หลังจากมื้ออาหารที่สุดแสนจะอร่อยกว่าทุกมื้อที่เคยกินมาในความรู้สึกของอ้ายเย่วจบลง เสี่ยวเอ้อก็ยกน้ำชากาใหม่มาเปลี่ยนอย่างรู้งานนัก อ้ายเย่วจึงเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาอย่างจริงจังเพราะนางอยากไปเดินชมตลาดเต็มที อยากจะออกไปเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของยุคนี้โดยมีบุรุษรูปงามเดินเคียงคงจะดูโรแมนติกสุดๆ"ท่านแม่ทัพมีอะไรจะพูดกับข้าก็พูดมาเถอะเจ้าค่ะ ข้ามีธุระต้องไปทำต่อ"แม่ทัพหานลู่เหวินที่ฟังสตรีที่เขาให้คนออกตามหาอยู่หลายวันเอ่ยขึ้นอย่างห่างเหินนักรู้สึกเจ็บจุกในอกแปลกๆ จึงสูดลมหายใจลึกเข้าปอดหลับตาลงอย่างตัดสินใจ เขาไม่ยอมเสียนางไปเด็ดขาด"ข้าอยากให้เจ้ากลับไปอยู่ที่จวนแล้วข้าจะจัดพิธีมงคลสมรสระหว่างเราให้เร็วที่สุด ตามที่บิดาของเราได้ตกลงกันไว้ และขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องรอมานาน""............"อ้ายเย่วที่ตกตะลึงกับคำกล่าวของแม่ทัพลู่เหวินที่บทจะง่ายก็ง่ายจนใจหาย แล้วหันไปมองหน้าสตรีอีกคนที่เห็นประกายยินดีในแววตาวูบหนึ่งก่อนตาคู่นั้นจะชำเลืองมองไปยังบุรุษอีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านางด้วยแววตาหวานหยดย้อย แต่บุรุษผู้นั้นกำลังมองมายังนางอย่างรอคอยคำตอบเช่นกัน"ต้องขอโทษท่านแม่ทัพด้วย ข้ามิได้คิดกับท่า
หลังจากออกจากเหลาอาหารอ้ายเย่วและเล่อชินอ๋องก็พากันมาเดินชมตลาดยามค่ำคืนโดยมีบุรุษและสตรีที่ทำตัวเป็นปลิงเกาะไม่ยอมปล่อย ช่างขัดหูขัดตานางนัก นางจะสวีทกับบุรุษข้างกายให้หวานชื่นดังคู่รักพึงกระทำให้ฉ่ำหัวใจเสียหน่อยก็ไม่ได้ คนสวยเซ็ง เดินมาจนถึงร้านเครื่องประดับที่มีเครื่องประดับสำหรับสตรีมากมายนักจนนางมองด้วยแววตาแปร่งประกาย เครื่องประดับยุคโบราณนี้ช่างงดงามดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด"เย่วเอ๋อ ชอบหรือ" เสียงทุ้มที่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสายตาของนาง ร่างบางจึงพยักหน้าหงึกหงักอย่างน่าเอ็นดูนัก"อยากได้ชิ้นใดเลือกได้เลย พี่อยากซื้อเป็นของแทนใจชิ้นแรกระหว่างเรา หากชอบหมดทั้งร้านก็ย่อมได้" ร่างสูงที่เอ่ยขึ้นพร้อมมองสบตานาง หากเจ้าอยากได้สิ่งใดพี่พร้อมจะประเคนให้ แม้แต่ตัวพี่หากเจ้าอยากได้พี่ก็ยินดียิ่งนักสายเปย์เสียด้วยพ่อเทพบุตรของฉัน ภาพบุรุษและสตรีตรงหน้าที่ทำเหมือนรอบกายมีแค่เพียงสองคนสร้างความเดือดดาลให้สตรีที่เดินมาด้านหลังนัก หันมองบุรุษข้างกายที่ทำหน้าเหมือนคนกำลังจะตายแต่ไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง อย่างขัดใจนัก จึงสะบัดหน้าเดินกลับออกไป นางต้องกลับไปตั้งหลักก่อน ขืนอยู่ต่อนางคงต้องแค้
เล่อชินอ๋องที่ได้ทำความรู้จักและสัมผัสนิสัยใจคอของสตรีที่พระองค์พึงใจนั้น ก็รู้สึกได้ว่าพระองค์ไม่อาจถอนตัวถอนใจมาจากนางได้อีกแล้ว ยิ่งได้รู้จักได้ใกล้ชิดพระองค์ก็ยิ่งปักใจรักในตัวนาง อยากมีนางอยู่เคียงข้างตลอดไป เวลานางทำอะไรหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมาช่างดูน่าเอ็นดูนัก สตรีของชินอ๋องจะดูธรรมดาได้อย่างไร พระองค์ที่คอยสังเกตอากัปกิริยาของนางอยู่ตลอด นึกเอ็นดูนางมารน้อยของพระองค์นัก นางช่างร้ายกาจใช่เล่น รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมมารยาของผู้อื่นเสมอแต่แกล้งทำหน้าตาใสซื่อจนพระองค์นึกขำ แต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ความจริงนั้นพระองค์ต้องกดข่มไม่ให้เผลอแสดงท่าทีให้นางจับได้"ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ทำไมพระองค์ถึงไม่บอกแม่นางเมิ่งไปล่ะ ว่าพระองค์คือชินอ๋องจ้าวหย่งเล่อ เดี๋ยวนางมารู้ทีหลังจะพาลโกรธพระองค์เอาได้นะพ่ะย่ะค่ะ"องครักษ์ต้าหลงที่เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะเล่อชินอ๋องนั้นไม่ยอมบอกแม่นางเมิ่งว่าตัวเองเป็นใคร ปล่อยให้นางเข้าใจผิดคิดว่าพระองค์เป็นแค่พระญาติของเล่อชินอ๋องเท่านั้น การเริ่มต้นด้วยการโกหกนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างยิ่ง"กำลังหาทางบอกอยู่"พระองค์ใช่ว่าจะไม่กลัวว่านางจะโกรธ และพ
วันนี้อ้ายเย่วลุกขึ้นมาแต่เช้าเพื่อช่วยจิ้นผิงและเจ้าลิงทโมนสองพี่น้องนำดอกไม้ลงแปลงจนล่วงเลยมายามบ่ายถึงจะเสร็จเรียบร้อย ยืนมองสวนดอกไม้ของนางที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างที่นางออกแบบไว้อย่างภูมิอกภูมิใจนัก รอแค่ให้มันแข็งแรงและออกดอกเท่านั้น ฝีมือการแต่งสวนของนางไม่ธรรมดาเลย คนบ้าอะไรทั้งสวยและเก่งขนาดนี้ เฮ่อ ชอบตัวเองจริงๆ เลยอะ อิอิ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้นางถึงกับหมดแรงกันเลยทีเดียว การปลูกดอกไม้ก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยนะนี่ ร่างบางที่ยืนชื่นชมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับฝีมือตัวเองอยู่นั้นช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาบุรุษที่ยืนมองนางอยู่นักถึงแม้ตอนนี้ร่างสตรีตรงหน้าจะดูมอมแมมเต็มไปด้วยเศษดินเศษหญ้าแต่ก็ไม่อาจลดทอนความงดงามของนางลงได้ แต่นางกลับดูน่ารักไปอีกแบบอ้ายเย่วที่กำลังหมุนกายเพื่อจะไปอาบน้ำชำระเหงื่อไคลเพราะตอนนี้รู้สึกเหนียวตัวนักแต่กลับพบกับร่างสูงที่นางเห็นหน้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาจนกลายเป็นความคุ้นชินไปเสียแล้วยืนส่งยิ้มมาให้และในอ้อมแขนยังอุ้มเจ้าขนปุยที่นางรู้ว่าเป็นแมวของวังจันทราที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นลูกรักของบุรุษหล่อเหลาที่อุ้มมันอยู่ นึกถึงสิ่งที่บุรุษผู้นี้กล่าวเหตุผลที่เอาอกเอ
หลายวันมานี้ชีวิตของอ้ายเย่วช่างสงบเงียบเหงายิ่งนักเพราะพ่อเทพบุตรสุดหล่อของนางต้องไปทำธุระให้เล่อชินอ๋องต่างเมือง ทำให้นางไม่มีคนคุยด้วยและคนพาไปเดินเที่ยว วันนี้นางจึงได้เดินหงอยเหงาอยู่คนเดียว กำลังเดินชมแปลงดอกไม้ที่นางลงมือปลูกกับมือที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างพออกพอใจนักพอมันโตเต็มที่คงงดงามกว่านี้เป็นแน่ไม่เสียแรงที่นางอุตส่าห์ทะนุถนอมรดน้ำพรวนดิน ผลที่ได้เป็นที่น่าปลื้มใจอย่างมาก โดยเฉพาะดอกเหมยกุยฮวาที่ดูงดงามที่สุดออกดอกที่สมบูรณ์เป็นอย่างมากเพราะนางมาดูแลทุกวัน ต้นเหมยกุยต้นนี้นางกับหยางเล่อช่วยกันปลูกเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความรักของเรา ช่างดูโรแมนติกนักใช่ไหมล่ะ กำลังชื่นชมดอกเหมยกุยและคิดถึงคนที่ร่วมรดน้ำพรวนดินเพราะไม่เห็นหน้ามาหลายวันทำให้หัวใจนางห่อเหี่ยวยิ่งนัก ความรักนี่ช่างน่ากลัวเสียจริงพอไม่เห็นหน้าก็โหยหาทรมานใจ พออยู่ใกล้ก็ทำให้หัวใจร้อนเร่าลุ่มหลง นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหากนางผิดหวังในรักครั้งนี้จะเป็นเช่นไร นางคงเข็ดขยาดไม่กล้ามีรักอีกเป็นแน่"คุณหนูเจ้าคะ จดหมายจากคุณชายโจเจ้าค่ะ" จิ้นผิงที่เดินเอาจดหมายที่มีทหารนายหนึ่งมาส่งให้บอกว่าคุณชายโจหยางเล่อฝากมาให้คุณหนูของ
ร่างบางที่มองไปยังร่างสูงของบุรุษสารเลวที่ก้าวเข้ามาหานางอย่างเชื่องช้าในตาแดงก่ำด้วยแรงอารมณ์นั้นอย่างหมดสิ้นความหวัง พี่หยางเล่อท่านอยู่ไหนช่วยข้าด้วย"กรี๊ดดด" เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงมือหยาบกระด้างที่แตะโดนตัว พร้อมกับเห็นร่างสูงของบุรุษที่คิดย่ำยีนางล้มลงไปอีกด้านอย่างแรงด้วยฝีมือของใครบางคน พร้อมกับร่างกายนางที่ไม่อาจจะควบคุมความรู้สึกฝ่ายต่ำได้อีกต่อไป รับรู้ได้แค่อ้อมแขนที่โดนร่างกายนางจนรู้สึกร้อนเร่ากับกลิ่นกายที่ดูคุ้นเคยของบุรุษที่สวมหน้ากากตรงหน้าที่นางอยากให้เขาสัมผัสนางให้มากกว่านี้กดข่มความรู้สึกน่ารังเกียจของตัวเองที่เกิดขึ้นร้องไห้ออกมา"ไม่ปล่อยข้า พี่หยางเล่อช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย" กล่าวได้เพียงแค่นั้นร่างกายที่ร้อนรุ่มก็โถมเข้าหาร่างหนาที่โอบประคองนางอย่างไม่อาจระงับอารมณ์เอาไว้ได้ส่งเรียวปากเล็กที่จูบสะเปะสะปะไปทั่วหน้าอกแกร่งตามอารมณ์กำหนัดที่เกิดขึ้นจากฤทธิ์ยาอย่างไร้สติ เล่อชินอ๋องที่ขบกรามแกร่งจนแน่นไม่อยากคิดเลยว่าหากพระองค์ไม่บังเอิญอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งเห็นอาการของสตรีในอ้อมแขนพระองค์อยากจะสับบุรุษสารเลวผู้นั้นเป็นหมื่นๆ ชิ้น พระอง
อ้ายเย่วที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นในตอนฟ้าสางพร้อมอาการเจ็บร้าวตามร่างกายโดยเฉพาะตรงส่วนนั้นที่รู้สึกถึงความเจ็บหน่วงและความเฉอะแฉะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไหลเวียนเข้ามากระแทกใจนางอย่างแรงจนกายงามเปลือยเปล่าสั่นสะท้านน้ำตาไหลพราก หมดสิ้นแล้วความสาวที่หวงแหนเพื่อมอบให้ชายคนรักต่อไปนี้นางจะสู้หน้าเขาได้อย่างไร รีบพยุงกายบอบช้ำหันมองรอบกายที่ว่างเปล่าเห็นเพียงร่องรอยเปรอะเปื้อนของคราบเลือดและรอยราคีบนเตียงนอนยับย่นที่บ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนนี้เตียงนี้ผ่านศึกมารุนแรงเพียงไร ก้มลงหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรีบเร่งสายตาพลันหันไปเห็นหน้ากากสีดำที่ตั้งอยู่บนชุดสีดำเนื้อผ้าบ่งบอกถึงยศศักดิ์ผู้เป็นเจ้าของภาพบุรุษสวมหน้ากากก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด"เล่อชินอ๋อง" นางอยากกัดลิ้นตัวเองตายนักพระองค์ยังอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่ ดวงตาแดงช้ำที่แฝงไปด้วยความหวาดหวั่นคิดเพียงพาตัวเองออกไปจากที่นี่ จะให้พระองค์เห็นนางไม่ได้หากโจหยางเล่อรู้ว่านางพลาดท่าให้เล่อชินอ๋องผู้เป็นญาติของตนเองจะรู้สึกเช่นไรเขาจะเสียใจแค่ไหนนางไม่อยากจะคิด ร่างบางจึงรีบหลบออกจากห้องที่นางก้าวเข้ามาดุจเจ้าหญิงแต่พอกลับออกไปสภาพดูแทบไม่ได้เล่อชินอ๋
เสียงสรวลที่ดังลั่นอย่างพอพระทัยจนลอดออกมาจากห้องทรงอักษรของฮ่องเต้จ้าวจงเยี่ยน ผู้เป็นใหญ่ที่สุดของแคว้นจ้าว สร้างความประหลาดใจให้ข้าราชบริพารเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทกำลังเคร่งเครียดกับข่าวการปล้นสะดมของกองโจรฝั่งชายแดนใต้ถึงขนาดส่งเล่อชินอ๋องไปจัดการหลอกหรือ ฮ่องเต้จ้าวจงเยี่ยนที่ฟังคำรายงานจากองครักษ์ต้าหลงที่กำลังรายงานเรื่องราวเกี่ยวกับพระอนุชาของพระองค์ที่อายุห่างจากพระองค์ถึงสิบห้าชันษาอย่างรู้สึกยินดีนัก พระองค์คิดว่าอนุชาองค์นี้ของพระองค์จะไม่คิดจะออกเรือนแล้วเสียอีก พระองค์เพียรส่งสาวงามเข้าตำหนักอ๋องอยู่หลายครั้งกลับโดนปฏิเสธมาตลอด แต่ตอนนี้บทจะมีน้องสะใภ้ก็ทำเอาพระองค์ไม่ทันตั้งตัว ส่วนเจ้าตัวดีที่ตอนนี้ออกอาการกระฟัดกระเฟียดเพราะพอมีเมียก็มีเรื่องให้ต้องสะสางเสียนี่ จากการรายงานสถานการณ์ทางตอนใต้ของแคว้นที่มีการปล้นสะดมของกลุ่มโจรออกปล้นชาวเมืองจนได้รับความเดือดร้อนนั้น แท้จริงแล้วเมื่อส่งเล่อชินอ๋องไปตรวจสอบกลับพบว่าเป็นเพราะที่นั่นเกิดภัยแล้งและชาวบ้านถูกเจ้าเมืองเอารัดเอาเปรียบจึงรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มโจรออกปล้นพวกเศรษฐีหน้าเลือดเท่านั้น ซึ่งเล่อชินอ๋องได้จัดการกับ
เสียงสรวลที่ดังลั่นอย่างพอพระทัยจนลอดออกมาจากห้องทรงอักษรของฮ่องเต้จ้าวจงเยี่ยน ผู้เป็นใหญ่ที่สุดของแคว้นจ้าว สร้างความประหลาดใจให้ข้าราชบริพารเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทกำลังเคร่งเครียดกับข่าวการปล้นสะดมของกองโจรฝั่งชายแดนใต้ถึงขนาดส่งเล่อชินอ๋องไปจัดการหลอกหรือ ฮ่องเต้จ้าวจงเยี่ยนที่ฟังคำรายงานจากองครักษ์ต้าหลงที่กำลังรายงานเรื่องราวเกี่ยวกับพระอนุชาของพระองค์ที่อายุห่างจากพระองค์ถึงสิบห้าชันษาอย่างรู้สึกยินดีนัก พระองค์คิดว่าอนุชาองค์นี้ของพระองค์จะไม่คิดจะออกเรือนแล้วเสียอีก พระองค์เพียรส่งสาวงามเข้าตำหนักอ๋องอยู่หลายครั้งกลับโดนปฏิเสธมาตลอด แต่ตอนนี้บทจะมีน้องสะใภ้ก็ทำเอาพระองค์ไม่ทันตั้งตัว ส่วนเจ้าตัวดีที่ตอนนี้ออกอาการกระฟัดกระเฟียดเพราะพอมีเมียก็มีเรื่องให้ต้องสะสางเสียนี่ จากการรายงานสถานการณ์ทางตอนใต้ของแคว้นที่มีการปล้นสะดมของกลุ่มโจรออกปล้นชาวเมืองจนได้รับความเดือดร้อนนั้น แท้จริงแล้วเมื่อส่งเล่อชินอ๋องไปตรวจสอบกลับพบว่าเป็นเพราะที่นั่นเกิดภัยแล้งและชาวบ้านถูกเจ้าเมืองเอารัดเอาเปรียบจึงรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มโจรออกปล้นพวกเศรษฐีหน้าเลือดเท่านั้น ซึ่งเล่อชินอ๋องได้จัดการกับ
อ้ายเย่วที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นในตอนฟ้าสางพร้อมอาการเจ็บร้าวตามร่างกายโดยเฉพาะตรงส่วนนั้นที่รู้สึกถึงความเจ็บหน่วงและความเฉอะแฉะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไหลเวียนเข้ามากระแทกใจนางอย่างแรงจนกายงามเปลือยเปล่าสั่นสะท้านน้ำตาไหลพราก หมดสิ้นแล้วความสาวที่หวงแหนเพื่อมอบให้ชายคนรักต่อไปนี้นางจะสู้หน้าเขาได้อย่างไร รีบพยุงกายบอบช้ำหันมองรอบกายที่ว่างเปล่าเห็นเพียงร่องรอยเปรอะเปื้อนของคราบเลือดและรอยราคีบนเตียงนอนยับย่นที่บ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนนี้เตียงนี้ผ่านศึกมารุนแรงเพียงไร ก้มลงหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรีบเร่งสายตาพลันหันไปเห็นหน้ากากสีดำที่ตั้งอยู่บนชุดสีดำเนื้อผ้าบ่งบอกถึงยศศักดิ์ผู้เป็นเจ้าของภาพบุรุษสวมหน้ากากก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด"เล่อชินอ๋อง" นางอยากกัดลิ้นตัวเองตายนักพระองค์ยังอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่ ดวงตาแดงช้ำที่แฝงไปด้วยความหวาดหวั่นคิดเพียงพาตัวเองออกไปจากที่นี่ จะให้พระองค์เห็นนางไม่ได้หากโจหยางเล่อรู้ว่านางพลาดท่าให้เล่อชินอ๋องผู้เป็นญาติของตนเองจะรู้สึกเช่นไรเขาจะเสียใจแค่ไหนนางไม่อยากจะคิด ร่างบางจึงรีบหลบออกจากห้องที่นางก้าวเข้ามาดุจเจ้าหญิงแต่พอกลับออกไปสภาพดูแทบไม่ได้เล่อชินอ๋
ร่างบางที่มองไปยังร่างสูงของบุรุษสารเลวที่ก้าวเข้ามาหานางอย่างเชื่องช้าในตาแดงก่ำด้วยแรงอารมณ์นั้นอย่างหมดสิ้นความหวัง พี่หยางเล่อท่านอยู่ไหนช่วยข้าด้วย"กรี๊ดดด" เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงมือหยาบกระด้างที่แตะโดนตัว พร้อมกับเห็นร่างสูงของบุรุษที่คิดย่ำยีนางล้มลงไปอีกด้านอย่างแรงด้วยฝีมือของใครบางคน พร้อมกับร่างกายนางที่ไม่อาจจะควบคุมความรู้สึกฝ่ายต่ำได้อีกต่อไป รับรู้ได้แค่อ้อมแขนที่โดนร่างกายนางจนรู้สึกร้อนเร่ากับกลิ่นกายที่ดูคุ้นเคยของบุรุษที่สวมหน้ากากตรงหน้าที่นางอยากให้เขาสัมผัสนางให้มากกว่านี้กดข่มความรู้สึกน่ารังเกียจของตัวเองที่เกิดขึ้นร้องไห้ออกมา"ไม่ปล่อยข้า พี่หยางเล่อช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย" กล่าวได้เพียงแค่นั้นร่างกายที่ร้อนรุ่มก็โถมเข้าหาร่างหนาที่โอบประคองนางอย่างไม่อาจระงับอารมณ์เอาไว้ได้ส่งเรียวปากเล็กที่จูบสะเปะสะปะไปทั่วหน้าอกแกร่งตามอารมณ์กำหนัดที่เกิดขึ้นจากฤทธิ์ยาอย่างไร้สติ เล่อชินอ๋องที่ขบกรามแกร่งจนแน่นไม่อยากคิดเลยว่าหากพระองค์ไม่บังเอิญอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งเห็นอาการของสตรีในอ้อมแขนพระองค์อยากจะสับบุรุษสารเลวผู้นั้นเป็นหมื่นๆ ชิ้น พระอง
หลายวันมานี้ชีวิตของอ้ายเย่วช่างสงบเงียบเหงายิ่งนักเพราะพ่อเทพบุตรสุดหล่อของนางต้องไปทำธุระให้เล่อชินอ๋องต่างเมือง ทำให้นางไม่มีคนคุยด้วยและคนพาไปเดินเที่ยว วันนี้นางจึงได้เดินหงอยเหงาอยู่คนเดียว กำลังเดินชมแปลงดอกไม้ที่นางลงมือปลูกกับมือที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างพออกพอใจนักพอมันโตเต็มที่คงงดงามกว่านี้เป็นแน่ไม่เสียแรงที่นางอุตส่าห์ทะนุถนอมรดน้ำพรวนดิน ผลที่ได้เป็นที่น่าปลื้มใจอย่างมาก โดยเฉพาะดอกเหมยกุยฮวาที่ดูงดงามที่สุดออกดอกที่สมบูรณ์เป็นอย่างมากเพราะนางมาดูแลทุกวัน ต้นเหมยกุยต้นนี้นางกับหยางเล่อช่วยกันปลูกเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความรักของเรา ช่างดูโรแมนติกนักใช่ไหมล่ะ กำลังชื่นชมดอกเหมยกุยและคิดถึงคนที่ร่วมรดน้ำพรวนดินเพราะไม่เห็นหน้ามาหลายวันทำให้หัวใจนางห่อเหี่ยวยิ่งนัก ความรักนี่ช่างน่ากลัวเสียจริงพอไม่เห็นหน้าก็โหยหาทรมานใจ พออยู่ใกล้ก็ทำให้หัวใจร้อนเร่าลุ่มหลง นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหากนางผิดหวังในรักครั้งนี้จะเป็นเช่นไร นางคงเข็ดขยาดไม่กล้ามีรักอีกเป็นแน่"คุณหนูเจ้าคะ จดหมายจากคุณชายโจเจ้าค่ะ" จิ้นผิงที่เดินเอาจดหมายที่มีทหารนายหนึ่งมาส่งให้บอกว่าคุณชายโจหยางเล่อฝากมาให้คุณหนูของ
วันนี้อ้ายเย่วลุกขึ้นมาแต่เช้าเพื่อช่วยจิ้นผิงและเจ้าลิงทโมนสองพี่น้องนำดอกไม้ลงแปลงจนล่วงเลยมายามบ่ายถึงจะเสร็จเรียบร้อย ยืนมองสวนดอกไม้ของนางที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างที่นางออกแบบไว้อย่างภูมิอกภูมิใจนัก รอแค่ให้มันแข็งแรงและออกดอกเท่านั้น ฝีมือการแต่งสวนของนางไม่ธรรมดาเลย คนบ้าอะไรทั้งสวยและเก่งขนาดนี้ เฮ่อ ชอบตัวเองจริงๆ เลยอะ อิอิ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้นางถึงกับหมดแรงกันเลยทีเดียว การปลูกดอกไม้ก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยนะนี่ ร่างบางที่ยืนชื่นชมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับฝีมือตัวเองอยู่นั้นช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาบุรุษที่ยืนมองนางอยู่นักถึงแม้ตอนนี้ร่างสตรีตรงหน้าจะดูมอมแมมเต็มไปด้วยเศษดินเศษหญ้าแต่ก็ไม่อาจลดทอนความงดงามของนางลงได้ แต่นางกลับดูน่ารักไปอีกแบบอ้ายเย่วที่กำลังหมุนกายเพื่อจะไปอาบน้ำชำระเหงื่อไคลเพราะตอนนี้รู้สึกเหนียวตัวนักแต่กลับพบกับร่างสูงที่นางเห็นหน้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาจนกลายเป็นความคุ้นชินไปเสียแล้วยืนส่งยิ้มมาให้และในอ้อมแขนยังอุ้มเจ้าขนปุยที่นางรู้ว่าเป็นแมวของวังจันทราที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นลูกรักของบุรุษหล่อเหลาที่อุ้มมันอยู่ นึกถึงสิ่งที่บุรุษผู้นี้กล่าวเหตุผลที่เอาอกเอ
เล่อชินอ๋องที่ได้ทำความรู้จักและสัมผัสนิสัยใจคอของสตรีที่พระองค์พึงใจนั้น ก็รู้สึกได้ว่าพระองค์ไม่อาจถอนตัวถอนใจมาจากนางได้อีกแล้ว ยิ่งได้รู้จักได้ใกล้ชิดพระองค์ก็ยิ่งปักใจรักในตัวนาง อยากมีนางอยู่เคียงข้างตลอดไป เวลานางทำอะไรหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมาช่างดูน่าเอ็นดูนัก สตรีของชินอ๋องจะดูธรรมดาได้อย่างไร พระองค์ที่คอยสังเกตอากัปกิริยาของนางอยู่ตลอด นึกเอ็นดูนางมารน้อยของพระองค์นัก นางช่างร้ายกาจใช่เล่น รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมมารยาของผู้อื่นเสมอแต่แกล้งทำหน้าตาใสซื่อจนพระองค์นึกขำ แต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ความจริงนั้นพระองค์ต้องกดข่มไม่ให้เผลอแสดงท่าทีให้นางจับได้"ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ทำไมพระองค์ถึงไม่บอกแม่นางเมิ่งไปล่ะ ว่าพระองค์คือชินอ๋องจ้าวหย่งเล่อ เดี๋ยวนางมารู้ทีหลังจะพาลโกรธพระองค์เอาได้นะพ่ะย่ะค่ะ"องครักษ์ต้าหลงที่เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะเล่อชินอ๋องนั้นไม่ยอมบอกแม่นางเมิ่งว่าตัวเองเป็นใคร ปล่อยให้นางเข้าใจผิดคิดว่าพระองค์เป็นแค่พระญาติของเล่อชินอ๋องเท่านั้น การเริ่มต้นด้วยการโกหกนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างยิ่ง"กำลังหาทางบอกอยู่"พระองค์ใช่ว่าจะไม่กลัวว่านางจะโกรธ และพ
หลังจากออกจากเหลาอาหารอ้ายเย่วและเล่อชินอ๋องก็พากันมาเดินชมตลาดยามค่ำคืนโดยมีบุรุษและสตรีที่ทำตัวเป็นปลิงเกาะไม่ยอมปล่อย ช่างขัดหูขัดตานางนัก นางจะสวีทกับบุรุษข้างกายให้หวานชื่นดังคู่รักพึงกระทำให้ฉ่ำหัวใจเสียหน่อยก็ไม่ได้ คนสวยเซ็ง เดินมาจนถึงร้านเครื่องประดับที่มีเครื่องประดับสำหรับสตรีมากมายนักจนนางมองด้วยแววตาแปร่งประกาย เครื่องประดับยุคโบราณนี้ช่างงดงามดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด"เย่วเอ๋อ ชอบหรือ" เสียงทุ้มที่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสายตาของนาง ร่างบางจึงพยักหน้าหงึกหงักอย่างน่าเอ็นดูนัก"อยากได้ชิ้นใดเลือกได้เลย พี่อยากซื้อเป็นของแทนใจชิ้นแรกระหว่างเรา หากชอบหมดทั้งร้านก็ย่อมได้" ร่างสูงที่เอ่ยขึ้นพร้อมมองสบตานาง หากเจ้าอยากได้สิ่งใดพี่พร้อมจะประเคนให้ แม้แต่ตัวพี่หากเจ้าอยากได้พี่ก็ยินดียิ่งนักสายเปย์เสียด้วยพ่อเทพบุตรของฉัน ภาพบุรุษและสตรีตรงหน้าที่ทำเหมือนรอบกายมีแค่เพียงสองคนสร้างความเดือดดาลให้สตรีที่เดินมาด้านหลังนัก หันมองบุรุษข้างกายที่ทำหน้าเหมือนคนกำลังจะตายแต่ไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง อย่างขัดใจนัก จึงสะบัดหน้าเดินกลับออกไป นางต้องกลับไปตั้งหลักก่อน ขืนอยู่ต่อนางคงต้องแค้
หลังจากมื้ออาหารที่สุดแสนจะอร่อยกว่าทุกมื้อที่เคยกินมาในความรู้สึกของอ้ายเย่วจบลง เสี่ยวเอ้อก็ยกน้ำชากาใหม่มาเปลี่ยนอย่างรู้งานนัก อ้ายเย่วจึงเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาอย่างจริงจังเพราะนางอยากไปเดินชมตลาดเต็มที อยากจะออกไปเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของยุคนี้โดยมีบุรุษรูปงามเดินเคียงคงจะดูโรแมนติกสุดๆ"ท่านแม่ทัพมีอะไรจะพูดกับข้าก็พูดมาเถอะเจ้าค่ะ ข้ามีธุระต้องไปทำต่อ"แม่ทัพหานลู่เหวินที่ฟังสตรีที่เขาให้คนออกตามหาอยู่หลายวันเอ่ยขึ้นอย่างห่างเหินนักรู้สึกเจ็บจุกในอกแปลกๆ จึงสูดลมหายใจลึกเข้าปอดหลับตาลงอย่างตัดสินใจ เขาไม่ยอมเสียนางไปเด็ดขาด"ข้าอยากให้เจ้ากลับไปอยู่ที่จวนแล้วข้าจะจัดพิธีมงคลสมรสระหว่างเราให้เร็วที่สุด ตามที่บิดาของเราได้ตกลงกันไว้ และขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องรอมานาน""............"อ้ายเย่วที่ตกตะลึงกับคำกล่าวของแม่ทัพลู่เหวินที่บทจะง่ายก็ง่ายจนใจหาย แล้วหันไปมองหน้าสตรีอีกคนที่เห็นประกายยินดีในแววตาวูบหนึ่งก่อนตาคู่นั้นจะชำเลืองมองไปยังบุรุษอีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านางด้วยแววตาหวานหยดย้อย แต่บุรุษผู้นั้นกำลังมองมายังนางอย่างรอคอยคำตอบเช่นกัน"ต้องขอโทษท่านแม่ทัพด้วย ข้ามิได้คิดกับท่า
"เมิ่งอ้ายเย่ว" อ้ายเย่วที่หันมามองบุรุษที่เรียกนางผู้มายืนทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้วหันมามองบุรุษที่กำลังนั่งมองนางอยู่เช่นกัน ทำไมถึงรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับบทเป็นนางเอกที่กำลังต้องเลือกระหว่างพระเอกกับตัวร้ายเลยอะ คนสวยเพลีย หากให้นางเป็นนางเอกนางก็ต้องเลือกพระเอกสิ แต่พระเอกของนางต้องเป็น พ่อเทพบุตรหน้ามนตรงหน้าเท่านั้น บอกเลย"เย่วเอ๋อ รู้จักกับคุณชายท่านนี้หรือ" เสียงทุ้มที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสบายๆแต่ทำไมนางสังเกตเห็นว่าในดวงตาคนตรงหน้าช่างน่ากลัวนัก"เจ้าค่ะ นี่ท่านแม่ทัพหานลู่เหวินเจ้าค่ะพี่หยางเล่อ" เย่วเอ๋อ พี่หยางเล่อเช่นนั้นหรือสองคนนี้สนิทกันแค่ไหนถึงได้เอ่ยเรียกกันเช่นนี้ แต่เขาเป็นคู่หมายของนางอยากเรียกอย่างไรก็เรียกไปร่างสูงที่ได้รับการแนะนําจึงยืดอกขึ้นหันไปมองบุรุษที่นั่งอยู่อย่างต้องการจะข่มคนตรงหน้าที่มองมายังตนอย่างท้าทายไม่ทุกร้อนถึงกับเกิดความไม่พอใจที่บุรุษผู้นี้มองตนอย่างกับตัวอะไร อ้ายเย่วที่เห็นทั้งสองมองตากันเหมือนมีกระแสไฟกำลังปะทุ อย่านะคงไม่เกิดศึกชิงนางขึ้นใช่หรือไม่ รู้ตัวแหละว่าสวย"เอ่อ ท่านแม่ทัพมีธุระอะไรกับข้าหรือไม่เจ้าคะ" "ทำไม การที่คู่หมั้นคู่