บทที่4.คิดหรือว่าจะยอมแพ้
“ป๋าขา…จันทร์เจ้าอยากขึ้นไปบนห้องแล้วค่ะ เราไปหาแม่กัน่เถอะค่ะ” เตชิลาเขย่าแขนปราโมทแรงๆ หลังจากวิ่งหนีอีธานมาได้ บิดาหลับสนิท จนเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้นเข้าถึงตัวเธอ เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้จนสุดฤทธิ์ ไม่อยากให้บิดาตกใจ
ปราโมทงัวเงียตื่นขึ้นมา ท่านขยับตัวลุกตามแรงดึงของบุตรสาว หญิงสาวสอดแขนโอบเอวบิดา ซุกหน้ากับแผ่นอกของท่าน ซ่อนหยดน้ำตาที่ไหลออกมากับเสื้อของพ่อ
“จันทร์เหนื่อยแล้วค่ะ เราขึ้นไปนอนเล่นกับแม่ดีกว่า เย็นๆ ค่อยลงมาหาอะไรทานก็ได้ค่ะ”
“เอางั้นหรือ ไปก็ไป” ปราโมทพยักหน้างึกงัก ท่านเดินตามแรงรั้งของบุตรสาว เตชิลาเหลือบมองไปกลางทะเล ตรงที่อีธานยืนอยู่ แม้จะเห็นแค่เงารางเลือน เตชิลาก็มั่นใจว่าชายแปลกหน้าคนนั้น มองตามเธอกับบิดาไปจนลับตา
“ทำไมๆ” เสียงพึมพำดังขึ้นแผ่วๆ เขาเจ็บใจแทบกระอัก ดวงตาคมดุมองเตชิลาไปจนกระทั่งหล่อนหายลับเข้าไปในบริเวณโรงแรม หล่อนซุกใบหน้ากับอกผัวแก่ตลอดเวลา และมันทำให้อีธานทนไม่ได้...เมื่อตัวเองกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืม
ชายหนุ่มเดินขึ้นจากน้ำช้าๆ เขาเร่งคิดหาวิธีเอาชนะหญิงสาวผู้นั้น งานนี้ต้องลงทุนทุ่มสุดตัว ถ้าไม่ได้หล่อนมานอนใต้ร่าง คร่ำครวญเรียกแต่ชื่อของเขา อีธานจะไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่คนที่แพ้ตั้งแต่ก้าวแรก
ในประวัติของเขา...ไม่มีคำว่าแพ้!!
อีธานเงยหน้าขึ้นรับน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวขนาดใหญ่ เขาหลับตาพริ้ม ในสมองผุดภาพจันทร์เจ้าขึ้นมา หล่อนยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล แถมยังกวักมือเรียก ท่าทางเชื้อเชิญยั่วเย้า อีธานถลาเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่คว้าไว้ได้...คือความวางเปล่า หล่อนหายวับไปกับสายลม ชายหนุ่มเดือดปุดๆ กัดกรามแน่นพร้อมทั้งตะโกนก้อง “โว้ยๆ...ทำไม!!” อีธานตกใจตัวเอง เขาหลงใหลหญิงผู้นั้นเพราะอะไร? ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเอง ผู้หญิงคนเดียวที่ไม่ได้มีอะไรมากกว่า...ความสวย
“อ๊าค!” เสียงแหบห้าวตะโกนออกมาสุดเสียง แผ่นหลังกว้างกระแทกกับพนัง ก่อนจะรูดตัวเองลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ยังคงไหลผ่านฝักบัวไม่หยุด อีธานเอื้อมมือปิดก๊อกน้ำจนน้ำหยุดไหล เขายกมือเสยเข้าไปในกลุ่มผมยุ่งเหยิง ปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดตา เมื่อกำลังใช้ความคิด ไม่มีภาพเงาของหญิงผู้นั้นตามมาหลอกหลอน
อีธานผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อคิดบางอย่างออก ชายหนุ่มเช็ดตัวลวกๆ รีบแต่งตัวและเดินออกมาจากห้องพักเพื่อมองหาลู่ทาง
สายตาคมดุกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดตากับใครบางคน ปราโมทนั่งจิบเบียร์หน้าเคาน์เตอร์บาร์ เขาจึงรีบเดินเข้าไปทรุดนั่งใกล้ๆ พลางสั่งเบียร์มานั่งจิบ และเหลือบมองปราโมบ่อยๆ เขาแค่นว่าคนข้างๆ ในใจ คนสูงวัย รูปร่างอวบอ้วน ไม่มีเสน่ห์ซักนิด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัย ผมสีดำแซมด้วยสีขาวเป็นหย่อมๆ เขายิ้มหยันมุมปาก ท่าทางชายแก่ผู้นี้จะมีฐานะพอสมควร แต่คงไม่เทียบเท่าเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่แบบเขาได้ ดูจากเครื่องประดับตามตัวของมัน น่าจะมีราคาค่างวดพอดู
“มาคนเดียวหรือครับ?” อีธานกล่าวทักทาย พลางยกแก้วเบียร์ขึ้นชูเพื่อนเปิดบทสนทนา
ปราโมทเหลือบมองหนุ่มหล่อที่เรียกเสียงกรี๊ดของผู้หญิงได้สนั่นที่สระน้ำเมื่อกลางวัน ท่านพยักหน้ารับคำ หมุนตัวมองไปที่ลานกว้าง และจิบเบียร์เย็นๆ กลั้วคอ อีธานหมุนเก้าอี้ตาม ท้าวสองแขนบนขอบโต๊ะ มองตามสายตาปราโมทไป
“เป็นผมจะไม่ลงมาข้างล่างนี่หรอก ถ้ามีสาวสวย แนบข้างแบบคุณ” ปราโมทเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะยิ้มกว้าง เมื่อพอจะเข้าใจความหมายที่ชายตรงหน้าพูดถึง มีคนเข้าใจท่านกับเตชิลาแบบผิดๆ เพิ่มอีกหนึ่งคน
“มันน่าเบื่อน่ะถ้าต้องมองซ้ำๆ แบบเดิมอยู่ทุกวัน ผมก็อยากจะเห็นของสวยๆ งามๆ แบบอื่นบ้างนี่” เสียงที่บ่งความอารมณ์ดี กับท่าทีสบายๆ ของปราโมท ทำให้อีธานกัดกรามกร้วมๆ รีบข่มความเดือดดาลแทบไม่ทัน
“คุณเบื่อเธอแล้วหรือไงครับ ทำไมถึงปล่อยเธอไว้คนเดียวล่ะ?” ปราโมทยิ้มกว้าง ไอ้หนุ่มนี้คิดไปไกลสุดกู่ ท่านนึกสนุกเมื่อได้หยอกเย้ากับหนุ่มๆ ที่มาสนใจบุตรสาวตัวเอง ทำไมปราโมทจะเดาไม่ออก ท่านรู้ว่าหนุ่มหน้าเข้มตรงหน้าสนใจเตชิลา แววตาของเขาขุ่นจนปิดไม่มิด
“เห็นทุกวัน บางวันก็อยากจะโยนทิ้ง เพราะดื้อเหลือเกิน” เสียงที่เอ่ยถึงเตชิลา กระแสเสียงเจือไปด้วยกระแสเอ็นดู แต่อีธานที่กำลังโมโหจนหูอื้อไม่ทันสังเกต
“คุณยกเธอให้ผมได้ไหมล่ะ ผมจะดูแลเธอเอง ถ้าคุณเบื่อเธอจริงๆ” อีธานเอ่ยปากขอหน้าด้านๆ เขายกแก้วเบียร์ชนแก้วเบียร์ที่ท่านถือไว้ในมือ
ปราโมทหมุนเก้าอี้กลับเข้าที่เดิม ท่านจ้องหน้าอีธานตรงๆ แววตารู้ทันทำให้อีธานรีบเสหลบตาพัลวัน
“เห็นจะไม่ได้หรอกครับ เธอคงไม่ทิ้งคนแก่ๆ อย่างผม แม้ว่าคุณจะเอาเงินมากองตรงหน้า เพราะว่าเราสองคนรักกันจริงๆ” ปราโมทเอ่ยย้ำๆ อีธานนั่งอึ้ง เขาหมุนเก้าอี้กลับไปหน้าเคาน์เตอร์เหมือนเดิม แสร้งสั่งเบียร์เพิ่มเพื่อหันเหความสนใจ ก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอักๆ
“ผมแสดงความยินดีด้วย คุณมีผู้หญิงรู้ใจที่สวยจนคนอื่นอิจฉา คุณอยู่กันมานานหรือยังครับ”
“นาน…นานมาก” เท่ากับอายุของเตชิลาเลย ปราโมทตอบในใจและอมยิ้มค้างอยู่บนริมฝีปาก
“น่าเสียดาย” อีธานพูดลอยๆ เขากระดกแก้วเบียร์ดื่มซ้ำ อีกครั้ง
อีธานไม่พูดอะไรหลังจากนั้นอีกเลย เขาตั้งหน้าตั้งตาซดเบียร์ประชดชีวิต เมื่อมันเจ็บจุกเสียดแปลบๆ ในอก เมื่อต้องยอมรับความจริง เขาแยกหล่อนกับชายคนนี้ไม่ได้เลย
คืนนั้นอีธานดื่มเบียร์ไปหลายแก้วจนมึน ปราโมทขอตัวกลับเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนดึกพอควร อีธานจึงกลับพร้อมกับศัตรูหัวใจคนสำคัญ ชายหนุ่มเดินเซไปเซมา ขณะเดินตามปราโมทไปช้าๆ เขาชะงักกึก เมื่อเห็นของเตชิลาแว๊บๆ ทางหางตา ผู้หญิงคนนั้นคงมาตามสามีแก่ของเธอ อีธานเอ่ยขอตัว เขาเดินตามหญิงสาวไป “ค่ำๆ มืดๆ ลงมาเดินกรุยกรายทำไม ไม่กลัวโดนปล้ำหรือไงหะแม่คุณ!!” ชายหนุ่มสบถอย่างเข้นเขี้ยว
“ปล้ำรึ…ก็ดี ลองซักที ดูซิจะลืมตาแก่นั่นได้ไหม” ความเมาบวกกับต้องการเอาชนะ ผลักดันให้อีธานทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ อำนาจฝ่ายต่ำเป็นแรงจูงใจ
อีธานเดินตามเตชิลาไปช้าๆ เขากวาดตามองหาสถานที่ๆ ลงมือ รีบสะบัดหน้าเบาๆ ไล่ความมึน และรีบเดินตามเตชิลาที่หายลับไปทางมุมตึกของโรงแรม กำลังจะก้าวเดินลงไปที่ชายหาดที่มืดสนิท เธอหมุนไปหมุนมามองหาบิดาที่อาจจะมานั่งเงียบๆ จิบเบียร์ตามความชอบ เตชิลาขยับแว่นสายตาเมื่อเศษทรายปลิวเข้ามาปะทะใบหน้าเต็มๆ ฝุ่นเม็ดเล็กๆ ลอดแว่นกระเด็นเข้านัยน์ตา ทำให้เคืองตาพิกล เธอถอดแว่นสายตาออกเพื่อเช็ดคราบฝุ่นที่เปรอะเลอะเทอะออกไป
แต่แล้ว...เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอถูกกระชากอย่างแรง จนแว่นตากระเด็นหลุดมือไป ถลาล้มลงบนพื้นทรายก่อนจะกลิ้งไปอยู่ใต้พุ่มไม้ข้างทาง โดยมีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนคร่อมทับ เตชิลาดิ้นแรงๆ ด้วยความตกใจ น้ำตาไหลเอ่อ กรีดร้องสุดเสียง “กรี๊ด ปล่อยนะ ปล่อยจันทร์เจ้า ปล่อย!!” อีธานปิดปากอิ่มที่ร่ำร้องให้คนช่วยด้วยริมฝีปากหนาหนักของตัวเอง เขาขบเม้มเรียวปากอิ่ม หยอกเย้าเรียวปากสีระเรื่อ ดูดซับความหวานอย่างตะกรุมตะกราม กลิ่นแอลกอฮอล์ระเหยออกมาทางลมหายใจของเขา ยามคนตัวใหญ่จุมพิตอย่างดุดัน น้ำตาเตชิลาไหลปรี่ เธอหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา เวลาผ่านไปไม่นาน แรงดิ้นรนค่อยๆ ช้าลง เมื่อเผลอตัวหลงวนอยู่ในความวาบหวามที่คนใจร้ายชักนำ ชายหนุ่มผละห่างไปอย่างแสนเสียดาย อีธานเปิดโอกาสให้เตชิลาได้สูดลมหายใจบ้าง ก่อนจะฉกวูบกลับลงมาที่เดิม ดูดซับความหวานฉ่ำที่ยังเหลืออยู่ปลายลิ้นอุ่นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปาก เลาะเล็มหยอกเย้าเรียวลิ้นเล็กๆ และดูดดื่มหความหวานละไมด้วยความชื่นชอบ ฝ่ามือใหญ่รวบสองมือน้อยขึ้นไปชูไว้เหนือศีรษะ จนหน้าอกอวบอัดแอ่นขึ้นชนกับแผ่นหนา“อย่าร้องนะคนสวย ถ้าเธอร้องผ
บทที่5.ความจริงที่น่าตกใจ อีธานเดินพล่านอยู่ในห้องตัวเอง เขาไม่เข้าใจและกำลังงง ผู้หญิงคนนั้ลื่นกว่าที่เขาคิดไว้ หล่อนยั่วเย้าให้เขาแทบคลั่ง แล้วจู่ๆ ก็สลัดเขาทิ้ง โผกลับไปหาผัวแก่ของหล่อนเหมือนเดิมเกิดอะไรขึ้น?อีธานเฝ้าถามตัวเอง เสน่ห์ของเขาใช้ไม่ได้ผลกับหล่อนงั้นเหรอ? ชายหนุ่มแย้งในใจ มันเป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะไม่รู้สึกรู้สา เขาสัมผัสได้ถึงความปรารถนาที่มีให้กัน แต่ทำไมล่ะ?ทำไมหล่อนถึงเลือกที่จะเดินจากไป แทนการสุขสมกับเขา ในช่วงเวลาที่เขาและเธอต้องการ“อะไรวะ…ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้!!” อีธานยกมือเสยผมตัวเอง เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากว้าง ภายในห้องสวีท สีหน้าเคร่งเครียด ริ้วรอยความงงยังไม่เลือนไปจากวงหน้า ชายหนุ่มเงยหน้ามองโคมไฟระย้า ที่ห้อยอยู่กลางห้อง เขาพยายามคิดหาสาเหตุ เขาพลาดตรงไหน? “เกิดอะไรขึ้นจันทร์เจ้าทำไมคุณถึงทำแบบนี้&rd
