"พี่พายุคะ" ฉันรีบวิ่งไปหาเขา พร้อมเรียกชื่อทันที สายตาของเขามันเปลี่ยนไปเขามองฉันแปลก ๆ มันไม่ใช่สายตาเหมือนเมื่อวาน เอ่อ จะผิดไหม ถ้าจะบอกว่าสายตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกร้อนรุ่มแปลก ๆ"ว่า" อูย เสียงนิ่งไปไหนวะ"จะไปไหนคะ""เรื่องของฉัน"อ้าวพูดจบก็เดินออกไปเลย หล่อตายล่ะ ฮึ่ย มันขึ้น ใจเย็นน้ำมนต์เพื่อคณะ ถ้าพี่มันยอมบอกชื่อได้แกก็ไม่ต้องมาติดตามไอ้ผู้ชายไบโพลาร์แล้วฮึบ"สู้เว้ย"หลังจากบอกตัวเองเสร็จ ฉันก็เดินไปซื้อข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวมาสองกล่อง และน้ำเปล่าสองขวดรวมถึงน้ำผึ้งโซดามะนาวอีกหนึ่งแก้ว ก่อนจะรีบเดินไปห้องวีไอพีที่พี่มันสิงสถิตอยู่นั่นแหละก๊อกๆแอ๊ด"ทำอะระ!”o_o"ขอโทษค่ะไม่คิดว่าจะอยู่กันครบ""อยู่ครบไม่ครบเธอก็ไม่ควรเสียมารยาทเปิดประตูเข้ามาจนกว่าจะได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างใน" ฉันกลืนความไม่พอใจ ก่อนจะยิ้มแหย ๆ ให้พี่มัน และก้มหัวขอโทษพี่ ๆ ที่อยู่ในห้อง ก็แก๊งพี่มันนั่นแหละ แก๊งหล่อเลว โดยเฉพาะพี่เหนือที่มีท่าทีแปลก ๆ กับยัยทิพย์ รวมถึงพี่ดินกับยัยหวานและพี่วินกับไอ้พิ้งค์ด้วย"ทำไมมองพวกพี่อย่างนั้นล่ะ" พี่เหนือเป็นคนถาม ฉันก็เลยรู้สึกตัวว่าเสียมารยาทมองพวกพี่เข
หึหึ ไปไม่เป็นเลยล่ะสิไอ้เหตุการณ์ที่จมูกผมไปโดนแก้มน้องอะมันไม่ใช่อุบัติเหตุนะครับผม จง ใจ!!!แล้วก็ตอนที่น้องมันไปฉุดกระชากลากถูผม ที่เธอล้มทับผม ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุอีกนั่นแหละ เพราะผมตั้งใจ แหม ก็ใครมันจะอดใจไหว ตอนนี้ยังไม่เป็นอะไรกัน ก็ตอดเล็กตอดน้อยไปก่อนละกัน แล้วนั่นอะไร เขินตัวแดงหน้าแดงหมดแล้ว ยังตอบว่าไม่เขิน ใครเชื่อก็บ้าล่ะ"เด็กน้อย""พี่ว่าใครเด็ก""เธอมีสิทธิ์เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วเหรอ""เออ ลืม งั้นเอาใหม่ นายว่าใครเด็ก"โอ้โห ดูครับดู น้องมันกวนตีนผม ยังจะเถียงอีก เห็นไหมผมไม่ได้ทำอะไรเลย"บอกมานะใครเด็ก""อ้าว ก็เธอไงเด็ก ถ้าไม่งั้นจะเขินตัวแดงอย่างนี้เหรอ""เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ได้เขิน แล้วไอ้ที่ตัวแดงเนี่ยเพราะว่าฉันร้อน เข้าใจไหม"😞ดูนี่ขนาดบอกว่าตัวเองไม่เด็กนะ แล้วอะไรคือทำหน้างอน ผมนั่งมองมันนิ่ง ๆ ดูสิน้องมันจะทำยังไงกับผมต่อ บอกเลยว่าผมไม่ง่ายนะครับ เอิ่ม ผมหมายถึง ผมจะไม่ยอมบอกชื่อตัวเองกับน้องมันง่าย ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น ผมยอมเลยครับ แค่คิดถึงกลิ่นตัวน้องมัน แก้มก็นุ่ม ตัวก็นุ่ม แถมยังหอมอีกต่างหาก แค่นี้ก็ทำให้ผมติดแล้วครับ ไม่รู้เป็นไรอยู่กับน้ำมนต์ทีไร เคร
เฮ้อ เหนื่อยโคตร เหนื่อยชะมัด เหนื่อยที่สุด นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์เศษ ๆ ละ ฉันทุ่มเทเวลาให้กับการซ้อมวอลเล่ย์หนักมาก เรียนก็โคตรจะหนักเลย บริหารไม่ใช่หมูเลย อย่าว่าแต่คณะฉันเลยคณะวิศวะก็ไม่ธรรมดาหรอก เผลอ ๆ หนักกว่าฉันอีก แล้วไอ้กิจกรรมก็โคตรจะเยอะ อ้อ วอลเล่ย์น่ะอาทิตย์หน้าก็แข่งแล้วนะ โค้ชที่ทำการฝึกให้พวกฉันโคตรโหด ไม่ใช่นิสัยนะที่โหดแต่วิธีฝึกอะโหดโคตร จะใครเล่า ก็พี่วินไง แต่ฉันโดนไม่ค่อยเยอะหรอก คนที่โดนเยอะและน่าสงสารที่สุดคือยัยพิ้งค์ต่างหาก รายนั้นนะเจอพี่วินไม่ได้ จ้องแต่จะกัดคอพี่เขาอย่างเดียวเลย จะว่าพี่เขาแกล้งมันก็ได้นะ และการฝึกแบบนี้มันก็ทำให้รู้ว่า พวกพี่เขาไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดายังไงรู้ไหม พวกพี่มันทั้งสี่คน เอ่อ หมายถึงพี่วิน พี่ดิน พี่เหนือ และพี่พายุน่ะสิ อ้อ รวมถึงพี่ก้องปีสองและเจ๊ริชชี่ด้วย เล่นวอลเลย์เก่งมาก ขอย้ำว่า มาก พวกฉันไม่สามารถเอาชนะได้เลย จะวางหมาก จะเปลี่ยนเกม จะเล่นบอลเร็วอย่างไงก็ช่าง เหมือนพวกพี่มันดักทางได้ตลอด ผลที่ได้จากการประลองกับพี่มันมาทั้งหมดห้าครั้ง แพ้สองเสมอสาม ทั้งทีมหญิงทีมชาย โค่นพี่มันไม่ได้จริง ๆ อัปเดตเรื่องของฉันกับไอ้พี่พายุหน่อ
"นี่ ฉันยังไม่ลืมนะ ว่าเธอเรียกฉันว่าอะไร" อูย บทจะพูดทำไมพูดเรื่องนี้วะ"อะไรเล่า พูดอะไรที่ไหน""เธอเรียกฉันว่าทอร์นาโด""อ้าว ก็ฉัน เฮ้อ ก็มนต์ไม่รู้จักชื่อพี่นี่คะ เรียกว่าพี่ทอร์นาโดน่ะถูกแล้ว เพราะว่าพี่มันอารมณ์แปรปรวน บ้าอำนาจ จริง ๆ ฉันกะจะเรียกพี่ว่า เฮอริเคน งวงช้าง""พอ ๆ ๆ ๆ หยุดพูดไม่อยากฟัง" และเหตุการณ์นั่งรถกลับคอนโดก็จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งและเป็นประจำ ทำไมมันรู้สึกแฉะ ๆ เหนียว ๆ ตรงนั้นวะ ฉันไม่ได้ฉี่รดผ้านี่หว่า หรือว่า"เฮ้ย"o_o"เป็นอะไรของเธอยัยบ้า ตะโกนทำไม ตกใจหมด""จอด ๆ จอดเซเว่นข้างหน้าเลยค่ะ" ว่าแล้วเชียวทำไมมันไม่ค่อยมีแรง หงุดหงิดง่ายแถมยังหน่วง ๆ ตรงท้องน้อยอีก ชัดเลย ชัด เวรกรรมของผู้หญิงอย่างฉันแท้ ๆ ไม่น่าเกิดมาเป็นผู้หญิงเล๊ย "จอดทำไม" นี่ก็จะถามอะไรนักหนา"จะถามเอาโล่รึไง บอกให้จอดก็จอดสิวะ โว้ย" เหนือก็ความคิดก็ปากฉันนี่แหละ ความเร็วแสงยังช้ากว่าปากฉันอะ แล้วดูอาการ ตอนนึกไม่ออกก็ไม่แสดงหรอก พอนึกออกว่าเป็นเท่านั้นอะ แสดงออกมาเชียวเป็นเหมือนกันปะ พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมี ประจำเดือน ปุ๊บ อาการแทรกซ้อนแม่งมาปั๊บ เบื่อ"เออ ๆ จอดเดี๋ยวนี้แหละ" หลังจ
ดูสิ ดูยัยตัวแสบวีนใส่ผมสิ ผมก็พอจะเข้าใจอยู่นิดหน่อยนะว่า เวลาผู้หญิงเป็นเมนส์เนี่ย อารมณ์หญิงจะมาเต็มที่ แต่ไม่ได้คิดว่าจะมาเหวี่ยงวีน ให้ผมไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้ไง อ้อ แล้วก็ไม่ต้องถามนะครับว่ารู้ได้ยังไงว่าถ้าผู้หญิงเป็นเมนส์แม่งมันจะหงุดหงิด เพราะผมเรียนมาเลยรู้ ต้องขอบคุณคุณครูที่สอนวิชาสุขศึกษาที่ทำให้ผมได้รู้เรื่องนี้ แต่เชื่อเถอะเรื่องที่เรียนมาอะ มันเอามาใช้ในชีวิตจริงอย่างตอนนี้ไม่ได้หรอก โอย กูแล้วนั่นน้องมันจะเป็นยังไงบ้างวะน่ะ เดินกุมท้องเข้าคอนโดซะขนาดนั้น น่าสงสารฉิบ ทำยังไงดีวะ อ้อ นึกออกล่ะ อิริชชี่ตืด ตืด เสียงรอสาย"เซฮัลโหล ว่าไงยะ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะโทรมา แล้วนี่มีอะไรคะคุณพายุ""อย่าเยอะ เวลาผู้หญิงเป็นเมนส์นี่ ต้องทำยังไงวะ""ฮะ แกว่าไงนะ เมนส์เหรอ""เออ ตอบมาเร็ว ๆ ด้วย""ก็ไม่ต้องทำไง ผู้หญิงเขารู้ของเขา แกจะไปยุ่งทำไม ส่วนถ้าถามว่าควรทำตัวแบบไหน ฉันว่าแกไม่ต้องทำอะไรหรอกพายุ อยู่เฉย ๆ ไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นแกโดนพายุอารมณ์หญิงแน่ พิชชี่ขอเตือน" โอ้โหยัยริชชี่ ขอบคุณนะเว้ยที่เตือน แต่มันไม่ทันแล้ว กูโดนไปเต็ม ๆ เลยล่ะ"แล้วถ้าปวดท้องล่ะ ให้ทำไง ปวดจนตัวงอแล้วน
06:00 อื้อ หกโมงแล้วเหรอเนี่ย รู้สึกเหมือนเพิ่งได้นอนเลย จะอะไรล่ะครับ ก็ช่วงตีหนึ่งตีสองผมลุกมาเข้าห้องน้ำและตรวจดูกระเป๋าน้ำร้อนให้ยัยตัวแสบ ยืนมองดูใบหน้าที่หลับตาพริ้มแต่ยังมีความเจ็บปวด ผมก็เลยให้กำลังใจปลอบประโลมน้องมันด้วยการหอมแก้ม แต่ผมเนี่ยสิเจอแจ็กพอตแตก อยู่ดี ๆยัยแมวของผมก็ตัวรุม ๆ ซะงั้น ผมเลยเอายาแก้ไข้ให้ยัยตัวแสบกินลัดเอาไว้ และเอาผ้ามาเช็ดตามแขนและใบหน้าให้เธอ จนอุณหภูมิเธอเริ่มคงที่ กว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสี่กว่า ๆ แล้ว ผมเลยรู้สึกอึน ๆ อยู่นี่ไง ผมว่าผมไปอาบน้ำและซื้อข้าวต้มให้ยัยตัวแสบก่อนดีกว่า"นะ นี่คะคุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง""อ้าว ตื่นแล้วเหรอ" ผมหันกลับไปมองตามเสียงก็เห็นยัยแมวตื่นและอาบน้ำเสร็จแล้ว ไม่ตื่นก็บ้าล่ะ นี่มันจะแปดโมงแล้วครับ โจ๊กตอนแรกซื้อมาอุ่น ๆ ตอนนี้เย็นชืดไปแล้วครับ ผมก็จัดการอุ่นให้เสร็จสรรพ สงสัยเธอเดินเข้ามาตามกลิ่นอาหารมั้ง"มา มานั่งนี่ก่อน"ผมรีบไปประคองเธอมานั่งที่โต๊ะ และดูเหมือนเธอจะยังอึน ๆ และงงนะครับ เลยไม่ได้ขัดขืนอะไรผม"อ่ะ นี่โจ๊ก กินสิ" ผมบอกเธอทันทีที่ผมนั่งลงตรงข้าม เธอก็มองผมนิ่ง ๆ สายตาเต็มไปด้วยคำถาม แถมยังไม่ยอมกินโจ๊
"แก" น้ำพิ้งค์"เล่ามา" น้ำหวาน"เดี๋ยวนี้" น้ำทิพย์นั่นไง ไอ้เรื่องเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยนี่ได้ที่หนึ่งเชียว เบื่อพวกมัน"อะไรเล่า มันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้นแหละ" ฉันตอบพลางเสหน้ามองไปทางอื่น"ถ้าไม่มีอะไรพี่พายุจะมานอนทับแกตรงนี้ได้ยังไง" ยัยทิพย์ถามฉัน พร้อมกับดวงตาที่จ้องจับผิด ราวกับว่าฉันไปฆ่าใครมาอย่างนั้นอะ"นั่นสิ รู้ไหมถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี เกิดความเสียหาย"ยัยน้ำพิ้งค์ แม่พระประจำกลุ่ม องค์แม่ชีเริ่มเข้าสิงนางละ"หรือว่าแก กับพี่พายุจะ ป่ามป้ามกันแล้ว""โว้ยมันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วแกก็เลิกคิดแบบนั้นได้เลยยัยหวาน มันไม่มีอะไรเว้ย พี่เขาแค่เข้ามาดูฉันเพราะปวดท้องตั้งแต่เมื่อวาน ปวดจนเดินไม่ได้ ไม่ต้องมาจ้อง ฉันนอยด์พวกแก เพื่อนเจ็บแทนที่จะมาดูดันหายหน้าหายตาไปซะอย่างนั้น แล้วแกยัยหวานห้ามคิดอะไรที่มันทุเรศได้แล้ว"ฉันหันไปสวดยัยน้ำหวานทันที มีมันคนเดียวที่คิดอะไรพิเรนทร์ ๆ แบบนี้อะ แล้วฉันยังใช้โอกาสนี้นอยด์พวกมันไปในตัวเพื่อเบี่ยงประเด็นความสนใจออกจากหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่อีกทันที ขืนไม่ทำอย่างนี้น่ะ พวกมันได้ฟอกฉันจนขาวพอดี พวกนี้แม่งยิ่งเหมือนโคนันยอดนักสืบอยู่ ข
แล้วเธอมีแฟนหรือยัง ไมเธอน่ารักจัง มีคนเดินเคียงหรือยัง ให้ฉันช่วยเธอไหม แล้วเธอมีใครหรือยัง งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ให้ฉันได้เป็นแฟนเธอ (เครดิตเพลง มีแฟนยัง lotte feat ไอซ์ ธมลวรรณ)จ้ะ เสียงเพลงรอสายอินเทรนด์ไปอีกเจ๊ฉัน"ไฮจ้ะ น้องน้ำมนต์คนเก่งคนดีคนสวยของเจ๊" ปากหวานมาเชียวเจ๊ริชชี่"สวัสดีค่าเจ๊ริชชี่""โทรหาเจ๊ เช้า ๆ แบบนี้ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ""มีค่ะ คือว่า คือ""น้ำมนต์ หนูมีอะไรลูก หนูบอกเจ๊มาเลยเร็ว ๆ หรือหนูป่วย หนูเป็นอะไรลูก" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตื่นตูมไปอีก"หนูแค่จะบอกว่า เพลงที่เราต้องส่งหนูแต่งเสร็จเรียบร้อยนะคะ ทั้งดนตรีและเนื้อ ตอนนี้ยัยพวกนั้นกำลังฝึกซ้อมกันอยู่ค่า""อ๊าย จริงเหรอจ๊ะลูกสาว เจ๊อยากฟังอ่า ส่งให้เจ๊ฟังหน่อย""ได้เจ๊ แต่เป็นอันที่หนูร้องไกด์ไว้นะคะ อย่าส่งต่อนะเจ๊""จ้า แล้วนี่หนูร้องไกด์เองเลยเหรอ""ใช่ค่ะเจ๊ อ้อ เจ๊คะ เราอัดเสียงวันอาทิตย์ราว ๆ หนึ่งทุ่มนะคะ ที่สตูอัดเพลง kl ค่ะเจ๊""เคจ้ะ เจ๊กำลังจะถามพอดีเลยว่าจะอัดวันไหน เพราะเราส่งวันอังคาร""ใช่เจ๊""หนูซ้อมกันทันใช่ไหมลูกสาว""ทันเจ๊ พวกหนูชอบงานไฟไหม้""ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ทั้งฉันและเจ๊ริชชี่ขำออกมาพร้อมกัน"อ
30 นาทีต่อมาก๊อก ก๊อก ก๊อกฉันเคาะประตูเรียกคนในห้อง แต่ก็ไม่ยอมออกมาเปิด ฉันยืนชั่งใจอยู่หน้าประตูสักพัก ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้อง เข้าไปก็เห็นเขานอนหันหลังให้ประตูอยู่“ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนค่ะ” ฉันเรียกแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมขยับพรึบฉันพลิกร่างให้เขานอนหงายก่อนจะนั่งคร่อมเขาเอาไว้ แล้วไล้มือไปตามหน้าอกของเขาช้า ๆ เขามองการกระทำของฉันนิ่ง ๆ“มนต์ขอโทษ ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้แล้วค่ะ” ฉันบอกเขาเสียงหวาน แล้วมองเขาด้วยสายตาเชิญชวนที่สุด“อย่ามายั่ว เดี๋ยวจะไม่ได้นอน” เขอพูดแล้วจับเอวจะให้ฉันลงจากตัวเขา แต่ฉันไม่ยอม นั่งบดเบียดให้ส่วนนั้นของเขากับฉันบดเบียดกันมากกว่าเดิม“น้ำมนต์”“หายโกรธมนต์สิคะ แล้วมนต์จะหยุด นะ นะคะ” เขามองฉันนิ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“มาง้อแบบนี้คิดดีแล้ว” เขาถามฉันจึงพยักหน้าเขิน ๆ ให้เขาไปพรึบอะ “ขอบคุณนะครับ” ตัวของฉันถูกกดลงบนเตียงนอน ในใจเต้นตึกตัก รอคอยสัมผัสจากเขา จมูกเธอได้กลิ่นครีมอาบน้ำที่เขาใช้ ทำไมนะทั้ง ๆ ที่ห้องของเขาและฉันใช้สบู่กลิ่นเดียวกัน แต่กลับรู้สึกว่าเมื่อมันอยู่บนตัวเขาแล้วมันดันหอมกว่าซะงั้นจุ๊บ จ๊วบเขาค่อย ๆ ไล่จูบฉันตั้งแต่
1 ปีผ่านไป ทุกคนคะตอนนี้ฉันขึ้นปีสองแล้วค่ะ ส่วนเฮียพายุก็อยู่ปีสี่แล้ว ปีนี้เฮียพายุฝึกงาน เราจึงไม่ค่อยได้เจอกันนัก เจอกันอาทิตย์ละสองถึงสามวันก็เท่านั้นเองแต่ฉันไม่เคยน้อยใจเขานะคะ เข้าใจเขาซะอีก เพราะงานเขาเยอะมาก ไหนงานที่จะต้องฝึก ไหนจะงานที่ผับเขาอีก เขาไม่ป่วยก็ดีสุด ๆ แล้วค่ะ ที่สำคัญถึงเราจะไม่เจอกัน แต่เฮียพายุเขาก็หาเวลาโทรมาคุยกับฉันทุกครั้ง ทุกครั้งที่โทรมาก็จะอ้อนนั่นอ้อนนี่ไปเรื่อยตามแบบฉบับเขานั่นแหละค่ะขออัปเดตเรื่องราวของเพื่อนสักหน่อย ยัยหวานกับพี่ดินก็หลังจากที่ผ่านการระหองระแหงกันคราวนั้นได้ก็รักกันปานจะกลืนกิน ชีวิตมีแต่สีชมพูไม่อมทุกข์โศกเหมือนใครเขาส่วนคู่พิ้งค์รายนั้นพี่วินก็ตามง้อขอคืนดีจนได้ แต่กว่ายัยพิ้งค์จะคืนดีด้วย ก็ตอนมาขึ้นปีสองนี่แหละค่ะ นางบอกว่าต้องดูให้แน่ใจก่อน จะให้โอกาสแต่ละครั้งต้องคิดดี ๆ เพราะไม่อยากเสียใจส่วนคู่ที่ฉันห่วงสุดคือยัยทิพย์กับพี่เหนือนี่แหละค่ะ ตอนนี้ทะเลาะกันหนักมาก ทะเลาะจนพี่เหนือขอห่างกับมันมาเป็นเดือนแล้ว มันเล่าให้ฟังพี่เหนือเขาเบื่อและรำคาญที่มันหึงเขากับน้องข้างบ้าน ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่ามันไม่มีอะไร แต่นางก็ยังหึง ฉั
อื้อฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อมีแสงเล็ดลอดผ่านม่านระเบียงห้องเขามา แสงแดดที่ส่องผ่าน ทำให้ฉันต้องกะพริบตาหลายครั้งเพื่อนให้คุ้นชินกับสภาพแสงในห้อง ฉันไล่สายตาไปรอบ ๆ ห้องอย่างไม่คุ้นชิน เพราะที่นี่มันไม่ใช่ห้องฉัน ก่อนจะก้มลงมองที่เอวเมื่อรู้สึกมีอะไรรัดเอวอยู่“เฮียพายุ”ทันทีที่ฉันก้มหน้าลงไปมองที่เอวก็เจอกับวงแขนที่กอดรัดเอวฉันไว้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ว่าแต่ฉันมาอยู่ที่ห้องพี่พายุได้ยังไง นี่คอนโดเขาเหรอ เอ๊ะ ทำไมรู้สึกโหวงเหวงข้างในนะ“กรี๊ดดดด”ฉันกรี๊ดออมาอย่างตกใจ เมื่อก้อมหน้ามองดูที่คอเสื้อ ฉันไม่ได้ใส่เสื้อใน!“มนต์เป็นไร ใครทำอะไรครับ”“เฮียนั่นแหละทำอะไรมนต์”“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร” เขาตอบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน“เฮียคะ ไม่ตลกนะ”“แล้วเราคิดว่าเฮียทำอะไรละ”“เฮียจิ้มมนต์แล้วใช่ไหม”โป๊ก“โอ๊ย เฮียดีดหน้าผากมนต์ทำไม มนต์เจ็บนะ คนฉวยโอกาส”“คิดดี ๆ ถ้าเฮียจิ้มมนต์ เราจะมีแรงลุกมาโวยวายไหม” ฉันคิดตามที่เขาพูด แล้วตรวจสภาพตัวเองก็พบว่าทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมขาดก็แต่เสื้อในเท่านั้นที่หายไป“แล้วเฮียทำอะไรบ้างละคะ” ฉันถามเขาพร้อมทำหน้างอ“จะให้พูดจริงเหรอ”“เฮีย!!” ฉันมองเขาทั้ง
ผมมองน้ำมนต์ด้วยความไม่พอใจไม่ใช่ว่าเธอตบรุ้งนะ แต่เพราะบนใบหน้าของเธอมีรอยแดง เป็นรอยนิ้วมือปรากฏอยู่ ผมเคยบอกเธอแล้ว ว่าอย่าทำให้ตัวเองเจ็บตัว แล้วดูตอนนี้สิหมับ“จะไปไหน”“...” เธอไม่ตอบแต่พยายามสะบัดแขนออกจากมือของผม นี่คงจะคิดเองเออเอง ว่าผมเข้าข้างรุ้งสินะ เหอะ ผมไม่ได้โง่เหมือนพระเอกในละครนะครับที่พอเห็นฉากที่นางเอกมีเรื่องกับนางร้าย แล้วจะเข้าข้างนางร้ายด่านางเอก ผมพายุครับ ผมไม่ได้โง่!!! ผมคบกับมนต์มาตั้งหลายเดือน คิดเหรอว่าผมจะไม่รู้ว่าแฟนตัวเองนิสัยยังไง“ปล่อย”“จะไปไหน อยู่คุยกันก่อน” ผมพูดกับคนที่เริ่มดื้อ คอยดูสิเดี๋ยวก็ร้องไห้ อะนั่นไงน้ำตาไหลแล้ว ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย คิดมากไปเองอะมนต์“พี่พายุคะ รุ้งเจ็บ” ผมดึงมนต์เข้ามากอดไว้แน่น เมื่อเห็นเธอร้องไห้ แล้วมองไปที่ไอ้วินให้มันพยุงรุ้งขึ้นมา“แฟนผมก็เจ็บ”“พี่พายุ!” รุ้งเรียกผมอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ผมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเอง ส่วนยัยตัวแสบที่อยู่ในอ้อมกอดผมก็เงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งน้ำตา จนผมต้องเอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำตาออกจากใบหน้าให้อย่างแผ่วเบา“แต่มนต์เขาทำร้ายรุ้งนะคะ พี่พายุควรจะปลอบรุ้งสิ”“ทำไมฉันต้องปลอบเธอ รุ้
วันสอบวันสุดท้าย“ไงพวกแกทำได้กันไหมวะ”“อื้อได้” ฉันเอ่ยถามเพื่อน ๆ ของฉัน หลังจากแกจากห้องสอบแล้วใช่ค่ะวันนี้เป็นวันที่พวกฉันสอบวันสุดท้าย ตลอดอาทิตย์นี้ ฉันกับพี่พายุก็ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่เพราะว่าพี่เขาก็อ่านหนังสือเตรียมสอบเหมือน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ทั้งโทรทั้งไลน์มาคุยกับฉันอยู่ดี"กลับเลยไหม ไหน ๆ ก็สอบเสร็จแล้ว”“พวกแกกลับก่อนเลย ฉันขอรอเฮียพายุก่อน เฮียเขาบอกให้รอ” ฉันตอบยัยพิ้งค์ พวกมันก็พยักหน้ารับก่อนที่จะเดินแยกออกไปขออัปเดตเรื่องราวของยัยพิ้งค์กับพี่วินหน่อยนะ ตอนนี้เขาสองคนเลิกกันแล้วละ สวนพี่วินก็พยายามตามง้อ แต่ยัยพิ้งค์ไม่ยอมคืนนี้ ฉันถามมันว่าทำไม มันบอกฉันว่า วันนั้นที่มันร้องไห้มันตั้งใจจะไปง้อพี่วิน เพราะพี่วินงอนนางอยู่ แต่พอเปิดประตูเข้าไปนางกลับโดนเซอร์ไพรส์ซะเองพี่วินนอนอยู่บนเตียงกับคู่หมั้นเสื้อผ้าไม่ได้ใส่ พี่วินก็พยายามจะอธิบาย แต่นางไม่ฟังวิ่งร้องไห้ออกมา จนในที่สุดนางก็ตัดสินใจบอกเลิกพี่วิน พี่วินตัดสินใจมาพูดคุยกับพวกฉัน ขอให้พวกฉันช่วยจนพวกฉันต้องบอกพี่วินไปตรง ๆ ว่าเรื่องนี้ช่วยอะไรไม่ได้ พี่วินผูกเองก็ต้องแก้เอง แล้วฉันยังบอกพี่วินอีกว่า คนอ
ผมนั่งมองคนที่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับตั้งแต่รถเข้ามาจอดในบ้าน ตอน แรกก็เห็นว่ายิ้มออกแล้วไม่คิดว่าจะขนาดนี้ นั่งนิ่งเป็นหินเลย“ไปครับ ไปเจอครอบครัวเฮียได้แล้ว” ผมหันไปบอกคนที่ทำหน้าจะร้องไห้อยู่ ผมเลยเลือกที่จะลงรถแล้วลงไปเปิดประตูรถให้เธอก่อนที่จะจับมือเธอลงมาจากรถ“พวกท่านจะรักมนต์ เชื่อเฮียนะครับ” ผมบอกคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไหน คนที่มั่นใจในตัวเองไปไหนแล้ว น้ำมนต์ที่ปากหมาคนนั้นอยู่ไหนครับ หืม” ผมแกล้งว่าให้คนตัวเล็กก่อนที่ผมจะได้ค้อนวงโตจากเธอ “ไปครับ” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะจับมือเธอเดินเข้าไปในบ้าน ไม่รู้จะเกร็งอะไรขนาดนั้น ไม่ได้พามาฆ่าสักหน่อย“อ้าวมาแล้วเหรอตายุ”“ครับคุณพ่อ แล้วนี่คุณแม่กับคุณย่าไปไหนครับ” ผมถามเมื่อไม่เห็นท่านทั้งสองคน“เข้าครัวนะ ทำอาหารรับขวัญแฟนแก”“นี่น้ำมนต์ครับ มนต์นี่พ่อเฮีย”“สวัสดีค่ะคุณลุง”“เรียกพ่อเหมือนตายุเถอะหนูมนต์”“เอ่อ ค่ะ คุณพ่อ” ผมยิ้มออกมาเมื่อเธอยอมเรียกพ่อผมว่าพ่อ ส่วนพ่อก็มองผมด้วยสายตาที่รู้ทัน ผมก็มองคนตัวเล็กที่นั่งเกร็งไม่ยอมขยับ ไม่กล้าพูด น่าเอ็นดูจริง ๆ“อ้าวตายุมาแล้วเหรอ น้องล่ะ”“อยู่นี่ไงครับคุณแม่ มนต์นี่คุณย่ากับคุณแม่ของเฮียเอง”
“ยัยมนต์”“...” ฉันไปตอบแต่มองคนตรงหน้าแทน“ขอบใจนะที่มาเป็นแบบให้”“อืม ฉันไปละ” พูดจบฉันก็จะเดินออกไปจากสตูที่เราใช้ถ่ายงาน“เดี๋ยว ระวังผู้หญิงที่ชื่อรุ้งดี ๆ ถ้าเธอพลาดเธอจะเสียใจเหมือนฉัน ครั้งหนึ่งฉันมีเคยมีแฟนและรักกันมาก แต่พอพี่เขามาเรียนต่อมาเจอกับยัยรุ้งนั่น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป”“...”“ฉันกับเขาต้องเลิกกัน ผู้หญิงคนนี้ทำได้ทุกอย่างที่อยากได้ ไม่สนแม้กระทั่งความถูกผิด ถ้าเธอคิดว่าฉันร้าย ฉันยอมรับ แต่ผู้หญิงอย่างยัยนั่นเรียกว่าร้ายไม่ได้หรอกนะ เพราะยัยนั่นมันเลว ระวังดี ๆ ล่ะ” ฉันยืนหันหลังฟังยัยพรรณพูด สงสัยยัยรุ้งนะร้ายกว่าที่คิดแฮะคนไม่ชอบหน้ากันอย่างยัยพรรณถึงได้ออกปากเตือน“อืม ขอบใจ แค่นี้ใช่ไหม ฉันไปล่ะ”“เดี๋ยว”“อะไรอีก”“พี่พายุอะ เด็ดดีนะ เตรียมตัวให้พร้อมละ อย่าทำให้โกรธเชียวเดี๋ยวชะตา...ขาด จะหาว่าฉันไม่เตือน หึ”“ยัย..” ฉันหันไปกะว่าจะด่ายัยพรรณนี่เต็มที่ แต่มันดันเดินหนีไปแล้ว หนอยแหนะขิงว่าตัวเองได้พี่พายุงั้นเหรอ แล้วมีการบอกว่าเตรียมตัวเพราะชะตา..จะขาดอีก ยัยบ้านี่ ไม่ชอบหน้ากันยังไงก็ไม่ชอบอย่างนั้น สงสัยจะดีกันไม่ได้ ยัยอสรพิษเอ้ยตืด...ตืด...“ทำไมรับช้า
เฮ้อฉันนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่สิบ หนักใจ หนักใจจริง ๆ“แกเป็นอะไรของแกยัยมนต์ มีเรื่องอะไร” ฉันมองหน้ายัยหวาน ที่มันนั่งมองหน้าฉัน นั่งดูฉันถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ จนอดที่จะถามออกมาไม่ได้“ก็ คืองี้ ยัยพรรณมาขอร้องให้ฉันไปเป็นแบบให้กลุ่มนางถ่ายรูปหน่อย เพราะอาจารย์วิชานาง บอกว่า ถ้าให้ฉันไปเป็นแบบให้นางไม่ได้ พวกนางทั้งกลุ่มก็จะไม่ได้เข้าสอบ”“อ้าว ไมเป็นงั้นละ”“นางบอกฉันว่า อาจารย์สั่งงานชิ้นนี้ตั้งแต่จบกิจกรรมการแข่งขัน แต่นางไม่ชอบหน้าฉัน ค่อนข้างจะเกลียดขี้หน้า เพราะฉันชนะนาง ตามแบบฉบับพวกอีโก้สูงนั่นแหละ นางเลยไม่ยอมมาติดต่อ”“แล้ว”“ก็พออาจารย์เห็นว่ามันนานแล้วแต่กลุ่มนางยังไม่ได้ส่ง อาจารย์ก็เลยถามถึง แล้วพอนางตอบไม่ได้ อาจารย์ก็เลยบอกมาแบบนั้น”“แล้วคนอื่นไม่ได้เหรอ”“ฉันถามนางแล้ว แต่อาจารย์ไม่ยอม เพราะอาจารย์อยากให้ฉันเป็นแบบมาก เห็นว่ากลุ่มนางเป็นศูนย์รวมคนเก่ง โดยเฉพาะตากล้องนะ แล้วอาจารย์ก็อยากเป็นแบ็กหลังให้ตากล้องคนนี้ส่งภาพประกวดด้วย เลยรีเควสมาว่าขอเป็นฉันเลย”“...”“ความจริงอาจารย์บอกนางว่า ถ้านางบอกปัญหาที่มีมาตั้งแต่แรก อาจจะเปลี่ยนคนหรือธีมได้ แต่นี่มารู้ตอนนี้”“อา
“พี่พายุคะ พี่พายุ” “...”“พี่พายุคะ ตื่นค่ะ กินข้าวเร็วจะได้กินยา”“ฮือ พี่นอนก่อนนะ เอาไว้ก่อน”“ไม่ได้ค่ะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”“...”“ถ้าพี่พายุไม่ลุกขึ้นมา มนต์จะไม่คุยด้วยแล้วนะคะ”“โอ๊ย มนต์อะ” ฉันมองคนตรงหน้าที่ลุกขึ้นมานั่งหน้าบูด ตาก็แดง แก้มก็แดง สงสัยไข้จะเล่นงานแล้วแน่เลย“ไปล้างหน้าค่ะ แล้วมากินข้าว ให้ไวเลยนะคะ!”“...” เขามองหน้าฉันแล้วสะบัดหน้าหนีลุกไปล้างหน้า ก่อนจะเดินกลับมานั่งหน้าบูดที่โซฟา“กินข้าวค่ะ จะได้กินยา จะได้หาย”“...”“อย่าดื้อนะคะพี่พายุ มนต์ไม่อยากทะเลาะกับพี่นะ” เท่านั้นแหละคะ คนตรงหน้าเบ้หน้าเลย นี่อย่าบอกนะว่าจะร้องไห้นะ บ้าไปแล้ว เขาเสียสติไปแล้วแน่ ๆ“หยุดเบ้ปากเลยค่ะ ทานข้าว หยุดนะ” ฉันพูดแต่เขาก็ยังไม่ยอมกินข้าว จนฉันต้องหยิบถ้วยเข้าต้มมาใกล้ตัว ก่อนที่จะหยิบช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าแล้วยกป้อนเขา“มาค่ะ มนต์ไม่ดุแล้ว อะนี่กินนะคะ มนต์ป้อน” เขาอ้าปากรับข้าวที่ฉันป้อนช้อนแล้วช้อนเล่า จนข้าวต้มในถ้วยหมดฮึกพอฉันเงยหน้ามองอีกที ก็ต้องตกใจและแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ที่คนตรงหน้าพยายามห้ามเสียงร้องไห้ของตัวเอง ค่ะได้ยินไม่ผิดเขา ร้อง ไห้!!!โอ้พระเจ้