ธรรมดาเขาคงนึกรำคาญใจไม่น้อย เมื่อใจไม่รักดียังเฝ้าฝันว่าจะได้จูบเธออีกไหม มันเป็นจูบที่ดีที่สุดตั้งแต่มีลมหายใจมา แน่ล่ะว่าคำตอบคือไม่ได้ ไม่ควรวันหวั่นไหวกับเจ้านายในที่ทำงานโดยเด็ดขาด
“...ทางนี้ค่ะคุณน้อง เอสเปรสโซ่ขม ๆ จืดชืดจืดสนิท คุณเฌอเอมเธอไม่กินน้ำตาลนะคะ” ผู้จัดการสาววัยห้าสิบห้าเรียกหาเลขานุการคนใหม่ เพื่อบอกเรื่องรายละเอียดเล็กน้อย เมื่อมองเห็นฝรั่งหนุ่มเดินผ่านห้องครัวของออฟฟิศ
พนักงานบริษัท IMR มีห้องทำงานกว้างขวางครอบคลุมทั้งชั้นแปดสิบห้า ชั้นบนสุดของตึกระฟ้า ต่างคนมักมาชงกาแฟดื่มในช่วงเช้า วันนี้บรรดาสาวน้อยใหญ่คงตั้งใจเข้ามาทักทายฝรั่งรูปงาม พูดคุยกับเขาอย่างเป็นกันเอง
“คุณอองเดรอย่าให้เธอดื่มกาแฟเยอะไปนะคะ คุณหมอกำชับเรื่องสุขภาพ นุ้ยได้ยินมาว่าอาทิตย์ก่อนเธอหอบเกือบตายแหนะ”
“จริงด้วย แต่พิมพ์ว่าแปลกอยู่นะคะ เธอไม่ได้หอบมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว คนรวยอะ คุณหญิงเธอพาลูกสาวไปรักษาเมืองนอกนู่น คุณเฌอเอมเธอเลยแข็งแรงดี แทบไม่มีอาการอะไรเลย”
“อ้อ ครับ ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล เรื่องอาการของคุณเฌอเอม คุณนุ้ย คุณพิมพ์นะครับ?”
“ค่ะ ส่วนคนนั้นป้าปิ๊ก” พนักงานสาวชี้ผ่านเข้าไปในห้องทำงานด้านหลัง อีกคนก็รีบเสริม
“มีอะไรถามได้ พวกเรามีข้อมูลเยอะ อยู่มานานแล้ว ยิ่งป้าปิ๊กนะ สามสิบปีค่ะ”
“นานจริงนะครับ นานกว่าผมอีก” ในท่าทีให้ความสนใจกับบทสนทนา อองเดรไม่ใช่คนถือตัวเลย สาว ๆ แต่ละคนจึงบอกเล่าเรื่องราวในที่ทำงานเท่าที่พวกหล่อนสามารถช่วยได้อย่างเต็มใจ โดยเฉพาะเรื่องนินทา
ส่วนคุณป้าปิ๊กผู้จัดการฝ่ายดูแลสินค้าอีกคน ลุกจากที่นั่งของหล่อนมาหลุบตามองซ้ายอย่างระวัง พูดเบา ๆ โดยไม่ได้ยกมือป้องปากกระซิบให้เป็นพิรุธ
“... นังหัวหน้าเลขาฯ มันลาพักร้อน คุณน้องระวังไว้นะ นางชอบทำตัวเป็นเจ้านาย เป็นเจ้าของบริษัท ขนาดพี่ว่าคุณเฌอเอมเธอเฉียบสุด ยังเห็นว่าเธอเกรงใจนางมาก”
“ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายลูกน้อง นางนิดหน่อย นางขี้สั่งไม่หน่อยเลยอะ”
“อีนิด อีบ้า ฮ่า ๆ น้องหมายถึงละครเมื่อคืนน่ะค่ะ ที่เขาตบกันมันเนอะ”
สาววัยสามสิบหัวเราะกลบเกลื่อน เหมือนพูดคุยเรื่องทั่วไป สำหรับอองเดรแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงฝีมือการแสดงของพวกหล่อนน่ะหรือ ระดับรางวัลออสการ์!
แต่ดูท่าทางแล้วนิดหน่อยไม่มีใครชอบเลยสักคน อองเดรสะบัดข้อมือขึ้นดูนาฬิกาครั้งหนึ่ง เกือบจะถึงเวลาที่เจ้านายมาถึงบริษัท ฉีกยิ้มกว้างหวานจนเห็นเขี้ยวคมตรงมุมปาก เรียกเสียงกรี๊ดเบา ๆ จากพวกหล่อนที่ยังไม่ชินสักที
“งั้นผมไปก่อนนะ ขอบคุณครับ”
----------------------------------
อาหารตารสเลิศของบริษัทตอนนี้ หนีไม่พ้นเลขาฯ ฝรั่งรูปงาม นัยน์ตาสีมรกต ขายาวชะลูด ด้วยความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรทำให้กางเกงสแล็คเข้ารูปธรรมดา กลายเป็นกางเกงขาเต่อตามเทรนด์ปี 70 ปลายรองเท้าเป็นเงามันเตะตาสาว ๆ ทั้งอาคารให้หันคอมองขวับ
ตัวเขาแทบจะสูงสุดในตึกเวลานี้ บรรดาหนุ่มสาวเอเชียมาเดินเฉียดใกล้ ราวว่าจมหายไปในกลุ่มผู้คนซึ่งกลายเป็นหมู่คนแคระเลยทีเดียว
อองเดรรู้ตัวเองดี เขาเลยพยายามเดินตามหลังเจ้านายสาว เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม เวลาพูดจากับเจ้านาย เขาจะก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ใช้การหลุบสายตาลงมองคนตัวเตี้ยกว่า เพื่อความสุภาพและมีมารยาท
ในเรื่องของการทำงานก็ไร้ที่ติ เขามาทำงานได้แค่สามวันเลยถูกจับตามองจากเจ้านายใหญ่อย่างคุณหญิงวริศรา ไอยเรศ ไหนจะว่าที่คู่หมั้นของคุณเฌอเอมที่เห็นภาพบาดตาบาดใจ หายหน้าหายตาไปหลายวัน
“ฉันขอกาแฟเพิ่มอีกแก้ว วันนี้คงเลิกดึกนะ” เสียงหวานบอกคนที่เดินตามหลัง เธอไม่ลืมว่าดื่มกาแฟมาสองแก้วแล้ว ขณะปลายส้นสูงของรองเท้าหนังสีขาวก้าวเดินฉับไว หยุดหน้าประตูไม้สักสลักลายงดงาม
“คุณหมอแนะนำว่าไม่ควรดื่มเกินสามแก้วนะครับ อาจารย์หมอขอนัดหมายตรวจสุขภาพด้วย พยาบาลแจ้งว่าคุณมีอาการหอบ ทั้งที่ไม่หอบมานานแล้ว”
“งั้นแก้วสุดท้ายเลย ชงมาครึ่งแก้วก็ได้” ไม่ทันจะได้เปิดประตู เธอพลันขมวดคิ้วมุ่น หันไปบอก “มีรายงานว่าการดื่มกาแฟวันละสามแก้วสามารถลดอาการหอบหืด”
“รายงานที่ไหนครับ เชื่อถือได้หรือเปล่า?”
หญิงสาวกลอกตาไปมา ไม่น่าเชื่อว่าคนมีความรู้ มีวุฒิภาวะอย่างเธอจะกล้าตอบ
“อ่านมาในเน็ต”
“อ้อ มีที่มาที่ไปอยู่นะครับ”
“มีสิ แต่ว่าไม่รู้เชื่อถือได้ไหมนะ เอ้อ... ” แล้วเธอก็เงียบไป ไหวไหล่มองไปอีกทางด้วยท่าทางเขินอาย “แบบว่าฉันคงเป็นโรคสำออยน่ะ แต่ตกลงไปหาหมอเย็นนี้”
เลขาฯ หนุ่มคงไม่กล้าหัวเราะเยาะเจ้านายในพื้นที่สาธารณะ ยังเผลอคิดว่าเธอกำลังเล่นมุกตลก ขณะเอื้อมมือไปเปิดประตูให้ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตเปลี่ยนตารางนัดหมายให้บอสใหม่ หาหมอไม่น่านานเกินสองชั่วโมง แล้วนัดทานข้าวกับคุณ...”
“ไม่ไปค่ะ ฉันไม่อยากไป คุณโทรบอกหญิงแม่ให้หน่อยว่าฉันหอบขึ้นมากะทันหัน อาจหาหมอนานเกินสองชั่วโมง”
เฌอเอมมีสีหน้าหงุดหงิดหลังจากนั้น เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาผู้บริหาร ด้วยความคิดว่าทำไมต้องได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่เรื่อย ทำไมเธอจะต้องเป็นนกน้อยในกรงทอง พอพูดถึงศัตรูตัวฉกาจ อีตาคู่หมั้นโรคจิตอย่าง ‘วัชรพล’
คนบ้าอะไรชื่อเหมือนถนน! อุปนิสัยก็ดิบเถื่อนแข็งกระด้างเหมือนดินลูกรัง ขืนแต่งงานไปได้ตกนรกทั้งเป็น ต่อให้คุณหญิงแม่จะชอบเขาเพราะร่ำรวยก็ตามที
ข้อดีเพียงข้อเดียวที่ผู้ชายคนนี้มีก็คือปลิ้นปล้อนหลอกลวงเก่ง สร้างภาพเก่ง
หญิงสาวตัดสินใจเล่ารายละเอียดเล็กน้อยว่าเธอไม่ทานข้าวเย็นเพราะอะไร ยังพูดถึงเรื่องวันก่อน เธอจำเป็นต้องบอกกับเลขาฯ ผู้เคราะห์ร้าย หลังไปนอนคิดดูแล้วว่ามันไม่ใช่ความผิดของอองเดรจริง ๆ
“... เอาเป็นว่าฉันขอโทษที่ดึงคุณมาเป็นเครื่องมือ วันนั้นฉันรำคาญไอ้วัชร ฉันไม่ชอบขี้หน้ามันแต่หนีไม่ได้ หญิงแม่ชอบเขา”
“ไม่เป็นไรครับ”
“หวังว่ามันจะเป็นความลับระหว่างเรานะคะ คุณเลขาฯ”
“แน่นอนครับ ตราบใดที่คุณไม่พูดมัน รับรองว่าผมจะเก็บเป็นความลับไปตลอด”
เลขานุการหนุ่มรับปากเป็นมั่นเหมาะ ส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจ ด้วยความคิดที่เปลี่ยนไป เขาเริ่มไว้วางใจว่าเธอ คิดว่าคงไม่เลวร้ายสักเท่าไร
อย่างน้อยเขาก็ได้รับคำขอโทษจากคนเป็นเจ้านาย ทั้งที่เธอไม่จำเป็นต้องพูดมันก็ได้
วันถัดมา คุณหญิงวริศราไม่รอช้าที่จะเดินทางเข้ามาพบเลขาฯ คนใหม่ด้วยตนเอง หลังสั่งงานให้หัวหน้าเลขานุการจัดการน้องใหม่ด้วยการเรียกตัวไปชี้แจ้งรายละเอียดการทำงาน ทั้งที่เจ้าตัวทราบดีแล้ว แต่กลับมาบอกเพิ่มเติมว่าที่นี่มีผู้บริหารหลายคน มีเลขานุการหลายคน แต่ละคนดูแลเป็นคน ๆ ไป นั่น! ก็แล้วทำไมจะต้องเรียกอองเดร มันย้อนแย้งที่ว่าเขาเป็นเลขานุการของคุณเฌอเอม ทำไมต้องไปฟังยัยนิดหน่อยอะไรนี่พูดพล่ามเป็นธรรมดาหากว่าเจ้านายตัวจริงจะค่อนข้างหงุดหงิด เฌอเอมไม่เข้าใจว่าบริษัทนี้จะมีการรับน้องใหม่อะไรนักหนา มันเหมือนกับว่านางนิดหน่อยต้องการอบรมเลขาฯ ฝรั่งหนุ่มหน้าตาดีกว่า ดีกรีสูงกว่า ฉลาดกว่า ให้อยู่ในโอวาทยัยนี่ถึงขั้นไปบอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงินเดือนในเดือนถัดไปตามระเบียบการของบริษัท เดือดร้อนถึงเจ้านายอย่างเธอต้องไปบอกกับฝ่ายบัญชีว่าเขามาเริ่มงานตอนสิ้นเดือน แม้แค่ไม่กี่วัน แต่คนต้องกินต้องใช้ ให้ OT ล่วงหน้าได้อองเดรเองก็ทำงานหลายอย่างทั้งพาเธอไปพบแพทย์ ซื้ออาหารเย็น และอะไรต่าง ๆ จุกจิกยิบย่อย ค่าน้ำมันรถเธอเป็นคนจ่ายไปก่อนมาเบิกบิลกับบริษัท ไหนจะรถประจำตำแหน่งของเลขานุการหนึ่งคัน ค่าบำรุงรักษา
อองเดรรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ มีแต่เรื่องประหลาดทำไมกัน ทั้งที่เป็นบริษัทเอกชนชื่อดังด้านสินค้าแบรนด์เนม เจ้าของมีชื่อเสียงโด่งดังร่ำรวยระดับแถวหน้าประเทศไทย ดำเนินการด้วยกิจการครอบครัว ทำไมถึงได้ทำงานเหมือนระบบทาสเขาคิดว่าโลกใบนี้เลิกทาสไปนานแล้วเสียอีก แถมทาสที่ว่าก็ไม่ใช่พนักงาน เป็นหนึ่งใน CEO ลูกสาวเจ้าของบริษัทเช้านี้เขาเข้าไปจัดการความเรียบร้อยของรถยนต์ยุโรปหรูกับคนขับรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบความเรียบร้อยของกล้องหน้ารถและอุปกรณ์ในรถยนต์ เลยขออาสาไปรับเจ้านายสาวด้วยตนเอง เขายินดีจะทำหน้าที่แทนเมสเซนเจอร์ ยินดีขับรถแทนนายสารถีของบ้านอย่างเต็มใจดันมีเรื่องแปลกเข้าไปอีก ทันทีที่มาถึงคฤหาสน์กว้างขวางหลักร้อยล้านใจกลางกรุง คุณลุงวัยใกล้เกษียณงานเดินเข้ามาหาเขา พูดจาประหลาด ๆ เหมือนจะทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่าง ไม่อยากทำงานซะแล้ว“ฝากด้วยนะครับ ฝากดูแลคุณเฌอด้วยนะ ตัวลุงคงไม่ไหวเหมือนคนหนุ่ม หลานก็ยังเล็ก”นั่นเหมือนคำสั่งเสีย! อองเดรทำได้แค่คิด ยิ้มตอบอย่างเต็มใจ“ครับ ไม่มีปัญหา ผมจัดการให้ไม่ต้องห่วง”“กล้องในรถ... ลุงไปติดเพิ่มมา คุณกดบ
“โอ๊ย ๆ เจ็บจริง ตัวแค่นี้แรงเยอะดีนะ แต่แรงกัดไม่เท่าไร ไม่พอให้เป็นที่ระทึก แค่นับว่าโอเค...” เสียงหัวเราะร่าดังอย่างชอบพอ มือหนาจับต้นแขนตัวเองก้มหน้าลงมองด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าหมาพิตบูล“เอ้อ นี่น้องเฌอ... แล้วถ้าอยู่ดี ๆ เราท้องกับพี่ เราก็ต้องแต่งเลยหรือเปล่า”“แต่งสิ แต่งได้เลย ฉันเองก็มีแพลนว่าจะแพ็คมารตัวน้อยไปให้แม่แกเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมเจอหน้าหลานคนแรกในสภาพศพไหมล่ะ ได้ข่าวเป็นโรคหัวใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?”หัวเราะทีหลังดังกว่า! มือสั่นเทาเล็ก ๆ ยังเตรียมพร้อมจะหยิบอาวุธในกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดออกมาสู้กับชายหนุ่มที่กัดกรามกรอด ๆ มองเธออย่างโกรธแค้น จนเธอหันไปออกคำสั่ง“จอดรถ อองเดร!”----------------------------------“คือว่า... ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันทำให้คุณอึดอัดใจหรือเปล่า?”“ไม่เลยครับ ผมเข้าใจคุณเฌอ...”เลขานุการหนุ่มยังคงยิ้มแย้มอย่างคนกันเอง ทำให้เจ้านายยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่อองเดรไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เขารับปากว่าจะเก็บทุกอย่างที่เห็นเอาไว้เป็นความลับอย่างดี ตามคำขอของเฌอเอมที่ไม่อยากเอาเรื่องเอาราวตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับ
ถึงเฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ควรหวั่นไหว เธอดันเลิกตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์กองงานบนโต๊ะ ทั้งในคอมพิวเตอร์และเอกสารกระดาษที่เธอต้องตวัดปลายปากกาลงไปซ้ำ ๆ อย่างไม่ให้ผิดพลาด ชะโงกคอมองหาคนข้างนอก มัวแต่คิดถึงฝรั่งหนุ่มที่เดินเข้าออกห้องทำงานเธอ ส่งยิ้มหวานอยู่นั่น“ขนมครับ คุกกี้ธัญพืช” เสียงที่ดังขึ้น ปรากฏชายคนเดิมยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน จานใบเล็กสีขาวมีขนมหน้าตาน่ารับประทาน ถูกวางลงอย่างเบามือ“ขะ ขอบคุณค่ะ... อองเดร” หญิงสาวพลันยกมือป้องปากทันที ส่ายแก้มแดงฉ่ำไปอีกทางหนึ่งว่า “เดี๋ยวกินค่ะ”“ดีครับ อย่าให้เสียน้ำใจเลยนะครับ” ในรอยยิ้มเป็นกันเอง ร่างสูงชะลูดค่อยก้าวฉับ ๆ ไป ไม่เหลียวมองหลังเลขานุการหนุ่มคงมองไม่เห็นว่า... บนเก้าอี้ทำงานผู้บริหารตัวใหญ่ สายตาคู่หนึ่งคอยมองตามเขาในทุกฝีก้าวอย่างไม่สามารถหักห้ามใจได้เลย----------------------------------เจ้าของร่างบางในเดรสสีขาวเข้ารูปสมส่วน จัดแจงโบใหญ่เทอะทะลายสก็อตให้พอดีกับกระโปรงสีขาวความยาวประหัวเข่า หน้ากระจกบานสูงใหญ่ข้างโต๊ะไม้สักในห้องทำงานของเธอ ด้วยท่าทางมั่นใจกว่าทุกวันปกติแล้วงานสวย ๆ งาม ๆ มักมีเลขานุการคอยอำนวยความสะดวกให้ บางครั้
อีกคัน เดี๋ยวขับกลับเองค่ะ”คนได้ยินกำลังคิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวลำพังเดินทางมาตั้งไกล มาหาเรื่องเดือดร้อนลำบากทำไม ลึก ๆ ในใจก็เป็นห่วง“คุณเฌอกลับเมื่อไรโทรเรียกผม ผมจะมารับครับ หรือจะให้ลุงเปี๊ยกขับก็ได้”“อื้ม... Take care ขับรถดี ๆ ค่ะ แต่เฌอคงจะไม่โทรไปหรอกนะ”ประตูรถยนต์เปิดออกและปิดลงพร้อมแววตาเยียบเย็น สมบุคลิกของบอสสาว อองเดรนั่งคอยอยู่ในรถยนต์สักพักหนึ่ง ด้วยวิสัยความเป็นคนรอบคอบกับการทำงาน เขาหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาตรวจดูตารางงานของเจ้านาย รอให้เครื่องยนต์เย็นลงสักหน่อยหลังจากที่เร่งความเร็วมาพักใหญ่ ทว่าทันใดนั้นเอง“กรี๊ดดดด!” เสียงหวีดร้องดัง ประตูเหล็กที่เปิดอ้าออกกว้างทำให้นายสารถีจำเป็นรีบลงจากรถในทันที ขายาว ๆ ของเขาคงไวมากพอก้าวไปถึงประตูกระจกหน้าบ้าน มันเพิ่งถูกไขออกด้วยกุญแจดอกเล็ก ๆ ของเจ้าของบ้าน“อองเดร!” เสียงร้องดังในหน้าตาตื่นตระหนก พลันเข้าไปคว้าท่อนแขนเป็นล่ำสันเข้าหมับ โดยไม่สนใจว่าเสื้อเชิ้ตสีครีมของเขาจะยับ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทำเอาอีกคนตกใจไปด้วย“ครับ? มีอะไร โจรหรือ!”“แมลงสาบ!”----------------------------------เนินอกนุ่มนิ่มกลายเป็นปัญหาของ
“คนอื่นเขาจะมองยังไงล่ะครับ ผมไม่อยากรับอะไรจากคุณเฌอ...”“คุณก็เก็บไว้ที่บ้าน ไม่มีใครรู้หรอกน่ะถ้าคุณไม่พูด มันจะเป็นความลับแน่นอน เคนะ” ในน้ำเสียงแผ่วเบาลงอีก หญิงสาวไม่เสียเวลาถกเถียงกับเขาต่อ มือเรียวคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดบนโต๊ะทำงานเลขาฯ ขึ้นสะพายพาดบ่าพร้อมบอกลา พอดีกับที่เสียงเข้มเรียก“คุณเฌอจะไปไหนครับ ไม่ทำงานหรือ?”หญิงสาวก้มหน้าลงลดเสียงลงให้เบาที่สุด “เฌอแค่แวะมาบอกคุณเรื่องรองเท้าไง รับไว้ด้วยนะ ห้ามบอกใครล่ะว่าเฌออยู่ที่ไหน”“คือผมไม่ต้องการรองเท้า ผมอยากทราบว่าคุณจะกลับมาทำงานเมื่อไรครับบอส” ในรอยยิ้มเป็นกันเองขณะที่ยังแอบกระซิบกระซาบกับเจ้านายสาวด้วยท่าทางดุดัน เขาไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่!“เออ... เดี๋ยวโทรบอกเอง ไปก่อนนะ”“แต่คุณหญิงโวยวายเรื่องคุณไม่เข้าประชุมนะครับ เธอถามผมว่าลูกสาวหายไปไหน ทำไมไม่มาทำงาน ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกแม่สักคำ”“งั้น... คุณจัดการเอกสารบนโต๊ะเสร็จ ค่อยตามเฌอไปทีหลังละกัน ช่วงนี้บอสรู้สึกไม่ค่อยสบายนะคะ ขอ WFH ค่อกแค่ก...” พูดพลางแสร้งยกมือขึ้นป้องปาก จากนั้นเจ้านายสาวก็เดินโซเซออกจากห้องทำงาน----------------------------------คุณเฌอไม่สบา
บนโซฟากำมะหยี่สีขาวดูหรูหราในห้องสูทผู้บริหารของโรงแรมระดับห้าดาว ดอกเตอร์สาวคนดังสวมเดรสสีแดงตัดดำ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่อย่างขณิกาแต่งตัวเรียบร้อยสักหน่อย สไตล์ไฮโซกระโปรงยาวถึงตาตุ่มเข้ากับเสื้อคอสูงแขนสั้นน่ารัก อีกสองสาวอยู่ในเดรสสบาย ๆ สีขาว เรียบหรูดูดีเน้นเครื่องประดับเพชร พวกหล่อนนั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามเจ้าของงานเฌอเอมเลือกเดรสสายเดี่ยวสีขาว มีโบอันใหญ่น่ารักด้านหลัง คลุมทับด้วยเสื้อสูทแบบคลุมไหล่แฟชั่นมาประชันตามนัดหมาย เธอก็คงสวยไม่แพ้ใครในคอนเซ็ปต์สวยเลิศดูแพง สมเป็นหัวหน้ากลุ่มเซเลบสาวน่าเสียดายที่คงอยู่ได้ไม่นาน พอนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มตรง เธอชะโงกคอมองออกไปด้านนอก บริเวณเก้าอี้โซฟาเดี่ยวถัดจากห้องรับรองกว้างขวาง“เอ้อ... ฉันขอกลับไวนะแก พรุ่งนี้ทำงานเช้าอะ ใช้งานเลขาฯ หนักมาหลายวันละด้วย”“ย่ะ เพื่อนมองเห็นอยู่ว่าหนุ่มคนนี้สำคัญ หญิงเฌอดูแลดีเป็นพิเศษเลยนะ” ในรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของดอกเตอร์สาว เป็นอันรู้กันว่าเพื่อนสนิทคิดอะไร แค่มองตาก็รู้ใจมือเรียวหยิบหลุยส์ วิตตองใบจิ๋วสะพายพาดบ่า เฌอเอมได้รับความช่วยเหลือจากเลขานุการหนุ่มรูปงามเดินเข้ามารับของจากเธอซึ่งขยับปลายส้นสูงสามน
เพราะดันนอนหลับสบายถึงเช้า ไม่โดนยุงสักตัวไล่เข้าบ้าน ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทพลันลุกขึ้นนั่งหลังตรง เบิกตากว้างมองคนข้างกาย เธอเอนเบาะนอนอยู่หน้าพวงมาลัยรถยนต์ แง้มกระจกลงพอประมาณให้พอมีอากาศพัดผ่าน มือเรียวกำไม้ตียุงแน่น ใบหน้าสะสวยใต้เครื่องสำอางอ่อน ในเดรสชุดเดิมบอกว่าเธอไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน“คุณเฌอ...” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ หญิงสาวเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว เธอปรือตามองชายหนุ่มซึ่งก้มหน้าลงสำรวจสภาพตนเอง มีผ้าห่มสีดำคลุมตัวอยู่ เป็นผืนเดียวกับที่เธอชอบเอาไปกอดนอนตอนงีบหลับในรถระหว่างวันทำงาน“เฌอ... อยู่ตียุงให้น่ะค่ะ คุณปลุกไม่ตื่น ไม่รู้นอนหลับหรือนอนตาย”“ขอโทษนะครับ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ เฌอต่างหากที่ต้องขอโทษ ใช้งานเลขาฯ หนักไป คุณรีบเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ เฌอขอขับรถกลับเองนะ”ในสีหน้างุนงงเพราะเพิ่งตื่นนอน อองเดรกลับแอบซ่อนความรู้สึกผิดอยู่ภายใน เมื่อเขาบกพร่องในหน้าที่ซึ่งยังทำได้ไม่ดีพอ“อย่าคิดมากน่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว เฌอเป็นห่วงรู้ไหม พี่อองเดร...” ในน้ำเสียงอ่อนโยนลงภายใต้สายตาอ่อนหวาน เป็นกันเองเสียจนอีกคนชะงักนิ่งอองเดรสัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างเธอและเขาเปลี่ยนไป เธอย
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา
“แขนไปโดนอะไรมา ฉีดยาเหรอ? วัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือว่ายาอะไร เพิ่งฉีดไปเองนี่”“เฌอไปฉีดยาคุมมาน่ะ กลัวหญิงแม่มารื้อกระเป๋าเฌอ แต่ว่าคงไม่มาหรอกช่วงนี้มีคนประกบเฌอ อาป๊าเหม็นขี้หน้าไอ้วัชระแล้วด้วย” เฌอเอมไม่ได้ต่อว่าเขาผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ ขณะก้มหน้าลงมองรอยสำลี ซึ่งถ้าหากว่าไม่เข้ามาใกล้ ๆ คงไม่เห็น“เฌอว่าแบบนี้สะดวกกว่า”“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ป้องกันเอง เฌอก็...”หญิงสาวทำลดเสียงลงกระซิบ “เฌอไม่ชอบให้มีอะไรมากั้น เฌอรู้สึกดีกับพี่ค่ะ”“โธ่ น้องเฌอ เรานี่จริง ๆ เลยนะ พี่ไม่อยากให้เฌอเจ็บรู้ไหม”“ไม่เจ็บค่ะ แหม เข็มอันนิดเดียว เคยโดนใหญ่กว่านี้เยอะ”คำพูดมีนัยในท่าทางหยอกล้อ อองเดรไม่หัวเราะตามเธออย่างเคย ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับเธอทุกประการ สัมผัสรสชาติการมีอุปกรณ์ขวางกั้นบาง ๆ บางแค่ไหนก็ยังรู้สึกขัดใจเมื่อเคยลิ้มรสชาติสัมพันธ์ที่สุขสมทว่าการเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ผลักภาระให้ฝ่ายหญิงทุกอย่างไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่อยากให้เธอเจ็บแม้สักนิดเดียว แต่เป็นอันว่ารู้กันเรื่องความดื้อรั้นของเฌอเอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอไม่ยอม พอมีคุณพ่อให้ท้าย งานหมั้น
“ป๊า... ทำไมเอาเลขาฯ เฌอไปใช้งานอะคะ แล้วใครจะช่วยงานเฌอล่ะ?” เสียงหวานเรียกผ่านประตูบานคู่ที่เปิดอ้าออกกว้าง ห้องทำงานของอาจารย์ชรัณถัดไปอีกห้องหนึ่ง ติดกับห้องทำงานหลักซึ่งเป็นออฟฟิศของพนักงาน ทั่วทั้งห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ นาน ๆ เจ้าของห้องจะเข้ามาสักครั้ง“เลขาฯ เต็มบริษัท อยากได้คนไหนเลือกเอา เอาคุณนิดหน่อยไปก็ได้”ใบหน้าสดสวยตื่นตะลึง หันไปทางหาเลขาฯ คนโปรดตรงมุมห้อง เขากลับทำเป็นไม่สนใจเธอ เลยกลับมาเบิกตากว้างมองหน้าตานิ่งเฉยของคุณพ่ออีกรอบ“ทำไมทำหน้าเหมือนไฟไหม้บ้าน”“ป๊าก็รู้ว่าแกเป็นไงปะ ให้ลูกเรียกเลขาฯ คนนั้นมาทำงานด้วย เหมือนไม่ได้เรียกเลขานุการ เหมือนมีเจ้านายอีกคนมาสั่งงาน”“เอา ๆ ไปเถอะ สักคนน่ะ อย่าเรื่องมากนะลูกนะ คุณนิดเธอก็ทำงานดี”อยู่ดี ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน หญิงสาวยกมือกอดอก กลอกตาไปมาว่า “โอเค งั้นเฌอเรียกคุณนิดหน่อยมาทำงานด้วยกันก็ได้...”“นี่ ๆ อย่าไปแกล้งเธอนะ ถึงเธอเป็นอย่างนั้น ป๊าว่าเธอทำงานละเอียด เธออดทนไม่บ่นเรื่องงานหนักด้วย”“ดีของป๊ากับดีของเฌออาจไม่เท่ากัน เฌอมีมาตรฐานการทำงานค่อนข้างสูงนะคะ”ร
ถึงทำเรื่องเกินตัวไปสักหน่อย แต่อองเดรก็มีเหตุผล มันเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำ เมื่อเขาไม่อยากเป็นคนในความลับ เป็นผู้ชายคั่นเวลาให้เธอกินยามหิว สักวินาทีเดียวก็ไม่อยากจะเป็น! เขายินดียืดอกรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายเลขานุการในเชิ้ตหล่อเหลาหิ้วกระเป๋าหนังคู่กาย ตามคุณพ่อของเจ้านายมาถึงร้านอาหารไทยชื่อดังย่านทองหล่อด้านหน้าห้องอาหาร VIP เป็นประตูไม้สลักลวดลายสวยงาม บานประตูคู่ชนชิดกัน ลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีห้องรับรองแขกเป็นห้อง ๆ ไป เหมาะสำหรับลูกค้ามารับประทานอาหารกับครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัวร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่นิยมของผู้ใหญ่วัยเกษียณ มีฐานะพอสมควร อาหารรสเลิศปรุงโดยพ่อครัวระดับแชมป์ แม่นวลเองก็รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี เคยพาลูกชายมารับประทานอาหารเป็นประจำ“ห้ามทิ้งงานในบริษัท ป๊าไม่มีลูกแล้ว มีแค่คนเดียว ถ้าป๊าตาย ลูกสาวไม่ทำงาน คนอื่น ๆ ก็ตกงานนะ บริษัทเรามีพนักงานตั้งกี่ชีวิต มีกี่ร้อยสาขา” อาป๊าเพิ่งวางมือจากแท็บเล็ต ท้องหิวก็ก้มหน้ารับประทานอาหารอาหารจานโปรดของคุณพ่อเป็นมัสมั่น เมนูจำพวกปลานึ่งและทอด อองเดรรับประทานไปได้ไม่เยอะ เพราะมัวแต่นั่งฟังอีกฝ่ายเล่า