“โอ๊ย ๆ เจ็บจริง ตัวแค่นี้แรงเยอะดีนะ แต่แรงกัดไม่เท่าไร ไม่พอให้เป็นที่ระทึก แค่นับว่าโอเค...” เสียงหัวเราะร่าดังอย่างชอบพอ มือหนาจับต้นแขนตัวเองก้มหน้าลงมองด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าหมาพิตบูล
“เอ้อ นี่น้องเฌอ... แล้วถ้าอยู่ดี ๆ เราท้องกับพี่ เราก็ต้องแต่งเลยหรือเปล่า”
“แต่งสิ แต่งได้เลย ฉันเองก็มีแพลนว่าจะแพ็คมารตัวน้อยไปให้แม่แกเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมเจอหน้าหลานคนแรกในสภาพศพไหมล่ะ ได้ข่าวเป็นโรคหัวใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
หัวเราะทีหลังดังกว่า! มือสั่นเทาเล็ก ๆ ยังเตรียมพร้อมจะหยิบอาวุธในกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดออกมาสู้กับชายหนุ่มที่กัดกรามกรอด ๆ มองเธออย่างโกรธแค้น จนเธอหันไปออกคำสั่ง
“จอดรถ อองเดร!”
----------------------------------
“คือว่า... ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันทำให้คุณอึดอัดใจหรือเปล่า?”
“ไม่เลยครับ ผมเข้าใจคุณเฌอ...”
เลขานุการหนุ่มยังคงยิ้มแย้มอย่างคนกันเอง ทำให้เจ้านายยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
อองเดรไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เขารับปากว่าจะเก็บทุกอย่างที่เห็นเอาไว้เป็นความลับอย่างดี ตามคำขอของเฌอเอมที่ไม่อยากเอาเรื่องเอาราวตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของบริษัท
ทว่า... ดวงตาคู่สวยเปี่ยมประกายแห่งความหวัง เมื่อสบนัยน์ตาสีมรกตของคนที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานไม้สักตัวโตในห้องกว้างขวาง
“เมื่อเช้านี้ผมช่วยคุณเฌอไม่ได้เพราะว่าขับรถอยู่ จะเบรกแรง ๆ คุณคงปลิวไปด้วย ไม่มีใครขาดเบลท์สักคน จะจอดก็ไม่ได้...”
“เอ้อ... ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นปัญหา วันหลังจะคาดเบลท์ทันทีที่ขึ้นรถเลยนะคะ”
“ครับ ดีครับบอส ใกล้ไกลแค่ไหน ควรคาดเบลท์เพื่อความปลอดภัยนะครับ”
นั่นเป็นเรื่องซึ่งไม่ควรให้ใครมาบอก ไม่รวมเรื่องการจอดรถกลางถนน
การที่รถยนต์ติดแหง็กหมายความว่ามันกำลังจอดอยู่กลางถนนสองเลนส์ หลังรถยนต์คันข้างหน้า พอทุกคนเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ แต่หนึ่งคันไม่ขยับ รถยนต์คันข้างหลังก็บีบแตรไล่ สุดท้ายผู้โดยสารเลยไม่ได้ลงจากรถสักคน ฟาดฝีมือฝีปากกันจนหมดแรง
เจ้าของร่างบางในเดรสตัวสวยผูกโบน่ารัก ตั้งแต่ก้าวขาลงจากรถยนต์ด้วยเนื้อตัวสั่นเทา แววตาคู่สวยสั่นไหวดูเศร้าหมองหวาดกลัว จากเจ้านายสาวผู้หยิ่งผยองเก่งกล้า มองไม่เห็นว่าเธอจะกล้าเหมือนตอนบวกกับผู้ชายตัวโตในรถ พุ่งเข้ากัดตะปบเล็บจิกหน้าจนเลือดซิบ อาละวาดเป็นหมาบ้า! กลุ่มผมเป็นลอนสวยกระเซอะกระเซิงจนเธอต้องมาจัดแจงมันในห้องน้ำบริเวณล้อบบี้ชั้นหนึ่ง
เฌอเอมถูกเลขาฯ เอ็ดเรื่องเข็มขัดนิรภัย มากกว่าเรื่องที่เสียสติไปแล้วจริง ๆ
“ขอบคุณที่เข้าใจฉันนะคะ ขอบคุณที่อยู่ข้างฉัน ฉันคงไม่มีใครแล้วนอกจากคุณ อองเดร”
“ผมอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ถ้าวันไหนคุณเฌอเปลี่ยนใจอยากเอาเรื่อง ผมยินดีเป็นพยานให้” ในน้ำเสียงราบเรียบ ถึงพูดไป อองเดรรู้สึกใจหายชอบกล เขาเติบโตมาในสังคมแห่งการให้เกียรติ เรื่องอาชญากรรม การล่วงละเมิดทางเพศเป็นเรื่องห่างไกลกับตัวเขา วันนี้ดันมาเกิดกับคนใกล้ตัวอย่างเจ้านาย
เขายังเข้าใจความสำคัญของกล้องหน้ารถยนต์และในรถยนต์ เมื่อคุณลุงสารถีกำชับเขาว่ามันจำเป็น
“เอาเป็นว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็เรียกนะครับ”
“ค่ะ... คุณ... อองเดร” แล้วเธอก็ยิ้ม นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ฉันควรเรียกคุณว่า ‘พี่’ เหมือนพี่ปิ๊กพี่พิมพ์ไหมคะ มิสเตอร์อองเดร”
“แล้วแต่สะดวกนะครับบอส”
“จริงด้วยค่ะ คุณอายุมากกว่าฉันตั้งหนึ่งรอบ เป็นรุ่นพี่ตั้งสิบสองปี”
แม้ว่าเจ้าตัวจะดูไม่เหมือนฝรั่งอายุสามสิบแปดสักเท่าไร ด้วยความที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เฌอเอมคงพูดไปอย่างนั้น เอาเข้าจริงเธอไม่กล้าเรียกเลขานุการว่าพี่หรอก แค่นี้คนก็ลือกันไปทั่วแล้วว่าเลขานุการของคุณเฌอน่ะรูปหล่อ สุภาพบุรุษขนาดไหน
“เป็นเจ้านายครับ ก็ต้องให้เกียรติ คุณเฌออาจทำงานมากกว่าผม เท่าที่เห็นบอสอยู่กับงานหามรุ่งหามค่ำ ผมสิ ควรเรียกคุณเฌอว่าพี่”
“ไม่เอาค่ะ เฌอไม่อยากแก่” พูดพลางส่ายหน้าพรืดใส่ เธอหลุบตาลงมองเอกสารกองโตบนโต๊ะ จากนั้นก็ไม่มีใครนับใครเป็นรุ่นพี่ เพียงก้มหน้าทำงานอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ส่วนเลขาฯ หนุ่มลอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดูผู้น้อยกว่า เดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ
----------------------------------
ความรู้สึกของอองเดรตอนนี้คงอยากให้กำลังใจเจ้านายให้รู้สึกดีขึ้นสักหน่อย เขาตัดสินใจเคาะประตูเข้ามาหาเธอบ่อยขึ้น นอกเสียจากถามเรื่องงานก็ถามว่าเธออยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม น้ำเย็นสักแก้วหรือช้าอร่อย ๆ อาจทำให้เธอหายเสียขวัญ พอเขาบอกว่าเธอดูไม่ดีเอามาก ๆ เธอค่อยยอมเงยหน้าจากงาน หันมาสนใจเลขาฯ วางเอกสารลงบนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงรื่นหู
“ขอบคุณนะคะ คุณช่วยได้มากเลย ช่วยเฌอมาก จนรู้สึกเกรงใจ” เจ้านายสาวเป็นกันเองขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับเลขาฯ ที่ยังคงห่วง
“ยินดี Take care ครับบอส ตราบใดที่ผมยังทำงานเป็นเลขาฯ เชื่อเถอะว่าทุกปัญหามีหนทางออกเสมอ”
คำพูดสุดท้ายของเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีเข้มเข้ากับนัยน์ตาคู่งดงาม เปล่งประกายสะท้อนโคมไฟในห้องสีนวลสลัว ทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้งไป
นัยน์ตาคู่คมสีมรกตยังคงสะท้อนอยู่ในหัวกลายเป็นภาพจำ ถึงแม้ว่าเขาจะเดินออกจากห้องไปสักพักหนึ่ง
‘อะไร ๆ อาจจะดีขึ้นก็ได้’
ความหวังลึก ๆ ในใจเธอได้แต่ภาวนาให้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ในเมื่อเธอเพิ่งเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวในคราบเลขานุการ
อันที่จริงก็แก้ปัญหาไปได้หนึ่ง ทั้งการหาเลขานุการคนใหม่ซึ่งไม่ใช่คนของคุณหญิงแม่ พยาบาลคนใหม่เมื่อวานก่อนเข้ามาทำงานแล้ว หล่อนดูเป็นกันเอง ไม่ฝักใฝ่ฝั่งคุณหญิงแม่มากจนเกินไป จนทำให้เธออึดอัดใจ
“ผู้ชายอะไร ช่างพูดจา ช่างเอาใจ...” ปากงึมงำค่อนขอดว่า เมื่อสิ่งที่พ่อคุณทำไม่ดีต่อหัวใจเจ้านายเอาซะเลย ทำไมถึงได้มาคอยเอาอกเอาใจพร่ำเพรื่อนะ
ขนาดชาร้อนหอมกลิ่นคาโมมายล์ธรรมดา ๆ บนโต๊ะยังทำเอาเธอใจสั่นได้!
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแรง ๆ เพื่อสลัดอารมณ์ฟุ้งซ่านออกจากหัว แต่ก็ยังไม่เลิกคิดวนเวียนเรื่องฝรั่งตาน้ำข้าว ริมฝีปากนุ่มเนียนเหมือนริมฝีปากของผู้หญิง จุมพิตเสน่หาตราตรึง อ้อมกอดคุ้นเคยจากคนไม่เคยพบพานกันมาก่อนเลยสักครั้ง
ให้ตายสิ หวั่นไหวไม่ได้นะยัยเฌอ ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฝรั่ง! เลขาฯ!
ถึงเฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ควรหวั่นไหว เธอดันเลิกตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์กองงานบนโต๊ะ ทั้งในคอมพิวเตอร์และเอกสารกระดาษที่เธอต้องตวัดปลายปากกาลงไปซ้ำ ๆ อย่างไม่ให้ผิดพลาด ชะโงกคอมองหาคนข้างนอก มัวแต่คิดถึงฝรั่งหนุ่มที่เดินเข้าออกห้องทำงานเธอ ส่งยิ้มหวานอยู่นั่น“ขนมครับ คุกกี้ธัญพืช” เสียงที่ดังขึ้น ปรากฏชายคนเดิมยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน จานใบเล็กสีขาวมีขนมหน้าตาน่ารับประทาน ถูกวางลงอย่างเบามือ“ขะ ขอบคุณค่ะ... อองเดร” หญิงสาวพลันยกมือป้องปากทันที ส่ายแก้มแดงฉ่ำไปอีกทางหนึ่งว่า “เดี๋ยวกินค่ะ”“ดีครับ อย่าให้เสียน้ำใจเลยนะครับ” ในรอยยิ้มเป็นกันเอง ร่างสูงชะลูดค่อยก้าวฉับ ๆ ไป ไม่เหลียวมองหลังเลขานุการหนุ่มคงมองไม่เห็นว่า... บนเก้าอี้ทำงานผู้บริหารตัวใหญ่ สายตาคู่หนึ่งคอยมองตามเขาในทุกฝีก้าวอย่างไม่สามารถหักห้ามใจได้เลย----------------------------------เจ้าของร่างบางในเดรสสีขาวเข้ารูปสมส่วน จัดแจงโบใหญ่เทอะทะลายสก็อตให้พอดีกับกระโปรงสีขาวความยาวประหัวเข่า หน้ากระจกบานสูงใหญ่ข้างโต๊ะไม้สักในห้องทำงานของเธอ ด้วยท่าทางมั่นใจกว่าทุกวันปกติแล้วงานสวย ๆ งาม ๆ มักมีเลขานุการคอยอำนวยความสะดวกให้ บางครั้
อีกคัน เดี๋ยวขับกลับเองค่ะ”คนได้ยินกำลังคิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวลำพังเดินทางมาตั้งไกล มาหาเรื่องเดือดร้อนลำบากทำไม ลึก ๆ ในใจก็เป็นห่วง“คุณเฌอกลับเมื่อไรโทรเรียกผม ผมจะมารับครับ หรือจะให้ลุงเปี๊ยกขับก็ได้”“อื้ม... Take care ขับรถดี ๆ ค่ะ แต่เฌอคงจะไม่โทรไปหรอกนะ”ประตูรถยนต์เปิดออกและปิดลงพร้อมแววตาเยียบเย็น สมบุคลิกของบอสสาว อองเดรนั่งคอยอยู่ในรถยนต์สักพักหนึ่ง ด้วยวิสัยความเป็นคนรอบคอบกับการทำงาน เขาหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาตรวจดูตารางงานของเจ้านาย รอให้เครื่องยนต์เย็นลงสักหน่อยหลังจากที่เร่งความเร็วมาพักใหญ่ ทว่าทันใดนั้นเอง“กรี๊ดดดด!” เสียงหวีดร้องดัง ประตูเหล็กที่เปิดอ้าออกกว้างทำให้นายสารถีจำเป็นรีบลงจากรถในทันที ขายาว ๆ ของเขาคงไวมากพอก้าวไปถึงประตูกระจกหน้าบ้าน มันเพิ่งถูกไขออกด้วยกุญแจดอกเล็ก ๆ ของเจ้าของบ้าน“อองเดร!” เสียงร้องดังในหน้าตาตื่นตระหนก พลันเข้าไปคว้าท่อนแขนเป็นล่ำสันเข้าหมับ โดยไม่สนใจว่าเสื้อเชิ้ตสีครีมของเขาจะยับ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทำเอาอีกคนตกใจไปด้วย“ครับ? มีอะไร โจรหรือ!”“แมลงสาบ!”----------------------------------เนินอกนุ่มนิ่มกลายเป็นปัญหาของ
“คนอื่นเขาจะมองยังไงล่ะครับ ผมไม่อยากรับอะไรจากคุณเฌอ...”“คุณก็เก็บไว้ที่บ้าน ไม่มีใครรู้หรอกน่ะถ้าคุณไม่พูด มันจะเป็นความลับแน่นอน เคนะ” ในน้ำเสียงแผ่วเบาลงอีก หญิงสาวไม่เสียเวลาถกเถียงกับเขาต่อ มือเรียวคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดบนโต๊ะทำงานเลขาฯ ขึ้นสะพายพาดบ่าพร้อมบอกลา พอดีกับที่เสียงเข้มเรียก“คุณเฌอจะไปไหนครับ ไม่ทำงานหรือ?”หญิงสาวก้มหน้าลงลดเสียงลงให้เบาที่สุด “เฌอแค่แวะมาบอกคุณเรื่องรองเท้าไง รับไว้ด้วยนะ ห้ามบอกใครล่ะว่าเฌออยู่ที่ไหน”“คือผมไม่ต้องการรองเท้า ผมอยากทราบว่าคุณจะกลับมาทำงานเมื่อไรครับบอส” ในรอยยิ้มเป็นกันเองขณะที่ยังแอบกระซิบกระซาบกับเจ้านายสาวด้วยท่าทางดุดัน เขาไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่!“เออ... เดี๋ยวโทรบอกเอง ไปก่อนนะ”“แต่คุณหญิงโวยวายเรื่องคุณไม่เข้าประชุมนะครับ เธอถามผมว่าลูกสาวหายไปไหน ทำไมไม่มาทำงาน ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกแม่สักคำ”“งั้น... คุณจัดการเอกสารบนโต๊ะเสร็จ ค่อยตามเฌอไปทีหลังละกัน ช่วงนี้บอสรู้สึกไม่ค่อยสบายนะคะ ขอ WFH ค่อกแค่ก...” พูดพลางแสร้งยกมือขึ้นป้องปาก จากนั้นเจ้านายสาวก็เดินโซเซออกจากห้องทำงาน----------------------------------คุณเฌอไม่สบา
บนโซฟากำมะหยี่สีขาวดูหรูหราในห้องสูทผู้บริหารของโรงแรมระดับห้าดาว ดอกเตอร์สาวคนดังสวมเดรสสีแดงตัดดำ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่อย่างขณิกาแต่งตัวเรียบร้อยสักหน่อย สไตล์ไฮโซกระโปรงยาวถึงตาตุ่มเข้ากับเสื้อคอสูงแขนสั้นน่ารัก อีกสองสาวอยู่ในเดรสสบาย ๆ สีขาว เรียบหรูดูดีเน้นเครื่องประดับเพชร พวกหล่อนนั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามเจ้าของงานเฌอเอมเลือกเดรสสายเดี่ยวสีขาว มีโบอันใหญ่น่ารักด้านหลัง คลุมทับด้วยเสื้อสูทแบบคลุมไหล่แฟชั่นมาประชันตามนัดหมาย เธอก็คงสวยไม่แพ้ใครในคอนเซ็ปต์สวยเลิศดูแพง สมเป็นหัวหน้ากลุ่มเซเลบสาวน่าเสียดายที่คงอยู่ได้ไม่นาน พอนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มตรง เธอชะโงกคอมองออกไปด้านนอก บริเวณเก้าอี้โซฟาเดี่ยวถัดจากห้องรับรองกว้างขวาง“เอ้อ... ฉันขอกลับไวนะแก พรุ่งนี้ทำงานเช้าอะ ใช้งานเลขาฯ หนักมาหลายวันละด้วย”“ย่ะ เพื่อนมองเห็นอยู่ว่าหนุ่มคนนี้สำคัญ หญิงเฌอดูแลดีเป็นพิเศษเลยนะ” ในรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของดอกเตอร์สาว เป็นอันรู้กันว่าเพื่อนสนิทคิดอะไร แค่มองตาก็รู้ใจมือเรียวหยิบหลุยส์ วิตตองใบจิ๋วสะพายพาดบ่า เฌอเอมได้รับความช่วยเหลือจากเลขานุการหนุ่มรูปงามเดินเข้ามารับของจากเธอซึ่งขยับปลายส้นสูงสามน
เพราะดันนอนหลับสบายถึงเช้า ไม่โดนยุงสักตัวไล่เข้าบ้าน ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทพลันลุกขึ้นนั่งหลังตรง เบิกตากว้างมองคนข้างกาย เธอเอนเบาะนอนอยู่หน้าพวงมาลัยรถยนต์ แง้มกระจกลงพอประมาณให้พอมีอากาศพัดผ่าน มือเรียวกำไม้ตียุงแน่น ใบหน้าสะสวยใต้เครื่องสำอางอ่อน ในเดรสชุดเดิมบอกว่าเธอไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน“คุณเฌอ...” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ หญิงสาวเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว เธอปรือตามองชายหนุ่มซึ่งก้มหน้าลงสำรวจสภาพตนเอง มีผ้าห่มสีดำคลุมตัวอยู่ เป็นผืนเดียวกับที่เธอชอบเอาไปกอดนอนตอนงีบหลับในรถระหว่างวันทำงาน“เฌอ... อยู่ตียุงให้น่ะค่ะ คุณปลุกไม่ตื่น ไม่รู้นอนหลับหรือนอนตาย”“ขอโทษนะครับ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ เฌอต่างหากที่ต้องขอโทษ ใช้งานเลขาฯ หนักไป คุณรีบเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ เฌอขอขับรถกลับเองนะ”ในสีหน้างุนงงเพราะเพิ่งตื่นนอน อองเดรกลับแอบซ่อนความรู้สึกผิดอยู่ภายใน เมื่อเขาบกพร่องในหน้าที่ซึ่งยังทำได้ไม่ดีพอ“อย่าคิดมากน่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว เฌอเป็นห่วงรู้ไหม พี่อองเดร...” ในน้ำเสียงอ่อนโยนลงภายใต้สายตาอ่อนหวาน เป็นกันเองเสียจนอีกคนชะงักนิ่งอองเดรสัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างเธอและเขาเปลี่ยนไป เธอย
“แม่... เดี๋ยววันนี้ผมกลับเร็วนะ รอด้วยนะครับ” สายที่วางไปในสีหน้าเป็นกังวล อองเดรแน่ใจว่าคุณแม่คงไม่เลิกคุยโม้โอ้อวดเรื่องสะใภ้คนงาม ป่านนี้ได้รู้กันทั้งซอยว่าลูกชายฝรั่งมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาควรต้องหาทางบอกความจริงให้เร็วที่สุด[แม่ไม่รีบจ้ะ]ข้อความไลน์ส่งตามมาพร้อมรูปถ่ายน่ารักของเขาและแฟนสาวรินน้ำใส่แก้วให้เขาดื่มหลังรับประทานข้าวต้มหมดถ้วย ไม่รู้ว่าคุณแม่แอบถ่ายตอนไหน! ชายหนุ่มสวมเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา พอขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดของอาหารระฟ้า ประตูที่เปิดอ้าออกกว้างยังปรากฏเจ้าของร่างบางในเดรสสีชมพูหวาน แขนพองชีฟองขาวดูสง่างามเข้ากับรองเท้าแก้วส้นสูงและกระเป๋าแบรนด์หนังใบเล็กเท่าฝ่ามือ“แม่นวลชวนไปทานข้าวค่ะ อืม... เฌอว่าเฌออยากไปนะ แม่นวลทำกับข้าวอร่อย”“ตามสบายนะครับ”“ไปในฐานะแฟนพี่นะ โอเคเหรอ?” ใบหน้าสดสวยระเรื่อยิ้มอย่างมีชัย ไม่น่าเชื่อว่าเธอสามารถทำให้เลขานุการมาดนิ่ง สุขุมเยือกเย็นในทุกสถานการณ์โมโหได้สำเร็จ ชายหนุ่มกัดกรามกรอดมองเธอ ด้วยการกดสายตาลงต่ำ แม้ว่าเขายังคงพูดจาในน้ำเสียงสุภาพ “จะไปก็ไปครับ ใครจะไปห้ามคุณเฌอได้”“ขอบคุณค่ะที่รั
แม่บ้านคงไม่ขึ้นมายุ่มย่ามข้างบนในเวลานี้ มือหนาเลื่อนไปจับลูกบิด ปิดประตูเหล็กลงล็อก พอเขาและเธอได้อยู่ตามลำพังในห้องคับแคบ ก็หันมาประจันหน้ากับเจ้านายสาว โดยไม่ปล่อยมือนุ่มเย็นเฉียบและสั่นเทาไม่ต้องบอกเลยว่าความเข้มแข็ง เย็นชา ความรู้สึกสาแก่ใจเมื่อเจ้านายสาวผู้หยิ่งผยองเพิ่งได้รับผลกรรมของเธอนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น“ผม... ว่าจะพังประตูเข้าไปอยู่ คุณ... ไม่เป็นไรนะ?”“อือ... ยังสบายดี”“โกหกไม่เก่ง... ไม่เก่งเลย”เธอฝืนยิ้มตอบ “ขอบคุณค่ะ”เลขานุการหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอา ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดปลอบ เมื่อเจ้านายสาวตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กน้อย เธอกำลังต้องการการปลอบโยนจากใครสักคนอองเดรรับรู้ได้ถึงลมหายใจหอบสั่นเพราะความกลัว เสียงกรามกระทบกัน เรือนร่างบอบบางสั่นระริกไปทั่วทุกอณู จึงเลื่อนมืออีกข้างหนึ่งขึ้นลูบศีรษะน้อยเบา ๆ“ไม่เป็นไรแล้ว ใจเย็น ๆ ก่อนนะ เดี๋ยวหอบนะครับ”เฌอเอมจำต้องยอมกลายเป็นลูกนกในกำมือเขา หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมาโดยไร้ต้นสายปลายเหตุ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเด็กเล็ก ซุกดวงตาพร่ามัวลงบนเสื้อเชิ้ตกลิ่นหอมโคโลญจน์บุรุษอันคุ้นเคยในอ้อมแขนของชายผู้เป็นความปลอดภัยเพียงหนึ่งเดีย
น่าเห็นใจคุณเฌอ เธอเป็นผู้หญิงโชคร้าย... โชคร้ายจริง ๆ ถ้าต้องแต่งงานกับคนพรรค์นี้ เธอได้ตกนรกทั้งเป็นแน่คิดเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาพลันขยับไปทางลิฟต์ที่เปิดอ้าออกกว้าง คุณหญิงวริศราในชุดผ้าไหมเข้ากับเครื่องเพชรพลอยอลังการเดินเข้ามาหา ทั้งที่ปรกติไม่เคยมาเพราะมัวแต่งานยุ่งหัวหมุน เดินสายดูงานกับคุณพ่อใหญ่“ดินเนอร์คืนนี้ ลูกเอ็มเขาว่าง ลูกสาวฉันก็ควรจะว่างนะ คุณส่งตารางงานมา” ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ออกไปทางว่าตำหนิการทำงานของเลขานุการ ชายหนุ่มกลับยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร “เธอมีประชุมถึงสองทุ่มครึ่งที่แชงกรีล่า กับคู่ค้าบริษัทในเครือพร็อพเพอร์ตี้ ไม่น่าจะเลื่อนนัดได้นะครับ”คุณหญิงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด คงถามว่าที่ลูกเขยว่าว่างอีกทีเมื่อไร ทว่ายังไม่ได้คำตอบกลับ หล่อนชายตามองเลขาฯ ด้วยสายตาเกลียดชัง“คนรวยน่ะ เวลาแต่ละวันมีค่ายิ่งเสียกว่าอะไร ไม่ว่างก็ทำให้ว่าง โดยเฉพาะบ้านนั้นเขายุ่งกว่า...”“ผมเข้าใจครับ แต่คุณเฌอเธองานยุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลยนะครับ เธอดูซึมลง ไม่ค่อยแข็งแรง สองสามวันนี้ก็ไอค่อกแค่ก”“เป็นปัญหาของคุณนะมิสเตอร์อองเดร คุณจัดตารางงานสมูธลงตัว ทุกอย่างก็เป็นไปได้”“งั้
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา
“แขนไปโดนอะไรมา ฉีดยาเหรอ? วัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือว่ายาอะไร เพิ่งฉีดไปเองนี่”“เฌอไปฉีดยาคุมมาน่ะ กลัวหญิงแม่มารื้อกระเป๋าเฌอ แต่ว่าคงไม่มาหรอกช่วงนี้มีคนประกบเฌอ อาป๊าเหม็นขี้หน้าไอ้วัชระแล้วด้วย” เฌอเอมไม่ได้ต่อว่าเขาผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ ขณะก้มหน้าลงมองรอยสำลี ซึ่งถ้าหากว่าไม่เข้ามาใกล้ ๆ คงไม่เห็น“เฌอว่าแบบนี้สะดวกกว่า”“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ป้องกันเอง เฌอก็...”หญิงสาวทำลดเสียงลงกระซิบ “เฌอไม่ชอบให้มีอะไรมากั้น เฌอรู้สึกดีกับพี่ค่ะ”“โธ่ น้องเฌอ เรานี่จริง ๆ เลยนะ พี่ไม่อยากให้เฌอเจ็บรู้ไหม”“ไม่เจ็บค่ะ แหม เข็มอันนิดเดียว เคยโดนใหญ่กว่านี้เยอะ”คำพูดมีนัยในท่าทางหยอกล้อ อองเดรไม่หัวเราะตามเธออย่างเคย ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับเธอทุกประการ สัมผัสรสชาติการมีอุปกรณ์ขวางกั้นบาง ๆ บางแค่ไหนก็ยังรู้สึกขัดใจเมื่อเคยลิ้มรสชาติสัมพันธ์ที่สุขสมทว่าการเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ผลักภาระให้ฝ่ายหญิงทุกอย่างไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่อยากให้เธอเจ็บแม้สักนิดเดียว แต่เป็นอันว่ารู้กันเรื่องความดื้อรั้นของเฌอเอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอไม่ยอม พอมีคุณพ่อให้ท้าย งานหมั้น
“ป๊า... ทำไมเอาเลขาฯ เฌอไปใช้งานอะคะ แล้วใครจะช่วยงานเฌอล่ะ?” เสียงหวานเรียกผ่านประตูบานคู่ที่เปิดอ้าออกกว้าง ห้องทำงานของอาจารย์ชรัณถัดไปอีกห้องหนึ่ง ติดกับห้องทำงานหลักซึ่งเป็นออฟฟิศของพนักงาน ทั่วทั้งห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ นาน ๆ เจ้าของห้องจะเข้ามาสักครั้ง“เลขาฯ เต็มบริษัท อยากได้คนไหนเลือกเอา เอาคุณนิดหน่อยไปก็ได้”ใบหน้าสดสวยตื่นตะลึง หันไปทางหาเลขาฯ คนโปรดตรงมุมห้อง เขากลับทำเป็นไม่สนใจเธอ เลยกลับมาเบิกตากว้างมองหน้าตานิ่งเฉยของคุณพ่ออีกรอบ“ทำไมทำหน้าเหมือนไฟไหม้บ้าน”“ป๊าก็รู้ว่าแกเป็นไงปะ ให้ลูกเรียกเลขาฯ คนนั้นมาทำงานด้วย เหมือนไม่ได้เรียกเลขานุการ เหมือนมีเจ้านายอีกคนมาสั่งงาน”“เอา ๆ ไปเถอะ สักคนน่ะ อย่าเรื่องมากนะลูกนะ คุณนิดเธอก็ทำงานดี”อยู่ดี ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน หญิงสาวยกมือกอดอก กลอกตาไปมาว่า “โอเค งั้นเฌอเรียกคุณนิดหน่อยมาทำงานด้วยกันก็ได้...”“นี่ ๆ อย่าไปแกล้งเธอนะ ถึงเธอเป็นอย่างนั้น ป๊าว่าเธอทำงานละเอียด เธออดทนไม่บ่นเรื่องงานหนักด้วย”“ดีของป๊ากับดีของเฌออาจไม่เท่ากัน เฌอมีมาตรฐานการทำงานค่อนข้างสูงนะคะ”ร
ถึงทำเรื่องเกินตัวไปสักหน่อย แต่อองเดรก็มีเหตุผล มันเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำ เมื่อเขาไม่อยากเป็นคนในความลับ เป็นผู้ชายคั่นเวลาให้เธอกินยามหิว สักวินาทีเดียวก็ไม่อยากจะเป็น! เขายินดียืดอกรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายเลขานุการในเชิ้ตหล่อเหลาหิ้วกระเป๋าหนังคู่กาย ตามคุณพ่อของเจ้านายมาถึงร้านอาหารไทยชื่อดังย่านทองหล่อด้านหน้าห้องอาหาร VIP เป็นประตูไม้สลักลวดลายสวยงาม บานประตูคู่ชนชิดกัน ลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีห้องรับรองแขกเป็นห้อง ๆ ไป เหมาะสำหรับลูกค้ามารับประทานอาหารกับครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัวร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่นิยมของผู้ใหญ่วัยเกษียณ มีฐานะพอสมควร อาหารรสเลิศปรุงโดยพ่อครัวระดับแชมป์ แม่นวลเองก็รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี เคยพาลูกชายมารับประทานอาหารเป็นประจำ“ห้ามทิ้งงานในบริษัท ป๊าไม่มีลูกแล้ว มีแค่คนเดียว ถ้าป๊าตาย ลูกสาวไม่ทำงาน คนอื่น ๆ ก็ตกงานนะ บริษัทเรามีพนักงานตั้งกี่ชีวิต มีกี่ร้อยสาขา” อาป๊าเพิ่งวางมือจากแท็บเล็ต ท้องหิวก็ก้มหน้ารับประทานอาหารอาหารจานโปรดของคุณพ่อเป็นมัสมั่น เมนูจำพวกปลานึ่งและทอด อองเดรรับประทานไปได้ไม่เยอะ เพราะมัวแต่นั่งฟังอีกฝ่ายเล่า