บทที่6.ตามอย่างไม่ย่อท้อ อีธาน มาส์วาเลสเดินเข้ามาในสำนักงาน Thai port มีบอดี้การ์ดตามมาด้านหลังจำนวนหนึ่ง ทีมรักษาความปลอดภัยให้ชายหนุ่ม คัดมาอย่างดี แต่ละคนดีกรีไม่ใช่ย่อยเลยเอียนยิ้มร่า เดินเข้ามาต้อนรับพร้อมกับรีบเดินนำทางอีธาน ตรงไปยังห้องประชุมที่เตรียมไว้รอ ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องประชุม เขารับแฟ้มสีดำหนาพอสมควรจากเอียนมาเริ่มต้นอ่านจริงๆ จังๆท่าทางเคร่งเครียดเหมือนกำลังจะตัดสินใจร่วมโครงการหลายพันล้าน เอียนเฝ้ามองเจ้านาย ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ รายงานฉบับนี้เอียนได้รับมาตั้งแต่เมื่อคืน เขาอ่านผ่านๆ ตาไปบ้างแล้ว รายละเอียดเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาหล่อนจัดว่าสวยพอตัว เขาไม่คุ้นหน้าหล่อนเลย ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ใช่คนดัง หรือดารา นางแบบ จนเอียนนึกแปลกใจ ผู้ชายแบบอีธานให้ความสนใจหญิงผู้นั้นเป็นพิเศษ จนถึงกับเรียกประชุมด่วน!!
บทที่7.Thai portที่ทำงานใหม่ “เย้ๆ” เตชิลารับเอกสารด่วนพิเศษจากไปรษณีย์ตอนสายๆ เธอกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ หลังเปิดอ่านรายละเอียดในซองจดหมายนั่น เรื่องเรียกตัวเธอไปสัมภาษณ์งาน “ป๋า…Thai portเรียกจันทร์เจ้าไปสัมภาษณ์ค่ะ Thai portเชียวนะนี่ไงคะ ป๋าดูซิ” เตชิลาวิ่งหน้าตั้งเข้ามาภายในบ้านเธอชูซองจดหมายให้บิดาดู “ต้องฉลองล่วงหน้าไหมนี่ ในที่สุดก็มีคนเห็นความสามารถของลูก” “รอให้ผ่านก่อนค่ะ แค่สัมภาษณ์เอง ถ้าไม่ได้เดี๋ยวป๋าเสียสตางค์ฟรีค่า” เตชิลากล่าวเสียงอุบอิบเธอไม่ค่อยมั่นใจ เพราะ Thai port เป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำ มีคนสนใจยื่นใบสมัครเป็นร้อยช่างภาพกระจอกๆ แบบเธอคงต้องฝ่าด่านหินทีเดียว
“แต่ปุ้ย…เห็นนะท่านประธานโกรธคุณอเล็กมาก เมื่อคุณอเล็กแสดงความสนใจจันทร์เจ้า และที่สำคัญไม่เคยเห็นท่านประธานเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ” “พี่ก็ไม่รู้ซิ ท่านประธานดูยากจะตาย ใครๆ ถึงตั้งสมญานามท่านไง ท่านเป็นเจ้าป่าที่ดุร้าย นิ่งเงียบรอเวลาตะปบเหยื่ออย่างใจเย็น ไปๆ ไปนอน เช้าจะได้เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน แล้วก็ไปสวดมนต์อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองจันทร์เจ้าให้ปลอดภัยจากท่านประธานด้วยก็แล้วกัน ยังไงในคืนนี้พวกเราคงทำอะไรไม่ได้”เสนาตัดสินใจไล่ทีมงานทุกคนให้ไปพักผ่อน และเตรียมตัวกลับในวันรุ่งขึ้น เขาแอบส่งใจช่วยให้เตชิลาให้รอดพ้นจากอีธาน เสนาสัญญาว่า ถ้าเธอปลอดภัยรอดพ้นอีธานในคืนนี้ เขาจะแอบกระซิบบอกความจริงเตชิลาด้วยตัวเอง เธอควรมีโอกาสได้ระวังตัว “ขอให้รอดนะจันทร์เจ้า พี่จะบอกความจริงเราถ้าสามารถผ่านคืนนี้ไปได้” เสนารำพึงบอกกับตัวเอง อีธานเดินตามไปส่
บทที่8.ผู้ช่วยเจ้าเสน่ห์ อีธาน มาส์ อีธานนั่งรอสมชายอยู่ในห้องทำงานชั้นบนของตึก Thai port ส่วนนี้ถูกจัดเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา มีไม่กี่คนที่สามารถขึ้นมาได้ และทุกคนที่ขึ้นไป เป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งนั้นชายหนุ่มนั่งเหม่อ เขามองท้องฟ้าเบื้องหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ผ่านกระจกใสอย่างหนา สายตาเหม่อลอย คิดถึงแต่วงหน้าหวานๆ ของเตชิลา รอยยิ้มแสดงความดีใจที่ปิดไม่มิด เขาอยากเก็บรอยยิ้มแบบนี้ไว้เพียงคนเดียว อยากเห็นเธอทุกอิริยาบถ จนต้องมานั่งคิดหาวิธี ที่จะเข้าไปใกล้ชิดกับเตชิลาโดยที่เธอไม่ทันไหวตัว แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว ช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวๆ ของเขา ช่วงนี้หากเขาไปปรากฏตัวที่นี่ แต่ในอีกหน้าที่หนึ่งก็ย่อมทำได้ แต่ต้องปิดเป็นความลับ หากเตชิลารู้ เธอคงไม่ยินดีนัก ที่เขาจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆการถ่ายรูปก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อีธานชอบ เวลาว่างๆ เขามักจะฝึกปรือฝีมือถ่า
บทที่9.ความรู้สึกแปลกๆ ยามสบตากัน เตชิลามาเริ่มงานวันแรกด้วยความกระฉับกระแฉง เธอสะพายกระเป๋ากล้องคู่ใจไว้บนบ่า และรีบเดินเข้ามาในตัวอาคาร เมื่อใกล้เวลาทำงาน ประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง หลังคนสุดท้ายเดินเข้าไป “รอด้วยค่ะ รอจันทร์เจ้าด้วย” เตชิลาส่งเสียงบอก เธอรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในลิฟท์ และมีคนใจดีกดประตูลิฟท์ค้างเอาไว้เพื่อรอเธอ ผู้ชายตัวสูงหน้าเครารกๆ กับแว่นกันแดดอันโตสีดำสนิท ปิดหน้าไว้เกือบครึ่ง กับสไตล์การแต่งกายแบบเซอร์ๆ ค่อนไปทางสกปรก และเป็นคนเดียวที่อยู่ภายในลิฟท์กับเตชิลา “ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณ กดนิ้วที่ปุ่มบังคับ หมายเลขชั้นที่ตัวเองต้องไป “คุณมาเริ่มงานวันแรกเหรอครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณที่นี่มาก่อนเลย” อีธานท
บทที่10.ความใกล้ชิดที่กลายเป็นความผูกพัน วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว สำหรับการเริ่มทำงานที่ใหม่ที่อุ่นจนเกือบร้อน เพราะความใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อมาดเซอร์ที่ขยันโปรยเสน่ห์ จนเธอเองก็เริ่มหวั่นไหว ทุกเวลาที่ใกล้ชิดกัน อีธานยังคงความเป็นสุภาพบุรุษไว้ตลอด แม้บางครั้งจะตอดนิด ตอดหน่อยตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ไม่เคยเกินเลยมาไปกว่าคำพูดที่หยอดคำหวานๆ จนเตชิลาหลงเคลิบเคลิ้ม หญิงสาวค่อนข้างมีภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ชายหล่อหน้าตาดี แต่กับอีธาน ทุกครั้งที่แววตาสีฟ้าใสเป็นประกายจ้องมอง เตชิลารู้สึกว่าในอกข้างซ้ายหัวใจมันฟองฟูจนคับอก นับวันเธอยิ่งเก็บอาการอย่างยากลำบาก เพราะเวลาเกือบสิบชั่วโมงที่อยู่ใกล้กัน ไม่เว้นแม้แต่มื้อกลางวัน อีธานมักจะพาเธอไปทานอาหารในร้านที่มีบรรยากาศโรแมนติก ที่สำคัญมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันโตที่เป็นยานพาหนะ มันทำให้เธอมีโอกาสสัมผัสร่างกายเขาแบบแนบสนิท แทบทุกส่วน เมื่ออยู่ใกล้เขาหัวใจเธอเต้นแรงเหมือนวิ่งมาราธอนมาเป็นระยะทางยาวไกล&nbs
(ขวางไว้!... ห้ามจันทร์เจ้าไปไหน จนกว่าผมจะไปถึง ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะทำยังไงที่จะรั้งเธอไว้ อุบัติเหตุไง… มันจะรั้งจันทร์เจ้าไว้ได้จนกว่าผมจะไปถึง) อีธานสั่งเสียงเฉียบขาด เมื่อเรื่องที่หวั่นใจมันเป็นเรื่องจริง เตชิลาไม่ได้ไร้ญาติขาดมิตร เธอมีบุพการีที่รักปานดวงใจ ถึงเธอจะไปซ่อนตัว แต่เธอก็ยังมีผู้ปกครอง (ครับ…) หัวหน้าทีมค้นหารับคำ เขาส่งภาษามือให้บรรดาลูกน้องนับสิบ เริ่มกระจายโอบล้อมบ้านเช่านี้ไว้เงียบๆ “ห้ามให้คุณเตชิลาออกเดินทางจนกว่าท่านประธานจะมาถึง ทุกวิธีที่พวกคุณคิดวาทำได้ รั้งเธอไว้ให้ได้ ถ้ายังไม่อยากตกงานทุกคน” หัวหน้าทีมกำชับลูกน้องทุกคนด้วยเสียงเคร่งเครียด ทีมงานทุกคนรับคำสั่งเร่งรีบกระจายโอบล้อมรีสอร์ตโทรมๆ เอาไว้ และเฝ้าดูอย่างไม่ให้คลาดสายตา “ป๋า…” เตชิลาโผเข้าไปกอดบิดา เมื่อรถยนต์จอดสนิท เธอรีบลงมาจากห้องพักทันที ที่ผู้เป็นพอโทร.เข้าโทรศัพท์ส
บทที่20.ตามหาจนเจอกับการจากไปอย่างไม่เหลียวมองของเตชิลาเตชิลาโทรศัพท์หาบิดาอีกครั้ง หลังจากซ่อนตัวอยู่จนครบหนึ่งอาทิตย์ เธอเข้มแข็งขึ้น และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความหลอกลวงโดยไม่เกรงกลัว (ป๋าขาจันทร์เจ้าอยากกลับบ้านแล้ว จันทร์เจ้าอยากกอดป๋ากับแม่ ป๋ามารับจันทร์เจ้าหน่อยได้ไหมคะ จันทร์เจ้าจะรออยู่ที่นี่ ป๋ามาถึงค่อยโทร.หาจันทร์เจ้านะคะ จันทร์เจ้าจะรอ)เสียงที่เคยรื่นเริงแผ่วเครือ ปราโมทใจหายวูบ เขาเร่งเดินทางแข่งกับเวลาเพื่อบุตรสาวทีเดียว (พ่อกับแม่กำลังเป็นห่วงลูกพอดี ถ้าหนูไม่ติดต่อมาในวันนี้ พ่อกับแม่ก็กำลังจะเดินทางไปภูเก็ตเพื่อตามหาหนูอยู่เหมือนกัน พ่อกับแม่ก็อยากกอดจันทร์เจ้านะลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนูก็ยังคงเป็นลูกสาวคนสวยของพ่อเหมือนเดิม เราสามคนเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อจะคอยช่วยเป็นกำลังใจให้หนูนะ)&nb
บทที่19.เมียผมหายใครช่วยตามหาหน่อยเพราะกลัวบิดา มารดาจะเป็นห่วง เตชิลาจึงจำใจติดต่อหาท่าน เพื่อให้บุพการีสบายใจ(ป๋าขา จันทร์เจ้าขอเที่ยวต่อที่ภูเก็ตอีกสองสามวันนะคะ พอเที่ยวทั่วแล้วจันทร์เจ้าถึงจะกลับ ป๋าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ) เธอฝืนทำเสียงร่าเริง แสร้งทำเป็นเพราะอยากเที่ยวเต็มแก่เลยยังไม่ยอมกลับ(เกิดอะไรขึ้นจันทร์เจ้า? หนูปิดบังอะไรพ่ออยู่ใช่ไหม เสียงหนูเหมือนกำลังร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น...ตอนนี้จันทร์เจ้าอยู่ที่ไหน ป๋าจะไปรับ ไม่ต้องกลัวว่าใครทั้งนั้น) ปราโมทถามเสียงเครียด เสียงผิดปกตินิดเดียวเขาก็จับได้ เวลานี้บุตรสาวกำลังไม่สบายใจอย่างแรง(ปะ เปล่า...เปล่าค่ะไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ จันทร์เจ้ายังอยากจะเล่นน้ำทะเลต่อแค่นั้นเอง) เตชิลารีบแก้ตัว มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ พยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น(ตอนนี้จันทร์เจ้าคงยังไม่พร้อม พ่อจะรอวันที่ลูกพร้อมกว่านี้ เรื่องบางเรื่องหนูต้องให้พ่อกับแม่ช่วย มันอาจจะร้ายแรงในความรู้สึกของลูก แต่พ่อกับแม่ก็ยังเป็นเหม
บทที่18.สิงโตคำราม อีธานกลับมาตั้งหลักที่Thai port สีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเดินทางมาถึงตึกเขาก็เรียกประชุมผู้บริหารทั้งหมดทันที ผู้บริหารระดับสูงพากันแปลกใจ เพราะอีธานอยู่ในช่วงลาพักร้อน แต่วันนี้เขากลับมาปรากฏตัวที่ตึกสำนักงานใหญ่ พร้อมทั้งเรียกประชุมผู้บริหารทุกคนพร้อมกัน เรื่องที่จะประชุมนั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขั้นคอขาดบาดตายเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นคนที่ทรงอำนาจแบบอีธานคงไม่ร้อนใจ ถึงขนาดเรียกทุกฝ่ายเข้าประชุมพร้อมกันแบบนี้อุณหภูมิในห้องประชุมเย็นเฉียบ อีธานนั่งหมุนปากกาในมือเล่น เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง เอียนเดินเข้ามาทีหลังคนอื่น เพราะติดงานสำคัญ เขาเริ่มทำงานตามสั่งตั้งแต่เมื่อวันก่อน เอกสารหลายแผ่นกับภาพถ่ายหลายใบที่เอียนนำติดเข้ามาด้วย ส่งผลให้ทุกคนมองเอียนด้วยความสนใจ ทุกคนในที่นี้ล้วนรู้ดีว่าเอียนเป็นเหมือนมือขวาของอีธาน ทุกครั้งที่มีเรื่องสำคัญเอียนมักจะเป็นคนแรกที่รู้เรื่องก่อน สมชายกระแซะเข้ามาใกล้ๆ และกร
บทที่17.หนี เตชิลากระโจนขึ้นรถโดยสารคันแรกที่จอดรับเธอ สีหน้าซีดเซียวดวงตาแดงฉาน เธอร้องไห้ให้กับความหลอกลวง หลังจากก้าวออกไปจากที่นี่ เตชิลาสัญญา เธอจะจำสิ่งที่อีธานทำกับเธอ...จนวันตาย รถโดยสารประจำทางเคลื่อนตัวออกไปจากจุดหน้าโรงแรม เมื่อผู้โดยสารขึ้นรถจนเต็ม เตชิลานั่งก้ทมหน้า กำมือแน่น หญิงสาวนั่งเหม่อ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน ครั้งจะกลับบ้าน ก็เกรงว่าความทุกข์ที่แบกไว้ จะทำให้บุพการีพลอยร้อนใจไปด้วย“ค่าโดยสารด้วยครับ ลงไหนล่ะ?” หญิงสาวส่ายหน้า เธอไม่รู้จุดหมายปลายทางเหมือนกัน“เป็นใบ้หรือไงถามก็ไม่พูด เสียดายความสวยชะมัด!!”กระเป๋ารถบ่นเบาๆ“ไม่รู้จะไปไหน ขอไปสุดทางเลยแล้วกัน”“ได้ครับเพ่ สุดทางยี่สิบห้าบาทคร๊าฟ” เตชิลาหยิบสตางค์จ่ายค่าโดยสาร เธอนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้สายลมพัดกระทบใบหน้า มองสองข้างทางอย่างเลื่อนลอย จิตใจลอยเคว้งคว้าง“อยากลงต
“อ๊ะ…อ๊า…” เอวสอบขยับสอดใส่ จังหวะเร็วรัวเพิ่มความเร้าอารมณ์ จนสุดท้ายก็จบลงที่ปลายทาง...พร้อมกับโปรยเชื้อพันธุ์อุ่นซ่านสาดใส่แอ่งสวาท เตชิลาเอื้อมมือคว้าสายรุ้งทอดยาวไว้ในกำมือ เธอกรีดร้องสุดเสียง ร่างอ่อนบางทรุดฮวบลงบนเตียง หลังจากเกร็งตัวรับแรงกระแทกของอีธานครั้งสุดท้าย “ไปอาบน้ำกันดีกว่าจันทร์เจ้ายังไม่ได้อาบน้ำเลย ตั้งแต่เมื่อคืน” อีธานอุ้มเตชิลาขึ้นสู่วงแขน โดยที่ยังไม่ถอดถอนตัวตนออกไป“อืมมม อูยยย อ๊า…” เตชิลาครางเสียงอ่อนระโหย เมื่อเขาขยับเดิน ส่วนที่เชื่อมต่อกันก็เสียดสีจนเสียวสยิว อีธานเริ่มขยับสะโพกช้าๆ จนเตชิลาต้องโอบเรียวขากับเอวหนาให้แน่นขึ้น ชายหนุ่มกุมบั้นท้ายงอนงาม ดันลำตัวเตชิลาชิดพนังห้องน้ำ มือใหญ่เอื้อมเปิดน้ำให้ไหลลงมาเพื่อประหยัดเวลาในการอาบน้ำให้สั้นลง สายน้ำที่ไหลไปตามร่างกาย จากลำตัวตกลงบนยอดอกเต่งตึง อีธานขยับกายตอกตรึงไม่ลดละ เขากระแทกบั้นเอวเข้าใส่รัวเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องห้องน้ำกว้าง แข่งกับเสียงครางกระเส่าไม่ขาดของทั้ง
บทที่16.ความแตก อีธานบิดกายไล่ความเมื่อยล้าเขาดึงแขนออกมาจากใต้ศีรษะของเตชิลา เธอนอนหนุนแขนของเขาแทนหมอนมาทั้งคืน ชายหนุ่มค่อยๆ เบี่ยงตัวลงจากที่นอน ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาสุขจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ เขายังไม่อยากให้เตชิลาตื่นขึ้นมา เพราะเธอรับศึกหนักมาทั้งคืนจนเกือบรุ่งเช้า กว่าจะได้นอนหลับเตชิลาต้องแบกรับความทรมานแสนหวานที่เขามอบให้ ชายหนุ่มยืนมองเธอด้วยแววตาหวานเชื่อม ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวผู้นี้จะมอบความสุขให้เขาอย่างล้นเหลือ ความรู้สึกอิ่มเอมหลังครอบครองเรือนกายงดงามบริสุทธิ์ คือความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของเธอเป็นคนแรก ความหวงแหนเกิดขึ้นภายในใจ เขาโน้มตัวลงมองใกล้ๆ เมื่อสะดุดตากับริ้วรอยบางอย่าง ปลายนิ้วแข็งแรงไล้ไปตามผิวกายที่ที่มีรอยช้ำ อีธานด่าตัวเองในใจ เขาทำรุนแรงกับเธอเช่นนี้ได้ยังไง เผลอตัวขบย้ำจนเป็นริ้วรอยแบบนี้ อีธานรีบชักมือที่ลูบไล้ผิวเนื้อเนียนละเอียดของเตชิลา อารมณ์สงบนิ
อีธานดื่มชิมความหวานล้ำของอกอิ่มจนสมใจ เขาลากปลายลิ้นสากหนาไปตามลำตัวบาง ทิ้งรอยรักไว้เป็นทาง ตามแต่อารมณ์นำพา ก่อนจะหยุดนิ่งเหนือเนินเนื้ออวบอัดที่ยังคงมีซับในปิดบังความงดงามเอาไว้อยู่ ปลายนิ้วแข็งแรงสอดเข้าไปที่ใต้ซับในดึงรั้งลงมาตามเรียวขางามที่ไร้เรี่ยวแรง นับเป็นครั้งที่สามในรอบวันที่อีธานตกตะลึง ใจกลางร่างสาวงดงามเหนือสิ่งใด มีกลุ่มไหมบางเบาสีดำสนิทปกปิดความอวบอัด กับเนินเนื้ออวบอูมที่เบียดชิด ยั่วให้เลือดในกายของชายหนุ่มเต้นพล่าน ความกระสันซ่านเกินควบคุม “อย่า…ได้โปรดจันทร์เจ้ากลัว” เสียงหวานวิงวอนเบาๆ แต่ตอนนี้อีธานหูดับ เขาไม่ได้ยินเสียงอื่นใด ยังคงมองความสวยงามแรกแย้มของเนินเนื้อด้วยสายตาหิวกระหาย และลดตัวลงดอมดมอย่างไม่รั้งรอ ปลายนิ้วแข็งแรงกรีดผ่านรอยแยกของร่างกายสาว จนพบกับน้ำค้างฉ่ำหวานที่ไหลออกมาจนชุ่มชื้น ค่อยขยับปลายนิ้วอย่างช้าๆ เตชิลาครางหนักขึ้น เธอเสียดเสียวเกินจะทน ตุ่มไตกลางร่างเป็นของเล่นชิ้นใหม่ที่อีธานค้นพบ เขาละเลงเล่นอย่างสนุกสนาน จนเตชิลาแอ่นเกร็งไปทั้งเรือนกาย มือเรียวบางขย
บทที่15.ค่ำคืนแสนหวานกับคนรู้ใจ ภาพที่ปรากฏบนกระจกเงาหลังจากเตชิลาบรรจงแต่งหน้าสุดฝีมือ งานเลี้ยงที่อเล็กเสนอ อาหารมื้อค่ำสุดหรูชุดเดรสสั้นเสมอเข่าสีโอรสแกมทอง ขับให้ผิวขาวผ่องของเตชิลานวลผ่องมากขึ้น ตัวผ้าพลิ้วๆ แนบเรือนร่าง เผยให้เห็นสัดส่วนยวนตา เธอปล่อยผมตรงยาวเหยียดลงกลางหลังโดยไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม แค่หวีให้ผมเรียบเป็นมันระยับมากขึ้น ดวงหน้าหวานเนียนละเอียด แต่งแต้มเปลือกตาด้วยสีส้มทอง มองดูหวานซึ้ง ยิ่งขึ้นทาลิปสติกสีส้มอมชมพูด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เรียวปากอิ่มเย้ายวนน่ามอง เตชิลาอมยิ้มเอียงคอมองตัวเองผ่านกระจกเงา ด้วยความพอใจ เธอกำลังจะออกไปนอกห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ตืดดดดดดดด... (จันทร์เจ้าเสร็จยัง เดี๋ยวพี่ปุ้ยแวะไปรับ บอกตรงๆ เลยนะกำลังตื่นเต้นที่จะได้ดินเนอร์กับคุณอเล็กนะ เลยต้องหาตัวช่วย)(จันทร์