ตอนที่ 52 ช่วงเวลางดงาม กลิ่นอายฤดูหนาวเริ่มมาเยือนอีกครั้ง ไม่เพียงแต่องุ่นของหวังชิงหว่านออกดอกออกผลเต็มสวน มันฝรั่งก็มีเรื่องราวให้ติดตาม ฮ่องเต้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้โถว หลังจากได้ทดลองปลูกจนมั่นใจแล้วก็นำไปให้เหล่าขุนนางได้ชื่นชมในท้องพระโรง ขันทีหันมันเผาเป็นชิ้นเล็ก ๆ
หลี่ซูอิน นางเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านสามัญทว่ากลับเป็นยอดสตรีที่ลือเลื่องทั้งด้านรูปโฉมและความสามารถช่วงชีวิตของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นทั้งมีวาสนาและไร้วาสนาสูงสุดต่ำสุดและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดก้าวกระโดดไปมาครั้งได้เกิดใหม่สิ่งที่ต้องหาใช่ลาภยศคือ ความเรียบง่าย สุขตามสถานะหลี่ซูอิน หญิงสาวสา
ขอบฟ้าเริ่มปรากฏแสงเรืองรอง แม่นางน้อยอายุเพียงสิบสี่สิบห้าผู้หนึ่งกำลังยืนเหม่อลอยริมแม่น้ำมองขอบฟ้าที่ยังไม่สว่างเต็มที่นางก้มมองส่องดูตนเองในแม่น้ำ เห็นเงาตนเองราง ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเรื่องราวคล้ายเป็นดั่งความฝัน ความรักสุขสมหวังในชาติที่แล้วล้วนไม่มีประโยชน์ใด ๆหลังจากการตกน้ำคาดว่าจางซูอินจะก
เฉิงอ๋องอี้หยาง ตั้งใจจะอ้อยอิ่งนั่งประทับอยู่หอซูซู สักระยะ หากไม่ใช่เพราะรถม้าที่กำลังแล่นมาตรงมาที่นี่ ทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นสะบัดชายเสื้อกำลังจะเร้นกายออกไป ทว่าสายตาพลันสะดุ้งหยุดที่หญิงสาวชาวบ้านผู้หนึ่ง ที่กำลังยืนจ้องมองรถม้าคันนั้นอยู่ มือที่ประคบกุมกันอยู่เช่นนั้นสีหน้าท่าทางกั
วัดเสาหลางตั้งสง่าอยู่ยอดเขาภูเขาคุนหลุน เป็นวัดที่ชาวต้าเว่ยให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก ในยามที่ก้อนเมฆล่องลอยผ่านต่ำทำให้คล้ายอยู่บนสรวงสวรรค์ทำให้จิตใจสงบเหมือนได้เร้นกายออกจากความวุ่นวายในศาลาเขตหวงห้าม เฉิงอ๋องกำลังเผากระดาษเงินให้ดวงวิญญาณดวงหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเงียบเหง
ตอนที่ 5 มีเงินคือเรื่องดี องค์หญิงต้าเหยาพาซูอินมายัง หอซูซู ซูอินได้รับความตระหนกจากเฉิงอ๋องจิตใจสั่นไหว การมาที่หอซูซูทำให้นางจิตใจสงบขึ้นมาบ้าง เมื่อมาถึงนางจึงเหลือเพียงชำเลืองสอดส่องมองหาบิดามารดาเท่านั้น ภายในห้องรับรองมิดชิดห้องหนึ่ง น้ำชา ขนมอาหารว่างล้วนวางเรียงอย
ตอนที่ 6 ชีวิตที่วาดฝัน สตรีทั้งสองแม้จะพูดคุยกันเสียงแผ่วเบา ทว่าสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์เช่น เฉิงอ๋องย่อมได้ยินชัดทุกถ้อยคำแจ่มแจ้ง “ยืมเงินฮ่องเต้และแอบใช้ผลประโยชน์ความสามารถของพระสนม การออกมานอกจวนครั้งนี้ทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาเสียจริง”น้ำเสียงของเฉิงอ๋องมิใช่เชิงตำหนิ ทว่ากลับแฝงความเอ็นดูอย
“เช่นนี้ท่านแม่ ข้าจึงต้องมีเรื่องรบกวนท่าน” “เรื่องใด เจ้าพูดมาได้เลย” หากสามารถเอาใจบุตรที่กำลังจะสอบผ่านซิ่วไฉได้นางยินดีทำ ซูอินยิ้มพลางยกมือชี้นิ้วออกไป “ตรงลานที่ว่างตรงนั้น ข้าอยากจะสร้างห้องส่วนตัว” เดิมซูอินพักรวมห้องกับจางเจิน แม้จะไม่ลำบากทว่ามีหลายอย่า
ผลประกาศทำให้ เด็กสาวตาแดงกร่ำด้วยความดีใจ ครอบครัวก็กล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า สักพักก็มีเจ้าหน้าเชิญไปยืนหลักฐานที่โต๊ะข้าง ๆ ให้กรอกข้อมูลเป็นบัณฑิตน้อยของสำนักศึกษาต่อไป เมื่อมีคนสมหวังก็ต้องมีคนไม่สมหวัง เสียงยินดีผิดหวังคละปนกันไป กว่าจะครบตามจำนวนก็ทำให้เจ้าหน้าของสำน
ฮองเฮาทราบเรื่องที่องค์หญิงใหญ่จัดงานชมบุปผาขึ้น แม้จะทรงทราบว่าหญิงสาวมีแผนการบางอย่างแต่ก็ไม่ทรงห้ามปราม เพียงแค่ตรัสเตือนเล็กน้อย “องค์หญิงใหญ่ อย่าทรงทำสิ่งใดร้ายแรงเกินไปได้หรือไม่” “ตอนนี้เสด็จพ่อไม่โปรดลูก แต่ก็ไม่ทรงห้ามให้ลูกจัดงานเลี้ยงกระมัง” ฮองเฮาวางจอกชา
จงถังแทบอยากจะเอามือปิดหน้าร้องไห้ ท่านอ๋องท่านจะเก็บอาการบ้างได้หรือไม่ ไม่ว่าผู้ใดได้เห็นรอยยิ้มนี้ย่อมราวถูกมนต์สะกด ซูอินเองก็ไม่หลุดพ้นในการถูกล่อลวงครั้งนี้ นางไม่อาจจะเฉไฉได้อีกว่ารอยยิ้มนั้นยิ้มให้นาง เฉิงอ๋องรู้สึกว่าตนเองออกอาการมากเกินไป จึงรีบตวัดชายเส
แสงยามอรุณฉายส่องเข้ามาบริเวณบ้าน เป็นยามปกติที่ครอบครัวจะร่วมทานข้าวเช้าด้วยกัน สวีซื่อมองบุตรสาวคนเล็กด้วยสายตาปลื้มปริม ทว่ายังแฝงความกังวลใจ “ซูเอ๋อร์ เจ้าต้องไปงานเลี้ยงในวัง เงินขายภาพวาดที่ขายได้ครั้งที่แล้วยังมีเหลือ เจ้าเอาไปซื้ออาภรณ์เครื่องประดับ ถึงไม่อาจสู้เหล่าคุณหนูสูงศั
หลายวันที่ผ่านมา เสิ่นอินได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นคนผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งบิดานางเสนาบดีเสิ่นผู้ยิ่งใหญ่ยังผูกไมตรีองค์รัชทายาท นางเองก็ย่อมมีหนทางของตนเองเช่นเดียวกัน “ดี...หลังจากวันนี้เจ้าจงมาฝึก 4 จรรยาต้องไม่บกพร่อง” ภายในใจเสิ่นอินกำลังเคร่งเครียด พอได้ยินเช่นนี้ก็ผ
ชีวิตที่เรียบง่ายหาใช่หาได้ง่าย แม้ในภายในใจผู้คนล้วนหาใช่สงบดั่งสายลมใบไม้ผลิ ตำหนักฮองเฮา กัวฮองเฮาหลุบตาเล็กน้อยก่อนจะตรัสเตือนบุตรชาย “องค์รัชทายาท ช่วงนี้ได้กระทำสิ่งใดที่ไม่ได้บอกกล่าวแม่หรือไม่” จอกชาในมือรัชทายาทหยุดชะงักเล็กน้อย พระองค์ยิ้มละมุมพร้อมตรัสเสียงอ
เมื่อทุกคนลงจากรถม้ากำลังจะเตรียมเดินขึ้น วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จึงมีบรรดาคุณหนูฮูหยินและชาวบ้านมากหน้าหลายตาพากันมากราบไหว้ขอพร จางซูอินมองเห็นกู้ฟางเสียนยืนปะปนอยู่กับชาวบ้านที่ถอยห่างรอให้พวกนางเดินขึ้นไปก่อน ชายหนุ่มประครองสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งอยู่ หญิงสาวคาดว่าจะเป็นมารดา
เสิ่นอินมองออกไปเห็นเพียงแผ่นหลังของชายหนุ่ม นางพยักหน้าเห็นด้วยกับเสิ่นอิน อย่างไรก็ควรต้องลงไปคารวะ สวีซื่อมองดูเฉิงอ๋องอย่างตกตะลึง นางจำได้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นแม่ทัพที่นำทัพกลับเมืองหลวงหลังชนะศึก แม้จะมองเห็นไกล ๆ นางก็จำได้ไม่ลืม แม่ทัพปีศาจ เทพสงคราม บุรุษที่ใบหน้าดุจกับเทพบุตรทว
ครอบครัวสกุลจางตื่นตั้งแต่เช้า วันนี้เหล่าสตรีตั้งใจจะไปไหว้พระขอพรที่วัดเส้าหลาง “ซูเอ๋อร์ เจ้าบอกแม่ว่าคุณหนูเสิ่นจะไปไหว้พระด้วยใช่หรือไม่” “ท่านแม่ ไม่เพียงคุณหนูเสิ่น องค์หญิงก็จะเสด็จด้วยเจ้าค่ะ” สวีซื่อเอามือทาบอกเล็กน้อย แม้กระทั่งตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถทำตั