หลินตงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวที่ถูกกักเก็บอยู่ภายในแม้จะอยู่ห่างออกไปสองถึงสามร้อยกิโลเมตร คลื่นระเบิดก็สามารถทำลายซ่งซือหมินและคนอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในระดับดาวเทียมได้อย่างง่ายดายและอาจจะไปถึงโลกก็ได้ดังนั้นหลินตงจึงต้องยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา เตรียมปกป้องพวกเขาจากแรงระเบิดปกป้องเหล่าผู้แข็งแกร่งของโลกอย่างซ่งซือหมินและรับรองความปลอดภัยของโลกห้องควบคุมของยานรบประจัญบานกาแล็กซีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นแล้วเมื่อหลินตงเจาะทะลุตัวเรือ“ฉุกเฉิน!!!”“ฉุกเฉิน!!!”“ฉุกเฉิน!!!”“การป้องกันของยานรบถูกทำลายหมดแล้ว”“ระบบภายในถูกทำลายอย่างสมบูรณ์”“ยานรบจะระเบิดในสิบวินาที”“สิบ เก้า แปด...”เมื่อได้ยินเสียงนับถอยหลังอัตโนมัติห้องควบคุมของยานรบประจัญบานกาแล็กซีก็เกิดความวุ่นวายยานรบประจัญบานกาแล็กซีกำลังจะระเบิดเหลือทางรอดพียงทางเดียวที่นี่พวกเขาต้องการเปิดประตูฉุกเฉินของยานรบ เพื่อสละยานแต่โปรแกรมภายในยานรบถูกทำลายไปหมดแล้วตอนนี้ไม่สามารถใช้บังคับยานรบได้ระบบควบคุมทั้งหมดก็ทำงานผิดปกติเช่นกันพวกเขาทำได้แค่รอความตายที่นี่ในขณะนั้น เฟิงซิงเจี้ยนทำตามส
แรงจากการระเบิดมาถึงตัวหลินตงอย่างรวดเร็วซ่งซือหมินและคนอื่นๆ ต่างก็เกร็งตัวขึ้นทีละคนถึงแม้จะอยู่ไกลมากแต่พวกเขายังสามารถสัมผัสได้ถึง ความน่ากลัวของพลังระเบิดนี้มีหลินตงยังยืนอยู่ข้างหน้าทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยเล็กน้อยเพราะพวกเขารู้ขอเพียงหลินตงยังอยู่ก็จะปลอดภัยหลินตงค่อยๆ กลายเป็นเทพผู้ทรงอำนาจในใจของผู้คนเหล่านี้แน่นอนแรงจากการระเบิดของยานรบประจัญบานกาแล็กซีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อหน้าหลินตงเหมือนกำแพงขนาดใหญ่ที่ทำลายไม่ได้ ขวางกั้นอยู่ข้างหน้าทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้นี่เป็นผลมาจากหลินตงที่ใช้พลังจิตวิญญาณเป็นเกาะพลังจิตวิญญาณของเขาได้เหนือกว่าระดับจ้าวจักรวาลการป้องกันแรงจากการระเบิดเหล่านี้ ยังทำได้อย่างง่ายเฟิงซิงเจี้ยนยังเห็นภาพของหลินตง ที่ยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มชาวโลก เพื่อสกัดแรงจากการระเบิดของยานรบประจัญบานกาแล็กซีวิธีการของชนพื้นเมืองกลุ่มนี้ ช่างคาดเดาไม่ได้จริงๆยานรบประจัญบานกาแล็กซี เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่สำคัญที่ผลิตโดยอาณาจักรกาแล็กซีแม้ว่าจะสามารถทนต่อการโจมตีจากจุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์เท่านั้นแต่สำหรับ
“แกคิดว่าการที่เราทำแบบนี้มันเจ๊ากันงั้นเหรอ? แกเองก็ยอมรับว่าเฟิงรั่วเฉินฆ่ามนุษย์โลกไปเป็นแสนคน จนถึงตอนนี้ฉันฆ่าคนของแกไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ตามตรรกะนั้น หากแกต้องการเรียกมันว่าเจ๊าล่ะก็ ตระกูลเฟิงของแกเป็นหนี้ฉันอีกเก้าหมื่นชีวิต” หลินตงยิ้มเยาะ“อย่าสามหาวเกินไป แกรู้ไหมว่ายานรบประจัญบานกาแล็กซีมีค่าแค่ไหน แม้ว่าตระกูลเฟิงจะเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซี แต่หลังจากสะสมมาหลายปี เรามีเรือเพียงสามลำ ตอนนี้แกได้ทำลายหนึ่งลำแล้ว แกยังต้องการอะไรอีก?”“แกอาจมองว่ายานรบประจัญบานกาแล็กซีของแกมีค่า แต่สำหรับฉัน มันเป็นแค่เครื่องจักร แล้วจะเทียบมนุษย์ที่มีเนื้อเลือด ที่มีความคิดและชีวิตเป็นของตัวเองได้ยังไง? มนุษย์โลกนับแสนที่ตายไปนั้นไร้ค่าเหรอ? แล้วบอกหน่อยสิ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้แข็งแกร่งกว่าแก แล้วแกจะพูดเพ้ออยู่ไหม? ไม่ แกจะกดขี่โลกโดยประทับเครื่องหมายทาสและผู้คนบนโลกก็จะเป็นทรัพย์สินของตระกูลแก ดังนั้น ฉันไม่ยอมรับคำพูดที่ว่าเจ๊ากันแล้วของแก!”“ฉันยอมรับว่าหมัดของแกใหญ่กว่าของฉันตอนนี้ แต่อย่าลืมว่าตระกูลเฟิงนยืนหยัดอย่างมั่นคงในอาณาจักรกาแล็กซีมาหลายปีด้วยรากฐานที่แข็ง
“ดี! ในเมื่อแกสามารถตัดสินใจแทนตระกูลเฟิงได้ทั้งตระกูล ก็จงให้ตระกูลเฟิงของแกมอบยานรบประจัญบานกาแล็กซีที่เหลือสองลำให้กับฉันหนึ่งลำ จากนั้นประกาศต่อสาธารณะทางอินเทอร์เน็ตในนามของตระกูลเฟิงว่าพวกแกจะไม่โจมตีโลกอีก ด้วยวิธีนี้ ถือว่าเราก็เจ๊ากัน” หลินตงคิดสักครู่แล้วพูดนี่ถือเป็นทางออกที่ประนีประนอมได้หากตระกูลเฟิงประกาศต่อสาธารณะบนอินเทอร์เน็ตจริงๆ ว่าพวกเขาจะไม่รุกรานโลกอีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไปและส่งมอบยานรบประจัญบานกาแล็กซีให้แล้วเขาก็จะพิจารณาเรื่องนี้ให้ยุติลงเขาจะไม่ก่อปัญหาให้ตระกูลเฟิงอีกต่อไปท้ายที่สุดแล้ว เฟิงซิงเจี้ยนก็พูดถูกความบาดหมางต่อไปจะนำไปสู่การทำลายล้างร่วมกันหลินตงต้องคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตนับพันล้านที่อาศัยอยู่บนโลกเขาไม่ต้องการเป็นอย่างที่เฟิงซิงเจี้ยนพูดด้วยในที่สุดก็กลายเป็นบุคคลโดดเดี่ยวจุดประสงค์ของการเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล มันจะไปมีความหมายอะไร?และตระกูลเฟิงเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซีไม่น่าจะผิดคำพูดทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ตมีความก้าวหน้ามากเมื่อประกาศต่อสาธารณะแล้วกาแลกซีทางช้างเผือกทั้งหมดก็จะรับรู้อย่างน้อ
ถึงจะใช้ทุกวิถีทางก็ยากที่จะหลบหนีได้ท้ายที่สุดแล้ว มีความแตกต่างเล็กน้อยสองประการระหว่างทั้งสองฝ่ายตรงข้ามยังมีทักษะการต่อสู้ระดับสูงสองอย่าง หนึ่งการโจมตีและหนึ่งการป้องกันส่วนการตกลงตามข้อเรียกร้องของหลินตงล่ะ?เป็นไปไม่ได้เลยตระกูลเฟิงจะไม่อนุญาตให้เขาทำเช่นนั้นใครไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลเฟิงให้ความสำคัญกับหน้าตามากกว่าสิ่งอื่นใด?ถ้าเขาทำเช่นนั้นจริงๆตระกูลเฟิงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในกาแลกซี?บรรพบุรุษก็จะไม่ปล่อยเขาไปจะทำอย่างไร?เฟิงซิงเจี้ยนวิตกกังวลมากเมื่อมองดูดวงตาของหลินตงก็เริ่มใจร้อนมากขึ้นเขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการที่ลงมือปฏิบัติจึงรีบพูด: “ถึงฉันจะตอบตกลง แต่ฉันก็ต้องกลับไปก่อนใช่ไหม?”“แกจะไม่ไปไหนทั้งนั้น! ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นกลับไป” หลินตงพูด“ไม่ได้! ปล่อยให้พวกเขาอยู่ที่นี่ มีเพียงฉันเท่านั้นที่สามารถกลับไปและอธิบายเรื่องนี้กับพี่ชายของฉันได้ มั่นใจได้เลย หนึ่งในนั้นคือนายน้อยคนใหม่ของตระกูล และอีกคนคือหลานสาวของฉัน เราจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขา” เฟิงซิงเจี้ยนยืนกรานเฟิงจิ่วจงกับเฟิงจื่อเยว่ประท้วงพวกเขาไม่มีเจตนาที่จะถูกทิ้งไว้ที่นี่“
เฟิงซิ่งเจี้ยนรู้ว่าวันนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงคู่ต่อสู้ของเขา ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่ไปถึงจุดสูงสุดของระดับจ้าวจักรวาลแล้ว ไม่ใช่คนที่เขาจะหลอกลวงได้ง่ายๆน่าแปลกที่ความรู้สึกสงบเข้าครอบงำเขา“ทำไมแกถึงยังยืนกรานที่จะบีบบังคับฉันอยู่ล่ะ "เฟิงเฟิงเจี้ยนถอนหายใจและพูด“ไม่ใช่ฉันที่บังคับแก แต่ตระกูลเฟิงของแกต่างหากที่กดดันเรา เราเคยใช้ชีวิตกันอย่างดี แต่เฟิงรั่วเฉินมาเพื่อกดขี่โลกของฉันก่อนและถูกฉันฆ่า ตอนนี้แกก็มาที่นี่อีกครั้ง เมื่อแกรู้ว่าตัวแกเองก็พลาดท่า ตระกูลเฟิงของแกก็อาจจะส่งคนที่แข็งแกร่งกว่ามาด้วย แกคิดว่าเรากำลังยั่วยุใครอยู่“แกไม่ได้ยั่วยุใคร แค่เมื่อแกถูกรั่วเฉินพบเข้า มันยังคงเป็นดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่”“นั่นเป็นสาเหตุที่เราสมควรถูกคุณกดขี่งั้นเหรอ? "หลินตงค่อยๆ เพิ่มระดับเสียงของเขา“แกไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เมื่อแกถึงระดับของเราแล้ว แกก็จะทำแบบเดียวกัน”“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้น!!! "หลินตงพูดอย่างจริงจังเฟิงซิงเจี้ยนหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เขาหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขาแทนมันดูคล้ายกับเซรุ่
เป็นเพียงการปลดปล่อยพรสวรรค์หากไม่มีผู้มีความสามารถ การใช้เซรุ่นธรรมดาก็จะไม่มีผลมากนักผลข้างเคียงของสารที่เซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นนั้นรุนแรงมากมันกระตุ้นเซลล์ทุกเซลล์ของผู้ใช้โดยตรงไม่ว่าใครจะรับกินมันไปก็ตามมันจะเพิ่มพลังการต่อสู้ของผู้ใช้ในช่วงเวลาสั้นๆแม้แต่สำหรับคนทั่วไปที่กินจะทรงพลังอย่างเหลือเชื่อในทันทีอย่างไรก็ตาม หากไม่มียาแก้พิษเพื่อหยุดผลของเซรุุ่มเซลล์ทั้งหมดของผู้ใช้มันจะมอดไหม้จนหมด ดังนั้นผู้ใช้จะตายเช่นกันยิ่งกินยาแก้พิษได้เร็วเท่าไหร่ ผลข้างเคียงก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้นแต่ผลค้างเคียงน้อยกว่า" เป็นเพียงคำพูดเท่านั้นเพราะตราบใดที่กินเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นเข้าไป ก็ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างรุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะดื่มยาแก้พิษทันทีหลังจากนั้นก็ตามคนๆ นี้ไม่เพียงแต่จะไร้พรสวรรค์อีกต่อไปเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวไปสู่ระดับถัดไปอายุขัยจะลดลงอย่างมากเช่นกันยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้รับการกระตุ้น เซลล์ทั่วร่างกายจะเข้าสู่สถานะกึ่งหลับใหลจะค่อยๆ อ่อนแอลงเป็นระยะเวลานานเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยโดยพื้นฐานแล้ว มันคือการเสียสละอายุยืนยาวเพื่อเพิ่มความแข็
ผลข้างเคียงของเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นไม่เพียงแต่จะกระตุ้นเซลล์เท่านั้น แต่ยังดึงพลังชีวิตของเซลล์ร่างกายออกมาใช้ล่วงหน้า ทำให้อายุขัยของผู้ใช้ลดลงด้วยแถมยังส่งผลต่อสมองของผู้ใช้ด้วยทำให้ผู้ใช้อยู่ในสภาวะบ้าคลั่งด้วยความคิดเดียวที่ขับเคลื่อนพวกเขา คือฆ่าศัตรูให้เร็วที่สุดความรู้สึกเจ็บปวดของผู้ใช้ก็ค่อยๆ หายไปในระยะหลัง อาจสูญเสียการควบคุมและไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูได้ดังนั้นการต่อสู้จึงยาวนานขึ้นเรื่อยๆหลินตงก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแม้ว่าพลังการต่อสู้ของเฟิงซิงเจี้ยนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแม้จะเผชิญหน้ากันพลังการต่อสู้ขั้นสูงสุดระดับจ้าวจักรวาลของหลินตง ควบคู่ไปกับวิชาการต่อสู้ระดับสูงอย่างหมัดเทพแห่งความว่างเปล่า ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อยแต่เฟิงซิงเจี้ยนเหมือนจะมีพฤติกรรมแปลกๆเขาไม่ได้หลบเลี่ยงหรือป้องกันเลยแม้แต่น้อยรู้แค่ว่าต้องรีบรุดไปข้างหน้าและพยายามฆ่าหลินตงอย่างไรบ่อยครั้งที่หลินตงโจมตีเขาสองหรือสามครั้งเขาโจมตีหลินตงได้เพียงครั้งเดียวแต่การโจมตีแต่ละครั้ง กลับทำให้หลินตงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก“ปัง!”“ปัง!”เป่าครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างแล
ได้ยินเสียงนี้ ราวกับเสียงของพระโพธิสัตว์หวงฝู่ซีเยว่ ยุนซี และคนอื่นๆ แสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีพวกเธอคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดีเธอมักจะฝันถึงแม้กระทั่งในเวลากลางคืนเธอเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ หวังว่าเสียงนี้จะปรากฏขึ้นจริงในที่สุดอย่างไรก็ตาม คนนอกอย่างจูหงจื่อแสดงความกลัวบนใบหน้าของพวกเขาเพราะพวกเขาตระหนักในขณะนี้ว่าร่างกายของพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปในขณะที่ได้ยินเสียงนี้ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้เป็นไปได้ยังไง?นี่มันความหมายว่าอะไร?หลังจากนั้น สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าจูหงจื่อและคนอื่นๆ คือภาพที่ทำให้พวกเขาขนลุกตรงกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย พื้นที่เริ่มสั่นไหว จากนั้นก็เกิดรอยแยกขึ้นร่างสูงใหญ่โผล่ออกมาจากรอยแยกมิตินี่คืออะไร?รอยแยกของมิติ?คนๆ นี้เป็นใคร?สามารถเดินออกจากรอยแยกในมิติโดยไม่บาดเจ็บได้จริงหรือ?แม้แต่องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนก็ยังทำไม่ได้ใช่ไหม?เดี๋ยวนะ!!!เป็นไปได้ไหม.....สิ่งที่สาวน้อยคนนั้นพูด จะเป็นความจริง?หลินตง ผู้เพิ่งเข้าสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซี มาจากดาวดวงนี้จริงหรือ?ไม่
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่นำทัพโดยจูหงจื่ออย่างไรก็ตาม ช่องว่างระหว่างพลังทั้งสองฝ่ายนั้นใหญ่เกินกว่าจะชดเชยทันได้ในขณะนี้ มีคนหลายคนเข้ามาต้อนรับพวกเขา รวมถึงซ่งเจีย ยุนซี และกลุ่มของพวกเธอพวกเธอมาพร้อมกับเครื่องบินรบต้าเซี่ยเพราะพวกเขากังวลว่าซ่งซือหมินแลหวงฝู่ซีเยว่จะตกอยู่ในอันตราย"พี่ซีเยว่ คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?" ยุนซีถามด้วยความกังวลผู้หญิงคนอื่นๆ ก็แสดงสีหน้ากังวลเช่นกัน"ฉันสบายดี! ยุนซี รีบพาพวกเธอกลับเดี๋ยวนี้ อย่าอยู่ที่นี่ ไม่งั้นหากเกิดการต่อสู้ขึ้น ฉันจะปกป้องคุณไม่ได้" หวงฝู่ซีเยว่พูดกับยุนซีด้วยความกังวลเธอรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ต่ำช้าอย่างแท้จริงเมื่อเห็นยุนซีกับสาวสวยเหล่านี้ พวกมันต้องจู่โจมพวกเธอเป็นแน่ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้เลยคนอื่นก็ไม่ต้องพูดถึงแต่ยุนซีห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดไม่เช่นนั้น หลินตงจะบ้าคลั่งเมื่อเขากลับมาจริงๆ แล้ว ความคิดของหวงฝู่ซีเยว่เรียบง่ายเกินไปสำหรับหลินตง ไม่ใช่แค่ยุนซีเท่านั้นที่สำคัญพวกเธอทุกคนล้วนสำคัญไม่ว่าใครจะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยก็ตามหลินตงจะต้องเลือดขึ้นหน้าแน่หากตัวตน
ขณะผลักซ่งซือหมินออกไป และป้องกันการโจมตีของจูหงจื่อมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหวงฝู่ซีเยว่ที่อยู่ด้านหลังเขาหวงฝู่ซีเยว่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก นอกจากหลินตงหากไม่มีหลินตง เธอมีหน้าที่ต้องปกป้องโลก ดังนั้นเธอจะไม่ยืนมองดูซ่งซือหมินถูกฆ่าโดยไม่ช่วยอะไรไม่อย่างนั้นเธอ จะอธิบายกับหลินตงอย่างไร เมื่อเขากลับมา?แม้จะรู้ว่าพวกเขาไม่มีความสามารถหวงฝู่ซีเยว่ก็ต้องทำอะไรสักอย่างเช่นกันการโจมตีแบบสบายๆ ของจูหงจื่อ แม้ว่าเธอจะป้องกันได้ แต่ก็ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสนี่เป็นเพราะจูหงจื่อเห็นว่าเป้าหมายเปลี่ยนไปแล้ว จึงลดพละกำลังลงไม่อย่างนั้นจะมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างทั้งสองแม้ว่าจูหงจื่อจะไม่ใช้พละกำลังทั้งหมดและโจมตีแบบสบายๆ หวงฝู่ซีเยว่ก็ไม่สามารถหยุดเขาได้จูหงจื้อขมวดคิ้วและมองไปที่หวงฟู่ซีเยว่ ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะตัวเองแล้วพูดว่า: "สาวสวย! เธอรีบร้อนที่จะหาความตาย? หากไม่ใช่เพราะฉันหยุดยั้งมือได้ทันเวลาระ เธอคงได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือตายไปแล้ว น่าเสียดายนักหากสาวสวยอย่างเธอต้องตายแบบนี้"ในที่สุดซ่งซือหมินก็ตระหนักได้และเข้ามาหาหวงฝู่ซีเยว่อย่างรวดเร็ว"คุณหนูหวงฝู่
แต่เพราะว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถเทียบเคียงกับเทพธิดาเริงรำเย่ชิงหวู่ได้นั่นหมายความว่าระดับของผู้หญิงบนโลกใบนี้สูงมากผู้หญิงตรงหน้านี้ พวกเขาคงไม่มีโอกาสหากมีอีกสองคน พวกเขาก็ยังสามารถแบ่งเค้กกันได้หลายคนมีรอยยิ้มหื่นกระหายบนใบหน้าต่อมา จูหงจื่อก็เดินตามออกจายานรบปลายแหลมสีดำไปด้วยทันทีที่ออกมา ดวงตาของเขาก็จ้องไปที่หวงฝู่ซีเยว่ทันทีในขณะที่หวงฝู่ซีเยว่รู้สึกคลื่นไส้ เธอก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อยในใจเช่นกันเพราะเธอรู้สึกว่ารัศมีที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมาก และโลกไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ได้เลยมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ส ามารถทำให้เธอรู้สึกไม่มีพลังที่จะต่อต้านได้และหวงฝู่ซีเยว่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก นอกจากหลินตงไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ๆ"คุณต้องการทำอะไรกันแน่? หากคุณต้องการทำร้ายโลก คุณต้องคิดให้ดี ก่อนหน้านี้ มีผู้ชายชื่อเฟิงรั่วมาที่นี่ ด้วยเจตนาไม่ดี และสุดท้ายเขาเสียชีวิตไป คุณแน่ใจหรือว่าต้องการเดินตามรอยเท้าของเขา?" ซ่งซือหมินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเขายังรู้ด้วยว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อโลกมากหลินตงไม่อยู่ที่นี่ และคนอื่นๆ ก็ไม่ใช่คู
หลังจากกลุ่มคนที่แข็งแกร่งบนโลกมาถึง ซ่งซือหมินก็ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก็เอ่ยถาม: "คุณเป็นใคร? มาจากไหน? คุณจะทำอะไรบนโลก?"จูหงจื่อยืนอยู่ในยานรบปลายแหลมสีดำโดยไม่ตอบ สายตาของเขาถูกดึงดูดไปที่หวงฝู่ซีเยว่ที่อยู่ด้านหลังซ่งซือหมินเดิมทีเขาเป็นคนเจ้าชู้ พอวันนี้ได้เห็นผู้หญิงที่สามารถเทียบเคียงได้กับหนึ่งในสี่เทพธิดาผู้ยิ่งใหญ่ เทพธิดาเริงรำเย่ชิงหวู่ จะไม่ถูกดึงดูดได้อย่างไร?ในอาณาเขตจักรพรรดิ เขาไม่มีสิทธิ์เข้าหาผู้หญิงอย่างเทพธิดาเริงรำที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ทายาทอันดับต้นๆ ของตระกูลจูก็ไม่มีคุณสมบัติผู้ที่สามารถติดต่อกับเย่ชิงหวู่ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นทายาทโดยตรงของแปดตระกูลใหญ่หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนในอาณาจักรตระกูลจูของพวกเขาไม่ได้อยู่ในอาณาเขตจักรพรรดิด้วยซ้ำแต่ที่นี่ บนดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัย ณ ชายขอบกาแล็กซีทางช้างเผือก เขาได้พบกับหญิงสาวที่มีระดับใกล้เคียงกับเย่ชิงหวู่โดยไม่คาดคิดนี่ถือเป็นการชดเชยสำหรับเขาหรือไม่?หากสามารถเลือกได้จูหงจื่อย่อมเลือกที่จะประทับตราทาสโดยไม่ลังเลผู้หญิงนั้น เมื่อถึงเวลาที่มีอำนาจมาก
ปรมาจารย์ระดับต้นของขั้นดวงดาวหลายคนปฏิเสธ คำสั่งขอจูหงจื่อพร้อมๆ กันจูหงจื่อต้องการทุ่มทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา แต่เขาละเลยสิ่งหนึ่งไปนั่นคือคนอื่นๆ ไม่เต็มใจที่จะต่อสู้ไปกับเขาคนที่จูหงจื่อพามาในครั้งนี้ ไม่ใช่คนจากตระกูลจูแต่เป็นนักล่าค่าหัวที่จ้างมา ด้วยราคาสูงลิ่วคนเหล่านี้ทำงาน เพื่อแลกเงินแต่เพื่อเงินแล้ว พวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตดังนั้น จึงปฏิเสธคำขอของจูหงจื่อแบบตรงๆไม่มีเงิน เดี๋ยวก็หาใหม่ได้ แต่หากตาย ทุกอย่างก็ไม่มีความหมายยิ่งไปกว่านั้น ระดับอาณาจักรนิรันดรนั้นอยู่เหนือจินตนาการของคนเหล่านี้"แก... พวกแก!!!" จูหงจื่อโกรธมากจนพูดไม่ออก"นายท่านจู! เป็นไปไม่ได้ที่เราจะฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าแห่งกาแล็กซี นายท่านหลิน และช่วยคุณประทับตราทาสบนดาวดวงนี้ อย่างไรก็ตาม ก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว จะให้กลับไปมือเปล่าก็คงไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องได้อะไรติดไม้ติดมือไปด้วยใช่ไหม?""แน่นอน! นายท่านหลินบอกเพียงว่าไม่อนุญาตให้ประทับตราทาส แต่ไม่ได้บอกว่าไม่อนุญาตให้ปล้นสะดมดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัย เฮอะๆ...."หลังจากพูดจบ คนผู้นี้ก็หัวเราะเยาะคนอื่
ณ โลกยานรบปลายแหลมสีดำมากกว่าสิบลำได้มาถึงพื้นผิวโลกแล้ว"นายน้อย ตอนนี้เราอยู่สูงจากพื้นผิวหนึ่งกิโลเมตรแล้ว""โอเค! แจ้งให้ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการประทับตราทาสทันที" จูหงจื่อกล่าวด้วยความตื่นเต้น"ครับ! นายน้อย"ในขณะที่ยานรบมากกว่าสิบลำจอดอยู่กลางอากาศเพื่อเตรียมการประทับตราทาสบนโลกเสียงสุดท้ายของหลินตงบนดวงดาวจักรพรรดิก็ดังขึ้นอีกครั้ง"นอกจากนี้! จากนี้ไป กาแล็กซีทางช้างเผือกจะไม่อนุญาตให้มีประทับตราทาสอย่างลับๆ อีก ในอดีตไม่เป็นไร แต่หากฉันค้นพบในอนาคต ฉันจะฆ่าเก้าชั่วโคตรอย่างไม่ไว้หน้าใคร"จูหงจื่อสับสนสีหน้าตื่นเต้นของเขาแข็งค้างเช่นเดียวกับเฟิงเฮิงที่อยู่ข้างๆ เขาไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นคนอื่นๆ ที่มาพร้อมกับจูหงจื่อต่างก็สับสนและหยุดการกระทำของพวกเขากาแล็กซีทางช้างเผือกจะไม่อนุญาตให้มีการประทับตราทาสอีกตอนนี้พวกเขาไม่ได้เตรียมการประทับตราทาสบนโลกอยู่หรอกเหรอ?ถ้ามีคนอื่นพูดแบบนี้ พวกเขาจะไม่สนใจสักนิดแต่คนที่พูดคือนายท่านหลิน หลินตง ผู้เพิ่งเข้าสู่อาณาจักรนิรันดรเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซีหากเขารู้เรื่องนี้เข้าพวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่าเก้าชั่วโคตรใครกล้าละ
ในความเห็นของเขา อารยธรรมระดับกลางเหล่านี้ไม่มีค่าอะไรเลยแม้แต่ในอาณาจักรนิรันดร ก็ยังเป็นระดับต่ำสุดอย่างเซียนเดินดิน ไม่ถึงขั้นถึงระดับเทพเจ้าไร้เทียมทานด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงระดับสูงสุดของอาณาจักรนิรันดรอย่างราชันย์อมตะเลย"จื่อหาน! อย่าคิดแบบนี้เด็ดขาด! แม้ว่าจุดเริ่มต้นของนายจะสูงมาก ถึงระดับที่หลายคนไม่สามารถบรรลุได้ในช่วงชีวิต แต่นายก็ไม่สามารถหยิ่งผยองหรือชะล่าใจได้ เราต้องมีทัศนคติที่ถ่อมตัวเพื่อก้าวต่อไป"“โอเค! ป้าหง คุณเป็นผู้อาวุโส และคุณมีสิทธิ์ตัดสินใจเด็ดขาด!” เฉินจิงจื่อหานพูดอย่างหมดหนทางคราวนี้เขาที่ออกเดินทาง และแม่ของเขาบอกให้เขาฟังไป๋หลี่เหยียนหงห้ามตามทำใจตัวเอง ห้ามตัดสินใจเองด้วยตัวเองตามอำเภอใจมิฉะนั้น อย่าคิดที่จะมีโอกาสออกมาอีกครั้งในอนาคตดังนั้น เฉินจิงจื่อหานจึงต้องทำตามการจัดการของไป๋หลี่เหยียนหงไม่ว่าเธอจะพูดว่าจะไปที่ไหนก็ไปที่นั่น"นายนี่นะ!"ไป๋หลี่เหยียนหงยิ้มและไม่พูดต่อหากอารยธรรมระดับกลางมีผู้ที่อยู่ในระดับนิรันดร์อยู่แล้ว แน่นอนว่าจะไม่สั่งให้เธอไปเสียเวลาที่นั่นเพราะว่ามันไม่คุ้มค่า!!!กาแล็กซีอารยธรรมระดับกลางมีอาณาจักรนิรัน
เต่ายักษ์ลึกลับปรากฏตัวขึ้นในกาแล็กซีทางช้างเผือก มุ่งหน้าสู่ใจกลางกาแล็กซี มุ่งหน้าสู่ทิศทางของดวงดาวจักรพรรดิขณะนี้ ภายในอาคารอันงดงามบนหลังเต่าชายและหญิงกำลังเล่นหมากรุกกันชายคนนี้มีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา สวมเสื้อผ้าสีขาวและถือพัด ใครก็ตามที่เห็นเขาจะต้องชื่นชมเขาอย่างไม่ลังเลว่า คนหล่อนี่หลุดมาจากนิยายเรื่องไหนคนนี้เป็นคนที่ดึงดูดใจคนทุกวัยอย่างแน่นอน สามารถดึงดูดใจสาวๆ และผู้หญิงได้นับไม่ถ้วนส่วนผู้หญิงคนนี้ดูแก่กว่าผู้ชายประมาณสิบปี แต่งกายเหมือนสาวสวยวัยกลางคนแม้ว่าเธอจะดูเหมือนสาวสวยวัยกลางคนก็ตามแต่ผิวที่เปิดเผยออกมา กลับขาวผ่อง เต่งตึงและมีสีอมชมพูมากกว่าเด็กสาววัยแรกแย้มเธอเป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์ไร้กาลเวลา ตั้งแต่วัยหนุ่มไปจนถึงชายวัยกลางคน หากได้พบเจอ คงต้องตกอยู่ในมนต์เสน่ห์ของเธอแม้ว่าทั้งสองจะกำลังเล่นหมากรุกอยู่ แต่เกมที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่เกมหมากรุก แต่เป็นแผนที่จักรวาลสามมิติชื่อของชายหนุ่มรูปหล่อคือเฉินจิงจื่อหานหญิงสาวสวยอีกคนชื่อไป๋หลี่เหยียนหงทั้งสองคนคือผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาลในตำนานในใจของทุกคน