Home / รักโบราณ / ชะตารักพันธนาการ / บทที่ 4 คืนเข้าหอ

Share

บทที่ 4 คืนเข้าหอ

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2025-02-10 23:43:51

บทที่ 4 คืนเข้าหอ

หานอี้หลงเดินเข้ามาภายในห้องหอ เขาทอดสายตามองไปยังหยางชิวเหยาด้วยความรู้สึกปลื้มปีติยิ่งนัก นับตั้งแต่คราวที่เขาได้มีโอกาสพบกับนางในงานเลี้ยงภายในวังหลวง หัวใจของเขาก็รู้สึกสั่นไหวและได้มอบหัวใจให้นางไปจนหมดสิ้น

แม้หานอี้หลงจะพอรู้ข่าวคราวอยู่บ้างเรื่องหยางชิวเหยานั้นมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว แต่เมื่อเขาสืบจนแน่ใจว่าบุรุษผู้นั้นมิคู่ควรนางแม้แต่เพียงน้อย เขาจึงตัดสินใจขอร้องบิดามารดาเพื่อสู่ขอนางมาเป็นภรรยาของตนเสีย

หานอี้หลงนั่งลงตรงด้านข้างของหยางชิวเหยา เขาเอื้อมมือขึ้นมายกผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามของหยางชิวเหยา ดวงตาของเขาจ้องมองนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้งและอ่อนโยน

หยางชิวเหยาที่ตกใจเป็นอันมาก นางรีบลุกขึ้นพร้อมคุกเข่าลงตรงหน้าของหานอี้หลงด้วยเนื้อตัวสั่นเทา

“คุณชายหาน...ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย...ข้าน้อยต่ำต้อยยิ่งนัก มิคู่ควรแก่ท่านเลยสักนิด...ข้า...ข้า...” หยางชิวเหยากล่าวออกมาอย่างร้อนใจ นางยังมิพร้อมจะตกเป็นภรรยาของผู้ใด บัดนี้ในใจของนางมีเพียงจางลู่เหวินเพียงผู้เดียวเท่านั้น

หานอี้หลงตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดตรงหน้าเป็นอันมาก แต่เมื่อเขาได้สติ หานอี้หลงก็รีบประคองร่างของหยางชิวเหยาขึ้นมาอีกครั้ง

“ชิวเหยา ข้ารู้ดีว่าเจ้ามิได้ยินดีกับการแต่งงานครั้งนี้” หานอี้หลงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง “หากเวลานี้เจ้ายังไม่พร้อมเปิดรับข้า ข้าก็ยินดีจะเฝ้ารอเจ้า...ดีหรือไม่”

คำพูดของหานอี้หลงทำให้หยางชิวเหยารู้สึกสะท้าน นางเงยหน้าขึ้นมองหานอี้หลงซึ่งบัดนี้ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตนอย่างชั่งใจ แต่เมื่อหยางชิวเหยาได้เห็นสายตาที่จริงใจทอดผ่านออกมา นางก็ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่นพร้อมก้มหน้าลงอีกครั้งอย่างพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม “ข้าขอบคุณในความกรุณาของท่าน แต่ใจข้ายัง...”

หานอี้หลงยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อห้ามหยางชิวเหยาพูดสิ่งใดออกมา “ชิวเหยา...เจ้าไม่ต้องอธิบายสิ่งใดหรอก ขอเพียงให้เจ้าอยู่เคียงข้าในเวลานี้นั่นก็เพียงพอแล้ว”

หยางชิวเหยามองหานอี้หลงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ใจของนางทั้งโล่งใจและหนักอึ้ง หยางชิวเหยารับรู้ได้ถึงความจริงใจที่หานอี้หลงมีให้ต่อนางอย่างมากล้น แต่ทว่าหัวใจของนางกลับมิอาจตอบรับน้ำใจนี้ได้

“ข้าขอขอบคุณท่านยิ่งนัก...ข้าสัญญา...ข้าจะทำหน้าที่ของข้าให้ดีที่สุด” หยางชิวเหยากล่าวเบาๆ ออกมาก่อนจะหันหน้าหนีสายตาของหานอี้หลงอีกครั้ง

หานอี้หลงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น “คืนนี้เจ้ากับข้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พวกเราพักผ่อนกันเถิด”

หานอี้หลงพูดพร้อมเริ่มผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดนอนสบายตัว หยางชิวเหยาได้แต่อ้าปากค้าง “เอ่อ...ท่าน...คืนนี้ท่านจะนอนที่นี่หรือ”

หานอี้หลงได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา “ชิวเหยา...เจ้าคงไม่ใจร้ายไล่ข้าออกไปนอนนอกห้องหอกระมัง”

หยางชิวเหยาได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนออกมา นางนั้นพอเข้าใจได้ดีหากนางเอ่ยปากให้หานอี้หลงไปนอนนอกห้อง พรุ่งนี้ข่าวลือเรื่องหานอี้หลงคงถูกโจษจันไปทั่วเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้น นางก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องนอนร่วมห้องกับเขาเช่นนี้

“ชิวเหยา...เจ้าคิดจะนอนทั้งเสื้อผ้าที่หนักอึ้งเช่นนี้หรือ” หานอี้หลงพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย

“เอ่อ...เจ้าค่ะ” หยางชิวเหยารีบลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนจนเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมายังเตียงนอนที่เวลานี้หานอี้หลงไปนอนลงไปกินพื้นที่กว่าครึ่งเตียงเสียแล้ว

หยางชิวเหยากำมือแน่นอย่างมิรู้จะทำตัวเช่นใด นางเองคงมิอาจหาญไล่หานอี้หลงไปนอนที่พื้นได้ หยางชิวเหยาได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาอย่างหนักอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าขึ้นไปบนเตียง

หยางชิวเหยารีบนอนห่มผ้าไว้แน่น ร่างบางนอนเบียดไปจนแทบจะแทรกเข้าไปในผนังอย่างรู้สึกหวาดระแวง

“ชิวเหยา...เจ้านอนให้สบายเถิด...หากข้าต้องการทำอะไรเจ้า...ต่อให้เจ้าแทรกกายเข้าไปในกำแพงก็คงไม่พ้นมือข้าหรอก...จริงหรือไม่” หานอี้หลงพูดเย้าออกมาทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่ รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าออกจะสำอางนั้นอย่างนึกอารมณ์ดี

หยางชิวเหยาได้แต่เม้มปากอย่างรู้สึกกระดากอาย ก่อนจะค่อยๆ เขยิบตัวกลับมานอนด้านข้างของหานอี้หลงอีกครั้ง

เนิ่นนานกว่าค่อนคืนที่หยางชิวเหยาไม่อาจข่มตาลงได้ จนกระทั่งนางได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอของคนข้างกายเป็นสัญญาณให้หยางชิวเหยารับรู้ว่าบัดนี้หานอี้หลงได้หลับใหลลงไปอย่างสนิทแล้ว นางจึงค่อยรู้สึกผ่อนคลายลงไปอย่างมาก ก่อนที่ดวงตาจะค่อยๆ ปิดลงด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียยิ่งนัก

ในรุ่งเช้าวันต่อมา หานอี้หลงปรือตาตื่นขึ้น แขนยาวเรียวที่พาดโอบเขาไว้อย่างหลวมๆ ของคนข้างกายทำให้เขาถึงกับยิ้มกว้างออกมา หานอี้หลงค่อยๆ ขยับกายเอนตัวไปหาหยางชิวเหยาตรงหน้าอย่างรู้สึกรักใคร่ ใบหน้าขาวนวลรับกับริมฝีปากอิ่มที่ดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก เขาค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นมาไล้เส้นผมที่ปรกลงตรงหน้าของนางอย่างนึกเอ็นดู

“ชิวเหยา...หากข้าได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเจ้าในทุกวัน...ชีวิตข้าก็มิต้องการสิ่งใดอีกแล้ว” หานอี้หลงพึมพำออกมาพร้อมทอดสายตาลึกซึ้งมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างมิรู้เบื่อหน่าย

หยางชิวเหยาลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับใหลเมื่อนางได้สบตากับหานอี้หลงที่ใบหน้าอยู่ห่างกันเพียงคืบเดียว แขนของนางที่โอบวาดอยู่ที่ลำตัวของหานอี้หลงอย่างถือวิสาสะนั่นยิ่งทำให้หยางชิวเหยารู้สึกกระอักกระอ่วนใจ นางถึงกับผงะก่อนจะลุกพรวดขึ้นมานั่งอย่างรู้สึกประหม่าและกังวลใจ

“ชิวเหยา...ข้ามิได้ทำสิ่งใดล่วงเกินเจ้าแม้แต่น้อย...แต่ตอนที่ข้าตื่น...เป็นเจ้าที่ล่วงเกินข้า” หานอี้หลงหยอกเย้าหยางชิวเหยาออกมาด้วยอารมณ์ขัน

หยางชิวเหยาได้แต่ก้มหน้านิ่งด้วยความกระดากอาย “คุณชายหาน...ข้าต้องขอโทษที่ล่วงเกินท่าน”

หานอี้หลงได้ยินเช่นนั้นก็สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้าหยางชิวเหยาด้วยท่าทางที่จริงจัง

“ชิวเหยา...เจ้ากับข้าแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว เหตุใดเจ้าจึงยังทำตัวเหินห่างเช่นนี้” หานอี้หลงพูดตัดพ้อออกมา

“ข้า...ข้า...” หยางชิวเหยาได้แต่อึกอักอย่างมิรู้จะตอบเช่นใด

หานอี้หลงยกมือขึ้นเชยคางของหยางชิวเหยาขึ้นมาผสานตากับตนอีกครั้ง “เอาละ...ตอนนี้เจ้าเป็นฮูหยินของข้า ต่อไปเจ้าก็เรียกข้าว่าท่านพี่...ส่วนข้าจะเรียกเจ้าว่าเหยาเอ๋อร์...ฟังเช่นนี้เจ้าจะว่าเช่นใด”

หยางชิวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น สายตาที่หวานเชื่อมลึกซึ้งที่จ้องมองนางจนให้ความรู้สึกแปลกประหลาดยิ่งนัก “เจ้าค่ะ...คุณชายหาน” หยางชิวเหยารีบตอบกลับอย่างต้องการหลีกหนีสถานการณ์อันน่าอึดอัดเช่นนี้

หานอี้หลงเลิกคิ้วขึ้นมาเป็นคำตอบเมื่อได้ฟังหยางชิวเหยาตอบเช่นนั้น

หยางชิวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรีบขยับกายลุกออกจากเตียงนอนในทันที “คุณ...เอ่อ...ท่านพี่...พวกเรารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าไปคารวะท่านพ่อท่านแม่เถิด หากล่าช้าเกินไปจะดูเสียมารยาท”

หานอี้หลงยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนตรงหน้าหยางชิวเหยาอย่างเอาใจ “เช่นนั้นข้าตามใจเจ้า...เหยาเอ๋อร์”

Related chapters

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 5 ฮูหยินจวนสกุลหาน

    บทที่ 5 ฮูหยินจวนสกุลหานหานอี้หลงและหยางชิวเหยาแต่งกายอย่างสุภาพเรียบร้อย ก่อนจะเดินตรงไปยังโถงใหญ่เพื่อคำนับหานอ้าวเว่ยและหานเซียงหนิง บิดาและมารดาของหานอี้หลงหานอ้าวเว่ยและหานเซียงหนิงนั่งรอคนทั้งสองที่โต๊ะกลางโถงอยู่ก่อนแล้ว เมื่อหานอี้หลงและหยางชิวเหยาย่างเท้าเข้ามาภายในห้องโถง ทั้งสองเดินตรงมายังด้านหน้า ก่อนจะย่อกายคำนับผู้อาวุโสอย่างสุภาพ“คารวะท่านพ่อ...คารวะท่านแม่”จากนั้นสาวใช้จึงนำแก้วชามายื่นให้หยางชิวเหยา นางยื่นแก้วชาให้หานอ้าวเว่ย จากนั้นจึงหยิบแก้วชาอีกถ้วยยื่นให้หานเซียงหนิงตามพิธี“ข้าน้อยชิวเหยา ขอคารวะท่านพ่อ...ท่านแม่”หานเซียงหนิงยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบเข้ามาประคองหยางชิวเหยาอย่างเอ็นดู หญิงสาวตรงหน้าทั้งหน้าตางดงามหมดจด มารยาทและการวางตัวก็มิได้ด้อยไปกว่าคุณหนูตระกูลใด ทำให้หานเซียงหนิงรู้สึกยินดียิ่ง“ชิวเหยา...เจ้าอย่าได้เกรงใจพวกข้าเลย...ต่อไปพวกข้าทั้งสองก็เป็นดั่งบิดามารดาของเจ้าแล้ว...ขอให้พวกเจ้าทั้งสองรักใคร่ปรองดองและรีบมีหลานหลายๆ คนให้ข้าอุ้มในเร็ววันก็พอ”คำกล่าวเช่นนั้นทำให้หยางชิวเหยายิ้มเจื่อนขึ้นมา นางรู้สึกตื้นตันใจยิ่งนักที่ได้รับการต้อนรับ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 6 หลบลี้

    บทที่ 6 หลบลี้ในค่ำคืนที่ดวงจันทร์เสี้ยวลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า เมฆหมอกเบาบางปกคลุมแสงจันทร์ทำให้ทุกสิ่งดูมืดมัว บริเวณรอบเรือนหลังเล็กที่ดูเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงใบไม้เสียดสีกันไปมาชวนให้รู้สึกวังเวงจางลู่เหวินนั่งอยู่ภายในเรือนที่เขาเช่าอาศัยจากชาวบ้าน เสื้อผ้าที่เคยเรียบร้อยบัดนี้ดูซอมซ่อและเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินและคราบสุรา ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเต็มไปด้วยหนวดเครายาวรกรุงรัง ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์สุราและอาการนอนไม่หลับมาเป็นเวลาหลายคืนโต๊ะไม้เก่ากลางห้องเต็มไปด้วยขวดสุราที่วางกระจัดกระจายไปทั่ว จางลู่เหวินหยิบขวดสุราขวดหนึ่งขึ้นมากระดกเข้าปากอย่างไม่สนใจสิ่งใด แต่เขากลับพบว่ามันว่างเปล่าไปเสียแล้ว“เพล้ง...” จางลู่เหวินโยนขวดสุราไปที่มุมห้องอย่างรู้สึกขัดใจ เสียงขวดกระเบื้องตกกระทบลงบนพื้นดังสะท้อนขึ้นมาในความเงียบสงัด“ชิวเหยา...” จางลู่เหวินพึมพำชื่อของหญิงคนรักที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเขาอย่างไม่จบสิ้น “เจ้าทิ้งข้าไปได้เช่นใดกัน...”จางลู่เหวินเอนตัวพิงเก้าอี้ ดวงตาเหม่อลอยมองเพดานไม้เก่าๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง เขาไม่สามารถลืมความรู้สึ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 7 เสียงเล่าลือ

    บทที่ 7 เสียงเล่าลือนับจากวันนั้นเป็นต้นมาหยางชิวเหยาก็มิได้ข่าวคราวอันใดจากจางลู่เหวินอีกเลย นางพยายามให้เสี่ยวเว่ยไปสืบดูที่ลานสอบจอหงวนแต่กลับมิพบจางลู่เหวินที่นั่น แม้แต่นางให้เสี่ยวเว่ยไปดูที่เรือนพักของจางลู่เหวินกลับได้พบเพียงชาวบ้านที่บอกกล่าวว่าคนเช่าดังกล่าวได้ย้ายออกไปที่อื่นแล้วนับเป็นเวลาผ่านมาถึงห้าปีเต็มนับตั้งแต่วันที่หยางชิวเหยาแต่งเข้ามาในจวนสกุลหาน บัดนี้หานอี้หลงได้เลื่อนเป็นเสนาบดีเจ้ากรมโยธาแทนที่บิดาของตน ในขณะที่หานอ้าวเว่ยและหานเซียงหนิงเมื่อได้ปลดภาระอันหนักอึ้งออกจากบ่า เขาทั้งสองก็เลือกจะย้ายไปอยู่ต่างเมืองกับญาติคนหนึ่งและใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุขหานอี้หลงนับได้ว่าเป็นขุนนางผู้มีชื่อเสียงในความสุภาพและปัญญาเลิศล้ำ ความฉลาดเฉลียวและความสุขุมทำให้เขาได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้และราชสำนักไม่น้อยไปกว่าบิดาของตนเลยทีเดียวหานอี้หลงยังคงปฏิบัติต่อหยางชิวเหยาอย่างให้เกียรติเสมอมา ในขณะที่หยางชิวเหยาก็ทำหน้าที่ฮูหยินของเขาอย่างมิขาดตกบกพร่อง แต่ทว่าการแต่งงานของพวกเขาทั้งสองกลับมิได้สร้างสายใยแห่งครอบครัวตามที่คนอื่นคาดหวัง หยางชิวเหยาแม้จะนอนร่วมห้องกับหานอี้ห

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 8 หาอนุ

    บทที่ 8 หาอนุ“ดึกมากแล้ว พวกเราเข้านอนเถิด พรุ่งนี้ข้าต้องเข้าเฝ้าแต่เช้า” หานอี้หลงรีบตัดบทอย่างไม่ต้องการให้หยางชิวเหยารู้สึกอึดอัดอีกต่อไปทั้งคู่ก้าวขึ้นเตียงนอนดั่งที่เคย ก่อนที่หยางชิวเหยาจะผล็อยหลับลงไปในที่สุด ในค่ำคืนที่มืดมิดสายตาของหานอี้หลงยังคงเบิกกว้าง เขาหันกายไปจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างรู้สึกรักใคร่ยิ่งนัก เพียงไม่นานร่างบางก็ขยับกายเข้าโอบกอดเขาไว้เฉกเช่นทุกคืนราวกับเป็นความเคยคุ้นชินไปเสียแล้วหานอี้หลงยิ้มกว้างออกมาพร้อมกระชับร่างบางเข้ามาสวมกอดไว้แน่น “ชิวเหยา...ขอเพียงข้ามีเจ้าอยู่ข้างกาย ต่อให้ข้าต้องรอเจ้าไปชั่วชีวิตข้าก็ยินดี” หานอี้หลงเพ้อออกมาก่อนจะจรดริมฝีปากลงที่หน้าผากมนด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจในวันถัดมาเสียงเล่าลือเกี่ยวกับพวกเขายังคงเซ็งแซ่ไปทั่ว ด้วยหานอี้หลงนั้นนับได้ว่าเป็นบุรุษที่หญิงสาวหลายคนต่างพากันหมายปองและอิจฉาในความรักความเอาใจใส่ที่มีให้กับหยางชิวเหยานั่นยิ่งกระพือคำเล่าลือต่างๆ นานา จนกลายเป็นเรื่องชวนให้ขบขันยิ่งนักในขณะที่หานอี้หลงกลับยังคงใช้ชีวิตเหมือนมิมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เขาเดินทางไปว่าเข้าเฝ้าภายในวังหลวงและในทุกการประชุม เขา

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 9 อย่าผลักไสข้า

    บทที่ 9 อย่าผลักไสข้าจนกระทั่งช่วงเย็นของวัน หานอี้หลงกลับมาจากการทำงานที่หนักอึ้ง แม้ใบหน้าจะฉายความเหนื่อยล้าอยู่ในที แต่เมื่อได้เห็นหยางชิวเหยาที่ยืนรอเขาอยู่ในจวน หานอี้หลงก็ยิ้มกว้างออกมาในทันทีทั้งสองเดินกลับไปที่เรือนพัก ก่อนที่หานอี้หลงจะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดลำลอง โดยมีหยางชิวเหยาคอยปรนนิบัติหานอี้หลงตามหน้าที่เป็นอย่างดีอย่างเช่นที่เคยเป็นมา“ข้าขอตัวไปจัดการเรื่องเอกสารเสียหน่อย งานราชการมากล้นจนข้ามิอาจอยู่ทานข้าวร่วมกับเจ้าได้...เจ้าอย่าได้นึกโกรธเคืองข้าเลยนะ” หานอี้หลงกล่าวอย่างขอตัวกลับไปทำงานที่ห้องอักษรสักชั่วครู่หนึ่ง ด้วยก่อนหน้านี้ที่สำนักโยธามีงานสร้างเขื่อนกั้นน้ำที่ฮ่องเต้ทรงมอบหมายมาให้ ทำให้หานอี้หลงนั้นยุ่งวุ่นวายกับเรื่องดังกล่าวจนแทบมิอาจมีเวลาได้พัก แต่เพราะเขาอยากเห็นหน้าหยางชิวเหยาเสียหน่อย สุดท้ายหานอี้หลงจึงกลับมาที่จวนพร้อมกองเอกสารที่มีติดตัวมาด้วย“ท่านพี่...ท่านจะรับอาหารรองท้องเสียหน่อยหรือไม่เจ้าคะ” หยางชิวเหยาพูดพลาง สองมือก็ยังคงจัดการเสื้อผ้าของหานอี้หลงไปพลางอย่างใส่ใจ“ตามใจเจ้าเถิด...”หานอี้หลงตอบกลับพร้อมจ้องมองหยางชิวเหยาด้วยสายตารั

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 10 แม่ทัพคนใหม่

    บทที่ 10 แม่ทัพคนใหม่ภายในท้องพระโรงของแคว้นเจี้ยนเต็มไปด้วยความตึงเครียด หานอี้หลงรายงานความคืบหน้าของงานก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำในเมืองเตียงอันที่อยู่ข้างเคียงด้วยท่าทีที่เคร่งเครียด ปัญหาการก่อสร้างที่ขลุกขลักมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ฮ่องเต้หงจูเหลียงถึงกับหัวเสียขึ้นมาในทันที หานอี้หลงถูกตำหนิเป็นอันมากจนแทบจะเข้าหน้าหงจูเหลียงไม่ติด“ขอประทานอภัยฝ่าบาท...หม่อมฉันจะเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ขอฝ่าบาทอย่าได้ทรงเป็นกังวลพระทัย”“เจ้ารีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ข้ามิต้องการได้ยินคำแก้ตัวใดอีก” หงจูเหลียงตวาดออกมาในทันที“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” หานอี้หลงได้แต่รับคำด้วยความรู้สึกตึงเครียดและกดดันหลังจากนั้นการประชุมราชกิจก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลาล่วงเลยอย่างยาวนาน ก่อนที่หงจูเหลียงผู้กุมอำนาจใหญ่ในแคว้นเจี้ยนได้หันไปหาขันทีคู่ใจอย่างให้สัญญาณ“เชิญใต้เท้าจางลู่เหวินเข้าเฝ้า” เสียงขันทีประกาศดังก้องไปทั่วท้องพระโรงจางลู่เหวินก้าวเท้าเข้ามาภายในท้องพระโรงด้วยท่าทางที่สุขุมและเยือกเย็น หน้าตาคมคายแต่กลับดูแข็งกร้าว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่แข็งแรงจากการเคี่ยวกรำในศึกสงครามมาอ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 11 งานเลี้ยง

    บทที่ 11 งานเลี้ยงหานอี้หลงกลับมายังจวนในเวลาพลบค่ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เขาเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้กลางห้องอย่างรู้สึกเหนื่อยอ่อน หยางชิวเหยาเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ยื่นมือไปบีบนวดให้เขาอย่างเอาใจ“ท่านพี่วันนี้มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ...ข้าเห็นท่านทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เป็นนาน”หานอี้หลงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาดึงแขนของหยางชิวเหยามานั่งที่ด้านข้างพร้อมจ้องมองใบหน้านวลอย่างมิคิดจะเบื่อหน่าย ดวงตาสุกสกาวตรงหน้าทำให้ความเหนื่อยล้าที่มีลดทอนลงไปเป็นอันมาก“งานของข้าก็วุ่นวายเช่นนี้อยู่เป็นประจำ เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไปเลย” หานอี้หลงพูดพลางปรบมือเบาๆ ไปที่มือบางอย่างมิต้องการให้นางกลัดกลุ้มไปด้วย“ท่านก็อย่าเคร่งเครียดมากนักเลย ท่านพี่เก่งกล้าสามารถ ปัญหาต้องคลายลงไปได้แน่”คำกล่าวเยินยอของหญิงคนรักทำเอาหานอี้หลงถึงกับยิ้มไม่หุบ “ฮูหยินของข้าปากหวานเช่นนี้ ข้าจะหนีรอดจากเจ้าไปได้เช่นใดกัน”เมื่อหานอี้หลงกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง ทำเอาหยางชิวเหยาถึงกับค้อนขวับเข้าให้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ทั้งสายตาและคำพูดกรุ้มกริ่มของเขาก็ยังคงเป็นเฉกเช่นเดิมมิเปลี่ยนไปเลยหานอี้หลงห

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 12 เผชิญหน้า

    บทที่ 12 เผชิญหน้าขณะที่งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นอย่างครึกครื้น จางลู่เหวินกลับทำเพียงยกสุราเข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หยางชิวเหยาไม่หยุด แม้จะมีเสียงพูดคุยจากคนรอบข้างแต่ความสนใจของเขากลับไม่เคยลดน้อยลงไปจากนางเลยแม้แต่น้อย คิ้วหนาเข้มขมวดเป็นปมอย่างเคร่งเครียด ยิ่งได้เห็นท่าทางเอาอกเอาใจของหยางชิวเหยาที่มีต่อหานอี้หลงก็ยิ่งทำให้เขาแทบอยากลุกไปฉุดกระชากนางออกจากงานเลี้ยงโดยทันทีหยางชิวเหยารู้สึกถึงการจับจ้องดังกล่าวจนนางรู้สึกอึดอัดอย่างมิอาจห้าม ความรู้สึกสับสนประเดประดังเข้ามาภายในหัวของนางอย่างไม่หยุดหย่อน ด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นจนแทบเอ่อทะลักออกมาทำให้หยางชิวเหยานึกอยากจะหลีกหนีออกจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจเช่นนี้“ท่านพี่...ข้าขอตัวสักครู่” หยางชิวเหยากล่าวออกมาอย่างมิอาจข่มกลั้น“เจ้าจะไปที่ใด...ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีหรือไม่” หานอี้หลงหันมามองหยางชิวเหยาอย่างเพ่งพิจ ความรู้สึกกังวลฉายชัดขึ้นมาบนใบหน้าอย่างนึกห่วงนางจับใจหยางชิวเหยายังมิทันตอบสิ่งใด จู่ๆก็มีขุนนางผู้หนึ่งเข้ามาทักทายหานอี้หลงอย่างถือวิสาสะ“คารวะใต้เท้าหาน...ท่านโหวเจียงเสิ่นเย่วมีเรื่องพู

    Last Updated : 2025-02-10

Latest chapter

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 64 ข้าจะรอเจ้า

    บทที่ 64 ข้าจะรอเจ้าลมเย็นโบกสะบัดพัดผ่านยอดเขาส่งเสียงหวีดหวือประสานกับเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันคล้ายบทสวดที่ธรรมชาติคอยขับกล่อม อารามอันเงียบสงบตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนที่สูงชะลูดโอบล้อมรอบบริเวณอารามแห่งนี้ราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แสงตะวันอ่อนของยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุม ไม้ระแนงเก่าแก่ของอารามส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้จันทน์ชวนให้รู้สึกสงบใจหยางชิวเหยาสวมอาภรณ์สีขาวอย่างเรียบง่าย ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความทุกข์ใจและหม่นหมองในวันวาน เวลานี้กลับดูสงบนิ่งอย่างผู้ที่ผ่านการขัดเกลาจากธรรมะและกาลเวลาจนจิตใจของนางสงบและเยือกเย็นลงดวงตาคู่งามของหยางชิวเหยาไม่เหลือร่องรอยของความเศร้าโศกอย่างที่เคยเป็นแต่กลับแฝงไปด้วยความสงบนิ่งและการปล่อยวางได้เป็นอย่างมากหลังจากที่หยางชิวเหยาเข้ามาถือศีลในอารามแห่งนี้ นับเป็นเวลากว่าสามปีเต็มที่นางมิเคยติดต่อกับผู้ใดอีกเลย นางละทิ้งโลกภายนอกไว้เบื้องหลังราวกับมันมิเคยเกิดขึ้นและมีอยู่จริง ในทุกวันนางจะใช้เวลาอยู่กับการถือศีล ท่องบทสวดมนต์ และทำจิตใจให้เบาบางลงเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่หานอี้หลงถูกประหารชีวิตลง หยางชิวเหยาก็ได้แต่ทน

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 63 ประหารชีวิต

    บทที่ 63 ประหารชีวิตลมหนาวพัดโชยในช่วงเวลาเช้าจนชวนให้รู้สึกขนลุกชันขึ้นมา บรรยากาศภายในเมืองหลวงต่างอึมครึมและหนักอึ้งไปด้วยความตึงเครียดจากเหตุการณ์กบฏที่เกิดขึ้น หน้าประตูวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าในวันนี้กลับคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่ต่างมารอดูจุดจบของเหล่านักโทษกบฏเสียงฝีเท้าของเหล่าทหารที่เหยียบย่างไปตามพื้นอย่างหนักหน่วงและมั่นคง แสงแดดยามเช้าที่ตะวันเริ่มเคลื่อนคล้อยขึ้นลอยเหนือหัวขึ้นมาทุกทีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างได้ยินข่าวเกี่ยวกับการประหารชีวิตของหานอี้หลงและคนสกุลเจียงทั้งครอบครัว ทุกคนต่างอยู่ในความตื่นตะลึงและใจหายขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้หานอี้หลงผู้ซึ่งเป็นบุรุษที่สง่างามน่าเคารพ บุรุษที่ต่างเป็นที่หมายปองของเหล่าหญิงสาวในเมืองหลวง บัดนี้กลับกลายเป็นนักโทษกบฏที่รอเวลาประหารชีวิตในขณะที่ท่านโหวเจียงเสิ่นเย่วผู้มีจิตใจเมตตาและเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวง บัดนี้ต่างมีจุดจบอันเลวร้ายไม่ต่างกันหานอี้หลงและเจียงเสิ่นเย่วถูกนำตัวมายังลานประหารที่หน้าวังหลวง หานอี้หลงนั่งคุกเข่าลงบนพื้นดินด้วยสีหน้าที่ยังคงราบเรียบและดูสงบนิ่ง ในขณะที่เจียงเสิ่นเย่วกลับมีท่าทางคอตกดั

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 62 คุมขัง

    บทที่ 62 คุมขังภายในคุกกรมอาญา ความมืดมิดและความเงียบสงัดทำให้บรรยากาศรอบตัวหานอี้หลงดูราวกับถูกกลืนกินด้วยความสิ้นหวัง ทุกอย่างรอบตัวเต็มไปด้วยความเย็นเยียบจนแทบจะสัมผัสได้ ราวกับอากาศในที่แห่งนี้ถูกผนึกด้วยความเจ็บปวด ความโหดร้าย และการทรมานทางจิตใจที่ไม่รู้จักจบสิ้นหานอี้หลงนั่งอยู่บนพื้นหินที่เย็นชืด ข้อมือถูกตรึงด้วยโซ่ที่มีความหนาและหนักหน่วง มือขวาของเขาถูกยึดแน่นจนไม่สามารถขยับได้อย่างอิสระ ดวงตาของเขาหม่นหมองไปด้วยความเศร้าโศกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ทุกสิ่งในชีวิตของเขาดูเหมือนจะพังทลายลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิงหานอี้หลงไม่สามารถหนีจากโชคชะตาที่ถูกบีบบังคับมาได้ ในขณะที่รอคอยวันที่จะเป็นการประหารชีวิตของเขา ความคิดที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดและหนักอึ้งจนมิอาจปล่อยวางลงได้ยังคงมีเพียงเรื่องเดียวในชีวิตนั่นคือหยางชิวเหยา และเขาจะไม่มีโอกาสได้พบกับคนที่เขารักอีกต่อไปแล้วในขณะที่หานอี้หลงกำลังหลับตาและข่มกลั้นความเจ็บปวดรวดร้าวในใจอยู่นั้น พลันเสียงฝีเท้าหนึ่งก็ก้าวเข้ามาใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆทันทีที่หานอี้หลงเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองคนตรงหน้าผ่านลูกกรงเหล็กแข็งนั้น ดวงตาของหานอี้หลงก็เบิก

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 61 แผนซ้อนแผน

    บทที่ 61 แผนซ้อนแผนสิ้นเสียงของหงจูเหลียง เหล่าทหารก็กรูกันเข้ามาด้านในห้อง พร้อมกับร่างใหญ่ที่สาวเท้าเข้ามาด้วยท่าทางหยิ่งทะนง ร่างของจางลู่เหวินปรากฏตัวขึ้นในความมืด เขาสวมชุดเกราะทหารที่ทำให้เขาดูสง่าผ่าเผยพร้อมใบหน้าราบเรียบแต่เย็นชายิ่งนักหานอี้หลงตกตะลึงเป็นอย่างมาก ภาพของจางลู่เหวินตรงหน้าราวกับสายฟ้าที่ฟาดเข้ามาตรงกลางหน้าผากของเขาเข้าอย่างจัง หานอี้หลงไม่คาดคิดเลยว่าในช่วงเวลาที่เขาคิดว่ากำลังจะชนะ จางลู่เหวินกลับมาปรากฏตัวในแบบที่ไม่คาดฝัน “จางลู่เหวิน...เจ้า...”“หานอี้หลง...เจ้าคงคิดสินะว่าแผนการของเจ้าฉลาดล้ำลึกจนมิมีผู้ใดเทียบ” จางลู่เหวินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้า...เจ้า...” หานอี้หลงพึมพำในลำคอด้วยความตกใจ รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมาจางลู่เหวินยิ้มเยาะออกมาอย่างเหนือกว่าด้วยความเย็นชา “หานอี้หลง ข้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการของเจ้า แต่เพื่อให้เจ้าตายใจ ข้ากับฝ่าบาทจึงเลือกที่จะเล่นงิ้วตามพวกเจ้าก็เพียงเท่านั้น”คำพูดของจางลู่เหวินทำให้หานอี้หลงรู้สึกเหมือนถูกฟันไปที่หัวใจ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แทรกซึมเข้ามาภายในร่างกาย “เจ้า... เจ้า...” หานอี

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 60 ก่อกบฏ

    บทที่ 60 ก่อกบฏทหารที่ยืนเฝ้ายามที่รอบบริเวณจวนสกุลจาง ทำให้หยางชิวเหยาอดนึกหวาดหวั่นและตกใจขึ้นมาไม่ได้ “ลู่เหวิน...นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”จางลู่เหวินเดินเข้ามาสวมกอดหยางชิวเหยาเอาไว้อย่างต้องการปลอบขวัญ “ชิวเหยา...เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไป อีกไม่นานทุกอย่างก็จะคลี่คลาย” จางลู่เหวินปลุกปลอบหยางชิวเหยาให้คลายความกังวลใจ“ท่านจะไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” หยางชิวเหยายังคงอดห่วงจางลู่เหวินไม่ได้“ข้ามีเจ้าอยู่เคียงข้าง...ข้าย่อมไม่กล้าเป็นอันใดเป็นอันขาด” จางลู่เหวินกล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ท่านมิได้หลอกข้าใช่หรือไม่” หยางชิวเหยายังคงไม่แน่ใจกับคำกล่าวของจางลู่เหวินเสียทีเดียว“ข้ามิได้พักผ่อนเสียนาน...ถือโอกาสนี้นอนกกกอดเจ้าทั้งวันทั้งคืนดีหรือไม่” จางลู่เหวินพูดจากรุ้มกริ่มใส่หยางชิวเหยาอย่างอารมณ์ดี“ลู่เหวิน...ท่านนี่นะ...เรื่องราวหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้...ท่านยังมีแก่ใจมาพูดเล่นอยู่อีก” หยางชิวเหยาบ่นกระปอดกระแปดออกมาจางลู่เหวินหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอารมณ์ดี หยางชิวเหยาเห็นเช่นนั้นก็ค่อยผ่อนคลายความวิตกกังวลที่มีลงไปเป็นอันมากในขณะเดียวกันที่จวนโหวก็เริ่มมีการเคลื่อ

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 59 มิอาจรั้งรอได้อีก

    บทที่ 59 มิอาจรั้งรอได้อีกช่วงสายวันต่อมาหานอี้หลงลืมตาตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกปลอดโปร่ง ในยามค่ำคืนที่ผ่านมา ภาพความทรงจำที่เขามีทั้งสัมผัสอันเร่าร้อนและไออุ่นของหยางชิวเหยายังคงตราตรึงอยู่ในความนึกคิดของเขา จนหานอี้หลงอดยกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว หานอี้หลงพลิกกายหันไปดึงรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดราวกับคนละเมอ “เหยาเอ๋อร์...”ฉับพลันอ้อมแขนของหานอี้หลงก็ชะงักค้างเมื่อเพ่งสายตามองร่างบางตรงหน้า หญิงสาวในอ้อมกอดของเขามิใช่หยางชิวเหยาแต่กลับกลายเป็นเจียงอันเล่อหานอี้หลงหยัดกายขึ้นพร้อมกุมศีรษะด้วยความปวดหัวจากฤทธิ์สุราที่มี เจียงอันเล่อลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เนื่องจากค่ำคืนที่ผ่านมาหานอี้หลงเคี่ยวกรำนางจนแทบมิได้พัก แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหานอี้หลง เจียงอันเล่อก็ตาสว่างขึ้นมาในทันที“ท่านพี่...” เจียงอันเล่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นใด” หานอี้หลงเบือนหน้าหนีร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า“เมื่อคืนข้ากับท่านร่วมหอกันทั้งคืน...ท่านพี่จำมิได้หรือ” เจียงอันเล่อเอ่ยออกมาแม้ว่าจะรู้ดีว่าเมื่อคืนคนที่หานอี้หลงคิดว่าร่วมหลับนอนด้วยคือหยางชิวเหยา“เมื่อคืนข้าคงเมามากไปหน

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 58 ตัดสัมพันธ์

    บทที่ 58 ตัดสัมพันธ์หานอี้หลงและหยางชิวเหยาดึงรั้งขัดขืนกันไปมาอย่างอลหม่าน ในความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทันใดนั้นบานประตูก็ถูกผลักออกอย่างแรง จางลู่เหวินปรากฏกายขึ้นตรงด้านหน้าพร้อมกับสายตาที่คุกรุ่นราวกับเปลวไฟ “หานอี้หลง...เจ้า...”จางลู่เหวินตวาดออกมาด้วยความเดือดดาลก่อนจะปรี่เข้ามากระชากตัวหานอี้หลงออกห่างจากหยางชิวเหยาอย่างรุนแรง ตามมาด้วยกำปั้นหนักที่ซัดเข้าหน้าของหานอี้หลงจนร่างของเขาเซถลาถอยหลังไปกระแทกกับขอบโต๊ะ“หานอี้หลง...เจ้าช่างต่ำช้ายิ่งนัก” จางลู่เหวินตวาดด้วยน้ำเสียงกร้าว สองมือกำหมัดแน่น สายตาคมดุดันของเขาจ้องมองหานอี้หลงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะหันไปหาหยางชิวเหยาที่อยู่ด้านหลัง “ชิวเหยา...เจ้าเป็นอันใดหรือไม่”หยางชิวเหยาน้ำตาเอ่อล้นออกมาอาบแก้มแต่นางก็ทำเพียงส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอื้อฉาวอันใดขึ้นมาอีกหานอี้หลงทรงตัวยืนขึ้นอีกครั้ง มือหนายกขึ้นกุมแก้มที่บวมแดงจากแรงชก แต่สายตายังคงจ้องจางลู่เหวินด้วยความคั่งแค้น ในขณะที่สายตากลับทอดมองหยางชิวเหยาด้วยความเจ็บปวดและนึกน้อยใจยิ่งนัก “จางลู่เหวิน...เจ้ายังกล้ามาพูดเช่นนี้กับข้าหรือ...เจ้าเป็นคนพราก

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 57 ข้ารักเจ้า

    บทที่ 57 ข้ารักเจ้าตลาดในยามสายคึกคักด้วยเสียงผู้คนที่เดินสวนกัน เสียงหัวเราะของเด็กเล็กผสานกับเสียงตะโกนเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ขาย กลิ่นหอมของอาหารทอดลอยมาตามลม ชวนให้ผู้คนหยุดมองหาแหล่งที่มาของกลิ่น ร่มผ้าหลากสีปกคลุมแผงลอย เรียงรายไปตามถนนหินกรวดที่สะอาดสะอ้านและเปล่งประกายเมื่อแสงแดดตกกระทบหยางชิวเหยากำลังเลือกดูผ้าแพรพรรณจากร้านค้าที่มีชื่อในเมืองหลวง นางตั้งใจตัดเย็บชุดใหม่ให้จางลู่เหวินผลัดเปลี่ยนเสียบ้าง หยางชิวเหยาใส่ชุดผ้าแพรบางเบาสีฟ้าครามที่ทำให้นางดูโดดเด่นกว่าใครในหมู่ลูกค้าทั้งหลาย นางดูงดงามราวกับบุปผาที่หมู่มวลภมรต่างหมายปองดอมดม ดวงตาคู่งามกวาดมองพับผ้าที่เถ้าแก่เนี้ยพยายามแนะนำด้วยรู้ดีว่าการค้าครั้งนี้ย่อมหมายถึงกำไรอันมากโข หยางชิวเหยาจ้องมองผืนผ้าพร้อมยกมือขึ้นลูบสัมผัสไปทีละผืนอย่างใส่ใจ“เหยาเอ๋อร์” เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง หยางชิวเหยาชะงักค้างก่อนจะหันไปมองตามเสียงเรียกดังกล่าวหานอี้หลงหยุดยืนอยู่ด้านหลังของหยางชิวเหยา พร้อมรอยยิ้มกว้างอย่างรู้สึกดีใจยิ่งนัก เขาสวมใส่ชุดสีขาวปักลายเมฆสีน้ำเงินที่ทำให้ดูภูมิฐานและสง่างามอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ใบหน้าคมค

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 56 ตบแต่งฮูหยินรอง

    บทที่ 56 ตบแต่งฮูหยินรองข่าวการตกแต่งฮูหยินรองเข้าจวนสกุลหานแพร่กระจายออกไปอีกครั้ง พร้อมกับงานแต่งที่ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว จวนสกุลหานถูกประดับประดาอย่างงดงาม เสียงขลุ่ยและกลองดังสนั่นหวั่นไหว ขุนนางต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดี ทว่ากลับมีเสียงโจษจันขึ้นในเรื่องการแต่งงานที่กะทันหันและไล่เลี่ยกันเช่นนี้ รวมถึงเสียงกระซิบกระซาบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหานอี้หลงและหงอวิ๋นชิวในเวลานี้หานอี้หลงยืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่หงอวิ๋นชิวกลับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มราวกับเป็นเรื่องยินดีเพิ่มขึ้น นางมิได้มีความรู้สึกฉันชายหญิงกับหานอี้หลงแม้แต่น้อย ตราบใดที่ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของตนยังคงมั่นคงอยู่ ดังนั้นการรับเจียงอันเล่อเข้ามาเป็นฮูหยินรองของจวนหรือแม้กระทั่งหญิงสาวคนใดเข้ามาในจวนก็มิได้ทำให้นางรู้สึกสะเทือนใจอันใด แต่เพราะหงอวิ๋นชิวนั้นมีความฉลาดอยู่มากทำให้นางรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเจียงอันเล่อนั้นนับเป็นหมากตัวหนึ่งบนกระดานของหานอี้หลงในการแย่งชิงอำนาจในอนาคตอันใกล้นี้ นั่นยิ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับตนยิ่งนักเจียงอันเล่อในชุดเจ้าสาวสีแดงสด ก้าวลงจากเกี้ยวด้วยรอยยิ้มหวานอย่างรู้สึกมีความส

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status