เมื่อมาถึงโถงใหญ่มามาห้าคนซึ่งถูกส่งตรงมาจากวังหลวงก็รอนางอยู่ก่อนแล้วหยางอี้หงสลัดความคิดเกี่ยวกับฮูหยินของซื่อจื่อที่รบกวนจิตใจของนางออกไปให้หมด หน้าที่ของนางอยู่ตรงหน้าแล้วมามาเหล่านั้นทำความเคารพหยางอี้หงแล้วเอ่ยด้วยดวงตาที่ชื่นชมโดยไม่ปิดบัง กระทั่งมามาผู้หนึ่งที่ดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะมียศส
มามาสูงวัยต่างช่วยกันเปลื้องเสื้อผ้าของหยางอี้หงออกจนเหลือเพียงเอี๊ยมสีฟ้าตัวใน ร่างกายงดงามขาวผ่องปรากฎอยู่ตรงหน้าถึงกับทำให้มามาผู้หนึ่งอุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงชื่นชม“ผิวกายขาวระเรื่ออมชมพูเนียนนุ่มประดุจปุยเมฆ หน้าอกเต่งตึงชูชัน เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าภายในจะแต่งตึงงดงามเพียงใด”หยางอี้หงใบหน้าแ
จูชางหลางเดินเข้ามาหานางที่เบื้องหลังฉากบังตา หลังจากที่ทุกคนถูกลากออกไปจนหมดแล้ว ในโถงแห่งนี้บัดนี้จึงเหลือเพียงเขาและนางเท่านั้นคนของจูชางหลางล้วนเป็นทหารที่ฝึกมาอย่างหนักจึงไว้วางใจได้ หลายวันมานี้จูชางหลางรู้ว่า คนของฉางหมิงฟู่ยังสืบเรื่องของหยางอี้หง ทว่าเพราะเขาสั่งสอนคนให้เก็บความลับมิดชิด จ
จูชางหลางพุ่งตัวเข้าหานาง กระชากร่างเล็กมากอดเอาไว้แล้วบดริมฝีปากอย่างดุเดือดบ้าคลั่งหยางอี้หงครางในลำคอ เอ่ยเรียกชื่อของเขาแผ่วเบา เขาดึงร่างบางขึ้นมาอุ้มเอาไว้บดจูบทั้งกลืนกินริมฝีปากอย่างโหยหาคล้ายกับมันคือน้ำทิพย์อันโอชะจูชางหลางอุ้มนางขึ้นมา พาร่างบางไปที่โต๊ะน้ำชาที่หยางอี้หงเพิ่งเรียนรู้วิช
อา.. เขารู้ว่าหากใช้ลิ้นเลียตรงนี้จะทำให้สตรีเกิดความพึงพอใจและหลงใหลในรสรักของบุรุษจูชางหลางไม่รอช้า ปลายลิ้นแหลมจ้วงลงไปกระหน่ำเลียซ้ำแล้วซ้ำเล่า หยางอี้หงผู้ซึ่งยังไม่ได้ตั้งตัวว่าจะเกิดความรู้สึกเช่นนี้กับตนเองถึงกับดิ้นพล่านครางเรียกเขาเหมือนสตรีที่กำลังจะขาดใจนิ้วของจูชางหลางนำทางเข้าไปในร่อ
จูชางหลางบังเกิดความปรารถนาในเรือนกายนี้อีกครั้ง นิ้วมือไล้ไปตามริมฝีปากนุ่มนิ่มบังคับให้นางแลบลิ้นออกมา“แลบลิ้นออกมาสิ เลียนิ้วของข้า ข้าชอบลิ้นนุ่ม ๆ ของเจ้า”หยางอี้หงถูกเขาบีบแก้มจนจำเป็นต้องอ้าปาก และสุดท้ายต้องแลบลิ้นออกมาเลียนิ้วขาวราวหยกของจูชางหลางสัมผัสนุ่มเนียนในยามที่นางไล้เลียนิ้วของเ
หน้าที่ของหยางอี้หงในการเข้าวังถวายตัวในครานี้ก็คือการสังหารฮ่องเต้หลี่จินและนำตราลัญจกรออกจากที่ซ่อนใต้หมอนเพื่อปลอมราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทคนต่อไปที่ผ่านมาจะมีคนเคยพยายามมาแล้วทว่าล้วนถูกสังหารก่อนที่จะได้เหยียบเท้าเข้าไปในตำหนักด้วยซ้ำแม้ว่าฮ่องเต้หลี่จินจะเป็นบุรุษเจ้าสำราญหลงใหลในอิสตรี ทว่า
ฝ่าบาททรงพิโรธแล้ว น้ำเสียงนี้จึงเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก เสนาบดีฝ่ายขวารู้นิสัยของฝ่าบาทดียิ่ง ถึงจะทรงหลงใหลสตรีทว่าก็ไม่ยอมให้สตรีใดก้าวก่ายเรื่องราชการด้วยทรงคิดว่าสตรีเกิดมามีหน้าที่เดียวคือบำรุงบำเรอบุรุษเท่านั้นแต่สตรีนางนี้เป็นคนของจูอ๋องที่เป็นฝ่ายเสนาบดีฝ่ายซ้าย หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาเ
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