ตอนที่ 29 จัดการเอง หวังชิงหว่านลืมตาขึ้นมาก็เป็นเวลาสายมากแล้ว นางบิดกายขจัดความเมื่อยล้าเล็กน้อยก่อนจะลุกออกมานอกเรือนเจอกับอิงฮว่าที่กำลังเก็บเสื้อผ้าออกไปซัก “ฮูหยินน้อยตื่นแล้วหรือเจ้าคะ....” หวังชิงหว่านพยักหน้ากล่าว “คนอื่น ๆ ไปไหนกันหมดแล้ว” “คุณชาย
ตอนที่ 30 ไก่อารมณ์ดีเมืองชีโจว “ซูหมิง ซูหมิง” ซูหมิงที่กำลังซักผ้าอยู่เงยหน้าขึ้นมาเห็น ป้าหลิงข้างบ้านจึงยิ้มให้ เอ่ย “ท่านป้ามีสิ่งใดหรือ”“ลูกชายข้าที่ทำงานอยู่ร้านเครื่องกระเบื้องเผากลับมาจากเมืองหลวงแล้ว...”ซูหมิงยิ้มอย่างอิจโรยตอบ “ยินดีกับป้าด้วย”“ไม่ใช่แค่นั้น นี่!! ลูกช
ตอนที่ 31 มีผลประโยชน์ก็เปลี่ยนแปลงได้ สองพี่น้องย่อมไม่หวั่นเกรงหากมารดาจะเก็บไข่เอง พวกเขาเดินเข้ามาในเรือนอย่างเบิกบาน ลี่อินหยิบหีบเงินในลิ้นชักออกมาแล้วพูดขึ้น “เจ้าดูสิ ข้ามีเงินหนึ่งตำลึงสามร้อยอีแปะแล้ว” ลู่อันไม่ได้ฟังที่ลี่อินพูดเขากำลังคิดถึงวาจาของพี่สะใภ
ตอนที่ 32 ช่วยส่งเสริมสกุลเซียว ลุงใหญ่มองฮูหยินผู้เฒ่าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงขอร้อง “ท่านแม่พวกเราอย่างไรก็เป็นคนสกุลเซียวเหมือนกัน เหตุใดจึงจะบอกกล่าวสูตรลับไม่ได้ขอรับ” เซียวเฉิงเอ่ยตัดขึ้น “พี่ใหญ่ข้าได้บอกท่านไปแล้ว นี่หาใช่สูตรลับของตระกูลเซียว...มันเป็นของสะใภ้ใหญ่”
ตอนที่ 33 ชิงเนียง หวังชิงหว่านปรายตามองเทียบเชิญในมือแล้วหรี่ตามองบ่าวที่อยู่ตรงหน้ากล่าว “งานเลี้ยงชมบุปผา?” “เจ้าค่ะ...หวังฮูหยินคิดถึงคุณหนูอยากให้ท่านไปร่วมงามด้วยจึงให้บ่าวนำเทียบเชิญมาให้” หวังชิงหว่านลอบถอนหายใจในใจกล่าว “ข้ารู้แล้ว...ฝากขอบคุณท่านแม่ด้วย..
ลู่อันเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ต้องการสักกี่ถังขอรับ” หวังชิงหว่านครุ่นคิด “สัก 20 ถังพวกเจ้าซื้อเสร็จก็ให้ทางร้านนำมาส่ง...เงินที่เหลือก็ซื้อขนมของหวานทาน ซื้อมาฝากข้าด้วย เอาล่ะรีบไปรีบกลับ จะมืดค่ำเสียก่อน” เด็กทั้งสองยิ้มแก้มปริแล้วก็พากันวิ่งออกไปเซียวอี้หยางมองตามหลัง เด็กทั้
ตอนที่ 34 อยากเล่าเรียนซูหมิงมองกับข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ สีหน้านางระบายความไม่สบายใจออกมากล่าว“ว่านเอ๋อร์...เหตุใดถึงได้นำกับข้าวเช่นนี้มา...นำกลับไปเถอะ ก่อนที่ผู้อื่นจะมาเห็น”อิงเหินมองดูไข่ฟองขาวที่วางอยู่ในจาน เขากำลังจะตักมันมาใส่ถ้วยได้ยินมารดากล่าวก็เงยหน้าขึ้นมองพี่สาวด้วยสายตาคาดหวัง
ตอนที่ 35 งานเลี้ยงชมบุปผา มื้อเย็นสกุลเซียวทานอาหารพร้อมครอบครัว ลี่อินก็เอ่ยเรื่องเรียนหนังสือขึ้นมา นางยังบอกต่อว่าพี่สะใภ้จะเป็นคนออกเงินค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าจ้างอาจารย์ให้มาสอนที่นี่ อีกทั้งยังขออนุญาตให้คนในตระกูลมาร่วมเรียนด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเข้ม “เรื่อ
ผลประกาศทำให้ เด็กสาวตาแดงกร่ำด้วยความดีใจ ครอบครัวก็กล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า สักพักก็มีเจ้าหน้าเชิญไปยืนหลักฐานที่โต๊ะข้าง ๆ ให้กรอกข้อมูลเป็นบัณฑิตน้อยของสำนักศึกษาต่อไป เมื่อมีคนสมหวังก็ต้องมีคนไม่สมหวัง เสียงยินดีผิดหวังคละปนกันไป กว่าจะครบตามจำนวนก็ทำให้เจ้าหน้าของสำน
ฮองเฮาทราบเรื่องที่องค์หญิงใหญ่จัดงานชมบุปผาขึ้น แม้จะทรงทราบว่าหญิงสาวมีแผนการบางอย่างแต่ก็ไม่ทรงห้ามปราม เพียงแค่ตรัสเตือนเล็กน้อย “องค์หญิงใหญ่ อย่าทรงทำสิ่งใดร้ายแรงเกินไปได้หรือไม่” “ตอนนี้เสด็จพ่อไม่โปรดลูก แต่ก็ไม่ทรงห้ามให้ลูกจัดงานเลี้ยงกระมัง” ฮองเฮาวางจอกชา
จงถังแทบอยากจะเอามือปิดหน้าร้องไห้ ท่านอ๋องท่านจะเก็บอาการบ้างได้หรือไม่ ไม่ว่าผู้ใดได้เห็นรอยยิ้มนี้ย่อมราวถูกมนต์สะกด ซูอินเองก็ไม่หลุดพ้นในการถูกล่อลวงครั้งนี้ นางไม่อาจจะเฉไฉได้อีกว่ารอยยิ้มนั้นยิ้มให้นาง เฉิงอ๋องรู้สึกว่าตนเองออกอาการมากเกินไป จึงรีบตวัดชายเส
แสงยามอรุณฉายส่องเข้ามาบริเวณบ้าน เป็นยามปกติที่ครอบครัวจะร่วมทานข้าวเช้าด้วยกัน สวีซื่อมองบุตรสาวคนเล็กด้วยสายตาปลื้มปริม ทว่ายังแฝงความกังวลใจ “ซูเอ๋อร์ เจ้าต้องไปงานเลี้ยงในวัง เงินขายภาพวาดที่ขายได้ครั้งที่แล้วยังมีเหลือ เจ้าเอาไปซื้ออาภรณ์เครื่องประดับ ถึงไม่อาจสู้เหล่าคุณหนูสูงศั
หลายวันที่ผ่านมา เสิ่นอินได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นคนผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งบิดานางเสนาบดีเสิ่นผู้ยิ่งใหญ่ยังผูกไมตรีองค์รัชทายาท นางเองก็ย่อมมีหนทางของตนเองเช่นเดียวกัน “ดี...หลังจากวันนี้เจ้าจงมาฝึก 4 จรรยาต้องไม่บกพร่อง” ภายในใจเสิ่นอินกำลังเคร่งเครียด พอได้ยินเช่นนี้ก็ผ
ชีวิตที่เรียบง่ายหาใช่หาได้ง่าย แม้ในภายในใจผู้คนล้วนหาใช่สงบดั่งสายลมใบไม้ผลิ ตำหนักฮองเฮา กัวฮองเฮาหลุบตาเล็กน้อยก่อนจะตรัสเตือนบุตรชาย “องค์รัชทายาท ช่วงนี้ได้กระทำสิ่งใดที่ไม่ได้บอกกล่าวแม่หรือไม่” จอกชาในมือรัชทายาทหยุดชะงักเล็กน้อย พระองค์ยิ้มละมุมพร้อมตรัสเสียงอ
เมื่อทุกคนลงจากรถม้ากำลังจะเตรียมเดินขึ้น วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จึงมีบรรดาคุณหนูฮูหยินและชาวบ้านมากหน้าหลายตาพากันมากราบไหว้ขอพร จางซูอินมองเห็นกู้ฟางเสียนยืนปะปนอยู่กับชาวบ้านที่ถอยห่างรอให้พวกนางเดินขึ้นไปก่อน ชายหนุ่มประครองสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งอยู่ หญิงสาวคาดว่าจะเป็นมารดา
เสิ่นอินมองออกไปเห็นเพียงแผ่นหลังของชายหนุ่ม นางพยักหน้าเห็นด้วยกับเสิ่นอิน อย่างไรก็ควรต้องลงไปคารวะ สวีซื่อมองดูเฉิงอ๋องอย่างตกตะลึง นางจำได้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นแม่ทัพที่นำทัพกลับเมืองหลวงหลังชนะศึก แม้จะมองเห็นไกล ๆ นางก็จำได้ไม่ลืม แม่ทัพปีศาจ เทพสงคราม บุรุษที่ใบหน้าดุจกับเทพบุตรทว
ครอบครัวสกุลจางตื่นตั้งแต่เช้า วันนี้เหล่าสตรีตั้งใจจะไปไหว้พระขอพรที่วัดเส้าหลาง “ซูเอ๋อร์ เจ้าบอกแม่ว่าคุณหนูเสิ่นจะไปไหว้พระด้วยใช่หรือไม่” “ท่านแม่ ไม่เพียงคุณหนูเสิ่น องค์หญิงก็จะเสด็จด้วยเจ้าค่ะ” สวีซื่อเอามือทาบอกเล็กน้อย แม้กระทั่งตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถทำตั