“คนอื่นเขาจะมองยังไงล่ะครับ ผมไม่อยากรับอะไรจากคุณเฌอ...”
“คุณก็เก็บไว้ที่บ้าน ไม่มีใครรู้หรอกน่ะถ้าคุณไม่พูด มันจะเป็นความลับแน่นอน เคนะ” ในน้ำเสียงแผ่วเบาลงอีก หญิงสาวไม่เสียเวลาถกเถียงกับเขาต่อ มือเรียวคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดบนโต๊ะทำงานเลขาฯ ขึ้นสะพายพาดบ่าพร้อมบอกลา พอดีกับที่เสียงเข้มเรียก
“คุณเฌอจะไปไหนครับ ไม่ทำงานหรือ?”
หญิงสาวก้มหน้าลงลดเสียงลงให้เบาที่สุด “เฌอแค่แวะมาบอกคุณเรื่องรองเท้าไง รับไว้ด้วยนะ ห้ามบอกใครล่ะว่าเฌออยู่ที่ไหน”
“คือผมไม่ต้องการรองเท้า ผมอยากทราบว่าคุณจะกลับมาทำงานเมื่อไรครับบอส” ในรอยยิ้มเป็นกันเองขณะที่ยังแอบกระซิบกระซาบกับเจ้านายสาวด้วยท่าทางดุดัน เขาไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่!
“เออ... เดี๋ยวโทรบอกเอง ไปก่อนนะ”
“แต่คุณหญิงโวยวายเรื่องคุณไม่เข้าประชุมนะครับ เธอถามผมว่าลูกสาวหายไปไหน ทำไมไม่มาทำงาน ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกแม่สักคำ”
“งั้น... คุณจัดการเอกสารบนโต๊ะเสร็จ ค่อยตามเฌอไปทีหลังละกัน ช่วงนี้บอสรู้สึกไม่ค่อยสบายนะคะ ขอ WFH ค่อกแค่ก...” พูดพลางแสร้งยกมือขึ้นป้องปาก จากนั้นเจ้านายสาวก็เดินโซเซออกจากห้องทำงาน
----------------------------------
คุณเฌอไม่สบาย... มันจะเป็นไปได้ยังไง!
ใคร ๆ ก็เห็นว่าเธอแต่งตัวสวย เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังอลังการ เตรียมออกงานกาล่าดินเนอร์ ทั้งเดรสสีขาวผูกโบแดงน่ารักความยาวประรองเท้าแก้วสูงสามนิ้ว ประดับด้วยคริสทัลสีแดงอันเล็ก ๆ ลิปสติกแดงเคลือบริมฝีปากอิ่ม แลดูน่ารักโฉบเฉี่ยวเหมาะสมกับเธอ
อองเดรได้แต่นั่งหงุดหงิดเจ้านาย ขณะที่เขาคงได้ใช้เวลาไม่นานกับการนั่งหลังขดหลังแข็งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อมันถูกโยนให้เป็นหน้าที่ของพนักงานคนอื่น เพราะคุณพ่อใหญ่อยู่ดี ๆ ก็โผล่เข้ามา
“นี่ ๆ ฝรั่ง รบกวนหน่อยนะลูกนะ ป๊าว่าจะฝากดูยัยเฌอให้ป๊าหน่อย งานพวกนี้ให้คนอื่นเขาทำไป”
หนุ่มวัยหกสิบกว่า ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายพิมพ์เดียวกับลูกสาวคนสวย ในสูทสีเข้มราคาแพง รองเท้าปลายแหลมเป็นเงามัน บุคลิกภาพอันโดดเด่นที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนนี้แหละเจ้าของ IMR คอสเมติก ผู้ถือหุ้นกว่า 80 % ของบริษัทในสัดส่วนเท่ากันกับคุณหญิง
“คุณอองเดรยังไม่เคยเจออาจารย์ชรัณล่ะสิ”
“ครับ สวัสดีครับอาจารย์ชรัณ” เขาตอบทั้งท่านอาจารย์ที่เพิ่งจะได้รู้จัก และคุณป้าปิ๊กผู้แนะนำเจ้าของบริษัทให้เป็นอย่างยินดี ก่อนถูกกวักมือเรียกไป
“ฝรั่งมากับป๊าหน่อย ไปกินกาแฟกัน ไป ๆ”
หนึ่งคำก็... ฝรั่ง!
อีกคำหนึ่งก็... ป๊า!
เลขานุการคนโปรดของคุณเฌอเอมคงมีเวลาตกใจไม่นาน เมื่อทุกคนในห้องต่างรีบยกมือไหว้ลาอาจารย์ชรัณ อดีตศาสตราจารย์ใหญ่ ส่วนตัวเลขาฯ ถูกดึงชายเสื้อไปตบบ่าตบไหล่ประสาผู้ชายตัวโตด้วยกัน เพื่อเดินไปซื้อกาแฟ นั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มบริเวณล้อบบี้ของอาคารระฟ้า
อองเดรวางตัวไม่ค่อยถูก ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกฝ่ายเป็นถึงพ่อของเจ้านายเขาอีกทีหนึ่ง เขาเคยได้ยินมาว่าเจ้าของบริษัทอีกคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาก่อนพบคุณหญิงวริศรา ค่อยมาเปิดบริษัทคอสเมติกจนติดแบรนด์ดังขึ้นห้าง ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ผ่านร้อนหนาวมาด้วยกันร่ำรวยจนทุกวันนี้
ท่านอาจารย์เจ้าของบริษัทแทนตัวเองว่าอาป๊า ทำตัวเป็นกันเองแทนที่จะปฏิบัติตนเหมือนกับว่าเขาเป็นลูกจ้าง จากนั้นเขายังได้ยินคำถามประหลาด ๆ
‘ได้รู้จักกับคนนั้นหรือยังน่ะ ลูกเขยคนดีของคุณหญิงเธอน่ะ เป็นคนยังไงนะ?’
อองเดรไม่มีวิสัยที่จะนินทาเจ้านายหรือคิดใส่ร้ายป้ายสีใครอยู่แล้ว เขารู้แค่ว่าเจ้านายสาวไม่ชอบขี้หน้าว่าที่คู่หมั้นสุดบ้ากาม แต่ไม่ได้พูดออกไป
“...คุณเฌอไม่ค่อยชอบเขานะครับ ที่เหลือผมไม่ทราบรายละเอียดมาก”
“อ้อ งั้นหรือ ไม่เป็นไร ๆ ฝากดูให้หน่อยละกัน มีอะไรโทรหาป๊านะ แอดไลน์มาด้วย เดี๋ยวคุยกันในแช็ต ป๊าไปก่อนนะ พอดีมีประชุมด่วน” คุณพ่อใหญ่ส่งนามบัตรให้กับมือ ค่อยลุกขึ้นไปจ่ายค่ากาแฟให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปอย่างฉับไวเหมือนมีธุระด่วนเอามาก ๆ
ฝรั่งผู้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่ลับตาไปอย่างงุนงง
แปลก...
ครอบครัวนี้แปลก!
คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
คนเป็นเลขาฯ ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความไม่เข้าใจ ค่อยตัดสินใจยกโทรศัพท์โทรหาเจ้านายสาว เพื่อบอกเรื่องนี้กับเธอ
----------------------------------
หญิงสาวชะโงกคอมองตามรถตู้สีดำเลี้ยวออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินของบริษัท ป้ายทะเบียนเลขตอง รู้ได้เลยว่าเป็นรถใครใช้มันอยู่ประจำ ก็คงไม่ใช่คุณหญิงแม่ซึ่งยังไม่กลับจากเมืองนอก เธอจึงย้อนกลับเข้ามาหาอองเดรเพื่อถามเรื่องอาป๊า ด้านหน้าอาคารระฟ้าที่มีพนักงานออฟฟิศเดินผ่านไปผ่านมา มือส่งกุญแจรถให้เขารับไป
“ป๊ามาหาคุณหรือ เขาว่ายังไงบ้างคะ?”
“ไม่มีอะไรมากครับ คุณพ่อถามถึงคุณเฌอนิดหน่อย เขาคงเป็นห่วงคุณน่ะ”
“อ้อ... แค่เท่านั้นหรือคะ?” เธอหรี่ตามองสีหน้าเรียบเฉยของเลขาฯ อย่างจับผิด เขาก็ตอบเธอแค่ครับ ๆ ว่าจะโทรบอกเธอพอดี ด้วยท่าทางร้อนรนเหมือนพูดรายละเอียดไม่หมด แต่เธอคงไม่มีเวลาซักถามเอาความ
“เฌอจะ WFH นะ ประชุมผ่านวิดีโอคอลทั้งหมด เย็นนี้จะไปดินเนอร์กับเพื่อนสาวก่อน คุณจะไปด้วยกันหรือเปล่าคะ?”
“ต้องไปสิครับ ผมมีหน้าที่ดูแลคุณเฌอ มีทางเลือกมากที่ไหน เจ้านายคอยคอนโทรลชีวิตทุกอย่าง ขนาดรองเท้ายังต้องรับเอาไว้”
นั่นเขาจิกกัดเธอ!
เจ้านายสาวหน้าตาบึ้งตึงหนัก ถึงจะเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เธอไม่ยอมให้เขาคืนรองเท้าคู่นั้นและเขาไม่พอใจเธอ เมื่อเดินนำหน้าเขาไปถึงลานจอดรถยนต์ เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทเปิดประตูรถให้เธอสะบัดชายกระโปรงพลิ้วยาวนั่งในที่นั่งข้างหลัง เธอประสานมือไว้บนหน้าตัก รอกระทั่งเขาปิดประตูลงนั่งหน้าพวงมาลัย
“เฌอขอโทษที่ทำให้คุณอึดอัดใจนะ ต่อไปนี้เฌอคงไม่ขออะไรจากคุณอีก ช่วยรับน้ำใจของฉันสักครั้งเถอะนะ”
“ตามใจคุณเฌอแล้วกัน”
“งอนชัด ๆ” พึมพำว่าคนที่ทำเป็นไม่สนใจเธอ พอปลายรองเท้าเป็นเงามันแตะคันเร่งเบา ๆ รถยนต์เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ คนขับก็ยังไม่ถามหาจุดหมายปลายทาง
บนโซฟากำมะหยี่สีขาวดูหรูหราในห้องสูทผู้บริหารของโรงแรมระดับห้าดาว ดอกเตอร์สาวคนดังสวมเดรสสีแดงตัดดำ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่อย่างขณิกาแต่งตัวเรียบร้อยสักหน่อย สไตล์ไฮโซกระโปรงยาวถึงตาตุ่มเข้ากับเสื้อคอสูงแขนสั้นน่ารัก อีกสองสาวอยู่ในเดรสสบาย ๆ สีขาว เรียบหรูดูดีเน้นเครื่องประดับเพชร พวกหล่อนนั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามเจ้าของงานเฌอเอมเลือกเดรสสายเดี่ยวสีขาว มีโบอันใหญ่น่ารักด้านหลัง คลุมทับด้วยเสื้อสูทแบบคลุมไหล่แฟชั่นมาประชันตามนัดหมาย เธอก็คงสวยไม่แพ้ใครในคอนเซ็ปต์สวยเลิศดูแพง สมเป็นหัวหน้ากลุ่มเซเลบสาวน่าเสียดายที่คงอยู่ได้ไม่นาน พอนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มตรง เธอชะโงกคอมองออกไปด้านนอก บริเวณเก้าอี้โซฟาเดี่ยวถัดจากห้องรับรองกว้างขวาง“เอ้อ... ฉันขอกลับไวนะแก พรุ่งนี้ทำงานเช้าอะ ใช้งานเลขาฯ หนักมาหลายวันละด้วย”“ย่ะ เพื่อนมองเห็นอยู่ว่าหนุ่มคนนี้สำคัญ หญิงเฌอดูแลดีเป็นพิเศษเลยนะ” ในรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของดอกเตอร์สาว เป็นอันรู้กันว่าเพื่อนสนิทคิดอะไร แค่มองตาก็รู้ใจมือเรียวหยิบหลุยส์ วิตตองใบจิ๋วสะพายพาดบ่า เฌอเอมได้รับความช่วยเหลือจากเลขานุการหนุ่มรูปงามเดินเข้ามารับของจากเธอซึ่งขยับปลายส้นสูงสามน
เพราะดันนอนหลับสบายถึงเช้า ไม่โดนยุงสักตัวไล่เข้าบ้าน ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทพลันลุกขึ้นนั่งหลังตรง เบิกตากว้างมองคนข้างกาย เธอเอนเบาะนอนอยู่หน้าพวงมาลัยรถยนต์ แง้มกระจกลงพอประมาณให้พอมีอากาศพัดผ่าน มือเรียวกำไม้ตียุงแน่น ใบหน้าสะสวยใต้เครื่องสำอางอ่อน ในเดรสชุดเดิมบอกว่าเธอไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน“คุณเฌอ...” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ หญิงสาวเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว เธอปรือตามองชายหนุ่มซึ่งก้มหน้าลงสำรวจสภาพตนเอง มีผ้าห่มสีดำคลุมตัวอยู่ เป็นผืนเดียวกับที่เธอชอบเอาไปกอดนอนตอนงีบหลับในรถระหว่างวันทำงาน“เฌอ... อยู่ตียุงให้น่ะค่ะ คุณปลุกไม่ตื่น ไม่รู้นอนหลับหรือนอนตาย”“ขอโทษนะครับ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ เฌอต่างหากที่ต้องขอโทษ ใช้งานเลขาฯ หนักไป คุณรีบเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ เฌอขอขับรถกลับเองนะ”ในสีหน้างุนงงเพราะเพิ่งตื่นนอน อองเดรกลับแอบซ่อนความรู้สึกผิดอยู่ภายใน เมื่อเขาบกพร่องในหน้าที่ซึ่งยังทำได้ไม่ดีพอ“อย่าคิดมากน่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว เฌอเป็นห่วงรู้ไหม พี่อองเดร...” ในน้ำเสียงอ่อนโยนลงภายใต้สายตาอ่อนหวาน เป็นกันเองเสียจนอีกคนชะงักนิ่งอองเดรสัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างเธอและเขาเปลี่ยนไป เธอย
“แม่... เดี๋ยววันนี้ผมกลับเร็วนะ รอด้วยนะครับ” สายที่วางไปในสีหน้าเป็นกังวล อองเดรแน่ใจว่าคุณแม่คงไม่เลิกคุยโม้โอ้อวดเรื่องสะใภ้คนงาม ป่านนี้ได้รู้กันทั้งซอยว่าลูกชายฝรั่งมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาควรต้องหาทางบอกความจริงให้เร็วที่สุด[แม่ไม่รีบจ้ะ]ข้อความไลน์ส่งตามมาพร้อมรูปถ่ายน่ารักของเขาและแฟนสาวรินน้ำใส่แก้วให้เขาดื่มหลังรับประทานข้าวต้มหมดถ้วย ไม่รู้ว่าคุณแม่แอบถ่ายตอนไหน! ชายหนุ่มสวมเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา พอขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดของอาหารระฟ้า ประตูที่เปิดอ้าออกกว้างยังปรากฏเจ้าของร่างบางในเดรสสีชมพูหวาน แขนพองชีฟองขาวดูสง่างามเข้ากับรองเท้าแก้วส้นสูงและกระเป๋าแบรนด์หนังใบเล็กเท่าฝ่ามือ“แม่นวลชวนไปทานข้าวค่ะ อืม... เฌอว่าเฌออยากไปนะ แม่นวลทำกับข้าวอร่อย”“ตามสบายนะครับ”“ไปในฐานะแฟนพี่นะ โอเคเหรอ?” ใบหน้าสดสวยระเรื่อยิ้มอย่างมีชัย ไม่น่าเชื่อว่าเธอสามารถทำให้เลขานุการมาดนิ่ง สุขุมเยือกเย็นในทุกสถานการณ์โมโหได้สำเร็จ ชายหนุ่มกัดกรามกรอดมองเธอ ด้วยการกดสายตาลงต่ำ แม้ว่าเขายังคงพูดจาในน้ำเสียงสุภาพ “จะไปก็ไปครับ ใครจะไปห้ามคุณเฌอได้”“ขอบคุณค่ะที่รั
แม่บ้านคงไม่ขึ้นมายุ่มย่ามข้างบนในเวลานี้ มือหนาเลื่อนไปจับลูกบิด ปิดประตูเหล็กลงล็อก พอเขาและเธอได้อยู่ตามลำพังในห้องคับแคบ ก็หันมาประจันหน้ากับเจ้านายสาว โดยไม่ปล่อยมือนุ่มเย็นเฉียบและสั่นเทาไม่ต้องบอกเลยว่าความเข้มแข็ง เย็นชา ความรู้สึกสาแก่ใจเมื่อเจ้านายสาวผู้หยิ่งผยองเพิ่งได้รับผลกรรมของเธอนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น“ผม... ว่าจะพังประตูเข้าไปอยู่ คุณ... ไม่เป็นไรนะ?”“อือ... ยังสบายดี”“โกหกไม่เก่ง... ไม่เก่งเลย”เธอฝืนยิ้มตอบ “ขอบคุณค่ะ”เลขานุการหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอา ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดปลอบ เมื่อเจ้านายสาวตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กน้อย เธอกำลังต้องการการปลอบโยนจากใครสักคนอองเดรรับรู้ได้ถึงลมหายใจหอบสั่นเพราะความกลัว เสียงกรามกระทบกัน เรือนร่างบอบบางสั่นระริกไปทั่วทุกอณู จึงเลื่อนมืออีกข้างหนึ่งขึ้นลูบศีรษะน้อยเบา ๆ“ไม่เป็นไรแล้ว ใจเย็น ๆ ก่อนนะ เดี๋ยวหอบนะครับ”เฌอเอมจำต้องยอมกลายเป็นลูกนกในกำมือเขา หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมาโดยไร้ต้นสายปลายเหตุ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเด็กเล็ก ซุกดวงตาพร่ามัวลงบนเสื้อเชิ้ตกลิ่นหอมโคโลญจน์บุรุษอันคุ้นเคยในอ้อมแขนของชายผู้เป็นความปลอดภัยเพียงหนึ่งเดีย
น่าเห็นใจคุณเฌอ เธอเป็นผู้หญิงโชคร้าย... โชคร้ายจริง ๆ ถ้าต้องแต่งงานกับคนพรรค์นี้ เธอได้ตกนรกทั้งเป็นแน่คิดเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาพลันขยับไปทางลิฟต์ที่เปิดอ้าออกกว้าง คุณหญิงวริศราในชุดผ้าไหมเข้ากับเครื่องเพชรพลอยอลังการเดินเข้ามาหา ทั้งที่ปรกติไม่เคยมาเพราะมัวแต่งานยุ่งหัวหมุน เดินสายดูงานกับคุณพ่อใหญ่“ดินเนอร์คืนนี้ ลูกเอ็มเขาว่าง ลูกสาวฉันก็ควรจะว่างนะ คุณส่งตารางงานมา” ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ออกไปทางว่าตำหนิการทำงานของเลขานุการ ชายหนุ่มกลับยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร “เธอมีประชุมถึงสองทุ่มครึ่งที่แชงกรีล่า กับคู่ค้าบริษัทในเครือพร็อพเพอร์ตี้ ไม่น่าจะเลื่อนนัดได้นะครับ”คุณหญิงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด คงถามว่าที่ลูกเขยว่าว่างอีกทีเมื่อไร ทว่ายังไม่ได้คำตอบกลับ หล่อนชายตามองเลขาฯ ด้วยสายตาเกลียดชัง“คนรวยน่ะ เวลาแต่ละวันมีค่ายิ่งเสียกว่าอะไร ไม่ว่างก็ทำให้ว่าง โดยเฉพาะบ้านนั้นเขายุ่งกว่า...”“ผมเข้าใจครับ แต่คุณเฌอเธองานยุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลยนะครับ เธอดูซึมลง ไม่ค่อยแข็งแรง สองสามวันนี้ก็ไอค่อกแค่ก”“เป็นปัญหาของคุณนะมิสเตอร์อองเดร คุณจัดตารางงานสมูธลงตัว ทุกอย่างก็เป็นไปได้”“งั้
“กินอะไรคะ? อร่อยไหม แบ่งเฌอกินด้วยได้เปล่า”“แซนด์วิชของพี่หมดแล้วครับ ไม่เหลือเลยทำไงดี” แววตาเย้าหยอกผิดจากเลขาฯ มาดเนี้ยบ หน้าห้องทำงานของเจ้านายสาวตอนนี้คงไม่มีใคร ชายหนุ่มไม่ลืมกล่องข้าวอีกใบหนึ่งในถุงใต้โต๊ะทำงานของเขา“วันนี้แม่นวลห่อข้าวผัดมาเผื่อด้วยนะ”“จริงหรือคะ? อยากกินจัง กับข้าวแม่นวลอร่อยทุกอย่างเลย ไหนล่ะข้าวของเฌอ” หน้าตาระรื่นของเธอดูหิวอาหาร ทั้งที่เพิ่งดื่มกาแฟมาตอนเช้า เดินตามเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีเข้มไปแผ่นหลังกว้างกำยำให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง อีกครั้งที่เธอเผลอใจเต้นโครมคราม เมื่อลอบมองรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เหมือนกับว่าเจ้าตัวดูภาคภูมิใจกับอาหารของคุณแม่ ทันใดนั้นเอง ความฝันของเฌอเอมพังทลายลงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าสองคู่ พวกเขาเพิ่งออกจากลิฟต์ เดินมาถึงหน้าห้องทำงานเธออย่างรวดเร็ว“น้องเฌอ... ไปกินข้าวกันครับ เดี๋ยวพี่ก็เข้าประชุมละ คงไม่รบกวนเวลาน้องเฌอนาน”“ไป... ลูกเฌอ”----------------------------------หลายวันมานี้ ว่าที่ลูกเขยของบ้านไอยเรศคอยหาเวลามารับประทานอาหารเช้าด้วยกันกับคุณหญิงและลูกสาว ด้านล่างอาคารระฟ้ามีร้านอาหารให้เลือกมากมายหลายอย่า
ชายหนุ่มจัดการกับแก้วสุดท้ายที่เหลือจากก้นขวดทรงกลม ตั้งใจดื่มอย่างไม่ให้เสียของ ส่วนหนุ่มอเมริกันผู้มีสติมากกว่า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเรียกรถยนต์มารับเพื่อนไม่มีใครทันสังเกตเห็นร่างบางในเดรสคุณหนูอยู่ข้างโต๊ะกระจกที่มีอาหารวางอยู่ประปราย สองมือเรียวกอดกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมหนังสีขาว หน้าตาถมึงทึง เธอมายืนตรงนี้ตอนไหนไม่รู้ได้เพราะต่างคนมัวแต่ดื่ม ได้ยินปลายเสียงแหลมเล็กออกคำสั่ง“ไม่ต้องโทรเรียกรถแล้วค่ะ ฉันจะพาเขากลับเอง”----------------------------------ปัญหาของเฌอเอมคือการแบกฝรั่งร่างหนาใหญ่เทอะทะ สูงเกือบสองเมตร! ยัดเข้าไปในเมอร์เซเดสเบนซ์บนเบาะที่นั่งด้านหลังแล้วขับไปส่งที่บ้าน เธอยังต้องอดทนกับกลิ่นเหล้า เสียงบ่นโวยวายบริภาษว่ายัยเฌอทำไมร้ายกาจนักหนา ไม่เห็นเหมือนเจ้านายเพื่อนเลขาฯ ที่เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าตัวรีบเผ่นกลับบ้านไปหาเมีย แต่กลับยกหน้าที่ทุกอย่างให้เจ้านายร้ายกาจอย่างเธอโชคดีที่บ้านคุณแม่นวลใกล้กันกับร้านอาหาร พอมาถึงแล้วคุณแม่เข้ามาช่วยหามปีกซ้าย ส่วนตัวเธอรับหน้าที่ทางฝั่งขวา พาลูกชายขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเล“อองเดรไม่เคยเมาเลยนะลูก เวลาไปนั่งกินข้าวกับอลัน ไปกับเพื่อ
เฌอเอมไร้ประสบการณ์ใกล้ชิดบุรุษเพศ แต่เธอไม่ใช่คนหัวอ่อนที่จะยอมใคร หรือนี่อาจเป็นสิ่งซึ่งเธอปรารถนาต้องการมาตลอดกว่าเขาจะยอมมอบอิสรภาพให้ เรือนร่างงามหอบหายใจแรง ฝ่ามือเล็กเลื่อนขึ้นล้อมรอบกรามแกร่ง ดวงตาฉ่ำปรือจับจ้องนัยน์ตาสีมรกตงดงาม ด้วยอารมณ์รักใคร่หลงใหล“แน่ใจนะคะว่าเราจะทำ?” ถามขึ้นมา ทั้งที่รู้คำตอบของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองชายร่างกำยำผละจากเธอ ยกแขนขึ้นสลัดเสื้อยืดสีดำโยนลงพื้นมัดกล้ามที่เรียงตัวแน่นขนัดบอกว่าเขาดูแลตัวเองดี แม้ทำงานดึกดื่นทุกวัน เขาทำให้เธอร้อนแทบบ้า! การจ้องมองเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบทำให้เธออยากครอบครองเขา ไม่ใช่แค่อยากได้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อหนีงานหมั้นดวงตาคู่สว่างใสเฝ้ามองมัดกล้ามด้วยอารมณ์ประหลาดยากอธิบาย ขณะใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าหาเรือนกายรุ่มร้อน กดริมฝีปากลงบนนั้นอย่างรักใคร่ ไม่ว่างเว้นสักช่วงหนึ่ง“อื้อ... อองเดร” เสียงหวานเพรียกหาชายผู้เป็นที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่รู้ตัวว่าเธอเองก็ทำให้อีกฝ่ายขาดสติ ไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เจือจาง ทำอะไรเขาไม่ได้มากเรื่องถอด... อองเดรดูจะเก่งฉกาจกว่า เฌอเอมไม่รู้ว่าเขาผ่านผู
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา
“แขนไปโดนอะไรมา ฉีดยาเหรอ? วัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือว่ายาอะไร เพิ่งฉีดไปเองนี่”“เฌอไปฉีดยาคุมมาน่ะ กลัวหญิงแม่มารื้อกระเป๋าเฌอ แต่ว่าคงไม่มาหรอกช่วงนี้มีคนประกบเฌอ อาป๊าเหม็นขี้หน้าไอ้วัชระแล้วด้วย” เฌอเอมไม่ได้ต่อว่าเขาผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ ขณะก้มหน้าลงมองรอยสำลี ซึ่งถ้าหากว่าไม่เข้ามาใกล้ ๆ คงไม่เห็น“เฌอว่าแบบนี้สะดวกกว่า”“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ป้องกันเอง เฌอก็...”หญิงสาวทำลดเสียงลงกระซิบ “เฌอไม่ชอบให้มีอะไรมากั้น เฌอรู้สึกดีกับพี่ค่ะ”“โธ่ น้องเฌอ เรานี่จริง ๆ เลยนะ พี่ไม่อยากให้เฌอเจ็บรู้ไหม”“ไม่เจ็บค่ะ แหม เข็มอันนิดเดียว เคยโดนใหญ่กว่านี้เยอะ”คำพูดมีนัยในท่าทางหยอกล้อ อองเดรไม่หัวเราะตามเธออย่างเคย ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับเธอทุกประการ สัมผัสรสชาติการมีอุปกรณ์ขวางกั้นบาง ๆ บางแค่ไหนก็ยังรู้สึกขัดใจเมื่อเคยลิ้มรสชาติสัมพันธ์ที่สุขสมทว่าการเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ผลักภาระให้ฝ่ายหญิงทุกอย่างไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่อยากให้เธอเจ็บแม้สักนิดเดียว แต่เป็นอันว่ารู้กันเรื่องความดื้อรั้นของเฌอเอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอไม่ยอม พอมีคุณพ่อให้ท้าย งานหมั้น
“ป๊า... ทำไมเอาเลขาฯ เฌอไปใช้งานอะคะ แล้วใครจะช่วยงานเฌอล่ะ?” เสียงหวานเรียกผ่านประตูบานคู่ที่เปิดอ้าออกกว้าง ห้องทำงานของอาจารย์ชรัณถัดไปอีกห้องหนึ่ง ติดกับห้องทำงานหลักซึ่งเป็นออฟฟิศของพนักงาน ทั่วทั้งห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ นาน ๆ เจ้าของห้องจะเข้ามาสักครั้ง“เลขาฯ เต็มบริษัท อยากได้คนไหนเลือกเอา เอาคุณนิดหน่อยไปก็ได้”ใบหน้าสดสวยตื่นตะลึง หันไปทางหาเลขาฯ คนโปรดตรงมุมห้อง เขากลับทำเป็นไม่สนใจเธอ เลยกลับมาเบิกตากว้างมองหน้าตานิ่งเฉยของคุณพ่ออีกรอบ“ทำไมทำหน้าเหมือนไฟไหม้บ้าน”“ป๊าก็รู้ว่าแกเป็นไงปะ ให้ลูกเรียกเลขาฯ คนนั้นมาทำงานด้วย เหมือนไม่ได้เรียกเลขานุการ เหมือนมีเจ้านายอีกคนมาสั่งงาน”“เอา ๆ ไปเถอะ สักคนน่ะ อย่าเรื่องมากนะลูกนะ คุณนิดเธอก็ทำงานดี”อยู่ดี ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน หญิงสาวยกมือกอดอก กลอกตาไปมาว่า “โอเค งั้นเฌอเรียกคุณนิดหน่อยมาทำงานด้วยกันก็ได้...”“นี่ ๆ อย่าไปแกล้งเธอนะ ถึงเธอเป็นอย่างนั้น ป๊าว่าเธอทำงานละเอียด เธออดทนไม่บ่นเรื่องงานหนักด้วย”“ดีของป๊ากับดีของเฌออาจไม่เท่ากัน เฌอมีมาตรฐานการทำงานค่อนข้างสูงนะคะ”ร
ถึงทำเรื่องเกินตัวไปสักหน่อย แต่อองเดรก็มีเหตุผล มันเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำ เมื่อเขาไม่อยากเป็นคนในความลับ เป็นผู้ชายคั่นเวลาให้เธอกินยามหิว สักวินาทีเดียวก็ไม่อยากจะเป็น! เขายินดียืดอกรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายเลขานุการในเชิ้ตหล่อเหลาหิ้วกระเป๋าหนังคู่กาย ตามคุณพ่อของเจ้านายมาถึงร้านอาหารไทยชื่อดังย่านทองหล่อด้านหน้าห้องอาหาร VIP เป็นประตูไม้สลักลวดลายสวยงาม บานประตูคู่ชนชิดกัน ลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีห้องรับรองแขกเป็นห้อง ๆ ไป เหมาะสำหรับลูกค้ามารับประทานอาหารกับครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัวร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่นิยมของผู้ใหญ่วัยเกษียณ มีฐานะพอสมควร อาหารรสเลิศปรุงโดยพ่อครัวระดับแชมป์ แม่นวลเองก็รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี เคยพาลูกชายมารับประทานอาหารเป็นประจำ“ห้ามทิ้งงานในบริษัท ป๊าไม่มีลูกแล้ว มีแค่คนเดียว ถ้าป๊าตาย ลูกสาวไม่ทำงาน คนอื่น ๆ ก็ตกงานนะ บริษัทเรามีพนักงานตั้งกี่ชีวิต มีกี่ร้อยสาขา” อาป๊าเพิ่งวางมือจากแท็บเล็ต ท้องหิวก็ก้มหน้ารับประทานอาหารอาหารจานโปรดของคุณพ่อเป็นมัสมั่น เมนูจำพวกปลานึ่งและทอด อองเดรรับประทานไปได้ไม่เยอะ เพราะมัวแต่นั่งฟังอีกฝ่ายเล่า