แคทเธอรีนเห็นว่าฌอนกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงใหญ่ ทว่า มีเชลลีกำลังนอนอยู่ข้าง ๆ เขา มือของพวกเขาทั้งสองคนจับกันไว้แน่นเชลลีดีดตัวขึ้นจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวาย สีหน้ากระวนกระวายใจผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอเมื่อเธอเห็นผู้หญิงคนนั้น “คุณผู้หญิง โปรดอย่าเข้าใจผิดไป...”แคทเธอรีนถลาเข้าไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นทันที “ฉันสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอตั้งแต่วันแรก ฉันจ้างให้เธอมาเป็นพยาบาล และงานนี้ไม่รวมไปถึงการมาหลับนอนกับเขาบนเตียงของเรา”“ฉันไม่ได้ทำ” เชลลีพูดอย่างจนปัญญา “เธอไม่ได้ทำอย่างนั้นเหรอ?” แคทเธอรีนโกรธมากจนคุมตัวเองไม่ได้ “เมื่อวานฉันสั่งให้เธอออกไป เธอคิดว่าเธอเป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้จริง ๆ เหรอ? พ่อแม่เธอไม่ได้สอนมารยาทเธอมาเหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันน่าไม่อาย?”“เสียงดัง”ทันใดนั้นเอง ผู้ชายคนนั้นก็พลิกตัวกลับมาแล้วยันกายลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทางอ่อนเพลีย โดยความบังเอิญที่ใบหน้าของเชลลีมีน้ำตาอาบแก้ม ทั้งมีรอยมืออยู่บนแก้มของเธอ ในทางกลับกัน ใบหน้าของแคทเธอรีนเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนตบหน้าผู้หญิงอีกคน“แคทเธอรีน คุณทำอะไรของคุณ?”
ชั่ว... ชั่ว...คำพูดที่แฝงด้วยความเกลียดชังดังก้องอยู่ในสมองของฌอน เขารีบยกมือขึ้นปิดหูเพื่อไม่ให้ได้ยินคำพูดเหล่านั้นเขาไม่อยากได้ยินผู้หญิงที่เขารักเรียกเขาด้วยชื่อแบบนั้นเขารู้ว่าเขาป่วย ทว่าตอนนี้แม้แต่แคทเธอรีนก็ยังเกลียดเขาเมื่อเหตุการณ์สับสนวุ่นวายเกิดขึ้น ป้าจัสมินก็เดินเข้ามาคว้าแขนของเขาเอาไว้ “คุณชายคนโตคะ คุณชายทำกับคุณผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้นะคะ เธอพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะเธอหึงเมื่อคุณอยู่ใกล้ชิดกับเชลลีเท่านั้น...”ทว่าในตอนนี้ฌอนไม่ต่างอะไรจากคนเสียสติ เขาไม่เพียงแค่ไม่ฟังเธอเท่านั้น แต่ยังผลักป้าจัสมินอย่างแรงจนทำให้ศีรษะของเธอกระแทกพื้นและสลบไปเชลลีรีบตีหัวเขา เขาเงียบเสียงลงและหมดสติไปในที่สุดห้องนั่งเล่นตกอยู่ในความเงียบทันที เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของแคทเธอรีนที่ดังมาจากห้องใต้ดิน มุมปากของเชลลีเหยียดเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา ในขณะที่แววตาของเธอเผยให้เห็นความเกลียดชังอันแรงกล้า‘แคทเธอรีน โจนส์ ฉันพนันได้เลยว่าเธอต้องไม่เคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้’...ในห้องใต้ดินแคทเธอรีนกรีดร้องออกมาจนกระทั่งเสียงของเธอแหบแห้ง ทว่าก็ย
“หลังจากนั้นอาการของคุณชายคนโตก็กำเริบขึ้น คุณผู้หญิงเลยบอกว่าเธอจะออกไปค่ะ เขาเลยขังเธอเอาไว้ในห้องใต้ดิน และพลั้งมือทำร้ายป้าจัสมินโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันโทรเรียกรถฉุกเฉินมากลางดึกเพื่อส่งตัวป้าจัสมินไปรักษาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีก” เชลลีพูดขึ้นรอยมือบนแก้มของเธอยังคงแดงและบวมอยู่ ร็อดนีย์โกรธจัดเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แคทเธอรีนเป็นบ้าไปแล้ว ฉันจะไปสั่งสอนเธอ...”“ใจเย็น” เชสเตอร์คว้าแขนของเพื่อนเอาไว้“ดูสิ่งที่เธอทำกับฌอนสิ เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาควบคุมสติของตัวเองไม่ได้ แต่เธอก็ยังจงใจยั่วโมโหเขา ฉันคิดว่าเธอพยายามทำให้เขาเสียสติ เพื่อเธอจะได้ฮุบสมบัติของเขาไปได้”เชลลีพูดขึ้นเบา ๆ “ฉันแอบปลดล็อคประตูเมื่อเช้านี้เพื่อปล่อยเธอออกมา ฉันคิดว่า… เป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะขังคนเอาไว้แบบนั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาการของคุณชายคนโตกำเริบขึ้นมาและทำร้ายคนอื่นอีก?”เชสเตอร์ชมเธอ “คุณทำถูกแล้ว ฌอนทำผิดที่ขังเธอเอาไว้แบบนั้น”“แต่ฉันเกรงว่าคุณชายคนโตจะโกรธที่ฉันทำแบบนั้น...” สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล“เราจะเป็นคนบอกเขาเองว่าเราเป็นคนปล่อยเธอไป” เชสเตอร์ตอบ“ขอบคุณนะคะ”ห
โอเชี่ยนนิก การ์เด้นบริเวณใกล้เคียงประกอบไปด้วยบังกะโลและวิลล่า ซึ่งสร้างขึ้นติดกับแม่น้ำเอล์ม มันยังติดกับทะเลสาบ ศูนย์กีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆพนักงานขายพาแคทเธอรีนและเฟรยาตะลอนชมตลอดทั้งบ่าย เมื่อพวกเขากลับมายังสำนักงานขาย ผู้จัดการก็รู้สึกตกใจเมื่อจำแคทเธอรีนได้ เขาจึงรีบแจ้งกับเจ้านายทันที เจ้านายรีบโทรหาเฮดลีย์ แล้วเฮดลีย์จึงส่งข้อความหาฌอน “คุณชายคนโตครับ คุณโจนส์กำลังหาซื้อบ้านอยู่”ผู้ชายที่กำลังอ่านเอกสารในห้องทำงานขมวดคิ้วเข้าหากัน “เธอกำลังพิสูจน์อะไรของเธออยู่? แค่ทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนนี้เธอไม่อยากกลับบ้านแล้วจริง ๆ เหรอ?”“...”เฮดลีย์ไม่คิดว่านี่เป็นการทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ทว่าเขาควรปลอบใจผู้ชายคนนี้แทนที่จะยั่วโมโหเขาขึ้นมาอีก “บางที... เธออาจกำลังทำการลงทุนอยู่ก็ได้ครับ? คุณผู้หญิงที่ร่ำรวยมากมายต่างก็ทำแบบเดียวกัน”ใบหน้าที่ตึงเครียดของฌอนผ่อนคลายลง หลังจากที่ลองคิดไตร่ตรองดูแล้ว เขาจึงพูดขึ้น “เพราะภรรยาของฉันอยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์... บอกพวกเขาให้ส่วนลดมากที่สุดให้กับเธอ อืม ส่วนลดสัก 90 เปอร์เซ็นต์”“...”มุมปากของเฮดลีย์กระตุกขึ้น “แต่คุณ
เฟรยายกแขนขึ้นโอบไหล่ของแคทเธอรีนแคทเธอรีนไม่ได้ปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม มันก็ผ่านมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอได้ไปผับ...21:00 น.พวกเธอทั้งสองคนเดินเข้าไปในผับด้วยกันแคทเธอรีนไม่ได้มาสถานที่แบบนี้นานแล้ว การที่ได้มาที่นี่ทำให้เธอคิดถึงชีวิตที่เรียบง่ายและไร้กังวลก่อนที่เธอจะแต่งงานทว่าหลังจากที่พวกเธอเริ่มดื่มได้ไม่นาน ชายหนุ่มอวดดีคนหนึ่งซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ“เฟรยา บังเอิญจังเลยนะที่เราได้พบกันอีก” ชายคนนั้นลูบใบหน้าของเฟรยาด้วยความเจ้าเล่ห์สีหน้าของเฟรยาหม่นลงทันที พลางผลักมือของเขาออก “โทมัส นีสัน ฉันพูดชัดเจนแล้วว่าฉันไม่สนใจคุณ คุณอย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”แคทเธอรีนตกใจมากที่ชายคนนี้เป็นพี่ชายของซาร่า“อย่าพูดแบบนั้น คุณอาจจะไม่อยากให้ผมละมือออกจากคุณเลยก็ได้ ตอนที่คุณได้เห็นว่าผมเก่งแค่ไหนเมื่ออยู่บนเตียง” เขาทำให้เธออึดอัดมากยิ่งขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา “เป็นเกียรติของคุณนะที่ได้เป็นผู้หญิงของผม”“โทมัส นีสัน จะให้ฉันโทรหาน้องสาวของคุณหรือโทรหาตำรวจ ถ้าคุณยังมาทำเป็นเล่นแบบนี้” แคทเธอรีนก้าวขึ้นไปขวางหน้าเฟรยาเอาไว้“ยั
“หุบปากไป นีสัน คอร์ปอเรชั่นจะต้องพินาศย่อยยับภายใต้การบริหารของนาย” แชริตี้คว้าไหล่ของโทมัสและพลิกเขากลับมาหาเธอ ชายคนนั้นถูกเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างไร้ความปรานีภายใต้สายตาที่จ้องมองมาของผู้คนทั้งแคทเธอรีนและเฟรยาต่างอึ้งไป ทว่าเฟรยาเป็นคนทำลายความเงียบด้วยการปรบมือเสียงดัง “คุณเจ๋งและเท่มาก!”โทมัสรู้สึกโกรธมากที่โดนวิพากษ์วิจารณ์และโดนหัวเราะเยาะจากผู้คน “แชริตี้ ฉันจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยไม่ได้สะสาง”จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากผับ“ขอบคุณนะ” แคทเธอรีนรินไวน์แดงสองแก้วแล้วส่งให้แชริตี้หนึ่งแก้วเธอมีความประทับใจแรกที่ดีกับผู้หญิงคนนี้ ทว่าในค่ำคืนนี้ เธอรู้สึกประทับใจจริง ๆ“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันแค่ผ่านมา เจ้าของร้านบอกฉันว่าเขาลวนลามผู้หญิงอีกแล้ว ฉันเลยมาดู”แชริตี้จิบไวน์“เจ๋งมากพี่สาว!” เฟรยาชูนิ้วโป้ง “ฉันต้องไล่ตามคุณแน่ ๆ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย”“ไม่ดีหรอกที่ผู้หญิงจะเก่งเกินไป” แชริตี้ล้อตัวเอง “ฉันควรจะเป็นคนที่ขอโทษ...”“เขาไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดของคุณนี่ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก” แคทเธอรีนลากเก้าอี้จากโต๊ะข้าง ๆ มา “นั่งกับเราไหม?”แชริตี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่เป็
ฌอนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำตอนที่เชลลีเข้ามาหาเขาพร้อมกับนมหนึ่งแก้ว “คุณชายคนโต ให้ฉันไดร์ผมให้คุณนะคะ”เธอพยายามเอื้อมมือออกไป ทว่าผู้ชายคนนั้นกลับเบี่ยงตัวหลบ “ไม่ต้องทำแบบนั้น”เขาดื่มนมในแก้วแล้วพูดขึ้นเบา ๆ “ลงไปข้างล่าง ผมจะลงไปหาคุณเองถ้าผมอยากให้คุณช่วยอะไร”“แต่...” เธอไม่อาจซ่อนความไม่พอใจในแววตาของเธอเอาไว้ได้ “คุณไม่ควรถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในอาการป่วยแบบนี้ ฉันวางเตียงเสริมไว้ข้าง ๆ ได้...”“ไม่” เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น “นี่เป็นห้องนอนที่ผมนอนกับภรรยาของผม ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่”“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น” เธอพยักหน้ารับ พลางมองด้วยความหงุดหงิด หลังจากที่ออกไปจากห้องนอน เธอกัดริมฝีปากด้วยความรำคาญ ฌอนไม่สนใจเธอเลย ทั้ง ๆ ที่เธอและซาร่ามีหน้าตาคล้าย ๆ กันถึงอย่างไรมันก็ไม่สำคัญ เธอบรรลุเป้าหมายของเธอมาได้ครึ่งทางแล้วมุมปากของเธอเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มอันเย็นชา ขณะที่เธอชำเลืองมองแก้วนมหลังจากที่เชลลีออกไป ฌอนก็กลับมานอนบนเตียงเพื่อเช็ควอทส์แอปของแคทเธอรีน ไม่มีข้อความและการอัปเดตจากโซเชียลมีเดียของเธอเลยผู้หญิงที่น่ารำคาญคนนี้ เธอออก
ฌอนเม้มริมฝีปากบางของเขาก่อนจะสตาร์ทรถขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดในที่สุดพวกเขามาถึงผับในเวลาเพียงไม่นาน โทมัสที่รออยู่ที่ประตูเป็นเวลานานก็เดินมาหาทันที เขาจับเอวที่บาดเจ็บของตัวเองเอาไว้ “คุณชายคนโต พวกเธอยังเต้นอยู่ข้างใน”ภายในเวลาไม่กี่วินาที หญิงสาวทั้งสามคนก็เดินโซเซออกจากผับโดยแขนของพวกเธอโอบไหล่ของกันและกันเอาไว้ ดูจากแก้มที่แดงก่ำแล้ว พวกเธอต้องดื่มเข้าไปมาก“ฉันยังดื่มไม่พอ ไปดื่มกันต่อเถอะ! ฉันยังต่อได้อีกสามยก” เฟรยายกมือปัดป่ายในอากาศ “ไม่เมาไม่กลับ”“ไปกินกุ้งมังกรกับไวน์กันเถอะ” แชริตี้พยักหน้าแคทเธอรีนตอบรับ “เราไปดื่มที่วิลล่าของฉันต่อจนกว่าจะเช้าได้”“สุดยอดไปเลย! ผู้ชายมันชั่ว! ก็ปล่อยพวกมันไป!”“ลาก่อนไอ้คนใจร้าย!”ใบหน้าของฌอนเคร่งขรึมอื้ม ลับหลังเขา เธอเรียกเขาแม้กระทั่งไอ้คนใจร้ายเขาเดินไปพลางดึงแคทเธอรีนเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “กลับบ้านกับผม”ในตอนแรกเขาอยากให้เธออาศัยอยู่ข้างนอกสักพักเพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอ ทว่า เห็นได้ชัดว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้“คุณเป็นใครอ่ะ แล้วนี่คุณคิดว่าคุณทำอะไรของคุณ?” แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นด้วยความมึนงง หลังจากที่เธอได้เห็น
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก