เมื่อโทมัสตั้งสติได้ เขาเล็งหมัดไปที่เฟรยาด้วยความเดือดดาลแต่เฟรยาจับเขาทุ่มพาดบ่าลงไปนอนกองกับพื้นบนพื้นนั้นเต็มไปด้วยโคลนและเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา โทมัสก็เจ็บไปทั้งร่าง “นังเลว…”“ไม่ด่าต่ออีกล่ะ หืม?” เฟรยาใช้เท้าเหยียบหน้าเขา“พี่ชาย” ซาร่าเดือดดาลจนเหมือนคลุ้มคลั่ง เธอพุ่งเข้าใส่เฟรยาพยายามตะครุบตัวหล่อน แต่แคทเธอรีนก็ไวพอที่จะไปยืนขวางหน้าเฟรยาไว้“นี่ พวกเขากำลังชำระแค้นในอดีตกัน เธอจะเข้าไปยุ่งทำไม?”คำพูดของแคทเธอรีนทำซาร่าโมโหแทบคลั่งซาร่าไม่ได้ห่วงโทมัสหรอก แต่ยังไงตอนนี้พวกเขาก็มาด้วยกัน การเห็นเขาถูกซ้อมต่อหน้าต่อตาก็เป็นการหยามศักดิ์ศรีเธอด้วย“รีบโทรเรียกตำรวจเลยซาร่า แจ้งคุณชายฮิลล์และคุณชายสโนว์ด้วย” โทมัสกรีดร้องอย่างเจ็บปวดเขาไม่รู้ว่าหลายปีมานี้ เฟรยาไปทำอะไรมาถึงทำให้เธอมีกำปั้นหนักหน่วงดั่งเหล็ก หมัดเธอทำเขาเจ็บปวดรวดร้าวระบมแสนสาหัส“เฟรยา ลินช์ นังบ้า ไว้ฉันจะมาจัดการกับแกต่อ ถ้าแกกล้าดีก็อย่าหนีไปไหนล่ะ ฉันจะพาพวกสองสามคนมาจัดการรุมยำกับ…”“แกมันปากโสโครก ฉันจะช่วยล้างให้แกเอง” เฟรยายกก้อนหินขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาทุบปากเขาเสียงกรีดร้องน่าสังเวชข
เมื่อเฟรยายักคิ้วอย่างหาเรื่อง โทมัสก็หวาดหวั่นจนรีบหลบไปอยู่ข้างหลังซาร่าทันที“พรุ่งนี้จะเป็นวันแต่งงานสำคัญของฉันกับฌอน บรรดาตระกูลชนชั้นสูงทั้งหมดในแคนเบอร์ราจะเข้าร่วมพิธี หากเธอกล้าตบตีฉัน เธอก็จะทำให้ตระกูลฮิลล์อับอายขายหน้า และฌอนจะต้องจัดการเรื่องนี้แน่นอน ฉันขอแนะนำให้พวกเธอคิดให้ดี” ซาร่ายกมือของเธอขึ้นทัดผมหลังใบหู พร้อมกับที่เผยให้เห็นแหวนเพชรส่องประกายวิบวับบนนิ้วชี้ของเธอ เมื่อรู้ว่าแคทเธอรีนชำเลืองมองมา ซาร่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มอวด “นี่เป็นแหวนเพชรที่ฌอนให้ฉันเมื่อวานนี้ น้ำหนัก 13.14 กรัม ถึงมันจะเล็กแต่ก็แฝงคุณค่าทางใจ” เฟรยาตัดบท “มันก็เล็กอยู่นะ สมัยก่อนฌอนเคยให้สร้อยเพชรมูลค่าสามพันล้านดอลล่าร์กับแคธี่ สร้อยที่เรียกว่าสร้อยคอของราชินีน่ะ เธอรู้จักหรือเปล่า?”รอยยิ้มของซาร่าเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อเธอต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับสร้อยคอของราชินีแน่นอน เพราะสตรีจากตระกูลชั้นนำของออสเตรเลียแทบทุกคนต่างเคยได้ยิน ใครบ้างจะไม่อยากได้สร้อยคอของราชินีซึ่งเหมือนเป็นตัวแทนรักนิรันดร์จากชายคนรักเมื่อคิดไปว่าฌอนเคยมอบสร้อยคอให้กับแคทเธอรีน เธอก็โกรธจัดจนหน้าตาบิดเบี้ยว“ช่างเถอ
