Share

บทที่ 201  

Author: มู่อวิ๋นเฉิง
last update Last Updated: 2024-12-29 17:00:00
อีกฟากนั้น พวกเมิ่งจิ่นเหยามาถึงหน้ารถม้าแล้ว

ไม่รอให้กู้จิ่งซีถามนางว่าคิดจะทำอะไร เมิ่งจิ่นเหยาก็ถามก่อน “ท่านพี่หลังออกเวรแล้ว หากไม่มีธุระอื่นต้องจัดการ เช่นนั้นพวกเรากลับไปที่จวนก่อนเป็นอย่างไรเจ้าคะ?”

กู้จิ่งซีตกตะลึง คิดถึงถ้อยคำที่สหายคนสนิทบอกกับเขาในวันนี้ ก็เผลอคิดเข้าข้างตนเองไปอย่างอดไม่ได้ เขารู้สึกอึ้งงันที่ได้รับความรักอย่างคาดไม่ถึง “ฮูหยินนี่เจ้ามารับข้าหลังออกเวรหรือ?”

เมิ่งจิ่นเหยาได้ยินเช่นนั้นก็ผงะไปเล็กน้อย กู้จิ่งซีออกเวรจำเป็นต้องให้นางมารับเสียที่ไหน?

เพียงครู่เดียว นางรีบส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมอธิบายว่า “มิใช่เจ้าค่ะ รถม้าของพวกข้าเกิดเสียขึ้นมากะทันหัน เคราะห์ดีที่ห่างจากประตูศาลต้าหลี่ไม่ไกล และยังใกล้เวลาออกเวรพอดี จึงมาดูว่าท่านพี่จะกลับจวนเหมือนกันหรือไม่ อยากจะขออาศัยความสะดวกสักหน่อยเจ้าค่ะ”

กู้จิ่งซีตอบกลับด้วยเสียงอ่อนโยน “ข้าเองก็กำลังจะกลับจวนพอดี เช่นนั้นกลับด้วยกันเถิด”

นายบ่าวสี่คนขึ้นรถม้าเรียบร้อย และเคราะห์ดีที่รถม้ามีขนาดใหญ่พอ ไม่เช่นนั้นสี่คนนั่งด้วยกันคงแน่นอึดอัดเกินไปแน่

แม้ว่ากู้จิ่งซีจะเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน แต่ชิงชิวและหนิงตง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 202  

    หลังหลี่หว่านเอ๋อร์เข้าจวน แม้ไม่ได้รับความเอ็นดูจากผู้อาวุโส แต่ก็ไม่เคยถูกตบหน้ามาก่อน มีแต่ได้รับความรักและการทะนุถนอมจากกู้ซิวหมิงมาตลอด เพียงตบเดียวนี้ทำให้นางถึงกับอึ้งไป มือกุมใบหน้าข้างหนึ่งซึ่งชาไปแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจพลันบังเกิดขึ้น พริบตาเดียวหยาดน้ำตาก็จวนจะเอ่อล้นขอตาแล้ว นางตอบกลับด้วยเสียงสะอื้น “คุณหนูใหญ่ เมื่อครู่ท่านเดินเร็วเกินไปจนลืมมองทาง ถึงได้ชนตัวข้าน้อยเจ้าค่ะ” สาวใช้ข้างกายหลี่หว่านเอ๋อร์มองอย่างเงียบเชียบ ไม่กล้าส่งเสียงใดออกมา ถึงอย่างไรท่านผู้นี้ก็เป็นบุตรีคนโตสายหลักของบ้านใหญ่ ถึงแม้เจ้านายของนางจะได้รับความรักจากท่านซื่อจื่อเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพียงอนุภรรยา เหล่าเจ้านายในจวน ยกเว้นท่านซื่อจื่อ ไม่มีผู้ใดสนใจหลี่อี๋เหนียงแม้แต่คนเดียว กู้เซวียนอี๋ขึงตาจ้องนางด้วยความโกรธ “เจ้าจะบอกว่าข้าเดินไม่ดูทาง แล้วยังชนเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ?” หลี่หว่านเอ๋อร์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ข้าน้อยมิบังอาจ” กู้เซวียนอี๋แค่นเสียงออกมา “เจ้าน่ะหรือไม่บังอาจ? เจ้าชนข้าแล้วยังมีอะไรไม่บังอาจอีก?” เอ่ยพลาง นางก็ใช้สายตาประเมินหลี่หว่านเอ๋อร์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้

    Last Updated : 2024-12-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 203  

    …เซวียนอี๋ พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกัน? และทันทีที่สิ้นเสียงนี้ กู้เซวียนอี๋พลันตัวแข็งไป นี่คือเสียงของท่านอาสะใภ้สามของนาง พูดถึงอาสะใภ้สาม นางก็คิดถึงเมื่อครั้งก่อนที่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับกู้เซวียนหลิงขึ้นมาได้ อาสะใภ้สามเหตุการณ์ทั้งหมด สุดท้ายนางถูกมารดาลงโทษให้คุกเข่าที่โถงบรรพชน สำนึกผิดต่อหน้าป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษ และกักบริเวณครึ่งเดือน อีกทั้งยังต้องคัดกฎตระกูลอีกยี่สิบจบ นางโตตั้งเพียงนั้นแล้ว แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ถูกลงโทษหนักถึงขั้นนี้ อาสะใภ้สามในความคิดของนาง น่ากลัวเหมือนท่านอาสามทุกประการ ไม่ใช่คนที่ควรจะเข้าไปยั่วโทสะด้วยกันทั้งคู่ นางค่อย ๆ หมุนตัวมองไปอย่างระวัง ก็เห็นว่าอาสะใภ้สามของนางกำลังยืนอย่างนิ่งสุขุมอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวจริงอย่างที่คาดไว้ และกำลังมองพวกนางด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ เพียงเสี้ยวพริบตานางพลันปอดแหกขึ้นมา ไม่เหลือท่าทางเย่อหยิ่งจองหองเหมือนเมื่อครู่แล้ว นอบน้อมเชื่อฟังเหมือนเจ้าวิฬาร์ตัวหนึ่ง ยอบกายทำความเคารพ ก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างตะกุกตะกัก “อาสะใภ้สาม” หลี่หว่านเอ๋อร์เมื่อเห็นเมิ่งจิ่นเหยา ก็ลืมร้องไห้ไปทันที ถ้อยคำที่ตนเองเอ่

    Last Updated : 2024-12-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 204  

    เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับเสียงราบเรียบ “ให้ท้ายมากเกินไปก็เป็นเช่นนี้ ทนรับความน้อยเนื้อต่ำใจแม้สักนิดก็ไม่ได้ เสียเปรียบแม้เพียงสักนิดก็ไม่ยอม เมิ่งจิ่นอวี้เองก็เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ? แต่นางเหมือนว่าจะดีเมิ่งจิ่นอวี้สักหน่อย นางแสดงออกว่าร้าย แต่เมิ่งจิ่นอวี้ร้ายเงียบ” พูดถึงเมิ่งจิ่นอวี้ขึ้นมา หัวคิ้วนางขมวดมุ่นเล็กน้อย นัยน์ตาฉายประกายรังเกียจออกมาวูบหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนประเด็น “ยามนี้แสงแดดเริ่มแรงขึ้นแล้ว พวกเรากลับกันก่อนเถิด” หนิงตงรับคำ “เจ้าค่ะ” …… ณ เรือนชิงอวี้เซวียน กู้ซิวหมิงถูกลงโทษกักบริเวณ และคัดคัมภีร์กตัญญู ภายในใจทั้งโกรธแค้นและอัดอั้น ทว่าเขาไม่กล้าไม่คัด เพราะเมื่อใดที่ครบกำหนดโทษกักบริเวณแล้ว ท่านพ่อจะต้องตรวจสอบแน่ หากพบว่าเขาไม่ยอมคัดหรือคัดได้น้อย จะต้องนำมาซึ่งบทลงโทษที่หนักหนารุนแรงกว่านี้อย่างแน่นอน เขาไร้สิ้นหนทาง ได้แต่ขะมักเขม้นตั้งใจคัดตัวอักษรเท่านั้น เปลี่ยนความเศร้าและอารมณ์โกรธกรุ่นเป็นความเร็ว คัดไปเรื่อย ๆ กระทั่งจิตใจค่อยกลับมาสงบลงอย่างช้า ๆ ทันใดนั้น ประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออกมาจากด้านนอก เงาร่างสะโอดสะองสายหนึ่งถลันเข้ามาด้านใน มือขอ

    Last Updated : 2024-12-29
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 205  

    กู้ซิวหมิงได้ฟังเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง ก็รู้สึกค้างคา เป็นความรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ จึงขมวดคิ้วถาม “เพราะอะไรหรือ? หว่านเอ๋อร์เจ้าพูดมาเถิดอย่างได้กังวล ระหว่างเจ้ากับข้ายังมีเรื่องใดที่คุยกันไม่ได้รึ?” หลี่หว่านเอ๋อร์ลังเลอย่างยิ่ง ชำเลืองมองสีหน้าเขาอย่างระวัง ก่อนจะปิดประตูห้องหนังสือ และเดินไปข้างกายเขา แล้วเอ่ยอย่างตะกุกตะกักว่า “เพราะว่าท่านถูกท่านโหวลงโทษแล้วหลายครั้ง ทำให้ท่านโหวไม่พอใจแล้ว พวกเขา…พวกเขาจึงคิดว่าท่านโหวจะไม่ให้ความสำคัญใด ๆ กับท่านพี่อีกแล้ว ฉะนั้นถึงได้ทำเช่นนี้เจ้าค่ะ” สิ้นวาจานี้ของนาง หยาดน้ำตาที่เพิ่งหยุดไปกลับไหลพรากออกมาอีกครั้ง นางสะอื้นออกมาเบา ๆ ตำหนิตนเองไม่หยุด “ท่านพี่ซิวหมิง ทั้งหมดเป็นเพราะข้าไม่ดี หากไม่ใช่เพราะข้า ท่านก็ไม่ต้องถูกท่านโหวลงโทษแล้ว” สิ้นวาจานี้ จิตใจของกู้ซิวหมิงพลันสั่นสะท้านทันที นึกถึงคำพูดที่ท่านพ่อเคยพูดกับเขามาก่อน …เพราะเจ้าคิดว่าข้ามีเจ้าเป็นบุตรชายคนเดียว ผู้สืบทอดตำแหน่งไม่พ้นต้องเป็นของเจ้าผู้เดียว ฉะนั้นถึงได้คิดว่าตนเองมีสิทธิ์ทำตัวกำเริบเสิบสานอย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่? …แม้ข้าจะมีเจ้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว แต่ผู

    Last Updated : 2024-12-30
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 206  

    น้ำเสียงของเขาอบอุ่นอ่อนโยน ทว่าสีหน้ากลับหมองคล้ำ ชวนให้หวาดหวั่นพรั่นพรึงยิ่ง หลี่หว่านเอ๋อร์ยังรู้สึกขลาดกลัวเล็กน้อย ก็ซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขา พลางเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล “ท่านพี่ซิวหมิง เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้มันแล้วกันไป อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถิดเจ้าค่ะ หลังจากนี้พวกเรามาตั้งใจใช้ชีวิตให้มีความสุขด้วยกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ” กู้ซิวหมิงลูบแผ่นหลังนางอย่างแผ่วเบา “หว่านเอ๋อร์ พวกเราจะต้องมีความสุขแน่” หลี่หว่านเอ๋อร์ผงกศีรษะเบา ๆ ทันใดนั้นก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นได้ ก็เงยหน้าขึ้นมองกู้ซิวหมิง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิวว่า “ท่านพี่ซิวหมิง ข้าเรียนรู้กฎระเบียบได้ครบพอประมาณแล้ว ให้แม่นางชุนหลิ่วกลับไปที่เรือนเวยหรุยเซวียนเลยดีหรือไม่เจ้าคะ?” กู้ซิวหมิงขมวดคิ้ว “นางรังแกเจ้าหรือ?” “ไม่มีเจ้าค่ะ” หลี่หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า ก่อนจะบ่นอุบอิบ “เพียงแต่ข้ารู้สึกอึดอัด นางดูแคลนที่ข้าเป็นเพียงแค่อนุภรรยา ข้าเองก็รู้ตัวดี แต่เดิมนางเป็นถึงสาวใช้ใหญ่ในเรือนของท่านโหว ได้รับเกียรติอย่างมากในจวนด้วย ทว่าในยามนี้กลับต้องตามประกบข้าเพื่อสอนให้ข้ารู้กฎระเบียบ ความจริงก็ฝืนใจนา

    Last Updated : 2024-12-30
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 207  

    ยามโหย่ว ช่วงเย็นของวัน กู้จิ่งซีกลับมาจากออกเวรแล้ว เมื่อเข้ามาในเรือน ก็ถูกแม่นางน้อยเรียกให้ไปนั่งด้วยทันที วันนี้แม่นางน้องดูจะกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดรินน้ำชาให้เขา และยังดันจานใส่อาหารว่างที่ตั้งอยู่หน้าตนเองมาให้เขาด้วย โบราณว่าไว้ ยื่นไมตรีให้โดยไร้เหตุ มิใช่โจรชั่วก็คนเลว กู้จิ่งซีเห็นด้วยอย่างเต็มที่ เขาเม้มริมฝากปากผุดยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะยกน้ำชาจิบหนึ่งคำ กลิ่นน้ำชาสดชื่นรสชาติหอมหวาน รสชาตินี้ชี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก คล้ายกับเป็นชาที่แม่นางน้อยลงมือชงด้วยตนเอง เขาละเลียดน้ำชาหนึ่งถ้วยจนหมดแล้ว ค่อยวางถ้วยชาลง และถามว่า “ฮูหยิน เจ้ามีเรื่องอยากคุยกับข้าใช่หรือไม่?” เมิ่งจิ่นเหยาอมยิ้มพลางพยักหน้า “มีเรื่องอยากคุยกับท่านพี่เจ้าค่ะ” กู้จิ่งซีได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มยิ่งดูลุ่มลึก ดูเหมือนว่าตนเองจะคาดเดาได้ถูกต้อง ก็เอ่ยด้วยเสียงอบอุ่นว่า “ฮูหยินพูดมาเถิดอย่าได้เกรงใจเลย” เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับ “เรื่องเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ อีกไม่นานจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งแห่งจวนหัวหน้าสำนักศึกษา และข้าก็ได้เลือกเครื่องหยกสลักรูปเด็กชายอวยพรชิ้นหนึ่งจากในห้องเก็บขอ

    Last Updated : 2024-12-30
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 208  

    สีหน้านางไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ตอบกลับโดยคล้อยตามคำพูดของกู้จิ่งซี “ได้ยินท่านพี่พูดเช่นนี้แล้ว เครื่องประดับศีรษะชุดนี้ดูจะไม่เหมาะสมกับข้าจริง ๆ เช่นนั้นข้าค่อยเลือกชิ้นอื่นแล้วกัน” กู้จิ่งซีผงกศีรษะ “อืม” เมิ่งจิ่นเหยาก็มิได้พยายามถามถึงประเด็นนี้ขึ้นมาอีก ครั้นปิดกล่องไม้ลงแล้ว ก็เปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่น หันไปคุยเรื่องสัพเพเหระแทน …… รุ่งเช้าวันต่อมา เมิ่งจิ่นเหยารับประทานมื้อเช้าแล้วเรียบร้อย ก็เข้าไปหยิบกุญแจห้องเก็บของออกมาจากห้องนอน และนำกล่องไม้ที่เก็บเครื่องประดับศีรษะหยกขาวมันแพะไปด้วย ชิงชิวเมื่อเห็นเช่นนั้น ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฮูหยินเจ้าคะ ท่านจะเอาเครื่องประดับศีรษะชุดนั้นไปที่ใดหรือ?” เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับด้วยเสียงเรียบ “นำกลับไปคืนในห้องเก็บของ” หนิงตงมองตามต้นเสียง เห็นฮูหยินของตนเองถือเครื่องประดับศีรษะที่เมื่อวานเพิ่งหยิบออกมาจากห้องเก็บของไว้ในมือ ก็ถามด้วยความฉงนว่า “ฮูหยินเจ้าคะ เครื่องประดับศีรษะชุดนี้งดงามยิ่งนัก ไม่ใช่ว่าท่านต้องการนำไปใช้หรอกหรือเจ้าคะ? เหตุใดท่านถึงจะนำมันกลับไปคืนในห้องเก็บของเจ้าคะ?” ชิงชิวเองก็สงสัยเหมือนกัน ทั้งที่

    Last Updated : 2024-12-30
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 209  

    ชิงชิวและหนิงตงต่างเงียบงันไม่เอ่ยวาจาใด รู้สึกเศร้าแทนนายหญิงของตนเอง ทั้งที่นายหญิงเป็นแม่นางที่ประเสริฐเพียงนี้ เหตุใดโชคชะตาถึงได้เลวร้ายนักก็ไม่รู้? เดิมก็มีพิธีวิวาห์ที่ดีมากรออยู่แท้ ๆ พวกนางต่างคิดว่าหากนายหญิงอดทนรอจนได้ออกเรือนก็จะได้ผ่านพ้นความทุกข์ยากไปสู่ความสุขเสียที กลับไม่คิดเลยว่าในวันวิวาห์ว่าที่เจ้าบ่าวจะตีแสกหน้า …หนีวิวาห์ไปดื้อ ๆ เสี้ยวพริบตาเดียวนายหญิงกลายเป็นตัวตลกของทุกคนในพิธี และคนทั้งเมืองหลวงต่างพากันเยาะเย้ยดูแคลนนายหญิง ที่ถูกเจ้าบ่าวทิ้งไปในวันวิวาห์ ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องอัปยศเช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวง แต่ดันมาเกิดขึ้นกับนายหญิงของพวกนาง เคราะห์ดีที่ท่านโหวยอมสมรสกับนายหญิงของพวกนาง และดูแลนายหญิงของพวกนางอย่างดีที่สุด กลับไม่คิดเลยว่าท่านโหวจะมีแม่นางในใจอยู่แล้ว? หนิงตงสะอื้นออกมา “ฮูหยินต้องน้อยใจแล้ว” เมิ่งจิ่นเหยากลับมองออกทุกอย่าง จึงตอบกลับด้วยเสียงอบอุ่น “ตอนแรกที่ข้าเลือกสมรสกับเขา ไม่เลือกสมรสกู้ซิวหงกับกู้ซิวเหวิน ก็แค่ต้องการจะหาทางลงให้ตนเองเท่านั้น ดำรงฐานะเป็นฮูหยินของท่านโหว เป็นผู้อาวุโสของกู้ซิวหมิง ทำให้กู้ซิว

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 240  

    ...... เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมิ่งจิ่นเหยาตื่นขึ้นมาอย่างเนิบช้า บุรุษข้างกายออกไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้วตั้งแต่เช้าตรู่ นางจึงเรียกสาวใช้เข้ามาปรนนิบัติรับใช้ วันนี้นางอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งชิงชิวและหนิงตงล้วนสัมผัสได้ สาวใช้สองคนหันมาสบตากัน ต่างคนต่างเห็นความงุนงงในแววตาของอีกฝ่าย และในตอนที่กำลังหวีผมแต่งหน้าให้เมิ่งจิ่นเหยา หนิงตงถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฮูหยิน วันนี้ท่านดูเหมือนจะมีความสุขยิ่งนักเจ้าค่ะ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดหรือเจ้าคะ?” เมิ่งจิ่นเหยาชะงักไป ก่อนจะย้อนถามกลับทันที “ข้ามีความสุขไม่ได้หรือ?” หนิงตงผงกศีรษะ “ท่านตื่นนอนลงจากเตียงก็ยิ้มไม่หยุด เหมือนกับเจอเรื่องดี ๆ อะไรมาอย่างไรอย่างนั้นเจ้าค่ะ” ได้ยินเช่นนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็ผงะไปอีกครั้ง มองตนเองในคันฉ่องแล้ว ดรุณีน้อยในคันฉ่องเรือนผมดุจเมฆาขนคิ้วโค้งงาม รอยยิ้มเพริศพริ้งสดใส ดูเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อยทีเดียว นางตอบกลับ “คงจะเป็นเพราะเมื่อวานได้รับเครื่องประดับศีรษะงดงามเลิศล้ำมาชุดหนึ่งกระมัง จิตใจถึงได้เบิกบานมีความสุข” ชิงชิวและหนิงตงชะงักไป นายหญิงของพวกนางได้รับเครื่องประดับศีรษะแล้วหนึ่งชุด ไฉนพวกนา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 239  

    เขาตอบกลับได้อย่างเด็ดขาดและฉับไว ไร้ซึ่งความลังเล เมิ่งจิ่นเหยาเชื่อมั่นว่าเขาในยามนี้มิได้มีความรู้สึกใดกับคู่หมั้นคนก่อนอีกแล้ว นางชำเลืองสายตามองกู้จิ่งซี ก่อนจะถามอีกครั้ง “ท่านพี่ ท่านคิดว่าจะจัดการกับเครื่องประดับศีรษะชุดนั้นอย่างไรหรือเจ้าคะ?” กู้จิ่งซีตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบ “ทิ้งไปแล้ว” เมิ่งจิ่นเหยาอึ้งงัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หยกขาวมันแพะชั้นดีเชียวนะเจ้าคะ ทิ้งไปก็น่าเสียดาย” นางมิได้มีความหมายอื่นใดเป็นพิเศษ แค่รู้สึกว่าหยกเป็นหยกชั้นดีเท่านั้น งานฝีมือก็ประณีตงดงาม และแม่นางสกุลเหมยก็ออกเรือนไปแล้ว นางจะไปถือโทษโกรธเคืองเครื่องประดับศีรษะอันเดียวเพื่ออะไร? นางมิได้สนใจจะสวมใส่สิ่งของที่คนอื่นไม่ต้องการ แต่เก็บมันไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มิใช่หรือ จะใช้เป็นรางวัลมอบให้สาวใช้หรืออื่นใดนั่นก็ย่อมได้ มิเช่นนั้นแล้ว จะนำไปแลกเป็นเงินมาบริจาคให้โรงทานก็ย่อมได้ กู้จิ่งซีได้ยินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เห็นแววตาของแม่นางน้อยฉายประกายเสียดายนิด ๆ ออกมา ก็เอ่ยพลางยิ้มบาง ๆ “เช่นนั้นก็เอาไปจำนำที่โรงรับจำนำ เปลี่ยนเป็นเงินมาซื้อเครื่องประดับศีรษะชุดใหม่ให้เด็กน้อยสักคนเป็นการชดเ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 238  

    ถึงอย่างไรก็ถามมาขนาดนี้แล้ว นางจึงตัดสินใจถามออกไปให้ถึงที่สุดเลยว่า “ท่านพี่อยากมอบให้ดรุณีสกุลใดหรือเจ้าคะ?” กู้จิ่งซีตอบกลับ “สกุลเหมย” สกุลเหมย? เมิ่งจิ่นเหยาเพียงชะงักไปเล็กน้อยเท่านั้น มิได้รู้สึกแปลกใจอะไรมาก คู่หมั้นคนก่อนของกู้จิ่งซีสกุลเหมยเองหรือ นางกับหนิงตงและชิงชิวเคยคาดเดากันมาก่อน รู้สึกว่าเครื่องประดับศีรษะชุดนั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นของที่กู้จิ่งซีต้องการมอบให้คู่หมั้นคนก่อน บัดนี้นางได้รับคำตอบที่แท้จริงจากกู้จิ่งซีเองแล้ว แต่ก็จริงนะ ลวดลายดอกเหมย สัญลักษณ์ที่ชัดเจนออกปานนั้น ความจริงไม่จำเป็นต้องเดาเลย เพียงแต่ตอนนั้นพวกนางคิดไม่ถึงก็เท่านั้น กู้จิ่งซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ฮูหยินอย่าได้คิดมากเลย ข้ากับนางมิได้มีอะไรต่อกันแล้ว นางสมรสไปนานแล้ว และตามสามีไปทำงานที่ต่างเมืองแล้ว” “เช่นนั้นแล้วเครื่องประดับศีรษะชุดนี้ ใช่เป็นเพราะท่านพี่อยากจะชดเชยให้ข้า ถึงได้ไปขอจากท่านแม่มา และนำมามอบให้ข้าหรือไม่เจ้าคะ?” เมิ่งจิ่นเหยาพูดจบ ก็ก้มหน้ามองเครื่องประดับศีรษะทองคำบริสุทธิ์ฝังทับทิมที่นอนอยู่ในกล่อง เครื่องประดับศีรษะชุดนี้งดงามดึงดูดสายตายิ่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 237  

    …ท่านพี่ ท่านเคยมีดรุณีที่เคยเรียกร้องหมายปองแต่มิเคยได้ครอบครองใช่หรือไม่เจ้าคะ? ทันทีที่คำพูดนี้เอ่ยออกจากปาก เมิ่งจิ่นเหยาก็รู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว อยากจะหยิบเข็มกับด้ายมาเย็บปากตนเองให้ปิดสนิทไว้ก่อนล่วงหน้า แบบนี้จะได้ไม่ต้องเอ่ยคำพูดไม่เข้าหูออกมา จี้แผลใจของคนอื่นเช่นนั้นช่างขาดคุณธรรมนัก กู้จิ่งซีได้ยินคำพูดนี้ ก็ผงะไปครู่หนึ่ง รู้สึกเพียงแค่ว่าคำถามของแม่นางน้อยฟังดูไร้เหตุผลและยากจะเข้าใจ สายตาชำเลืองมองนางอย่างแปลกประหลาด ก่อนจะตอบกลับอย่างราบเรียบหนึ่งประโยค “ข้าไม่เคยเรียกร้อง” ไม่เคยเรียกร้อง? เมิ่งจิ่นเหยาชะงักงันไปเล็กน้อย ที่ว่าไม่เคยเรียกร้องหมายถึงอะไร? หมายถึงคิดหมายปอง แต่ยังไม่เคยลงมือเรียกร้องอย่างจริงจังอย่างนั้นหรือ ถึงได้บอกว่าไม่เคยเรียกร้อง? นางพลันรู้สึกเสียดายแทนกู้จิ่งซีขึ้นมา บุรุษคนนี้มีความรู้ความสามารถโดดเด่นเลิศล้ำ รูปโฉมหล่อเหลาหมดจด พื้นเพชาติตระกูลก็ดีเลิศ แต่เพราะป่วยเป็นโรคที่บอกผู้อื่นไม่ได้ แม้แต่ดรุณีที่หัวใจรักยังไม่กล้าเรียกร้องครอบครอง สุดท้ายก็พลาดโอกาสไป กู้จิ่งซีถูกสายตาสงสารของนางจ้องมองจนรู้สึกไม่สบายตัว ไม่เข้าใจว่าแม่นางน้

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 236  

    ชิงชิวรับคำ ก่อนจะล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว เมิ่งจิ่นเหยายืนขึ้นมา และหมุนตัวกลับไป มองเขาด้วยแววตาเจือความฉงน และถามว่า “ท่านพี่มีเรื่องใดจะคุยกับข้าหรือ?” กู้จิ่งซีสืบเท้าไปด้านหน้า พลางยื่นกล่องไม้จันทน์ในมือให้นาง พร้อมเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “สิ่งนี้มอบให้ฮูหยิน ฮูหยินดูก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบ?” ได้ยินเช่นนั้น เมิ่งจิ่นเหยาเหลือบสายตามองเขาปราดหนึ่งด้วยความงุนงง ก่อนจะยื่นมือไปรับกล่องไม้จันทน์มาด้วยความรู้สึกลังเล แม้จะไม่ได้เปิดกล่องออก แต่รู้สึกได้ว่าของน่าจะมีราคามากทีเดียว ไม่เช่นนั้นคงไม่จำเป็นต้องบรรจุมาในกล่องไม้จันทน์ก็ได้ นางเอ่ยถามออกไป “ท่านพี่ สิ่งนี้คืออะไรหรือ?” “ฮูหยินลองดูก่อน” กู้จิ่งซีบอกเชิงว่าให้นางเปิดกล่องออก เห็นเขาไม่ยอมบอก เมิ่งจิ่นเหยาก็ยิ่งสงสัย ประคองกล่องไม้ไปวางไว้บนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นก็เปิดกล่องไม้ออก ครั้นหลุบตาลงมอง สายตาของนางพลันนิ่งไปทันที นางจ้องมองของที่อยู่ด้านในด้วยความตื่นเต้นและงงงัน สิ่งนั้นก็คือเครื่องประดับศีรษะทองคำบริสุทธิ์ฝังทับทิม เครื่องประดับศีรษะชุดนี้มีทั้งสิ้นยี่สิบสามชุด และอัญมณีทุกเม็ดมีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง มีลวดลายบุปผาโบต

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 235  

    วันรุ่งขึ้น เมิ่งจิ่นเหยาคิดถึงเฉิงจางน้องชายคนรองซึ่งไปอยู่ที่สำนักศึกษาแล้ว ไม่รู้ว่าบัดนี้อยู่ที่สำนักศึกษาแล้วชีวิตความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง ปรับตัวได้บ้างหรือยัง จึงคิดจะเขียนจดหมายถามไถ่สารทุกข์สุกดิบส่งไปถึงน้องรอง ภายในเรือนเวยหรุยเซวียนมีห้องหนังสือ ทว่าเมิ่งจิ่นเหยาเคยเข้าไปที่นั่นเพียงครั้งเดียวก็เมื่อตอนเพิ่งสมรสหมาด ๆ เพราะอยากจะทำความคุ้นเคยกับเรือนเวยหรุยเซวียน ถึงได้เข้าไปดูในห้องหนังสือให้พอผ่านตาสักครั้ง แต่โดยปกติแล้วนางจะไม่เข้าไปที่นั่น และเมื่อจำเป็นต้องตรวจสอบสมุดบัญชีก็จะอยู่ทำงานที่ห้องโถงเล็กแทน วันนี้ เป็นครั้งที่สองที่นางจะเข้าไปที่ห้องหนังสือ ภายในห้องหนังสือ บนโต๊ะเขียนอักษรมีกล่องไม้แดงใบหนึ่งวางอยู่ โดดเด่นเห็นชัดเจน เมื่อเข้าไปด้านในห้องหนังสือ ทอดสายตามองไปก็สามารถเห็นได้ทันที หนิงตงครั้นเห็นกล่องใบนั้น หัวคิ้วพลันขมวดแน่นขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ ไฟโทสะไร้ชื่อเรียกลุกโชนขึ้นมาในใจทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่านายหญิงเพิ่งดุด่านางไปแล้วเมื่อคืน ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามเอ่ยวาจาที่ไม่สมควรออกมา เพียงแต่กระซิบด้วยเสียงเบาหวิวว่า “ฮูหยิน กล่องไม้แดงใบนี้ดูคุ้นตา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 234

    ชิงชิวมองเงาแผ่นหลังของนาง ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกในใจ ตอนแรกฮูหยินยังบอกว่าหนิงตง จิตใจมั่นคงขึ้นไม่น้อยแล้ว บัดนี้ดูเหมือนว่าจะยังมั่นคงไม่มากพอ ยังคงแสดงอารมณ์ออกมาง่ายดายเกินไปภายหลังจากนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เรียกหนิงตงมาพบ เพื่อจะตำหนิอย่างจริงจัง ดึงสีหน้าบึ้งตึงพร้อมดุด้วยเสียงขรึม “หนิงตง ปกติข้าตามใจเจ้ามากเกินไปแล้วหรือกระไร? นับวันยิ่งกล้าหาญ ต่อหน้าเจ้านายยังบังอาจไม่เคารพยำเกรง กฎระเบียบที่เจ้าเรียนมาลืมไปหมดแล้วหรือ?”หนิงตงขอบตาแดงก่ำ สะอึกสะอื้นพลางเอ่ยว่า “ฮูหยิน ข้าน้อยรู้สึกหงุดหงิดถะ…ถึงได้ทำไปเช่นนั้นเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาสีหน้าเยียบเย็น “ข้ายังไม่โกรธ แล้วเจ้าจะโกรธอะไร?”นางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึมออกมา “อย่าลืมว่าการสมรสครั้งนี้ข้านายหญิงของเจ้าได้มาอย่างไร เขาถูกบังคับให้สมรสกับข้า ก่อนที่เขาจะสมรสกับข้าก็มิได้มีใจให้ข้า จะมีดรุณีที่ใจหมายปองแต่มิได้ครอบครองนั่นก็เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ? แน่นอน ใครขอให้เขาอบรมสั่งสอนบุตรชายไม่ถูกวิธีเล่า ในเมื่อบุตรก่อกรรมทำผิดบิดาย่อมจำเป็นต้องชดใช้ และตัวเขาเองก็มิได้ปฏิเสธจะรับข้าเป็นภรรยาด้วย”

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 233  

    บรรยากาศจมดิ่งสู่ความเงียบสงัด หนิงตงเห็นนายหญิงของตนเองเงียบเชียบไม่เอ่ยวาจา ก็คิดว่านางจะรู้สึกอึดอัดทุกข์ใจ เอ่ยวาจาปลอบโยนเสียงตะกุกตะกัก “ฮูหยิน ท่าน…ท่านอย่าทุกข์ใจไปเลย” เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียงออกมาเบา ๆ “หืม?” หนิงตงสงบสติให้มั่นคง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจยิ่งขึ้น “ฮูหยินเจ้าคะ ท่านเป็นฮูหยินเอก ไม่ว่าอย่างไรสตรีคนนั้นก็ไม่มีทางจะเหนือกว่าท่านไปได้เจ้าค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็น่าจะแต่งเป็นสะใภ้ของคนอื่นไปแล้วเจ้าค่ะ” เมิ่งจิ่นเหยายกยิ้ม พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ “คิดอะไรอยู่? ข้าไม่ได้ทุกข์ใจ” เห็นพวกนางดูเหมือนจะไม่เชื่อ นางก็เสริมขึ้นอีกหนึ่งประโยค “ข้าพูดความจริง ข้ามิได้ทุกข์ใจ” ดูจากประโยคนี้ ไม่ว่าจะฟังอย่างไรกลับยิ่งรู้สึกเหมือนต้องการจะปกปิดบางอย่างไว้ สาวใช้สองคนต่างมองหน้าสบตากัน ก็รู้สึกตรงกันว่าฮูหยินปากไม่ตรงกับใจ ท่านโหวนำของแทนใจที่มิอาจมอบให้แสงจันทรากระจ่างฟ้าออกมาจากห้องเก็บของ และนำไปเก็บไว้ในห้องหนังสือ สิ่งของที่อยู่ในห้องหนังสือนอกจากตำราและสี่สิ่งล้ำค่าแล้ว ก็มีเพียงวัตถุที่ค่อนข้างมีคุณค่าราคาแพง เครื่องประดับศีรษะชุดนั้นท่านโหวหวงแหนดุจ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 232  

    หนิงตงเห็นเช่นนี้ คิดว่าเขายังต้องการหาของชิ้นอื่นอีก ก็สาวเท้าตามไป กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นกล่องไม้แดงใบนั้นเข้า จึงผงะไปทันใด ในใจสบถออกมาว่าไม่ดีแล้ว ทันใดนั้นเอง หนิงตงได้สติกลับมา กลัวว่าเขาจะเห็นของสิ่งนั้นและจะระลึกถึงคน จะคิดถึงแม่นางคนอื่นแล้วจะลืมนายหญิงของพวกนาง ก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจของเขา เปล่งเสียงถามทันที “ท่านโหว ท่านยังประสงค์จะหาของชิ้นใดอีกหรือไม่เจ้าคะ? ข้าน้อยจะได้ช่วยท่านหา” “ไม่ต้องแล้ว ข้าเพียงต้องการตามหาม้วนภาพเขียนอักษรนี้เท่านั้น บัดนี้หาเจอแล้ว” กู้จิ่งซีพูดจบ เขาก็ชำเลืองมองกล่องไม้แดงใบนั้นอีกครั้ง ลังเลอยู่เพียงชั่วอึดใจ จากนั้นก็โค้งเอวลงหยิบไปหยิบกล่องไม้ใบนั้นขึ้นมาและนำออกไปพร้อมกัน การกระทำเช่นนี้ทำให้หนิงตงดวงตาเบิกโพลง นางจ้องมองกล่องไม้แดงตาไม่กะพริบ สมองกลายเป็นสีขาวโพลนไปในชั่วขณะ หากนางจำไม่ผิด นี่คือกล่องที่บรรจุเครื่องประดับศีรษะหยกขาวมันแพะชุดนั้นไว้ และเครื่องประดับศีรษะชุดนี้ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นของที่ท่านโหวคิดจะนำไปมอบให้คนในดวงใจ ทว่าสุดท้ายก็มอบให้ไม่สำเร็จ จึงได้แต่ทิ้งลืมไว้ในห้องเก็บของ และไม่จดบันทึกไว้ใน

DMCA.com Protection Status