”ทุกวันนี้ นางรู้สึกว่าความสามารถของหลินรุ่ยค่อนข้างใช้ได้ บังเอิญในสินเดิมของมารดานางมีที่ดินอยู่และต้องการเปลี่ยนผู้ดูแล หลินรุ่ยเหมาะสมที่จะไปทำหน้าที่ผู้ดูแลได้พอดีประการแรกเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยมีความสามารถประการที่สองเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยเป็นคนของนาง สามารถเชื่อใจได้ รายได้ของที่ดินนั่นดีมาก เขาไม่มีทางทำบัญชีเท็จและปิดบังเงินรายได้ที่ดินกับร้านค้าพวกนั้นอยู่ในสินเดิมของมารดานาง ถูกนางซุนดูแลมานานหลายปี ผู้ดูแลเดิมได้ถูกนางซุนเปลี่ยนตัวไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผู้ดูแลพวกนั้นล้วนแต่เป็นคนที่นางซุนปลูกฝังมา หรือไม่ก็เป็นพวกคนไม่ซื่อสัตย์ที่ไปพึ่งพานางซุนตอนนี้นางรับกลับมาดูแลต่อ คนของนางซุนย่อมต้องเปลี่ยนออกไปเป็นธรรมดา เปลี่ยนออกไปทั้งหมด ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถหาคนที่เชื่อใจได้มากมายขนาดนั้น ช่วงนี้สามารถทำได้เพียงเปลี่ยนคนที่ไม่เข้าตาที่สุดออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ สังเกตกันไป ค่อยเป็นค่อยไป คนที่นางสามารถใช้ประโยชน์ได้ก็เก็บเอาไว้ก่อนหลินรุ่ย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 245

    เมิ่งจิ่นเหยาพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองดูหลี่เฉิงเดินกะโผลกกะเผลกออกไปจากโรงน้ำชา นางยกยิ้มอย่างแฝงไปด้วยความหมายหนิงตงย่างเท้ามาอยู่ข้างกายนาง ก้มศีรษะมองหลี่เฉิงที่อยู่บนถนน พลางกล่าวว่า “ฮูหยิน เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นท่าทางของท่านไม่ค่อยสนใจผู้ดูแลหลี่ ยังคิดว่าท่านต้องการจะละทิ้งหมากเช่นเขาไปแล้วเสียอีกเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาส่ายศีรษะแผ่วเบา นางใช้เวลา ทรัพย์สมบัติ และกำลังคนวางกับดักเพื่อให้หมากตัวนี้มาอยู่ในมือ จะทิ้งเขาไปโดยง่ายได้เช่นไรกัน?นางยิ้มพลางกล่าวว่า “หากจะเล่นละครก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุด เฉียวหมอมอเป็นคนที่ฉลาด”หนิงตงถามอย่างสงสัย “แต่ว่าเฉียวหมอมอจะทรยศนางซุนเพื่อผู้ดูแลหลี่หรือไม่เจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาหรี่ตา น้ำเสียงอ่อนลง “ถึงนายหญิงจะสำคัญมาก ทว่าบุตรชายเพียงคนเดียวก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตนแล้ว คนที่หักหลังนายของตนเองก็มีไม่น้อย บางทีเฉียวหมอมออาจกลายเป็นหมากอีกตัวก็เป็นไปได้นี่นา?” หนิงตงพยักหน้า “ก็จริงเจ้าค่ะ นางซุนเคยมีบุญคุณกับเฉียวหมอมอ ทว่าเฉียวหมอมอก็เคยช่วยนางซุนเช่นเดียวกัน บุญคุณได้ถูกทดแทนไปเรียบร้อยแล้ว ”เมิ่งจิ่นเหยามองหลี่เฉิงลั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 244

    เมื่อสิ้นเสียง หลี่เฉิงก็รู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ความตื่นตระหนกพวยพุ่งขึ้นในจิตใจ หากเรื่องในวันนี้วุ่นวายไปถึงต่อหน้าฮูหยิน มารดาของเขาก็คงช่วยเขาไม่ได้เช่นกัน บางทีอาจจะเห็นแก่ไมตรีของนายบ่าวในอดีต ไม่เอาเรื่องที่เขาเคลื่อนย้ายเงินรายได้ของที่ดิน ทว่าเงินห้าพันตำลึงก็คงจะไม่ช่วยเขาคืน ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงถึงทางตันเขาชูสามนิ้วกล่าวคำสาบานอย่างหนักแน่น “คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยขอสาบาน นับแต่นี้ไปจะภักดีต่อท่าน จะไม่เปลี่ยนใจโดยเด็ดขาด หากข้าน้อยทรยศท่าน ขอให้ถูกฟ้าผ่าขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาไม่สะทกสะเทือน “หากว่าคำสาบานมีประโยชน์ละก็ คาดว่าคงจะมีคนถูกฟ้าผ่าตายทุกวันเป็นแน่” นางพูดจบก็หันไปมองชิงชิวกับหนิงตง “ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเราไปกินข้าวกลางวันกันก่อนเถิด” นายบ่าวทั้งสามคนก้าวเท้าเตรียมจะออกไปจากห้องส่วนตัวหลี่เฉิงเห็นดังนั้น ก็ตกอยู่ในความผิดหวังอย่างมากมายในฉับพลัน ภายในใจรู้สึกเสียใจไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนหน้านี้เขาไปที่โรงบ่อนเป็นครั้งคราว ทว่าไม่เคยลองพนันมากมายขนาดนั้นมาก่อน ตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจจริง ๆ ถึงได้จมลงไปอย่างถอนตัวไม่ขึ้นอยู่ ๆ ชิงชิวก็กล่าวขึ้นว่า “ฮูหยิน บางท

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 243

    ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความสงสัย แววตาปกคลุมไปด้วยความไม่เข้าใจและความสนใจอยู่บางส่วน พลางจับจ้องไปที่หน้าบวมช้ำ และภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของหลี่เฉิงอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็พยักหน้า “ช่างเถอะ ถึงอย่างไรวันนี้ข้าก็ไม่มีธุระอื่น จะลองฟังเจ้าพูดไร้สาระดูแล้วกัน คิดเสียว่าฆ่าเวลา”เมื่อได้ฟัง หลี่เฉิงก็ลอบผ่อนลมหายใจ ในตอนนี้นอกเสียจากคุณหนูใหญ่ที่กลายเป็นฮูหยินท่านโหวแล้ว เขาไม่สามารถหาผู้อื่นที่สามารถคืนเงินจำนวนนี้แทนเขาได้แล้วจริง ๆ หากภายในสิบวันนี้ไม่สามารถหาเงินห้าพันตำลึงมาได้ เขาคงถูกทุบตีจนตายเป็นแน่และฮูหยินก็คงจะไม่ช่วยเขาแน่นอน ทว่าคุณหนูใหญ่ที่ทราบสถานการณ์อาจจะช่วยเขาก็เป็นได้ เขาคือคนสนิทของฮูหยิน คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน ไม่แน่อาจมีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เขาก็เป็นได้นี่นา?นี่คือความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวของเขาหลี่เฉิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหน้าของรถม้า นั่งอยู่ด้านข้างของคนขับ แล้วตามเมิ่งจิ่นเหยาไปที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่งเมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัว หลังจากที่เมิ่งจิ่นเหยานั่งลงแล้ว ก็มองหลี่เฉิงด้วยความสงบแม้จะอยู่ท่ามกลางเรื่องวุ่นวายก็ตา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 242

    เมื่อหลี่เฉิงได้ยินเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคย เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าเป็นเมิ่งจิ่นเหยา เขาไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่นอีกแล้ว คิดแต่เพียงว่าอยากมีชีวิตรอด จึงรีบส่งเสียงขอความช่วยเหลือ “คุณหนูใหญ่ ช่วยข้าน้อยด้วยขอรับ!”เมิ่งจิ่นเหยาจับจ้องเขาอยู่นาน น้ำเสียงลังเล “เจ้าคือบุตรชายของเฉียวหมอมองั้นหรือ?”หลี่เฉิงพยักหน้าซ้ำเเล้วซ้ำเล่า “ใช่ขอรับ คุณหนูใหญ่ช่วยด้วย!”เมิ่งจิ่นเหยาถามด้วยความประหลาดใจ “ผู้ดูแลหลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ยังไม่ทันได้ที่หลี่เฉิงจะตอบ หัวหน้าอันธพาลก็เหยียดขาแล้วเตะไปที่หลี่เฉิงอย่างแรง จากนั้นก็กล่าวกับเมิ่งจิ่นเหยาว่า “ฮูหยินท่านนี้ นี่คือบ่าวไพร่ในจวนท่านกระนั้นหรือ? จะให้พวกข้าปล่อยเขาไปก็ได้ แต่เขาติดหนี้โรงบ่อนหย่งเซิ่งห้าพันตำลึง ขอเพียงท่านคืนเงินจำนวนนี้แก่พวกข้า พวกข้าก็จะปล่อยคนไปทันที”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาฟังจบ สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจ ราวกับคิดไม่ถึงว่าหลี่เฉิงจะสามารถติดหนี้โรงบ่อนได้ จึงเหลือบมองไปที่หลี่เฉิงอย่างแปลกใจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวกับหัวหน้าผู้นั้นว่า “เขาคือบุตรชายของเฉียวหมอมอ คนสนิทที่หย่งชางป๋อฮูหยินไว้วางใจมากที่สุด ทั้งยังเป

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 241

    เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จ เมิ่งจิ่นเหยาก็พาชิงชิวกับหนิงตงออกไปข้างนอก ขาของนางหายดีแล้ว จึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตอนนี้เข้าสู่วสันตฤดู ได้เวลาเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าฤดูร้อนที่บางเบาแล้วเมิ่งจิ่นเหยาคิดถึงเมิ่งเฉิงจางที่กำลังศึกษาร่ำเรียนอยู่ที่สำนักศึกษาหลิงซาน จึงไปที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า จากนั้นก็ซื้อเสื้อผ้าฤดูร้อนให้เขาสองสามชุดโดยอ้างอิงตามขนาดของเมิ่งเฉิงจางจากนั้นก็ไปที่หอตำรา เลือกสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในหอตำรา [1] ที่คุณภาพดีให้กับเขา ให้กำลังใจเขาในการตั้งใจศึกษาร่ำเรียน ตอนที่กำลังจะเตรียมให้สาวใช้ไปชำระเงินนั้น ก็นึกขึ้นมาได้ว่าซิวเหวินของบ้านใหญ่ก็อยู่ที่สำนักศึกษาเช่นกัน จึงซื้อเพิ่มอีกหนึ่งชุด สุดท้ายก็ไปที่ร้านขายของกินเล่น ซื้อผลไม้เคลือบน้ำตาลกับหมูแผ่นที่ปกติเมิ่งเฉิงจางชอบกิน ให้คนส่งไปให้เขาที่สำนักศึกษาในวันพรุ่งนี้หนิงตงเห็นนางเอาแต่ซื้อของให้กับเมิ่งเฉิงจาง จึงถามอย่างแผ่วเบา “ฮูหยิน เหตุใดท่านไม่ซื้อของให้ตนเองสักหน่อยเล่าเจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาตอบว่า “ข้าอยู่ที่จวนท่านโหวไม่ต้องกังวลเรื่องของกินของใช้ ยามผลัดเปลี่ยนฤดูก็มีช่างเย็บปักมาตัดเย็บเสื้อผ้าให้ ไม

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 240  

    ...... เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมิ่งจิ่นเหยาตื่นขึ้นมาอย่างเนิบช้า บุรุษข้างกายออกไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้วตั้งแต่เช้าตรู่ นางจึงเรียกสาวใช้เข้ามาปรนนิบัติรับใช้ วันนี้นางอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งชิงชิวและหนิงตงล้วนสัมผัสได้ สาวใช้สองคนหันมาสบตากัน ต่างคนต่างเห็นความงุนงงในแววตาของอีกฝ่าย และในตอนที่กำลังหวีผมแต่งหน้าให้เมิ่งจิ่นเหยา หนิงตงถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฮูหยิน วันนี้ท่านดูเหมือนจะมีความสุขยิ่งนักเจ้าค่ะ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดหรือเจ้าคะ?” เมิ่งจิ่นเหยาชะงักไป ก่อนจะย้อนถามกลับทันที “ข้ามีความสุขไม่ได้หรือ?” หนิงตงผงกศีรษะ “ท่านตื่นนอนลงจากเตียงก็ยิ้มไม่หยุด เหมือนกับเจอเรื่องดี ๆ อะไรมาอย่างไรอย่างนั้นเจ้าค่ะ” ได้ยินเช่นนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็ผงะไปอีกครั้ง มองตนเองในคันฉ่องแล้ว ดรุณีน้อยในคันฉ่องเรือนผมดุจเมฆาขนคิ้วโค้งงาม รอยยิ้มเพริศพริ้งสดใส ดูเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อยทีเดียว นางตอบกลับ “คงจะเป็นเพราะเมื่อวานได้รับเครื่องประดับศีรษะงดงามเลิศล้ำมาชุดหนึ่งกระมัง จิตใจถึงได้เบิกบานมีความสุข” ชิงชิวและหนิงตงชะงักไป นายหญิงของพวกนางได้รับเครื่องประดับศีรษะแล้วหนึ่งชุด ไฉนพวกนา

DMCA.com Protection Status