ก่อนที่ซาร่าจะโกรธจนสติหลุด จู่ ๆ น้ำเสียงเย็นเยือกก็ดังขึ้น“เฟรยา ลินช์ ขอโทษซาร่าเดี๋ยวนี้”ร็อดนีย์เดินขึ้นมาตามขั้นบันไดหินสีฟ้าและเดินเข้ามาหาเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉายแววโหดร้ายโทมัสมองร็อดนีย์ราวกับเขาคือผู้ช่วยชีวิต เขาเดินซวนเซตรงไปหาทันที “คุณชายสโนว์ช่วยผมด้วยครับ ผู้หญิงคนนี้โหดร้ายมาก ทันทีที่เธอเห็นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทุบตี หล่อนยังอยากจะตีน้องผมด้วย แต่โชคดีที่คุณมาทันเวลา”“ร็อดนีย์ ในที่สุดคุณก็มาถึง” ดวงตาซาร่าแดงก่ำและเธอดูบอบช้ำเมื่อเห็นสถานการณ์ ร็อดนีย์ก็อารมณ์เสีย เขาจ้องตาของเฟรยาเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้เกลี้ยง “ผู้หญิงโหดร้ายอย่างคุณอยากแต่งงานกับผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกเหรอ? ฝันไปเถอะ อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ถ้าไม่คุกเข่าขอโทษพวกเขาก่อน”เฟรยาพูดไม่ออก “เดี๋ยวนะ คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับซาร่าไม่ทราบ? พอเธอถูกรังแกถึงเรียกหาคุณแทนที่จะเป็นฌอน? พวกคุณมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันหรือไง?”“อย่าพูดจาไร้สาระ ซาร่าเป็นเพื่อนผม” ร็อดนีย์เดือดได้ที่ เขารู้สึกว่าอยากจะฉีกปากของผู้หญิงคนนี้ทุกครั้งที่ต้องมาข้องแวะกับเธอ“ช่างเป็นเพื่อนที่แสนวิเศษแ
“อันที่จริงที่ฉันกําลังทําก็เป็นผลดีต่อตัวคุณเอง ซาร่าจะแต่งงานพรุ่งนี้ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณแล้ว ถ้าคุณไม่ไขว่คว้าความสุขของตัวเองไว้มันก็จะหลุดลอยไปนะ คุณไม่จําเป็นต้องมาขอบคุณฉันหรอก ฉันก็แค่หวังว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางได้ด้วยดี ทุกคนจะได้สมหวัง”จากนั้นเฟรยาก็โบกมือให้เขาและเร่งเตือนให้แคทเธอรีนรีบขับรถออกไปชั่วจังหวะไม่กี่วินาทีที่ร็อดนีย์อึ้งอยู่นั้น รถก็แล่นจากไปทิ้งไว้เพียงรอยควันร็อดนีย์โมโหจัดแต่ถึงยังไงเขาต้องยอมรับว่าคําพูดของเฟรยากระทบกระเทือนจิตใจ ตรงที่ตอกย้ำว่าซาร่ากําลังจะแต่งงานไม่มีใครสักคนรู้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มา 14 ปีแล้วเขาตกหลุมรักเธอเมื่อตอนเขาอายุ 16 ปี และนับแต่นั้นมาเขาก็ไม่สามารถหยุดรักเธอได้แต่ตอนนั้นซาร่าก็มีความสัมพันธ์กับฌอนอยู่ก่อนแล้ว ร็อดนี่ย์ไม่ต้องการเป็นมือที่สาม แถมฌอนยังเป็นเพื่อนของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาทำตัวเป็นเหมือนพี่ชายของเธอ แอบปกป้องเธอและหวังให้เธอมีความสุขตอนนี้คนที่เขาหลงรักกําลังจะได้แต่งงานแม้เขาจะยินดีกับเธอแต่ตัวเขาเองก็เป็นทุกข์มีใครบ้างชอบความรักที่ไม่สมหวัง? มีใครบ้างไม่อยากอยู่กับคนที่ต
โทมัสเอ่ย “แหมดูสิ คุณชายสโนว์เขาน่ารักขนาดไหน ซาร่าเธอนี่สุดยอดไปเลย ขนาดผ่านมานานหลายปี ไม่ใช่แค่ได้ฌอนกลับมาเป็นแฟนเธออีกหนเท่านั้นนะ แต่เธอยังมีคุณชายสโนว์เป็นตัวสํารองอีกด้วย”แม้ว่าตระกูลสโนว์จะไม่มีอิทธิพลเท่ากับตระกูลฮิลล์ แต่ก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลอันดับต้น ๆ ของออสเตรเลีย นอกจากนี้บรรดาลูกหลานของตระกูลสโนว์ยังมีส่วนร่วมทั้งสองด้าน ทั้งด้านการเมืองและธุรกิจ ซึ่งต่างจากตระกูลฮิลล์ที่ทรงอิทธิพลโดยมีฌอนเป็นตัวหลักค้ำจุนอยู่เบื้องหลังมีข่าวลือว่าลุงของร็อดนีย์จะเป็นผู้สมัครชิงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งปีหน้า ในบรรดาผู้สมัครทั้งหมดเชื่อกันว่าเขามีโอกาสชนะมากที่สุดสตรีร่ำรวยส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจในตัวร็อดนีย์ แต่เขาก็หลงรักซาร่าผู้ซึ่งเขาปฏิบัติต่อเธอเสมือนเป็นน้องสาวของเขาคนเดียวเท่านั้น“ก็คนเราไม่เห็นต้องตัดทางเลือกไหนทิ้งเลย” ซาร่าถอนหายใจ “เผื่อวันไหนฌอนทิ้งฉัน ฉันก็ยังหันไปหาร็อดนีย์ได้”“จะเป็นไปได้ยังไงกัน? พรุ่งนี้เธอก็จะแต่งงานแล้ว” ยิ่งโทมัสคิดเรื่องนี้มากเท่าไรเขาก็ยิ่งฮึกเหิม “อย่างไรก็ตามคุณชายฮิลล์ก็ดีกว่าหากมองในแง่อำนาจที่เขามึ คุณชายสโนว์สู้เขาไม่ได
“ซาร่า ซาร่า ผมเสียใจที่คุณจะแต่งงานพรุ่งนี้”“ซาร่า ผมชอบคุณ คุณรู้ไหม?”"..."ร็อดนีย์ ยังคงพึมพําในขณะที่กอดต้นขาของเฟรยาไม่ปล่อยเฟรยาไม่ซาบซึ้งสักนิดกับการทำตัวเป็นพ่อโรมิโอของเขา ตรงกันข้ามเธอยิ่งรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แถมเธอรู้สึกว่าเขาดูดีไปก็เสียของเปล่า เขามีใบหน้าหล่อเหลาชวนมองก็จริงแต่สมองของเขาคงมีบางอย่างผิดปกติขั้นร้ายแรงทําไมเขาถึงหลงรักซาร่าหัวปักหัวปำแบบนี้ได้? ทั้งที่หล่อนเป็นผู้หญิงเหี้ยมโหดที่สุดในแคนเบอร์ราความคิดนี้กระตุ้นเฟรยาให้อยากมอบบทเรียนแก่ชายเสียสติผู้นี้ ถ้าไม่ทำเธอก็คงไม่ใช่คนตระกูลลินช์“โอเคเอาละ ฉันรู้ ลุกขึ้นได้แล้ว” เฟรยาปลอบเขาเหมือนเวลาเธอปลอบซูซี่และพยุงเขาขึ้นมาเข่าของร็อดนีย์ทรุด ทันใดนั้นเองเขาก็เสียหลักและล้มทับบนตัวเฟรยา “ซาร่า ตัวคุณนุ่มจัง…บอบบางเหลือเกิน…และหอมจัง ผมชอบ”“...”เฟรยาผู้ถูกฉวยโอกาสในที่สาธารณะหน้าแดงด้วยความอับอาย เธอหายใจเข้าลึก ๆ ตอนนี้ไหน ๆ ก็เปลืองตัวไปแล้ว เธอจะคิดบัญชีเขาทีหลังแน่“อืม ฉันตัวหอมเสมอแหละ” เธอเดินทุลักทุเลและพาเขาไปที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามโรงแรมแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยผ
ร็อดนีย์คิดว่าเขาอาจกำลังฝันร้ายอยู่จนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งจากอีกฟากเข้ามากอดเขาแน่น “รูปหล่อ ทําไมคุณไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ? ยังเช้าอยู่เลย”เขาตัวสั่นเทาพร้อมกวาดสายตามองไปอีกด้าน เขาเห็นผู้หญิงผมบลอนด์ตัวอ้วนกำลังเดินเข้ามาหาเขา ปากของเธอเต็มไปด้วย...จากนั้นผู้หญิงคนอื่น ๆ บนเตียงก็ทยอยตื่นขึ้นตามมา ไม่มีอะไรดูน่าสะพรึงไปกว่าพวกเธอแล้วเขาตบหน้าตัวเองสองฉาดอย่างแรงหลังจากนั้น เขาร้องลั่นและกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ เขายิ่งตื่นตระหนกเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเปลือยล่อนจ้อนอยู่เขาตกใจกลัวจนใช้ผ้าห่มห่อตัวเองไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะความเจ็บแปลบบนใบหน้า เขาคงไม่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นความจริง “พวกเธอเป็นใครกัน? ทําไมถึงมาอยู่นี่ได้? พวกเธอทำอะไรกับฉัน?”“คุณเป็นอะไรไปเนี่ย รูปหล่อ? คุณโทรหาเราเมื่อคืนนี้ แต่คุณดันนอนหลับเป็นแน่นิ่ง พวกเราพยายามเล้าโลมคุณอยู่ตั้งนาน แต่คุณก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ดังนั้นเมื่อคืนพวกเราก็แค่นอนหลับไปกับคุณ”“แต่เพราะว่าคุณจ่ายเงินเรามาแล้ว เพราะงั้นเราจะบริการคุณตอนนี้แล้วกัน”เนื่องจากผู้หญิงเหล่านี้ไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาสุดขีดแบบเขามาก่อน พวกเธอจึงน้ำลายห
แคทเธอรีนอ่านความเห็นต่าง ๆ อย่างมีความสุข"เธอเป็นคนทําเรื่องนี้เหรอ?" เธอส่งโทรศัพท์คืนให้เฟรยา คนอื่นอาจไม่รู้แต่เธอเข้าใจทุกอย่าง ว่าเพราะร็อดนีย์จงรักภักดีถวายหัวเพื่อซาร่า เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าจงใจกลั่นแกล้งเขา“ฮ่าฮ่า ถูกต้อง เมื่อคืนก่อนฉันเจอเขาที่บาร์เมาเละไม่รู้เรื่อง ฉันเลยจัดหาผู้หญิงให้เขาสองสามคน” เฟรยายิ้ม “ผู้หญิงพวกนี้ดูดีกว่าซาร่าอีกว่าไหม?”แคทเธอรีนเหลือบดูเธอก็อึ้งพูดไม่ออก “เธอจะแกล้งยังไงก็ตามใจ แต่เธอไม่ควรโทรเรียกพวกนักข่าวมา ฉันได้ยินว่าลุงของร็อดนีย์จะลงชิงตําแหน่งประธานาธิบดีเร็ว ๆ นี้ หากปัญหานี้ลุกลามพวกตระกูลสโนว์ต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่”“... เอ่อ” เฟรยารู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินดังนั้น “มัน... อาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้นะ? ฉันไม่คิดว่าพวกตระกูลสโนว์จะใจแคบอย่างนั้น”“ฉันไม่แน่ใจในเรื่องนั้นเท่าไรนัก แต่... เธออาจทําลายชื่อเสียงของร็อดนีย์ไปแล้วก็ได้ ระวังตัวไว้ก็ดี”แคทเธอรีนเหลือบมองเธอแล้วเดินออกไปเฟรยาชักกระวนกระวาย ทันใดนั้นเธอก็เห็นการ์ดเชิญบนโต๊ะ เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นบัตรเชิญร่วมงานแต่งงานของฌอนและซาร่า "ใครเป็นคนส่งมาให้เธอ?"“ซาร่า
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก