EPISODE 3
จุก
มันก็น่าอาย…
ที่แม้ว่าฉันจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเฮียก่อนถึงขั้นจับกด และเปิดฉากจูบแบบจู่โจม แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ได้ในทันทีว่าจูบของอีหยีคนนี้มันไม่ได้เรื่อง เหตุก็เพราะไม่เคยมีจูบแรกมาก่อน ทั้งอีกคนก็เอาแต่นอนบื้อไม่ขยับปากเลยสักนิด ยิ่งทำให้ฉันขายหน้าหนักจนอยากจะล้มเลิกแผนการเจาะไข่แดงตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด
ลมหายใจร้อนผ่าวของเราทั้งคู่ประสานกันอยู่เกือบนาทีก่อนที่ฉันจะถอนจูบไม่ประสีประสาของตัวเองออก กระนั้นก็ไม่ได้คิดขยับตัวออกห่าง คนใต้ร่างนิ่งไปครู่ก็หลับตาลงถอนหายใจออกมา
“ลงไป… เฮียหนัก”
“หยีตัวเบา”
“…”
“รู้… ว่าเฮียไม่เต็มใจจะแต่ง แต่ไหน ๆ ก็แต่งแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะแปลก…”
“ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร?”
“เฮียก็หล่อดีออก”
“…” นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าราวกับพูดไม่ออก ในคำเอ่ยแบบตรงไปตรงมาของฉันผู้ไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี ถึงจะเกิดเป็นหญิง ก็ต้องรุกสักหน่อยไหม ยิ่งเห็นเขาทำเป็นเมินก็ยิ่งอยากจะเอาชนะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก
หลัก ๆ เลยก็คือเราแต่งงานแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เขารู้สึกยังไงฉันไม่รู้ และไม่อยากจะรู้ด้วย แต่ที่แน่ ๆ ฉันจริงจัง…
เพราะเฮียเอาแต่นอนแบบที่ไม่เขยื้อนตัวเลยสักนิด ทำให้ฉันเกิดจะเอะใจในอะไรบางอย่างขึ้นมา ถึงเขาจะไม่อยากแต่มันจะไม่มีอารมณ์ร่วมเลยได้ยังไง ผู้ชายกับผู้หญิงแน่นอนว่ามันต้องต่างกันอยู่แล้ว
ผู้ชายร้อยทั้งร้อยโดนคนสวยขนาดนี้ อ่อยขนาดนี้ แต่ไร้การตอบสนองแบบนี้… มันมีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก ก็หรือว่าเฮียจะเป็น…
นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฉันฉุกใจคิดขึ้นมา รีบชันกายลุกขึ้นยกมือทาบอกเบิกตาโต เฮียครามเลื่อนคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นอาการละม้ายคล้ายตระหนกตกใจหนักของฉัน
“หรือเฮียไม่ใช่ผู้ชาย?”
“…”
ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่คนตรงหน้าพ่นลมหายใจยาวพรืดราวกับหมดคำจะพูด แต่ไอ้สีหน้าแบบนั้นก็ทำให้ฉันโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่งเพราะถ้าเป็นคุณแม่จริง อีหยีคงไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้แน่ ต้องมีโดนยันตกเตียงบ้างละวะ
ถึงงั้นก็น่าแปลกใจอยู่ดีนั่นแหละ! คนบ้าอะไรจะนิ่งเป็นท่อนไม้ได้ขนาดนี้!
“หรือว่า…”
“…” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าราวกับตั้งตารอที่จะฟังว่าฉันจะมโนอะไรได้อีก
“ของเฮียมัน… มันเล็กเหรอ? แบบไม่มั่นใจอะไรงี้…” ก็อดไม่ได้จริง ๆ ที่จะอึกอักออกมา จินตนาการในสมองนำหน้าไปแล้วก้าวหนึ่งอย่างหยุดไม่อยู่
“…” เฮียครามไม่ตอบ เอาแต่นิ่ง สำหรับฉันนั่นก็ราวกับเป็นคำตอบ สุดท้ายเลยตะกุกตะกักออกมาเสียงแผ่วเพราะแอบเห็นใจ
“เล็กก็ไม่เป็นไรหรอก หยีไม่ถือ”
“เหี้ยไรวะเนี่ย…” นัยน์ตาคู่สวยเบนไปทางอื่น บ่นพึมพำหน้าตาเครียดหนัก แต่ไม่ยักแก้ตัว
“ก็ใครจะไปรู้ เห็นสูงยาวเข่าดีแบบนี้…”
“พอ…” คนรับไม่ได้กับขนาดตัวเองยกมือขึ้นห้าม ทำท่าจะจับฉันลงจากตัวอีกครั้ง แต่ฉันก็รีบกดอกของเขาเอาไว้ รีบเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดเพราะมันอาจจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับผู้ชาย และคงดูเป็นการหยามน้ำหน้าที่ฉันเอ่ยขึ้นมา
“ไม่เห็นต้องโกรธเลย หยีไม่ได้ตั้งใจจะล้อเลียนสักหน่อย”
“…”
“เรื่องแค่นี้สบายมาก หยีรับได้”
ฉันรีบปั้นยิ้มหวาน ก้มลงไปหาคนเป็นสามีอีกครั้ง ถึงจะเล็กก็ไม่เป็นไร ยังไงเขาก็หล่อมากอยู่ดี และฉันเองก็ทำไปเพราะมีจุดประสงค์หลักอย่างที่บอก อีกทั้งก็ไม่คิดที่จะจบความสัมพันธ์ในวันหนึ่งวันใดลงด้วยจริง ๆ
การจูบ… เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งโดยที่ฉันยังคงเป็นฝ่ายพยายามเหมือนกันกับครั้งแรก แต่ที่ต่างก็คือหลังจากทาบทับเบียดบดริมฝีปากอยู่เกือบนาที ก็ดูเหมือนคนที่เอาแต่นอนจ้องจะเผลอไผลขยับปากตอบเล็กน้อย และพอรู้ว่าตัวเองกำลังเผอเรอเฮียก็รีบเบี่ยงหน้าหนี
“ลงไป”
“เฮียอะ!”
“เป็นผู้หญิงจริงปะเนี่ย?”
“จูบหยีหน่อยสิ…”
“…”
ที่เขาว่ากันว่า… ผู้หญิงมักจะมีมารยาร้อยแปดเล่มเกวียนอยู่กับตัว มันก็คงไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มจะเผลอตัวหลุดสัญชาตญาณของบุรุษเพศออกมาถึงจะแค่เล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฉันเริ่มที่จะได้ใจ มือสองข้างเลื่อนต่ำลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเฮียออกทีละเม็ด สบตาเขาแบบที่ใจกล้าหน้าด้านเกินหญิง บรรจงทาบทับริมฝีปากตัวเองลงไปอีกครั้ง เรียวลิ้นสอดแทรกเข้าไปทีละนิด
ร่างกายของเฮียดูจะแข็งค้างไป นัยน์ตาสงบนิ่งเมื่อครู่ก่อนวูบไหวเล็กน้อย เอวเปล่าเปลือยของฉันได้รับสัมผัสชนิดหนึ่งที่ต่างออกไปจากในตอนแรก เสียงแหบต่ำราวกับจะส่งสัญญาณเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
“ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนี้… เฮียจะไม่ทนแล้ว”
“…ก็ไม่เห็นต้องทน”
“แน่ใจ…”
“นะ… แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก” ปากดีพูดไปงั้นแต่แทบจะคุมเสียงตะกุกตะกักของตัวเองไม่ได้เลย
“…”
อึดใจต่อมาก็ต้องรู้สึกหูอื้อตาลาย…
ลมหายใจราวกับจะขาดห้วงไปดื้อ ๆ ตอนที่สีหน้าคนใต้ร่างแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ต้นคอถูกดึงให้โน้มต่ำลงไป และฉัน… ก็เพิ่งได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าจูบจริงจังเป็นครั้งแรกในชีวิตแบบที่ไม่ใช่การจินตนาการเอาเอง
หัวใจกระหน่ำเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากอก เมื่อริมฝีปากถูกขยับเปิดออก ความเปียกชื้นของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากแบบที่ไม่ทันตั้งตัว
เฮียครามมองกันราวกับเป็นการตอกย้ำให้รู้ว่าเขาเตือนกันแล้ว มือหนาเลื่อนต่ำลงกอบกุมก้นงอนทั้งสองข้างไว้ พร้อมทั้งออกแรงบีบขยำรุนแรงจนความใจกล้าของอีหยีหล่นวูบลงอย่างน่าใจหาย ก่อนจะกดสะโพกให้เบียดบดกับอะไรบางอย่างที่อยู่ต่ำลงไป
อะไร… ที่ฉันซี้ซั้วเอาเองว่าขนาดของมันคงจะเล็กแบบที่น่าเห็นใจ…
แต่เท่าที่ความอ่อนนุ่มได้สัมผัสอยู่ในขณะนี้ มันไม่ได้เล็กอย่างที่คิด… ความแข็งแรงของตัวตนคนตรงหน้าขยายขนาดจนรั้งเนื้อผ้าของกางเกงที่สวมใส่อยู่จนคับแน่น
ขนาดว่ายังไม่ได้เห็น ใจมันก็เตลิดไปไกลกับจินตนาการในหัวรวมถึงสัมผัสชนิดสนิทแน่นแบบนั้น ช่องทางรักที่ยังไม่เคยผ่านศึกใดมาก่อนในชีวิตกำลังเสียดสีเข้ากับท่อนลำขนาดใหญ่ระอุร้อน ทำเอาใบหน้าฉันร้อนหนักไปด้วย
รสชาติของจูบแบบผู้ใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป เพิ่มระดับความดุดันรุนแรงขึ้นทุกวินาที และอึดใจต่อมาในตอนที่สมองของฉันยังคงไร้ซึ่งการทำงาน รู้อีกทีกางเกงที่เฮียมันใส่อยู่ก็ถูกถอดออกไปทั้งที่เขาก็ไม่ได้ขยับตัวลุกขึ้นด้วยซ้ำ
ฉันทำท่าจะผละออกเพราะการจูบของอีกคนเริ่มจะหนักหน่วงขึ้นทุกที เล่นเอาหายใจหายคอไม่ทัน แต่กลายเป็นว่าคนที่เอาแต่ปฏิเสธเมื่อครู่ดึงรั้งสะโพกให้ต่ำลง เรือนกายที่ร้อนผ่าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ราวกับเป็นเตาปฏิกรณ์ที่กำลังจะระเบิด
ช่องทางรักคับแน่นกำลังโดนนำทางให้ถูไถไปกับลำกายของท่อนเอ็นร้อน ความรู้สึกกระสันเสียวทำเอาฉันตัวสั่นหนัก ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนนี้… ไร้ซึ่งร่มผ้าใดแทรกอยู่ตรงกลาง…
เฮียครามใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสเข้ากับจุดอ่อนไหว ลากไล้เบา ๆ และมันช่างน่าขายหน้า ที่แค่นั้นเสียงสัมผัสเปียกชื้นแสดงความต้องการของฉันก็ชัดเจนในความสงัดเงียบของห้อง อาจเป็นเพราะเขาหล่อมาก ประกอบกับสัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิตทำให้ร่างกายมันตอบสนองได้ดีขนาดนี้
คนด้านล่างผละจูบออกแต่ยังคงไม่หยุดจ้องตากัน คราวนี้เป็นฉันเองที่ละสายตามองต่ำลงไปยังส่วนนั้นของเราทั้งคู่ แค่เห็นก็ถึงกับต้องซบหน้าเข้ากับบ่ากว้างเพราะร่างกายอ่อนระทวยไปไม่เป็น เมื่อปลายหัวบานใหญ่กับลำกายใหญ่ยาวกำลังถูกเจ้าของของมันฟาดเบา ๆ จรดจดจ่ออยู่ตรงช่องทางเข้าราวกับเป็นการทักทาย เพียงแค่นั้นฉันก็ร้อนวูบวาบไปหมดทั่วทั้งสรรพางค์กาย
และจังหวะถัดมาร่างกายก็ผวาเฮือกเพราะเฮียครามใช้มือทั้งสองข้างกดสะโพกของฉันลงอย่างแรง จนสิ่งนั้นทะลวงเข้าไปยังช่องทางรักที่แม้จะเต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่น กระนั้นมันก็รัดรึงตึงไปทุกอณู อะไรบางอย่างราวกับจะฉีกขาด
แม้ว่าแอร์ในห้องจะเย็นฉ่ำ แต่เรือนกายของฉันตอนนี้เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เสียงคำรามในลำคอของอีกคนดังอยู่ข้างหูนี่เอง เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเจ้าตัวคงจะอยากเช็กว่าฉันยังอยู่ดี แม้ว่าฉันจะรู้สึกจุกระบมไปทั้งท้องน้อย ทั้งปากทางเข้าที่โดนเสียบเข้ามารวดเดียวสุดโคนแบบนั้น
แต่คนแบบยาหยี… ไม่มีทางถอยกลับแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเมียยังไม่ตาย ก้นทั้งสองข้างก็ถูกจับให้ยกขึ้นลง สับสะโพกเข้าใส่ความใหญ่โตที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดโปนปูด มือหนาบีบขยำก้นกันอย่างแรงไร้ซึ่งความโอนอ่อนผ่อนปรน ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วจนสมองขาวโพลนพร่าเลือนไปชั่วขณะ
สวบ! สวบ! สวบ!
