Share

บทที่ 208  

Author: มู่อวิ๋นเฉิง
last update Last Updated: 2024-12-30 17:00:00
สีหน้านางไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ตอบกลับโดยคล้อยตามคำพูดของกู้จิ่งซี “ได้ยินท่านพี่พูดเช่นนี้แล้ว เครื่องประดับศีรษะชุดนี้ดูจะไม่เหมาะสมกับข้าจริง ๆ เช่นนั้นข้าค่อยเลือกชิ้นอื่นแล้วกัน”

กู้จิ่งซีผงกศีรษะ “อืม”

เมิ่งจิ่นเหยาก็มิได้พยายามถามถึงประเด็นนี้ขึ้นมาอีก ครั้นปิดกล่องไม้ลงแล้ว ก็เปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่น หันไปคุยเรื่องสัพเพเหระแทน

……

รุ่งเช้าวันต่อมา

เมิ่งจิ่นเหยารับประทานมื้อเช้าแล้วเรียบร้อย ก็เข้าไปหยิบกุญแจห้องเก็บของออกมาจากห้องนอน และนำกล่องไม้ที่เก็บเครื่องประดับศีรษะหยกขาวมันแพะไปด้วย

ชิงชิวเมื่อเห็นเช่นนั้น ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฮูหยินเจ้าคะ ท่านจะเอาเครื่องประดับศีรษะชุดนั้นไปที่ใดหรือ?”

เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับด้วยเสียงเรียบ “นำกลับไปคืนในห้องเก็บของ”

หนิงตงมองตามต้นเสียง เห็นฮูหยินของตนเองถือเครื่องประดับศีรษะที่เมื่อวานเพิ่งหยิบออกมาจากห้องเก็บของไว้ในมือ ก็ถามด้วยความฉงนว่า “ฮูหยินเจ้าคะ เครื่องประดับศีรษะชุดนี้งดงามยิ่งนัก ไม่ใช่ว่าท่านต้องการนำไปใช้หรอกหรือเจ้าคะ? เหตุใดท่านถึงจะนำมันกลับไปคืนในห้องเก็บของเจ้าคะ?”

ชิงชิวเองก็สงสัยเหมือนกัน ทั้งที่
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 209  

    ชิงชิวและหนิงตงต่างเงียบงันไม่เอ่ยวาจาใด รู้สึกเศร้าแทนนายหญิงของตนเอง ทั้งที่นายหญิงเป็นแม่นางที่ประเสริฐเพียงนี้ เหตุใดโชคชะตาถึงได้เลวร้ายนักก็ไม่รู้? เดิมก็มีพิธีวิวาห์ที่ดีมากรออยู่แท้ ๆ พวกนางต่างคิดว่าหากนายหญิงอดทนรอจนได้ออกเรือนก็จะได้ผ่านพ้นความทุกข์ยากไปสู่ความสุขเสียที กลับไม่คิดเลยว่าในวันวิวาห์ว่าที่เจ้าบ่าวจะตีแสกหน้า …หนีวิวาห์ไปดื้อ ๆ เสี้ยวพริบตาเดียวนายหญิงกลายเป็นตัวตลกของทุกคนในพิธี และคนทั้งเมืองหลวงต่างพากันเยาะเย้ยดูแคลนนายหญิง ที่ถูกเจ้าบ่าวทิ้งไปในวันวิวาห์ ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องอัปยศเช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวง แต่ดันมาเกิดขึ้นกับนายหญิงของพวกนาง เคราะห์ดีที่ท่านโหวยอมสมรสกับนายหญิงของพวกนาง และดูแลนายหญิงของพวกนางอย่างดีที่สุด กลับไม่คิดเลยว่าท่านโหวจะมีแม่นางในใจอยู่แล้ว? หนิงตงสะอื้นออกมา “ฮูหยินต้องน้อยใจแล้ว” เมิ่งจิ่นเหยากลับมองออกทุกอย่าง จึงตอบกลับด้วยเสียงอบอุ่น “ตอนแรกที่ข้าเลือกสมรสกับเขา ไม่เลือกสมรสกู้ซิวหงกับกู้ซิวเหวิน ก็แค่ต้องการจะหาทางลงให้ตนเองเท่านั้น ดำรงฐานะเป็นฮูหยินของท่านโหว เป็นผู้อาวุโสของกู้ซิวหมิง ทำให้กู้ซิว

    Last Updated : 2024-12-31
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 210  

    เมื่อถ้อยคำนี้เอ่ยออกมา ทั้งชิงชิวและหนิงตงต่างหันมาสบตากัน ก่อนจะผงกศีรษะอย่างเงียบเชียบ หนิงตงเอ่ยขึ้นอย่างลังเล “ฮูหยิน ท่านว่าคนในใจของท่านโหว จะใช่คู่หมั้นคนก่อนของเขาหรือไม่เจ้าคะ?” เมิ่งจิ่นเหยาผงะไป ลองขบคิดถ้อยคำของหนิงตงครู่หนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ หากว่าเป็นคู่หมั้นคนก่อนจริง เช่นนั้นนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลใจอะไรเลย เพราะคู่หมั้นคนก่อนของกู้จิ่งซีออกเรือนกับคนอื่นแล้ว และแม่นางคนนั้นก็มิได้อยู่ที่เมืองหลวง แต่ตามสามีไปทำงานที่ต่างเมืองแล้ว หนิงตงตัดพ้อด้วยความเสียดาย “ความรักลึกซึ้งของท่านโหว จำต้องเก็บซ่อนไว้ในดวงใจ ช่างน่าสงสารเสียจริง” มุมปากของเมิ่งจิ่นเหยากระตุกแปลก ๆ เหตุใดนางถึงได้รู้สึกว่าสาวใช้คนนี้กำลังซ้ำเติมนางอยู่นักก็ไม่รู้? ฉับพลันทันใดนั้นเอง นางก็ถลึงตาจ้องหนิงตงด้วยความโมโห ก่อนจะออกคำสั่งว่า “เอาเป็นว่า เรื่องนี้ปล่อยมันไปเถิด อย่าได้มีใครพูดถึงขึ้นมาอีกแล้วกัน โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าท่านโหว หนิงตง เจ้าจงเอาเครื่องประดับศีรษะชุดนี้กลับไปเก็บในห้องเก็บของ แล้วก็วางไว้ที่เดิมด้วย” หนิงตงเอ่ยอย่างทุกข์ใจ “ฮูหยิน ข้าน้อยไม

    Last Updated : 2024-12-31
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 211

    หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง เมิ่งจิ่นเหยาก็ละสายตากลับมาจากที่นั่งผู้ชมชั้นล่าง และหันหน้ามองสาวใช้ทั้งสองคนของตนเอง พลางถาม “เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ร้องไห้?”ชิงชิว “...”หนิงตง “...”พวกนางร้องไห้แล้วนะ เพิ่งร้องเสร็จเมื่อครู่ ดวงตาน่าจะยังแดงอยู่ หรือว่าฮูหยินมองไม่เห็น?เมิ่งจิ่นเหยาเห็นพวกนางนิ่งเงียบไม่พูดจา จึงมองดูพวกนางทั้งสองอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ “อืม เคยร้องไห้แล้ว ขอบตายังแดงอยู่ และขนตาก็เปียกชื้นด้วย”หนิงตงสอบถาม “ฮูหยิน ต่อจากนี้ยังมีอีกหนึ่งการแสดง ท่านยังอยากจะฟังอีกหรือไม่เจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาทำท่าครุ่นคิด จากนั้นก็ส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่แล้ว ครั้งหน้าค่อยมาดูแล้วกัน พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ”สาวใช้ทั้งสองคนขานรับ เรียกให้พนักงานมาเก็บเงิน จากนั้นก็จากไปเมืองหลวงใหญ่เช่นนี้ มักจะมีช่วงที่เจอศัตรูบนถนนแคบ ๆ อยู่เสมอตอนที่เจ้านายและบ่าวรับใช้ทั้งสามคนเดินมาตรงบันได ก็พบกับเมิ่งจิ่นอวี้ เวลานี้เมิ่งจิ่นอวี้ติดตามอยู่ด้านข้างสาวน้อยรูปงามคนหนึ่ง สาวน้อยแต่งกายหรูหรา เรือนร่างดูสง่างาม สามารถมองออกได้ว่าสาวน้อยมีฐานะที่สูงส่ง แต่เมิ่งจิ่นเหยาไม่ร

    Last Updated : 2024-12-31
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 212

    ท่านหญิงจิ้งหนิงเหลือบมองพวกนาง และกล่าวอย่างแปลกใจว่า “พี่สาวที่ไม่รู้จักมารยาทอย่างเจ้าที่แท้ยังรู้จักคารวะให้ข้าด้วยหรือ ข้านึกว่านางจะไม่รู้จักเสียอีก เพราะเห็นข้ายังไม่มองมาตรง ๆ เลย” พูดจบ นางก็กล่าวกับเจ้านายและบ่าวรับใช้ทั้งสามอย่างเรียบเฉย “พอแล้ว ทุกคนลุกขึ้นมาเถอะ”“ขอบคุณท่านหญิง”เมิ่งจิ่นเหยาลุกขึ้น ด้วยสีหน้าเป็นปกติ และไม่มีความขุ่นเคืองแม้แต่น้อย พลางกล่าวเสียงเรียบว่า “ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน ไม่รบกวนอารมณ์สุนทรีย์ของท่านหญิงแล้ว”เมื่อนางพูดจบ ก็พยักหน้าไปทางท่านหญิงจิ้งหนิงเล็กน้อย จากนั้นเตรียมจะพาสาวใช้จากไป เพิ่งเดินไปได้สองก้าว นางก็เห็นเท้าข้างหนึ่งยื่นออกมา จึงเบี่ยงกายเปลี่ยนไปเดินทางด้านซ้ายด้วยความเร็วฉับไว ถึงได้หลีกเลี่ยงการกลิ้งลงมาจากชั้นบนได้อย่างไรก็ตาม เมิ่งจิ่นอวี้กลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น หลังจากเสียงกรีดร้อง “ว้าย” ของนาง คนทั้งคนก็ตกบันไดลงไปด้านล่างเมิ่งจิ่นเหยาจับข้อมือของนางอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างใช้แรงดึงทั้งหมดจับราวบันไดไว้ จากนั้นปล่อยมือ เมิ่งจิ่นอวี้ก็ล้มกลับไปอยู่บนพื้นของด้านหลังทางลงบันได“ว้าย!”เมิ่งจิ่นอวี้ล้มอยู่บนพื้น และกร

    Last Updated : 2024-12-31
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 213

    หลังจากหนิงตงได้ยินก็ตกตะลึง ในใจยังคงโมโหไม่หาย และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “นี่ช่างเอื้อประโยชน์ให้นางเสียจริงเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยายกยิ้มที่มุมปาก “นางใส่ร้ายข้าต่อหน้าท่านหญิงจิ้งหนิง ท่านหญิงกลั่นแกล้งข้า ข้าคืนความตกใจให้นางฉากหนึ่ง แถมยังล้มไปอีกหนึ่งที ข้าไม่เสียเปรียบ และถือว่าได้แก้แค้นต่อหน้าแล้ว”ชิงชิวนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็เม้มริมฝีปากพลางยิ้มและกล่าวว่า “ฮูหยิน คำพูดของท่านเมื่อครู่นี้ หากท่านหญิงจิ้งหนิงไม่ใช่คนโง่เขลา เช่นนั้นก็น่าจะฟังออกว่านางขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังเสียข้าวสารไปอีกหนึ่งกำมือนะเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยิน สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็ชะงัก และส่ายหน้าอย่างยากจะสังเกตเห็นเล็กน้อยทันที “หวังว่านะ แต่ว่าดูท่าทางท่านหญิงจิ้งหนิงจะไม่ใช่คนฉลาดมากนัก จะถูกเมิ่งจิ่นอวี้หว่านล้อมแค่ไม่กี่คำก็มีความเป็นไปได้”หนิงตงตกใจ “คงเป็นไปไม่ได้หรอกกระมังเจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาเม้มปากและยิ้มเล็กน้อย “นี่เป็นเรื่องที่พูดได้ยากแล้ว”ความเป็นจริง ท่านหญิงจิ้งหนิงก็ไม่ใช่คนที่ฉลาดมากนักจริง ๆ อีกด้านหนึ่ง เมิ่งจิ่นเหยาพวกนางเจ้านายและบ่าวรับใช้ทั้งสามเพิ่งจะหันหลังกลับ และเดิ

    Last Updated : 2025-01-01
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 214

    ท่านหญิงจิ้งหนิงเชื่อต่อคำพูดของนางอย่างไม่มีข้อกังขา เห็นนางขมวดคิ้วแน่น คงจะเจ็บน่าดู จึงกล่าว “พวกเราหยุดเดินเล่นกันก่อน ข้าจะส่งเจ้าไปโรงหมอ ให้ท่านหมอตรวจเจ้าเสียหน่อย จะได้ไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้”เมิ่งจิ่นอวี้ก็ไม่อวดเก่งอีก “ขอบคุณท่านหญิงมากเจ้าค่ะ”นึกถึงคำที่เมิ่งจิ่นเหยาเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ ท่านหญิงจิ้งหนิงจึงคาดเดา “เมื่อครู่พี่สาวเจ้าจงใจผลักเจ้า จากนั้นค่อยทำท่าใจดีช่วยเจ้า แล้วสุดท้ายก็ทำให้เจ้าล้มใช่หรือไม่?”เมิ่งจิ่นอวี้ตกตะลึงเล็กน้อย และส่ายหน้าอย่างงุนงงทันที “ข้าจำไม่ค่อยได้แล้ว เรื่องของเมื่อครู่ทำข้าตกใจมาก ข้าจำได้ว่ายืนอยู่ดี ๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ล้มลงไปแล้วเจ้าค่ะ” ท่านหญิงจิ้งหนิงพ่นลมหายใจ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า “จะต้องเป็นนางแน่ ๆ ที่ผลักเจ้า จากนั้นค่อยแสร้งทำท่าใจดี และทำร้ายเจ้าจนหกล้ม แถมยังคำพูดที่ดูเหมือนจริงแต่ไม่จริงจนทำให้คนเข้าใจผิดเหล่านั้นอีก” เมื่อได้ยิน เมิ่งจิ่นอวี้ก็ถอนหายใจอย่างจนใจเบา ๆ “พี่หญิงใหญ่คงจะไม่ชอบหน้าข้า จึงอยากทำให้ข้ากลัวนิดหน่อยกระมัง บวกกับเมื่อครู่นางเสียหน้าตอนอยู่กับท่าน นางจะต้องโมโหอยู่ในใจเป็นแน่

    Last Updated : 2025-01-01
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 215

    ซ่งซินหนิงฟังจบ สีหน้าก็ดูแย่อย่างมาก “มิน่านางถึงแสร้งทำเป็นพูดจาดีให้เจ้า ที่แท้ก็รู้สึกผิดนี่เอง”เมื่อเห็นสหายรักสีหน้ามืดมน นางก็ปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลพร้อมกล่าวปลอบใจว่า “อาเหยาอย่าโมโหไปเลย ช่วยนางไว้จะดีกว่า มิเช่นนั้นหากนางตกลงไปก็จะโทษเจ้า ท่านหญิงจิ้งหนิงคงช่วยเหลือนาง ถึงตอนนั้นจะทำลายชื่อเสียงของเจ้า และกล่าวหาว่าเจ้าวางแผนทำร้ายชีวิตพี่น้องบ้านตนเอง เช่นนั้นเจ้าก็จะไม่มีทางแก้ตัวได้แล้วจริง ๆ”เมิ่งจิ่นเหยาถอนหายใจออก “ช่างเถอะ วันนี้ข้าจะถือว่าโชคร้ายที่ก่อนออกมาไม่ได้ดูปฏิทิน จนถูกสุนัขกัด”“ถูกต้อง ก็ถือเสียว่าถูกสุนัขที่ดุร้ายกัด” ซ่งซินหนิงพยักหน้าติดต่อกัน ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งและเอื้อมมือไปคล้องแขนนางไว้ “อาเหยา เลือกผงชาดเป็นเพื่อนข้าหน่อย ยังมีที่ทาปากด้วย สีที่เจ้าเลือกให้ครั้งก่อนเหมาะสมกับข้ามาก ครั้งนี้เลือกอันใหม่ให้ข้าอีกนะ”เมิ่งจิ่นเหยาขานรับ ขณะที่เตรียมจะเข้าไปในร้านขายผงชาดด้วยกันกับนาง ฝีเท้าที่ก้าวออกไปกลับชักกลับมาอีกครั้ง และถามอาการของเสิ่นฮูหยินด้วยเสียงที่นุ่มนวลขึ้น “จริงสิ ร่างกายของเสิ่นฮูหยินดีขึ้นบ้างแล้วหรือ?” ซ่งซินหนิงปรากฏรอยยิ้

    Last Updated : 2025-01-01
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 216

    เสิ่นฮูหยินเห็นนางแล้ว รอยยิ้มที่อ่อนโยนก็ปรากฏออกมา “อาเหยามาแล้วหรือ รีบนั่งเถอะ”เมิ่งจิ่นเหยาย่อกายทำความเคารพ หลังจากนั้นก็นั่งลงตรงเก้าอี้เล็กที่อยู่หน้าเตียง และถามอย่างกังวล “เสิ่นฮูหยิน ท่านยังสบายดีอยู่หรือไม่เจ้าคะ?”“ดีมากแล้ว” ขณะที่เสิ่นฮูหยินกล่าว ก็ยิ้มและมองไปทางว่าที่ลูกสะใภ้ที่อยู่ด้านข้าง พลางกล่าวติดตลกว่า “พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า ข้ายังรออาหนิงแต่งเข้ามา และดื่มชาของลูกสะใภ้อยู่นะ รอน้ำชามานานขนาดนี้ ก็จำเป็นต้องดื่มให้ได้ จะให้คนอื่นมาดื่มแทนข้าไม่ได้เด็ดขาด อีกอย่าง ยังไม่ได้อุ้มหลานชายก็จะตายแล้ว น่าเสียดายแย่”ซ่งซินหนิงใบหน้าแดงก่ำ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แง่งอน “ป้าสะใภ้เสิ่น ข้าอาจจะให้กำเนิดบุตรชายไม่ได้ แต่กำเนิดบุตรสาวแทนเล่าเจ้าคะ?”พูดจบ ใบหน้าของนางก็ยิ่งแดงขึ้น ดูสินางพูดอะไรออกมา? กำเนิดหรือไม่กำเนิดอะไรกัน ช่างไร้ยางอายเสียจริง!เสิ่นฮูหยินตกตะลึงเล็กน้อย พลางยิ้มและกล่าวทันที “บุตรสาวก็ดีนะ เป็นคนที่เอาใจใส่เหมือนอาหนิง ป้าเสียดายมาโดยตลอดที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรสาวสักคนที่น่ารักและรู้ความเหมือนอย่างอาหนิงได้”ซ่งซินหนิงอ้าปาก แต่ก็ไม่ได้พ

    Last Updated : 2025-01-01

Latest chapter

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 224

    เมิ่งจิ่นเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ็บมันก็เจ็บ แต่ดีขึ้นกว่าเมื่อคืนมากแล้ว นางจึงยังคงอดทนได้สักพักหนึ่ง เมิ่งจิ่นเหยาก็ถาม “จริงสิ เรื่องของเมื่อคืน ไม่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายอะไรใช่หรือไม่?”ชิงชิวส่ายหน้า “ฮูหยินวางใจ เมื่อคืนท่านโหวแค่ให้คนใกล้ชิดของตนเองออกไปตามหาท่านเท่านั้น ไม่มีใครรู้ แม้แต่เซี่ยจู๋ยังไม่รู้เรื่องที่ท่านโหวรอท่านที่ปากประตูเลย ถึงอย่างไรตอนนั้นก็ดึกมาแล้ว ใครจะสนใจประตูใหญ่เล่าเจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็นเช่นนี้ก็ดี ครั้งหน้านางกลับมาให้เร็วขึ้นจะดีกว่า มิเช่นนั้นเรื่องไปถึงด้านผู้อาวุโส สุดท้ายมันจะไม่ค่อยดีเท่าใดนักไม่นาน เซี่ยจู๋ก็เข้ามา ในมือยังถือไม้เท้าหนึ่งด้ามไว้ด้วยเมิ่งจิ่นเหยาเห็นเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าไม้เท้าด้ามนี้เอาให้ใคร ในบรรดานาง ชิงชิว และหนิงตงสามคน ก็มีแค่นางคนเดียวที่ขาเป๋ชั่วคราวและสามารถใช้ไม้เท้าได้เซี่ยจู๋ย่อตัวทำความเคารพไปทางนาง จากนั้นก็ส่งไม้เท้ามาให้นาง และกล่าวด้วยเสียงที่ยินดีว่า “ฮูหยิน นี่คือไม้เท้าที่ท่านโหวสั่งให้คนส่งมา บอกว่าท่านข้อเท้าแพลง จะเดินไม่สะดวกเจ้าค่ะ”รอยยิ้มของเมิ่งจิ่นเหย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 223

    ปลาติดเบ็ดแล้ว?ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความยินดี และรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย จนนางเกือบจะลุกขึ้นยืนชิงชิวที่อยู่รับใช้กับนางมาหลายปี และรู้ใจกันเป็นอย่างดี จึงคาดเดาการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของนาง ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก็รีบเอื้อมมือไปกดไหล่ห้ามไม่ให้นางลุกพรวดขึ้นมาอย่างกะทันหันเมิ่งจิ่นเหยาไม่ทันรู้สึกตัว จึงเงยหน้ามองนาง และดวงตาก็แฝงไปด้วยความสงสัยชิงชิวยิ้มและอธิบายว่า “ฮูหยิน ระวังอาการบาดเจ็บที่เท้าของท่านด้วยเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาตกตะลึง ก้มลงมองเท้าข้างซ้ายของตนเองทันที นี่ถึงนึกได้ในภายหลังว่าอาการบาดเจ็บที่เท้าของตนเองยังไม่หายดี แต่ก็แอบดีใจที่ชิงชิวตอบสนองได้ไว มิเช่นนั้นอีกเดี๋ยวหากนางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เท้าซ้ายเจ็บลงน้ำหนักไม่ไหว ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ยืนไม่มั่นคงแล้วจะล้มลงไปอีกครั้งหนิงตงพยักหน้าอย่างคล้อยตาม “ถูกต้อง ฮูหยินระวังหน่อยนะเจ้าคะ”“ปลาติดเบ็ดไวขนาดนั้นเชียวหรือ?”เมิ่งจิ่นเหยาปรับเสียงให้ร่าเริง ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความขบขัน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย และมีประกายเจ้าเล่ห์ในดวงตา ราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งชิงชิวกล่าว “ฮูหยิน สำหรับนักพนั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 222

    ตอนที่ชิงชิวเตรียมจะช่วยนางสวมเสื้อผ้า ก็ตั้งใจมองข้อเท้าข้างซ้ายของนางโดยเฉพาะ และขมวดคิ้วเล็กน้อยขึ้นมา พลางกล่าว “ฮูหยิน เท้าข้างนี้ของท่านยังบวมอยู่ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อคืนถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ข้าน้อยจะใส่ยาให้ท่านอีก เพราะเมื่อคืนข้าน้อยเห็นท่านโหวใส่ยาให้ท่าน จนดูและจำวิธีได้ขึ้นใจแล้วเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าติดต่อกัน “ได้”นางไม่อยากรอกู้จิ่งซีกลับมาจากการเลิกงานแล้วค่อยใส่ยาให้นาง เมื่อคืนกู้จิ่งซีใส่ยาให้นาง นางยังรู้สึกไม่สบายใจมาก“ฮูหยิน ข้าน้อยคลายเสื้อผ้าให้ท่านก่อนนะเจ้าคะ” เมื่อชิงชิวพูดจบ ก็ลงมือคลายเสื้อผ้าให้นางเมิ่งจิ่นเหยามึนงง “คลายเสื้อผ้าทำไมหรือ?”ชิงชิวตอบกลับ “เมื่อคืนตอนท่านหกล้ม แขนมันกระแทก และยังฟกช้ำอยู่เลยเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยิน ท่าทีของเมิ่งจิ่นเหยาก็เปลี่ยนไปทันที และจู่ ๆ น้ำเสียงก็สูงขึ้น “เมื่อคืนท่านโหวก็ช่วยข้าใส่ยาที่แขนด้วยหรือ?”ทันทีที่ชิงชิวได้ยินน้ำเสียงนี้ ก็รู้ว่านางใส่ใจอะไรอยู่ จึงรีบกล่าวอธิบายว่า “เมื่อคืนข้าน้อยเป็นคนใส่ยาให้เอง เพียงแต่บริเวณข้อเท้าของท่าน ท่านโหวเห็นก็รู้สึกว่าข้าน้อยแค่ลูบยาดองเบา ๆ เท่านั้น ประสิทธิภาพ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 221

    ทันทีที่เมิ่งจิ่นเหยาได้ยิน ก็จ้องไปที่ชายหนุ่ม กัดฟันกรอด พลางฮึดฮัดเบา ๆ “ท่านคิดว่าข้าเป็นบุตรชายของท่านหรือ? แค่เจ็บปวดก็ร้องไห้แง ๆ น่าขายหน้า!” นางจำตอนนั้นที่กูซิวหมิงโดนตีในโถงบรรพชนได้ เขาเจ็บปวดจนร้องไห้แง ๆ น้ำตาก็ไหลไม่ยอมหยุด แถมยังละทิ้งท่าทีของซื่อจื่อสกุลกู้ที่แสดงออกมาอยู่ตลอดเวลาจนหมดสิ้นอีกกู้จิ่งซีมองดวงตาที่มีหมอปกคลุมบาง ๆ นั้น เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดจนน้ำตาคลอ กลับแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เขาจึงยิ้มกว้างขึ้น แต่ปากกลับกล่าวเห็นด้วยว่า “ก็จริง ฮูหยินเป็นผู้อาวุโส จะเหมือนกับคนรุ่นหลังได้อย่างไร?”เมิ่งจิ่นเหยาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ และค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมามองเท้าของตนเอง เห็นเพียงมือใหญ่ที่มีข้อต่อชัดเจนคู่นั้น มือหนึ่งจับฝ่าเท้าของนาง เพื่อห้ามนางขยับไปมา ส่วนอีกมือหนึ่งก็นวดข้อเท้าที่บวมแดงของนางขึ้นมาเบา ๆ มือคู่นี้เดิมทีใช้จับพู่กันและถือตำรา แต่บัดนี้กลับคอยปรนนิบัติเท้าของนางสัมผัสที่อุ่นร้อนแนบผิวหนังของนาง ผิวที่ถูกฝ่ามือของเขาทาบทับไว้ค่อย ๆ ร้อนขึ้น ทันใดนั้นนางก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา และความละอายใจก็ก่อตัวขึ้นในใจ จนอยากจะชักเท้าของตนเองกลับมาโดยไม่รู้ตัวอ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 220  

    ...... ณ เรือนเวยหรุยเซวียน เจ้านายทั้งสองท่านยังไม่กลับมา แสงไฟภายในห้องหลักส่องสว่างไสว เซี่ยจู๋รวมถึงสาวใช้ที่เฝ้าเวรกลางคืนเมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากด้านนอก ก็รีบออกไปดูสถานการณ์ ทันทีที่มาถึงประตู ก็เห็นท่านโหวอุ้มฮูหยินกลับมา สาวใช้สองคนต่างตะลึงงัน เซี่ยจู๋มองพวกเขาแล้ว ก็เดินเข้าไปถามไถ่อย่างกังวล “ท่านโหว ฮูหยินเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?” กู้จิ่งซีตอบกลับ “ฮูหยินหลับไปแล้ว ไปตักน้ำสักอ่างหนึ่งเข้ามา ให้ฮูหยินล้างหน้าล้างตา” พูดจบ เขาก็กำชับสาวใช้ที่เฝ้าเวรกลางคืนอีกครั้ง “ไปเตรียมน้ำร้อนไว้ให้พร้อม” สาวใช้สองคนรับคำสั่ง และทำตามทันที กู้จิ่งซีอุ้มแม่นางน้อยเข้าไป หลังจากเข้ามาในห้องนอนแล้ว ก็จัดการวางคนลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล ก่อนจะไปหายาดองสำหรับรักษาบาดแผลหกล้มฟกช้ำมา และส่งให้ชิงชิว บอกให้นางและหนิงตงทาโอสถให้แม่นางน้อย เมื่อเรียบร้อยตนเองก็ไปชำระร่างกายที่ห้องอาบน้ำ ร่างกายของเมิ่งจิ่นเหยามิได้บาดเจ็บอะไร มีเพียงแขนที่กระแทกพื้นจนเป็นรอยฟกช้ำดำเขียว และข้อเท้าข้างซ้ายที่แพลงเท่านั้น บาดแผลที่แขนยังพอรักษาได้ แค่ไม่กี่วันรอยฟกช้ำจางไปก็นับว่าหายดีแล้ว ปก

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 219  

    นี่ใช่กำลังเป็นห่วงนางหรือเปล่า? กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับนาง ฉะนั้นถึงได้มายืนรอนางอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของจวน? จิตใจของเมิ่งจิ่นเหยาถูกโจมตีอย่างแรง ฉับพลันทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยความตกใจและงงงัน ภายใต้แสงอันนุ่มนวล โครงหน้าของบุรุษคมคายชัดเจน คิ้วคางเรียวยาวดูสง่า สีหน้าที่เคยเคร่งขรึมมืดมนบัดนี้กลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิมแล้ว แสงอบอุ่นที่ส่องออกมาจากตะเกียงริมทางเดินทั้งสองข้าง สะท้อนเข้าไปในดวงตาเรียวยาวคู่นั้น เคลือบนัยน์ตาคู่นั้นไว้ด้วยประกายแสนอ่อนโยน แววตาแม้ดูสงบนิ่งแต่ก็มิสูญเสียความอบอุ่น มิหนำซ้ำยังเจือด้วยความเป็นห่วงที่ยากจะจับสังเกต ขณะที่สบตากับเขา เมิ่งจิ่นเหยาจิตใจหวั่นไหวไปชั่วขณะ ก็หลุบสายตาลงโดยสัญชาตญาณ ลุกลี้ลุกลนเบนสายตามองไปทางอื่น ตอนที่ศีรษะแนบไปบนหน้าอกของเขา และได้ยินเสียงหัวใจเต้นอันทรงพลังนั้นเข้า หัวใจเผลอเต้นผิดไปหนึ่งจังหวะ เมิ่งจิ่นเหยาพูดตะกุกตะกักออกมาเบา ๆ “เหตุใดท่านพี่จึงดีกับข้าเพียงนี้?” พวกเขาสองคนเป็นเพียงแค่คู่สามีภรรยากันผิวเผิน อย่างนางมีดีอะไรตรงไหน ถึงคู่ควรให้กู้จิ่งซีต้องมารอนางอยู่หน้าประตูเรือนกลางดึกดื่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 218  

    หากวันรุ่งขึ้นมาถึง เรื่องน่าอับอายที่นางสะดุดล้มหน้าประตูเรือนตนเองจะไม่ถูกเล่าลือไปทั่วจวนหรือ? กู้จิ่งซีเห็นนางฟุบอยู่บนพื้นแน่นิ่งไม่ตอบสนอง หัวคิ้วก็ขมวดขึ้น ก่อนจะย่อกายลงไปช่วยประคองอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมานั่ง พลางถามด้วยเสียงอบอุ่น “ฮูหยิน เจ็บตรงไหนบ้าง?” ได้ยินเสียงนี้ เมิ่งจิ่นเหยาก็ได้สติกลับมา และสบสายตาที่เจือด้วยความห่วงใยคู่นั้น นางลองขยับร่างกายตนเองโดยสัญชาตญาณ จากนั้นจึงชี้นิ้วไปที่แขนของตนเองข้างที่เพิ่งกระแทกพื้นไปเมื่อครู่ และตอบกลับว่า “เจ็บที่แขน แต่ว่ายังพอขยับได้เจ้าค่ะ” กู้จิ่งซีค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และหลุดยิ้มออกมาอย่างจนใจ “มาถึงประตูจวนแล้ว จะรีบร้อนไปไย? เยี่ยมเลย ล้มกระแทกลงไปตรง ๆ แบบนี้” เมิ่งจิ่นเหยา “…” นางพูดได้หรือไม่ว่าเป็นเพราะนางตกใจ จนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปชั่วขณะ ฉะนั้นถึงได้สะดุดล้มแบบนี้? กู้จิ่งซีประคองนางขึ้นมา ทว่าแม่นางน้อยยังไม่ทันยืนมั่นคง ก็ทรุดตัวล้มลงในอ้อมกอดของเขาทันที นางสูดหายใจเย็นวาบ สองมือกำอกเสื้อของเขาแน่น คิ้วเรียวสองข้างขมวดแน่น ใบหน้าฉายแววอัดอั้นเพราะความเจ็บปวดออกมา เขาถามขึ้นทันที “ฮูหยิน เป็นอย่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 217  

    เมิ่งจิ่นเหยาและซ่งซินหนิงรับประทานมื้อเย็นด้วยกันบนเรือสำราญ จากนั้นก็ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของทะเลสาบ และภายในเรือสำราญยังมีเหล้าหมักผลไม้ซึ่งเตรียมไว้ให้แขกด้วย สองคนตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที จิบกันไปหลายจอก พลางคุยสัพเพเหระถึงเหตุการณ์น่าสนุกของแต่ละครอบครัวในเมืองหลวงที่เกิดขึ้นในช่วงใกล้ ๆ นี้ เพลิดเพลินบันเทิงใจยิ่งนัก เวลาไหลผ่านไปโดยไม่ทันรู้ตัว จนกระทั่งเรือสำราญเข้าเทียบท่าแล้ว กว่าที่พวกนางจะขึ้นจากฝั่ง ก็เป็นยามไฮ่สามเค่อแล้ว ยามนี้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวบริเวณทะเลสาบหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว และคนที่เดินเล่นสัญจรไปมาบนท้องถนนของตลาดกลางคืนก็บางตาลงไปมากเช่นกัน บรรยากาศดูเงียบเหงาลงไปเล็กน้อย ซ่งซินหนิงชำเลืองมองเรือสำราญที่ลอยหร็อมแหร็มบนทะเลสาบ ก่อนจะเอ่ยอย่างแปลกใจ “ตอนกำลังมีความสุข ก็คุยกันเสียนานเชียว คิดไม่ถึงว่าจะดึกมากเพียงนั้นแล้ว แต่พวกเราก็ไม่ได้คุยกันอย่างมีความสุขแบบนี้มานานมากแล้วเหมือนกันนะ” เมิ่งจิ่นเหยาผุดยิ้มออกมา “อาหนิง พวกเรากลับจวนกันก่อนเถิด วันข้างหน้าค่อยนัดกันใหม่ ไม่เช่นนั้นหากคุยกันไปเรื่อย ๆ แบบนี้ คงได้กลับจวนกันตอนยามจื่อพอดี”  ซ่งซินหน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 216

    เสิ่นฮูหยินเห็นนางแล้ว รอยยิ้มที่อ่อนโยนก็ปรากฏออกมา “อาเหยามาแล้วหรือ รีบนั่งเถอะ”เมิ่งจิ่นเหยาย่อกายทำความเคารพ หลังจากนั้นก็นั่งลงตรงเก้าอี้เล็กที่อยู่หน้าเตียง และถามอย่างกังวล “เสิ่นฮูหยิน ท่านยังสบายดีอยู่หรือไม่เจ้าคะ?”“ดีมากแล้ว” ขณะที่เสิ่นฮูหยินกล่าว ก็ยิ้มและมองไปทางว่าที่ลูกสะใภ้ที่อยู่ด้านข้าง พลางกล่าวติดตลกว่า “พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า ข้ายังรออาหนิงแต่งเข้ามา และดื่มชาของลูกสะใภ้อยู่นะ รอน้ำชามานานขนาดนี้ ก็จำเป็นต้องดื่มให้ได้ จะให้คนอื่นมาดื่มแทนข้าไม่ได้เด็ดขาด อีกอย่าง ยังไม่ได้อุ้มหลานชายก็จะตายแล้ว น่าเสียดายแย่”ซ่งซินหนิงใบหน้าแดงก่ำ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แง่งอน “ป้าสะใภ้เสิ่น ข้าอาจจะให้กำเนิดบุตรชายไม่ได้ แต่กำเนิดบุตรสาวแทนเล่าเจ้าคะ?”พูดจบ ใบหน้าของนางก็ยิ่งแดงขึ้น ดูสินางพูดอะไรออกมา? กำเนิดหรือไม่กำเนิดอะไรกัน ช่างไร้ยางอายเสียจริง!เสิ่นฮูหยินตกตะลึงเล็กน้อย พลางยิ้มและกล่าวทันที “บุตรสาวก็ดีนะ เป็นคนที่เอาใจใส่เหมือนอาหนิง ป้าเสียดายมาโดยตลอดที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรสาวสักคนที่น่ารักและรู้ความเหมือนอย่างอาหนิงได้”ซ่งซินหนิงอ้าปาก แต่ก็ไม่ได้พ

DMCA.com Protection Status