ตอนที่ 23 เป็นของแทนใจอี้เฟยหลิงหันไปเห็นซ่งจวินเธอจึงโค้งศรีษะทักทาย ไป๋หรงได้สติยิ้มทักทายตอบ อี้เฟยหยางรอยิ้มทักทายหญิงสาว แต่ไม่มีจังหวะไหนเลยที่หญิงสาวทั้งสองจะหันมา ความรู้สึกโดนทอดทิ้งอี้เฟยหยางพึงเคยลิ้มลองเป็นครั้งแรก เขารู้สึกเศร้าใจเหลือเกินมันอดทนเกินใจจะทน เขาจึงหยิบมือถือทักไลน์ไปหาน้องสาวติ้ง!! “หลิง หลิง!!!!” หลังอ่านข้อความอี้เฟยหลิงอมยิ้มเย้ยหยันแฝงอ่อนใจ สาแก่ใจเธอนักใครบอกให้ใช้ความปลอดภัยของผู้หญิงสร้างผลงาน เรื่องมันถึงได้วุ่นวายแบบนี้ ทำง่ายๆ แค่เข้าไปบอกผู้หญิงและอาสาเป็นคนคุ้มครองก็เรียบร้อย เพราะเป็นพี่ชายหรอกนะเธอถึงยังไม่จัดการต่อว่า จะว่าไปก็สงสารพี่ชายผู้นี้ ผู้ที่ไม่เคยจีบผู้หญิงไม่รู้งานนี้จะรอดหรือจะร่วง “พี่ไป๋หรงคะ” เสียงอี้เฟยหลิงเอ่ยชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ทำให้ไป๋หรงตั้งใจฟังเพื่อนสาวต่างวัยมากขึ้น“พี่อี้เฟยหยาง” เธอหันหน้าเพื่อให้ไป๋หรงมองตาม ไป๋หรงจึงได้สบตากับอี้เฟยหยางที่รอส่งยิ้มหวานฉ่ำมาให้ เธอยิ้มน้อยๆ ละมุมละไมตามมารยาทเช่นเดิม “เราไม่ใช่แฟนกันหรอกค่ะ เป็นเพียงข่าวลือ” หลิงหลิงคงอยากให้เจอคนรักในข่าวของเธอ
ตอนที่ 24 พี่ชายที่แสนโง่งมของน้องไม่มีใครกล้าคิดกล้าเชื่อมโยงเจ้าของภาพวาดไป๋หรงกับนางร้าย ไป๋หรงคนนี้ แม้กระทั่งเห็นไป๋หรงโค้งศรีษะคำนับแสดงตนเองว่าเป็นเจ้าของภาพพวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของหญิงสาวระบายด้วยรอยยิ้มกล่าวขอบคุณให้เจ้าสัวตระกูลตงด้วยน้ำเสียงสดใส ผู้คนในห้องต่างตะลึง เสียงกระซิบดังแผ่วเบา“ไม่ใช่การแอบอ้างแน่นะคุณ” “เธอมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ย่อมต้องมีการรับรอง”“เพียงแค่อายุก็เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“สาวสวยมากความสามารถ เพชรเม็ดงามยิ่ง”แม้ในใจหลายคนจะมีข้อกังขาเรื่องอายุและฝีมือของหญิงสาว แต่ผู้มีเติบโตในแวดวงธุรกิจ การเมืองและอำนาจย่อมเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ การวาดภาพถือว่าเป็นงานศิลปะพรสวรรค์ล้วนเป็นสิ่งที่สวรรค์มอบมาให้ และเพชรแท้มักจะอยู่ในรูปแบบที่เหลือเชื่ออยู่เสมอ การประมูลยังคงดำเนินต่อไปสินค้าสลับปรับเปลี่ยนไปมีนาฬิกา แจกัน และภาพวาดของศิลปินท่านอื่น ซึ่งราคาประมูลสูงกว่า 100 ล้านหยวนทั้งนั้น ไป๋หรงเริ่มใจชื้นวันนี้เธอมาเปิดหูเปิดตาโดยแท้ พอมีเงินก็ทำให้ใจปล่อยวางสบายใจขึ้นเริ่มมองหาของที่ตัวเองชอบและแล้วก็ถึงคิวของภาพวาดที่
ตอนที่ 24 เลขศูนย์มันเยอะกว่าเดิมนะงานประมูลเสร็จไป๋หรงก็เดินออกมาพร้อมกับอี้เฟยหลิง อี้เฟยหยางรีบเดินตามมาประกบ ไม่ทันได้เอ่ยทักทาย ก็ได้ยินเสียงทักของฉีป๋านเฉินก่อน“ดีใจจังเลยค่ะ ได้เจอคุณน้องหลิงหลิงที่นี่” ฉีป๋ายเฉินเอ่ยทักอี้เฟยหลิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มองผ่านไป๋หรงแบบไม่ได้ให้ความสำคัญ “ค่ะ” อี้เฟยหลิงก็ตอบผ่านไป ในเมื่อไม่มีมารยาทกับคนของเธอต่อหน้าเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทเช่นกัน เธอไม่ได้หยุดฝีเท้าจูงมือไป๋หรง เร่งฝีเท้ารีบเดินออกจากตรงนั้น สำหรับอี้เฟยหลิงสามารถให้เหตุผลการไร้มารยาทว่าเป็นเพียงเด็กได้ แต่อี้เฟยหยางเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งจังหวะนี้อย่างไรก็ต้องทักทาย“สวัสดีครับ ผมขอตัวก่อนมีธุระด่วน” ไม่ทันจะเอ่ยรั้งชายหนุ่มก็เร่งฝีเท้าหายไปเช่นกันฉีป๋ายเฉินยืนหน้านิ่งเล็กน้อย ไม่ได้มีท่าทีเกรี้ยวกราดไม่พอใจแต่อย่างไรเมื่อเดินออกมาถึงบริเวณหน้าโรงแรม 2 สาวก็เจอซ่งจวินยืนคุยอยู่กับคนกลุ่มหนึ่งที่พึงออกมาจากงานเช่นกัน ชายหนุ่มสังเกตเห็นไป๋หรงก็ขอตัวเดินออกมาทักทายหญิงสาวทันที“ยินดีกับความสำเร็จในผลงานครับคุณไป๋หรง ภาพวาดของคุณทรงคุณค่าและล้ำค่ามากครับ”
ตอนที่ 25 น้ำตาเทียมแม้จะมีถ่ายละครตอน 10.00 น. ไป๋หรงก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ บรรยากาศที่นี้สดชื่นและร่มรื่น สงบ เธอออกไปนั่งจิมชาที่ห้องระเบียง มุมนี้เป็นมุนจิบน้ำชาและวาดภาพของเธอ หากมีพิณสักตัวบรรเลงด้วยยิ่งจะทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มยิ่งกว่าเดิม เมื่อนึกพิณตัวนั้นเธอก็รู้สึกเสียดายหากรู้ว่าจะขายภาพได้ราคาขนาดนี้เธอประมูลมันไปแล้ว ติ้งต่อง ติ้งต่อง!! คนที่เธอนัดบริษัทรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน มาตรงตามเวลา 09.00 น. ตามที่นัดหมายเธอใคร่คิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจว่าจ้างบอดี้การ์ดดีหรือไม่ นึกถึงคำที่อี้เฟยหลิงให้เหตุผลไป๋หรงก็ขำยิ้มมุมปาก“พี่มีเงินในบัญชีพันกว่าล้านหยวนแล้ว ให้พี่ไตร่ตรองดูความปลอดภัยของพี่ หมายถึงความปลอดภัยของเงินในบัญชี”เมื่อได้ฟังคำนั้น ไป๋หรงจึงตัดสินใจทันที เงินพันกว่าล้านก็มีค่ามากต้องรักษาให้ดีเมื่อเปิดประตูบ้านก็พบกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านคนเดิมพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างทะมัดทะแมง 3 คน “สวัสดีครับคุณท่าน ผมพาพนักงานรักษาความปลอดภัย ซีซาน ซิงอี เจียอี มาแนะนำให้รู้จักท่านขอรับ”ไป๋หรงมองตามเพื่อจดจำหน้าตาและชื่อของแต่ละคน “ดิฉันย
ตอนที่ 26 แกคือตัวปลอมถ่ายละครวันนี้ไป๋หรงได้รับคำชมเช่นเคย ภาพเดิมไป๋หรงผู้ที่ไร้เสน่ห์ จำบทไม่ได้ สีหน้าเดียวตลอดฉาก ทั้งหมดโดนไป๋หรงคนใหม่ลบทิ้งจนหมดสิ้น หลังถ่ายทำเสร็จ เย็นนี้ไป๋หรงตั้งใจจะไปเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนหน้าอะไรล้วนไม่สะดวก วัยเรียนเธอเองยังต้องเรียน “สวัสดีค่ะ คุณไป๋หรง” พนักงานคนเดิมวันนี้เสียงทักทายสดใส“ตามคอร์สของคุณไป๋หรง เชิญที่คุยกับคุณครูผู้เชี่ยวชาญก่อนเลยค่ะ” พอมีเงินมีชื่อเสียงเราก็ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญทันที ไป๋หรงยิ้มน้อยๆ เธอเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ดีในยุคนี้ถือว่าดีกว่ายุคก่อนมากตอนที่สมัครเรียนแล้วลงคอร์สเรียนเดี่ยว จากความทรงจำตัวเองเรียนไม่ได้เรื่องมาตลอด เข้าใจว่าสมองอาจจะไม่ปราดเปรื่อง ทว่าดูแล้วน่าจะไม่ใช่แบบนั้น คงเป็นเพราะเมื่อก่อนขี้เกียจและไม่ใส่ใจต่างหาก“เรียบร้อยดีไหมคะ คุณไป๋หรง” เมื่อเดินออกมาก็เจอกับพี่พนักงานคนเดิมกับผู้หญิงวัยกลางคนน่าจะเป็นผู้จัดการที่นี้ทั้งสองเหมือนมารอเธอ “เรียบร้อยดีค่ะ คุณครูสอนดีมาก” ไป๋หรงพอใจกับการเรียนการสอนในวันนี้มาก คิดว่าอีกไม่นานเธอน่าจะพัฒนาตนเองได้ไกล คุณครูผู้สอนเหมาะสมกับคำว่าผู้เช
ตอนที่ 27 ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว“เรียบร้อยดีไหม” อี้เฟยหยางเอ่ยถามเลขา น้ำเสียงแฝงความหวัง“เรียบร้อยค่ะ เราทำตามที่ท่านสั่งคือส่งตัวอย่างสินค้าน้ำหอมที่เน้นกลิ่นธรรมชาติไปด้วย"“ฮืมม” แม้จะรับคำเสียงเบา ก็ไม่อาจจะปกปิดความตื่นเต้นในใจของอี้เฟยหยางไปได้ ในที่สุดเขาก็หาจุดเชื่อมโยงระหว่างเขากับไป๋หรงเพิ่มขึ้นกองถ่ายละคร จอมนางแห่งวังหลวง “น้องไป๋หรง เขาจัดงานเลี้ยงปิดกล้องกันวันนี้น้องจะเข้าร่วมไหมคะ”เฟยเฟย เดินนวยนาดเข้ามาพร้อมผู้ช่วยของเธอคนใหม่ จินเชียง ตั้งแต่เป็นผู้จัดการดาราชื่อดัง งานและบุคลิกของเธอก็เริ่มเปิดเผยยิ่งขึ้น“ไปค่ะพี่ ฉันขอตัวกลับบ้านไปพักสักหน่อย” ฉากวันนี้ทำให้หมดพลัง ทั้งร้องให้ ทั้งฟูมฟายเสียใจ บุรุษที่นางเคยฝากชีวิตและทุ่มเทจนเขาได้บังลังก์ไปครอง สิ่งที่นางได้รับตอบแทนกลับเป็นผ้าแพรสีขาวให้ปลิดชีพตัวเอง “ค่ะ วางใจได้ทุกอย่างจะจัดการเรียบร้อย” เฟยเฟยยิ้มหวานถึงดวงตา สำหรับไป๋หรงเป็นดั่งฮองเฮาของเธอทุกอย่างที่เธอบอกล้วนถูกต้องเหมาะสมไป๋หรงลุกขึ้นและเดินไปยังรถทันที มีจินเชียงและซีซานยืนประกบ คนหนึ่งคอยเทคแคร์ดูแลอีกคนคอยดูแลความปลอดภัย
ตอนที่ 28 ทุกอย่างล้วนไม่อยู่ในแผน อี้เฟยหยางนั่งไล่ดูคอมเมนต์และโพสที่อวยพรและสนับสนุนตัวเองกับไป๋หรง แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นตนเองจัดหามา แต่รอยยิ้มมีความสุขก็ยังเอ่อล้นเต็มใบหน้าเลขาและเหล่าบอดี้การ์ดต่างก้มหน้าไม่อาจมองภาพนี้ของเจ้านายตนเองได้หนึ่งในบอดี้การ์ดใจกล้าเพราะจำเป็นที่เขาต้องเอ่ยเตือน“ท่านครับไม่ทราบว่าภาพวาดนี้จะให้กระผมนำไปเก็บไว้ที่ไหน” พอเอ่ยถึงภาพวาดอี้เฟยหยางก็เปลี่ยนสี ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยตอบเสียงเจื้อยแจ้วของอี้เฟยหลิงก็ดังขึ้น“พี่ชาย..ทำไมวันนี้ได้กลับมานอนที่บ้านได้..เอ้ะ!! นั่นภาพอะไร” หน้าของอี้เฟยหยางเลิ่กลั่กกำลังจะหันไปสั่งลูกน้อยแต่ไม่ทันเสียแล้ว อี้เฟยหลิงวิ่งไปยืนอยู่ตรงหน้าภาพวาดนัั้นเรียบร้อย“โอ้โหภาพพี่ชาย..พี่ไป๋หรงช่างถ่ายทอดได้ดียิ่งนักทั้งหล่อกะล่อน ดูแววตาเจ้าเล่ห์นี่สิช่างชั่วร้ายเหลือเกิน” คำพูดอี้เฟยหลิงล้วนต้องการทำร้ายพี่ชายให้เจ็บซ้ำใจ ฮ่า ฮ่า “ไม่ต้องมายุ่งเลย นำภาพไปเก็บในห้องนอน” อี้เฟยหยางเอ่ยเสียงเข้มข่มความอาย “ก็ได้ฉันไม่ยุ่งก็ได้” อี้เฟยหลิงเอ่ยเสียงงอนสะบัดตัวเดินออกไป อี้เฟ
ตอนที่ 29 คนไม่ใช่ทำอะไรก็ไม่ใช่หลังไป๋หรงทำความเคารพผู้อาวุโสในห้องเรียบร้อย แม้กระทั่งเสียงพิณฉีป๋ายฉินก็หยุดบรรเลง ทุกอย่างอยู่ในความเงียบงัน“อาจารย์ไป๋หรง ได้ยินที่หลิงหลิงบอกกล่าวว่าท่านยังอ่อนเยาว์ ข้าเองก็ไม่นึกว่าจะอ่อนเยาว์และงดงามเพียงนี้” เป็นคุณย่าอี้ที่เอ่ยขึ้นเรียกสติทุกคน“นั่นสิ ท่านย่าความสวยของอาจารย์ไป๋หรงชวนให้ตกตะลึงไม่น้อย” “ยิ่งท่านย่าได้เห็นฝีมือการวาดภาพของพี่ไป๋หรง ยิ่งตกตะลึงกว่านี้อีกค่ะ" อี้เฟยหลิงไม่ได้เอ่ยถ่อมตนให้ไป๋หรง“หลิงหลิง ผู้มีฝีมือควรเอ่ยเรียกอย่างยกย่อง” ท่านย่าเอ่ยปรามคำเรียกขานของอี้เฟยหลิง“ขอบพระคุณท่านย่าอี้ที่ให้เกียรติ สำหรับข้าน้อยเรียกเอ่ยเช่นใดก็ล้วนปลาบปลื้มใจ” สำนวนอ่อนโยน ถ่อมตน วาจาเหมาะสม ท่านย่าอี้ชมหญิงสาวไว้ในใจ“เชิญท่านอาจารย์จิบน้ำชาเสียก่อน” ไป๋หรงจึงเดินตามท่านย่าอี้เข้าไปนั่งพูดคุยกันเสียก่อน “นั้นคือมุมที่น้องหลิงหลิงจัดไว้หรือ” เมื่อหันไปตรงกลางห้องจะเห็นจุดวาดภาพ สีแสง ตำแหน่งล้วนเหมาะสม อี้เฟยหลิงทำการบ้านมาดี“ท่านอาจารย์ข้าเองก็อายุมากแล้ว อาจจะนั่งนานให้ท่านวาดแบบต่อเนื่องไม่ได้ จะต้องร
ตอนที่ 63 ความคิดที่เรียบง่ายซ่งจวินไปถึงต่างประเทศไม่ได้ไปหา ซ่งเฟยซูโดยทันที“อันปิน”“ขอรับคุณชาย” ซ่งจวินเรียกลูกน้องคนสนิท ผู้ที่อยู่ข้างกายเขามานานหลายปี มีความสามารถหลากหลายสุขุมรอบคอบ แน่นอนว่าเป็นคนของคุณอาเจิ้นที่จัดหามาให้เขา“เรารู้จักกันมากี่ปีแล้วนะ”“15 ปี ขอรับ”อันปินโค้งต่ำบอกซ่งจวิน เขารับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่ปกติ“เราจะถามคำเดียว ต่อจากนี้คุณจะเป็นคนของเราหรือจะเป็นของคุณอา”หลังจากนี้ ซ่งจวินจะเริ่มเปลี่ยนคนข้างกาย แต่อันปินถือว่าพี่ชายคนหนึ่ง“กระผมยินดีรับใช้ ท่านขอรับ”แม้จะตื่นตระหนก อันปินก็เข้าใจทุกอย่าง ใครบ้างอยากอยู่ใต้อำนาจคนอื่นตลอดเวลา“ดี ไปได้”ซ่งจวินอยู่ต่างประเทศ 2-3 วัน จึงติดต่อหาทั้งซ่งเฟยซูและจ้าวอี้ถัง“ตายจริง หลานมาต่างประเทศทำไมถึงเพิ่งติดต่ออามา….เย็นนี้ได้สิ…อี้ถังก็อยากเจอพี่จวินเหมือนกัน…จ้ะ..แล้วเจอกัน”การนัดทานข้าวครั้งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา เฉกการทานข้าวของเครือญาติทั่วไปบนโต๊ะอาหาร จ้าวอี้ถังพูดคุยกับซ่งจวินอย่างตื่นเต้น เขาเองก็ฝันอยากเติบโตและมากความสามารถอย่างลูกพี่ลูกน้องคนนี้“ถ้าเราสนใจ ช่วงนี้ก็มาเราลองดู
ตอนที่ 62 สวยและเก่งเหมือนกันอี้หลิงซือตามติดชีวิตไป๋หรงยิ่งกว่าแฟนคลับตัวจริง“ฮืม แต่ก่อนก็คงเป็นเด็กอ่ะเนอะ พอเริ่มคิดได้ก็ดูเปลี่ยนไป”จากนั้นก็หยิบภาพโปสเตอร์ที่ไป๋หรงเป็นพรีเซนเตอร์ขึ้นมา“พอมีเงินก็ยังตั้งใจเรียนอยู่”พอเริ่มอ่านอะไรมากขึ้นความคิดที่บอกว่าหญิงสาวไม่เหมาะสมกับลูกชายตัวเองก็ลดลง“ถังรั่ว เธอว่าไป๋หรงเป็นอย่างไรบ้าง” พอตัดสินใจไม่ได้อี้หลิงซือก็หันมาถามความคิดเห็นกับคนของตัวเอง เหมือนหาแนวร่วมกลบความเขินอาย“เหมาะสมกับคุณชายอี้มากค่ะ”ตั้งแต่วันที่ไปบ้านของหญิงสาวและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาให้ ถังรั่วอยากจะบอกกับคุณนายว่า [ไป๋หรงอาจจะดีเกินไปสำหรับคุณชายค่ะ]พอเริ่มรู้สึกชอบ อี้หลิงซือก็เริ่มเข้าข้าง “ฮืม ถึงแม้จะเกิดจากตระกูล..ที่..ไม่เท่าไร ฮืม..ไปหน่อย แต่อย่างไรหลานๆ ของฉันก็ใช้แซ่อี้ ก็ไม่เป็นไร”อี้หลิงซือหยุดคำว่า ตระกูลชั้นต่ำ เธอเลือกใช้คำอื่นแทน“ท่านค่ะ เหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มไม่ดีแล้ว”ปกติเรื่องของเจ้านายไม่ใช่สิ่งที่ลูกน้องจะพูดถึง แต่เรื่องของลูกๆ อี้หลิงซือจะพูดถึงและพูดคุยกับคนสนิทตลอด ความรักความเอ็นดูของถังรั่วที่มีต
ตอนที่ 61 ฉันอยู่ตรงนี้ก็ดีอยู่แล้วความลำบากนี้ใจนี้ไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของคุณลุง“พวกท่านตัดสินใจอย่างไร”“เราไม่คิดอะไรแล้ว ในเมื่อหนูเป็นลูกเป็นทายาทของไป๋หรง ปู่กับย่าก็ให้หนูตัดสินใจ เรื่องต่อจากนี้พวกเราไม่เกี่ยวข้องแล้ว”ให้มันได้อย่างนี้ ไป๋หรงรู้สึกเบื่อหน่าย เธอไม่เข้าใจเลยความจริงแล้วเธอไปเกี่ยวอะไรด้วย“ในเมื่อตอนนี้คุณซ่งเฟยซูไม่อยู่ เรื่องนี้ก็พักเก็บไว้ก่อน ฉันคิดว่าให้ทุกคนได้ไตร่ตรองกันให้รอบคอบ”อย่างไรก็ต้องนึกถึงเด็ก ๆ ทั้ง 3 คน“แล้วหลานจะไม่กลับเข้าตระกูลหรือ”ทั้งสองผู้อาวุโสจากตระกูลจ้าวรับรู้ได้ถึงความเย็นชาของไป๋หรง ถึงได้เอ่ยคำถามนี้“ฉันอยู่ตรงนี้ มีความสุขดีอยู่แล้ว”เธอจะทำตัวเองให้สูงส่งด้วยตัวของเธอเอง เธออยากจะพิสูจน์ความสามารถของตนเอง ชาติที่แล้วเธอโดนปรามาสว่าเป็นเพราะมีตระกูลหนุนหลังเธอถึงได้เป็นฮองเฮา ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเธอทำอะไรไม่ได้ต่างหาก ชาตินี้เธอก็อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่โดยที่ไม่มีต้องมีตระกูลหรือคนในตระกูลมาวุ่นวาย จะดีจะร้ายก็ให้มันเป็นไปอย่างนั้น“ได้ แต่หลานอย่าลืมตระกูลจ้าวพร้อมรับหลานกลับเข้าตระกูล ไม่ว่าจะเกิดอะไ
ตอนที่ 60 ขอโทษที่รบกวนใจคุณซ่งจวินฟื้นขึ้นมาได้หลายชั่วโมงแล้ว สิ่งที่เขารับรู้ได้ตอนนี้เขาถูกควบคุมตัว“คุณอา ผมขอโทรศัพท์”เขาอยากรู้เรื่องราวสถานการณ์ตอนนี้“ไว้เราหายดีแล้วอาจะให้เราจัดการเองตอนนี้อาขอให้พักก่อนได้ไหม”ซ่งเจิ้นให้เหตุผลที่เหมาะสมที่สุดแล้ว“เมื่อไร”“ตามที่หมอบอก 2-3 วัน ไม่ต้องเป็นห่วงทุกอย่างเรียบร้อยมีแค่หลานของอาที่บาดเจ็บ”พอเอ่ยเสร็จซ่งเจิ้นก็พยักหน้าให้หมอฉีดยานอนหลับ รออีก 2-3 วัน หลังจากน้องสาวเขาเดินทางไปต่างประเทศทุกอย่างจะเรียบร้อยซ่งจวินออกจากโรงพยาบาลหลักฐานอะไรก็ไม่มีเหลือแล้วไป๋หรงไม่ได้ติดต่อ จ้าวไป๋ตงเธอรู้ว่าอีกสักหน่อยคุณลุงคนนี้ต้องติดต่อมา โชคดีที่เธอพึ่งถ่ายละครเสร็จทีมตัดต่อยังไม่เรียบร้อยทำให้ยังไม่ถึงช่วงที่ต้องโปรโมทละครและไม่ได้รับงานอย่างอื่น ยังพอมีเวลาได้หายใจ แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ออกไปไหนเลย“ลูกจะไปไหน”ฉินฟางเอ่ยถามไป๋หรงอย่างตกใจ เธอยังไม่อยากให้ลูกสาวออกไปไหนทั้งนั้น“ฉันจะออกไปเรียนภาษาค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้น่าจะมีคนคุ้มครองหนูอยู่แล้ว”ไป๋หรงไม่ได้ตกใจกลัว ชาติที่แล้วเธอโดนลอบวางยาพิษไม่รู้กี่ครั้ง ชาตินี
ตอนที่ 59 ทำความรู้จักกันซ่งเฟยซูกลับถึงบ้านก็เจอจ้าวไป๋ตงกำลังนั่งเล่นกับบุตรสาวอยู่เธอเดินเข้าไปร่วมวงอย่างปกติ “ฉันไปหาพี่ชายมา ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมซ่งจวินแต่เห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงกลับบ้านมา”“คุณเป็นคนตระกูลจ้าวแล้ว ไม่ควรไปวุ่นวายเรื่องราวในตระกูลซ่งอีก” จ้าวไป๋ตงเอ่ยขึ้นพยายามเก็บซ่อนความคิดในใจ“ทราบแล้วค่ะ ต่อไปฉันจะระวังตัว”จ้าวไป๋ตงไม่ได้เอ่ยเกินจริง หากจะไปเยี่ยมก็ควรรอไปพร้อมกันไม่ใช่แอบไปเช่นนี้ มันไม่ใช่การไปหาสู่กันปกติ ถึงแม้ซ่งเฟยซูไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์แต่การเข้าไปสอบถามเช่นนี้ก็ถือว่าเกินสิ่งที่คนแซ่อื่นจะกระทำเมื่อเห็นสีหน้าภรรยาสลดลงก็ใจอ่อนลง“ช่างเถอะ คุณอาจจะตกใจ" จ้าวไป๋ตงมีเปลี่ยนเป็นเสียงนุ่มนวลขึ้น ทว่าซ่งเฟยซูก็ตัดสินใจบางอย่าง“ฉันว่าจะไปหาลูกอี้ถัง แต่พอมีเรื่องอาจจะไม่ไปแล้วค่ะ” ซ่งเฟยซูบอกแผนการของตัวเอง มาคิดดูแล้วเธอควรจะไปต่างประเทศ“ไปเถอะ เรื่องนี้ผมจะจัดการเองลูกอาจจะรอคุณอยู่”จ้าวไป๋ตงเอ่ยอนุญาต เขาก็เป็นห่วงลูกชายเหมือนกันมีมารดาไปอยู่ด้วยน่าจะดี“หนูไปด้วยได้ไหมคะ ฟางฟางคิดถึงพี่ชาย” จ้าวเย่วฟางเอ่ยถามขึ้นเสียงใ
ตอนที่ 58 ตอนนี้ความปลอดภัยต้องมาก่อน“ตามเธอไป” จ้าวไป๋ตงสั่งลูกน้องให้เฝ้าดูภรรยาตัวเอง ไม่นานก็เห็นถึงความผิดปกติ อาซ่งเจิ้น นั่งหน้าเครียดท่ามกลางเหล่าบอดี้การ์ด เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่สืบมาได้ กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อชำเลืองดูหมายเลขก็บอกได้ว่าสิ่งที่กังวลจะเป็นจริง“มาหาฉันที่บริษัท เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ซ่งเฟยซู เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายซ่งเฟยซูก็เอ่ยถามทันที“หลานเป็นอย่างไรบ้าง”“ปลอดภัยดี”ซ่งเจิ้นตอบเสียงเรียบ“ทำไมต้องทำแบบนี้!!” เสียงคุกคามกดดัน ทำให้ซ่งเฟยซูตกใจรีบโผล่เข้าไปกอดพี่ชาย“ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายหลานนะ เพราะนังนั่นต่างหาก หากไม่มีมัน..ใช่แล้ว...มันควรตาย ตาย ไปซะ”“หยุดนะ ซูเออร์” ซ่งเจิ้น ปิดข่มอารมณ์จนปานนี้น้องสาวของเขายังไม่สำนึกผิด“ฉันไม่หยุด” ซ่งเฟยซูกรีดร้องโวยวาย“พี่สั่งให้เธอหยุด!!” เป็นซ่งเจิ้นที่ตวาดเสียงอย่างแรง ซ่งเฟยซูโดนเสียงพี่ชายตวาด ตกใจ นั่งลงโซฟาร่างกายสั่นเทาความกลัวที่แอบเก็บซ่อนไว้เผยออกมา จริงแล้วเธอกลัวพี่ชายมาก“ทำไมยังทำแบบนี้อีก” พอเห็นน้องสาวตัวสั่น จิต
ตอนที่ 57 ทำไมใส่ใจได้ขนาดนั้นโรงพยาบาลซ่งจวินโดนนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และเข้ารับการผ่าตัดทันที แม้หมอจะบอกว่ากระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ไป๋หรงก็นั่งหน้าซีดใจสั่น เธอพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายคนนี้มาตลอด สุดท้ายก็ยังหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ไม่ได้อี้เฟยหยางนั่งอยู่เคียงข้างหญิงสาว ความรู้สึกเป็นห่วงของไป๋หรงที่มีต่อซ่งจวินเอ่อล้นออกมามากมายผ่านทั้งแววตาและท่าทาง เขามั่นใจว่าไป๋หรงมีซ่งจวินอยู่ในใจ “เขาจะปลอดภัยครับ” อี้เฟยหยางเอ่ยปลอบใจหญิงสาว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมาอยู่จุดนี้ได้จุดที่ส่งคนที่รักสุดหัวใจ ให้ผู้ชายอีกคน “ค่ะ” ไป๋หรงก็เชื่อเช่นนั้น ผู้ชายคนนี้เขาแกร่งมาแต่ไหนแต่ไร เขาไม่เคยเป็นอะไรไปง่ายๆทุกอย่างเขาล้วนฝ่าฟันผ่านไปได้ ฉันรู้จักเขาดี “พี่ชาย” เสียงอี้เฟยหลิงเอ่ยเรียกอี้เฟยหยางแผ่วเบา เธอเดินเข้าไปนั่งข้างกายไป๋หรงและกุมมือหญิงสาวไว้ อี้เฟยหลิงชำเลืองตาดูสีหน้าไป๋หรง ใบหน้าซีดเซียวแฝงความตื่นตระหนก แม้จะไม่เสียอาการทว่าเท่านี้ก็มากพอสำหรับไป๋หรงพี่ไป๋หรงชอบพี่ซ่งจวินหรือนี่ ทำไมไม่มีท่าทีมาก่อน ความรักช่างน่ากลัวเหลือเกิน ฉันไม่อยากมี
ตอนที่ 56 ความสัญญาในอดีตคอมเมนต์เริ่มต้นจุดประกายให้คนโจมตีผู้ไม่หวังดี คนเริ่มเห็นด้วยมากขึ้น มากขึ้น จนเกิดแคปชั่น กระทู้มากมายโจมมีคนผู้นั้น#คนแบบไหนถึงอิจฉาไป๋หรง#ใครๆก็ต้องอยากได้ดี#ไม่อิจฉานะคะ“คนบางคนไม่ยอมพัฒนาตัวเองคอยแต่อิจฉาคนอื่น” “วงการนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว”“รอชมผลงานนะคะ”“ไป๋หรงสู้ๆ ค่ะ คุณทำดีแล้ว”“เน้นผลงานค่ะ”ฯลฯอี้หลิงซือนั่งหน้าบึงตึงในใจเคียดแค้น บ่นพึมพำ“ใคร ใครว่าฉันอิจฉา ทำไมคนระดับฉัน คนอย่างฉันทำไมต้องไปอิจฉาดาราด้วย ฉันแค่อยากให้ทุกคนเห็นว่า กาตัวนี้ทะเยอทะยานแค่ไหน”อี้เฟยเยี่ยเห็นสีหน้าภรรยาก็พอรู้แล้วว่าคงโดนโต้ตอบกลับมา “ผมเตือนคุณแล้ว” ยิ่งได้ยินเสียงซ้ำเติมจากสามี อี้หลิงซือยิ่งโมโห“คุณ!!”ไม่รอให้ภรรยาวีนใส่ อี้เฟยเยี่ยก็ลุกเดินหนีทันทีพอดีที่อี้เฟยหลิงโทรมา“เป็นอย่างไรบ้างลูก” อี้เฟยเยี่ยรับสายลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อขา เมื่อไรจะกลับมา” อี้เฟยหลิงส่งเสียงออดอ้อน “น่าจะไม่เกิน 2 เดือน ถ้าหนูคิดถึงก็มาหาพ่อสิค่ะ” “หนูไม่ว่างเลย และตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้ว” อี้เฟยหลิงเอ่ยบอกงานเธอเยอะมาก“แล้วทำไมต้องทำให้ชีวิต
ตอนที่ 55 ผู้ไม่หวังดีคนนั้น ณ ต่างประเทศอี้เฟยเยี่ยกับอี้หลิงซือ พ่อแม่ของอี้เฟยหยางกับอี้เฟยหลิงด้วยภาระของผู้นำตระกูลทำให้ต้องไปดูแลบริษัทที่พึ่งไปลงทุนที่ต่างประเทศให้มั่นคงอี้เฟยเยี่ยชำเลืองผู้เป็นภรรยา กำลังนั่งดูข่าวบันเทิงเขาเห็นว่าข่าวเกี่ยวกับดาราไป๋หรงคนนี้ ภรรยาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และได้ยินแว่วๆ ว่ามีข่าวคบหากับบุตรชายของเขา“คุณอย่าไปยุ่งกับเรื่องของลูกๆ เชียว”เป็นสามีภรรยากันมานาน เขาย่อมดูออกว่าตอนนี้ภรรยาของตนเองมีแผนการบางอย่าง“ไม่ได้นะคุณ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยสนใจ ว่าแล้วเชียว สักวันหยางหยางน้อยของฉันต้องตกหลุมพลางมารยาของเหล่าพวกดาราพวกนี้”พอนึกถึงคำที่ฉีป๋านเฉินเล่าให้ฟังเธอยิ่งร้อนใจ เพราะตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ได้เข้าบ้านไปไหว้ท่านย่าอี้และยังเข้าไปทำงานร่วมกับอี้เฟยหลิงน้อย ทั้งที่เธอวางแผนไว้อย่างดียังพลาดได้ ฝีมือผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เด็กน้อยทั้งสองลูกของเธอยังอ่อนเยาว์เธอจะปล่อยไม่ได้เห็นสายตาของภรรยาผู้เป็นสามีจึงพูดขึ้น“คุณกำลังคิดว่าลูกๆ ของเราโง่รึ”คำถามที่ตรงไปตรงมา ทำให้อี้หลิงซือสะดุ้ง ไม่นะลูกเธอไม่ได้โง่เธอรีบบอกปัด“เปล่าสักหน่อย