อองเดรรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ มีแต่เรื่องประหลาด
ทำไมกัน ทั้งที่เป็นบริษัทเอกชนชื่อดังด้านสินค้าแบรนด์เนม เจ้าของมีชื่อเสียงโด่งดังร่ำรวยระดับแถวหน้าประเทศไทย ดำเนินการด้วยกิจการครอบครัว ทำไมถึงได้ทำงานเหมือนระบบทาส
เขาคิดว่าโลกใบนี้เลิกทาสไปนานแล้วเสียอีก แถมทาสที่ว่าก็ไม่ใช่พนักงาน เป็นหนึ่งใน CEO ลูกสาวเจ้าของบริษัท
เช้านี้เขาเข้าไปจัดการความเรียบร้อยของรถยนต์ยุโรปหรูกับคนขับรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบความเรียบร้อยของกล้องหน้ารถและอุปกรณ์ในรถยนต์ เลยขออาสาไปรับเจ้านายสาวด้วยตนเอง เขายินดีจะทำหน้าที่แทนเมสเซนเจอร์ ยินดีขับรถแทนนายสารถีของบ้านอย่างเต็มใจ
ดันมีเรื่องแปลกเข้าไปอีก ทันทีที่มาถึงคฤหาสน์กว้างขวางหลักร้อยล้านใจกลางกรุง คุณลุงวัยใกล้เกษียณงานเดินเข้ามาหาเขา พูดจาประหลาด ๆ เหมือนจะทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่าง ไม่อยากทำงานซะแล้ว
“ฝากด้วยนะครับ ฝากดูแลคุณเฌอด้วยนะ ตัวลุงคงไม่ไหวเหมือนคนหนุ่ม หลานก็ยังเล็ก”
นั่นเหมือนคำสั่งเสีย! อองเดรทำได้แค่คิด ยิ้มตอบอย่างเต็มใจ
“ครับ ไม่มีปัญหา ผมจัดการให้ไม่ต้องห่วง”
“กล้องในรถ... ลุงไปติดเพิ่มมา คุณกดบันทึกได้ผ่านมือถือ คุณลองทำดูนะ มันสำคัญมาก ๆ คุณดูแลคุณเฌอดี ๆ นะครับ เธอเป็นคนน่ารัก เธอเป็นคนดีครับ” สิ้นคำ คุณลุงในชุดคนขับรถสุภาพก็เดินไป
อองเดรไม่ทันได้อ้าปากถามอะไรต่อ ได้เพียงมองแผ่นหลังของชายวัยหกสิบในเชิ้ตสีขาวจนลับตา ค่อยหันไปสำรวจสถานที่โดยรอบ ทั้งลานจอดรถยนต์ซึ่งมีรถจอดอยู่กว่าสิบคัน ประตูคฤหาสน์สุดหรูอลังการ ดู ๆ ไปแล้วบ้านของคุณหญิงออกจะเหมือนวัง
‘เจ้าของบ้านหลังนี้รวยมาก รวยจริง ไม่ไก่กา’
ชายหนุ่มคิดในใจ ขณะที่เขาคงไม่มีเวลาสอดแนมบ้านคุณหญิงนาน เมื่อในอีกสักพักหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่เดินออกมาส่งลูกสาวหน้าบ้าน ต่างคนกอดลากันด้วยรอยยิ้มอย่างครอบครัวอบอุ่นกลมเกลียว
----------------------------------
เมอร์เซเดสเบนซ์ติดฟิล์มกระจกหนาทึบเคลื่อนมาจอดหน้าประตูไม้สักทองบานใหญ่ ลูกสาวคนเดียวของบ้านรีบชะโงกคอมองหาคุณลุงสารถีที่ไม่มาเปิดประตูให้เธอเหมือนทุกวัน
“วันนี้นั่งข้างหลังกับพี่เขานะลูก ทำไมต้องไปนั่งกับลุงเปี๊ยก”
“ลูกอยากนั่งหน้า ลูกร้อนค่ะ ลูกหอบ”
“ไม่เอาน่ะลูก นั่งหน้านั่งหลังมันไปเกี่ยวอะไรกับโรคหอบหืดคะ ลูกนั่งข้างหลังกับพี่เขานะ อย่าทำให้พี่เอ็มเขาลำบากใจ เขาอุตส่าห์มาทานข้าวกับหนูแต่เช้านะลูก” เสียงหวานว่าพลางจัดแจงเดรสสีขาว ผูกโบสีดำอันใหญ่กลางอกให้พอดีกับปกเสื้อเหนือกระดุมเม็ดบน
เฌอเอมรู้ตัวว่าเธอหนีไม่พ้นศัตรูที่ยืนรออยู่ข้างกายในเช้านี้แน่ คุณหญิงแม่ยังเลื่อนมือมาปัดปอยผมสีน้ำสลวยดัดผมเป็นลอนตามแฟชั่นให้เข้าที่ กวาดสายตาดูว่าเสื้อผ้าของเธอเรียบร้อยดี
“แม่จะให้ลุงเขาเอารถไปดูแอร์พรุ่งนี้นะ ถ้ามันยังไม่เย็นอีกก็เอาเบนซ์อีกคันไปใช้ รถบ้านเรามีตั้งหลายคัน” น้ำเสียงเอาแต่ใจเบี่ยงเบนลูกสาวให้หันมาทางคุณแม่ ยังคงออกคำสั่งไม่เลิก “ไปนั่งข้างหลังกับพี่เอ็มเขา เดินระวังกระโปรงด้วยนะคะลูก”
“ไปได้แล้วน้องเฌอ เดี๋ยวไปสายนะครับ” พูดจบ เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาลายสก็อตก็รีบเปิดประตูรถยนต์ ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณลุงสารถี คุณพ่อในเชิ้ตหล่อเหลาเตรียมตัวไปทำงานก็เข้ามาล่ำลา
“... คนสวยของป๊าไปทำงานดี ๆ นะลูกนะ มีอะไรโทรหาอาป๊าล่ะ”
“ค่ะป๊า ลูกถึงที่ทำงานแล้วไลน์หา” ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงก่อนที่เธอจะยิ้มกลบเกลื่อน ยอมทำตามคำขอของผู้ใหญ่อย่างไม่เต็มใจ แต่เธอยังแปลกใจว่าทำไมคุณลุงไม่มาเปิดประตูให้เธอนั่งด้วยกันด้านหน้า ไม่รู้ว่าเธอทำให้คุณลุงตกที่นั่งลำบากหรือเปล่า
กว่าจะพบว่าคนขับรถไม่ใช่คนที่เธอคิด แถมเธอถูกจับยัดเข้ารถมาโดยไม่ชอบใจเอาเสียเลย รถยนต์สีดำสนิทก็เคลื่อนตัวพ้นประตูรั้วหน้าบ้านไปแล้ว
“น้องเฌอรับเลขาฯ ใหม่ไม่เห็นบอกพี่สักคำ รับต่างด้าวมาทำงานน่ะ มันรู้เรื่องเหรอ”
“เรื่องของฉัน อยากนั่งรถบ้านไอยเรศนักก็นั่งไปเงียบ ๆ ไม่งั้นฉันจะสั่งให้คนขับรถจอด” ทั้งน้ำเสียงและแววตาก้าวร้าว ใบหน้าสดสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนโทนส้มแดงดูนิ่งเฉยทว่าแอบแฝงความโกรธเกรี้ยวอยู่ภายใน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีหวานที่เม้มปิดสนิทแน่น ชายหนุ่มข้างกายยังคอยมองอย่างนึกขัน
เฌอเอมไม่ค่อยทำกิริยาไม่งามบ่อยนัก กับว่าที่คู่หมั้นของเธอกลับตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้ง ต่อให้เขาจะรูปหล่อบ้านรวยมีการศึกษาไม่น้อยหน้าเธอ บรรดาสาว ๆ รายล้อมหน้าหลัง ซ้ำยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัท ทายาทแบรนด์เนมสินค้าจำพวกกระเป๋านำเข้า เป็นลูกเขยคนโปรดของคุณหญิงวริศรา แต่งงานกันไป บริษัท IMR มีแต่ได้ผลกำไรทางการค้ามากขึ้น
“อ้าว... ไม่ใช่ลุงเปี๊ยกนี่ ท่าทางจะเป็นพนักงานใหม่ ดูฉลาดอยู่”
“ขอบคุณครับ” เสียงเข้มตอบอย่างมีมารยาท คนขับรถจำเป็นไม่ได้สนใจผู้โดยสาร มือขยับพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่ถนนหลักซึ่งการจราจรแน่นขนัด อองเดรยังสัมผัสได้ถึงกระแสโทสะอาฆาตอย่างร้ายแรง
“น้องเฌอ พี่ไม่ถือสาเรื่องเมื่อวันก่อน คนอื่นยังเป็นคนอื่นอยู่วันยังค่ำ ยังไงบ้านเราก็ต้องแต่งกัน”
“ป๊าบอกว่าหมั้น แค่หมั้น... ค่อยพิจารณาดูอีกทีว่าใครเหมาะสมกับฉัน”
“สุดท้ายเราก็ตามใจหญิงแม่อยู่ดี คุณหญิงพูดคำไหนคำนั้น เราน่ะ เป็นนกน้อยในกรงทองของคุณหญิงแม่ ต้องเชื่อฟังแม่นะรู้มั้ย”
“ตลกสิ้นดี นกน้อยในกรงทองบ้าบอคอแตกอะไร” เธอแค่นหัวเราะพลันหันไปประจันหน้ากับอีกฝ่าย “ฉันนี่แหละ... อเมริกันพิทบูล” สิ้นคำขู่ฟ่อ ไรฟันขาวสวยที่เห็นเขี้ยวคมตรงมุมปากทำเอาอีกคนหัวเราะตาม
ในเมื่อมันก็น่าแปลก ก่อนหน้านี้เธอเคยอยู่ในโอวาทคุณหญิงแม่ทุกอย่าง วันดีคืนดีลูกคุณหนูแสนเรียบร้อยน่ารักเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาเฉย ๆ หลายคนเพิ่งเห็นกับตาว่าเธอเปลี่ยนไปแค่ไหนในเวลาไม่นาน
“เป็นคนดี ๆ ไม่ชอบจะเป็นหมา อ้อ... หมาจนตรอกหรือ ไหนดูซิว่ากัดเจ็บรึเปล่า” ไม่พูดเปล่า ชายร่างกำยำพลันพุ่งเข้าหาเหยื่อข้างกายที่พยายามปัดป้องตัวเอง แต่แรงน้อยนิดของเธอหรือจะสู้แรงหื่นกระหายของผู้ชายตัวโต ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยง ซุกปลายจมูกหากลิ่นหอมอ่อนจากเส้นผมนุ่มสลวย จนเฮือกสุดท้าย
พลั่ก!
หน้าผากแข็ง ๆ กลายเป็นประโยชน์ที่สุด หมาบ้าที่ว่ายังไม่จบการต่อสู้ เข้าไปฝังคมเขี้ยวบนต้นแขนเป็นล่ำสันผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เธอหลับตาปี๋ใช้แรงกรามกัดอย่างไม่คิดชีวิต นั่นคงมากพอทำให้อีกฝ่ายดิ้นพล่าน มอบอิสรภาพให้เธอสักชั่วขณะหนึ่ง ขณะที่เธอคงไม่ลืมหรอกว่าไอ้วัชระมันเป็นพวกซาดิสม์!
“โอ๊ย ๆ เจ็บจริง ตัวแค่นี้แรงเยอะดีนะ แต่แรงกัดไม่เท่าไร ไม่พอให้เป็นที่ระทึก แค่นับว่าโอเค...” เสียงหัวเราะร่าดังอย่างชอบพอ มือหนาจับต้นแขนตัวเองก้มหน้าลงมองด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าหมาพิตบูล“เอ้อ นี่น้องเฌอ... แล้วถ้าอยู่ดี ๆ เราท้องกับพี่ เราก็ต้องแต่งเลยหรือเปล่า”“แต่งสิ แต่งได้เลย ฉันเองก็มีแพลนว่าจะแพ็คมารตัวน้อยไปให้แม่แกเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมเจอหน้าหลานคนแรกในสภาพศพไหมล่ะ ได้ข่าวเป็นโรคหัวใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?”หัวเราะทีหลังดังกว่า! มือสั่นเทาเล็ก ๆ ยังเตรียมพร้อมจะหยิบอาวุธในกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดออกมาสู้กับชายหนุ่มที่กัดกรามกรอด ๆ มองเธออย่างโกรธแค้น จนเธอหันไปออกคำสั่ง“จอดรถ อองเดร!”----------------------------------“คือว่า... ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันทำให้คุณอึดอัดใจหรือเปล่า?”“ไม่เลยครับ ผมเข้าใจคุณเฌอ...”เลขานุการหนุ่มยังคงยิ้มแย้มอย่างคนกันเอง ทำให้เจ้านายยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่อองเดรไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เขารับปากว่าจะเก็บทุกอย่างที่เห็นเอาไว้เป็นความลับอย่างดี ตามคำขอของเฌอเอมที่ไม่อยากเอาเรื่องเอาราวตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับ
ถึงเฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ควรหวั่นไหว เธอดันเลิกตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์กองงานบนโต๊ะ ทั้งในคอมพิวเตอร์และเอกสารกระดาษที่เธอต้องตวัดปลายปากกาลงไปซ้ำ ๆ อย่างไม่ให้ผิดพลาด ชะโงกคอมองหาคนข้างนอก มัวแต่คิดถึงฝรั่งหนุ่มที่เดินเข้าออกห้องทำงานเธอ ส่งยิ้มหวานอยู่นั่น“ขนมครับ คุกกี้ธัญพืช” เสียงที่ดังขึ้น ปรากฏชายคนเดิมยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน จานใบเล็กสีขาวมีขนมหน้าตาน่ารับประทาน ถูกวางลงอย่างเบามือ“ขะ ขอบคุณค่ะ... อองเดร” หญิงสาวพลันยกมือป้องปากทันที ส่ายแก้มแดงฉ่ำไปอีกทางหนึ่งว่า “เดี๋ยวกินค่ะ”“ดีครับ อย่าให้เสียน้ำใจเลยนะครับ” ในรอยยิ้มเป็นกันเอง ร่างสูงชะลูดค่อยก้าวฉับ ๆ ไป ไม่เหลียวมองหลังเลขานุการหนุ่มคงมองไม่เห็นว่า... บนเก้าอี้ทำงานผู้บริหารตัวใหญ่ สายตาคู่หนึ่งคอยมองตามเขาในทุกฝีก้าวอย่างไม่สามารถหักห้ามใจได้เลย----------------------------------เจ้าของร่างบางในเดรสสีขาวเข้ารูปสมส่วน จัดแจงโบใหญ่เทอะทะลายสก็อตให้พอดีกับกระโปรงสีขาวความยาวประหัวเข่า หน้ากระจกบานสูงใหญ่ข้างโต๊ะไม้สักในห้องทำงานของเธอ ด้วยท่าทางมั่นใจกว่าทุกวันปกติแล้วงานสวย ๆ งาม ๆ มักมีเลขานุการคอยอำนวยความสะดวกให้ บางครั้
อีกคัน เดี๋ยวขับกลับเองค่ะ”คนได้ยินกำลังคิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวลำพังเดินทางมาตั้งไกล มาหาเรื่องเดือดร้อนลำบากทำไม ลึก ๆ ในใจก็เป็นห่วง“คุณเฌอกลับเมื่อไรโทรเรียกผม ผมจะมารับครับ หรือจะให้ลุงเปี๊ยกขับก็ได้”“อื้ม... Take care ขับรถดี ๆ ค่ะ แต่เฌอคงจะไม่โทรไปหรอกนะ”ประตูรถยนต์เปิดออกและปิดลงพร้อมแววตาเยียบเย็น สมบุคลิกของบอสสาว อองเดรนั่งคอยอยู่ในรถยนต์สักพักหนึ่ง ด้วยวิสัยความเป็นคนรอบคอบกับการทำงาน เขาหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาตรวจดูตารางงานของเจ้านาย รอให้เครื่องยนต์เย็นลงสักหน่อยหลังจากที่เร่งความเร็วมาพักใหญ่ ทว่าทันใดนั้นเอง“กรี๊ดดดด!” เสียงหวีดร้องดัง ประตูเหล็กที่เปิดอ้าออกกว้างทำให้นายสารถีจำเป็นรีบลงจากรถในทันที ขายาว ๆ ของเขาคงไวมากพอก้าวไปถึงประตูกระจกหน้าบ้าน มันเพิ่งถูกไขออกด้วยกุญแจดอกเล็ก ๆ ของเจ้าของบ้าน“อองเดร!” เสียงร้องดังในหน้าตาตื่นตระหนก พลันเข้าไปคว้าท่อนแขนเป็นล่ำสันเข้าหมับ โดยไม่สนใจว่าเสื้อเชิ้ตสีครีมของเขาจะยับ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทำเอาอีกคนตกใจไปด้วย“ครับ? มีอะไร โจรหรือ!”“แมลงสาบ!”----------------------------------เนินอกนุ่มนิ่มกลายเป็นปัญหาของ
“คนอื่นเขาจะมองยังไงล่ะครับ ผมไม่อยากรับอะไรจากคุณเฌอ...”“คุณก็เก็บไว้ที่บ้าน ไม่มีใครรู้หรอกน่ะถ้าคุณไม่พูด มันจะเป็นความลับแน่นอน เคนะ” ในน้ำเสียงแผ่วเบาลงอีก หญิงสาวไม่เสียเวลาถกเถียงกับเขาต่อ มือเรียวคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดบนโต๊ะทำงานเลขาฯ ขึ้นสะพายพาดบ่าพร้อมบอกลา พอดีกับที่เสียงเข้มเรียก“คุณเฌอจะไปไหนครับ ไม่ทำงานหรือ?”หญิงสาวก้มหน้าลงลดเสียงลงให้เบาที่สุด “เฌอแค่แวะมาบอกคุณเรื่องรองเท้าไง รับไว้ด้วยนะ ห้ามบอกใครล่ะว่าเฌออยู่ที่ไหน”“คือผมไม่ต้องการรองเท้า ผมอยากทราบว่าคุณจะกลับมาทำงานเมื่อไรครับบอส” ในรอยยิ้มเป็นกันเองขณะที่ยังแอบกระซิบกระซาบกับเจ้านายสาวด้วยท่าทางดุดัน เขาไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่!“เออ... เดี๋ยวโทรบอกเอง ไปก่อนนะ”“แต่คุณหญิงโวยวายเรื่องคุณไม่เข้าประชุมนะครับ เธอถามผมว่าลูกสาวหายไปไหน ทำไมไม่มาทำงาน ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกแม่สักคำ”“งั้น... คุณจัดการเอกสารบนโต๊ะเสร็จ ค่อยตามเฌอไปทีหลังละกัน ช่วงนี้บอสรู้สึกไม่ค่อยสบายนะคะ ขอ WFH ค่อกแค่ก...” พูดพลางแสร้งยกมือขึ้นป้องปาก จากนั้นเจ้านายสาวก็เดินโซเซออกจากห้องทำงาน----------------------------------คุณเฌอไม่สบา
บนโซฟากำมะหยี่สีขาวดูหรูหราในห้องสูทผู้บริหารของโรงแรมระดับห้าดาว ดอกเตอร์สาวคนดังสวมเดรสสีแดงตัดดำ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่อย่างขณิกาแต่งตัวเรียบร้อยสักหน่อย สไตล์ไฮโซกระโปรงยาวถึงตาตุ่มเข้ากับเสื้อคอสูงแขนสั้นน่ารัก อีกสองสาวอยู่ในเดรสสบาย ๆ สีขาว เรียบหรูดูดีเน้นเครื่องประดับเพชร พวกหล่อนนั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามเจ้าของงานเฌอเอมเลือกเดรสสายเดี่ยวสีขาว มีโบอันใหญ่น่ารักด้านหลัง คลุมทับด้วยเสื้อสูทแบบคลุมไหล่แฟชั่นมาประชันตามนัดหมาย เธอก็คงสวยไม่แพ้ใครในคอนเซ็ปต์สวยเลิศดูแพง สมเป็นหัวหน้ากลุ่มเซเลบสาวน่าเสียดายที่คงอยู่ได้ไม่นาน พอนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มตรง เธอชะโงกคอมองออกไปด้านนอก บริเวณเก้าอี้โซฟาเดี่ยวถัดจากห้องรับรองกว้างขวาง“เอ้อ... ฉันขอกลับไวนะแก พรุ่งนี้ทำงานเช้าอะ ใช้งานเลขาฯ หนักมาหลายวันละด้วย”“ย่ะ เพื่อนมองเห็นอยู่ว่าหนุ่มคนนี้สำคัญ หญิงเฌอดูแลดีเป็นพิเศษเลยนะ” ในรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของดอกเตอร์สาว เป็นอันรู้กันว่าเพื่อนสนิทคิดอะไร แค่มองตาก็รู้ใจมือเรียวหยิบหลุยส์ วิตตองใบจิ๋วสะพายพาดบ่า เฌอเอมได้รับความช่วยเหลือจากเลขานุการหนุ่มรูปงามเดินเข้ามารับของจากเธอซึ่งขยับปลายส้นสูงสามน
เพราะดันนอนหลับสบายถึงเช้า ไม่โดนยุงสักตัวไล่เข้าบ้าน ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทพลันลุกขึ้นนั่งหลังตรง เบิกตากว้างมองคนข้างกาย เธอเอนเบาะนอนอยู่หน้าพวงมาลัยรถยนต์ แง้มกระจกลงพอประมาณให้พอมีอากาศพัดผ่าน มือเรียวกำไม้ตียุงแน่น ใบหน้าสะสวยใต้เครื่องสำอางอ่อน ในเดรสชุดเดิมบอกว่าเธอไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน“คุณเฌอ...” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ หญิงสาวเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว เธอปรือตามองชายหนุ่มซึ่งก้มหน้าลงสำรวจสภาพตนเอง มีผ้าห่มสีดำคลุมตัวอยู่ เป็นผืนเดียวกับที่เธอชอบเอาไปกอดนอนตอนงีบหลับในรถระหว่างวันทำงาน“เฌอ... อยู่ตียุงให้น่ะค่ะ คุณปลุกไม่ตื่น ไม่รู้นอนหลับหรือนอนตาย”“ขอโทษนะครับ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ เฌอต่างหากที่ต้องขอโทษ ใช้งานเลขาฯ หนักไป คุณรีบเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ เฌอขอขับรถกลับเองนะ”ในสีหน้างุนงงเพราะเพิ่งตื่นนอน อองเดรกลับแอบซ่อนความรู้สึกผิดอยู่ภายใน เมื่อเขาบกพร่องในหน้าที่ซึ่งยังทำได้ไม่ดีพอ“อย่าคิดมากน่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว เฌอเป็นห่วงรู้ไหม พี่อองเดร...” ในน้ำเสียงอ่อนโยนลงภายใต้สายตาอ่อนหวาน เป็นกันเองเสียจนอีกคนชะงักนิ่งอองเดรสัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างเธอและเขาเปลี่ยนไป เธอย
“แม่... เดี๋ยววันนี้ผมกลับเร็วนะ รอด้วยนะครับ” สายที่วางไปในสีหน้าเป็นกังวล อองเดรแน่ใจว่าคุณแม่คงไม่เลิกคุยโม้โอ้อวดเรื่องสะใภ้คนงาม ป่านนี้ได้รู้กันทั้งซอยว่าลูกชายฝรั่งมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาควรต้องหาทางบอกความจริงให้เร็วที่สุด[แม่ไม่รีบจ้ะ]ข้อความไลน์ส่งตามมาพร้อมรูปถ่ายน่ารักของเขาและแฟนสาวรินน้ำใส่แก้วให้เขาดื่มหลังรับประทานข้าวต้มหมดถ้วย ไม่รู้ว่าคุณแม่แอบถ่ายตอนไหน! ชายหนุ่มสวมเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา พอขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดของอาหารระฟ้า ประตูที่เปิดอ้าออกกว้างยังปรากฏเจ้าของร่างบางในเดรสสีชมพูหวาน แขนพองชีฟองขาวดูสง่างามเข้ากับรองเท้าแก้วส้นสูงและกระเป๋าแบรนด์หนังใบเล็กเท่าฝ่ามือ“แม่นวลชวนไปทานข้าวค่ะ อืม... เฌอว่าเฌออยากไปนะ แม่นวลทำกับข้าวอร่อย”“ตามสบายนะครับ”“ไปในฐานะแฟนพี่นะ โอเคเหรอ?” ใบหน้าสดสวยระเรื่อยิ้มอย่างมีชัย ไม่น่าเชื่อว่าเธอสามารถทำให้เลขานุการมาดนิ่ง สุขุมเยือกเย็นในทุกสถานการณ์โมโหได้สำเร็จ ชายหนุ่มกัดกรามกรอดมองเธอ ด้วยการกดสายตาลงต่ำ แม้ว่าเขายังคงพูดจาในน้ำเสียงสุภาพ “จะไปก็ไปครับ ใครจะไปห้ามคุณเฌอได้”“ขอบคุณค่ะที่รั
แม่บ้านคงไม่ขึ้นมายุ่มย่ามข้างบนในเวลานี้ มือหนาเลื่อนไปจับลูกบิด ปิดประตูเหล็กลงล็อก พอเขาและเธอได้อยู่ตามลำพังในห้องคับแคบ ก็หันมาประจันหน้ากับเจ้านายสาว โดยไม่ปล่อยมือนุ่มเย็นเฉียบและสั่นเทาไม่ต้องบอกเลยว่าความเข้มแข็ง เย็นชา ความรู้สึกสาแก่ใจเมื่อเจ้านายสาวผู้หยิ่งผยองเพิ่งได้รับผลกรรมของเธอนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น“ผม... ว่าจะพังประตูเข้าไปอยู่ คุณ... ไม่เป็นไรนะ?”“อือ... ยังสบายดี”“โกหกไม่เก่ง... ไม่เก่งเลย”เธอฝืนยิ้มตอบ “ขอบคุณค่ะ”เลขานุการหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอา ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดปลอบ เมื่อเจ้านายสาวตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กน้อย เธอกำลังต้องการการปลอบโยนจากใครสักคนอองเดรรับรู้ได้ถึงลมหายใจหอบสั่นเพราะความกลัว เสียงกรามกระทบกัน เรือนร่างบอบบางสั่นระริกไปทั่วทุกอณู จึงเลื่อนมืออีกข้างหนึ่งขึ้นลูบศีรษะน้อยเบา ๆ“ไม่เป็นไรแล้ว ใจเย็น ๆ ก่อนนะ เดี๋ยวหอบนะครับ”เฌอเอมจำต้องยอมกลายเป็นลูกนกในกำมือเขา หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมาโดยไร้ต้นสายปลายเหตุ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเด็กเล็ก ซุกดวงตาพร่ามัวลงบนเสื้อเชิ้ตกลิ่นหอมโคโลญจน์บุรุษอันคุ้นเคยในอ้อมแขนของชายผู้เป็นความปลอดภัยเพียงหนึ่งเดีย
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา
“แขนไปโดนอะไรมา ฉีดยาเหรอ? วัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือว่ายาอะไร เพิ่งฉีดไปเองนี่”“เฌอไปฉีดยาคุมมาน่ะ กลัวหญิงแม่มารื้อกระเป๋าเฌอ แต่ว่าคงไม่มาหรอกช่วงนี้มีคนประกบเฌอ อาป๊าเหม็นขี้หน้าไอ้วัชระแล้วด้วย” เฌอเอมไม่ได้ต่อว่าเขาผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ ขณะก้มหน้าลงมองรอยสำลี ซึ่งถ้าหากว่าไม่เข้ามาใกล้ ๆ คงไม่เห็น“เฌอว่าแบบนี้สะดวกกว่า”“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ป้องกันเอง เฌอก็...”หญิงสาวทำลดเสียงลงกระซิบ “เฌอไม่ชอบให้มีอะไรมากั้น เฌอรู้สึกดีกับพี่ค่ะ”“โธ่ น้องเฌอ เรานี่จริง ๆ เลยนะ พี่ไม่อยากให้เฌอเจ็บรู้ไหม”“ไม่เจ็บค่ะ แหม เข็มอันนิดเดียว เคยโดนใหญ่กว่านี้เยอะ”คำพูดมีนัยในท่าทางหยอกล้อ อองเดรไม่หัวเราะตามเธออย่างเคย ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับเธอทุกประการ สัมผัสรสชาติการมีอุปกรณ์ขวางกั้นบาง ๆ บางแค่ไหนก็ยังรู้สึกขัดใจเมื่อเคยลิ้มรสชาติสัมพันธ์ที่สุขสมทว่าการเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ผลักภาระให้ฝ่ายหญิงทุกอย่างไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่อยากให้เธอเจ็บแม้สักนิดเดียว แต่เป็นอันว่ารู้กันเรื่องความดื้อรั้นของเฌอเอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอไม่ยอม พอมีคุณพ่อให้ท้าย งานหมั้น
“ป๊า... ทำไมเอาเลขาฯ เฌอไปใช้งานอะคะ แล้วใครจะช่วยงานเฌอล่ะ?” เสียงหวานเรียกผ่านประตูบานคู่ที่เปิดอ้าออกกว้าง ห้องทำงานของอาจารย์ชรัณถัดไปอีกห้องหนึ่ง ติดกับห้องทำงานหลักซึ่งเป็นออฟฟิศของพนักงาน ทั่วทั้งห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ นาน ๆ เจ้าของห้องจะเข้ามาสักครั้ง“เลขาฯ เต็มบริษัท อยากได้คนไหนเลือกเอา เอาคุณนิดหน่อยไปก็ได้”ใบหน้าสดสวยตื่นตะลึง หันไปทางหาเลขาฯ คนโปรดตรงมุมห้อง เขากลับทำเป็นไม่สนใจเธอ เลยกลับมาเบิกตากว้างมองหน้าตานิ่งเฉยของคุณพ่ออีกรอบ“ทำไมทำหน้าเหมือนไฟไหม้บ้าน”“ป๊าก็รู้ว่าแกเป็นไงปะ ให้ลูกเรียกเลขาฯ คนนั้นมาทำงานด้วย เหมือนไม่ได้เรียกเลขานุการ เหมือนมีเจ้านายอีกคนมาสั่งงาน”“เอา ๆ ไปเถอะ สักคนน่ะ อย่าเรื่องมากนะลูกนะ คุณนิดเธอก็ทำงานดี”อยู่ดี ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน หญิงสาวยกมือกอดอก กลอกตาไปมาว่า “โอเค งั้นเฌอเรียกคุณนิดหน่อยมาทำงานด้วยกันก็ได้...”“นี่ ๆ อย่าไปแกล้งเธอนะ ถึงเธอเป็นอย่างนั้น ป๊าว่าเธอทำงานละเอียด เธออดทนไม่บ่นเรื่องงานหนักด้วย”“ดีของป๊ากับดีของเฌออาจไม่เท่ากัน เฌอมีมาตรฐานการทำงานค่อนข้างสูงนะคะ”ร
ถึงทำเรื่องเกินตัวไปสักหน่อย แต่อองเดรก็มีเหตุผล มันเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำ เมื่อเขาไม่อยากเป็นคนในความลับ เป็นผู้ชายคั่นเวลาให้เธอกินยามหิว สักวินาทีเดียวก็ไม่อยากจะเป็น! เขายินดียืดอกรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายเลขานุการในเชิ้ตหล่อเหลาหิ้วกระเป๋าหนังคู่กาย ตามคุณพ่อของเจ้านายมาถึงร้านอาหารไทยชื่อดังย่านทองหล่อด้านหน้าห้องอาหาร VIP เป็นประตูไม้สลักลวดลายสวยงาม บานประตูคู่ชนชิดกัน ลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีห้องรับรองแขกเป็นห้อง ๆ ไป เหมาะสำหรับลูกค้ามารับประทานอาหารกับครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัวร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่นิยมของผู้ใหญ่วัยเกษียณ มีฐานะพอสมควร อาหารรสเลิศปรุงโดยพ่อครัวระดับแชมป์ แม่นวลเองก็รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี เคยพาลูกชายมารับประทานอาหารเป็นประจำ“ห้ามทิ้งงานในบริษัท ป๊าไม่มีลูกแล้ว มีแค่คนเดียว ถ้าป๊าตาย ลูกสาวไม่ทำงาน คนอื่น ๆ ก็ตกงานนะ บริษัทเรามีพนักงานตั้งกี่ชีวิต มีกี่ร้อยสาขา” อาป๊าเพิ่งวางมือจากแท็บเล็ต ท้องหิวก็ก้มหน้ารับประทานอาหารอาหารจานโปรดของคุณพ่อเป็นมัสมั่น เมนูจำพวกปลานึ่งและทอด อองเดรรับประทานไปได้ไม่เยอะ เพราะมัวแต่นั่งฟังอีกฝ่ายเล่า