แรงจากการระเบิดมาถึงตัวหลินตงอย่างรวดเร็วซ่งซือหมินและคนอื่นๆ ต่างก็เกร็งตัวขึ้นทีละคนถึงแม้จะอยู่ไกลมากแต่พวกเขายังสามารถสัมผัสได้ถึง ความน่ากลัวของพลังระเบิดนี้มีหลินตงยังยืนอยู่ข้างหน้าทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยเล็กน้อยเพราะพวกเขารู้ขอเพียงหลินตงยังอยู่ก็จะปลอดภัยหลินตงค่อยๆ กลายเป็นเทพผู้ทรงอำนาจในใจของผู้คนเหล่านี้แน่นอนแรงจากการระเบิดของยานรบประจัญบานกาแล็กซีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อหน้าหลินตงเหมือนกำแพงขนาดใหญ่ที่ทำลายไม่ได้ ขวางกั้นอยู่ข้างหน้าทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้นี่เป็นผลมาจากหลินตงที่ใช้พลังจิตวิญญาณเป็นเกาะพลังจิตวิญญาณของเขาได้เหนือกว่าระดับจ้าวจักรวาลการป้องกันแรงจากการระเบิดเหล่านี้ ยังทำได้อย่างง่ายเฟิงซิงเจี้ยนยังเห็นภาพของหลินตง ที่ยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มชาวโลก เพื่อสกัดแรงจากการระเบิดของยานรบประจัญบานกาแล็กซีวิธีการของชนพื้นเมืองกลุ่มนี้ ช่างคาดเดาไม่ได้จริงๆยานรบประจัญบานกาแล็กซี เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่สำคัญที่ผลิตโดยอาณาจักรกาแล็กซีแม้ว่าจะสามารถทนต่อการโจมตีจากจุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์เท่านั้นแต่สำหรับ
“แกคิดว่าการที่เราทำแบบนี้มันเจ๊ากันงั้นเหรอ? แกเองก็ยอมรับว่าเฟิงรั่วเฉินฆ่ามนุษย์โลกไปเป็นแสนคน จนถึงตอนนี้ฉันฆ่าคนของแกไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ตามตรรกะนั้น หากแกต้องการเรียกมันว่าเจ๊าล่ะก็ ตระกูลเฟิงของแกเป็นหนี้ฉันอีกเก้าหมื่นชีวิต” หลินตงยิ้มเยาะ“อย่าสามหาวเกินไป แกรู้ไหมว่ายานรบประจัญบานกาแล็กซีมีค่าแค่ไหน แม้ว่าตระกูลเฟิงจะเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซี แต่หลังจากสะสมมาหลายปี เรามีเรือเพียงสามลำ ตอนนี้แกได้ทำลายหนึ่งลำแล้ว แกยังต้องการอะไรอีก?”“แกอาจมองว่ายานรบประจัญบานกาแล็กซีของแกมีค่า แต่สำหรับฉัน มันเป็นแค่เครื่องจักร แล้วจะเทียบมนุษย์ที่มีเนื้อเลือด ที่มีความคิดและชีวิตเป็นของตัวเองได้ยังไง? มนุษย์โลกนับแสนที่ตายไปนั้นไร้ค่าเหรอ? แล้วบอกหน่อยสิ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้แข็งแกร่งกว่าแก แล้วแกจะพูดเพ้ออยู่ไหม? ไม่ แกจะกดขี่โลกโดยประทับเครื่องหมายทาสและผู้คนบนโลกก็จะเป็นทรัพย์สินของตระกูลแก ดังนั้น ฉันไม่ยอมรับคำพูดที่ว่าเจ๊ากันแล้วของแก!”“ฉันยอมรับว่าหมัดของแกใหญ่กว่าของฉันตอนนี้ แต่อย่าลืมว่าตระกูลเฟิงนยืนหยัดอย่างมั่นคงในอาณาจักรกาแล็กซีมาหลายปีด้วยรากฐานที่แข็ง
“ดี! ในเมื่อแกสามารถตัดสินใจแทนตระกูลเฟิงได้ทั้งตระกูล ก็จงให้ตระกูลเฟิงของแกมอบยานรบประจัญบานกาแล็กซีที่เหลือสองลำให้กับฉันหนึ่งลำ จากนั้นประกาศต่อสาธารณะทางอินเทอร์เน็ตในนามของตระกูลเฟิงว่าพวกแกจะไม่โจมตีโลกอีก ด้วยวิธีนี้ ถือว่าเราก็เจ๊ากัน” หลินตงคิดสักครู่แล้วพูดนี่ถือเป็นทางออกที่ประนีประนอมได้หากตระกูลเฟิงประกาศต่อสาธารณะบนอินเทอร์เน็ตจริงๆ ว่าพวกเขาจะไม่รุกรานโลกอีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไปและส่งมอบยานรบประจัญบานกาแล็กซีให้แล้วเขาก็จะพิจารณาเรื่องนี้ให้ยุติลงเขาจะไม่ก่อปัญหาให้ตระกูลเฟิงอีกต่อไปท้ายที่สุดแล้ว เฟิงซิงเจี้ยนก็พูดถูกความบาดหมางต่อไปจะนำไปสู่การทำลายล้างร่วมกันหลินตงต้องคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตนับพันล้านที่อาศัยอยู่บนโลกเขาไม่ต้องการเป็นอย่างที่เฟิงซิงเจี้ยนพูดด้วยในที่สุดก็กลายเป็นบุคคลโดดเดี่ยวจุดประสงค์ของการเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล มันจะไปมีความหมายอะไร?และตระกูลเฟิงเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซีไม่น่าจะผิดคำพูดทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ตมีความก้าวหน้ามากเมื่อประกาศต่อสาธารณะแล้วกาแลกซีทางช้างเผือกทั้งหมดก็จะรับรู้อย่างน้อ
ถึงจะใช้ทุกวิถีทางก็ยากที่จะหลบหนีได้ท้ายที่สุดแล้ว มีความแตกต่างเล็กน้อยสองประการระหว่างทั้งสองฝ่ายตรงข้ามยังมีทักษะการต่อสู้ระดับสูงสองอย่าง หนึ่งการโจมตีและหนึ่งการป้องกันส่วนการตกลงตามข้อเรียกร้องของหลินตงล่ะ?เป็นไปไม่ได้เลยตระกูลเฟิงจะไม่อนุญาตให้เขาทำเช่นนั้นใครไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลเฟิงให้ความสำคัญกับหน้าตามากกว่าสิ่งอื่นใด?ถ้าเขาทำเช่นนั้นจริงๆตระกูลเฟิงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในกาแลกซี?บรรพบุรุษก็จะไม่ปล่อยเขาไปจะทำอย่างไร?เฟิงซิงเจี้ยนวิตกกังวลมากเมื่อมองดูดวงตาของหลินตงก็เริ่มใจร้อนมากขึ้นเขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการที่ลงมือปฏิบัติจึงรีบพูด: “ถึงฉันจะตอบตกลง แต่ฉันก็ต้องกลับไปก่อนใช่ไหม?”“แกจะไม่ไปไหนทั้งนั้น! ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นกลับไป” หลินตงพูด“ไม่ได้! ปล่อยให้พวกเขาอยู่ที่นี่ มีเพียงฉันเท่านั้นที่สามารถกลับไปและอธิบายเรื่องนี้กับพี่ชายของฉันได้ มั่นใจได้เลย หนึ่งในนั้นคือนายน้อยคนใหม่ของตระกูล และอีกคนคือหลานสาวของฉัน เราจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขา” เฟิงซิงเจี้ยนยืนกรานเฟิงจิ่วจงกับเฟิงจื่อเยว่ประท้วงพวกเขาไม่มีเจตนาที่จะถูกทิ้งไว้ที่นี่“
เฟิงซิ่งเจี้ยนรู้ว่าวันนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงคู่ต่อสู้ของเขา ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่ไปถึงจุดสูงสุดของระดับจ้าวจักรวาลแล้ว ไม่ใช่คนที่เขาจะหลอกลวงได้ง่ายๆน่าแปลกที่ความรู้สึกสงบเข้าครอบงำเขา“ทำไมแกถึงยังยืนกรานที่จะบีบบังคับฉันอยู่ล่ะ "เฟิงเฟิงเจี้ยนถอนหายใจและพูด“ไม่ใช่ฉันที่บังคับแก แต่ตระกูลเฟิงของแกต่างหากที่กดดันเรา เราเคยใช้ชีวิตกันอย่างดี แต่เฟิงรั่วเฉินมาเพื่อกดขี่โลกของฉันก่อนและถูกฉันฆ่า ตอนนี้แกก็มาที่นี่อีกครั้ง เมื่อแกรู้ว่าตัวแกเองก็พลาดท่า ตระกูลเฟิงของแกก็อาจจะส่งคนที่แข็งแกร่งกว่ามาด้วย แกคิดว่าเรากำลังยั่วยุใครอยู่“แกไม่ได้ยั่วยุใคร แค่เมื่อแกถูกรั่วเฉินพบเข้า มันยังคงเป็นดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่”“นั่นเป็นสาเหตุที่เราสมควรถูกคุณกดขี่งั้นเหรอ? "หลินตงค่อยๆ เพิ่มระดับเสียงของเขา“แกไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เมื่อแกถึงระดับของเราแล้ว แกก็จะทำแบบเดียวกัน”“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้น!!! "หลินตงพูดอย่างจริงจังเฟิงซิงเจี้ยนหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เขาหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขาแทนมันดูคล้ายกับเซรุ่
เป็นเพียงการปลดปล่อยพรสวรรค์หากไม่มีผู้มีความสามารถ การใช้เซรุ่นธรรมดาก็จะไม่มีผลมากนักผลข้างเคียงของสารที่เซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นนั้นรุนแรงมากมันกระตุ้นเซลล์ทุกเซลล์ของผู้ใช้โดยตรงไม่ว่าใครจะรับกินมันไปก็ตามมันจะเพิ่มพลังการต่อสู้ของผู้ใช้ในช่วงเวลาสั้นๆแม้แต่สำหรับคนทั่วไปที่กินจะทรงพลังอย่างเหลือเชื่อในทันทีอย่างไรก็ตาม หากไม่มียาแก้พิษเพื่อหยุดผลของเซรุุ่มเซลล์ทั้งหมดของผู้ใช้มันจะมอดไหม้จนหมด ดังนั้นผู้ใช้จะตายเช่นกันยิ่งกินยาแก้พิษได้เร็วเท่าไหร่ ผลข้างเคียงก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้นแต่ผลค้างเคียงน้อยกว่า" เป็นเพียงคำพูดเท่านั้นเพราะตราบใดที่กินเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นเข้าไป ก็ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างรุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะดื่มยาแก้พิษทันทีหลังจากนั้นก็ตามคนๆ นี้ไม่เพียงแต่จะไร้พรสวรรค์อีกต่อไปเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวไปสู่ระดับถัดไปอายุขัยจะลดลงอย่างมากเช่นกันยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้รับการกระตุ้น เซลล์ทั่วร่างกายจะเข้าสู่สถานะกึ่งหลับใหลจะค่อยๆ อ่อนแอลงเป็นระยะเวลานานเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยโดยพื้นฐานแล้ว มันคือการเสียสละอายุยืนยาวเพื่อเพิ่มความแข็
ผลข้างเคียงของเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นไม่เพียงแต่จะกระตุ้นเซลล์เท่านั้น แต่ยังดึงพลังชีวิตของเซลล์ร่างกายออกมาใช้ล่วงหน้า ทำให้อายุขัยของผู้ใช้ลดลงด้วยแถมยังส่งผลต่อสมองของผู้ใช้ด้วยทำให้ผู้ใช้อยู่ในสภาวะบ้าคลั่งด้วยความคิดเดียวที่ขับเคลื่อนพวกเขา คือฆ่าศัตรูให้เร็วที่สุดความรู้สึกเจ็บปวดของผู้ใช้ก็ค่อยๆ หายไปในระยะหลัง อาจสูญเสียการควบคุมและไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูได้ดังนั้นการต่อสู้จึงยาวนานขึ้นเรื่อยๆหลินตงก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแม้ว่าพลังการต่อสู้ของเฟิงซิงเจี้ยนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแม้จะเผชิญหน้ากันพลังการต่อสู้ขั้นสูงสุดระดับจ้าวจักรวาลของหลินตง ควบคู่ไปกับวิชาการต่อสู้ระดับสูงอย่างหมัดเทพแห่งความว่างเปล่า ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อยแต่เฟิงซิงเจี้ยนเหมือนจะมีพฤติกรรมแปลกๆเขาไม่ได้หลบเลี่ยงหรือป้องกันเลยแม้แต่น้อยรู้แค่ว่าต้องรีบรุดไปข้างหน้าและพยายามฆ่าหลินตงอย่างไรบ่อยครั้งที่หลินตงโจมตีเขาสองหรือสามครั้งเขาโจมตีหลินตงได้เพียงครั้งเดียวแต่การโจมตีแต่ละครั้ง กลับทำให้หลินตงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก“ปัง!”“ปัง!”เป่าครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างแล
เลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับเฟิงซิงเจี้ยนแต่เฟิงซิงเจี้ยนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายดายหลังจากพลังการต่อสู้ที่พุ่งสูงขึ้นความเร็วของเขาไม่ช้าไปกว่าหลินตงหลินตงไม่สามารถหลบหนีได้ไกล ดังนั้นเขาจึงต้องหันหลังกลับและเผชิญหน้ากับเฟิงตงหลายครั้งจากนั้นก็หาโอกาส ในการหลบหนีต่อไปจึงถ่วงเวลาด้วยวิธีนี้หลังจากทำซ้ำหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างดีเฟิงซิงเจี้ยนไม่สามารถฆ่าหลินตงได้เป็นเวลานานส่งผลให้อารมณ์เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากถูกหลินตงหลบหนีไปได้หลายครั้งปากส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เหมือนเสียงคำรามของสัตว์ป่าต้องการฉีกหลินตงให้เป็นชิ้นๆในขณะนี้ หลินตงรู้สึกว่าเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้ายที่ดุร้ายในสภาพคลุ้งคลั่งจริงๆ แล้วความรู้สึกของหลินตงก็ไม่ได้ผิดส่วนประกอบหลักของเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นคือเลือดของสัตว์สวรรค์ที่เรียกว่าม้านิลมังกรม้านิลมังกรมีร่างกายที่แข็งแกร่งและไม่มีอะไรสามารถเทียบเคียงได้แต่มีนิสัยดุร้ายเกิดมาพร้อมกับร่างกายระดับดาวเทียมเมื่อถึงวัยโตเต็มไวความแข็งแกร่งทางกายภาพสามารถไปได้ถึงระดับจ้าวจักรว