ผลข้างเคียงของเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นไม่เพียงแต่จะกระตุ้นเซลล์เท่านั้น แต่ยังดึงพลังชีวิตของเซลล์ร่างกายออกมาใช้ล่วงหน้า ทำให้อายุขัยของผู้ใช้ลดลงด้วยแถมยังส่งผลต่อสมองของผู้ใช้ด้วยทำให้ผู้ใช้อยู่ในสภาวะบ้าคลั่งด้วยความคิดเดียวที่ขับเคลื่อนพวกเขา คือฆ่าศัตรูให้เร็วที่สุดความรู้สึกเจ็บปวดของผู้ใช้ก็ค่อยๆ หายไปในระยะหลัง อาจสูญเสียการควบคุมและไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูได้ดังนั้นการต่อสู้จึงยาวนานขึ้นเรื่อยๆหลินตงก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแม้ว่าพลังการต่อสู้ของเฟิงซิงเจี้ยนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแม้จะเผชิญหน้ากันพลังการต่อสู้ขั้นสูงสุดระดับจ้าวจักรวาลของหลินตง ควบคู่ไปกับวิชาการต่อสู้ระดับสูงอย่างหมัดเทพแห่งความว่างเปล่า ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อยแต่เฟิงซิงเจี้ยนเหมือนจะมีพฤติกรรมแปลกๆเขาไม่ได้หลบเลี่ยงหรือป้องกันเลยแม้แต่น้อยรู้แค่ว่าต้องรีบรุดไปข้างหน้าและพยายามฆ่าหลินตงอย่างไรบ่อยครั้งที่หลินตงโจมตีเขาสองหรือสามครั้งเขาโจมตีหลินตงได้เพียงครั้งเดียวแต่การโจมตีแต่ละครั้ง กลับทำให้หลินตงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก“ปัง!”“ปัง!”เป่าครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างแล
เลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับเฟิงซิงเจี้ยนแต่เฟิงซิงเจี้ยนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายดายหลังจากพลังการต่อสู้ที่พุ่งสูงขึ้นความเร็วของเขาไม่ช้าไปกว่าหลินตงหลินตงไม่สามารถหลบหนีได้ไกล ดังนั้นเขาจึงต้องหันหลังกลับและเผชิญหน้ากับเฟิงตงหลายครั้งจากนั้นก็หาโอกาส ในการหลบหนีต่อไปจึงถ่วงเวลาด้วยวิธีนี้หลังจากทำซ้ำหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างดีเฟิงซิงเจี้ยนไม่สามารถฆ่าหลินตงได้เป็นเวลานานส่งผลให้อารมณ์เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากถูกหลินตงหลบหนีไปได้หลายครั้งปากส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เหมือนเสียงคำรามของสัตว์ป่าต้องการฉีกหลินตงให้เป็นชิ้นๆในขณะนี้ หลินตงรู้สึกว่าเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้ายที่ดุร้ายในสภาพคลุ้งคลั่งจริงๆ แล้วความรู้สึกของหลินตงก็ไม่ได้ผิดส่วนประกอบหลักของเซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์นคือเลือดของสัตว์สวรรค์ที่เรียกว่าม้านิลมังกรม้านิลมังกรมีร่างกายที่แข็งแกร่งและไม่มีอะไรสามารถเทียบเคียงได้แต่มีนิสัยดุร้ายเกิดมาพร้อมกับร่างกายระดับดาวเทียมเมื่อถึงวัยโตเต็มไวความแข็งแกร่งทางกายภาพสามารถไปได้ถึงระดับจ้าวจักรว
เสียงคำรามของม้านิลมังกร ทำให้ผู้เฝ้าดูเช่นหลินตงตกใจหลินตงสัมผัสได้ถึงพลังงานที่อยู่ในร่างของเฟิงซิงเจี้ยนทรงพลังยิ่งกว่าพลังงานจากการระเบิดของยานรบประจัญบานกาแล็กซีเสียอีกนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?น่าแปลกที่มันสามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นแบบนี้ได้เสียงคำรามหยุดลงดวงตาสีแดงเข้มของเฟิงซิงเจี้ยนมองไปที่หลินตงหลินตงตัวแข็งทื่อดวงตานี้มันอะไรกัน?ไม่เห็นร่องรอยของความเป็นมนุษย์อยู่เลยภายในมีแต่อารมณ์อันบ้าคลั่งดูเหมือนว่าต้องการทำลายล้างทั้งโลก“ฉึบ….”ร่างของเฟิงซิงเจี้ยนสั่นไหวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลินตงทันทีบิดร่างกลางอากาศหมอกสีแดงเข้มที่อยู่รอบตัวเขาก่อตัวเป็นร่างเงาของม้านิลมังกร ซึ่งสะท้อนการเคลื่อนไหวและกวาดหางไปทางหลินตงเร็วมาก!!!ไม่มีเวลาที่จะหลบเลี่ยงทันหลินตงไขว้มือไว้ข้างหน้าหน้าอกโดยสัญชาตญาณ ตั้งท่าป้องกัน“ปัง!!!”เสียงปังดังสนั่นหลินตงรู้สึกถึงพลังมหาศาลกำลังเข้ามาม้านิลมังกรที่ก่อตัวขึ้นจากหมอกสีแดงเข้มที่ซึมออกมาจากร่างกาย กวาดล้างระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรด้วยหางของมันความเจ็บปวดแผดเผา แผ่ซ่านไปทั่วมือและแขนทั้งสองข้างแม้ว่าหลินตงจ
จากนั้นหลบการโจมตีนี้แต่เขากลับพบว่ามือของเขาไม่สามารถดึงกลับได้ถูกกรงเล็บของม้านิลมังกรจับไว้แน่นแล้วหลินตงรู้ถึงแรงของการสะบัดหางนี้เไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆทำได้แค่โจมตีเฟิงซิงเจี้ยนด้วยร่างกายเท่านั้นทั้งสองผละตัวออกจากกันอย่างรวดเร็วแม้ว่ามันจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อเฟิงซิงเจี้ยนแต่อย่างน้อยก็ให้หลินตงหลีกเลี่ยงการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้ได้หลินตงไม่สามารถแยกตัวออกไปได้ทำได้แค่กำหมัดด้วยมือซ้ายและโจมตีหัวม้านิลมังกรสีแดงเข้มทีละหมัด“ปังๆๆ……”หลังจากรัวหมัดหลายสิบหมัดมือซ้ายของเขามีเลือดออกมากแต่เขายังคงไม่สนใจเฟิงซิงเจี้ยนคว้าหมัดของหลินตงด้วยกรงเล็บมังกรในมือซ้ายของเขาและตีเข่าใส่เขาในเวลาเดียวกันหลินตงก็เตะออกไปเพื่อตอบโต้“ตู้ม!”ทั้งสองฝ่ายปะทะกันบังคับให้ทั้งสองออกจากกันหลินตงกัดฟัน ถูข้อมือที่เจ็บของเขาบัดซบสัตว์ร้ายตัวนี้จัดการได้ยากจริงๆ และไม่รู้ว่ายาสีแดงเข้มนั้นคืออะไรน่าแปลกใจที่มันสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้หากเขามีโอกาส จะต้องหามันมาไว้ใช้ยามฉุกเฉินบ้างถ้าหลินตงรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงของการใช้เซรุ่มเลือดม้ายู
ความว่างเปล่าทั้งหมดสงบลงหลินตงจับกรงเล็บสัตว์ร้ายของเฟิงซิงเจี้ยนด้วยมือซ้าย ฝ่ามือขวาของเขากดแน่นกับหน้าอกทั้งสองยืนเงียบๆ ในความว่างเปล่า โดยไม่มีใครขยับตัวสภาพปัจจุบันของหลินตงดูน่าเป็นห่วงเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งแถมยังมีคราบเลือดอยู่มากมายทำให้หวงฝู่ซีเยว่ต้องกุมหน้าอก ด้วยความกังวลและนักรบจากโลก รวมถึงซ่งซือหมิน รู้สึกตึงเครียดและไม่สบายใจท้ายที่สุดแล้ว ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของคนสองคนนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของมนุษย์หลายพันล้านคนบนโลกทั้งใบสำหรับเฟิงจิ่วจงกับเฟิงจื่อเยว่ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยมานานแล้วเฟิงซิงเจี้ยนจ้องมองหลินตงด้วยดวงตาสีแดงก่ำดูเหมือนเขาต้องการที่จะกลืนกินเขาแต่ค่อยๆ สีแดงก่ำในดวงตาของเขาจางหายไปและรัศมีสีแดงเข้มของสัตว์ร้ายที่อยู่รอบตัวเขาก็เริ่มสลายไปเช่นกัน"อึกก!"เฟิงซิงเจี้ยนกระอักเลือดออกมาเต็มปากรัศมีเขาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วมันลดลงอย่างรวดเร็วถึงจุดต่ำสุดในขณะนี้ ในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้น จากสภาวะบ้าคลั่งสายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อหลังจากใช้เซรุ่มเลือดม้ายูนิคอร์น สภาวะม้านิลมังกรก็สลายไปโดยไม่ได้ผ่านการรั
เขาเองก็รู้สึกสบายใจมากเช่นกันแม้ว่าอาจจะมีความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างกองกำลังหลักอยู่บ้างเป็นประจำแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอก ทุกคนก็ยังรู้จักกาลเทศะมากสามารถรวมกันเป็นหนึ่งได้ยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูร่วมกันนั่นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม“ฉันรู้สึกโล่งใจที่เห็นพวกคุณคิดแบบนี้”หลังจากที่หลินตงพูดจบ เขาก็มองไปที่ศพของเฟิงซิงเจี้ยนที่ลอยอยู่ในความว่างเปล่าเขาหันศีรษะและชี้ให้หวงฝู่ซีเยว่ปล่อยเขาไปก่อนจากนั้นก็เดินไปหาเฟิงซิงเจี้ยนเริ่มตรวจสอบร่างกายของเขายิ่งการตรวจสอบลึกลงไปเท่าไรคิ้วของเขายิ่งขมวดมากขึ้นจนกระทั่งการตรวจสอบเสร็จสิ้นสีหน้าของหลินตงก็ดูน่ากลัวทำให้ซ่งซือหมินและคนอื่นๆ ตึงเครียดอีกครั้ง ความโล่งใจก่อนหน้านี้ของพวกเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว“เกิดอะไรขึ้น หลินตงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?“ ซ่งซือหมินถาม“โอ้! ไม่มีอะไร ลุงซ่ง อย่าเป็นกังวลไปเลย!” หลินตงฟื้นคืนสติและพูดแต่ภายในกลับเริ่มสาปแช่งไปแล้วในฐานะผู้ที่เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีนโบราณขณะกำลังตรวจสอบ หลินตงเพิ่งค้นพบร่างของเฟิงซิงเจี้ยน เซลล์ทั้งหมดในร่างกายของเขากำลังจะพังทลายสภาพนี้ไม่
เมื่อหลินตงสังหารเฟิงซิงเจี้ยนศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก อารยธรรมระดับที่สามดาวเฟิงหวัง บ้านบรรพบุรุษตระกูลเฟิงเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นอีกครั้ง“น่ะ น่ะ นายท่าน มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น!” สมาชิกในครอบครัวเฟิงที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลไพ่ชะตาชีวิตของครอบครัวร้องออกมาด้วยความกลัว ในขณะที่เขาพูดกับผู้จัดการตระกูลเฟิง“อะไรทำให้นายตื่นตระหนกขนาดนั้น? พูดมาสิ!” “นะ นะ นายน้อยสองตายแล้ว!”“อะไรนะ??? พูดอีกทีสิ! ใคร...ใคร...ใครตาย" ผู้จัดการลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจทันทีและพูด“นายท่านเฟิงซิงเจี้ยนตายแล้ว ไพ่ชะตาชีวิตของเขาเพิ่งจะแตกไป”“เร็วเข้า...รีบรายงานให้ผู้นำตระกูลทราบ”“ขอรับ!”ในขณะนั้น เฟิงซิงโจวกำลังต้อนรับแขกผู้มีเกียรติหม่าตงเฉิง รองคณบดีสถาบันที่เก้าของสถาบันสงครามกาแลคซีสถาบันสงครามกาแลคซีป็นสถาบันระดับแนวหน้าภายใต้อาณาจักรกาแล็กซีก่อตั้งเพื่อสร้างเหล่าผู้มีพรสวรรค์ให้อาณาจักรโดยเฉพาะถูกแบ่งออกเป็นเก้าสถาบันสถาบันทั้งเก้าแห่งนี้ดำเนินการอย่างอิสระและยังแข่งขันกันเองอีกด้วยเฟิงรั่วเฉินเป็นนักศึกษาอันดับหนึ่งของสถาบันที่เก้าแม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่สถาบัน
เขาไม่สนใจความตายของเฟิงรั่วเฉินอย่างแน่นอนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักเรียนชั้นนำจำนวนมากได้จบการศึกษาจากสถาบันที่เก้าพรสวรรค์ของเฟิงรั่วเฉินมีจำกัด และหากไม่ออกไปผจญภัย ก็จะยากที่จะรักษาตำแหน่งหัวหน้าไว้ได้แต่เฟิงรั่วเฉินยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถาบันที่เก้าอยู่การตายของเขานั้น ไม่สามารถพิสูจน์ว่าสถาบันที่เก้าไร้ความสามารถ?แม้แต่คนระดับหัวหน้าก็ตายอย่าง่ายดายเช่นนี้สถาบันที่เก้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?แม้ว่าสถาบันที่เก้าจะอยู่ภายใต้สถาบันสงครามกาแลกติก ซึ่งเป็นสถาบันของอาณาจักรแต่การแข่งขันระหว่างสถาบันนั้น ดุเดือดอย่างมากทำให้ไม่มีใครอยากรั้งท้ายหากสถาบันอีกแปดแห่งรู้ว่า หัวหน้าของสถาบันที่เก้าตายไปเช่นนี้ก็อาจกลายเป็นหัวข้อของการเยาะเย้ยในการแข่งขันเก้าสถาบันที่กำลังจะมาถึง สร้างความอับอายให้กับสถาบันที่เก้าคณบดีเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับหน้าตาอย่างมากถ้าเขาต้องอับอายในการแข่งขันจะไม่มีทางที่สถาบันที่เก้าจะปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆหากรู้เร็วกว่านี้ คงปลดเฟิงรั่วเฉินออกจากตำแหน่งหัวหน้าทันทีตอนนี้ ต้องกลับไปหารือเรื่องนี้อย่างรอบคอบกับคณบดี“วางใจได้รองคณบดีหม่า