มุมมืด!กลางปราสาทหลินตงให้หลัวซาจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทหารเปลวไฟไม่นานเจ้าหน้าที่ระดับหลายคนก็มาถึงทีละคนหลัวซารองหัวหน้าอันดับหนึ่งเซียวพ่อจวินรองหัวหน้าอันดับสองทิวลิปรองหัวหน้าอันดับสามนอกจากนี้ยังมีชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่ง หลินตงจำได้ว่าน่าจะเป็นคนของกระหายเลือดใช่ไหม?ทำไมเขาก็มาด้วย?หลินตงมองไปที่หลัวซาด้วยสายตาตั้งคำถามหลัวซาเห็นแล้วก็ยืนขึ้นและพูดว่า "กัปตัน! คนนี้เคยเป็นกุนซือของกองทหารรับจ้างกระหายเลือด ชื่ออี้เสี่ยวชวน เป็นคนท้องถิ่นของมุมมืด ผมตรวจสอบประวัติของเขาแล้ว ตอนอยู่กระหายเลือดไม่เคยฆ่าใคร โดยพื้นฐานแล้วช่วยกระหายเลือดจัดการกับเรื่องภายใน และมีความคิดมากมายที่เอื้อต่อการพัฒนาของเรา ชื่อเสียงที่มุมมืดก็ดีมาก ดังนั้นผมจึงเก็บเขาไว้""อี้เสี่ยวชวนคารวะกัปตัน!!!" ชายร่างผอมก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับให้หลินตงแล้วพูดหลินตงพิจารณาผู้ชายคนนี้อย่างละเอียด อายุน่าจะไม่มาก ประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด ผอมและอ่อนแอเล็กน้อย ไม่มีความแข็งแกร่ง อยู่ในระดับประมาณชั้นที่สองและสาม แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย"คุณเป็นคนมุมมืดเหรอ???" หลินตงถาม"
เวลาผ่านไปในแต่ละวันแต้มศักดิ์สิทธิ์ของหลินตงโดยเฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้นทีละร้อยกว่าแต้มตามความเร็มนี้ อีกไม่นานหลินตงจะสามารถปรับปรุงร่างกายและก้าวไปสู่ระดับต่อไปได้แล้วตอนนั้นเขาจะไม่กลัวอะไรอีกแล้วจริง ๆผ่านไปอีกประมาณสิบวันแต้มศักดิ์สิทธิ์ของหลินตงก็ไปถึงห้าพันแต้มทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของทุกคนในมุมมืดไม่สามารถโทรออกได้ในวันนี้การสื่อสารไร้สายทั้งหมดถูกตัดขาดต้องโทรผ่านสายเท่านั้นแต่กินเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็หายแล้วทุกคนก็ไม่ได้สนใจมากนักและในปราสาทกลางมุมมืดสมาชิกหลักหลายคนของกองทหารรับจ้างเปลวไฟต่างส่งเสียงเชียร์อย่างดีใจในที่สุดการทดลองลากสนามแม่เหล็กก็ประสบผลสำเร็จต่อไปมุมมืดไม่ต้องกลัวการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ควบคุมจากระยะไกลอีกต่อไป ตราบใดที่ถูกค้นพบโดยเรดาร์ก็เปิดลากสนามแม่เหล็กทันที ขีปนาวุธจะสูญเสียทิศทางและแม้กระทั่งเป็นบอดนี่เป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับมุมมืดและมีเพียงหลินตงเท่านั้นที่ได้รับการสนับสนุนจากต้นไม้ใหญ่อย่างต้าเซี่ย ที่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นคาดว่าคงทำไม่ได้จนกว่าเทคโนโลยีนี้จะได้รับความนิยมปัจจุบันมีประเ
หลินตงถูกทิ้งไว้คนเดียวในห้องปฏิบัติการเมื่อมองดูอุปกรณ์ที่อยู่ตรงหน้า ในขณะนี้ ดัชนีความปลอดภัยของมุมมืดเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอนหลินตงเหลือบมองที่แผงระบบแต้มศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงห้าพันสองแต้มแล้วมีอีกแค่สี่พันแปดร้อยแต้ม เขาก็สามารถปรัปปรุงร่างกายต่อไปได้เมื่อร่างกายดีขึ้นแล้ว เขาก็จะก้าวไปสู่ระดับต่อไปด้วยนั่นก็คือผู้พิทักษ์ในตำนานเมื่อถึงตอนนั้น ต่อหน้าซ่งซือหมิน น่าจะไม่ถึงขั้นไม่มีแรงตอบโต้แล้วใช่มั้ย???หลินตงหันหลังกลับและออกจากห้องปฏิบัติการและมาที่ห้องโถงรองหัวหน้าทั้งสามบวกกับอี้เสี่ยวชวน และเจ้าหน้าที่ระดับกลางของเปลวไฟอีกสิบกว่าคน กำลังสนุกสนานในห้องโถงและเฉลิมฉลองด้วยแชมเปญหลินตงเดินไปที่ที่นั่งหลักแล้วนั่งลงคนข้างล่างก็หยุดสนุกสนานเช่นกัน"หลัวซา!!!" หลินตงเรียก"ครับ!!!""ห้องปฏิบัติการต้องเพิ่มการป้องกันและส่งคนที่น่าเชื่อถือที่สุดไปเฝ้า ตั้งแต่วันนี้ มุมมืดของเราจะหลุดพ้นจากข้อจำกัดของสองจักรวรรดิใหญ่แล้ว""ครับ!!! กัปตัน!!!" หลัวซาตอบกลับเสียงดังในขณะนี้เขาก็ตื่นเต้นมากเช่นกันอยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายมากว่าสิบปี ได้รู้จักกับพี่น้องมากมายแล
"ยุนซี เธอเคยได้ยินหลินตงพูดถึงคนที่ชื่อจ้าวซวนบ้างไหม?" กวนเหม่ยหลิงถามเธอให้ความสนใจกับบริษัทลงทุนตงไหล และค้นพบผู้หญิงคนนี้มาตั้งนานแล้วและก็ตรวจสอบข้อมูลของจ้าวซวนอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเพียงคนที่ออกมาจากหลังเขาที่ยากจน อาศัยต้นไม้ใหญ่อย่างหลินตง กลับกลายร่างเป็นสาวแกร่งธุรกิจหมื่นล้านและนี่ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลงทุนตงไหล นี่คือบุคคลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากหลินตง ในบริษัทลงทุนตงไหลซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเป็นล้านล้านกวนเหม่ยหลิงสนใจผู้หญิงที่อยู่รอบข้างหลินตงมาก กลัวว่าจะมีใครเหนือกว่าลูกสาวของเธอและแย่งหลินตงไปลูกเขยที่หล่อ รวย อารมณ์ดีขนาดนี้จะไปหาได้ที่ไหน???นี่เป็นเรื่องที่หายากและขอไม่ได้จริง ๆ"ไม่เคยได้ยินมาก่อน! มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ยุนซีถามอย่างสงสัย"แม่สาวน้อย ทำไมเธอไม่สนใจเรื่องนี้เลย? จ้าวซวนคนนี้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลงทุนตงไหล ติดต่อกับหลินตงบ่อย ๆ และหน้าตาก็ไม่เลว เธอไม่กังวลว่าหลินตงจะถูกคนอื่นแย่งไปเหรอ?" กวนเหม่ยหลิงพูดด้วยน้ำเสียงช่วยอะไรไม่ได้"โอ๊ย! แม่! หลินตง หลินตงเก่งขนา
หลังจากที่กวนเหม่ยหลิงและยุนจงไห่จากไป ยุนซีก็กล่าวขอโทษว่า " หลินตง คุณอย่ารังเกียจนะ! แม่ของฉันก็เป็นแบบนี้ ขี้สงสัย!!!""สาวน้อย! ผมมีอะไรต้องโกรธ! ป้ากวนแค่เป็นห่วงผม!" หลินตงพูดด้วยรอยยิ้มเขายังไม่รู้ความคิดของกวนเหม่ยหลิง เพียงแต่ว่าตัวเองไม่ได้มานานแล้ว ทำให้กวนเหม่ยหลิงคิดว่าตัวเองทะเลาะอะไรกับยุนซี จึงได้ถามแบบนี้พูดตามตรง อยู่กับผู้หญิงอย่างยุนซีใครจะโกรธลง"หลินตง คุณวางแผนที่จะอยู่ที่จิงตูครั้งนี้นานแค่ไหน?" ยุนซีถาม"อืม...วันสองวันมั้ง!""เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?" ยุนซีถามอย่างเหงา ๆ เล็กน้อยเธอยังคิดว่าหลินตงสามารถอยู่ได้นานหน่อย และไปเดินเล่นกับเธอให้ทั่ว! ไม่คิดว่าหลินตงจะจากไปเร็วขนาดนี้"ช่วยไม่ได้! ใกล้จะถึงงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนร่วมชั้นแล้ว ต้องกลับเร็วหน่อย ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะไปแน่นอน และผมยังต้องกลับไปเยี่ยมพวกป้าป้าด้วย แต่ผมเตรียมว่าอีกเดี๋ยวจะคุยกับป้ากวนและลุงยุนว่าให้คุณไปกับผม""จริงเหรอ???" ยุนซีถามด้วยความประหลาดใจ"แน่นอน ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่ปฏิเสธ!""ตราบใดที่คุณเอ่ยปาก พวกเขาจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน" ยุนซีกล่าวอย่างตื่นเต้นเธอรู้จักแม่ขอ
"ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยเขาไปแบบนี้ก็ไม่ได้นะ? ผู้ชายยิ่งปล่อยยิ่งเอาใหญ่""อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่มีหลักฐาน คนอื่นติดต่องานปกติก็ไม่ได้? ในฐานะเจ้านายของบริษัทลงทุนตงไหล หลินตงพาผู้จัดการทั่วไปและพนักงานไปพัฒนาที่ต่างประเทศ ใครก็เอาผิดอะไรไม่ได้""แต่...""ไม่ต้องแต่แล้ว ไปกันเถอะ! ออกไปซื้อกับข้าวกับผม ให้พวกเขาอยู่ตามลำพังกันสักพัก"ตอนเย็นหลังอาหารเย็นทั้งครอบครัวนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกสุดท้ายกวนเหม่ยหลิงก็อดกลั้นไว้ได้ ไม่ได้ถามหลินตงต่อ"ป้ากวน ลุงยุน พรุ่งนี้ผมจะเตรียมตัวกลับมณฑลเจียงหนาน อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายที่จะต้องเข้าร่วม ผมอยากให้ยุนซีไปกับผม ตอนนี้ปิดเทอมก็ไม่ได้ทำอะไร และเธอก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของพวกเราด้วย" หลินตงพูดกับกวนเหม่ยหลิงและยุนจงไห่"ไปเลย! พายุนซีออกไปพักผ่อนหย่อนใจด้วยพอดี เธอไปคนเดียวเรายังไม่วางใจ มีนายพาไปเราก็สบายใจขึ้นเยอะ ในเมื่อออกไปแล้ว แถมยังเป็นวันหยุดอีก ก็ไปเที่ยวกันให้ทั่ว" กวนเหม่ยหลิงกล่าวเธอตอนนี้แทบอยากจะให้ยุนซีจะอยู่กับหลินตงทุกวัน ย่อมไม่ปฏิเสธคำขอเช่นนี้ของหลินตง"ขอบคุณแม่!!!" ยุนซีกล
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินตงและยุนซีบินตรงไปยังเจียงเฉิงมณฑลเจียงหนานด้วยกันหลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลินตงก็พายุนซีกลับไปที่เจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลแม้ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว แต่ทุกสัปดาห์จะมีแม่บ้านเฉพาะเข้ามาทำความสะอาด ห้องจึงยังคงสะอาดเหมือนเดิมระหว่างทางหลินตงได้โทรหาโรงแรมโกลเด้นลิฟให้ส่งอาหารกลางวันไปที่เจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลเขาก็ขี้เกียจที่จะออกไปไหนแล้ว มีอำนาจนี้ก็ต้องใช้หลังจากเข้าไปในบ้านเจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลแล้ว หลินตงพูดกับยุนซีว่า "ยุนซี ถ้าคุณเหนื่อยก็พักผ่อนสักหน่อยเถอะ อาหารกลางวันมาถึงแล้วผมจะเรียกคุณ""ฉันไม่เหนื่อย! หลินตง นี่คือที่พักคุณเหรอ? มันสวยมาก!" ยุนซีเดินเข้าไปในบ้านมองซ้ายมองขวาแล้วถาม"อืม! เมื่อก่อนผมพักอยู่ที่นี่ ถ้าคุณชอบช่วงนี้เราก็พักที่นี่เลย ถ้าคุณอยากพักที่โรงแรมก็ได้ ที่นี่มีโรงแรมระดับแปดดาวก็เป็นของผม""ไม่เอา ฉันไม่อยากพักโรงแรม พักที่นี่ก็ดีแล้ว" ยุนซีกล่าว"ก็ได้ งั้นก็พักที่นี่ ตอนบ่ายผมจะพาคุณไปพบกับป้าป้าของผม พวกเขาก็อยู่ในหมู่บ้านนี้ด้วย""เอ่อ...หลินตง ฉันต้องไปซื้อของอะไรไปพบไหม?" ยุนซีถามอย
หลิวแย่นเหมยและหลินกั๋วยิงสองครอบครัวต่างก็มีชื่อเสียงเล็กน้อยในเมืองชูเฉิง ใช้คำพูดของพวกเธอ นี่เป็นเกียรติแก่บรรพบุรุษสิ่งเหล่านี้หลินตงให้พวกเธอทั้งหมดสิ่งที่ทั้งสองครอบครัวทุ่มเทคือ เพียงแค่ช่วยหลินตงในช่วงเวลาที่ยากลำบากและน่าสงสารที่สุดของเขาและพาเขาไปอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองในความคิดของหลิวแย่นเหมยและหลินกั๋วยิง พวกเธอเป็นญาติของหลินตง และผู้อาวุโสของหลินตง และช่วยหลินตงก็สำเหตุสมผลหลินตงกลับตอบแทนพวกเธอมากมายแน่นอนว่าความคิดของหลินตงก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อเป็นญาติกัน ตัวเองมีความสามารถแล้วก็ควรช่วยพวกเธอลุงคนที่สองของหลินตงหลินกั๋วปังและลุงคนที่สี่หลินกั๋วเวย และยังมีอาของเขา ในปีนั้นทั้งหมดเป็นเพราะความไม่พอใจของค่าชดเชยของพ่อแม่หลินตง จนถึงตอนนี้หลินตงก็ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่พวกเขาเลยทั้งสองครอบครัวยังคงจำสายตาอิจฉาของคนเหล่านี้ได้ตอนพวกเขากลับไป ทั้งแอบทั้งเปิดเผยขอร้องให้ช่วยพวกเขาหาทางออก ก็อยากจะตามมาพัฒนาที่เจียงเฉิงด้วยแต่ทั้งหลิวแย่นเหมยและหลินกั๋วยิงก็ปฏิเสธหมดบอกว่าทำงานที่บริษัทของหลินตง ไม่มีคำพูดของหลินตง พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์พวกเธอรู้นิสัยของหลินตง