โทมัสเอ่ย “แหมดูสิ คุณชายสโนว์เขาน่ารักขนาดไหน ซาร่าเธอนี่สุดยอดไปเลย ขนาดผ่านมานานหลายปี ไม่ใช่แค่ได้ฌอนกลับมาเป็นแฟนเธออีกหนเท่านั้นนะ แต่เธอยังมีคุณชายสโนว์เป็นตัวสํารองอีกด้วย”แม้ว่าตระกูลสโนว์จะไม่มีอิทธิพลเท่ากับตระกูลฮิลล์ แต่ก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลอันดับต้น ๆ ของออสเตรเลีย นอกจากนี้บรรดาลูกหลานของตระกูลสโนว์ยังมีส่วนร่วมทั้งสองด้าน ทั้งด้านการเมืองและธุรกิจ ซึ่งต่างจากตระกูลฮิลล์ที่ทรงอิทธิพลโดยมีฌอนเป็นตัวหลักค้ำจุนอยู่เบื้องหลังมีข่าวลือว่าลุงของร็อดนีย์จะเป็นผู้สมัครชิงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งปีหน้า ในบรรดาผู้สมัครทั้งหมดเชื่อกันว่าเขามีโอกาสชนะมากที่สุดสตรีร่ำรวยส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจในตัวร็อดนีย์ แต่เขาก็หลงรักซาร่าผู้ซึ่งเขาปฏิบัติต่อเธอเสมือนเป็นน้องสาวของเขาคนเดียวเท่านั้น“ก็คนเราไม่เห็นต้องตัดทางเลือกไหนทิ้งเลย” ซาร่าถอนหายใจ “เผื่อวันไหนฌอนทิ้งฉัน ฉันก็ยังหันไปหาร็อดนีย์ได้”“จะเป็นไปได้ยังไงกัน? พรุ่งนี้เธอก็จะแต่งงานแล้ว” ยิ่งโทมัสคิดเรื่องนี้มากเท่าไรเขาก็ยิ่งฮึกเหิม “อย่างไรก็ตามคุณชายฮิลล์ก็ดีกว่าหากมองในแง่อำนาจที่เขามึ คุณชายสโนว์สู้เขาไม่ได
“ซาร่า ซาร่า ผมเสียใจที่คุณจะแต่งงานพรุ่งนี้”“ซาร่า ผมชอบคุณ คุณรู้ไหม?”"..."ร็อดนีย์ ยังคงพึมพําในขณะที่กอดต้นขาของเฟรยาไม่ปล่อยเฟรยาไม่ซาบซึ้งสักนิดกับการทำตัวเป็นพ่อโรมิโอของเขา ตรงกันข้ามเธอยิ่งรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แถมเธอรู้สึกว่าเขาดูดีไปก็เสียของเปล่า เขามีใบหน้าหล่อเหลาชวนมองก็จริงแต่สมองของเขาคงมีบางอย่างผิดปกติขั้นร้ายแรงทําไมเขาถึงหลงรักซาร่าหัวปักหัวปำแบบนี้ได้? ทั้งที่หล่อนเป็นผู้หญิงเหี้ยมโหดที่สุดในแคนเบอร์ราความคิดนี้กระตุ้นเฟรยาให้อยากมอบบทเรียนแก่ชายเสียสติผู้นี้ ถ้าไม่ทำเธอก็คงไม่ใช่คนตระกูลลินช์“โอเคเอาละ ฉันรู้ ลุกขึ้นได้แล้ว” เฟรยาปลอบเขาเหมือนเวลาเธอปลอบซูซี่และพยุงเขาขึ้นมาเข่าของร็อดนีย์ทรุด ทันใดนั้นเองเขาก็เสียหลักและล้มทับบนตัวเฟรยา “ซาร่า ตัวคุณนุ่มจัง…บอบบางเหลือเกิน…และหอมจัง ผมชอบ”“...”เฟรยาผู้ถูกฉวยโอกาสในที่สาธารณะหน้าแดงด้วยความอับอาย เธอหายใจเข้าลึก ๆ ตอนนี้ไหน ๆ ก็เปลืองตัวไปแล้ว เธอจะคิดบัญชีเขาทีหลังแน่“อืม ฉันตัวหอมเสมอแหละ” เธอเดินทุลักทุเลและพาเขาไปที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามโรงแรมแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยผ
ร็อดนีย์คิดว่าเขาอาจกำลังฝันร้ายอยู่จนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งจากอีกฟากเข้ามากอดเขาแน่น “รูปหล่อ ทําไมคุณไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ? ยังเช้าอยู่เลย”เขาตัวสั่นเทาพร้อมกวาดสายตามองไปอีกด้าน เขาเห็นผู้หญิงผมบลอนด์ตัวอ้วนกำลังเดินเข้ามาหาเขา ปากของเธอเต็มไปด้วย...จากนั้นผู้หญิงคนอื่น ๆ บนเตียงก็ทยอยตื่นขึ้นตามมา ไม่มีอะไรดูน่าสะพรึงไปกว่าพวกเธอแล้วเขาตบหน้าตัวเองสองฉาดอย่างแรงหลังจากนั้น เขาร้องลั่นและกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ เขายิ่งตื่นตระหนกเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเปลือยล่อนจ้อนอยู่เขาตกใจกลัวจนใช้ผ้าห่มห่อตัวเองไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะความเจ็บแปลบบนใบหน้า เขาคงไม่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นความจริง “พวกเธอเป็นใครกัน? ทําไมถึงมาอยู่นี่ได้? พวกเธอทำอะไรกับฉัน?”“คุณเป็นอะไรไปเนี่ย รูปหล่อ? คุณโทรหาเราเมื่อคืนนี้ แต่คุณดันนอนหลับเป็นแน่นิ่ง พวกเราพยายามเล้าโลมคุณอยู่ตั้งนาน แต่คุณก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ดังนั้นเมื่อคืนพวกเราก็แค่นอนหลับไปกับคุณ”“แต่เพราะว่าคุณจ่ายเงินเรามาแล้ว เพราะงั้นเราจะบริการคุณตอนนี้แล้วกัน”เนื่องจากผู้หญิงเหล่านี้ไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาสุดขีดแบบเขามาก่อน พวกเธอจึงน้ำลายห
แคทเธอรีนอ่านความเห็นต่าง ๆ อย่างมีความสุข"เธอเป็นคนทําเรื่องนี้เหรอ?" เธอส่งโทรศัพท์คืนให้เฟรยา คนอื่นอาจไม่รู้แต่เธอเข้าใจทุกอย่าง ว่าเพราะร็อดนีย์จงรักภักดีถวายหัวเพื่อซาร่า เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าจงใจกลั่นแกล้งเขา“ฮ่าฮ่า ถูกต้อง เมื่อคืนก่อนฉันเจอเขาที่บาร์เมาเละไม่รู้เรื่อง ฉันเลยจัดหาผู้หญิงให้เขาสองสามคน” เฟรยายิ้ม “ผู้หญิงพวกนี้ดูดีกว่าซาร่าอีกว่าไหม?”แคทเธอรีนเหลือบดูเธอก็อึ้งพูดไม่ออก “เธอจะแกล้งยังไงก็ตามใจ แต่เธอไม่ควรโทรเรียกพวกนักข่าวมา ฉันได้ยินว่าลุงของร็อดนีย์จะลงชิงตําแหน่งประธานาธิบดีเร็ว ๆ นี้ หากปัญหานี้ลุกลามพวกตระกูลสโนว์ต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่”“... เอ่อ” เฟรยารู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินดังนั้น “มัน... อาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้นะ? ฉันไม่คิดว่าพวกตระกูลสโนว์จะใจแคบอย่างนั้น”“ฉันไม่แน่ใจในเรื่องนั้นเท่าไรนัก แต่... เธออาจทําลายชื่อเสียงของร็อดนีย์ไปแล้วก็ได้ ระวังตัวไว้ก็ดี”แคทเธอรีนเหลือบมองเธอแล้วเดินออกไปเฟรยาชักกระวนกระวาย ทันใดนั้นเธอก็เห็นการ์ดเชิญบนโต๊ะ เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นบัตรเชิญร่วมงานแต่งงานของฌอนและซาร่า "ใครเป็นคนส่งมาให้เธอ?"“ซาร่า
“ไปหาคนอื่นมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแทนก่อน ส่วนฉันจะรีบไปช่วงบ่าย ฉันมีหนี้ที่ต้องสะสางกับเฟรยาก่อน เธอหนีไป” ร็อดนีย์สองจิตสองใจอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธเชสเตอร์“... โอเค อย่ามาสายแล้วกัน”หลังจากวางสาย ร็อดนีย์สั่งคนให้ค้นหาที่อยู่ของเฟรยาทันที จากนั้นเขาก็บึ่งไปที่นั้นทันใดเมื่อถึงสถาบันเฮคเกตต์ เขาเคาะประตูอยู่นานก็ไม่มีใครมาตอบรับเพราะหลังจากเฟรยามองชายที่อยู่ข้างนอกผ่านช่องตาแมว เธอก็ไม่สนใจเขาและกลับไปนอนต่อเธอไม่เชื่อว่าเขาจะพังประตูเข้ามาได้ถ้าเธอไม่ยอมเปิดซึ่งพิสูจน์ได้ในเวลาต่อมาว่าเธอประเมินความโกรธของผู้ชายคนนั้นต่ำไป...ไม่นาน ร็อดนีย์ก็เตะประตูห้องนอนของเฟรยาจนเปิดออกเมื่อเขาเห็นหญิงสาวบนเตียงยังคงนอนหลับสนิท คลื่นความโกรธของเขาก็พุ่งประทุจากก้นบึ้งหัวใจจนหัวแทบระเบิด“เฟรยา ลินช์ เธอยังมีหน้ามานอนหลับเวลาแบบนี้ได้อีกนะ?” ร็อดนีย์เหวี่ยงผ้าห่มของเธอออก หญิงสาวใต้ผ้าห่มสวมเพียงชุดนอนบางเบาสีชมพู ชุดนอนของเธอยับยู่ยี่จากการนอนดิ้นของเธอผิวขาวผ่องของเธอเต็มตาร็อดนีย์ลมหายใจของเขาเริ่มร้อนผ่าวแม้พวกผู้หญิงเมื่อเช้าใส่เสื้อผ้ารัดรูปเซ็กซี่ แต่พวกน
“โอเค ผมจะให้คุณ 1,000 ดอลลาร์ตอนคุณตาย จะได้เอาไปใช่ชาติหน้า”ร็อดนีย์ จับขาข้างหนึ่งของเฟรยาลากเธอมา ขณะที่เขาเตรียมขยับ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเฟรยารีบใช้โอกาสนี้เตะหน้าเขา จากนั้นเธอก็รีบวิ่งหนีไป"หยุดตรงนั้นนะ!"ร็อดนีย์ไล่ตามเธอ แต่โทรศัพท์ของเขายังคงดังอยู่ เขารับสายอย่างรําคาญ “รีบว่ามา ฉันกำลังยุ่งอยู่”“โอ้ ดูเหมือนยังไม่เสร็จใช่ไหมคุณชายสโนว์? อยู่กับผู้หญิงห้าคนเมื่อคืนก็ยังไม่พอ ต้องไปหาผู้หญิงอื่นอีกตอนกลางวันเหรอ?” น้ำเสียงแดกดันดังจากปลายสายร็อดนีย์ดูชื่อผู้โทร เมื่อเห็นว่าเป็น เจสสิก้า สโนว์ เขาพูดตะกุกตะกักความกลัว “พี่ใหญ่ ผมไม่รู้ว่าเป็นเป็นพี่” “พอได้แล้ว ฉันขี้เกียจถกเรื่องไร้สาระด้วย รีบกลับมาเดี๋ยวนี้เลย คุณปู่กําลังตามหาตัว” เจสสิก้าพูดอย่างเย็นชาร็อดนีย์กล่าวเสียงเครือ “พี่ใหญ่ เรื่องเมื่อคืนคือ… ”“คุณปู่โกรธมาก” เจสสิก้าเตือนเขาร็อดนีย์สั่นสะท้าน "ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้""ระวังด้วย" เจสสิก้าวางสายร็อดนีย์อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เขาจบสิ้นแล้วเพราะเฟรยา…หนึ่งชั่วโมงต่อมาร็อดนีย์เดินเข้าไปในวิลล่าของตระกูลสโนว์เมื่อเข้าไปเขาเห็นแค่นายท่
นายท่านสโนว์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “อย่าคิดว่าปู่ไม่รู้ว่าทําไมแกถึงดื่มจนเมาเมื่อคืน ไม่ใช่เพราะซาร่ากําลังจะแต่งงานวันนี้หรอกเหรอ? แต่ตระกูลสโนว์ก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเช่นกัน ทำไมเราถึงมีคนน่าผิดหวังอย่างแก? แคนเบอร์ราสิ้นไร้ผู้หญิงจนแกต้องตามตื๊อซาร่าทั้งวันเหรอไง? หลานของฉันถูกมองว่าเป็นแค่ตัวสํารอง ถึงแกจะไม่อายแต่พ่อแม่ของแกกับฉันอาย”“คุณปู่ ที่พูดนั่นก็เกินไป ผมไม่ใช่ตัวสํารองของเธอนะ ซาร่ากับผมเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน” ร็อดนีย์ อธิบายอย่างไม่สบายใจเวนดี้พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ถ้าเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ทําไมถึงต้องไปหาทุกที่ทุกเวลาที่เธอเรียกหา? ย้อนไปสมัยที่แกกําลังเรียนอยู่ ไดอารี่ของแกก็เต็มไปด้วยชื่อของซาร่า”“แม่ครับ แม่ล้ำเส้นเกินไปแล้ว ถึงกับมาแอบดูไดอารี่ผม” ร็อดนีย์โกรธมาก“ก็แกเป็นลูกชายแม่ แม่ไม่อยากให้คนอื่นปฏิบัติเหมือนแกเป็นคนโง่” เวนดี้พูดอย่างขุ่นเคือง“ฉันเคยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ว่าฌอนกําลังจะแต่งงานกับเธอ ลูกเองก็ไม่ใช่เด็กแล้วแต่ตอนนี้ดันสร้างปัญหาวุ่นวายนี่ แม่จะถูกมองเป็นตัวตลกเมื่อออกไปข้างนอกแน่ ๆ คนที่ไม่รู้จักเราดีเขาก็จะคิดว่าฉันสั่งสอนลูกช
ณ โรงแรมริมทะเลระดับเจ็ดดาว ซึ่งกำลังมีพิธีแต่งงานแห่งศตวรรษเป็นเวลา 11:48 น. เมื่อแคทเธอรีนและโจเอลปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน“นั่น แคทเธอรีนและโจเอลใช่ไหม? ทําไมพ่อกับลูกสาวถึงมางานนี้ล่ะ?”“ตระกูลยูลและตระกูลฮิลล์คุ้นเคยกันมานานเป็นเรื่องธรรมดาที่โจเอลได้รับเชิญ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าแคทเธอรีนจะมา เธอเป็นภรรยาเก่าของฌอนนี่” “อุ๊ยแหม อดีตภรรยาที่เข้าร่วมงานแต่งงานของอดีตสามีตัวเอง เรื่องนี้น่าสนใจจัง”"..."เสียงกระซิบกระซาบของบรรดาแขกเหรื่อทําให้บรรยากาศร้อนระอุฌอนซึ่งกําลังทักทายแขกเหรื่ออยู่ที่สนามหญ้า ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของทุกคนจึงหันมามองและเห็นแคทเธอรีนกําลังเดินผ่านไปไปในชุดเรียบ ๆ บนชุดของเธอมีลายปักใบไม้สีเขียวอ่อน เมื่อต้องแสงแดดก็เปล่งประกายเป็นสีทองงดงาม ทั้งยังเป็นชุดเข้ารูปช่วยขับเน้นเรือนร่างของเธอให้สวยสง่าราวแบบสาวงามย้อนยุคฌอนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ว่าเธอสวยแต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะสวยจนน่าตะลึงขนาดนี้เมื่อสวมชุดแบบนั้นเชสเตอร์ เพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนข้างเขา กระแอมในลําคอและเตือนเขาว่า “ทําไมแคทเธอรีนถึงมาได้ล่ะ?”"ฉันก็ไม่แน่ใจ"ถึงอย่างไร โจเอลก็เป็นผ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก