“ฮือๆ...”
พลอยขวัญร้องไห้ ค่อยๆ หยัดกายขึ้นจากพื้นทั้งน้ำตานองใบหน้า คว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ ค่อยๆ ก้าวลงบันไดมาจากดาดฟ้า...คงถึงเวลาที่หล่อนจะต้องก้าวออกไปจากชีวิตของผู้ชายใจร้ายคนนี้เสียที
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่ง ที่เรือนไม้หลังใหญ่ของปู่พจน์ พยัคฆ์เอนหลังอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ ภายใต้ร่มประดู่ ข้างกายมีขวดบรั่นดีตั้งเอาไว้บนโต๊ะเล็กๆ ดวงตาเหม่อลอยทอดมองเวิ้งฟ้าสีแดงหม่น
‘นี่ฉันกำลังหลงเสน่ห์เธอใช่ไหม...พลอยขวัญ’
พยัคฆ์พึมพำ...ถามตัวเองอยู่ในใจ ยกบรั่นดีขึ้นดื่มราวกับต้องการข่มความเจ็บปวดใจที่ผุดวาบเข้ามารบกวนสมาธิอยู่ตลอดเวลา
ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ราวกับต้องการสำรวจลึกลงในจิตใจของตัวเอง กระทั่งค้นพบว่าความรู้สึกคิดถึงที่กำลังก่อตัวอยู่เงียบเชียบ รุมรึงรุนแรงอยู่ภายในใจของเขานั้น...เป็นเพราะรู้ว่าตัวเองหลงรักพลอยขวัญเข้าแล้ว
‘พอกันที...ขวัญ’
ภาพของพลอยขวัญกับพีรพงษ์ที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ทำให้พยัคฆ์โกรธจนต้องกัดกรามกรอด
ตอนนี้คงถึงเวลาแล้ว...ที่เขาต้องสลัดพลอยขวัญออกไปจากความทรงจำ ตัดใจจากผู้หญิงร่านสวาทรักสนุกกับผู้ชายไม่เลือกหน้าคนนี้เสียที
ทั้งที่ก็รู้ซึ้งอยู่แก่ใจตัวเอง ว่าติดอกติดใจผู้หญิงที่ชื่อพลอยขวัญคนนี้แค่ไหน
“เป็นไรวะไอ้เสือ”
ปู่พจน์ถาม
หลังจากบอกให้พยาบาลพิเศษช่วยเข็นรถออกมาใต้ร่มไม้ที่หลานชายกำลังนอนถอนใจอยู่เพียงลำพัง หลังจากแอบนั่งมองอยู่นาน
ปู่พจน์แกล้งถาม ทั้งที่พอจะเดาได้ว่าพยัคฆ์เครียดเรื่องอะไร แต่ก็รู้ว่าหลานคนนี้ปากแข็งเหลือเกิน
“เครียดเรื่องงานครับปู่”
พยัคฆ์ตอบ
นั่นไง...ปู่พจค์คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าจะได้ยินคำตอบนี้ ทั้งที่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้พยัคฆ์แอบมาดื่มเหล้าจนตาแดงก็เพราะมีปัญหากับพลอยขวัญ
“ผมตัดสินใจแล้วนะครับ...ว่าจะไปฮ่องกง”
พยัคฆ์กล่าว
“ตามใจแก...ถ้าแกมั่นใจ...แกต้องเลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวเอง...ไม่ว่าแกจะตัดสินใจยังไง...ปู่เอาใจช่วย...ปู่จะอยู่เคียงข้างแกเสมอ”
ปู่พจน์ตบไหล่หลานรัก น้อยคนนักที่จะได้เห็นมุมอ่อนไหวของผู้ชายที่ชื่อพยัคฆ์คนนี้
ตอนทำงานพยัคฆ์มักจะวางมาดนักธุรกิจเคร่งขรึมองอาจ ไม่ต่างจากเจ้าสัวธนาผู้เป็นบิดา ที่สามารถนำพาบริษัทผงาดกล้าขึ้นมาอยู่แถวหน้าของแวดวงธุรกิจการเงินของเมืองไทยในระยะเวลาอันสั้น
“ได้เวลาทานยาแล้วค่ะคุณท่าน”
พยาบาลกล่าว
“งั้นปู่ขอตัวก่อน”
ชายสูงวัยผู้เป็นต้นตระกูลเอื้อมมือมาตบบ่าให้กำลังใจหลานชายอีกครั้ง
“ครับปู่”
พยัคฆ์มองส่งจนรถเข็นของปู่พจน์ลับเข้าไปทางประตูหน้าบ้าน ก่อนจะเอนกายลงนอน ดวงตาพริ้มหลับ หากในสมองยังคงครุ่นคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ระหว่างตนกับพลอยขวัญ
จากนั้นก็ได้คำตอบ...ว่าเขาควรจะลืมหล่อนให้เร็วที่สุด แล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เจ้าสัวธนาผู้เป็นบิดาได้เลือกไว้ให้
อีกสามเดือนต่อมา
“วันนี้เป็นอะไรใจลอย...”
ปู่พจน์ถาม ขณะพลอยขวัญแวะมาหาในตอนสายของวันหนึ่ง ปกติพลอยขวัญมักจะมานั่งอ่านหนังสือและเป็นเพื่อนคุยกับปู่พจน์ที่เรือนไม้หลังคฤหาสน์เป็นประจำ
คำว่า ‘ใจลอย’ สะกิดใจของพลอยขวัญอย่างแรง ดูเหมือนว่าคนที่ผ่านโลกและอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างปู่พจน์จะรู้ทันอาการของหล่อน และไม่ทันได้ตอบอะไร บุรุษผู้สูงวัยกว่าก็เอ่ยประโยคที่กระแทกใจของหญิงสาวเข้าอย่างจัง
“คิดถึงไอ้เสือใช่ไหม”
พลอยขวัญถึงกับนิ่งอึ้ง หนังสือที่กำลังเปิดอ่านแทบหล่นลงจากมือ
“เฮียเสือสบายดีไหมคะคุณปู่”
ที่พลอยขวัญต้องถาม ก็เพราะว่าตลอดระยะสามเดือนที่ผ่านมา พยัคฆ์ไม่เคยติดต่อกลับมาหาหล่อน
“ไอ้เสือสบายดี...การงานไปได้ดี เจ้านี่มันเก่ง...ทำอะไรก็รุ่ง”
ปู่พจน์บอก น้ำเสียงชื่นชมหลานชาย ตามที่ได้คุยกับพยัคฆ์เมื่อสองวันที่แล้ว
“งานที่ฮ่องกงคงยุ่งนะคะ”
พลอยขวัญกล่าว
“แน่ล่ะสิ...ตอนนี้พยัคฆ์ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยจางเหว่ยแล้วนี่นา...พ่อตามันไว้วางใจให้ดูแลงานทุกอย่าง”
ยังคงมีความชื่นชมในน้ำเสียงของปู่พจน์ พลอยขวัญฟังแล้วก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ปู่พจน์รู้ทันจึงกล่าวออกมาว่า
“คิดถึงไอ้เสือใช่ไหม...ปู่รู้นะ”
“เปล่าค่ะ”
พลอยขวัญส่ายหน้า พยายามทำท่าทางให้เป็นปกติ รีบเบนความสนใจของบุรุษผู้สูงวัยกว่าออกมาจากเรื่องของพยัคฆ์
“ปู่อยากออกไปสูดอากาศไหมคะ...ขวัญจะพาไปนะคะ...วันนี้อากาศไม่ร้อนค่ะ”
วางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วขยับเข้ามาใกล้รถเข็น
“ดีเหมือนกัน”
ปู่พจน์พยักหน้า สายตาเปี่ยมกรุณาทอดมองพลอยขวัญ
หล่อนค่อยๆ เข็นรถเข็นออกมาที่สวนหย่อมหลังบ้าน ทุกวันนี้ปู่พจน์คือผู้มีพระคุณของหล่อน ท่านคอยช่วยเหลือตลอด พลอยขวัญได้ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการสาขาของกลุ่มธนาคารที่ปู่พจน์เป็นเจ้าของ ก็เพราะความกรุณาของท่าน
ที่ห้องนอนของพลอยขวัญ
เสร็จจากอาบน้ำ พลอยขวัญทิ้งกายลงนอนบนเตียงกว้าง จู่ๆ ความคิดถึงที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก็ทำให้ใบหน้าของพยัคฆ์ผุดวาบขึ้นในห้วงอาวรณ์ถวิลของหล่อน
‘เฮียเสือขา...ขวัญคิดถึงเฮียค่ะ...คิดถึงเหลือเกิน’
ความคิดถึงที่รุมรึงอยู่ในหัวใจอย่างรุนแรง ทำให้พลอยขวัญเผลอลูบไล้เรือนกายตัวเอง คิดถึงสัมผัสอันน่าเคลิบเคลิ้ม หากบางครั้งก็ดิบเถื่อนเร้าใจหล่อน
ครั้นเมื่อสติคืนกลับมา พลอยขวัญก็สะบัดใบหน้า สั่นศีรษะแรงๆ หลายครั้ง คล้ายพยายามขับไล่ความคิดบางอย่างออกไปจากสมอง
‘ไม่...ขวัญจะไม่คิดถึงเฮีย’
พร่ำบอกตัวเองให้ลืมสิ่งรบกวนใจ...บอกตัวเองให้ลืมเฮียเสือให้ได้ เพราะเฮียเสือแต่งงานแล้ว เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด...หล่อนจะคิดถึงเขาแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว
ไม่ง่ายเลยสักนิดที่จะหักห้ามความรู้สึกไม่ให้คิดถึงพยัคฆ์ พลอยขวัญหยัดร่างขึ้นจากที่นอน เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า คว้าเสื้อแจ็คเก็ตยีนมาใส่นอน เพราะมันเป็นเสื้อของพยัคฆ์ที่เขาถอดมาสวมให้หล่อน ในวันที่เขาแวะไปรับที่มหาวิทยาลัยวันนั้นฝนตกหนัก พยัคฆ์เดินออกมารับ เขาถอดเสื้อยีนคลุมกันฝนให้หล่อนตอนเดินกลับมาขึ้นรถ พลอยขวัญยังแอบเก็บเสื้อยีนตัวนี้มาจนถึงทุกวันนี้ หล่อนเก็บเอาไว้โดยไม่ซัก เพราะไม่อยากให้กลิ่นกายของเฮียเสือจางหายไปจากเสื้อ...เหมือนรู้ว่ามันคือตัวแทนสุดท้ายของเฮียเสือที่หล่อนจะกอดได้‘เฮีย...ขวัญคิดถึงเฮียค่ะ...คิดถึงที่สุด’สายฝนที่กระหน่ำหนักอยู่ภายนอกบวกกับความเหงา ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเหว่ว้ากว่าทุกๆ คืนที่ผ่านมา‘เฮีย...’ พลอยขวัญพึมพำ โอบกอดเสื้อของเขาราวกับได้กอดชายที่หล่อนคิดถึงแทบทุกลมหายใจเข้าออก กลิ่นกายของพยัคฆ์ยังติดอยู่ที่เสื้อความคิดถึงที่พลุ่งโพลงขึ้นในใจ ทำให้เลือดในกายของพลอยขวัญราวจะเดือดขึ้นมาได้ ภาพใบหน้าคมคร้ามของเฮียเสือผุดวาบขึ้นมาในห้วงอาวรณ์ถวิลของหล่อนครั้งแล้วครั้งเล่า“เฮียเสือ...ขวัญคิดถึงเฮียเหลือเกิน” พลอยขวัญพริ้มตา สองมือลูบไล้ไปทั่วเรือ
“ยินดีด้วยนะครับ” คุณหมอกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยินดี หลังจากตามคนางค์ให้เข้ามาในห้องตรวจ“ยินดี…เอ่อ...คุณหมอหมายความว่า…”หัวใจกระตุกวูบ พลอยขวัญทวนคำของคุณหมอด้วยสีหน้าประหลาดใจ“ครับ…ขอแสดงความยินดีกับคุณ...เพราะว่าคุณกำลังจะเป็นแม่คนครับ…”คุณหมอกล่าวพลางทาบเครื่องฟังเสียงหัวใจลงบนท้องของพลอยขวัญอีกทีเพื่อให้แน่ใจ และเสียงเต้นของหัวใจอีกดวงน้อยๆ ที่ได้ยินชัดเจน ก็ยืนยันว่ามีอีกชีวิตกำลังหายใจอยู่ในตัวของพลอยขวัญ“หนูท้อง...”พลอยขวัญตกใจจนหน้าซีด คำพูดของคุณหมอยังคงดังชัดเจนกึกก้องอยู่เต็มสองหู สิ่งที่ได้รับรู้ทำให้คนางค์นิ่งงันไปชั่วครู่ ครั้นเมื่อตั้งสติได้...ก็พยุงลูกสาวออกมาจากคลินิก“หนูขอโทษค่ะแม่...ขอโทษที่ทำให้แม่ผิดหวังในตัวหนู”เมื่อพากันเดินออกมาถึงรถตู้ที่จอดรออยู่ด้านหลังคลินิก ความอัดอั้นที่สุมแน่นอยู่ในอก ทำให้พลอยขวัญโผเข้ากอดมารดา“ไม่เป็นไรลูก...ไม่เป็นไร”คนางค์ยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตากลมเกลี้ยงที่กลิ้งลงอาบนวลแก้มของพลอยขวัญ รู้ว่าลูกสาวคงตกใจมาก เพราะว่าทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าจะตั้งตัวรับได้ทัน“พยัคฆ์ใช่ไหม”คนางค์มั่นใจ“ค่ะ...เฮียเสือ...หนู
“ช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ปู่ที”บอกพลางมองไปยังโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ใกล้โซฟา กดโทรหาคนรับใช้ที่จ้างเอาไว้ดูแลเรือนไทยหลังใหญ่ที่ซื้อเอาไว้ในจังหวัดสุโขทัย สั่งการเพียงสองสามคำแล้วก็กดวางสายที่ฮ่องกง ที่ห้องทำงานของพยัคฆ์ ภายในตึกสูงเสียดฟ้าซึ่งเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทไฟแนนซ์ที่มีพยัคฆ์เป็นผู้บริหาร ในฐานะลูกเขยของจางเหว่ย ซึ่งจางเหว่ยไว้วางใจให้นั่งในตำแหน่งผู้บริหาร ส่วนเจ้าตัวคอยกำกับดูแลอยู่ห่างๆ ในฐานะประธานกรรมการผู้มีอำนาจสูงสุดของบริษัทแห่งนี้ “พยัคฆ์” ประตูห้องทำงานเปิดออกมาพร้อมกับร่างเพรียวระหงของ ‘เหมยฮัว’ ผู้เป็นภรรยา “เหมย...” พยัคฆ์ยิ้มกว้าง ดีใจที่เหมยฮัวมาหา รีบอ้าแขนออกกว้าง รับร่างเซ็กซี่ที่โผเข้ามาหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ “วันนี้ว่างหรือยังไงครับ” ที่พยัคฆ์ถามก็เพราะว่าเหมยฮัวเป็นนางแบบชื่อดังของฮ่องกง ปกติหล่อนก็มีงานถ่ายแบบแฟชั่น เดินแบบและออกงานอีเว้นต์ไม่เว้นวัน นานๆ ครั้งจึงจะมีเวลาแวะมาหาพยัคฆ์สักครั้ง “วันนี้เหมยมีงานถ่ายแบบแถวๆ นี้พอดีเลยแวะมาหาคุณ” เหมยฮัวตอบ
“ผมจะค่อยๆ”พยัคฆ์ค่อยๆ กดส่วนหัวแดงก่ำ ยั้งเอาไว้แค่รอยคอดหยัก ยังไม่กดให้มิดสุดดุ้น สร้างความคุ้นเคยให้รูสวาทของหล่อนอยู่ครู่สั้นๆ“อ่า...เยิ้มแล้ว”เขากระซิบข้างหู รู้ว่าหล่อนพร้อมแล้ว จากนั้นก็ชักดุ้นเอ็นออกมาแล้วดันพรวดเข้าใส่อีกครั้ง สนิทแน่นจนเหมยฮัวร้องครางเหมือนเจ้าลงองค์ประทับ“อ๊อยยยย...”คนโดนเสียบหน้าบูดหน้าเบี้ยวเพราะเสียวจัด เมื่อดุ้นเอ็นแข็งแกร่งและขรุขระราวฝักข้าวโพดใหญ่ๆ ถูกกดให้จมหายเข้ามาในรูสวาทขมิบรัดของหล่อน“อ่า…”พยัคฆ์ขยับบั้นท้ายเบาๆ ส่งความใหญ่ยาวเข้ามาสนิทแน่นในรูเสียว“ฮึก...อูยยยย”คนใต้ร่างร้องคราง หน้าบูดหน้าเบี้ยว เสียวและตึงร้าวไปทั้งรูสวาท ดูดรัดกลืนกินความยาวใหญ่ของเขาจนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ “อ๊า...”เหมยฮัวพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ร่างของหล่อนผวาเกร็งขึ้นเกาะบ่าของพยัคฆ์เมื่อเขาหมุนควงสะโพก โยก ย้ำ ความแข็งแกร่งจมหายเข้ามาในรูสวาท“อูย...แน่นเหลือเกิน...ซี้ด”ความเสียวซ่านแล่นร้าวเข้ามาในกายของเหมยฮัวเป็นลำดับ แรงเสียดสีจากท่อนเนื้อปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดขรุขระ ทำให้นางแบบสาวเสียวซ่านจนเผลอแอ่นกลีบสวาทลอยร่อนรับแรงกระเด้าจนก้นไม่ติดพื้นพั่บๆ
“หนูขวัญไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”ปู่พจน์คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องบอกความจริง“อ้าว...ออกไปอยู่ไหนครับปู่...แต่งงานแต่งการมีครอบครัวไปแล้วหรือยัง?”พยัคฆ์ถาม“ยังไม่ได้แต่งงาน...ตอนนี้หนูขวัญไปอยู่สุโขทัย ปู่ให้ไปอยู่บ้านที่ปู่เคยซื้อไว้”“แล้วทำไมต้องไปอยู่ที่นั่นล่ะครับ?”พยัคฆ์เริ่มสงสัย“ขวัญไปเลี้ยงเด็ก...”ปู่พจน์ค่อยๆ เฉลย“เด็กที่ไหนครับ?”“หลานปู่”“อ๋อ...ขวัญไปเป็นพี่เลี้ยงเด็ก”พยัคฆ์เข้าใจว่าอย่างนั้น“ขวัญเลี้ยงหลานปู่...อ้อ...ต้องเรียกว่าเหลนสินะ ตอนนี้ปู่มีเหลนอายุได้ขวบนึงแล้ว กำลังน่ารักน่าชังเชียว”ไม่ทันที่ปู่พจน์จะได้พูดอะไรต่อ พยัคฆ์ก็ชิงตัดสายไปก่อนเพราะมีสายด่วนจากพ่อตาโทรแทรกเข้ามาพอดี“ปู่ครับเดี๋ยวผมโทรกลับ”“เออ...ไม่มีอะไรแล้ว...ทำงานของแกไปเถอะ”“อาทิตย์หน้าเจอกันที่เมืองไทยครับ...ผมคิดถึงปู่นะครับ”บอกแล้วพยัคฆ์ก็ตัดสายเสียงของปู่ทำให้เขารู้สึกคิดถึงเมืองไทย หลังจากยุ่งอยู่กับงานที่ฮ่องกงจนไม่มีเวลากลับไปเยี่ยมเยียนคนที่เมืองไทยอีกสัปดาห์ต่อมาเมื่อมาถึงเมืองไทย สิ่งที่ทำให้พยัคฆ์แปลกใจก็คือปู่พจน์ไม่ได้อยู่ที่เรือนไม้หลังเดิมที่สร้างเอาไว้หลังคฤหาสน์“ปู่
ปู่พจน์ตอบสั้นๆ เพราะก็ยังไม่แน่ใจนัก...ว่าจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ยังไงดีแต่อีกใจก็คิดว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อนก็ดีเหมือนกัน...เหมือนอย่างที่พลอยขวัญเคยบอกว่าหล่อนจะเลี้ยงดูลูกเอง จะไม่บอกให้พยัคฆ์รู้เป็นอันขาด เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหากระทบถึงครอบครัวของพยัคฆ์ที่อยู่ฮ่องกง “ลีโอ...” พยัคฆ์เดินเข้าไปหาเด็กชาย โอบร่างจ้ำม่ำขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน และด้วยสายใยของความเป็นพ่อลูก ดูเหมือนว่าลีโอก็ถูกชะตากับพยัคฆ์ตั้งแต่วินาทีแรกเห็น “รถ...รถ...” ลีโอชี้ไปที่รถเบนซ์สีดำคันหรูของพยัคฆ์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ลีโอชอบรถมาก ที่จดจำได้ก็เพราะว่ามีรถของเล่นหลายคัน “หนูชอบรถใช่ไหม” พยัคฆ์ชี้ให้เด็กชายดูรถของตนที่จอดไว้หน้าบ้าน “รถ...รถ...” ลีโอเป็นเด็กพูดเก่ง ฉายแววฉลาดมาตั้งแต่เล็กๆ เรียนรู้การพูดได้เร็ว เพราะพลอยขวัญเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง เอาใจใส่ใกล้ชิดตลอดเวลา ทำให้ลีโอสามารถพูดคำสั้นๆ ได้หลายคำ เรียกชื่อ ‘แม่’ กับ ‘ปู่’ ได้ชัดเจน...แต่ยังไม่เคยเรียกชื่อ ‘พ่อ’ “ลีโอเป็นลูกใครครับปู่?” พยัคฆ์ถามขณะ
“ขวัญ...”เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาพลอยขวัญสะดุ้ง สายบัวที่มือข้างหนึ่งหอบเอาไว้เกือบจะร่วงหล่นลงสู่ผิวน้ำ ในทันทีที่หันมาพบว่าเจ้าของเสียงที่หล่อนจดจำได้ไม่ลืมนั้นคือชายที่เฝ้ารอทุกลมหายใจเข้าออก...ว่าสักวันเขาจะมา“เฮีย...”เสียงของพลอยขวัญสั่นเครือ ความดีใจแล่นร้าวไปทั่วสรรพางค์ ครั้นแล้วก็ต้องพยายามสะกดเก็บความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่มีต่อเขา เพราะว่าวันนี้พยัคฆ์ไม่ใช่ ‘เฮียเสือ’ คนเดิมที่หล่อนเคยรู้จัก พยัคฆ์ไม่ใช่คนโสดที่หล่อนจะรักและคิดถึงได้อย่างเมื่อในอดีต“ไม่ดีใจหรอกหรือที่เจอเฮีย”พยัคฆ์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้เห็นพลอยขวัญออกอาการดีใจกว่านี้“เฮียมาเยี่ยมปู่พจน์หรือคะ”พลอยขวัญกลัวว่าพยัคฆ์จะถามเรื่องลูก“ใช่...เฮียเพิ่งรู้ว่าขวัญอยู่สุโขทัย...เกิดอะไรขึ้น...ขวัญ...”พลอยขวัญรู้สึกหนักอึ้งในอก หล่อนเบือนหน้าออกไปจากสายตาของชายหนุ่มที่จ้องมองอย่างคาดคั้นจะเอาคำตอบ“ตอบ...”เสียงเข้มดุเหมือนคนเอาแต่ใจ...นี่แหละคือนิสัยของเฮียเสือที่พลอยขวัญรู้จัก เขาไม่เคยเปลี่ยน“ลีโอเป็นลูกเฮียใช่ไหม”เป็นประโยคที่ทำให้หยาดน้ำตาของพลอยขวัญไหลพรากออกมาอาบแก้ม ถึงตอนน
“ผมจะทำยังไงดีครับปู่”พยัคฆ์อุ้มลูกชายเข้าไปหาปู่พจน์ที่นั่งชมดาวอยู่ริมระเบียง“ก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้...ในเมื่อทุกอย่างได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้วให้เป็นเช่นนี้ ยากนักที่จะฝืนชะตาลิขิต”“ผม...ผมรักลูก...ผมขอลูกไปเลี้ยงได้ไหม”พยัคฆ์โพล่งออกมาแบบคนใจร้อน เห็นแก่ตัว ทั้งที่ยังคิดอ่านไม่รอบคอบว่าพลอยขวัญจะคิดยังไง“แบบนี้มันจะไม่พังหรือวะ...เมียแก...ไอ้จางเหว่ยพ่อตาแกมันคงไม่ปลื้ม...งานนี้แกพังแน่ๆ ไอ้เสือ”“ขวัญไม่ให้นะคะ...ลูกเป็นทุกอย่างของขวัญ...ถ้าเฮียพรากลีโอไปจากขวัญ...ก็เท่ากับเฮียควักหัวใจออกไปจากอกของขวัญ”พลอยขวัญเดินเข้ามาแย่งลูกไปอุ้ม“อันที่จริงปู่ว่ายกตาหนูให้ไอ้เสือไปเลี้ยงให้รู้แล้วรู้รอดก็ดีเหมือนกันนะหนูขวัญ เพราะว่าหนูจะได้ไปมีชีวิตใหม่ มีครอบครัวของตัวเองบ้าง...ปู่ว่าไอ้เมฆมันก็ไม่เลวนะ...ผู้คนแถวนี้ก็รู้ว่ามันเป็นคนดี ดูท่าทางมันรักหนูจริง”ปู่พจน์โพล่งออกมาบ้าง เพราะรู้ว่ามันจะทำให้คนอย่างพยัคฆ์เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ...ซึ่งก็ได้ผล“อะไรนะ! นี่ลูกเพิ่งขวบเดียวเธอก็แรดคิดจะมีผัวใหม่แล้วหรือ...มันจะร่านเกินไปแล้ว คิดจะมีผัวใหม่ทั้งที่ยังเป็นแม่ลูกอ่อน”พยัคฆ์กำมือแน่นด้วย
“แหม...ตอนปอกมะละกอดูเงอะงะ...แต่พอจับสากตำลงในครกนี่ถนัดนะคะคุณเสือ” ป้าชื่นหัวเราะพยัคฆ์เองก็เขินๆ ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องมานั่งตำส้มตำให้เมียที่กำลังแพ้ท้อง “นี่ค่ะใส่เลย” ป้าชื่นส่งถ้วยใส่ถั่วฝักยาวหั่นมาให้ “พอแล้วค่ะ...ไม่ต้องตำจนแหลก” ป้าชื่นตักมะละกอที่ขูดเป็นเส้นใส่ลงในครก” “ใส่น้ำปลาสองช้อนค่ะ” “ไงต่อครับ”“น้ำตาลปี๊บอีกครึ่งช้อนค่ะ...มะนาวด้วยค่ะ แล้วก็กุ้งแห้ง ถั่วลิสง เท่านั้นก็แซบแล้วล่ะค่ะ”เสียงกระแทกสากลงครกของเฮียเสือดังลั่นออกมาจากครัว ทำให้พลอยขวัญอดสงสัยไม่ได้เพราะว่าสามีหายมานาน กระทั่งลงมาเห็น“ทำอะไรกันอยู่คะป้าชื่น…”คนที่ชะโงกหน้าเข้ามาในครัวเอ่ยถามด้วยความสงสัย สีหน้าตกใจเล็กน้อยที่เห็นเฮียเสือกำลังนั่งตำส้มต้มอย่างเอาจริงเอาจัง“เฮียลงมาตำส้มตำให้ขวัญจ้ะ”สามีตอบเสียงหวาน ออกอาการเขินนิดๆ ตั้งใจว่าจะแอบยกจานส้มตำไปให้หล่อนถึงที่ แต่ความก็แตกเสียก่อนที่จะได้เซอร์ไพรส์ภรรยาทว่าสิ่งที่ได้เห็น ก็ทำให้พลอยขวัญปลื้มใจจนพูดอะไรไม่ออก ใครเลยจะคิดว่าจะได้เห็นภาพของเฮียเสือมานั่
“เฮียจ๋า...ขวัญรักเฮีย”เสียงกระซิบสั่นพร่า ดวงตาพริ้ม หลังจากความทรมานได้ลุล่วงไปสู่อาการออกัสซั่มรุนแรงเมื่อถึงสวรรค์“เฮียก็รักขวัญจ้ะ...ยอดรักของเฮีย”พยัคฆ์บอกขณะท่อนเนื้อยังเสียบคา สวรรค์ชั้นเจ็ดกำลังพร่าเลือนอยู่ภายใต้เปลือกตาของเขาเช่นกัน รับรู้ในความเสียวซ่านสุดจะบรรยายไม่ต่างจากหล่อนเนื้อตัวของพลอยขวัญอ่อนเปลี้ยเหมือนขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน พยัคฆ์เชี่ยวชาญชั้นเชิงกามสุดๆ เขาเปิดฉากจู่โจมหล่อนอีกครั้งทั้งล่างทั้งบน ขณะสองเต้าเต่งตึงกำลังโดนดูดเสียงดังจ๊วบจั๊บ ที่ง่ามขาก็โดนลำนิ้วทิ่มทะลวงเข้าใส่เสียงดังพลั่กๆ จนน้ำหล่อลื่นทะลักสวนนิ้วออกมา ลีลาดุเด็ดของเฮียเสือสุดหื่นทำเอาพลอยขวัญเสียวกระสันไปทุกสรรพางค์กาย“ขวัญจ๋า...รอบนี้ขย่มให้เฮียนะจ๊ะ...ขึ้นให้เฮียนะครับ”พยัคฆ์บอกพลางรั้งเอวของพลอยขวัญให้ตามมาทรุดร่างอรชรลงนั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง“ค่ะ...”พลอยขวัญมองท่อนเนื้อล้อมเม็ดมุกตะปุ่มตะป่ำด้วยสีหน้าแบ่งรับแบ่งสู้ รู้ว่าอาจจะเจ็บระบมบ้างตอนที่กลีบเสียวแสนบอบบางจะต้องกลืนเม็ดมุกตะปุ่มตะป่ำเข้าไปจนสุดตอแต่ความเสียวซ่านจากสัมผัสเสียดสีที่ทำเอาติดใจ ก็ทำให้แม่ลูกอ่อนสูดหายใจแรง รว
“ลองจับให้ถนัด”พยัคฆ์ชักท่อนเนื้อฝังมุกออกมาจากรูสวาทฟิตแน่นพลอยขวัญยิ่งลูบไล้ก็ยิ่งรู้สึกร้อนผ่าวในช่องท้อง แอบขมิบกลีบหมุบๆ เพราะอยากหนีบอยากกลืนดุ้นเนื้อฝังมุกของเฮียเสือ“เฮียจ๋า...ขวัญจะขาดใจแล้ว...ขวัญอยาก”“งั้นเฮียจะกระแทกให้แตกเลยนะจ๊ะ”พยัคฆ์คว้าข้อเท้าของแม่ลูกอ่อนขึ้นมาพาดเอาไว้บนบ่าบึกบึนของตัวเองอีกครั้งจากนั้นก็ช้อนท่อนเนื้อแข็งแกร่งขึ้นมากำแน่น บีบจนหัวมังกรแดงก่ำมีน้ำหล่อลื่นเหนียวๆ เล็ดไหลออกมาปริ่มปลาย ขนาดมหึมาของมันทำให้มือของตนซึ่งแม้จะมีขนาดใหญ่มาก...แต่ก็ยังไม่สามารถกำได้รอบ“อูย...แน่นรูสุดๆ”พลอยขวัญพริ้มตา หน้าบูดหน้าเบ้ พยัคฆ์ส่ายเสียดหัวมังกรกระแซะเสียบเข้าใส่กลีบเนื้อสีชมพูจนเผยอแยะแบะอ้าออกทีละน้อยก่อนที่แม่ลูกอ่อนจะร้องครางลั่นกับความพิสดารของอาวุธประจำกายของสามีที่กำลังเคลื่อนเข้ามาคับแน่นในช่องทางบอบบางจนสุดโคนพวงสวรรค์ เนื้อแนบเนื้อจนเส้นขนของหล่อนกับเขาเสียดสีกันร้อนผ่าว ราวจะลุกติดไฟขึ้นมาได้“อ่า...ฮึก...”พลอยขวัญหลับตาปี๋ อานุภาพของเม็ดมุกที่เสียบเข้ามาเสียดสีในกลีบเนื้อบอบบาง ทำให้หล่อนรู้สึกเจ็บในตอนแรก แต่ความเสียวกระสันที่มีมากกว่า ก็ทำใ
“อ๊อย...ขวัญจะขาดใจ”คนหื่นยังคงตั้งปลายลิ้นเป็นลำแข็ง เสียบแทงเข้าไปในรูสวาทของหล่อนไม่ยั้งแจ๊บๆ ๆ ๆ ๆเสียงปลายลิ้นสากกวาดเลียผนังเนื้อนุ่มแน่นบอบบางในระหว่างสองกลีบอย่างเร่าร้อน“ชอบมั้ย”ถามขณะแบะบีบจนกลีบปลิ้นออกมารับปลายลิ้นจ้วงทะลวงเข้าเลียรูสวาทอย่างเมามัน การจู่โจมแบบดิบเถื่อน เร่าร้อน ถึงอกถึงใจ ทำให้เลือดในกายของหญิงสาวราวจะเดือดขึ้นมาได้“ชอบค่ะ...อ่า...ซี้ด”พลอยขวัญเสียวจนต้องขมิบกลีบเนื้อรัวๆ เมื่อเฮียเสือดูดกลีบสีชมพูจนปลิ้นทะลักออกมารับปลายลิ้นหนา จ้วงเลียเข้ามาดูดกินน้ำคาวสวาทหอมหวานของหล่อนอย่างเอร็ดอร่อย“ห้ามไปให้ผู้ชายคนอื่นทำแบบนี้นะ”พยัคฆ์หวง“ขวัญไม่เคยให้ใครทำ...ขวัญให้เฮียคนเดียว”หญิงสาวกล่าวตามความจริง นอกจากพยัคฆ์ก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้ทำกับร่างกายของหล่อนขนาดนี้“ขวัญรักเฮียคนเดียว”หล่อนใช้คำพูดที่ทำให้หัวใจของสามีพองโต ไม่ต่างจากลูกโป่งที่สูบลมจนเต็ม“ชื่นใจเฮียที่สุด”“ไม่ไหวแล้วค่ะเฮียขา...ขวัญเสียวเหลือเกิน”“จ้ะ...เดี๋ยวเฮียเสียบให้ ขวัญจะได้หายทรมานเสียที”พยัคฆ์มองสองมือของหล่อนที่ขยุ้มขยำจนผ้าปูที่นอนยับย่น รู้ว่าหล่อนกำลังทรมานมาก เขารีบกระเ
พยัคฆ์ค่อยๆ บีบคลำสองเต้าซึ่งอวบขาวและคัดไปด้วยน้ำนมแม่ลูกอ่อน สองเต้าของหล่อนขาวจนแลเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้ความเปล่งปลั่งนวลเนียน“นมคัดมาก...เฮียช่วยนะ” พลอยขวัญขัดขืนเล็กน้อยพอเป็นพิธี มือน้อยๆ ทุบตีไหล่ของคนหื่นที่คร่อมลงมาจูบฟัดร่างอวบอัดแล้วดูดนมเมามัน“อ๊อย...ขวัญเสียวหัวนม”ทรวงอกของแม่ลูกอ่อนแอ่นหยัดขึ้นด้วยความเสียวซ่าน หัวนมโดนดูดจนปูดบาน น้ำนมสีขาวทะลักไหลออกมาชุ่มปากคนเป็นพ่อของลูก“เสียวล่ะสิ”พยัคฆ์กระตุกยิ้ม“เสียวค่ะ”พลอยขวัญยอมรับว่าหล่อนรักผู้ชายคนนี้หมดหัวใจ ไม่ว่าเขาจะสัมผัสแตะต้องตรงส่วนไหนของร่างกาย หล่อนก็รู้สึกมีอารมณ์ไปหมด“จากนี้เฮียขอแย่งลูกกินนมทุกวันนะครับ”บอกขณะกอดจูบแล้วดูดนมพัลวัน ก่อนที่มือซุกซนข้างหนึ่งจะล้วงเข้ามาที่ง่ามขาอวบขาว สอดนิ้วกลางแหวกกลีบ“อ๊อย...”พลอยขวัญสะดุ้ง ขมิบกลีบสวาทรัดดุ้นนิ้วของเฮียที่เสียบเข้ามา“ขอเฮียใช้นิ้วให้ลื่นก่อนนะครับ...”พยัคฆ์กระซิบข้างหู ดูดนมขณะเสียบนิ้วกลางรัวๆ จนแม่ลูกอ่อนร้องคราง ไม่นานน้ำหล่อลื่นเหนียวๆ ก็หลั่งออกมาชุ่มมือของเฮียเสืออีกระลอกพยัคฆ์ร้อนแรงและหื่นมาก ใช้เล่ห์สา
“ระยำ...” พยัคฆ์ปรี่เข้าหาหยางไห่ด้วยความโกรธจัด ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่พยัคฆ์จะกระทืบหยางไห่ให้ตายคามือ เพราะพยัคฆ์มีโครงร่างสูงใหญ่และแข็งแกร่งกำยำกว่ามากหากสุดท้ายพยัคฆ์ก็เลือกที่จะไม่ใช้กำลัง แต่ตัดสินใจที่จะก้าวเดินออกมาจากเหตุการณ์อันน่าอัปยศอดสูด้วยหัวใจที่ยอมรับความจริง...ว่าเหมยฮัวรักคนอื่น เช่นเดียวกับเขา...ที่รู้ซึ้งแล้วว่าผู้หญิงที่หัวใจของตนปรารถนาจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตก็คือ ‘พลอยขวัญ’ พยัคฆ์สูดหายใจแรง ครั้นเมื่อระงับความโกรธได้ก็หันไปหาเหมยฮัวที่ยืนตาแดงๆ คล้ายจะร้องไห้ “ผมขอโทษที่มาขัดจังหวะความสุขของคุณสองคน สนุกกันต่อเถอะครับ ขอบคุณนะเหมยฮัว...ขอบคุณที่ทำให้ผัวโง่ๆ อย่างผมตาสว่างเสียที...ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าคุณไม่ได้รักผม...ต่อจากนี้ไปผมจะถือว่าหัวใจของเราสองคนเป็นอิสระจากกัน” สุ้มเสียงของพยัคฆ์มีความขมขื่นอย่างเห็นได้ชัด หากก็ยอมรับว่าโชคชะตาได้ลิขิตเอาไว้แล้ว พยัคฆ์ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตคู่ของตนกับเหมยฮัวจะต้องปิดฉากลงเพราะเรื่องบัดสีที่เกิดขึ้นในวันนี้...แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
“อูย...ซี้ด...”เมื่อดุ้นเนื้อร้อนผ่าวเคลื่อนเข้ามาจนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ พยัคฆ์ก็ขยับเบาๆ ก่อนจะกระเด้ารัวแรงลึกเต็มอารมณ์หื่นพลั่กๆ ๆ ๆ ๆ “อ๊ายยยย...อูย...ขวัญเสียว”ดวงตาของหญิงสาวหรี่พริ้ม เพราะคนข้างหลังทิ่มรัวเข้ามาชุดใหญ่ สองมือของหล่อนเกาะขอบเคาน์เตอร์เอาไว้แน่น แอ่นบั้นท้ายรับการลงทัณฑ์อันดิบเถื่อนของพยัคฆ์ด้วยความเต็มใจ“อ่า...แน่นสุดๆ เลยขวัญจ๋า...ของขวัญรัดของเฮียปลิ้นเลยจ้ะ”สายตาของเฮียเสือจับจ้องอยู่ที่ภาพของแท่งเนื้อกำลังเสียบความแข็งแกร่งเข้าๆ ออกๆ เสียบรัวจนพลอยขวัญขมิบไม่ทัน ส่งผลให้น้ำหล่อลื่นหลั่งซ่านออกมาอาบดุ้นเอ็นของพยัคฆ์“อ๊อย...เฮีย”ไหล่ทั้งสองข้างของพลอยขวัญส่ายสะบัด เพราะก้นกลมกลึงตึงเต่งอวบขาวแอ่นหยัดขึ้นรับความแข็งแกร่งที่เสียบแทงเข้ามารัวๆ ทรวงอกอวบใหญ่เบียดแนบกับพื้นเคาน์เตอร์เพราะฝ่ามือของเฮียที่กดเอาไว้“เฮีย...ขวัญไม่ไหวแล้ว” หล่อนเร่งเร้าพลั่กๆ ๆ ๆพยัคฆ์สนองให้ เสียงเนื้อกับเนื้อสลักแน่นเข้าด้วยกัน เนื้อตัวของพลอยขวัญบิดเร่าทรมาน สองเต้าอวบคัดเบียดบดอยู่กับพื้นเคาน์เตอร์แกรนิตโต้จนมีน้ำนมสีขาวไหลเลอะออกมาข้างลำตัว“อีกนิด...เฮียจะแตกแล้ว
“คิดว่าไปไหน”คนที่หวาดระแวงหึงหวงจนขึ้นสมองรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าหล่อนอยู่ในครัว“ทำอะไร”สายตาจับอยู่ที่บั้นท้ายหนั่นแน่นของพลอยขวัญ ขณะหล่อนกำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่าง“ขวัญกำลังจะเจียวไข่ให้ตาหนูค่ะ...ตาหนูชอบทานไข่เจียว...ว่าแต่เฮียเข้ามาทำไม...หิวแล้วหรือคะ”ถามขณะมือเรียวเอื้อมหยิบไข่กำลังจะตอกลงในถ้วย“ใช่...เฮียหิว...แต่ไม่ใช่หิวข้าว”เฮียเสือตอบเสียงกระเส่า ทว่าในขณะที่พลอยขวัญเหลียวมามอง หล่อนก็มีอันต้องสะดุ้งตกใจเพราะได้ยินเสียงล็อกประตู จากนั้นร่างหนาของคนหื่นก็ตรงรี่เข้ามาสวมกอดหล่อนจากทางด้านหลัง“อุ๊ย...”พลอยขวัญตกใจ มือสั่นจนเกือบตอกไข่ไม่ตรงถ้วย“เฮียหิวขวัญ...อยากกินขวัญ...ขอจัดหนักให้ขวัญทิ้งทวนก่อนเฮียไปฮ่องกงนะ...ขวัญจะได้อิ่มนานๆ ในระหว่างเฮียไม่อยู่ ดีมะ”พยัคฆ์กระซิบกระซาบพร้อมกับจูบไซ้ซอกคอ หอมแก้มหล่อนลนลานพลอยขวัญรู้ว่าเขาเอาจริง หล่อนไม่รอดแน่ๆ ยืนยันด้วยแท่งเนื้อมหึมาของเขาที่กำลังแข็งเป็นดุ้น ไถถูมอบความอบอุ่นอยู่กับบั้นท้ายหนั่นแน่นของหล่อนเหมือนค้นหาช่องทางของความสุข“เฮีย...มะ ไม่...เดี๋ยวใครมาเห็น”พลอยขวัญกลัว แต่ก็เริ่มเกิดอาการร้อนวูบวาบหลังจาก
“คุณขวัญมีแขกค่ะ”บัวผันตอบ ที่รู้ก็เพราะว่าเพิ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก“ใคร...แขกที่ไหน...ผู้หญิงหรือผู้ชาย”ความหึงหวงพลอยขวัญทำให้พยัคฆ์รีบถาม“ผู้ชายค่ะ”บัวผันตอบตามตรง คำว่า ‘ผู้ชาย’ ทำให้พยัคฆ์หูผึ่ง คิ้วขมวดเข้าหากัน“ใคร”เสียงเข้มดุจนน่ากลัว“คุณเมฆค่ะ”“ดีเลย...ฝากตาหนูเดี๋ยว...อยากเห็นหน้านักไอ้พวกชอบย่องมาตีท้ายครัวคนอื่นตอนผัวไม่อยู่”พยัคฆ์ก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องรับแขกของบ้าน ปู่พจน์รู้สึกตกใจที่เห็นพยัคฆ์แสดงอาการหวงเมียจนออกนอกหน้าที่หน้าห้องรับแขกพยัคฆ์ผลักประตูเข้าไปโดยไม่เคาะ ตอนนั้นเมฆกับพลอยขวัญกำลังนั่งคุยกัน จึงหันมามองร่างสูงใหญ่ไซส์ฝรั่งเกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่ยืนตระหง่านอยู่หน้าประตู สีหน้าถมึงทึง แววตาเหี้ยมเกรียมดูน่ากลัวสุดๆพยัคฆ์ยังไม่พูดอะไร เดินอาดๆ เข้ามานั่งเคียงข้างพลอยขวัญ โอบไหล่แล้วหอมแก้มเสียงดังฟอด ประกาศให้รู้กันไป...ว่าผู้หญิงคนนี้เมียกู“นายใช่ไหมที่ชื่อเมฆ”พยัคฆ์ถามไม่เกรงใจ“ครับ...”เมฆพยักหน้า ไม่คิดว่าจะได้เจอสามีของพลอยขวัญ เพราะไม่รู้ว่าพยัคฆ์มา“ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียผม...คุณมีธุระอะไรกับเมียผม”พยัคฆ์ถามเสียงเข้ม ขณะมือโอบเอวข