เสียงวาบหวามดังเป็นจังหวะทุกครั้งที่มีการโยกสับขึ้นลง ช่างน่าอัศจรรย์ที่ฉันมีน้ำหล่อลื่นมากพอที่จะยัดไอ้ยักษ์ของเขาเข้าไปได้แม้จะเป็นครั้งแรก ทั้งยังตอดรัดแน่นจนแอบเจ็บ ท้องน้อยจุกระบมขึ้นทุกจังหวะที่มีการกระแทกลงไปจนมิดโคน
ฉันนอนซบใบหน้าลงกับบ่าของคนด้านล่างส่งเสียงร้องครางออกมาเพราะความกระสันเสียวกับความแข็งแกร่งที่ฝังลึกเข้ามา เอวกำลังร่อนสับขย่มขี่ความใหญ่โตตามจังหวะการจับโยกของอีกคน ใบหน้าหล่อเงยขึ้นหลับตาลง ลมหายใจติดขัดไม่ต่างกัน สลับกับเสียงท่อนเนื้อประสานกับความฉ่ำแฉะ มีเสียงหอบหายใจของเราทั้งคู่ที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าของใครเป็นของใคร
และจังหวะหนึ่งนั้นเอง ราวกับเฮียครามจะทนไม่ไหวอีกต่อไป สะโพกแกร่งสอบสวนทางขึ้นมาอย่างแรงจนฉันจุก แทบจะยกตัวหนีเมื่อถูกแท่งร้อนกระทุ้งเข้าใส่เต็มแรง แต่เขากลับรั้งมันให้อยู่ที่เดิม กระแทกกระทั้นรุนแรงหนักหน่วงอยู่อย่างนั้นจนแข้งขาสองข้างสั่นหนักเกือบจะค้ำยันตัวเองไว้ไม่ได้
คนด้านล่างคำรามในลำคอ กัดฟันจนเห็นสันกรามชัด จ้องมองส่วนนั้นสลับกับการทิ้งหัวลงบนหมอนครางเสียงแหบต่ำ สีหน้าแบบที่เห็นแล้วก็อดเบนสายตาหนีไม่ได้แบบนั้น… คนที่เวลาปกติเป็นคนนิ่งเฉยเฉื่อยชา แต่ตอนทำเรื่องบนเตียงราวกับจะเปลี่ยนเป็นอีกคน ฉันรู้ตัวในทันทีว่าตอนนี้ตัวเองคงกำลังหน้าแดงเพียงแค่เพราะจ้องมองการเสพเซ็กซ์ของเขา
ตับ! ตับ! ตับ!
คนที่บอกว่าไม่อยากทำกับคนไม่เคยแบบฉัน ตอนนี้ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่านี่เป็นครั้งแรกของเมีย การลากลำเอ็นขึ้นลงไม่หยุดแบบนั้นมันหน่วงหนัก จนฉันเองก็ไม่สามารถกลั้นเสียงครวญครางของตัวเองเอาไว้ได้ ใบหน้าด้านข้างซบลงบนหมอน ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายจับสะโพกเอาไว้แล้วกระแทกตัวตนเข้าหาไม่หยุดอยู่นานนับสิบนาทีโดยไม่คิดจะออกปากห้ามใด ๆ
เพราะถึงจะรุนแรง… แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตัวฉันเองก็เสียวหนักไม่แพ้กัน ตัวทั้งตัวราวกับจะลอยได้ชนิดที่ไม่เคยพานพบกับความรู้สึกนี้มาก่อนในชีวิต
อีกคนคงเพิ่งจะสังเกตเห็นอาการกันว่าฉันที่กำลังร้องครวญครางอยู่ข้าง ๆ หูนี้ ลมหายใจรวยรินราวกับกำลังจะหมดแรง เฮียครามเอียงหน้ามาประทับจูบเข้าใส่กันอีกครั้ง เสียงอะไรนั่นยังคงดังต่อ แต่ระดับความแรงลดลง จากที่กระหน่ำสวบแทง ตอนนี้เปลี่ยนจังหวะเป็นขยับเนิบช้าราวกับกลัวว่าฉันจะตาย
สะโพกถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ฉันก็ยังคงใช้เข่าค้ำยันรับเอาไว้ ฝ่ามือของเขาเลื่อนขึ้นมากอดกันเอาไว้ ดวงหน้าหล่อมีสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย อาจเห็นว่าฉันกำลังใกล้จะตาย แต่ยังฝืนตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถกระมัง
จูบแบบอ่อนโยนราวกับไม่ใช่คนเดียวกันกับเมื่อครู่ถูกถอนออกไป เสียงแหบต่ำเอ่ยออกมาราวกับต้องการปลอบประโลมกับการกระทำที่ตัวเขาเองคงจะลืมตัวไปชั่วครู่
“เจ็บรึเปล่า?”
“…ไม่ทันแล้วมั้งเฮีย” ถึงจะพูดติดตลกออกไป แต่อีกคนก็ถึงกับหน้าเสียไปเลย ฉันเลยต้องรีบเอ่ยต่อ กลัวว่าเขาจะหยุดขึ้นมากลางคัน “…แต่หยีทนได้”
“…”
คนเป็นสามีไม่พูดอะไร… แต่รั้งตัวฉันเข้าไปกอด ฝ่ามือลูบแผ่นหลังชื้นเหงื่อเบา ๆ เหมือนกำลังโอ๋เด็ก และแค่นั้นหัวใจยาหยีคนนี้ก็เหมือนจะลอยล่องออกไปไกล ถึงจะรู้ว่าเขาก็คงแค่อยากจะปลอบกันเพราะนี่เป็นครั้งแรกของฉัน ไม่มีเรื่องของความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง…
ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ฉันก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมา แม้ว่าความสัมพันธ์เราจะเริ่มต้นแบบแปลกประหลาดพิสดารเกินไปหน่อยก็ตาม
เพราะคงมัวแต่ฟุ้งซ่านอยู่กับอ้อมกอดอุ่นเลยไม่ทันได้สังเกตหรือจับความรู้สึกช่วงล่าง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลำกายระอุร้อนกำลังโหมเข้าใส่รุนแรงถี่รัวอีกครั้ง แผ่นหลังของฉันถูกกดเอาไว้แนบอก กัดฟันอดทนแต่ก็ยังหลุดเสียงร้องออกมาเป็นระยะ แต่ถึงไงก็ต้องทนให้เฮียไปถึงฝั่งให้ได้
แทนที่จะเป็นเขาคนเดียวที่ไปถึง ตัวฉันเองก็เริ่มรู้สึกเสียวหนักจนน้ำตาแทบไหล ท้องน้อยบิดมวนหดเกร็งกับความวาบหวามน่าอัศจรรย์ของการโดนกระทำรุนแรง ราวกับตัวเองเป็นมาโซคิสม์ก็ไม่ปาน
ไม่กี่อึดใจต่อมาความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตก็ทะลักล้นออกมา ขาสองข้างที่สู้ชีวิตด้วยการค้ำยันให้เขาทำอยู่นานแทบจะร่วงลงมากอง เฮียสอดแขนเข้ารับข้อขาอ่อนปวกเปียกของฉันเอาไว้
ขณะเดียวกันในตอนที่ฉันหมดแรงทิ้งตัวใส่ เขาก็กำลังไต่ระดับทำความเร็วไม่หยุดจนเรือนกายหมดสภาพของฉันสั่นคลอนไปตามแรงโยกนั่น เสียงหวีดร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าแบบที่ฉันเองก็ไม่รู้ตัว
และอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็สัมผัสรับรู้ได้ว่าสิ่งที่สอดใส่อยู่กลางกายนานนับชั่วโมงแบบไม่หลุดแม้แต่วินาทีเดียวกำลังกระตุกรุนแรง ก้นฉันถูกยกขึ้นในจังหวะเดียวกัน มองต่ำลงไปก็เห็นของเหลวสีขาวขุ่นกำลังล้นทะลักออกจากปลายหัวบานใหญ่ไม่หยุด มือหนาชักรูดขึ้นลงต่อท้ายอีกเล็กน้อยจนมันไหลออกมาจนหมด
เสียงเดียวที่ดังอยู่ในขณะนี้คือเสียงหอบหายใจที่ก็ไม่รู้แน่ว่าของใครเป็นของใคร…
และตอนนั้นเองที่เราทั้งคู่ก็ได้ประสานสายตากันอีกรอบ นัยน์ตาสีดำราวกับรัตติกาลจ้องหน้าฉันนิ่ง ในขณะที่ตัวฉันเองแม้จะอยากมองหน้าหล่อ ๆ ต่ออีกสักหน่อย แต่เพราะตอนนี้มันเหนื่อยจนแทบจะสลบ ทำให้เปลือกตาหนักอึ้งปิดสนิทลงแบบที่ไม่ขอฝืนอีกต่อไป
ถึงยังไง… ยาหยีคนนี้ก็ได้มีครั้งแรกสมใจอยาก เพราะงั้นเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน
EPISODE 4ห้องนอนร่วมหนึ่งสัปดาห์ต่อมาถึงจะเตรียมใจมาแล้วส่วนหนึ่งเรื่องย้ายออกจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด แต่พอเอาเข้าจริงก็แอบคิดถึงความสะดวกสบายที่เคยได้รับขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ตื่นมาก็มีคนจัดโต๊ะให้กินข้าว อาหารไม่เคยต้องหากินเอง เสื้อผ้าก็มีคนจัดการให้ตลอด พอต้องย้ายออกมาแบบนี้ก็แอบใจหายอยู่ไม่น้อยเหมือนกันแม้ฉันจะเป็นคุณหนูที่ไม่ใช่คุณหนูจ๋าอะไรขนาดนั้นแต่ตลอดชีวิตก็พบเจอแต่ความสะดวกสบาย แม้ว่าระยะหลังมานี้ไอ้ความสะดวกสบายเรื่องเงินจะไม่เหมือนก่อนเก่าแล้วก็ตามเฮียครามเป็นคนไปรับฉันมาจากที่บ้านเพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ยังที่อยู่อาศัยใหม่ของเราทั้งคู่ ซึ่งมันก็อยู่ไกลจากบ้านของฉันมากพอสมควร กว่าจะออกมาได้ก็เล่นเอาน้ำหูน้ำตาไหลไปสามยก แม้ว่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่ได้เจอหน้าคนที่บ้านทุกวันเหมือนเดิมอีกแล้วระหว่างเราไร้ซึ่งบทสนทนาใด ๆ หลังจากเหตุการณ์ร้อนระอุดุเดือดในคืนนั้น เราสองคนก็ยังไม่ได้เจอหน้ากันอีก เพราะเรือนหอที่ต้องย้ายเข้าของจริงยังอยู่ระหว่างตกแต่งเพิ่มเติม และใช่… นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเจอหน้ากันอีกครั้งแค่คิดถึงเรื่องในคืนนั้นฉันก็รู้สึกรุ่มร้อนไป
EPISODE 5ชายคาเดียวกัน 1ตอนดึก เวลาล่วงเลยผ่านไปก็นานแล้ว คนที่หายเงียบไปยังไม่กลับเข้าบ้านมาสักที ฉันไม่อยากทำตัวเป็นพวกถ้ำมองหรอก แต่ชะเง้อมองออกไปที่ข้างบ้านทีไรก็ยังเห็นรถพวกนั้นจอดนิ่งสนิทอยู่ที่เดิมไม่หายไปเลยแม้แต่คันเดียว ตั้งแต่เที่ยงวันลากยาวมาจนเที่ยงคืนแล้ว ก็ยังไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่องกันสักที ฉันก็ไม่ว่าเขาหรอก ยังไงเราก็เพิ่งรู้จักกัน เขาอาจจะอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง นั่นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตอนนี้ตัวฉันเองก็ได้เวลาส่วนตัวแล้วเหมือนกัน… หลังจากโบกครีมพอกหน้าจนขาววอกแล้ว ฉันก็หอบเอาโน้ตบุ๊กลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน เสื้อผ้าเวอร์วังอลังการที่ชอบใส่ เปลี่ยนมาอยู่ในชุดนอนวาบหวิวโชว์สัดส่วนที่แม้จะมีเนื้อนมไข่น้อยกว่าคนบ้านข้าง ๆ แต่ถึงงั้นฉันก็ปลอบใจตัวเองเสมอมาว่าทุกอย่างบนเรือนกายของตัวเองมันดูดี แม้ว่าจะเข้าสู่โหมดทำงานเต็มรูปแบบ แต่แน่นอนว่าฉันไม่สามารถแต่งตัวเป็นป้าเหมือนตอนอยู่บ้านได้ ถ้าเฮียเข้ามาเห็นกันสภาพเสื้อยืดคอย้วยกับกางเกงทรงคุณยายแบบที่มักจะใส่ประจำตอนนอนที่บ้านแบบนั้น ความหวานชื่นของคู่รักก็เป็นอันหมด
EPISODE 6ชายคาเดียวกัน 2หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวอย่างกับโกหก…ตอนนี้ฉันมีสามีเป็นตัวเป็นตน ทั้งยังย้ายมาอยู่บ้านหลังเดียวกันได้สัปดาห์เต็มแล้ว ถึงระหว่างเราจะไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่าการที่ฉันไปอ้อนจูบเขาก่อนนอนทุกคืน จนคนที่มีสีหน้าเบื่อโลกน่าจะเริ่มชินชา ซ้ำพักหลังจะไม่ขัดขืนแล้วด้วย ก็อย่างที่บอกแม้เขาจะไม่ได้ดูเต็มใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะไม่ยอมรับสถานะผัวเมียหรอกนอกเหนือจากนั้นก็ไร้ซึ่งความคืบหน้าใด ๆ จริง ๆ เราแทบจะไม่ได้คุยกันเพราะว่าช่วงนี้ฉันไฟกำลังมาเลยไม่มีเวลาจะไปพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา วันทั้งวันก็ได้แต่นั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก รัวนิ้วใส่แป้นพิมพ์อย่างเมามัน แทบจะไม่ได้ดูเวลาเลยด้วยซ้ำ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ถึงกับหอบเอาหมอนลงมานอนชั้นล่างแล้วด้วยจริง ๆ เรื่องผู้ชายก็สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคืออารมณ์ในการแต่งนิยายมันไม่ได้มีบ่อย ๆ นักหรอกที่หัวสมองจะลื่นปรื๊ด ๆ ราวกับตั้งค่าอัตโนมัติไว้ เพราะงั้นช่วงไหนที่หัวกำลังแล่นก็ต้องเลือกทำงานไว้ก่อนและการที่ฉันเอาแต่สนอกสนใจงานอย่างเดียวแบบนี้ก็ทำให้อีกคนท่าทางพออกพอใจที่ไม่มีคนไปวุ่นวายด้วย ไว้รอสมองตันเมื่อไรก่อนเถอะ จ
EPISODE 7ไม่อยากให้ความหวัง หลายชั่วโมงต่อมา ก็รู้หรอกว่าที่เขายอมพาออกไปข้างนอกเป็นเพราะไม่อยากให้ฉันนั่งสิงอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุ๊กจนเกือบขิตเหมือนเมื่อวันก่อน แต่การแสดงออกของเจ้าตัวก็ยังคงเดิม ไม่ได้ว่าจะสนใจอะไรกันมาก ถ้าให้เดาเอาเองการที่เฮียทำดีด้วยก็อาจเป็นเพราะว่าหนึ่งคุณป้าชิดจันทร์อาจจะกำชับลูกชายเขามา ไม่ก็สองเฮียมันอาจจะทนเห็นคนเป็นลมคาบ้านไม่ได้ก็เท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอื่นใดแอบแฝงเป็นแน่ เพราะสายตาที่มองกันก็ยังไร้ซึ่งอารมณ์อยู่ดี แต่ก็อย่างที่บอกแล้วบอกอีกว่าถึงยังไงฉันก็ไม่แคร์ เรากลับมาถึงบ้านในตอนที่ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูบ้านหลังข้างกันเปิดออกพอดี กลุ่มผู้ชายหน้าตาดีมาก อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเราพากันเดินออกมาจากตัวบ้าน ขนาดฟ้าใกล้จะมืดแล้วคนพวกนั้นก็ยังดูเหมือนเปล่งแสงได้ในตัวเอง ทำเอาฉันอดที่จะแอบมองไม่ได้เลย และแน่นอนว่าพวกเขาก็คือเพื่อนของเฮียครามนั่นแหละ ที่เห็นว่าออกจากบ้านไปบ่อย ๆ แต่รถไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนก็คงจะไปหาเพื่อนที่ก็รวมกลุ่มกันอยู่ที่บ้านหลังติดกันนี้เอง
EPISODE 8ใจเต้นแรง วันต่อมา เพราะไม่อยากให้บรรยากาศในบ้านมันแย่ ฉันเลยตัดสินใจกลับมาทำตัวตามปกติ เฮียเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้ฉันเขวไปไม่น้อย แต่แทนที่จะตอกย้ำซ้ำเติมกัน ก็ยังดีที่มีความเห็นอกเห็นใจไม่พูดเรื่องเดิมออกมา เราสองคนกลับมาเป็นคู่ (พยายาม) รักเหมือนเดิม หรือก็อาจจะฉันแค่คนเดียว ตลอดทั้งคืนมาจนถึงเช้าวันนี้ฉันไม่ได้นอนเลยเพราะนั่งทำงานยิงยาวเหมือนเดิม พอตั้งท่าจะนอนก็กลายเป็นว่าฟ้าสางแล้ว แต่แทนที่จะง่วงตอนไหนก็นอนตอนนั้นเหมือนอย่างเก่า ฉันเกิดจะอยากทำอะไรแบบที่คนเป็นเมียเขาทำกันบ้าง สุดท้ายเลยนั่งดูยูทูบทำอาหารเอาไว้รอคนเป็นสามีตื่น ทั้งที่ก็ไม่เคยทำเลยมาตลอดชีวิตนั่นแหละ… ไม่เห็นจะมีอะไรยาก… ในที่สุดก็ได้เป็นข้าวหน้าไข่ข้นกุ้งออกมา หน้าตาดีไม่เลว แต่กินได้หรือเปล่าอีกเรื่องนึง… และตอนที่กำลังวางแตงกวากับมะเขือเทศเพื่อตกแต่งจานให้มันดูดีขึ้นมาหน่อย อีกคนก็เดินลงบันไดมา เฮียครามอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเหมือนทุกวัน เขาเป็นพวกตื่นเช้าโดยกำเนิดละมั้ง ต่างจากฉันที่เช้าแล้วมักจะย
EPISODE 9เรื่องบังเอิญ?ตอนดึก เฮียกลับไปแล้วหลังจากปล่อยให้ฉันยืนสตันอยู่คนเดียวนานสองนาน สุดท้ายก็ต้องไล่ความรู้สึกแปลกประหลาดนั่นออกไปจากหัวเพราะไม่งั้นคงจะไม่เป็นอันได้ทำอะไรกันพอดี ที่จริงแล้วฉันเป็นพวกเก็บตัว ไม่ชอบงานสังสรรค์ทุกรูปแบบ เป็นพวกมีโลกส่วนตัวสูงอะไรประมาณนั้น แต่ก็อย่างที่บอกว่าบางทีคนเก็บตัวก็ต้องออกมาเข้าสังคมบ้างแม้จะไม่อยากก็ตาม และสิ่งที่ทำให้ตัวเองไม่เซ็งตายไปซะก่อนเวลาออกมาเจอคนพวกนี้ ก็คือการปั๊มเหล้าเยอะ ๆ จะได้ไม่โฟกัสกับบรรยากาศบนโต๊ะที่ยังคงเต็มไปด้วยการอวดนั่นอวดนี่กันตามแบบฉบับลูกคนรวยที่ยังไม่โตเหมือนเคย ถึงจะฝืนทนไม่น้อยที่ต้องอยู่ในแก๊งคุณหนูแก๊งนี้ แต่ตัวฉันเองก็ร่วมวงกับคนอื่นมาได้ห้าปีเข้าไปแล้ว ยังแปลกใจอยู่ทุกวันว่าทำไมถึงไม่กระอักเลือดตายไปสักที ลิลลี่ เป็นลูกสาวห้างทองกว่าห้าสิบสาขาทั่วประเทศ จูดี้ เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีการต่างประเทศห้าสมัยซ้อน ยิหวา เป็นลูกสาวหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังของไทย ส่วนฉัน ยาหยีคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ
EPISODE 10หน้าที่สามีKRAM TALKS 03.00 น. “เอาไง?” “ไร?” “เมียมึงเนี่ย…” “…ให้อ้วกให้เสร็จก่อนแล้วกัน” “หึ… สมน้ำหน้า คราวนี้มึงจะได้รู้ซึ้งสักที เมื่อก่อนตอนที่พวกมึงปัดภาระไอ้พริกมาให้กูเช็ดอ้วกทุกวันตอนนั้น” “…” ผมพ่นลมหายใจหงุดหงิด โยนก้นบุหรี่ทิ้งไปเป็นตัวที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจนับได้ ไอ้รามกำลังหัวเราะกับตัวเองทำหน้ารำลึกความหลังครั้งที่เรายังเรียนมหา’ลัยกันอยู่ ที่มันต้องรับหน้าที่เก็บกวาดเช็ดอ้วกให้เพื่อนสนิทผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มอย่างไอ้พริก ที่ตอนนี้แม่งก็ลงเอยแต่งงานจนมีลูกมีเต้าด้วยกันไปแล้วด้วยอานิสงส์แห่งการเช็ดอ้วกนั่นแหละ และบ้านมันก็คือบ้านหลังติดกันกับผมนี่ไง… เราสามคนหมายถึง ผม ราม และก็เจิน กำลังยืนสูบบุหรี่ทอดสายตามองคนสองคนที่กำลังแข่งกันอาเจียนอยู่นอกรั้วบ้าน สภาพดูไม่ได้ทั้งคู่ คนหนึ่งก็ตัวโตอย่างกับควายแท้ ๆ เสือกแดกไม่บันยะบันยังแค่เพราะอยากจะให้อีกคนสนุก ส่วนอีกคนที่ว่านั่นตอนแรกก็เมาจะตายห่าดันจะมารับชงเพิ่มไม่หยุด บทสรุปก็คือเมาเละทั้งคู่
EPISODE 11อาย หลายวันต่อมา ฉันมันเป็นพวกหน้าด้านหน้าทนอย่างที่ได้เห็นมาตลอดนั่นแหละ… แต่ขนาดว่าหน้าด้านอ่อยขนาดเบอร์นั้นแล้ว อีกคนก็ยังปล่อยให้คนเป็นเมียค้างกลางอากาศชนิดที่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน ถึงเมื่อคืนก่อนเฮียจะยอมจูบกันมากกว่าทุกที แต่พอเริ่มจะเข้าด้ายเข้าเข็มเขากลับปล่อยฉันทิ้งไว้กลางทาง! ถึงจะหน้าหนาแค่ไหน แต่ไอ้ความรู้สึกมั่นอกมั่นใจในความสวยสะพรั่งของตัวเองมันชักจะลดลงทุกวัน และถึงตอนนี้ฉันก็เริ่มที่จะหงุดหงิดกับไอ้ท่าทีแบบนั้นของเฮียครามหนักขึ้นทุกทีแล้วด้วย และเพราะความอับอายที่เขาเทกันกลางอากาศแบบนั้น ทำให้หลายวันมานี้ฉันก็ไม่ได้ไปอ้อนจะเอาจูบอีกเลย แค่คิด… ก็อายจะตายอยู่แล้ว ไอ้ที่เคยมั่นใจว่าเขาคงจะหวั่นไหวอะไรได้บ้าง คนมันจูบกันทุกวัน แต่กลายเป็นว่า… สุดท้ายก็ไม่ยอมกินอยู่ดี! ฉันกำลังนั่งทำงานด้วยอารมณ์คุกรุ่นอยู่ที่ชั้นล่างเหมือนทุกวัน แต่ที่ต่างออกไปก็คือนิ้วมือทั้งสิบตอนนี้กำลังกระหน่ำกระแทกลงบนแป้นพิมพ์อย่างรุนแรงชนิดที่ว่าถ้าเกิดจะมีแป้นตัวอักษรตัวไหนกระเด็นหลุดออกมาคงไม่น่าแปลกใจ เหอะ!
EPISODE 50ตอนพิเศษ 3 วันต่อมา ผมตื่นแล้ว… เพราะเสียงรัวกดกริ่งดังไม่หยุดที่หน้าบ้านนั่น ให้เดาก็คงเป็นไอ้พริกกับไอ้รามนั่นแหละ แต่ต่อให้เสียงกริ่งจะดังแค่ไหนก็ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยิน รู้อีกทีผมก็อุ้มหลานพาดบ่า ถือตะกร้าขวดนมเดินลงมาข้างล่าง สภาพสะลึมสะลือขีดสุดเพราะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นัยน์ตาต้องหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์จ้าในช่วงสายของวัน “สภาพน่ารักแบบนี้กูต้องอัดรูปใส่กรอบแล้วมั้ง” เสียงร่าเริงของไอ้ห่ารามดังขึ้น พร้อมกันมันก็รีบยกโทรศัพท์รัวถ่ายรูปยกใหญ่ “ยิ้มเป็นไงบ้าง?” พอประตูเปิด คนเป็นแม่รีบรับลูกต่อไป ท่าทางเป็นห่วง ผมส่งต่อตะกร้านมให้ไอ้ราม ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ขี้ทั้งคืน มึงรีบพาไปหาหมอเลย” “โถ…” “แค่นี้นะ กูจะไปนอน” “ตอนเย็นมาแดกข้าวด้วย” เสียงไอ้รามยังคงดังต่อ ผมไม่ได้สนใจเพียงแค่หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน โบกมือให้มันนิดหน่อยเท่านั้น พอขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่าหยีเหมือนจะเพิ่งตื่น หัวผงกขึ้นมองเล็กน้อย นัยน์ตาใสปรือมองก่อนจะตบที่นอน
EPISODE 49ตอนพิเศษ 2 หลายชั่วโมงต่อมา “เฮียชงนมเสร็จรึยัง?” “แป๊บ” “ยิ้มร้องไม่หยุดเลยทำไงดี?” “เดี๋ยวเฮียอุ้มเอง หยีไปอาบน้ำได้แล้ว” “ไม่เอาอะ” ผมเดินกลับมาหาคนที่กำลังยืนอุ้มหนูยิ้มพาดบ่า เสียงร้องไห้โยเยดังมาได้ร่วมชั่วโมงแล้วแบบไม่มีพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ้มถึงได้ร้องไม่หยุดแบบนี้ แต่จะให้โทรไปบอกให้พริกก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวแม่งไม่เป็นอันทำห่าอะไรกันพอดี หยีไม่ยอมให้เอายิ้มมา กลับเดินหนีไปอีกทาง วางร่างเล็กของหลานไว้บนเตียงก่อนจะป้อนนมเข้าปากเล็กนั่น และพอได้จับขวดนม นัยน์ตาใสแป๋วที่เมื่อครู่มีน้ำตาคลอก็ชะงักเงียบไป มืออ้วนป้อมจับขวดนมถือเอง พลิกตัวไปทางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ผมเม้มปากกลั้นยิ้ม ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้แอบเหนื่อยไม่น้อย ทั้งที่ปกติหนูยิ้มเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้อง แต่อาจจะเป็นเพราะห่างพ่อห่างแม่ทำให้เกิดอาการร้องไม่หยุดแบบนี้ ก็เด็กนั่นแหละ แถมเป็นหลานผมด้วย จะบอกว่ารักเหมือนลูกตัวเองก็คงไม่ผิดนัก
EPISODE 48ตอนพิเศษ 1 KRAM TALKS เวลาผ่านเลยไปก็หลายเดือน ทุกอย่างดูสงบสุขดี เว้นก็แต่… หยีไม่ยอมกินข้าวเลย เอาแต่ทำงาน ซ้ำยังไม่มีเวลาให้คนเป็นสามีแบบผมด้วย และใช่… มันน่าหงุดหงิด อยากจะจับมาฟัดสักทีสองที บรรยากาศในบ้านช่วงบ่ายอ่อน ๆ ที่แสนจะเงียบเชียบ มีเสียง ‘ต๊อกแต๊ก ๆ’ ดังอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ต่อให้ผมเดินผ่าน หรือเปิดประตูบ้านเข้ามา คนที่กำลังนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ใส่แว่นตาทรงโต ในรูจมูกข้างหนึ่งมียาดมเสียบเอาไว้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกันเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้หยีจริงจังกับการเขียนนิยายมากจนผมไม่อยากจะไปกวน แต่บางทีมันก็แอบอยากอยู่ด้วย อยากชวนไปข้างนอก ไม่ก็ชวนหาอะไรทำ… เราไม่ได้เข้านอนพร้อมกันมาร่วมเดือนแล้ว และเรื่องพวกนั้นก็แทบไม่ได้ทำกันเลย เพราะน้องมันเอาแต่ทำงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับเป็นตาย ใครแม่งจะไปกล้ากวน แต่เพราะระยะนี้เจ้าตัวออกจะอาการหนักเกินไปสักหน่อย ถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลาเหมือนตอนก่อนนู้นสมัยที่เราย้ายมาอยู่ด้วยกันแรก ๆ ผมเลยตั้งใจว่าอาจจะต้องบังคับให้เมียหยุดทำงาน
EPISODE 47ก้าวไปข้างหน้า หลายเดือนต่อมา “กรี๊ด!!!!!!” “อะไร…” “เฮีย! ตื่นมาดูนี่เร็ว!” “…” คนข้าง ๆ ยกหัวขึ้นมามองในตอนที่ฉันกำลังส่องหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู มือไม้สั่นหนักจนเฮียครามต้องดึงไปดูเอาเอง คิ้วหนาเลื่อนเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจจนฉันต้องดึงมันกลับมาดูอีกครั้ง ส่งเสียงวี้ดว้ายไปมาอย่างหยุดไม่อยู่ “เฮีย! นิยายของหยี… ได้ขึ้นหน้าหนึ่งขายดีแล้วนะ!!!” “อืม…” “เฮียอะ!! ไม่ดีใจหน่อยเหรอ?” “ดีใจดิ” “เฮียดูสิ ๆ ๆ หยีตื่นเต้นอะ!” “ใจเย็น” คนข้าง ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหัวเราะออกมาเบา ๆ ดึงเอาตัวฉันไปกอดจูบลงบนเรือนผมกันสองสามที ถึงจะไม่ได้แสดงอาการดีอกดีใจได้มากไปกว่านี้ แต่แค่นี้สำหรับคนแบบเฮียแล้วก็ถือว่าโอเค… และใช่… หลังจากที่ฉันตั้งอกตั้งใจเขียนนิยายต่อเนื่องกันอยู่หลายเดือนแบบที่เรียกได้ว่าข้าวปลาไม่สนใจจะกิน ตอนนี้ก็ราวกับว่าความพยายามนั้นสัมฤทธิ์ผลเข้าให้แล้ว การตั้งตารอให้นิยายที่ตัวเองเขียนขึ้นหน้าขายดีของ
EPISODE 46งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันยังคงนั่งนิ่ง พยายามเก็บอาการตระหนกตกใจเอาไว้ไม่ให้ผิดสังเกต คนข้าง ๆ กำลังทำเป็นส่งยิ้มให้คนอื่น ๆ แบบที่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเฮียจะฝืนใจตัวเองทำแบบนี้ได้ลง แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเขากำลังทำ “เฮียทำไรอะ?” พอเห็นว่าอีกสามคนไม่ได้มองอยู่ ฉันก็รีบกระซิบถามทันที เฮียครามไหวไหล่เล็กน้อยราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหยีไง” “ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย” “บอกแล้วไงว่าเป็นของขวัญ” “แต่…” “ไม่เป็นไร… เฮียตั้งใจจะช่วยเด็ก ๆ อยู่แล้ว” คนข้าง ๆ ยิ้มใจดี เลื่อนมือมากุมมือฉันไว้เมื่อเห็นว่าฉันผู้ซึ่งได้รับความช่วยเหลือแบบที่ว่านี้ไม่ได้ยินดีอะไรนัก ดูก็รู้ว่าเฮียคงอยากจะช่วยทำให้ฉันหายเป็นกังวลในเรื่องสังคมป่วย ๆ นี่ และใช่… ฉันไม่เห็นด้วยที่เฮียจะทำถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเขาพูดมางั้นว่าอยากช่วยน้อง ๆ ฉันจะไปทำอะไรได้ ก็แค่… ไม่คิดว่าเฮียจะเต็มใจมาจนถึงขั้นแต่งองค์ทรงเครื่องเบอร์นี้ “เอ… จริง ๆ ยิหวาคุ้นหน้าเฮียครามมากเลยนะคะ” เสียงคนตรงหน
EPISODE 45ครบรอบ หลายวันต่อมา ฉันกำลังแต่งตัวเตรียมไปงานเปิดตัวกระเป๋าอะไรสักอย่างนั่นของคุณส้มที่ลิลลี่พูดถึง ถึงใจจะไม่อยากไป แต่ด้วยความที่ไม่อยากจะเป็นคนเดียวที่ถูกนินทาก็เลยจำใจต้องไป เฮียครามเพิ่งกลับมาจากข้างนอก กำลังถอดเสื้อเชิ้ตโยนใส่ตะกร้า เท้าสะเอวมองมาเงียบ ๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้เฮียฟังอีก ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาไม่ชอบที่จะให้ฉันไปปั้นหน้าเข้าสังคมแบบนั้น แต่ถึงงั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แน่นอนว่าก็ไม่ยอมไปด้วยอยู่ดี “หยีน่าจะกลับดึก ๆ หน่อย”ฉันว่าพลางใส่ต่างหูที่กลั้นใจซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่บอกว่ากลั้นใจซื้อเพราะว่าระยะหลังมานี้ฉันไม่ได้มีเงินให้ใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน ถึงสถานการณ์ที่บ้านกำลังอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ฉันก็ไม่อยากจะไปรบกวนอะไรให้มากนัก อีกทั้งเฮียเองก็บังคับให้ใช้เงินเขา เพราะงั้นไอ้ของฟุ่มเฟือยนี่ก็คือเงินเก็บของฉันเองที่ได้จากการขายงานนั่นแหละ“สวยไหม?”หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็หันกลับไปหมุนตัวให้คนเป็นสามีดู เฮียที่ยังคงอยู่ในสภาวะหน้านิ่งชำเลืองข
EPISODE 44ความสุขของเมีย KRAM TALKS คนในอ้อมแขนนอนหลับไปแล้วชนิดที่ว่าต่างไปจากหลายวันก่อนหน้า ที่กว่าจะหลับได้ก็เล่นเอาผมกล่อมแทบตาย หยีคิดมากมาหลายวันเรื่องไอ้เครื่องรางบ้าบอคอแตกนั่น ปากก็บอกว่าไม่ได้เชื่อขนาดนั้นแต่เจ้าตัวก็เอาแต่เครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร เดี๋ยวก็ดู ๆ และเพราะรู้ว่าผมไม่เชื่อหลายวัน ที่ผ่านมาก็เลยไม่ได้มาพูดถึงให้ฟังอีก แต่เห็นน้องมันเครียดขนาดนั้น จะให้คนเป็นผัวอยู่เฉยได้ยังไง… ก็แหงอยู่แล้ว ไอ้อะไรที่ว่านั่นจะหายไปเองได้ยังไง… ผมเป็นคนเอาออกเอง… หลังจากที่หยีหลับไปแล้ว แบบที่ว่านอนน้ำลายยืด กรนเสียงเบา ๆ ผมก็เลื่อนตัวออกจากผ้าห่ม เดินไปยังไอ้ถุงสีแดงที่เห็นแล้วขัดหูขัดตามาหลายวัน เทเอาทรายที่บรรจุอยู่ในถุงออกใส่ฝ่ามือจำนวนหนึ่งก่อนจะทิ้งไปง่าย ๆ แล้วเก็บมันกลับเข้าที่เดิมโดยที่เจ้าของของมันไม่รู้ตัว ก็ปล่อยให้ไม่รู้ไปนั่นแหละดีแล้ว… แต่เห็นหยีเครียดแล้วผมก็เครียดไปด้วย เลยคิดว่าแอบจัดการไปเงียบ ๆ ดีกว่า และก็อย่างที่เห็น… ว่าพอสบายใจหยีก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม ผมอาบน้ำ
EPISODE 43เรื่องเหลือเชื่อ หลายวันต่อมา ถึงจะบอกว่าไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้ฉันชักจะเป็นกังวลหนักขึ้นทุกที เพราะอะไรที่อยู่ในถุงผ้าสีแดงนั่นดูเหมือนจะยังอยู่เต็มถุง ไม่ได้ลดขนาดลงเลยสักนิดตามที่แม่หมอบอก และใช่… ฉันเริ่มจะแอบกังวลขึ้นมานิด ๆ แล้วเหมือนกัน… ไม่ได้เชื่อขนาดนั้นเลยจริง ๆ “เป็นไร?” “เปล่า” “ทำหน้าเครียดขนาดนั้น ทะเลาะกับไอ้ครามเหรอ?” “เปล่าหรอกเจ๊” “แล้วเป็นอะไร?” “จำหมอดูคนนั้นที่หยีซื้อเครื่องรางกลับมาได้ไหม?” “…” “ตอนนี้อะไรที่ควรจะหายไปมันยังเต็มถุงอยู่เลย” “จริงเหรอ!!” แทนที่คนถามซึ่งเป็นอีเจ๊จะทำหน้าตกอกตกใจ แต่กลายเป็นว่าคนที่กำลังนอนเลื่อนโทรศัพท์เล่นอยู่ที่โซฟาผงกหัวขึ้นมามองแทน อ้ายรีบกระโดดลุกขึ้นเดินเข้ามาหา สีหน้าตระหนกตกใจ บ่งบอกได้ว่าเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้ระดับไหน ในขณะที่เจ๊พริกทำหน้าบอกบุญไม่รับกับสิ่งที่ได้ยิน เดินหมุนตัวไปเก็บของโดยไม่ใส่ใจจะถามต่อ “ก็ที่
EPISODE 42สายมู หลายวันต่อมา เรากลับมาจากทริปกระชับความสัมพันธ์อะไรที่ว่านั่นได้หลายวันแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และฉันก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองว่าเฮียเจินกำลังจะซื้อบ้านหลังฝั่งตรงกันข้าม เพราะถ้าอ้ายเรียนจบเมื่อไรคงจะได้แต่งงานกันทันที เจ๊พริกก็กลับมาเลี้ยงลูก กลับมาทำอาหารเลี้ยงทุกคนเหมือนเดิม พวกเฮียทั้งสี่กำลังลงขันทำธุรกิจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับแอปพลิเคชันออนไลน์ซึ่งฉันไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเป็นคนไม่สันทัดทางด้านนั้น เฮียยักษ์ยังคงแวะเวียนมาหาทุกวัน มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเหมือนทุกที และแน่นอนว่าตอนนี้ตัวฉันเองก็กลับมาทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเดิม เฮียครามดูเหมือนจะชินแล้วที่เห็นเมียตัวเองกำลังนั่งยัดยาดมเข้ารูจมูก รัวนิ้วใส่แป้นพิมพ์อย่างเมามันในช่วงเช้าของวัน แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่เฮียจะตื่น ฉันก็ทำอาหารรอไว้เรียบร้อย และใช่… กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาสายของวัน ยอดการดาวน์โหลดนิยายเรื่องใหม่ที่วางขายอยู่ที่หน้าเว็บฝากขายวรรณกรรมอิเล็กทรอนิกส์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในกราฟดาวน์โหลดมีแนวโน้มสูงขึ้