แม้นายท่านยูลไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารกิจการของบริษัทมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังถูกเมลานีลากเข้ามาในการประชุมวันนี้โดยบังเอิญ อย่างไรก็ตามคําพูดของชาร์ลีทําให้เขาประทับใจเขารับไม่ได้กับความจริงที่ว่ายูล คอร์ปอเรชั่นจะไม่เป็นหนึ่งในบรรดาสามตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในออสเตรเลีย“นายท่านยูลกล่าวอะไรหน่อยสิครับ เราเชื่อมั่นในความคิดเห็นของท่าน” ประธานปาร์คเกอร์ประจบเขา “ตอนนี้ผู้อํานวยการยูลถูกวางยาพิษและไม่แข็งแรงเช่นแต่ก่อน ยูล คอร์ปอเรชั่น จึงพึ่งพาได้แต่ท่านเท่านั้นครับ”“ถูกต้อง นายท่านยูลกลับมาที่บริษัทเถอะครับ” ผู้ถือหุ้นสองสามรายแนะนําเขา “แคมโปส คอร์ปอเรชั่น เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งกว่านั้นพวกเขาก้าวสู่บริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองในออสเตรเลีย ผมคิดว่าเราไม่ควรพลาดโอกาสนี้” "ใช่ครับ หากไม่คำนึงถึงความแค้นส่วนตัว ถ้าไม่ใช่เพราะการพาณิชย์อิเล็คทรอนิคส์ที่เราร่วมกันก่อตั้งขึ้นมากับแคมโปส คอร์ปอเรชั่น ยูล คอร์ปอเรชั่นเองก็คงไม่ได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา”“นายท่านยูล ท่านควรนํายูล คอร์ปอเรชั่นสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง”นายท่านยูลฮึกเหิมทันทีจ
อย่างไรก็ตาม แคทเธอรีนก็ยังไม่เห็นด้วยกับความร่วมมือกับแคมโปส คอร์ปอเรชั่น“คุณปู่คะ ฉันยังคิดว่ามาตรวจสอบเรื่องนี้กันอย่างละเอียดรอบคอบดีกว่า อย่างเช่นหลังจากจัดตั้งกิจการร่วมค้าขึ้นมาแล้ว ใครจะเป็นผู้สรรหาทีมงานมืออาชีพ? ใครจะเป็นกรรมการผู้จัดการ? ยูล คอร์ปอเรชั่นไม่มีความเชี่ยวชาญในภาคการเงิน ดังนั้นเราจึงไม่มีทรัพยากรที่จําเป็นด้านนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าเราก้าวเข้าสู่ภาคส่วนนี้อย่างหุนหันพลันแล่นก็จะ...”“นี่เธอหมายถึงอะไร? เธอกําลังตั้งคําถามกับการตัดสินใจของฉันงั้นรึ?” สีหน้าของนายท่านยูลเข้มขึ้น “แคทเธอรีน ฉันอยู่ในโลกธุรกิจมาหลายสิบปีแล้ว ฉันมีประสบการณ์มากกว่าเธอเยอะ เธอไม่จําเป็นต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของยูล คอร์ปอเรชั่นอีกต่อไป“คุณปู่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อมั่นในตัวท่านนะคะ ฉันแค่คิดว่ามันคงจะดีกว่าหากหารือกันในเรื่องนี้เมื่อพ่อของฉันกลับมา...”ชาร์ลีกล่าวเหน็บแนมว่า “คุณโจนส์ คุณกําลังพูดว่านายท่านยูลไม่มีวิสัยทัศน์เหมือนพ่อของคุณใช่ไหม?”นายท่านยูลเริ่มอารมณ์เสียเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ฉันจัดการยูล คอร์ปอเรชั่นมาหลายสิบปีแล้ว ไม่มีใครรู้จักโลกธุรกิจดีไปกว่าฉัน เรื่องนี
ชาร์ลีมองเงาร่าวงแสนสวยของเธอจากไปด้วยสีหน้ามืดมัวและถูริมฝีปากของเขาอย่างแรงหึ! หล่อนดูถูกเหรอก็ช่างปะไร? สักวันเขาจะต้องสั่งสอนบทเรียนเธอให้ได้อย่างแน่นอน… หลังกลับถึงสํานักงาน แคทเธอรีนก็หัวหมุนดูเอกสารของยูล คอร์ปอเรชั่นไปพักใหญ่ เธอจึงหันมาเริ่มเล่นเกมบนโทรศัพท์ของเธอเธอเล่นจบเกมไปหนึ่งรอบ ผู้เล่นชื่อคุณอยู่ในหัวใจผมก็มาขอร่วมทีมกับเธอเมื่อแคทเธอรีนอนุมัติคําขอทั้งคู่ก็เข้าสู่สนามประลองแคทเธอรีนท่าทางมึนตึ้บหลังจากเล่นไปได้ระยะหนึ่ง ผู้เล่นคนนั้นต้องเป็นมือใหม่เพราะหายตัวไปหลังจากโดดร่มเธออดไม่ได้ที่จะเปิดไมโครโฟนและเตือนว่า “เฮ้! เฮ้ พี่สาว หยุดวิ่งไปรอบ ๆ ซะที ถ้าไปไกลกว่านี้คุณจะออกนอกเขตแดนและตายนะ”“ผมเป็นผู้ชาย ผมควรไปทางไหน?” เสียงแหบพร่าของผู้ชายจากในเกมแคทเธอรีนเกือบหลงเสน่ห์ เสียงนั้นเซ็กซี่เหลือเกินแถมยังฟังดูคุ้น ๆ นิดหน่อย แต่เธอจดจ่ออยู่กับเกมจนนึกไม่ออก “เปิดแผนที่ตรงมุมขวาบน อย่าวิ่งออกจากวงกลมสีขาว.. แล้วไปพบฉันที่สถานที่ของฉัน”“โอเค"ไม่นานหลังจากชายคนนั้นตอบ เขาก็เริ่มวิ่งเข้าหาเธอแคทเธอรีนถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ชายคนนั้นไม่ได้โง่เก
“ใครเป็นที่รักของคุณกัน?” แคทเธอรีนตะคอก “ฌอน คุณเป็นประธานไม่ใช่เหรอคะ? มีเวลาว่างมากจนต้องมากวนฉันในเกมที่ฉันเล่นหรือไง?”“ผมหาเงินได้เพียงพอแล้ว สิ่งสําคัญที่สุดในตอนนี้คือหาผู้หญิงมาเป็นแฟน” คําตอบของฌอนมั่นใจ “มันเป็นหน้าที่ของผมนะที่ร่วมเล่นเกมกันกับแฟนสาวเนี่ย”แคทเธอรีนจับหน้าผากของเธอ "คุณเจอบัญชีของฉันในเกมนี้ได้ยังไงคะ?"เธอจําได้ว่าเธอไม่ได้ลงทะเบียนในเกมด้วยหมายเลขวอทส์แอปของเธอ“ผมสังเกตเห็นตอนที่คุณเล่นเกมนั้นในวันที่เราดูหนังไง” ฌอนพูดด้วยเสียงต่ำ “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเล่นเกม ผมเคยคิดว่าการเล่นเกมนั้นเสียเวลาของชีวิตไปเปล่า ๆ แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าการอยู่ในเกมกับคนที่ผมรักก็ค่อนข้างโรแมนติกอยู่เหมือนกันนะ”แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสาย แต่แคทเธอรีนก็ขนลุกจากการเกี้ยวเล่น ๆ ของเขาจนเธอไม่รู้ว่าจะสนทนาต่ออย่างไรดี“เด็กดีเย็นนี้คุณเลิกงานกี่โมง ผมจะไปรับคุณได้ไหม?” ฌอนยังคงจีบเธอด้วยน้ําเสียงอ่อนโยน"วันนี้ฉันขับรถมาเอง"“ผมรู้ ผมจะขอให้เฮดลีย์ไปส่งผมที่นั่น แล้วผมจะรอคุณอยู่ที่รถของคุณ”ในที่สุดแคทเธอรีนก็บอกเวลาเขา… ในตอนเย็นแคทเธอรีนหยิบกระเป๋าและเดินเข้าไปใ
ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลังคารถสปอร์ตจะเตี้ยขนาดนี้ศีรษะฌอนอยู่สูงกว่าเธอ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปเขาก็โน้มตัวลงมาเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มฉ่ำของเธอได้สัมผัสริมฝีปากบาง ๆ ของเขาราวอากาศหยุดนิ่งลำคอของฌอนตีบตัน เขารู้สึกราวกับว่ามีประกายไฟถูกโยนลงไปในกองฟืนเกิดเพลิงไฟโหมเร่าร้อนเขาจ้องดูเธอ เมื่อมองใกล้ ๆ เขาตระหนักว่าแคทเธอรีนมีผิวที่ดีมาก เธอไม่มีรูขุมขนหรือสิวเสี้ยน ทว่าการจ้องมองของเขาก่อให้เกิดเฉดสีชมพูจาง ๆ เคลือบเกิดเป็นรอยบนผิวขาวน้ํานมของเธอ นั่นทําให้เธอดูน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก"ไปให้พ้น" แคทเธอรีนผลักเขาออกไป"ผมจะยอมไปหลังได้จูบอีกครั้ง" ฌอนอดกลั้นร่างกายให้สงบไว้ แม้เป็นเพียงจูบเบา ๆ แต่เขาไม่อาจลืมรสจูบนี้ได้เลย มันเหมือนกับว่าในที่สุดเขาเป็นอิสระได้รับการปลดปล่อยหลังครองตัวเป็นโสดมาตั้งหลายสิบปั“คุณหมายถึงอะไรเหรอที่ว่า “อีกครั้ง”? นั่นบังเอิญสัมผัสหรอกค่ะ” แคทเธอรีนแย้งอย่างขัดเขิน"ผมไม่คิดอย่างนั้น" มีรอยยิ้มในดวงตาของฌอน "ผมจะไม่ไปถ้าเราไม่จูบกัน""ฌอน" แคทเธอรีนกัดฟัน เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะไร้ยางอายขนาดนี้"โอ้ว นั่นใครอยู่ตรงนั้น?" จู่ ๆ ฌอนก็ชี้ออกไปนอกหน้าต่างด้วยค
“ฉันรู้ค่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ใส่ใจกับมันมากนัก เนื่องจากคุณปู่ของฉันยืนกรานที่จะร่วมมือกับตระกูลแคมโปส ดังนั้นฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของพวกเขาเพราะเกรงว่าฉันจะแพ้ทั้งสองฝ่าย” แคทเธอรีนยักไหล่อย่างไม่ไยดี “พูดตามตรงฉันไม่มีความผูกพันใด ๆ กับตระกูลยูลและยูล คอร์ปอเรชั่น”“อืม คุณไม่ต้องสนใจยูล คอร์ปอเรชั่นให้มากนักหรอก เนื่องจากคุณจะมาเป็นภรรยาของผมในอนาคตและฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นทั้งหมดจะเป็นของคุณ” จู่ ๆ ฌอนก็จับมือเธอไว้ “คุณมีผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดของออสเตรเลียอยู่ในมือแล้ว”“ไม่เป็นไรค่ะ ท้ายที่สุดผู้หญิงก็ต้องพึ่งพาตัวเองอยู่ดี เผื่อบางที... คุณจะทิ้งฉันอีก”แคทเธอรีนดึงมือของเธอออก ดวงตาของเธอหลุบลงเพื่อปกปิดความเย็นชาในดวงตาเธอ“ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไร ผมมีเวลามากมายเหลือเฟือที่จะพิสูจน์ให้คุณเห็น” ฌอนยิ้มอย่างใจเย็นแคทเธอรีนมองที่ด้านข้างของเขาอย่างพิศวงงงงวย “คุณไม่กังวลเลยหรือว่าครอบครัวแคมโปสจะกลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในออสเตรเลียหลังจากที่พวกเขาครอบครองกิจการยูล คอร์ปอเรชั่น?”“ไม่ครับ ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นได้ทุ่มเงินลงทุนไปเป็นจํานวนมากในการวิจัยแล
