ฌอนจ้องไปที่เฮดลีย์อย่างเคร่งขรึมเฮดลีย์พูดไม่ออกเขาทําอะไรผิดเหรอ? ทั้งหมดที่เขาขอคือลายเซ็น ที่จริงการเป็นผู้ช่วยของคุณชายใหญ่ฮิลล์นั้นโหดหินขึ้นเรื่อย ๆ"ส่งเอกสารมาให้ผม"ฌอนค่อย ๆ เอ่ยปาก ขณะจ้องสายตาพิฆาตมาที่เขาเฮดลีย์ยื่นให้ หลังจากที่ฌอนเซ็นสัญญาแล้ว เฮดลีย์ก็พูดว่า “ครับ แล้วก็ยังมีอีกเรื่องคือว่า คุณชายใหญ่ฮิลล์คุณตกเป็นข่าวฮือฮาเรื่องที่ไปเยี่ยมซาร่าที่โรงพยาบาลเมื่อคืนนี้”เฮดลีย์คลิกที่ข่าวเพื่อเปิดให้ฌอนดู “ที่คุณกําลังไล่ตามจีบคุณโจนส์อยู่ในตอนนี้ ผมคิดว่าถ้าเธอเห็นข่าวชิ้นนี้ เธอก็คงจะรู้สึก... ค่อนข้างผิดหวังนะครับ”"ทําไมคุณถึงไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?"หลังจากที่ฌอนได้ดูวิดีโอ ใบหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที "นักข่าวจากไหน?"“เป็นนักข่าวจากซันรายสัปดาห์ สำนักข่าวที่มักจะรายงานเรื่องเล็กน้อยไร้สาระที่เกิดขึ้นในสังคม มีนักข่าวคอยเฝ้าติดตามหาข่าวอยู่ในโรงพยาบาลเสมอแหละครับ”ฌอนกัดฟัน “ผมให้เวลาคุณครึ่งวันในการทําให้สำนักข่าวแห่งนี้หายไป แล้วก็ให้ลบข่าวที่เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ให้เกลี้ยง นอกจากนี้เตือนสำนักข่าวอื่น ๆ ด้วยว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบเช
“ฌอนนิค ฉันยังไม่หายดีค่ะ ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังเถอะนะคะ” เมื่อซาร่าเห็นโฉนดในแฟ้ม เธอก็รู้สึกใจหาย เธอแสร้งทําเป็นรู้สึกไม่สบายและนอนลงไปอย่างไว“ซาร่า หยุดหนีจากมันซะที” ฌอนรู้สึกว่าไม่อยากดึงเรื่องนี้ให้ยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ปรานี “นี่คือโฉนดของวิลล่าริมทะเล นอกจากนี้ผมจะชดเชยให้คุณด้วยอพาร์ตเมนต์ดูเพล็กซ์หนึ่งห้องและอสังหาเชิงพาณิชย์อีกสิบแห่ง และนี่ก็บัตรที่มีเงิน 100 พันล้านดอลลาร์อยู่ข้างใน ซึ่งเพียงพอให้คุณได้ใช้ชีวิตที่หรูหราได้”“หยุดเถอะ ฉันจะไม่เลิกกับคุณหรอกค่ะ” ซาร่าป่ายปัดแก้วน้ำร้อนข้างตัวเธอด้วยความปั่นป่วนเพราะฉะนั้นมันจึงลวกมือเธอ“คุณนีสัน...” ยาเอลตกใจมาก เธอกดกริ่งตามหมอทันที“มือของฉันเจ็บ โอย มันเจ็บมาก ๆ เลย” ซาร่าเริ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดยาเอลแนะนําฌอนว่า “คุณชายใหญ่ฮิลล์คะ มิสนีสันยังไม่หายดีเลยนะคะ ทําไมคุณต้องยั่วยุเธอในเวลาเช่นนี้?”หากสิ่งนี้เกิดขึ้นแต่ก่อนตอนนั้น ฌอนคงจะทนได้อย่างไรก็ตาม ซาร่าปฏิเสธที่จะยอมรับความจริงและยังคงเอะอะโวยวายส่งเสียงดังตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวานนี้ฌอนยังใช้เวลาทั้งคืนอยู่เป็นเพื่อนเธอเ
จิตใจของซาร่าก็สับสนเช่นกันเธอหมดอารมณ์เกลี้ยกล่อมให้ร็อดนีย์อยู่ต่อเมื่อครู่นี้ เธอคิดอยู่ว่าถ้าเธอไม่สามารถเอาฌอนกลับมาได้ เธอจะแต่งงานกับร็อดนีย์ยังไงซะ เขาก็เป็นผู้สืบทอดของสโนว์ คอร์ปอเรชั่น และเป็นหลานชายของประธานาธิบดีในอนาคตมีเกียรติไม่น้อยไปกว่าการแต่งงานกับฌอนอย่างไรก็ตาม ในทันทีที่ร็อดนีย์ถูกตัดสิทธิ์โดยตระกูลสโนว์ ไม่ได้ถือหุ้นใน สโนว์ คอร์ปอเรชั่น หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสโนว์ ร็อดนีย์ ซึ่งมีเพียงโอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นเท่านั้นก็จะไม่มีอะไรเลย เธอจะมีชีวิตแต่งงานที่แย่กว่าซินดี้ซาร่ากําลังจะบ้าแล้ว ทําไมเธอถึงช่างโชคร้ายนัก?… ร็อดนีย์รีบกลับบ้านทันทีในศาลา นายท่านสโนว์และเจสสิก้ากําลังพูดถึงเรื่องของบริษัท“เจสสิก้า ถ้าเพียงแต่หลานเป็นเด็กผู้ชาย หลานคงมีความสามารถมากกว่าร็อดนีย์มาก” เมื่อใดก็ตามที่นายท่านสโนว์ฟังหลานสาวของเขาพูดถึงงาน เขาจะรู้สึกเต็มตื้น“คุณปู่ ฟังดูเหมือนท่านกําลังเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างเราอยู่นะคะ” เจสสิก้าพูดติดตลกขณะที่นายท่านสโนว์กําลังจะเอ่ย ร็อดนีย์ก็ยกม่านขึ้นและบุกเข้าไป “คุณปู่ผมไม่มีสิทธิ์สืบทอดตําแหน่งสโนว์ ค
เจสสิก้าเหลือบมองร็อดนีย์อย่างช่วยไม่ได้ “คุณปู่ท่านเอาจริงนะ แกควรคิดให้รอบคอบ มันคุ้มหรือเปล่าแค่ผู้หญิงคนเดียว? แกจะไปได้ไกลแค่ไหนเชียว หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสโนว์?”“ผมคิดมาหมดแล้ว ผมไม่เหมือนพี่นี่ครับ ผมจะไม่แต่งงานกับคนที่ผมไม่รักหรอก” ร็อดนีย์พูดอย่างโมโห ท่าทีของเจสสิก้าเปลี่ยนไปและแล้วร่องรอยของความเศร้าก็สาดแสงไปทั่วดวงตาเธอ จากนั้นเธอก็เดินออกจากศาลาและจากไปอีกรายร็อดนีย์ยืนอยู่ที่นั่นสักพักก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านของตระกูลสโนว์ไปอย่างหงุดหงิดใจเมื่อเขาขึ้นรถไป เขาได้รับสายจากผู้จัดการทั่วไปสตีเวนส์ “ประธานสโนว์ครับ การเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท SKITTL ในภาคพื้นประเทศเอฟของบริษัทเราล้มเหลวครับ”“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? คุณใช้เวลาตั้งสองปีเต็มในการเตรียมตัวสําหรับการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท SKITTL ไม่ใช่หรอกเหรอ?” ร็อดนีย์รู้สึกถึงความโกรธที่อธิบายไม่ได้ท่วมท้นขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนแรกเริ่มเขาต้องการใช้โอกาสในการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม SKITTL เพื่อให้โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมแชมพูและขยายไปทั่วโลกอีกด้วย ด้วยวิธีนี้เขาไม่จําเป็นต้องจ่ายเงินให้กล
21.30 น.ฌอนพิงประตูบ้านของแคทเธอรีนและคอยมองโทรศัพท์ของเขาอยู่เป็นระยะทําไมผู้หญิงคนนั้นยังไม่กลับอีกทั้งที่มันดึกมากแล้ว? เป็นไปได้ไหมว่าเธอออกเดทกับชายอื่นอีกแล้ว? ถ้าฌอนไม่ได้ตามส่องพิกัดของไอแซกล่วงหน้าแล้วรู้ว่าคืนนี้เขาต้องทำงานต่อที่บริษัทจนดึก คงไม่บ้ามารอที่นี่ตั้งเจ็ดชั่วโมงหรอกเขาไม่เคยรอผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อนติ๊ง มีเสียงมาจากลิฟต์ตํารวจสองสามนายเดินตรงมาทางเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว "ต้องเป็นคุณแน่เลย"ฌอนตกตะลึง“ไปได้แล้ว เลือกเอาว่าคุณจะออกไปจากที่นี่ไปหรือว่าจะตามเรากลับไปสถานีตํารวจ” ตํารวจพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าของบ้านนี้ได้โทรแจ้งความกับตํารวจ เธอบอกว่าคุณเป็นสามีเก่าของเธอที่คอยตามรังควานเธอไม่หยุดหย่อนแม้แต่หลังจากที่หย่ากันแล้วจนเธอไม่กล้ากลับมาบ้าน”“เธอโทรหาตํารวจเหรอ?”ใบหน้าหล่อเหลาของฌอนกระตุกและแผ่ออร่าอันน่าสะพรึงโดยที่เขาไม่รู้ตัว เลยทําให้ตํารวจยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็นคนชอบก่อความรุนแรงโมโหร้าย“ไม่เอาน่ะคุณครับ เธอควรยอมให้คุณรบกวนเธอหรือไงถ้าเธอไม่โทรหาตํารวจ?” ตํารวจนายหนึ่งเริ่มเทศนาฌอน “ผมเคยเห็นผู้ชายหลายคนทำตัวเหมือนคุณที่ยังคงทําร้ายภรรย
หลังทานมื้อเช้า แคทเธอรีนเดินออกจากทางเข้าหลักของวิลล่าตระกูลยูลฌอนเปิดประตูรถทันทีและเดินไปหาเธอ ถึงแม้เขาไม่ได้กลับบ้านติดต่อกันสองคืน เสื้อเชิ้ตที่สวมก็ยับ ตอหนวดก็เริ่มผุดบนใบหน้า แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อรูปลักษณ์ดูดีน่ามองของเขาเลย ที่จริงกลับเสริมให้เขาดูมาดเข้มแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้แต่อารมณ์ตีมึนของเขาก็ยังเต็มไปด้วยความน่าดึงดูดสไตล์แบดบอยที่ผู้หญิงชื่นชอบ"เมื่อคืนคุณโทรแจ้งตํารวจเหรอ?" ฌอนจ้องไปที่แคทเธอรีนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ“ใช่น่ะสิ ก็คุณเอาแต่ยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านฉันไม่ยอมไปไหน สําหรับฉันมันก่อความรบกวนวุ่นวายมากนะ” แคทเธอรีนพูดอย่างเย็นชาโดยไร้วี่แววของความรู้สึกผิดใด ๆ"นี่คุณ..."ฌอนยืดอก ผู้ชายที่ได้รับการยอมรับสูงส่งอย่างเขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งหยามเกียรติเช่นนี้มาก่อน“ฉันทำไม? ฉันไม่ใช่คนที่คอยกวักมือเรียกคุณมานะ คุณฮิลล์ คุณจะมาเลือกหาผู้หญิงเพื่อใช้ประโยชน์ตามที่คุณต้องการ พอหมดประโยชน์คุณก็เขี่ยทิ้งไปหาผู้หญิงที่น่าหลงใหลแต่ไร้ประโยชน์” แคทเธอรีนตำหนิเขาตรง ๆ “ฉันจําได้ว่าบอกคุณชัดแล้วตั้งแต่คืนก่อนว่าถ้าคุณไปหาซาร่า คุณก็ไม่ควรกลับมาหาฉันอีกต่อไป”เ
มีมือยกมาบังริมฝีปากฌอนไว้ก่อนที่เขาจะได้จูบแคทเธอรีน“ฉันเป็นหนี้จูบคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" แคทเธอรีนงง เธอกําลังจะพ่ายแพ้ต่อความไร้ยางอายของเขา“เมื่อคืนวานซืนไงล่ะ" ฌอนหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาให้เธอดูอีโมจิจูบที่เธอส่งให้เขาใบหน้างดงามของแคทเธอรีนแดงระเรื่อเมื่อเธอเห็นอีโมจิจูบบนโทรศัพท์ ที่เธอส่งไปโดยไม่ได้คิดอะไรนั้นก็เพียงอยากจะทําให้ผู้ชายคนนี้โหยหาเธอแค่นั้นจริงๆ อย่างไรก็ตามเธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะจํามันไม่ลืมขนาดนี้“แหม ฉันจําได้สิ แต่... คุณก็ไปหาซาร่าทันทีหลังจากได้รับอีโมจิของฉันใช่หรือเปล่าล่ะ?” เธอถามด้วยรอยยิ้มเสเสร้ง"ไม่เลย"ฌอนดูเกร็ง และพูดอย่างเก้กังว่า “ผมไปอาบน้ำเย็น ๆ หลังจากได้รับมัน”“...”เนื่องจากพวกเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แคทเธอรีนเองเข้าใจคําพูดของเขาได้ทันทีดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนผ่าว เธอพูดไม่ออกจริงน่ะเหรอ? มันก็แค่อิโมจิที่ทุกคนเขาก็ใช้กันไม่ใช่เหรอ? ทําไมเขาถึงได้หื่นขนาดนั้น?“คุณเพิ่งเลิกกับซาร่าเมื่อไม่กี่วันเอง ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ? ” เธออดไม่ได้ที่จะพึมพําเบา ๆแต่ฌอนก็หูไวเหลือเกิน เขาได้ยินเสียง
“”ฉันจะไม่ขับคันนั้นแล้ว แคธี่ไม่ชอบมันก็ไม่มีความจําเป็นต้องเก็บไว้” เฮดลีย์รู้สึกลำบากใจ “ว่าแต่แอสตันมาร์ตินจะดูลดเกรดไปไหมครับ? มันไม่ตรงกับสถานะของคุณจริง ๆ นะ”“ไม่เป็นไรเพราะแคธี่ก็ขับแอสตันมาร์ตินด้วย เธอขับคันสีขาวถ้าคุณสามารถหาคันสีดําให้ผมได้จะดีมาก เราจะได้มีรถที่เข้าคู่กัน”ฌอนวางสายหลังจากที่เขาพูดไปอย่างนั้น ราวกับว่าการเปลี่ยนรถสปอร์ตให้เขานั้นง่ายพอ ๆ กับการซื้อผักที่ตลาดแคทเธอรีนจดจ่ออยู่กับการขับรถของเธอและปล่อยให้เขาทำอะไรของเขาก็ทำไปขณะเธอขับรถฌอนเอ่ยว่า "นี่ไม่ใช่ทางไปฮัดสันคอร์ปอเรชั่นนี่"“ก็ใช่สิฉันจะไปที่ยูล คอร์ปอเรชั่น สารพิษในร่างกายของพ่อฉันยังไม่หายดีเลย ฉันเลยจะไปที่บริษัทของเขาดูหน่อย”เหตุผลนั้นเพราะโจเอลบอกเธอเมื่อคืนนี้ว่านายท่านยูลตกลงที่จะให้เมลานีกลับมาที่บริษัท ดังนั้นเธอจึงต้องไปดูด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นยูลคอร์ปอเรชั่นจะเกิดเรื่องยุ่งเหยิงเนื่องจากเมลานีและพ่อของหล่อนอีกครั้ง“ถ้าคุณกําลังจะไปที่ยูลคอร์ปอเรชั่น หมายความว่าคุณจะเข้าไปยุ่งเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องยูล คอร์ปอเรชั่น แล้วคุณสามารถจัดการทุกอย่างได้ไหม?” ฌอนขมวดคิ้วเมื่อได้ย
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก