EPISODE 48ตอนพิเศษ 1 KRAM TALKS เวลาผ่านเลยไปก็หลายเดือน ทุกอย่างดูสงบสุขดี เว้นก็แต่… หยีไม่ยอมกินข้าวเลย เอาแต่ทำงาน ซ้ำยังไม่มีเวลาให้คนเป็นสามีแบบผมด้วย และใช่… มันน่าหงุดหงิด อยากจะจับมาฟัดสักทีสองที บรรยากาศในบ้านช่วงบ่ายอ่อน ๆ ที่แสนจะเงียบเชียบ มีเสียง ‘ต๊อกแต๊ก ๆ’ ดังอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ต่อให้ผมเดินผ่าน หรือเปิดประตูบ้านเข้ามา คนที่กำลังนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ใส่แว่นตาทรงโต ในรูจมูกข้างหนึ่งมียาดมเสียบเอาไว้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกันเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้หยีจริงจังกับการเขียนนิยายมากจนผมไม่อยากจะไปกวน แต่บางทีมันก็แอบอยากอยู่ด้วย อยากชวนไปข้างนอก ไม่ก็ชวนหาอะไรทำ… เราไม่ได้เข้านอนพร้อมกันมาร่วมเดือนแล้ว และเรื่องพวกนั้นก็แทบไม่ได้ทำกันเลย เพราะน้องมันเอาแต่ทำงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับเป็นตาย ใครแม่งจะไปกล้ากวน แต่เพราะระยะนี้เจ้าตัวออกจะอาการหนักเกินไปสักหน่อย ถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลาเหมือนตอนก่อนนู้นสมัยที่เราย้ายมาอยู่ด้วยกันแรก ๆ ผมเลยตั้งใจว่าอาจจะต้องบังคับให้เมียหยุดทำงาน
EPISODE 49ตอนพิเศษ 2 หลายชั่วโมงต่อมา “เฮียชงนมเสร็จรึยัง?” “แป๊บ” “ยิ้มร้องไม่หยุดเลยทำไงดี?” “เดี๋ยวเฮียอุ้มเอง หยีไปอาบน้ำได้แล้ว” “ไม่เอาอะ” ผมเดินกลับมาหาคนที่กำลังยืนอุ้มหนูยิ้มพาดบ่า เสียงร้องไห้โยเยดังมาได้ร่วมชั่วโมงแล้วแบบไม่มีพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ้มถึงได้ร้องไม่หยุดแบบนี้ แต่จะให้โทรไปบอกให้พริกก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวแม่งไม่เป็นอันทำห่าอะไรกันพอดี หยีไม่ยอมให้เอายิ้มมา กลับเดินหนีไปอีกทาง วางร่างเล็กของหลานไว้บนเตียงก่อนจะป้อนนมเข้าปากเล็กนั่น และพอได้จับขวดนม นัยน์ตาใสแป๋วที่เมื่อครู่มีน้ำตาคลอก็ชะงักเงียบไป มืออ้วนป้อมจับขวดนมถือเอง พลิกตัวไปทางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ผมเม้มปากกลั้นยิ้ม ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้แอบเหนื่อยไม่น้อย ทั้งที่ปกติหนูยิ้มเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้อง แต่อาจจะเป็นเพราะห่างพ่อห่างแม่ทำให้เกิดอาการร้องไม่หยุดแบบนี้ ก็เด็กนั่นแหละ แถมเป็นหลานผมด้วย จะบอกว่ารักเหมือนลูกตัวเองก็คงไม่ผิดนัก
EPISODE 50ตอนพิเศษ 3 วันต่อมา ผมตื่นแล้ว… เพราะเสียงรัวกดกริ่งดังไม่หยุดที่หน้าบ้านนั่น ให้เดาก็คงเป็นไอ้พริกกับไอ้รามนั่นแหละ แต่ต่อให้เสียงกริ่งจะดังแค่ไหนก็ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยิน รู้อีกทีผมก็อุ้มหลานพาดบ่า ถือตะกร้าขวดนมเดินลงมาข้างล่าง สภาพสะลึมสะลือขีดสุดเพราะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นัยน์ตาต้องหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์จ้าในช่วงสายของวัน “สภาพน่ารักแบบนี้กูต้องอัดรูปใส่กรอบแล้วมั้ง” เสียงร่าเริงของไอ้ห่ารามดังขึ้น พร้อมกันมันก็รีบยกโทรศัพท์รัวถ่ายรูปยกใหญ่ “ยิ้มเป็นไงบ้าง?” พอประตูเปิด คนเป็นแม่รีบรับลูกต่อไป ท่าทางเป็นห่วง ผมส่งต่อตะกร้านมให้ไอ้ราม ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ขี้ทั้งคืน มึงรีบพาไปหาหมอเลย” “โถ…” “แค่นี้นะ กูจะไปนอน” “ตอนเย็นมาแดกข้าวด้วย” เสียงไอ้รามยังคงดังต่อ ผมไม่ได้สนใจเพียงแค่หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน โบกมือให้มันนิดหน่อยเท่านั้น พอขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่าหยีเหมือนจะเพิ่งตื่น หัวผงกขึ้นมองเล็กน้อย นัยน์ตาใสปรือมองก่อนจะตบที่นอน
PROLOGUEสองเดือนก่อนหน้า “ที่นี่แน่?” “ในกลุ่มที่เขามูกันก็บอกว่าที่นี่แหละได้แน่” “กลุ่มที่แกว่านี่เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน?” “จำพี่ดาได้ไหม?” “ดาไหน?” “ก็ดาที่เพิ่งแต่งงานกับแฟนฝรั่งไปไง” “อ๋อ… นึกออกแล้ว” “อย่าพูดไปล่ะ… ปีที่แล้วพี่ดาก็มาขอจากเจ้าแม่นี่แหละ” “…” คนที่ยืนอยู่ข้างกันไม่ขยายความอะไรต่อแต่เดินสาวเท้าเข้าไปในประตูไม้สีแดงบานคู่สูงเกือบสามเมตรเหมือนกันกับคนอื่น เพราะตั้งใจที่จะมาอยู่แล้วถึงจะแปลกใจกับสถานที่อยู่ไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดฉันก็เดินตามเพื่อนเข้าไปอีกคน น่าแปลก… อากาศด้านนอกร้อนอย่างกับเตาอบแต่พอก้าวพ้นธรณีประตูเข้ามาด้านในกลับรู้สึกเย็นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทั้งที่มันเป็นพื้นที่เปิดโล่งเป็นลานปูนขัดมันแบบไม่มีหลังคาใด ๆ จะมีหลังคาสูงก็แค่ตรงรูปสลักที่พอจะมองออกว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิ ใบหน้าของรูปปั้นปูนหล่อนั้นผุดยิ้มพราย มีผ้าสักหลาดสีแดงพาดอยู่ระหว่างช่วงไหล่กับอกประดับประดาด้วยเครื่องเงินเงาวับ ดู… น่า
EPISODE 1คราม หนึ่งเดือนก่อนหน้า ก๊อก ก๊อก ก๊อก “คุณหยีคะ” “…” “คุณหยี” “…” ถ้าถามว่าอะไรเป็นบาปสูงสุดที่พึงจะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ สำหรับฉันแล้วคือการมารบกวนคนที่กำลังนอนอยู่นี่แหละ บาปขั้นสุดเลย! ขนาดว่าแกล้งทำเป็นหลับต่อ ไม่หือไม่อือ นอนคลุมโปงอยู่บนเตียงแบบที่เรียกได้ว่าซ้อมตาย ก็ดูเหมือนคนข้างนอกจะไม่สนใจ เสียงเปิดประตูดังขึ้นก่อนที่นาทีถัดมาผ้าห่มผืนหนาจะถูกดึงออกจากตัว “พี่ช้อย…” สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องผุดตัวลุกขึ้นนั่งพึมพำเรียกชื่อคนที่มักจะชอบมารบกวนเวลาการนอนหลับพักผ่อนอันมีค่าของฉันเสมอ พี่ช้อยแม่บ้านสาวที่อายุห่างกันไม่มากนักกำลังพับผ้าห่มให้ ใบหน้าที่โบกแป้งพม่าเสียขาววอกแย้มยิ้มขบขันเมื่อเห็นว่าคนโดนปลุกแบบฉันกำลังทำสีหน้ายังไง “ขอหยีตื่นสายแบบไม่กวนสักวันไม่ได้เหรอ?” “นี่ไม่เรียกว่าสายนะคะคุณหยี ตอนนี้บ่ายสามแล้วค่ะ” “…” โอเค… พี่ช้อยเดินไปรูดผ้าม่านเปิดออก แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาจนคนที่ยังคงสะ
EPISODE 2คนแบบ ‘ยาหยี’โรงแรม Kงานแต่งงานใหญ่โตถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง แขกเหรื่อกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นใครไม่รู้ที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และคิดว่าคนเป็นเจ้าบ่าวก็คงจะเหมือนกัน เอาง่าย ๆ ก็คือแขกที่ถูกเชิญมาในงานเป็นพวกผู้ดีมีอันจะกิน สังเกตได้จากที่แต่ละคนแทบจะใส่เครื่องเพชรทั้งหมดที่มีมา ไม่ก็เป็นคนที่คอนเน็กชันเยอะ เดินคุยกับคนนู้นคนนี้ไปทั่ว งานแต่งงานคนรวยก็แบบนี้… มีแต่ธุรกิจ… ถึงการเจอหน้ากันเมื่อเดือนก่อนจะไม่เป็นที่น่าประทับใจก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรนัก ยังไงก็เป็นหน้าที่ของพวกผู้ใหญ่ที่จะเจรจาตกลงกันเรื่องธุรกิจอยู่ดี เพราะระหว่างเราทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งกันเพราะความรักอยู่แล้ว ร่างสูงโปร่งดูดีออราจับในชุดทักซีโดสีขาวสะอาดตา เรือนผมสีดำถูกเซตเป็นทรงเรียบร้อย เป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้า หล่อเหลายิ่งกว่าครั้งก่อนที่ได้พบกันเป็นเท่าตัว แม้ว่าหน้าจะยังไม่รับแขกเหมือนเดิม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาช่างเป็นเจ้าบ่าวที่ดูราวกับหลุดออกมาจากอีกโลก หากตัดเรื่องนิสัยออกไปใคร ๆ ก็คงคิดว่าฉันโชคดีที่ได้สามีเบ้าหน้าฟ้าประทานเบอร์นี้แน่น
EPISODE 3จุก มันก็น่าอาย… ที่แม้ว่าฉันจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเฮียก่อนถึงขั้นจับกด และเปิดฉากจูบแบบจู่โจม แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ได้ในทันทีว่าจูบของอีหยีคนนี้มันไม่ได้เรื่อง เหตุก็เพราะไม่เคยมีจูบแรกมาก่อน ทั้งอีกคนก็เอาแต่นอนบื้อไม่ขยับปากเลยสักนิด ยิ่งทำให้ฉันขายหน้าหนักจนอยากจะล้มเลิกแผนการเจาะไข่แดงตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด ลมหายใจร้อนผ่าวของเราทั้งคู่ประสานกันอยู่เกือบนาทีก่อนที่ฉันจะถอนจูบไม่ประสีประสาของตัวเองออก กระนั้นก็ไม่ได้คิดขยับตัวออกห่าง คนใต้ร่างนิ่งไปครู่ก็หลับตาลงถอนหายใจออกมา “ลงไป… เฮียหนัก” “หยีตัวเบา” “…” “รู้… ว่าเฮียไม่เต็มใจจะแต่ง แต่ไหน ๆ ก็แต่งแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะแปลก…” “ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร?” “เฮียก็หล่อดีออก” “…” นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าราวกับพูดไม่ออก ในคำเอ่ยแบบตรงไปตรงมาของฉันผู้ไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี ถึงจะเกิดเป็นหญิง ก็ต้องรุกสักหน่อยไหม ยิ่งเห็นเขาทำเป็นเมินก็ยิ่งอยากจะเอาชนะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก หลัก ๆ เลยก็คือเ
EPISODE 4ห้องนอนร่วมหนึ่งสัปดาห์ต่อมาถึงจะเตรียมใจมาแล้วส่วนหนึ่งเรื่องย้ายออกจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด แต่พอเอาเข้าจริงก็แอบคิดถึงความสะดวกสบายที่เคยได้รับขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ตื่นมาก็มีคนจัดโต๊ะให้กินข้าว อาหารไม่เคยต้องหากินเอง เสื้อผ้าก็มีคนจัดการให้ตลอด พอต้องย้ายออกมาแบบนี้ก็แอบใจหายอยู่ไม่น้อยเหมือนกันแม้ฉันจะเป็นคุณหนูที่ไม่ใช่คุณหนูจ๋าอะไรขนาดนั้นแต่ตลอดชีวิตก็พบเจอแต่ความสะดวกสบาย แม้ว่าระยะหลังมานี้ไอ้ความสะดวกสบายเรื่องเงินจะไม่เหมือนก่อนเก่าแล้วก็ตามเฮียครามเป็นคนไปรับฉันมาจากที่บ้านเพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ยังที่อยู่อาศัยใหม่ของเราทั้งคู่ ซึ่งมันก็อยู่ไกลจากบ้านของฉันมากพอสมควร กว่าจะออกมาได้ก็เล่นเอาน้ำหูน้ำตาไหลไปสามยก แม้ว่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่ได้เจอหน้าคนที่บ้านทุกวันเหมือนเดิมอีกแล้วระหว่างเราไร้ซึ่งบทสนทนาใด ๆ หลังจากเหตุการณ์ร้อนระอุดุเดือดในคืนนั้น เราสองคนก็ยังไม่ได้เจอหน้ากันอีก เพราะเรือนหอที่ต้องย้ายเข้าของจริงยังอยู่ระหว่างตกแต่งเพิ่มเติม และใช่… นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเจอหน้ากันอีกครั้งแค่คิดถึงเรื่องในคืนนั้นฉันก็รู้สึกรุ่มร้อนไป
EPISODE 50ตอนพิเศษ 3 วันต่อมา ผมตื่นแล้ว… เพราะเสียงรัวกดกริ่งดังไม่หยุดที่หน้าบ้านนั่น ให้เดาก็คงเป็นไอ้พริกกับไอ้รามนั่นแหละ แต่ต่อให้เสียงกริ่งจะดังแค่ไหนก็ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยิน รู้อีกทีผมก็อุ้มหลานพาดบ่า ถือตะกร้าขวดนมเดินลงมาข้างล่าง สภาพสะลึมสะลือขีดสุดเพราะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นัยน์ตาต้องหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์จ้าในช่วงสายของวัน “สภาพน่ารักแบบนี้กูต้องอัดรูปใส่กรอบแล้วมั้ง” เสียงร่าเริงของไอ้ห่ารามดังขึ้น พร้อมกันมันก็รีบยกโทรศัพท์รัวถ่ายรูปยกใหญ่ “ยิ้มเป็นไงบ้าง?” พอประตูเปิด คนเป็นแม่รีบรับลูกต่อไป ท่าทางเป็นห่วง ผมส่งต่อตะกร้านมให้ไอ้ราม ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ขี้ทั้งคืน มึงรีบพาไปหาหมอเลย” “โถ…” “แค่นี้นะ กูจะไปนอน” “ตอนเย็นมาแดกข้าวด้วย” เสียงไอ้รามยังคงดังต่อ ผมไม่ได้สนใจเพียงแค่หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน โบกมือให้มันนิดหน่อยเท่านั้น พอขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่าหยีเหมือนจะเพิ่งตื่น หัวผงกขึ้นมองเล็กน้อย นัยน์ตาใสปรือมองก่อนจะตบที่นอน
EPISODE 49ตอนพิเศษ 2 หลายชั่วโมงต่อมา “เฮียชงนมเสร็จรึยัง?” “แป๊บ” “ยิ้มร้องไม่หยุดเลยทำไงดี?” “เดี๋ยวเฮียอุ้มเอง หยีไปอาบน้ำได้แล้ว” “ไม่เอาอะ” ผมเดินกลับมาหาคนที่กำลังยืนอุ้มหนูยิ้มพาดบ่า เสียงร้องไห้โยเยดังมาได้ร่วมชั่วโมงแล้วแบบไม่มีพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ้มถึงได้ร้องไม่หยุดแบบนี้ แต่จะให้โทรไปบอกให้พริกก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวแม่งไม่เป็นอันทำห่าอะไรกันพอดี หยีไม่ยอมให้เอายิ้มมา กลับเดินหนีไปอีกทาง วางร่างเล็กของหลานไว้บนเตียงก่อนจะป้อนนมเข้าปากเล็กนั่น และพอได้จับขวดนม นัยน์ตาใสแป๋วที่เมื่อครู่มีน้ำตาคลอก็ชะงักเงียบไป มืออ้วนป้อมจับขวดนมถือเอง พลิกตัวไปทางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ผมเม้มปากกลั้นยิ้ม ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้แอบเหนื่อยไม่น้อย ทั้งที่ปกติหนูยิ้มเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้อง แต่อาจจะเป็นเพราะห่างพ่อห่างแม่ทำให้เกิดอาการร้องไม่หยุดแบบนี้ ก็เด็กนั่นแหละ แถมเป็นหลานผมด้วย จะบอกว่ารักเหมือนลูกตัวเองก็คงไม่ผิดนัก
EPISODE 48ตอนพิเศษ 1 KRAM TALKS เวลาผ่านเลยไปก็หลายเดือน ทุกอย่างดูสงบสุขดี เว้นก็แต่… หยีไม่ยอมกินข้าวเลย เอาแต่ทำงาน ซ้ำยังไม่มีเวลาให้คนเป็นสามีแบบผมด้วย และใช่… มันน่าหงุดหงิด อยากจะจับมาฟัดสักทีสองที บรรยากาศในบ้านช่วงบ่ายอ่อน ๆ ที่แสนจะเงียบเชียบ มีเสียง ‘ต๊อกแต๊ก ๆ’ ดังอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ต่อให้ผมเดินผ่าน หรือเปิดประตูบ้านเข้ามา คนที่กำลังนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ใส่แว่นตาทรงโต ในรูจมูกข้างหนึ่งมียาดมเสียบเอาไว้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกันเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้หยีจริงจังกับการเขียนนิยายมากจนผมไม่อยากจะไปกวน แต่บางทีมันก็แอบอยากอยู่ด้วย อยากชวนไปข้างนอก ไม่ก็ชวนหาอะไรทำ… เราไม่ได้เข้านอนพร้อมกันมาร่วมเดือนแล้ว และเรื่องพวกนั้นก็แทบไม่ได้ทำกันเลย เพราะน้องมันเอาแต่ทำงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับเป็นตาย ใครแม่งจะไปกล้ากวน แต่เพราะระยะนี้เจ้าตัวออกจะอาการหนักเกินไปสักหน่อย ถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลาเหมือนตอนก่อนนู้นสมัยที่เราย้ายมาอยู่ด้วยกันแรก ๆ ผมเลยตั้งใจว่าอาจจะต้องบังคับให้เมียหยุดทำงาน
EPISODE 47ก้าวไปข้างหน้า หลายเดือนต่อมา “กรี๊ด!!!!!!” “อะไร…” “เฮีย! ตื่นมาดูนี่เร็ว!” “…” คนข้าง ๆ ยกหัวขึ้นมามองในตอนที่ฉันกำลังส่องหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู มือไม้สั่นหนักจนเฮียครามต้องดึงไปดูเอาเอง คิ้วหนาเลื่อนเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจจนฉันต้องดึงมันกลับมาดูอีกครั้ง ส่งเสียงวี้ดว้ายไปมาอย่างหยุดไม่อยู่ “เฮีย! นิยายของหยี… ได้ขึ้นหน้าหนึ่งขายดีแล้วนะ!!!” “อืม…” “เฮียอะ!! ไม่ดีใจหน่อยเหรอ?” “ดีใจดิ” “เฮียดูสิ ๆ ๆ หยีตื่นเต้นอะ!” “ใจเย็น” คนข้าง ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหัวเราะออกมาเบา ๆ ดึงเอาตัวฉันไปกอดจูบลงบนเรือนผมกันสองสามที ถึงจะไม่ได้แสดงอาการดีอกดีใจได้มากไปกว่านี้ แต่แค่นี้สำหรับคนแบบเฮียแล้วก็ถือว่าโอเค… และใช่… หลังจากที่ฉันตั้งอกตั้งใจเขียนนิยายต่อเนื่องกันอยู่หลายเดือนแบบที่เรียกได้ว่าข้าวปลาไม่สนใจจะกิน ตอนนี้ก็ราวกับว่าความพยายามนั้นสัมฤทธิ์ผลเข้าให้แล้ว การตั้งตารอให้นิยายที่ตัวเองเขียนขึ้นหน้าขายดีของ
EPISODE 46งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันยังคงนั่งนิ่ง พยายามเก็บอาการตระหนกตกใจเอาไว้ไม่ให้ผิดสังเกต คนข้าง ๆ กำลังทำเป็นส่งยิ้มให้คนอื่น ๆ แบบที่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเฮียจะฝืนใจตัวเองทำแบบนี้ได้ลง แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเขากำลังทำ “เฮียทำไรอะ?” พอเห็นว่าอีกสามคนไม่ได้มองอยู่ ฉันก็รีบกระซิบถามทันที เฮียครามไหวไหล่เล็กน้อยราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหยีไง” “ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย” “บอกแล้วไงว่าเป็นของขวัญ” “แต่…” “ไม่เป็นไร… เฮียตั้งใจจะช่วยเด็ก ๆ อยู่แล้ว” คนข้าง ๆ ยิ้มใจดี เลื่อนมือมากุมมือฉันไว้เมื่อเห็นว่าฉันผู้ซึ่งได้รับความช่วยเหลือแบบที่ว่านี้ไม่ได้ยินดีอะไรนัก ดูก็รู้ว่าเฮียคงอยากจะช่วยทำให้ฉันหายเป็นกังวลในเรื่องสังคมป่วย ๆ นี่ และใช่… ฉันไม่เห็นด้วยที่เฮียจะทำถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเขาพูดมางั้นว่าอยากช่วยน้อง ๆ ฉันจะไปทำอะไรได้ ก็แค่… ไม่คิดว่าเฮียจะเต็มใจมาจนถึงขั้นแต่งองค์ทรงเครื่องเบอร์นี้ “เอ… จริง ๆ ยิหวาคุ้นหน้าเฮียครามมากเลยนะคะ” เสียงคนตรงหน
EPISODE 45ครบรอบ หลายวันต่อมา ฉันกำลังแต่งตัวเตรียมไปงานเปิดตัวกระเป๋าอะไรสักอย่างนั่นของคุณส้มที่ลิลลี่พูดถึง ถึงใจจะไม่อยากไป แต่ด้วยความที่ไม่อยากจะเป็นคนเดียวที่ถูกนินทาก็เลยจำใจต้องไป เฮียครามเพิ่งกลับมาจากข้างนอก กำลังถอดเสื้อเชิ้ตโยนใส่ตะกร้า เท้าสะเอวมองมาเงียบ ๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้เฮียฟังอีก ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาไม่ชอบที่จะให้ฉันไปปั้นหน้าเข้าสังคมแบบนั้น แต่ถึงงั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แน่นอนว่าก็ไม่ยอมไปด้วยอยู่ดี “หยีน่าจะกลับดึก ๆ หน่อย”ฉันว่าพลางใส่ต่างหูที่กลั้นใจซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่บอกว่ากลั้นใจซื้อเพราะว่าระยะหลังมานี้ฉันไม่ได้มีเงินให้ใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน ถึงสถานการณ์ที่บ้านกำลังอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ฉันก็ไม่อยากจะไปรบกวนอะไรให้มากนัก อีกทั้งเฮียเองก็บังคับให้ใช้เงินเขา เพราะงั้นไอ้ของฟุ่มเฟือยนี่ก็คือเงินเก็บของฉันเองที่ได้จากการขายงานนั่นแหละ“สวยไหม?”หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็หันกลับไปหมุนตัวให้คนเป็นสามีดู เฮียที่ยังคงอยู่ในสภาวะหน้านิ่งชำเลืองข
EPISODE 44ความสุขของเมีย KRAM TALKS คนในอ้อมแขนนอนหลับไปแล้วชนิดที่ว่าต่างไปจากหลายวันก่อนหน้า ที่กว่าจะหลับได้ก็เล่นเอาผมกล่อมแทบตาย หยีคิดมากมาหลายวันเรื่องไอ้เครื่องรางบ้าบอคอแตกนั่น ปากก็บอกว่าไม่ได้เชื่อขนาดนั้นแต่เจ้าตัวก็เอาแต่เครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร เดี๋ยวก็ดู ๆ และเพราะรู้ว่าผมไม่เชื่อหลายวัน ที่ผ่านมาก็เลยไม่ได้มาพูดถึงให้ฟังอีก แต่เห็นน้องมันเครียดขนาดนั้น จะให้คนเป็นผัวอยู่เฉยได้ยังไง… ก็แหงอยู่แล้ว ไอ้อะไรที่ว่านั่นจะหายไปเองได้ยังไง… ผมเป็นคนเอาออกเอง… หลังจากที่หยีหลับไปแล้ว แบบที่ว่านอนน้ำลายยืด กรนเสียงเบา ๆ ผมก็เลื่อนตัวออกจากผ้าห่ม เดินไปยังไอ้ถุงสีแดงที่เห็นแล้วขัดหูขัดตามาหลายวัน เทเอาทรายที่บรรจุอยู่ในถุงออกใส่ฝ่ามือจำนวนหนึ่งก่อนจะทิ้งไปง่าย ๆ แล้วเก็บมันกลับเข้าที่เดิมโดยที่เจ้าของของมันไม่รู้ตัว ก็ปล่อยให้ไม่รู้ไปนั่นแหละดีแล้ว… แต่เห็นหยีเครียดแล้วผมก็เครียดไปด้วย เลยคิดว่าแอบจัดการไปเงียบ ๆ ดีกว่า และก็อย่างที่เห็น… ว่าพอสบายใจหยีก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม ผมอาบน้ำ
EPISODE 43เรื่องเหลือเชื่อ หลายวันต่อมา ถึงจะบอกว่าไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้ฉันชักจะเป็นกังวลหนักขึ้นทุกที เพราะอะไรที่อยู่ในถุงผ้าสีแดงนั่นดูเหมือนจะยังอยู่เต็มถุง ไม่ได้ลดขนาดลงเลยสักนิดตามที่แม่หมอบอก และใช่… ฉันเริ่มจะแอบกังวลขึ้นมานิด ๆ แล้วเหมือนกัน… ไม่ได้เชื่อขนาดนั้นเลยจริง ๆ “เป็นไร?” “เปล่า” “ทำหน้าเครียดขนาดนั้น ทะเลาะกับไอ้ครามเหรอ?” “เปล่าหรอกเจ๊” “แล้วเป็นอะไร?” “จำหมอดูคนนั้นที่หยีซื้อเครื่องรางกลับมาได้ไหม?” “…” “ตอนนี้อะไรที่ควรจะหายไปมันยังเต็มถุงอยู่เลย” “จริงเหรอ!!” แทนที่คนถามซึ่งเป็นอีเจ๊จะทำหน้าตกอกตกใจ แต่กลายเป็นว่าคนที่กำลังนอนเลื่อนโทรศัพท์เล่นอยู่ที่โซฟาผงกหัวขึ้นมามองแทน อ้ายรีบกระโดดลุกขึ้นเดินเข้ามาหา สีหน้าตระหนกตกใจ บ่งบอกได้ว่าเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้ระดับไหน ในขณะที่เจ๊พริกทำหน้าบอกบุญไม่รับกับสิ่งที่ได้ยิน เดินหมุนตัวไปเก็บของโดยไม่ใส่ใจจะถามต่อ “ก็ที่
EPISODE 42สายมู หลายวันต่อมา เรากลับมาจากทริปกระชับความสัมพันธ์อะไรที่ว่านั่นได้หลายวันแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และฉันก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองว่าเฮียเจินกำลังจะซื้อบ้านหลังฝั่งตรงกันข้าม เพราะถ้าอ้ายเรียนจบเมื่อไรคงจะได้แต่งงานกันทันที เจ๊พริกก็กลับมาเลี้ยงลูก กลับมาทำอาหารเลี้ยงทุกคนเหมือนเดิม พวกเฮียทั้งสี่กำลังลงขันทำธุรกิจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับแอปพลิเคชันออนไลน์ซึ่งฉันไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเป็นคนไม่สันทัดทางด้านนั้น เฮียยักษ์ยังคงแวะเวียนมาหาทุกวัน มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเหมือนทุกที และแน่นอนว่าตอนนี้ตัวฉันเองก็กลับมาทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเดิม เฮียครามดูเหมือนจะชินแล้วที่เห็นเมียตัวเองกำลังนั่งยัดยาดมเข้ารูจมูก รัวนิ้วใส่แป้นพิมพ์อย่างเมามันในช่วงเช้าของวัน แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่เฮียจะตื่น ฉันก็ทำอาหารรอไว้เรียบร้อย และใช่… กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาสายของวัน ยอดการดาวน์โหลดนิยายเรื่องใหม่ที่วางขายอยู่ที่หน้าเว็บฝากขายวรรณกรรมอิเล็กทรอนิกส์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในกราฟดาวน์โหลดมีแนวโน้มสูงขึ้