ฌอนตกตะลึงขณะนั้นราวกับมีลาวากําลังปะทุในร่างของเขาลมหายใจของเขาเริ่มหนักหน่วงเมื่อจ้องไปยังใบหน้าสวยใสเล็กกระทัดรัดของเธอด้วยสายตาที่ร้อนแรงเขาสงสัยว่าเธอจงใจอ่อยเขาแน่“เอาล่ะ ไม่มีเลือดออกอีกแล้ว” ริมฝีปากของแคทเธอรีนปล่อยนิ้วของเขา เธอไม่ลืมการจ้องมองที่ดุเดือดของเขา แต่พวกผู้ชายต้องถูกอ่อยบ้างในบางโอกาสและได้รับสิทธิพิเศษบางประการ ไม่เช่นนั้นเธอจะทิ้งความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ให้กับเขาได้อย่างไร?ฌอนมองนิ้วของเขาที่เลือดหยุดไหลแล้วอย่างไม่ใยดี สักพักเขาก็หยิบปูขึ้นมาและทิ่มไปที่อีกนิ้วของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นนิ้วให้เธอดู "เลือดออกอีกแล้ว"“...”เขาคิดว่าเธอตาบอดหรือไง? เขาทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองจนไม่เหลือแล้วเหรอ?"พนักงานเสิร์ฟ" เธอยกมือขึ้นโบกมือให้บริกร "ช่วยนำเกลือมาให้ฉันหน่อยค่ะ"ฌอนขมวดคิ้ว ทําไมมันถึงแตกต่างจากที่เขาวาดฝันไว้นะ? “คุณจะไม่ดูหน่อยเหรอ? นี่เลือดไหลออกมามากขึ้นแล้วนะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะดีเองพอโรยเกลือลงไป” แคทเธอรีนยิ้มเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ “พอลมพัดและติดไฟลุกก็ย่างกินเหมือนไส้กรอกได้เลย”“...”สีหน้าของฌอนหม่นหมองเมื่อได้ยิน “ทําไมก่อนหน้านี
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ดวงตาเข้มของเชสเตอร์จดจ่ออยู่กับซินดี้ ใบหน้าที่หล่อเหลาของฌอนก็เข้มขึ้นเช่นกัน “ผม... ทิ้งรอยจูบไว้ที่คอของซาร่าเมื่อไหร่กัน?”ฌอนแม้แต่จะแตะต้องตัวซาร่ายังทำไม่ได้เลย แล้วเขาจะไปทิ้งรอยจูบได้ยังไง?ซินดี้บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์เข้าไว้ พูดขึ้นว่า "แคทเธอรีน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอกําลังพูดถึงอะไร"“อันที่จริงฉันรู้สึกขอบคุณเธอมากเลยนะ” แคทเธอรีนกล่าว “ในตอนนั้นฉันท้องและถูกฌอนกักบริเวณในบ้าน จนในที่สุดฉันต้องไปตรวจร่างกาย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอฉันคงไม่รู้ว่าสื่อได้เผยแพร่ข่าวเฟรยาได้รับบาดเจ็บ และฉันคงไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าโทมัสได้ประกาศต่อสาธารณะว่าเฟรยาเป็นคนยั่วยวนเขาซึ่งนั่นทําให้ฉันโกรธมากจนกลับไปอาละวาด ฉันถึงกับทะเลาะกับฌอนซึ่งสุดท้ายเขาผลักฉันลงกับพื้น...”นั่นคือเวลาที่เธอสูญเสียฝาแฝดไปสีหน้าฌอนเปลี่ยนไปอย่างมากวันนั้นแคทเธอรีนดูเหมือนเธอเป็นบ้าไปแล้ว เธอยังหยิบมีดมาพยายามจะแทงเขา เขาจึงไม่สนใจจะฟังว่าแคทเธอรีนรู้เรื่องทั้งหมดนั้นได้ยังไงปรากฎว่าเป็นซินดี้นี่เองที่บอกเธอถ้าไม่ใช่เพราะความปากสว่างของหล่อน เขาคงไม่ต้องสูญเสียลูกทั้งสองของเขาไป"เธอ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก