ร่างเล็กถูกผลุกเข้าไปในรถก่อนที่จะตามมาด้วยร่างกำยำ เขาปิดประตูลงแล้วปลดหัวเข็มขัดตัวเองออก รถคันนี้ด้านในกว้างมากและเบาะก็สามารถปรับเป็นเตียงได้ด้วย
ชายหนุ่มปรับเบาะให้กลายเป็นเตียงในพริบตา ก่อนที่เขาจะแทรกตัวเข้าไปขึ้นคร่อมคนตัวเล็กที่นอนอยู่ "อือ...ปล่อยฉัน!! อยากมากก็ไปซื้อกิน ไม่ได้ขายโว้ย!!" เธอสบถอย่างรุนแรงอีกทั้งยังพยายามผลักคนตัวใหญ่ให้ออกไปจากตัวเธอ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถลำลึกเธอจึงมีสติขึ้นมาอีกครั้ง จะเสียซิงให้คนแปลกหน้าบนรถไม่ได้ "อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน่า มีแต่คนอยากเอากับฉันทั้งนั้น แต่ฉันไม่เอา ฉันเลือกเธอ เธอควรจะดีใจนะพิงค์!" "ก็ไปเอาคนที่อยากได้สิ ฉันไม่ได้อยากได้!" เธอพยายามดิ้นอย่างรุนแรงจนร่างใหญ่ทนไม่ไหว เขาหยิบเข็มขัดที่เพิ่งจะถอดออกไป พันธนาการเข้าที่มือของเธอพร้อมกับรวบแขนของเธอขึ้นไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของเขา "แต่ฉันอยากได้เธอพิงค์!" ใบหน้าคมคายกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ ก่อนจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอมจาง ๆ จากคนใต้ร่าง "อื้ออ....." ไม่ว่าเธอจะพยายามดิ้นมากเท่าไรก็ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งหมดแรงมากเท่านั้น "อย่าพยายามเลยพิงค์ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางหนีฉันพ้น!" "ไอ้สารเลว!" "ฮึ!! งั้นก็จงดีใจกับการที่จะได้คนสารเลวอย่างฉันเป็นผัว!" "ฮึกก.....ม่ายยกรี๊ดด" มือเล็กจิกเล็บลงบนต้นขาแกร่งอย่างแรง เมื่อถูกบางอย่างรุกล้ำเข้าไปในร่องสวาทของเธอ "นะ....นี่เธอ...." ชายหนุ่มปรายตาก้มมองที่จุดเชื่อมต่อระหว่างเธอและเขา มันมีเลือดไหลออกมาเปรอะเปื้อนลำท่อนใหญ่ที่เพิ่งจะใส่ไปได้ครึ่งเดียว "ฉันไม่คิดว่าเธอยังบริสุทธิ์" "ฮึก....อะ...เอามันออกไป" น้ำตาของเธอไหลพรากอาบแก้มนวล ชายหนุ่มที่ได้เห็นดังนั้นก็ดึงท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองออก แล้วรูดถุงยางทิ้งลงข้างใต้เบาะรถ "ไม่ต้องเกร็งนะ เอาแบบนี้เธอจะเจ็บน้อยกว่า" กึด~ จากนั้นแก่นกายใหญ่ก็ถูกสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทอีกครั้ง และเขาพยายามดันเข้าไปจนเกือบมิดลำยาว "อืมมมแน่น~" "ฮึกกก!!" หญิงสาวจิกเล็บลงบนต้นขาของชายหนุ่มแรงกว่าเดิม ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะต้องมาเสียความบริสุทธิ์ที่อุตส่าห์ทะนุถนอมมาตั้งนาน แม้กระทั่งคนที่เป็นแฟนก็ยังไม่เคยได้ และสาเหตุที่แฟนของเธอบอกเลิกก็เพราะว่าเธอไม่ยอมมีอะไรด้วย จนกระทั่งแฟนเก่าของเธอไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและมาบอกเลิกกับเธอเพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้ มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และเป็นเหตุผลของผู้ชายสารเลวคนนึง เหมือนกับคนที่กำลังกระทำกับเธออยู่ตอนนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกันเลย "ฮึก...เอามันออกไป!!" "เธอควรจะดีใจนะที่ได้ฉันเป็นคนแรก ซี๊ดอ่าส์~" "ฉันไม่มีวันดีใจ ฉันเกลียดคุณ!" เธอพูดตะคอกใส่หน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตา "แต่ฉันชอบเธอนะพิงค์!" ดูเหมือนว่าคำด่าของเธอจะเป็นที่โปรดปรานสำหรับเขามาก ยิ่งเธอด่าเขามากเท่าไรเขาก็ยิ่งชอบเธอมากเท่านั้น "อ่ะ...อ่าส์~" ชายหนุ่มดึงกายแกร่งออกมาชักรูดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นบนหน้าท้องแบนราบของเธอ "ฮึก...พะ...พอแล้ว" "แต่ฉันยังไม่พอ" ร่างเล็กถูกจับหมุนให้อยู่ในท่าคลาน ก่อนที่จะถูกชายหนุ่มดันกายแกร่งเข้าไปในช่องแคบของเธออีกครั้ง "อ๊ะ! จะ....เจ็บ ฉันเจ็บ!" "อืมม......ฉันเสียวอ่าส์~" ความรู้สึกของเธอและเขามันช่างตรงข้ามกันมากจริง ๆ ในขณะที่เขากำลังมีความสุขกับการได้ใช้เรือนร่างของเธอเป็นที่ปลดปล่อย เธอกลับรู้สึกเหมือนว่าวันนี้เป็นวันที่เธอสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป ไหนจะถูกแฟนบอกเลิกและยังต้องมาถูกกระทำแบบนี้อีก แต่เธอก็รู้สึกสะใจที่สิ่งนี้ไม่ได้ถูกแฟนของเธอพรากมันไป มันก็สมควรแล้วที่ผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นไม่สมควรได้รับสิ่งสำคัญที่สุดจากเธอ "อืมมมมม~~" ร่างเล็กได้ยินเสียงครางในลำคอครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะไม่รู้สึกอะไรอีกเลย "พิงค์ พิงค์ แม่งเอ้ย!!" ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสียและหยุดการกระทำของตัวเองลงเพราะหมดอารมณ์ที่จะทำเรื่องอย่างว่า เขารีบใส่เสื้อผ้าแล้วเอาเสื้อไปคลุมเรือนร่างเล็กเอาไว้ ก่อนจะให้ลูกน้องขับรถพาเขากลับไปที่บ้านพิงค์ Talk “อืออ….” ฉันเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นหันมองไปรอบๆตัว จนได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของฉัน ทันใดนั้นภาพเมื่อคืนมันก็ลอยเข้ามาในหัวของฉัน “บ้าชิบ!!” ฉันสบถอย่างหัวเสียก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นออกมาจากห้องนั้นด้วยวามทุลักทุเล มีแต่เรื่องบ้าบอจริงๆยัยพิงค์ โดนแฟนบอกเลิกไม่พอ ยังจะมาถูกใครก็ไม่รู้เปิดซิงอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ สงสัยต้องไปอาบน้ำมนต์เก้าวัดเก้าวาซะแล้วมั้ง“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยถามดังขึ้น ขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆเพื่อหาทางออก “พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันหันกลับไปถามเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าเขาตาเขม็ง หล่อดีนะ มาดเข้ม สูง ยาว ใหญ่ แต่เสียดายทำให้ฉันไม่ถูกชะตาตั้งแต่วันแรกที่เจอ อย่าหวังว่าฉันจะคุยดีด้วยอีกเลย “แล้วจะให้ฉันพาเธอไปที่ไหน ทิ้งไว้ข้างถนนเหรอ?” “ปากหมา!” “ขอบคุณที่ชม” เขายกยิ้มใส่ฉัน นี่กำลังด่าอยู่นะ หน้าหนาจนไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง “ฉัน จะ กลับ บ้าน” ฉันเน้นทุกคำพูดใส่ผู้ชายตรงหน้า “ก็กลับสิ ใครมัดเธอไว้ล่ะ เท่าที่ดูก็ไม่นะ หรือว่าเธออยากอยู่กับฉันล่ะ ติดใจ…เมื่อคืนเหรอ” เขาไล่สายตามองฉันอย่างหื่นกาม แถมยังแลบเลียมุมปากตัวเองอีก ทุเรศชะมัด
พิงค์ Talk สองปีต่อมา ตอนนี้ฉันได้โกอินเตอร์มาอยู่ที่เมืองนอกแล้วนะ ไม่ใช่อะไรหรอกฉันมาเรียนต่อต่างหากล่ะ ฉันตัดสินใจทำเรื่องยื่นกับมหาวิทยาลัยเพื่อจะมาเรียนต่อที่ต่างประเทศกับญาติที่รู้จัก ฉันเบื่อที่จะต้องอยู่บ้านแล้วโดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ โดยเฉพาะการถูกจับคลุมถุงชนฉันถูกคุณพ่อกับคุณแม่บังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้ซึ่งฉันไม่เคยเห็นหน้าเห็นตามาก่อนเลย ฉันเคยเจอแต่ในละครไอ้เรื่องจับคลุมถุงชนเนี่ย ไม่คิดว่าชีวิตจริงจะยังมีคนทำแบบนี้อยู่ คิดเหรอว่าคนอย่างพิงค์จะยอม ฉันทำเรื่องยื่นกับมหาวิทยาลัยสำเร็จแล้วฉันก็รีบบินไปต่างประเทศทันที ฉันถึงจะโทรกลับมาบอกคุณพ่อกับคุณแม่ว่าฉันมาเรียนต่อที่เมืองนอก นี่แหละวิธีเอาตัวรอดของฉัน แต่ไม่รู้ว่ากลับไปจะเจออะไรอีกบ้าง "เฮ้พิงค์! ยูนั่งเหม่ออาราย นานแล้วนะ" "....." ฉันสะดุ้งอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากคนด้านข้าง ฉันกรอกสายตาไปมองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง "เปล่า ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย"นางชื่อว่า ฮาร์ท เป็นเพื่อนใหม่ของฉันเองแหละ ช่วงนี้ฉันคบกับใครไม่ค่อยได้นาน จู่ๆพวกเพื่อนๆก็ตีตัวออกห่างฉันไปเลยไม่ว่าใคร แม้กระทั่งเพื่
"เฮือก!!" ร่างเล็กผวาอย่างแรงพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองไปรอบๆ "นี่มันห้องเรานี่นา แล้วมะ...เมื่อคืน..." เธอนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอกำลังจะถูกกลุ่มวัยรุ่นกระทำอนาจารเธอ แต่แล้วเธอก็เป็นลมหมดสติไป พอตื่นมาเธอก็มาโผล่อยู่ที่คอนโดของตัวเอง "เกิดอะไรขึ้น!!" เธอรีบสำรวจดูตามร่างกายของตัวเองทันที ก็พบว่าร่างกายของเธอมีเพียงรอยฟกช้ำตามแขนและคอ ส่วนล่างของเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไร หญิงสาวงงหนักมากกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่าเธอกลับมาอยู่ที่คอนโดได้ยังไง ใครเป็นคนไปช่วยเธอไว้ ณวินาทีนั้นเหมือนเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ฝันทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริง เพราะหลักฐานที่อยู่บนตัวของเธอก็เป็นคำตอบได้อย่างดีอยู่แล้ว ด้วยความร้อนใจเธอจึงรีบก้าวขาลงจากเตียงแล้วเดินออกไปนอกห้องทันที ด้านนอกเธอไม่พบใครเลยนอกจากกระดาษโน๊ตใบเล็กๆใบนึงที่แปะอยู่หน้าตู้เย็น ( ยังไม่ต้องไปเรียนจนกว่าจะหายดี นี่เป็นคำสั่ง )เธอวางกระดาษโน๊ตในมือลงก่อนจะหันมองไปรอบๆตัว ทุกอย่างมันก็ดูปกติดีแต่ทำไมเธอรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีคนจับจ้องการกระทำของเธอทุกฝีก้าว เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าใครที่กำลังจับจ้อ
INTROคลับใหญ่ห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม..."ที่เธอไม่ยอมแต่งงานกับฉัน ก็เพราะว่าเธอกลัวใช่ไหม" "กลัวอะไร แล้วทำไมฉันต้องกลัว?" หญิงสาวเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ ด้วยความที่ตัวเธอเป็นคนที่กล้าไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เธอเลยไม่มีความกลัวมาเฟียหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย"ก็กลัวฉันจะทำอะไรเธอยังไงล่ะ หึ!! ก็นึกว่าจะดีเหมือนกับปาก ที่แท้ก็กระจอกนี่เอง" ดวงตาคมไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่เหยียดหยามคนตรงหน้า "นี่ไอ้!!...""จุ จุ จุ อย่าเรียกชื่อว่าที่สามี เอ๊ะไม่สิ! อย่าเรียกชื่อสามีว่าไอ้แบบนั้นสิจ๊ะ ไม่เพราะเลยนะ""ไอ้ปากปีจอ!!""ปากก็ดีนะ แต่ใจไม่กล้าเลยว่ะ" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ"ที่ฉันไม่ยอมแต่งงาน ไม่ใช่เพราะว่าฉันกลัวหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนอย่างนายต่างหาก"ฉันมีทางให้เธอเลือกสองทาง""ทางอะไรของนาย!?""ยอมแต่งงานกับฉัน หรือจะตายด้วยปืนกระบอกนี้"ปึก!!พูดจบกระบอกสีเงินมันวาวก็ถูกวางกระแทกลงกับพื้นโต๊ะตรงหน้าของหญิงสาว เธอถึงกับหน้าเสียขาอ่อนแรงไปเลย "เลือกมา!!" คลับใหญ่"อึก อึก อึก" สาวร่างเล็กยกแก้วน้ำเมาขึ้นดื่มแบบแก้วต่อแก้ว จนตัวเองเริ่มทรงตัวไม่อยู
"เฮือก!!" ร่างเล็กผวาอย่างแรงพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองไปรอบๆ "นี่มันห้องเรานี่นา แล้วมะ...เมื่อคืน..." เธอนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอกำลังจะถูกกลุ่มวัยรุ่นกระทำอนาจารเธอ แต่แล้วเธอก็เป็นลมหมดสติไป พอตื่นมาเธอก็มาโผล่อยู่ที่คอนโดของตัวเอง "เกิดอะไรขึ้น!!" เธอรีบสำรวจดูตามร่างกายของตัวเองทันที ก็พบว่าร่างกายของเธอมีเพียงรอยฟกช้ำตามแขนและคอ ส่วนล่างของเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไร หญิงสาวงงหนักมากกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่าเธอกลับมาอยู่ที่คอนโดได้ยังไง ใครเป็นคนไปช่วยเธอไว้ ณวินาทีนั้นเหมือนเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ฝันทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริง เพราะหลักฐานที่อยู่บนตัวของเธอก็เป็นคำตอบได้อย่างดีอยู่แล้ว ด้วยความร้อนใจเธอจึงรีบก้าวขาลงจากเตียงแล้วเดินออกไปนอกห้องทันที ด้านนอกเธอไม่พบใครเลยนอกจากกระดาษโน๊ตใบเล็กๆใบนึงที่แปะอยู่หน้าตู้เย็น ( ยังไม่ต้องไปเรียนจนกว่าจะหายดี นี่เป็นคำสั่ง )เธอวางกระดาษโน๊ตในมือลงก่อนจะหันมองไปรอบๆตัว ทุกอย่างมันก็ดูปกติดีแต่ทำไมเธอรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีคนจับจ้องการกระทำของเธอทุกฝีก้าว เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าใครที่กำลังจับจ้อ
พิงค์ Talk สองปีต่อมา ตอนนี้ฉันได้โกอินเตอร์มาอยู่ที่เมืองนอกแล้วนะ ไม่ใช่อะไรหรอกฉันมาเรียนต่อต่างหากล่ะ ฉันตัดสินใจทำเรื่องยื่นกับมหาวิทยาลัยเพื่อจะมาเรียนต่อที่ต่างประเทศกับญาติที่รู้จัก ฉันเบื่อที่จะต้องอยู่บ้านแล้วโดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ โดยเฉพาะการถูกจับคลุมถุงชนฉันถูกคุณพ่อกับคุณแม่บังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้ซึ่งฉันไม่เคยเห็นหน้าเห็นตามาก่อนเลย ฉันเคยเจอแต่ในละครไอ้เรื่องจับคลุมถุงชนเนี่ย ไม่คิดว่าชีวิตจริงจะยังมีคนทำแบบนี้อยู่ คิดเหรอว่าคนอย่างพิงค์จะยอม ฉันทำเรื่องยื่นกับมหาวิทยาลัยสำเร็จแล้วฉันก็รีบบินไปต่างประเทศทันที ฉันถึงจะโทรกลับมาบอกคุณพ่อกับคุณแม่ว่าฉันมาเรียนต่อที่เมืองนอก นี่แหละวิธีเอาตัวรอดของฉัน แต่ไม่รู้ว่ากลับไปจะเจออะไรอีกบ้าง "เฮ้พิงค์! ยูนั่งเหม่ออาราย นานแล้วนะ" "....." ฉันสะดุ้งอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากคนด้านข้าง ฉันกรอกสายตาไปมองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง "เปล่า ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย"นางชื่อว่า ฮาร์ท เป็นเพื่อนใหม่ของฉันเองแหละ ช่วงนี้ฉันคบกับใครไม่ค่อยได้นาน จู่ๆพวกเพื่อนๆก็ตีตัวออกห่างฉันไปเลยไม่ว่าใคร แม้กระทั่งเพื่
พิงค์ Talk “อืออ….” ฉันเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นหันมองไปรอบๆตัว จนได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของฉัน ทันใดนั้นภาพเมื่อคืนมันก็ลอยเข้ามาในหัวของฉัน “บ้าชิบ!!” ฉันสบถอย่างหัวเสียก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นออกมาจากห้องนั้นด้วยวามทุลักทุเล มีแต่เรื่องบ้าบอจริงๆยัยพิงค์ โดนแฟนบอกเลิกไม่พอ ยังจะมาถูกใครก็ไม่รู้เปิดซิงอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ สงสัยต้องไปอาบน้ำมนต์เก้าวัดเก้าวาซะแล้วมั้ง“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยถามดังขึ้น ขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆเพื่อหาทางออก “พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันหันกลับไปถามเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าเขาตาเขม็ง หล่อดีนะ มาดเข้ม สูง ยาว ใหญ่ แต่เสียดายทำให้ฉันไม่ถูกชะตาตั้งแต่วันแรกที่เจอ อย่าหวังว่าฉันจะคุยดีด้วยอีกเลย “แล้วจะให้ฉันพาเธอไปที่ไหน ทิ้งไว้ข้างถนนเหรอ?” “ปากหมา!” “ขอบคุณที่ชม” เขายกยิ้มใส่ฉัน นี่กำลังด่าอยู่นะ หน้าหนาจนไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง “ฉัน จะ กลับ บ้าน” ฉันเน้นทุกคำพูดใส่ผู้ชายตรงหน้า “ก็กลับสิ ใครมัดเธอไว้ล่ะ เท่าที่ดูก็ไม่นะ หรือว่าเธออยากอยู่กับฉันล่ะ ติดใจ…เมื่อคืนเหรอ” เขาไล่สายตามองฉันอย่างหื่นกาม แถมยังแลบเลียมุมปากตัวเองอีก ทุเรศชะมัด
ร่างเล็กถูกผลุกเข้าไปในรถก่อนที่จะตามมาด้วยร่างกำยำ เขาปิดประตูลงแล้วปลดหัวเข็มขัดตัวเองออก รถคันนี้ด้านในกว้างมากและเบาะก็สามารถปรับเป็นเตียงได้ด้วย ชายหนุ่มปรับเบาะให้กลายเป็นเตียงในพริบตา ก่อนที่เขาจะแทรกตัวเข้าไปขึ้นคร่อมคนตัวเล็กที่นอนอยู่ "อือ...ปล่อยฉัน!! อยากมากก็ไปซื้อกิน ไม่ได้ขายโว้ย!!" เธอสบถอย่างรุนแรงอีกทั้งยังพยายามผลักคนตัวใหญ่ให้ออกไปจากตัวเธอเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถลำลึกเธอจึงมีสติขึ้นมาอีกครั้ง จะเสียซิงให้คนแปลกหน้าบนรถไม่ได้ "อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน่า มีแต่คนอยากเอากับฉันทั้งนั้น แต่ฉันไม่เอา ฉันเลือกเธอ เธอควรจะดีใจนะพิงค์!" "ก็ไปเอาคนที่อยากได้สิ ฉันไม่ได้อยากได้!" เธอพยายามดิ้นอย่างรุนแรงจนร่างใหญ่ทนไม่ไหว เขาหยิบเข็มขัดที่เพิ่งจะถอดออกไป พันธนาการเข้าที่มือของเธอพร้อมกับรวบแขนของเธอขึ้นไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของเขา "แต่ฉันอยากได้เธอพิงค์!" ใบหน้าคมคายกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ ก่อนจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอมจาง ๆ จากคนใต้ร่าง "อื้ออ....." ไม่ว่าเธอจะพยายามดิ้นมากเท่าไรก็ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งหมดแรงมากเท่านั้น "อย่าพยายามเลยพิงค์ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางหนีฉันพ้น
INTROคลับใหญ่ห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม..."ที่เธอไม่ยอมแต่งงานกับฉัน ก็เพราะว่าเธอกลัวใช่ไหม" "กลัวอะไร แล้วทำไมฉันต้องกลัว?" หญิงสาวเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ ด้วยความที่ตัวเธอเป็นคนที่กล้าไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เธอเลยไม่มีความกลัวมาเฟียหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย"ก็กลัวฉันจะทำอะไรเธอยังไงล่ะ หึ!! ก็นึกว่าจะดีเหมือนกับปาก ที่แท้ก็กระจอกนี่เอง" ดวงตาคมไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่เหยียดหยามคนตรงหน้า "นี่ไอ้!!...""จุ จุ จุ อย่าเรียกชื่อว่าที่สามี เอ๊ะไม่สิ! อย่าเรียกชื่อสามีว่าไอ้แบบนั้นสิจ๊ะ ไม่เพราะเลยนะ""ไอ้ปากปีจอ!!""ปากก็ดีนะ แต่ใจไม่กล้าเลยว่ะ" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ"ที่ฉันไม่ยอมแต่งงาน ไม่ใช่เพราะว่าฉันกลัวหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนอย่างนายต่างหาก"ฉันมีทางให้เธอเลือกสองทาง""ทางอะไรของนาย!?""ยอมแต่งงานกับฉัน หรือจะตายด้วยปืนกระบอกนี้"ปึก!!พูดจบกระบอกสีเงินมันวาวก็ถูกวางกระแทกลงกับพื้นโต๊ะตรงหน้าของหญิงสาว เธอถึงกับหน้าเสียขาอ่อนแรงไปเลย "เลือกมา!!" คลับใหญ่"อึก อึก อึก" สาวร่างเล็กยกแก้วน้ำเมาขึ้นดื่มแบบแก้วต่อแก้ว จนตัวเองเริ่มทรงตัวไม่อยู