หลินตงพูดจบทั้งสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงเล็กน้อยแม้แต่จูเก่อชางโฉงก็ไม่คิดว่าหลินตงจะพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังหาเรื่องคนอื่นเฟิงซิวหรี่ตาราวกับงูพิษและมองไปที่หลินตง ใครก็ตามที่รู้จักเขาก็จะรู้ว่าเขากำลังโกรธ"จูเก่อ นี่ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้หน้าคุณนะ! คุณก็ได้ยินแล้ว คนอื่นไม่สนใจเลย และไม่เห็นผมเฟิงซิวอยู่ในสายตาเลย""ทำไม? หรือว่าคุณไม่อยากจะขอโทษผม?" หลินตงถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้"ฉันขอโทษนาย? นายคิดว่านายมีคุณสมบัติเพียงพอไหม? หลินตง อย่าคิดว่านายฆ่าฉินเจิง ตระกูลฉินทำอะไรนายไม่ได้ นายก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ ฉันจะบอกนาย ในแวดวงชั้นนำของต้าเซี่ย ตระกูลฉินยังห่างไกลมาก" เฟิงซิวกล่าวด้วยสีหน้าดูถูก"หมายความว่าตระกูลเฟิงของคุณเก่งมากเหรอ?""ตระกูลเฟิงของฉันเก่งไม่เก่งต่อไปนายจะรู้เอง จูเก่อ วันนี้ผมมีธุระต้องขอตัวก่อน ไม่ต้องห่วง เรื่องที่รับปากคุณไว้ ผมทำได้แน่นอน แต่หลังจากจบเรื่องพันธะสัญญาสิบปี หวังว่าคุณจะไม่เข้าไปยุ่งอีก" เฟิงซิวพูดจบก็ยืนขึ้นแล้วจากไปวันนี้มีจูเก่อชางโฉงอยู่ที่นี่ คงแตะต้องหลินตงไม่ได้แน่ ๆ ไม่งั้นเขาไม่รังเกียจที่จะให้บทเรียนหลินตงความแข็ง
แต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแผน งานเลี้ยงรุ่นน่าจะเลื่อนเวลาออกไปบ้าง เพิ่งปิดเทอม เพื่อนบางคนยังไม่กลับมาเลย จึงกำหนดชั่วคราวไว้เป็นอีกเดือนนี่เป็นการตัดสินใจโดยกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายเมื่อวานนี้เนื่องจากยังมีเวลาอยู่ หลินตงก็เตรียมที่จะพาซ่งเจียไปที่มุมมืดก่อน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาถึงตอนนั้นไม่ทันงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนร่วมชั้นจริง ๆ ก็ช่างเถอะ วันหลังยังมีโอกาส ความปลอดภัยของมุมมืดสำคัญที่สุดตราบใดที่มุมมืดใช้สนามแม่เหล็กได้และปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ตัวเองถึงจะไม่กลัวที่จะเปิดเผยตัวตนและไม่กลัวการถูกโจมตีโดยรัฐอินทรีหลังจากวางแผนแล้ว หลินตงก็บินกลับไปที่จิงตูในวันนั้น คราวนี้เขาไม่ได้แจ้งยุนซี จากนั้นก็พาซ่งเจียไปที่มุมมืดในวันรุ่งขึ้นจุดแรกของพวกเขาคือเมืองโหลเฉิง ซึ่งเป็นเมืองระดับจังหวัดที่ใกล้มุมมืดที่สุดหลินตงและซ่งเจียบินตรงจากจิงตูไปยังเมืองโหลเฉิง พักอยู่ที่นี่หนึ่งวัน และขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากกองบัญชาการทหารในพื้นที่ไปยังมุมมืดในวันรุ่งขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงน่านฟ้าของมุมมืด แล้วลงจอดที่มุมมืดแม้ว่านี่จะเป็นเครื่องบินทหาร แต่หลังจากแ
มุมมืด!กลางปราสาทหลินตงให้หลัวซาจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทหารเปลวไฟไม่นานเจ้าหน้าที่ระดับหลายคนก็มาถึงทีละคนหลัวซารองหัวหน้าอันดับหนึ่งเซียวพ่อจวินรองหัวหน้าอันดับสองทิวลิปรองหัวหน้าอันดับสามนอกจากนี้ยังมีชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่ง หลินตงจำได้ว่าน่าจะเป็นคนของกระหายเลือดใช่ไหม?ทำไมเขาก็มาด้วย?หลินตงมองไปที่หลัวซาด้วยสายตาตั้งคำถามหลัวซาเห็นแล้วก็ยืนขึ้นและพูดว่า "กัปตัน! คนนี้เคยเป็นกุนซือของกองทหารรับจ้างกระหายเลือด ชื่ออี้เสี่ยวชวน เป็นคนท้องถิ่นของมุมมืด ผมตรวจสอบประวัติของเขาแล้ว ตอนอยู่กระหายเลือดไม่เคยฆ่าใคร โดยพื้นฐานแล้วช่วยกระหายเลือดจัดการกับเรื่องภายใน และมีความคิดมากมายที่เอื้อต่อการพัฒนาของเรา ชื่อเสียงที่มุมมืดก็ดีมาก ดังนั้นผมจึงเก็บเขาไว้""อี้เสี่ยวชวนคารวะกัปตัน!!!" ชายร่างผอมก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับให้หลินตงแล้วพูดหลินตงพิจารณาผู้ชายคนนี้อย่างละเอียด อายุน่าจะไม่มาก ประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด ผอมและอ่อนแอเล็กน้อย ไม่มีความแข็งแกร่ง อยู่ในระดับประมาณชั้นที่สองและสาม แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย"คุณเป็นคนมุมมืดเหรอ???" หลินตงถาม"
เวลาผ่านไปในแต่ละวันแต้มศักดิ์สิทธิ์ของหลินตงโดยเฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้นทีละร้อยกว่าแต้มตามความเร็มนี้ อีกไม่นานหลินตงจะสามารถปรับปรุงร่างกายและก้าวไปสู่ระดับต่อไปได้แล้วตอนนั้นเขาจะไม่กลัวอะไรอีกแล้วจริง ๆผ่านไปอีกประมาณสิบวันแต้มศักดิ์สิทธิ์ของหลินตงก็ไปถึงห้าพันแต้มทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของทุกคนในมุมมืดไม่สามารถโทรออกได้ในวันนี้การสื่อสารไร้สายทั้งหมดถูกตัดขาดต้องโทรผ่านสายเท่านั้นแต่กินเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็หายแล้วทุกคนก็ไม่ได้สนใจมากนักและในปราสาทกลางมุมมืดสมาชิกหลักหลายคนของกองทหารรับจ้างเปลวไฟต่างส่งเสียงเชียร์อย่างดีใจในที่สุดการทดลองลากสนามแม่เหล็กก็ประสบผลสำเร็จต่อไปมุมมืดไม่ต้องกลัวการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ควบคุมจากระยะไกลอีกต่อไป ตราบใดที่ถูกค้นพบโดยเรดาร์ก็เปิดลากสนามแม่เหล็กทันที ขีปนาวุธจะสูญเสียทิศทางและแม้กระทั่งเป็นบอดนี่เป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับมุมมืดและมีเพียงหลินตงเท่านั้นที่ได้รับการสนับสนุนจากต้นไม้ใหญ่อย่างต้าเซี่ย ที่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นคาดว่าคงทำไม่ได้จนกว่าเทคโนโลยีนี้จะได้รับความนิยมปัจจุบันมีประเ
หลินตงถูกทิ้งไว้คนเดียวในห้องปฏิบัติการเมื่อมองดูอุปกรณ์ที่อยู่ตรงหน้า ในขณะนี้ ดัชนีความปลอดภัยของมุมมืดเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอนหลินตงเหลือบมองที่แผงระบบแต้มศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงห้าพันสองแต้มแล้วมีอีกแค่สี่พันแปดร้อยแต้ม เขาก็สามารถปรัปปรุงร่างกายต่อไปได้เมื่อร่างกายดีขึ้นแล้ว เขาก็จะก้าวไปสู่ระดับต่อไปด้วยนั่นก็คือผู้พิทักษ์ในตำนานเมื่อถึงตอนนั้น ต่อหน้าซ่งซือหมิน น่าจะไม่ถึงขั้นไม่มีแรงตอบโต้แล้วใช่มั้ย???หลินตงหันหลังกลับและออกจากห้องปฏิบัติการและมาที่ห้องโถงรองหัวหน้าทั้งสามบวกกับอี้เสี่ยวชวน และเจ้าหน้าที่ระดับกลางของเปลวไฟอีกสิบกว่าคน กำลังสนุกสนานในห้องโถงและเฉลิมฉลองด้วยแชมเปญหลินตงเดินไปที่ที่นั่งหลักแล้วนั่งลงคนข้างล่างก็หยุดสนุกสนานเช่นกัน"หลัวซา!!!" หลินตงเรียก"ครับ!!!""ห้องปฏิบัติการต้องเพิ่มการป้องกันและส่งคนที่น่าเชื่อถือที่สุดไปเฝ้า ตั้งแต่วันนี้ มุมมืดของเราจะหลุดพ้นจากข้อจำกัดของสองจักรวรรดิใหญ่แล้ว""ครับ!!! กัปตัน!!!" หลัวซาตอบกลับเสียงดังในขณะนี้เขาก็ตื่นเต้นมากเช่นกันอยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายมากว่าสิบปี ได้รู้จักกับพี่น้องมากมายแล
"ยุนซี เธอเคยได้ยินหลินตงพูดถึงคนที่ชื่อจ้าวซวนบ้างไหม?" กวนเหม่ยหลิงถามเธอให้ความสนใจกับบริษัทลงทุนตงไหล และค้นพบผู้หญิงคนนี้มาตั้งนานแล้วและก็ตรวจสอบข้อมูลของจ้าวซวนอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเพียงคนที่ออกมาจากหลังเขาที่ยากจน อาศัยต้นไม้ใหญ่อย่างหลินตง กลับกลายร่างเป็นสาวแกร่งธุรกิจหมื่นล้านและนี่ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลงทุนตงไหล นี่คือบุคคลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากหลินตง ในบริษัทลงทุนตงไหลซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเป็นล้านล้านกวนเหม่ยหลิงสนใจผู้หญิงที่อยู่รอบข้างหลินตงมาก กลัวว่าจะมีใครเหนือกว่าลูกสาวของเธอและแย่งหลินตงไปลูกเขยที่หล่อ รวย อารมณ์ดีขนาดนี้จะไปหาได้ที่ไหน???นี่เป็นเรื่องที่หายากและขอไม่ได้จริง ๆ"ไม่เคยได้ยินมาก่อน! มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ยุนซีถามอย่างสงสัย"แม่สาวน้อย ทำไมเธอไม่สนใจเรื่องนี้เลย? จ้าวซวนคนนี้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลงทุนตงไหล ติดต่อกับหลินตงบ่อย ๆ และหน้าตาก็ไม่เลว เธอไม่กังวลว่าหลินตงจะถูกคนอื่นแย่งไปเหรอ?" กวนเหม่ยหลิงพูดด้วยน้ำเสียงช่วยอะไรไม่ได้"โอ๊ย! แม่! หลินตง หลินตงเก่งขนา
หลังจากที่กวนเหม่ยหลิงและยุนจงไห่จากไป ยุนซีก็กล่าวขอโทษว่า " หลินตง คุณอย่ารังเกียจนะ! แม่ของฉันก็เป็นแบบนี้ ขี้สงสัย!!!""สาวน้อย! ผมมีอะไรต้องโกรธ! ป้ากวนแค่เป็นห่วงผม!" หลินตงพูดด้วยรอยยิ้มเขายังไม่รู้ความคิดของกวนเหม่ยหลิง เพียงแต่ว่าตัวเองไม่ได้มานานแล้ว ทำให้กวนเหม่ยหลิงคิดว่าตัวเองทะเลาะอะไรกับยุนซี จึงได้ถามแบบนี้พูดตามตรง อยู่กับผู้หญิงอย่างยุนซีใครจะโกรธลง"หลินตง คุณวางแผนที่จะอยู่ที่จิงตูครั้งนี้นานแค่ไหน?" ยุนซีถาม"อืม...วันสองวันมั้ง!""เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?" ยุนซีถามอย่างเหงา ๆ เล็กน้อยเธอยังคิดว่าหลินตงสามารถอยู่ได้นานหน่อย และไปเดินเล่นกับเธอให้ทั่ว! ไม่คิดว่าหลินตงจะจากไปเร็วขนาดนี้"ช่วยไม่ได้! ใกล้จะถึงงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนร่วมชั้นแล้ว ต้องกลับเร็วหน่อย ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะไปแน่นอน และผมยังต้องกลับไปเยี่ยมพวกป้าป้าด้วย แต่ผมเตรียมว่าอีกเดี๋ยวจะคุยกับป้ากวนและลุงยุนว่าให้คุณไปกับผม""จริงเหรอ???" ยุนซีถามด้วยความประหลาดใจ"แน่นอน ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่ปฏิเสธ!""ตราบใดที่คุณเอ่ยปาก พวกเขาจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน" ยุนซีกล่าวอย่างตื่นเต้นเธอรู้จักแม่ขอ
"ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยเขาไปแบบนี้ก็ไม่ได้นะ? ผู้ชายยิ่งปล่อยยิ่งเอาใหญ่""อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่มีหลักฐาน คนอื่นติดต่องานปกติก็ไม่ได้? ในฐานะเจ้านายของบริษัทลงทุนตงไหล หลินตงพาผู้จัดการทั่วไปและพนักงานไปพัฒนาที่ต่างประเทศ ใครก็เอาผิดอะไรไม่ได้""แต่...""ไม่ต้องแต่แล้ว ไปกันเถอะ! ออกไปซื้อกับข้าวกับผม ให้พวกเขาอยู่ตามลำพังกันสักพัก"ตอนเย็นหลังอาหารเย็นทั้งครอบครัวนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกสุดท้ายกวนเหม่ยหลิงก็อดกลั้นไว้ได้ ไม่ได้ถามหลินตงต่อ"ป้ากวน ลุงยุน พรุ่งนี้ผมจะเตรียมตัวกลับมณฑลเจียงหนาน อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายที่จะต้องเข้าร่วม ผมอยากให้ยุนซีไปกับผม ตอนนี้ปิดเทอมก็ไม่ได้ทำอะไร และเธอก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของพวกเราด้วย" หลินตงพูดกับกวนเหม่ยหลิงและยุนจงไห่"ไปเลย! พายุนซีออกไปพักผ่อนหย่อนใจด้วยพอดี เธอไปคนเดียวเรายังไม่วางใจ มีนายพาไปเราก็สบายใจขึ้นเยอะ ในเมื่อออกไปแล้ว แถมยังเป็นวันหยุดอีก ก็ไปเที่ยวกันให้ทั่ว" กวนเหม่ยหลิงกล่าวเธอตอนนี้แทบอยากจะให้ยุนซีจะอยู่กับหลินตงทุกวัน ย่อมไม่ปฏิเสธคำขอเช่นนี้ของหลินตง"ขอบคุณแม่!!!" ยุนซีกล
หลินตงและครอบครัวอวิ๋นชวนรีบกลับไปที่พระราชวังทันทีที่พวกเขามาถึง เซี่ยอวิ๋นชวนก็รีบพาหลินตงเข้าไปในห้องลับของพระราชวังนี่คือสถานที่ที่เซี่ยจิ่วโหยวใช้ศึกษายาและปรุงยาเป็นประจำสมุนไพรล้ำค่าเกือบทั้งหมด ที่พบในกาแล็กซีทางช้างเผือกมีอยู่ที่นี่แม้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินตงจะไม่ร้ายแรงแต่เซี่ยอวิ๋นชวนได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนหลังจากเข้าไปในห้องลับแล้วหลิวนิ่งเหยียนกับเซี่ยมู่ช่วยเซี่ยอวิ๋นชวนเข้าไปในห้องหนึ่งเซี่ยจิ่วโหยวพาหลินตงและเย่ชิงหวู่ไปที่ห้องอื่นเซี่ยจิ่วโหยวกำลังเตรียมที่จะให้การรักษาหลินตงเล็กน้อยก่อน จากนั้นจึงช่วยรักษาเซี่ยอวิ๋นชวนอย่างไรก็ตาม หลินตงปฏิเสธเขาเชี่ยวชาญเทคนิคการแพทย์แผนจีนโบราณจนเชี่ยวชาญถึงขีดสุดแล้ว ยังจำเป็นต้องให้คนอื่นมารักษาอีกหรือ?ไม่มีใครรู้จักร่างกายของตัวเองดีไปกว่าตัวเอง"หลินตง นายรู้จักทักษะทางการแพทย์ด้วยงั้นเหรอ? "เซี่ยจิ่วโหยวถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ"ใช่! ผู้อาวุโสเซี่ย ฉันเคยเรียนรู้มาบ้างแล้ว ดังนั้นคุณควรไปช่วยลุงเซี่ยรักษาเขา! อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างร้ายแรง และหากไม่ได้รับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม อาจ
หลี่เทียนลังเลเขาไม่กล้าเอาทุกสิ่งในอาณาจักรสวรรค์ไปเสี่ยงรอจนกว่ากองกำลังเสริมจากเผ่ามังกรเก้าหัวจะมาถึงก่อน แล้วค่อยว่ากัน!"หลินตง! เร็วๆ นี้ แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำไปในวันนี้ ฉันหวังว่าแกจะไม่เสียใจในภายหลัง เซี่ยอวิ๋นชวน แม้ว่าแกจะรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้ในวันนี้ แต่ก็อย่าดีใจจนเกินไป เราจะกลับมาอีกครั้ง"หลังจากพูดจบ หลี่เทียนก็หันหลังกลับและจากไปหยวนหลินและคนอื่นๆ มองหลินตงอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปรอจนกว่าหลี่เทียนและคนอื่นๆ จะจากไปในที่สุดรัศมีของหลินตงก็อ่อนลงเอามือซ้ายปิดหน้าอกและไออย่างรุนแรงหลายครั้ง"แค่กๆ!!"บ้าเอ๊ย ไอ้พวกนี้ไม่ยั้งมือกันเลยจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของเขาถูกระบบยกระดับให้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้วันนี้คงจบลงด้วยหายนะสำหรับเขาเสียงโห่ร้องดังลั่นมาจากหอคอยทองคำดวงดาวจักรพรรดิ"นายท่านหลินไร้เทียมทาน!!!""นายท่านหลินเป็นผู้ยิ่งใหญ่!!!”"จากนี้ไป นายท่านหลินคือต้นแบบของฉัน"องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนและจักรพรรดินีหลิวนิ่งเหยียน ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่า ตอนนี้มันอันตรายแค่ไหนถ้าไม่ใช
การต่อสู้บนท้องฟ้าได้หยุดลงชั่วคราว!รูปลักษณ์ที่ดูยุ่งเหยิงของหลินตงก็ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนเช่นกัน"นายท่านหลินได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?""นายท่านหลิน อดทนไว้!!!""นายท่านหลิน ฉันมียารักษาอยู่ที่นี่!""ฉันก็มีเหมือนกัน!!!"เสียงต่างๆ ดังขึ้นทีละเสียงจากผู้คนบนหอคอยทองคำเย่ชิงหวู่มองไปที่บาดแผลบนร่างกายของหลินตง หัวใจของเธอเจ็บปวดเล็กน้อยเธอติดตามหลินตงมาเป็นเวลานาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาได้รับบาดเจ็บแต่ศัตรูคือตัวตนที่เทียบเท่ากับองค์จักรพรรดิถึงห้าพระองค์เว้นแต่ว่าจะไปถึงระดับอาณาจักรนิรันดรอย่างแท้จริงแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถอ้างชัยชนะได้อย่างง่ายดายเซี่ยมู่ก็เห็นเช่นกันน้ำตาคลอเบ้าในดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งหลินตงได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จากเศษซากอาณาจักรสวรรค์ ก็เพราะเพื่อช่วยครอบครัวของเธอเซี่ยอวิ๋นชวนกับเซี่ยจิ่วโหยวมีสายตาที่เฉียบคมกว่าคนอื่นๆ มากแม้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินตงจะดูร้ายแรงเมื่อมองเผินๆแต่ในความเป็นจริง เขาไม่ได้รับบาดแผลร้ายแรงใดๆ เลยเขายังคงมีพละกำลังที่จะต่อสู้นอกจากนี้ เหล่าผู้รอดชีวิตจากเศษซากอาณาจักรสวรรค์ ยกเว้นหล
บริเวณที่นิ้วของคนในชุดดำถูกตัดขาด ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างมาเกาะที่แผล ทำให้ไม่สามารถงอกนิ้วขึ้นมาใหม่ได้ทั้งสองฝ่ายได้หยุดการต่อสู้ชั่วคราวหลินตงยืนอยู่ในอากาศ โดยถือดาบกำราบมารอย่างไรก็ตาม เขาไม่สงบนิ่งและไร้กังวลเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอีกต่อไปเลือดหยดหนึ่งไหลซึมจากมุมปากของเขาเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งเขาถูกหยวนหลินและคนอื่นๆ ข่วนด้วยกรงเล็บที่แหลมคม เผยให้เห็นผิวหนังด้านในแม้แต่บนผิวหนังก็มีคราบเลือดมากมาย บางรอยก็ซึมลึกเข้าไปในกล้ามเนื้อ ดูน่ากลัวมากอย่างไรก็ตาม สำหรับหลินตง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบาดแผลผิวเผินเท่านั้น และไม่ทำอันตรายต่ออวัยวะสำคัญนอกจากความเจ็บปวดแล้ว มันไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการต่อสู้มากนักในที่สุด เขาจึงสามารถต้านทานการโจมตีของหยวนหลินกับหลี่เทียนได้สำเร็จ และใช้ฝ่ามือถล่มฟ้าจนได้รับความเสียหายหลินตงมองดูบาดแผลบนร่างกายของเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ห้าคนในคราวเดียวนั้นฝืนเกินไปนี่เป็นผลของการใช้พลังจิตวิญญาณเป็นเครื่องมือในการเล่นไม่ซื่อ เพื่อจัดการกับศัตรูคนหนึ่งก่อน จากนั้นจึงทำร้ายคนอื่นโดยไม่คาดคิดไ
แม้ว่าหลินตงจะใช้พลังจิตวิญญาณ เพื่อควบคุมดาบกำราบมาร และตัดนิ้วของชายชุดคลุมดำคนหนึ่งโดยไม่ให้ตั้งตัวได้ นั่นทำให้ฝ่ายตรงข้ามกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่หยุดแต่เขาก็ยังไม่สามารถวางใจได้ในตอนนี้ ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาแล้วชายชุดดำที่เหลือสองคนพร้อมกับหลี่เทียน โจมตีหลินตงเข้ามาในเวลาเดียวกันไม่มีการคุกคามจากดาบกำราบมารอีกต่อไปทั้งสามคนพึ่งพาการป้องกันที่แข็งแกร่งของเผ่ามังกรเก้าหัว และต่อสู้แบบประชิดตัวกับหลินตงพวกเขาต้องการที่จะฉีกหลินตงเป็นชิ้นๆ เพื่อระบายความแค้นในใจของตัวเองในขณะนี้ มันสายเกินไปสำหรับหลินตงที่จะดึงดาบกำราบมารกลับมาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญหน้าโดยตรงโชคดีที่เขาได้ยกระดับความแข็งแกร่งของร่างกายไปถึงปรมาจารย์มหาจักรวาลขั้นสิบ ร่างกายของเขาแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าของเผ่ามังกรเก้าหัวนอกจากนี้ยังมีฝ่ามือถล่มฟ้า ที่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของศัตรูและทำให้ได้รับบาดเจ็บภายในทันทีหลินตงไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิดกับคู่ต่อสู้ในไม่ช้า ทั้งสองฝ่ายก็เข้าสู่การต่อสู้"ปังๆๆๆ......."เสียงปะทะกันนับไม่ถ้วนดังขึ้นตามคำกล่าวที่ว่า จำนวนมากก
การกระทำของเขาทำให้เซี่ยอวิ๋นชวนและเซี่ยจิ่วโหยว ที่กำลังเฝ้าดูอย่างตึงเครียดอยู่ด้านล่างรู้สึกงุนงงไปหมดทุกคนรู้ว่าข้อได้เปรียบของหลินตง คือดาบยาวสีแดงในมือของเขาดาบเล่มนี้ถูกโยนออกไปแล้วเขาจะสู้ต่อไปได้อย่างไร?สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของหลินตงได้อย่างชัดเจน รู้เพียงว่าการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้วหยวนหลินและคนอื่นๆ ยังเห็นหลินตงขว้างดาบของเขาด้วย และหัวใจของพวกเขาก็ดีใจทันทีเมื่อสูญเสียอาวุธนี้ไป ซึ่งเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่หลินตงจะใช้อะไรในในการต่อสู้กับพวกเขา?เด็กคนนี้โง่หรือเปล่า?ดาบกำราบมารไปถึงชายชุดดำคนหนึ่งเป็นคนแรกเผชิญหน้ากับดาบยาวสีแดงนี้แม้แต่ชายชุดดำก็ไม่กล้าประมาทด้วยระยะที่ใกล้ขนาดนี้ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความคมของดาบที่ส่องประกายอย่างสว่างไสว ทำให้ผิวใต้ชุดคลุมสีดำของเขาเจ็บปวดเล็กน้อยนี่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ซึ่งสามารถตัดเกล็ดแข็งของเผ่ามังกรเก้าหัวได้อย่างง่ายดายในขณะที่เขาเคลื่อนไหว ชายในชุดคลุมสีดำก็หลบไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ดาบกำราบมารพุ่งผ่านไปขณะที่เขากำลังคิดว่าตัวเองหนีจากอันตรายได้และกำลังจะห
ท้องฟ้าตกอยู่ในความเงียบงันไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่การปรับสภาพของตัวเองตอนนี้เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอยู่แล้วมีทางเลือกสองทางคือ ต้องฆ่าหรือไม่ก็ถูกฆ่าพูดตามตรง เมื่อเผชิญหน้ากับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นสี่คน หลินตงรู้สึกเครียดมากแม้ว่าเมื่อครู่เขาจะสู้กับห้าคนเพียงลำพัง และตัดแขนของหนึ่งในนั้นได้แต่มีเพียงสองคนเท่านั้น ที่ต่อสู้กับเขาจริงๆหากคนห้าคนร่วมมือกันจริงๆ ผลลัพธ์ก็ยากที่จะบอกได้แต่ตอนนี้ เขาต้องสู้กับสี่คนจริงๆ แล้วคนที่สามารถไปถึงระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้น ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายดายยิ่งไปกว่านั้น จิตวิญญาณที่เคยไร้เทียมทานของเขา เมื่อเผชิญหน้ากับคนพวกนี้กลับใช้ได้อย่างจำกัดแค่สามารถยับยั้งพวกมันได้ชั่วขณะ ก่อนที่จะถูกสลัดหลุดออกไปอย่างไรก็ตาม จากชายชุดดำที่เขาตัดแขนทิ้งไป ดูเหมือนว่าหลินตงจะค้นพบบางอย่างหากเขาต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้เหล่านี้เขาจะต้องพึ่งดาบกำราบมารดาบเล่มนี้ดูเหมือนว่า จะมีพลังที่สามารถสยบเผ่ามังกรเก้าหัวไม่อย่างนั้น แค่ฟันแขนขาดไปเพียงข้างเดียว คนชุดดำ
คนสวมชุดดำอีกสามคนเข้าล้อมรอบทันที"หยวนจื้อ! ใจเย็นๆ ไว้!" หยวนหลินกล่าว"ฉันใจเย็นไม่ได้! ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะจับมันกิน" หยวนจื้อกัดฟันแล้วกล่าวมีความโกรธอย่างมากในเสียงนั้น"หากตัวตนของนายถูกเปิดเผยและมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น นายรู้ไหมว่าคุณจะต้องเผชิญการลงโทษแบบใดในเผ่า นายแน่ใจเหรอว่าต้องการทำแบบนี้?""ฉันไม่สนใจ!!! ฉันต้องฆ่ามัน อย่ากังวลเรื่องฉัน" หยวนจื้อโกรธจัดมากอยู่แล้วความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส บดบังความคิดจิตใจของเขาไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดทางกายเท่านั้นหน้ำซ้ำยังเป็นความเจ็บปวดที่เผาไหม้ในจิตวิญญาณความเจ็บปวดประเภทนี้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่อาจทนได้ และคงหมดสติไปแล้วคนสวมชุดดำอีกสามคนก็รู้สึกสับสนในใจเช่นกันตามทฤษฎี แม้ว่าแขนของหยวนจื้อจะถูกตัดออก เขาก็จะสูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้ส่วนใหญ่ไปชั่วคราวแต่เผ่ามังกรเก้าหัวของพวกเขา มีความสามารถในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งตราบใดที่ร่างกายยังมีพลังงานเพียงพอ แขนก็สามารถงอกใหม่ได้อย่างรวดเร็วอย่างเลวร้ายที่สุด เขาอาจจะอ่อนแอเป็นเวลาสองสามวันก็ไม่ควรทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งเช่นนี้แต่ตอนนี้หยวนจื้อ ค่อนข้างผิดปกติอย่
การต่อสู้กลางอากาศจบลงในพริบตาหลินตงใช้ดาบครั้งแรก เพื่อหยุดหลี่เทียนและพรรคพวกทั้งสามของเขาจากการลอบสังหารเซี่ยอวิ๋นชวนกับครอบครัวจากนั้นต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบกะทันหันของชายชุดดำสองคน เขาก็ตอบโต้ด้วยหมัด เพื่อหยุดร่างหนึ่งและดาบเพื่อหยุดร่างอีกร่างหนึ่งผลการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมากควรรู้ว่าคนทั้งห้านี้ ไม่ใช่ใครๆ ก็จัดการพวกเขาได้นี่คือปรมาจารย์ระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นถึงห้าคนแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการโจมตีร่วมกันของพวกเขาทุกคนตกตะลึงกับความสามารถของหลินตงแข็งแกร่งเกินไป!!!แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ!!!ผู้คนนับไม่ถ้วนจ้องมองร่างบนท้องฟ้าหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นสิ่งที่องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวน ไม่สามารถทำได้ชายหนุ่มคนนี้ทำได้ขณะนี้เองศรัทธาที่แหลกสลายของคนรุ่นใหม่ทั่วกาแล็กซีทางช้างเผือก กำลังได้รับการฟื้นฟูเมื่อเทียบกับองค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนพวกเขายิ่งบูชารูปร่าง ที่ส่องแสงจ้าในท้องฟ้าท้ายที่สุด เซี่ยอวิ๋นชวนก็เป็นตำนานมาโดยตลอดครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเขาด้วยตาของตนเอง ก็ถูกซุ่มโจมตีและได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้าไม่ใช่เ