แชร์

บทที่ 28 คั่งแค้น

ผู้เขียน: Luffy.g
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 23:52:02

บทที่ 28 คั่งแค้น

หยางชิวเหยายกมือขึ้นเกาะกุมลำแขนของหานอี้หลงเอาไว้แน่น “ท่านพี่...นี่เป็นหนทางเดียวที่ข้าจะช่วยท่านได้” นางตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เหลวไหล...ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด...เหยาเอ๋อร์...เจ้าอย่าได้กังวลใจไป ฮ่องเต้รับสั่งจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง หากความจริงปรากฏข้าย่อมถูกปล่อยตัวในไม่ช้า” หานอี้หลงเกาะกุมลำแขนของหยางชิวเหยาเอาไว้แน่น พร้อมกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ร้อนรนแต่ยังคงเชื่อมั่นในความจริงที่เขามิได้กระทำเรื่องผิดอันใด

หยางชิวเหยาน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา “ท่านพี่...ข้าเชื่อท่าน...ข้าเชื่อว่าท่านจะมิมีวันทำเรื่องเช่นนั้น...แต่ว่า...”

หานอี้หลงยังมิทันได้กล่าวสิ่งใดออกมา จางลู่เหวินก็ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องขังพร้อมดึงร่างของหยางชิวเหยาเข้ามายืนด้านข้างของตนอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

“เจ้า...เจ้าคนต่ำช้า...เจ้าใส่ความข้า...ข้าจะต้องเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด” หานอี้หลงที่เห็นจางลู่เหวินตรงหน้าก็บันดาลโทสะขึ้น เขาชี้หน้าจางลู่เหวินด้วยมือที่สั่นเทา ดวงตาแดงก่ำจ้องมองศัตรูตรงหน้าด้วยสายตาเคียดแค้นที่ฝังแน่นในใจ

จางลู่เหวินยกยิ้มขึ้นมาอย่างคนที่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 29 งานแต่ง

    บทที่ 29 งานแต่งงานแต่งงานของหยางชิวเหยาและจางลู่เหวินถูกประกาศขึ้นอย่างกะทันหันและฉุกละหุก สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก ฎีกาถูกถวายขึ้นร้องเรียนการกระทำดังกล่าวอย่างไม่ขาดสายภายในท้องพระโรงที่มีบรรยากาศเคร่งเครียดอย่างยิ่ง จางลู่เหวินยังคงยืนนิ่งด้วยท่าทางผ่าเผยไร้ความกังวลใจอันใด ใบหน้าของเขายังเรียบเฉยและไม่สะทกสะท้านต่อสายตาของเหล่าขุนนางที่จับจ้องเขาอย่างไม่วางตา“เรียนฝ่าบาท...เรื่องงานแต่งงานของแม่ทัพจางและ...เอ่อ...อดีตฮูหยินหานนั้น หม่อมฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมยิ่งนัก อีกทั้งหลายวันมานี้ใต้เท้าหานก็มิได้ออกมานอกจวน ซ้ำยังมิได้เข้าเฝ้าตามปกติที่เคยพ่ะย่ะค่ะ”“ใต้เท้า...เรื่องข้าแต่งงานหาใช่ธุระอันใดของใครไม่” จางลู่เหวินหันไปกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบต่ำแต่กลับเน้นต่ำอย่างไม่สบอารมณ์“แม่ทัพจาง...เดิมทีฮูหยินหานนั้นมิได้มีข่าวคราวเรื่องการหย่าร้างมาก่อน บัดนี้อยู่ๆ ท่านก็แจ้งว่าข่าวแต่งงานอย่างกะทันหัน หนำซ้ำใต้เท้าหานเองก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เรื่องนี้แม้เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน แต่ความขัดแย้งของขุนนางย่อมสร้างความระคายเคืองต่อฝ่าบาทได้” ใต้เท้าคนดังกล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 30 เข้าหอ

    บทที่ 30 เข้าหอเสียงประทัดดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณถึงงานพิธีที่เสร็จสิ้นลง หานอี้หลงทรุดกายลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวังอย่างแรง น้ำตาไหลซึมจากปลายหางตาพร้อมใบหน้าที่ดูซีดเซียว ดวงตาหม่นแสงลงราวกับความหวังและความฝันที่พังครืนลงตรงหน้าอย่างไร้ซึ่งหนทางไปต่อได้พ่อบ้านพยายามเข้ามาพยุงร่างของหานอี้หลงอีกครั้งแต่เขากลับสะบัดมือจากการเหนี่ยวรั้ง สายตายังคงจับจ้องไปที่ประตูจวนอย่างเฝ้ารอคอยอยู่เช่นเดิมด้วยความหวังอันริบหรี่หลังจากพิธีเสร็จสิ้น หยางชิวเหยาถูกพาตัวไปยังเรือนนอนที่ตระเตรียมเอาไว้ ใบหน้าของนางราบเรียบไร้ซึ่งความรู้สึกอันใด สองมือบีบเคล้นกันไปมาด้วยความคิดในหัวของนาง หยางชิวเหยายังคงนั่งนิ่งเงียบโดยมิได้ปริปากอันใด ส่งผลให้เสี่ยวเว่ยรู้สึกหวาดหวั่นใจและเป็นห่วงนายหญิงของตนยิ่งนักในขณะที่จางลู่เหวินเมื่อเสร็จสิ้นพิธี เขาคำนับแขกเหรื่อที่มาในงานเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปหาองครักษ์ข้างกาย พร้อมเร่งฝีเท้าไปยังด้านหน้าจวนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเสียอารมณ์ในงานแต่งงานอันน่ายินดีเช่นนี้จางลู่เหวินก้าวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าของหานอี้หลงที่บัดนี้ยังคงนั่งนิ่งอยู่ด้านหน้าจวนอย่างหมดสภาพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 31 คนที่เจ้าควรเรียกขานคือข้า

    บทที่ 31 คนที่เจ้าควรเรียกขานคือข้าหยางชิวเหยากล่าวจบก็ยกมือขึ้นปิดหน้า นางร่ำไห้ออกมาอย่างมิอาจข่มกลั้นอีกต่อไป จางลู่เหวินได้แต่นั่งนิ่งพร้อมจ้องมองหญิงสาวคนรักด้วยหัวใจที่แหลกสลาย เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสร่างบางตรงหน้าแต่แล้วสุดท้ายจางลู่เหวินก็ชะงักค้างไป “นอนเสียเถิด” จางลู่เหวินพูดจบก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้กับหยางชิวเหยา ดวงตาเหม่อลอยไปเบื้องหน้าอย่างมิอาจขบคิดสิ่งใดต่อไปได้อีกหยางชิวเหยาสะอื้นไห้อยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะค่อยๆ ล้มตัวลงนอนหันหลังให้จางลู่เหวินเฉกเช่นเดียวกัน เสียงสะอื้นดังแว่วอยู่สักครู่หนึ่งก่อนที่ราตรีที่มืดมิดจะค่อยๆ กลืนกินทุกสิ่งจนมิมีเสียงอันใดอีกแสงแรกของรุ่งอรุณลอดผ่านเข้ามาด้านในห้อง จางลู่เหวินค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ เขาหันกายจ้องมองหยางชิวเหยาที่นอนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลายวันนี้นับได้ว่าเป็นวันที่พวกเขาทั้งสองเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามธรรมเนียมอย่างที่พวกเขาเคยวาดฝันเอาไว้ แต่เหตุใดเมื่อมองใบหน้าของหยางชิวเหยาในเวลานี้ จางลู่เหวินกลับรู้สึกเศร้าหมองขึ้นมาโดยมิรู้ตัวคำพูดของหยางชิวเหยาที่ยังคงดังกึกก้องอยู่ในหัว แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะมึนเมาไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 32 ขอความเป็นธรรม

    บทที่ 32 ขอความเป็นธรรมหานอี้หลงยังคงนั่งจมจ่ออยู่ที่ด้านหน้าจวนของจางลู่เหวินอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะถูกเหล่าทหารยืนขวางกั้นเอาไว้ แต่ด้วยฐานะขุนนางสูงศักดิ์ทำให้พวกเขามิกล้าทำอันตรายอันใดหานอี้หลงได้มากกว่านี้ราตรีที่เนิ่นนานผ่านไปราวกับเวลาที่หมุนผ่านไปนับเป็นสิบๆ ปี แสงอรุณที่เริ่มสาดส่องกระทบใบหน้าของหานอี้หลงที่ในเวลานี้ซีดเซียวจนแทบไร้สีบนใบหน้า“นายท่าน...พวกเรากลับกันก่อนเถิดขอรับ” พ่อบ้านพยายามคอยเตือนสติของหานอี้หลงด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะรอเหยาเอ๋อร์...” หานอี้หลงเพ้อออกมาโดยที่สายตาอันเลื่อนลอยยังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูจวนเฉกเช่นเคยทหารองครักษ์นายหนึ่งเดินออกมาจากจวนจางลู่เหวิน ก่อนจะโค้งกายคำนับหานอี้หลงด้วยความเกรงใจอยู่ในท่าที “เรียนใต้เท้าหาน...เชิญท่านกลับก่อนเถิด ท่านแม่ทัพและฮูหยินยังมิอาจมาต้อนรับท่านได้ในเวลานี้...ขอใต้เท้าอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย”หานอี้หลงกัดฟันแน่นด้วยความแค้นเคืองเมื่อได้ยินคำเรียกขานภรรยาของเขาเช่นนั้น หัวใจของเขาราวกับถูกบีบเคล้นจนหลากสลายเมื่อคิดถึงภาพของหยางชิวเหยาหญิงสาวที่เขารักอยู่ในอ้อมกอดของจางลู่เหวินพ่อบ้านจึงมาสะกิดและกระซิบบอกหานอี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 33 แก้วร้าวที่ยากประสาน

    บทที่ 33 แก้วร้าวที่ยากประสานดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทิ้งไว้เพียงแสงสีส้มเรืองรองที่สาดกระทบยอดไม้ในค่ายทหาร เสียงฝีเท้าของเหล่าทหารที่เพิ่งเสร็จจากการฝึกซ้อมในวันนี้ยังคงดังก้อง แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการฝึกที่เคี่ยวกรำอย่างหนัก“วันนี้ท่านแม่ทัพไปกินดีหมีที่ใดมา ถึงได้ฝึกโหดเช่นนี้”“ท่านแม่ทัพเพิ่งแต่งงานหมาดๆ เหตุใดจึงมาใช้แรงอยู่ที่ค่ายทหารเช่นนี้กัน”“เห็นทีพวกเราจะต้องฝึกหนักเช่นนี้ไปอีกนานทีเดียว” เสียงกระซิบกระซาบของเหล่าทหารที่ถูกสั่งฝึกอย่างหนักหน่วงราวกับกำลังจะพุ่งรบในวันพรุ่ง ทำเอาพวกเขาถึงกับบ่นอุบกับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่มีหลังจากใช้แรงไปกับการฝึกอย่างหนัก จางลู่เหวินก็รู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น คำพูดของหยางชิวเหยาในวันแต่งงานทำให้เขาหยุดคิดทบทวนสิ่งต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ในตอนเช้าที่ผ่านมา เมื่อจางลู่เหวินได้มีเวลาใคร่ครวญอย่างหนัก เขาก็เริ่มใจเย็นลงไปมากโข จางลู่เหวินคิดเอาไว้ว่าจะกลับไปปรับความเข้าใจและขอคืนดีกับหยางชิวเหยาอีกสักหนจางลู่เหวินกลับมายังจวนด้วยชุดเกราะที่ยังมอมแมมไปด้วยฝุ่นดิน ร่างกายกำยำของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมผ่านเสื้อผ้าจนเปี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 34 ความหวังครั้งใหม่

    บทที่ 34 ความหวังครั้งใหม่ในขณะเดียวกันหานอี้หลงเดินทางกลับมาจากการเข้าเฝ้าในวังหลวง เสียงฝีเท้าของเขาที่ก้าวเข้ามาภายในจวนด้วยความเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัดเจน บ่าวรับใช้ต่างพากันหลบสายตาจากเจ้านายของตนด้วยความหวาดหวั่นกับสีหน้าและอารมณ์ที่มิสู้ดีเท่าใดนักของหานอี้หลง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในจวนสกุลหานนั้นพลิกผันอย่างมาก นับตั้งแต่ฮูหยินหานจากไป หานอี้หลงก็มีอารมณ์ปรวนแปรจนใครๆ ต่างพากันเข้าหน้าเขาไม่ติดแทบทั้งสิ้นหานอี้หลงก้าวเดินไปตามทางมุ่งหน้าไปยังเรือนของหยางชิวเหยาที่เคยพักอาศัยอยู่ สองเท้าก้าวเดินไปตามทางเดินด้วยสีหน้าหนักอึ้ง สองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน ใบหน้าเคร่งเครียดและดวงตาแดงก่ำสะท้อนถึงความผิดหวังรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกขุ่นมัวจากความลำเอียงของหงจูเหลียงทำให้หานอี้หลงได้แต่อัดอั้นใจแต่เขาเองก็ได้แต่น้ำท่วมปากกับคำขู่ที่หงจูเหลียงประกาศก้องออกมา"พ่อบ้าน นำสุรามาให้ข้า" หานอี้หลงเอ่ยเสียงเข้มเมื่อก้าวเข้ามาภายในเรือนนอน เขาทรุดกายนั่งลงข้างเตียงนอนพร้อมเอนศีรษะแนบไปกับพื้นเตียงด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก กลิ่นกายและสัมผัสของหยางชิวเหยายังคงติดตรึงอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 35 สวามิภักดิ์

    บทที่ 35 สวามิภักดิ์หานอี้หลงเดินทางมาถึงจวนโหวในทันที เขายืนมองจวนโหวที่ครั้งหนึ่งเขานั้นแทบมิได้เคยสังเกตหรือเหลียวแลแม้แต่น้อยเจียงเสิ่นเย่วยืนรอต้อนรับหานอี้หลงอยู่ที่ด้านหน้าจวนด้วยท่าทางกระตือรือร้น ใบหน้าฉายรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์พร้อมแววตามาดมั่นชวนให้หานอี้หลงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย“คารวะท่านโหว” หานอี้หลงโค้งตัวคำนับด้วยท่าทางนอบน้อม“ใต้เท้าหานอย่าได้เกรงใจ...เชิญด้านในก่อนเถิด” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวด้วยท่าทางเป็นกันเองอย่างมากเจียงเสิ่นเย่วเดินนำหานอี้หลงตรงไปยังห้องอักษรของตนในทันที“เชิญใต้เท้าหานดื่มน้ำชาให้คลายเหนื่อยก่อนเถิด ชานี้ข้าได้มาจากแดนใต้รสชานั้นนุ่มลิ้น หอมหวานจนผู้คนต่างหลงใหลยิ่งนัก”เจียงอันเล่อบุตรสาวคนเดียวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเจียงเสิ่นเย่วเป็นผู้ยกน้ำชาเข้ามาด้วยตนเอง พร้อมวางตรงน้ำชาลงตรงหน้าหานอี้หลง อีกทั้งยังเป็นผู้รินน้ำชายกให้แก่หานอี้หลงอย่างนอบน้อม ดวงตาสุกสว่างจ้องมองหานอี้หลง บุรุษที่ได้ชื่อว่ารักมั่นเพียงหญิงเดียวของแคว้นด้วยท่าทีสนอกสนใจ“ใต้เท้าหาน...นี่คืออันเล่อ...บุตรสาวคนเดียวของข้า” เจียงเสิ่นเย่วแนะนำบุตรสาวของตนให้กับห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 36 ประจันหน้า

    บทที่ 36 ประจันหน้าภายในท้องพระโรงแห่งวังหลวง สะท้อนแสงแดดจ้าที่ลอดผ่านหน้าต่างบานสูง แต่บรรยากาศกลับอบอวลไปด้วยความอึมครึมและตึงเครียด จางลู่เหวินยืนหลังตรงพร้อมใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างทะนง ในขณะที่หานอี้หลงเองก็ยืนนิ่งด้วยใบหน้าที่ราบเรียบราวกับน้ำแข็ง ทั้งสองตั้งตัวเป็นคู่อริอันอย่างเห็นได้ชัด บรรดาขุนนางทั้งหลายก็ต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน“ฝ่าบาท ในเวลานี้แคว้นเจี้ยนต่างสงบร่มเย็น แต่คลังเสบียงกว่าครึ่งกลับถูกมอบให้กองทัพ หม่อมฉันเห็นว่าสิ่งนี้มิสมควรยิ่ง หากต้องการส่งเสริมให้แคว้นเจี้ยนเจริญรุ่งเรือง หม่อมฉันเห็นว่าควรตัดทอนเสบียงคลังเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างและส่งเสริมการค้าพ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางฝ่ายบุ๋นผู้หนึ่งที่อยู่ข้างหานอี้หลงรีบกล่าวรายงานออกไป“ฝ่าบาท โปรดทรงพิจารณาด้วย แคว้นเจี้ยนแม้ยามนี้จะมิได้มีศึกสงคราม แต่เมืองน้อยใหญ่ที่รายล้อมล้วนจับจ้องแคว้นเจี้ยนตาเป็นมัน หากการทหารของแคว้นหละหลวมย่อมเป็นช่องโหว่ให้ข้าศึกฉวยโอกาสรุกรานได้พ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางฝ่ายบู๊ที่อยู่ฝั่งจางลู่เหวินรีบกล่าวแทรกขึ้นมาในทันที“แม่ทัพจาง ท่านเห็นเป็นเช่นใด” หานอี้หลงก้าวออกมาจากตำแหน่ง เขาประสาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 64 ข้าจะรอเจ้า

    บทที่ 64 ข้าจะรอเจ้าลมเย็นโบกสะบัดพัดผ่านยอดเขาส่งเสียงหวีดหวือประสานกับเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันคล้ายบทสวดที่ธรรมชาติคอยขับกล่อม อารามอันเงียบสงบตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนที่สูงชะลูดโอบล้อมรอบบริเวณอารามแห่งนี้ราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แสงตะวันอ่อนของยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุม ไม้ระแนงเก่าแก่ของอารามส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้จันทน์ชวนให้รู้สึกสงบใจหยางชิวเหยาสวมอาภรณ์สีขาวอย่างเรียบง่าย ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความทุกข์ใจและหม่นหมองในวันวาน เวลานี้กลับดูสงบนิ่งอย่างผู้ที่ผ่านการขัดเกลาจากธรรมะและกาลเวลาจนจิตใจของนางสงบและเยือกเย็นลงดวงตาคู่งามของหยางชิวเหยาไม่เหลือร่องรอยของความเศร้าโศกอย่างที่เคยเป็นแต่กลับแฝงไปด้วยความสงบนิ่งและการปล่อยวางได้เป็นอย่างมากหลังจากที่หยางชิวเหยาเข้ามาถือศีลในอารามแห่งนี้ นับเป็นเวลากว่าสามปีเต็มที่นางมิเคยติดต่อกับผู้ใดอีกเลย นางละทิ้งโลกภายนอกไว้เบื้องหลังราวกับมันมิเคยเกิดขึ้นและมีอยู่จริง ในทุกวันนางจะใช้เวลาอยู่กับการถือศีล ท่องบทสวดมนต์ และทำจิตใจให้เบาบางลงเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่หานอี้หลงถูกประหารชีวิตลง หยางชิวเหยาก็ได้แต่ทน

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 63 ประหารชีวิต

    บทที่ 63 ประหารชีวิตลมหนาวพัดโชยในช่วงเวลาเช้าจนชวนให้รู้สึกขนลุกชันขึ้นมา บรรยากาศภายในเมืองหลวงต่างอึมครึมและหนักอึ้งไปด้วยความตึงเครียดจากเหตุการณ์กบฏที่เกิดขึ้น หน้าประตูวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าในวันนี้กลับคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่ต่างมารอดูจุดจบของเหล่านักโทษกบฏเสียงฝีเท้าของเหล่าทหารที่เหยียบย่างไปตามพื้นอย่างหนักหน่วงและมั่นคง แสงแดดยามเช้าที่ตะวันเริ่มเคลื่อนคล้อยขึ้นลอยเหนือหัวขึ้นมาทุกทีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างได้ยินข่าวเกี่ยวกับการประหารชีวิตของหานอี้หลงและคนสกุลเจียงทั้งครอบครัว ทุกคนต่างอยู่ในความตื่นตะลึงและใจหายขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้หานอี้หลงผู้ซึ่งเป็นบุรุษที่สง่างามน่าเคารพ บุรุษที่ต่างเป็นที่หมายปองของเหล่าหญิงสาวในเมืองหลวง บัดนี้กลับกลายเป็นนักโทษกบฏที่รอเวลาประหารชีวิตในขณะที่ท่านโหวเจียงเสิ่นเย่วผู้มีจิตใจเมตตาและเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวง บัดนี้ต่างมีจุดจบอันเลวร้ายไม่ต่างกันหานอี้หลงและเจียงเสิ่นเย่วถูกนำตัวมายังลานประหารที่หน้าวังหลวง หานอี้หลงนั่งคุกเข่าลงบนพื้นดินด้วยสีหน้าที่ยังคงราบเรียบและดูสงบนิ่ง ในขณะที่เจียงเสิ่นเย่วกลับมีท่าทางคอตกดั

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 62 คุมขัง

    บทที่ 62 คุมขังภายในคุกกรมอาญา ความมืดมิดและความเงียบสงัดทำให้บรรยากาศรอบตัวหานอี้หลงดูราวกับถูกกลืนกินด้วยความสิ้นหวัง ทุกอย่างรอบตัวเต็มไปด้วยความเย็นเยียบจนแทบจะสัมผัสได้ ราวกับอากาศในที่แห่งนี้ถูกผนึกด้วยความเจ็บปวด ความโหดร้าย และการทรมานทางจิตใจที่ไม่รู้จักจบสิ้นหานอี้หลงนั่งอยู่บนพื้นหินที่เย็นชืด ข้อมือถูกตรึงด้วยโซ่ที่มีความหนาและหนักหน่วง มือขวาของเขาถูกยึดแน่นจนไม่สามารถขยับได้อย่างอิสระ ดวงตาของเขาหม่นหมองไปด้วยความเศร้าโศกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ทุกสิ่งในชีวิตของเขาดูเหมือนจะพังทลายลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิงหานอี้หลงไม่สามารถหนีจากโชคชะตาที่ถูกบีบบังคับมาได้ ในขณะที่รอคอยวันที่จะเป็นการประหารชีวิตของเขา ความคิดที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดและหนักอึ้งจนมิอาจปล่อยวางลงได้ยังคงมีเพียงเรื่องเดียวในชีวิตนั่นคือหยางชิวเหยา และเขาจะไม่มีโอกาสได้พบกับคนที่เขารักอีกต่อไปแล้วในขณะที่หานอี้หลงกำลังหลับตาและข่มกลั้นความเจ็บปวดรวดร้าวในใจอยู่นั้น พลันเสียงฝีเท้าหนึ่งก็ก้าวเข้ามาใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆทันทีที่หานอี้หลงเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองคนตรงหน้าผ่านลูกกรงเหล็กแข็งนั้น ดวงตาของหานอี้หลงก็เบิก

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 61 แผนซ้อนแผน

    บทที่ 61 แผนซ้อนแผนสิ้นเสียงของหงจูเหลียง เหล่าทหารก็กรูกันเข้ามาด้านในห้อง พร้อมกับร่างใหญ่ที่สาวเท้าเข้ามาด้วยท่าทางหยิ่งทะนง ร่างของจางลู่เหวินปรากฏตัวขึ้นในความมืด เขาสวมชุดเกราะทหารที่ทำให้เขาดูสง่าผ่าเผยพร้อมใบหน้าราบเรียบแต่เย็นชายิ่งนักหานอี้หลงตกตะลึงเป็นอย่างมาก ภาพของจางลู่เหวินตรงหน้าราวกับสายฟ้าที่ฟาดเข้ามาตรงกลางหน้าผากของเขาเข้าอย่างจัง หานอี้หลงไม่คาดคิดเลยว่าในช่วงเวลาที่เขาคิดว่ากำลังจะชนะ จางลู่เหวินกลับมาปรากฏตัวในแบบที่ไม่คาดฝัน “จางลู่เหวิน...เจ้า...”“หานอี้หลง...เจ้าคงคิดสินะว่าแผนการของเจ้าฉลาดล้ำลึกจนมิมีผู้ใดเทียบ” จางลู่เหวินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้า...เจ้า...” หานอี้หลงพึมพำในลำคอด้วยความตกใจ รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมาจางลู่เหวินยิ้มเยาะออกมาอย่างเหนือกว่าด้วยความเย็นชา “หานอี้หลง ข้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการของเจ้า แต่เพื่อให้เจ้าตายใจ ข้ากับฝ่าบาทจึงเลือกที่จะเล่นงิ้วตามพวกเจ้าก็เพียงเท่านั้น”คำพูดของจางลู่เหวินทำให้หานอี้หลงรู้สึกเหมือนถูกฟันไปที่หัวใจ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แทรกซึมเข้ามาภายในร่างกาย “เจ้า... เจ้า...” หานอี

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 60 ก่อกบฏ

    บทที่ 60 ก่อกบฏทหารที่ยืนเฝ้ายามที่รอบบริเวณจวนสกุลจาง ทำให้หยางชิวเหยาอดนึกหวาดหวั่นและตกใจขึ้นมาไม่ได้ “ลู่เหวิน...นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”จางลู่เหวินเดินเข้ามาสวมกอดหยางชิวเหยาเอาไว้อย่างต้องการปลอบขวัญ “ชิวเหยา...เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไป อีกไม่นานทุกอย่างก็จะคลี่คลาย” จางลู่เหวินปลุกปลอบหยางชิวเหยาให้คลายความกังวลใจ“ท่านจะไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” หยางชิวเหยายังคงอดห่วงจางลู่เหวินไม่ได้“ข้ามีเจ้าอยู่เคียงข้าง...ข้าย่อมไม่กล้าเป็นอันใดเป็นอันขาด” จางลู่เหวินกล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ท่านมิได้หลอกข้าใช่หรือไม่” หยางชิวเหยายังคงไม่แน่ใจกับคำกล่าวของจางลู่เหวินเสียทีเดียว“ข้ามิได้พักผ่อนเสียนาน...ถือโอกาสนี้นอนกกกอดเจ้าทั้งวันทั้งคืนดีหรือไม่” จางลู่เหวินพูดจากรุ้มกริ่มใส่หยางชิวเหยาอย่างอารมณ์ดี“ลู่เหวิน...ท่านนี่นะ...เรื่องราวหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้...ท่านยังมีแก่ใจมาพูดเล่นอยู่อีก” หยางชิวเหยาบ่นกระปอดกระแปดออกมาจางลู่เหวินหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอารมณ์ดี หยางชิวเหยาเห็นเช่นนั้นก็ค่อยผ่อนคลายความวิตกกังวลที่มีลงไปเป็นอันมากในขณะเดียวกันที่จวนโหวก็เริ่มมีการเคลื่อ

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 59 มิอาจรั้งรอได้อีก

    บทที่ 59 มิอาจรั้งรอได้อีกช่วงสายวันต่อมาหานอี้หลงลืมตาตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกปลอดโปร่ง ในยามค่ำคืนที่ผ่านมา ภาพความทรงจำที่เขามีทั้งสัมผัสอันเร่าร้อนและไออุ่นของหยางชิวเหยายังคงตราตรึงอยู่ในความนึกคิดของเขา จนหานอี้หลงอดยกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว หานอี้หลงพลิกกายหันไปดึงรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดราวกับคนละเมอ “เหยาเอ๋อร์...”ฉับพลันอ้อมแขนของหานอี้หลงก็ชะงักค้างเมื่อเพ่งสายตามองร่างบางตรงหน้า หญิงสาวในอ้อมกอดของเขามิใช่หยางชิวเหยาแต่กลับกลายเป็นเจียงอันเล่อหานอี้หลงหยัดกายขึ้นพร้อมกุมศีรษะด้วยความปวดหัวจากฤทธิ์สุราที่มี เจียงอันเล่อลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เนื่องจากค่ำคืนที่ผ่านมาหานอี้หลงเคี่ยวกรำนางจนแทบมิได้พัก แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหานอี้หลง เจียงอันเล่อก็ตาสว่างขึ้นมาในทันที“ท่านพี่...” เจียงอันเล่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นใด” หานอี้หลงเบือนหน้าหนีร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า“เมื่อคืนข้ากับท่านร่วมหอกันทั้งคืน...ท่านพี่จำมิได้หรือ” เจียงอันเล่อเอ่ยออกมาแม้ว่าจะรู้ดีว่าเมื่อคืนคนที่หานอี้หลงคิดว่าร่วมหลับนอนด้วยคือหยางชิวเหยา“เมื่อคืนข้าคงเมามากไปหน

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 58 ตัดสัมพันธ์

    บทที่ 58 ตัดสัมพันธ์หานอี้หลงและหยางชิวเหยาดึงรั้งขัดขืนกันไปมาอย่างอลหม่าน ในความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทันใดนั้นบานประตูก็ถูกผลักออกอย่างแรง จางลู่เหวินปรากฏกายขึ้นตรงด้านหน้าพร้อมกับสายตาที่คุกรุ่นราวกับเปลวไฟ “หานอี้หลง...เจ้า...”จางลู่เหวินตวาดออกมาด้วยความเดือดดาลก่อนจะปรี่เข้ามากระชากตัวหานอี้หลงออกห่างจากหยางชิวเหยาอย่างรุนแรง ตามมาด้วยกำปั้นหนักที่ซัดเข้าหน้าของหานอี้หลงจนร่างของเขาเซถลาถอยหลังไปกระแทกกับขอบโต๊ะ“หานอี้หลง...เจ้าช่างต่ำช้ายิ่งนัก” จางลู่เหวินตวาดด้วยน้ำเสียงกร้าว สองมือกำหมัดแน่น สายตาคมดุดันของเขาจ้องมองหานอี้หลงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะหันไปหาหยางชิวเหยาที่อยู่ด้านหลัง “ชิวเหยา...เจ้าเป็นอันใดหรือไม่”หยางชิวเหยาน้ำตาเอ่อล้นออกมาอาบแก้มแต่นางก็ทำเพียงส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอื้อฉาวอันใดขึ้นมาอีกหานอี้หลงทรงตัวยืนขึ้นอีกครั้ง มือหนายกขึ้นกุมแก้มที่บวมแดงจากแรงชก แต่สายตายังคงจ้องจางลู่เหวินด้วยความคั่งแค้น ในขณะที่สายตากลับทอดมองหยางชิวเหยาด้วยความเจ็บปวดและนึกน้อยใจยิ่งนัก “จางลู่เหวิน...เจ้ายังกล้ามาพูดเช่นนี้กับข้าหรือ...เจ้าเป็นคนพราก

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 57 ข้ารักเจ้า

    บทที่ 57 ข้ารักเจ้าตลาดในยามสายคึกคักด้วยเสียงผู้คนที่เดินสวนกัน เสียงหัวเราะของเด็กเล็กผสานกับเสียงตะโกนเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ขาย กลิ่นหอมของอาหารทอดลอยมาตามลม ชวนให้ผู้คนหยุดมองหาแหล่งที่มาของกลิ่น ร่มผ้าหลากสีปกคลุมแผงลอย เรียงรายไปตามถนนหินกรวดที่สะอาดสะอ้านและเปล่งประกายเมื่อแสงแดดตกกระทบหยางชิวเหยากำลังเลือกดูผ้าแพรพรรณจากร้านค้าที่มีชื่อในเมืองหลวง นางตั้งใจตัดเย็บชุดใหม่ให้จางลู่เหวินผลัดเปลี่ยนเสียบ้าง หยางชิวเหยาใส่ชุดผ้าแพรบางเบาสีฟ้าครามที่ทำให้นางดูโดดเด่นกว่าใครในหมู่ลูกค้าทั้งหลาย นางดูงดงามราวกับบุปผาที่หมู่มวลภมรต่างหมายปองดอมดม ดวงตาคู่งามกวาดมองพับผ้าที่เถ้าแก่เนี้ยพยายามแนะนำด้วยรู้ดีว่าการค้าครั้งนี้ย่อมหมายถึงกำไรอันมากโข หยางชิวเหยาจ้องมองผืนผ้าพร้อมยกมือขึ้นลูบสัมผัสไปทีละผืนอย่างใส่ใจ“เหยาเอ๋อร์” เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง หยางชิวเหยาชะงักค้างก่อนจะหันไปมองตามเสียงเรียกดังกล่าวหานอี้หลงหยุดยืนอยู่ด้านหลังของหยางชิวเหยา พร้อมรอยยิ้มกว้างอย่างรู้สึกดีใจยิ่งนัก เขาสวมใส่ชุดสีขาวปักลายเมฆสีน้ำเงินที่ทำให้ดูภูมิฐานและสง่างามอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ใบหน้าคมค

  • ชะตารักพันธนาการ   บทที่ 56 ตบแต่งฮูหยินรอง

    บทที่ 56 ตบแต่งฮูหยินรองข่าวการตกแต่งฮูหยินรองเข้าจวนสกุลหานแพร่กระจายออกไปอีกครั้ง พร้อมกับงานแต่งที่ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว จวนสกุลหานถูกประดับประดาอย่างงดงาม เสียงขลุ่ยและกลองดังสนั่นหวั่นไหว ขุนนางต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดี ทว่ากลับมีเสียงโจษจันขึ้นในเรื่องการแต่งงานที่กะทันหันและไล่เลี่ยกันเช่นนี้ รวมถึงเสียงกระซิบกระซาบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหานอี้หลงและหงอวิ๋นชิวในเวลานี้หานอี้หลงยืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่หงอวิ๋นชิวกลับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มราวกับเป็นเรื่องยินดีเพิ่มขึ้น นางมิได้มีความรู้สึกฉันชายหญิงกับหานอี้หลงแม้แต่น้อย ตราบใดที่ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของตนยังคงมั่นคงอยู่ ดังนั้นการรับเจียงอันเล่อเข้ามาเป็นฮูหยินรองของจวนหรือแม้กระทั่งหญิงสาวคนใดเข้ามาในจวนก็มิได้ทำให้นางรู้สึกสะเทือนใจอันใด แต่เพราะหงอวิ๋นชิวนั้นมีความฉลาดอยู่มากทำให้นางรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเจียงอันเล่อนั้นนับเป็นหมากตัวหนึ่งบนกระดานของหานอี้หลงในการแย่งชิงอำนาจในอนาคตอันใกล้นี้ นั่นยิ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับตนยิ่งนักเจียงอันเล่อในชุดเจ้าสาวสีแดงสด ก้าวลงจากเกี้ยวด้วยรอยยิ้มหวานอย่างรู้สึกมีความส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status