“เพราะเขาไม่ได้คุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอย่างนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะพูดอะไรได้ทั้งนั้น” เชสเตอร์ยิ้มอย่างสุภาพ “คุณไม่ต้องคิดมาก แค่รู้ไว้ว่าเขารักคุณก็พอ”ดังนั้นทุกคนรู้ว่าเขารักเธอแคทเธอรีนค่อย ๆ หรี่ตาลง แต่อย่างไร ก็มีความรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจเธอที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้ “แต่ฉันอยากรู้ว่าใครทำร้ายเขา ฉันกังวลว่าเขาจะโกรธครอบครัวฮิลล์เพราะฉัน...”“ฌอนไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นตระกูลฮิลล์ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ตอนนี้มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่สามารถทำร้ายเขาได้” เมื่อเชสเตอร์เดินไปที่ประตู เขาหันกลับมาและยิ้มให้เธอ “คุณเองก็เริ่มใส่ใจฌอนแล้วเช่นกัน นั่นแปลว่าคุณเต็มใจที่จะให้อภัยเขาใช่ไหม?”แคทเธอรีนรู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วใบหน้าของเธอก็ร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัวเชสเตอร์หัวเราะคิกคัก “โปรดอยู่กับเขาเถอะครับ ฌอนเป็นคนอารมณ์ร้ายนิดหน่อย แต่มันเป็นเพราะการถูกเลี้ยงดูของเขา อย่างที่คุณเห็น คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวยมักเป็นคนเห็นแก่ตัว และคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ที่จริงแล้วฌอนค่อนข้างน่าสงสาร”หลังจากที่เขาออกไป ประโยคที่ว่า ‘ที่จริงแล้ว
ในเวลานี้ แคทเธอรีนรู้สึกดีที่เธอปิดไฟก่อนหน้านี้ มิฉะนั้น ฌอนคงจะเห็นความเขินอายบนแก้มของเธอ และใบหน้าที่เสียโฉมของเธอคงจะเจ็บปวดอย่างแน่นอน“ฉันไม่ได้...”“คุณพยายามจะทำให้ผมพิการอย่างแน่นอน ทำไมคุณไม่เช็คดูล่ะ ว่าผมได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?” เขาหัวเราะอย่างซุกซนเข้าที่หูเธอ“แน่นอน ฉันจะดูคุณหลังจากที่ได้เตะคุณอีกครั้ง”ในที่สุดเธอก็ยกขาขึ้นอีกครั้งเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วและคว้าขาเธอที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ “เด็กดีของผม คุณอยากจะทำให้ผมพิการจริง ๆ เหรอครับ?”แคทเธอรีนรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลังของเธอเมื่อได้ยินคำอันเป็นที่รักนั้น เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมชายหนุ่มถึงไม่รังเกียจใบหน้าที่น่าเกลียดของเธอ “ฌอน คุณหยุดได้ไหม? ฉันอยากจะนอนแล้ว”“สามีและภรรยาใช้เตียงร่วมกัน”หลังจากพูดแบบนั้น เขาก็วางทะเบียนสมรสของพวกเขาไว้ข้างหมอน ราวกับกังวลว่าเธออาจจะลืมเกี่ยวกับสถานะสมรสของพวกเขาเธอพูดไม่ออกเมื่อความรู้สึกซับซ้อนปรากฎขึ้นในหัวใจของเธอ “คุณไม่กลัวฝันร้ายจากการเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของฉันตอนกลางคืนเหรอ?”“ไม่มีอะไรต้องกลัวเกี่ยวกับมัน ตราบใดที่ส่วนอื่นคุณยังเหมือนเดิม” ใบหน้าขอ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริง ๆ ค่ะ ดิฉันไม่ได้จัดการบริษัทด้วยรูปร่างหน้าตาของดิฉัน แต่ด้วยความสามารถของดิฉันต่างหาก” แคทเธอรีนตอบกึ่งติดตลก “เอาล่ะ เปลี่ยนไปพูดถึงความคืบหน้าของโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ กันดีกว่าค่ะ...”การประชุมสิ้นสุดลงในหนึ่งชั่วโมงต่อมาแคทเธอรีนกลับไปที่ออฟฟิศ และพบการ์ดเชิญจากเมลานี่และชาร์ลีบนโต๊ะ พวกเขากำลังจะจัดพิธีหมั้นกันที่ โรงแรมพาวิเลียน อินเตอร์คอนติเนนตัลในวันพรุ่งนี้เมลานี่พยายามจะบอกอะไรจากคำเชิญนี้?ขณะที่เธอกำลังคิดเกี่ยวกับมัน เธอก็ได้รับสายจากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย “พี่สาว คุณเห็นการ์ดเชิญของฉันหรือยัง?”“อย่าเรียกฉันแบบนั้น ฉันไม่มีน้องสาวที่พยายามจะขโมยสามีของฉัน” แคทเธอรีนสามารถมั่นใจได้กับใบทะเบียนสมรสที่อยู่ข้างเธอ“เธอนี่หน้าด้านจริง ๆ ที่นี่ใครคือมือที่สามกันแน่?”เมลานี่เกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ แต่ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แทน “เอาเถอะ ในที่สุดฉันก็พบความสุขของฉันแล้ว เธอเป็นลูกสาวของพ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเรามีสายเลือดเดียวกันได้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะไม่พลาดงานหมั้นของน้องสาว
แคทเธอรีนอาบน้ำเสร็จหลังจากกลับมาถึงนิวเมโทรโพลิส พาร์ค และรีบลุกลี้ลุกลนเข้าไปในห้องทำงานด้วยแล็ปท็อปของเธอทุก ๆ แผนกในบริษัทของเธอส่งอีเมลข้อมูลการขายอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้เธอ เธอใจลอยอย่างรวดเร็วหลังจากอ่านรายงานแบบสั้น ๆ เธออดไม่ได้ที่จะค้นหาฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่น ทางออนไลน์ผลลัพธ์ทำให้เธอประหลาดใจมากฌอนนาราห์ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่ถึงห้าปีที่แล้วอย่างไรก็ตาม มูลค่าทางการตลาดได้ทะลุสองแสนล้านดอลลาร์ไปแล้วนอกจากนี้ ธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุดทั้งในฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่น และฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น เป็นโครงการเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ตำแหน่งของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น ในอุตสาหกรรมไม่สั่นคลอนอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่น ก็โดดเด่นออกจากจากฝูงชนและกินส่วนแบ่งกำไรกว่าหนึ่งในสี่ส่วนของอุตสาหกรรมดังกล่าวกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ฌอนเริ่มแผนนี้อย่างลับ ๆ เมื่อประมาณห้าปีที่แล้วเขาคาดคิดมานานแล้วว่าเขาจะถูกตระกูลฮิลล์ทอดทิ้งอย่างนั้นเหรอ?ในตอนนี้ เธอรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว“คุณกำลังค้นหาเกี่ยวกับฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่นเหรอ?”เสียงของฌอนดังขึ้นข้างหล
แคทเธอรีนสังเกตเห็นอารมณ์อึดอัดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของฌอนก่อนที่เขาจะยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ “มันถูกตัดสินหลังจากการหารือภายใน”“อ๋อ เหรอคะ...” เธอพึมพำเธออาจจะไม่ใส่ใจถ้าเขาบอกความจริงกับเธอบางทีเขาก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะรู้ถึงการมีอยู่ของผู้หญิงที่ชื่อ ซาร่าห์ อยู่แล้วสิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขามักจะปล่อยให้เธอรู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่เธอตัดสินใจที่จะยอมรับเขาอย่างจริงจัง“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นกันอีกเลย อันนี้คืออะไร?” เขาโบกการ์ดเชิญในมือเธอจำได้ว่าทิ้งมันไว้บนโต๊ะหลังจากกลับมาถึงบ้าน “เมลานี่เชิญฉัน”“เธอก็ชวนผมด้วยเหมือนกัน” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “เธอคงคิดว่าการแต่งงานกับชาร์ลี แคมโปส นั้นมีค่ามากพอแก่การโอ้อวด”แคทเธอรีนพูดไม่ออกผู้หญิงคนนั้นชวนแฟนเก่าของเธอด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่น่าสนใจ“แต่นะ... คุณไม่ต้องไปก็ได้ แค่เพิกเฉยต่อมัน” เขาโยนการ์ดเชิญทิ้งไป"แล้วคุณล่ะ?" เธอมองไปที่ดวงตาของเขา“ผมจะไปเยี่ยมครอบครัวแคมโปสสักหน่อย”แสงสว่างเล็ก ๆ วาบผ่านดวงตาของเธอ “คุณคิดว่าครอบครัวแคมโปสมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งล่าสุดไหมคะ?”“ใช่ โดยเฉพาะวิ
“แต่… ถ้าคุณพร้อมที่จะเผชิญหน้าสาธารณชนกับผม อย่างนั้นแล้วผมจะเข้าร่วมงานสังสรรค์ในอนาคตทั้งหมดในขณะที่ดูแลคุณอย่างใกล้ชิด”ฌอนเน้นย้ำทุกคำด้วยความจริงจังราวกับว่าเขากำลังกล่าวคำปฏิญาณในโบสถ์แคทเธอรีนรู้สึกว่ามีบางอย่างสั่นไหวเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ เธอไม่สามารถต้านทานความรู้สึกซาบซึ้ง ถึงแม้จะรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ในหัวใจของเขาก็ตามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำกระซิบแสนหวานเหล่านั้นออกมาจากปากของชายหนุ่มที่มีความหล่อเหลามากขนาดนี้ ในขณะนั้นเอง ความน่าดึงดูดใจที่ชวนให้สับสนได้แผ่ซ่านไปทั่วประสาทสัมผัสของเธอ“ดูเหมือนว่าผมต้องพิสูจน์ความรักที่มีต่อคุณด้วยการกระทำ”ริมฝีปากบางของเขาเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มลึกลับก่อนที่เขาจะจูบริมฝีปากของเธอ“ไม่…” เธอรู้สึกสับสนเมื่อรับรู้ได้ว่าเขากำลังจะทำอะไรเธอเคยได้รับบาดเจ็บตั้งแต่คืนแรก“เด็กดี คุณเป็นคนขี้กังวล ดังนั้นผมต้องให้ความมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยแก่คุณบ้าง” เขาดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ขึ้นแก้มของเธอแดงเขาพูดคำเหล่านั้นด้วยความมั่นใจได้อย่างไร?“ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำร้ายคุณอีก”เธอพบว่าตัวเองกำลังจมอยู่ในน้ำเสียงอันอ่อนโยนของเขา
11:00 น.ฌอนกลับมาจากที่ทำงานเพื่อมารับแคทเธอรีนเธอก้าวไปด้านหน้าเพื่อจับมือเขา และดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน “ฉันชอบชุดราตรีนี้มากเลยค่ะ”“นั่นคือสิ่งที่สำคัญ”เขาพูดพร้อมกับยักคิ้ว ตราบใดที่เธอพอใจ มันก็คุ้มค่าสำหรับเขาที่ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อขโมยชุดราตรีนี้จากเมลานี่ระหว่างทางไปโรงแรม รถมาจอดที่สี่แยกเพื่อรอให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันใดนั้น แคทเธอรีนก็สังเกตเห็นบางอย่างด้านนอกหน้าต่างและรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรง “จอดที่ด้านหน้าของถนน ฉันอยากได้บางอย่างจากร้านขายยา”“คุณอยากได้อะไร? เดี๋ยวผมไปเอง” ฌอนมองเข้าไปที่ดวงตาเธอ“อืม... ยาคุมกำเนิด” เธอตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“อันที่จริง เราคิดเรื่องมีลูกกันได้แล้ว” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมจะเป็นพ่อที่ดี”“...” เธอไม่มีคำพูดใดจะตอบเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มั่นคงเกินไปสำหรับการมีลูกนอกจากนี้เธอยังต้องดูแลปัญหามากมาย“ฉันไม่อยากมีลูกตอนนี้ ฉันยังเป็นเด็กอยู่เลยในอายุเท่านี้” เธอพูดแล้วหันหน้าหนี น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความตั้งใจ“ก็ได้ ผมจะไปเอายามาให้”รถจอดที่ริมถนน ฌอนเดินเข้าร้านขายยาต
“โอ้ ว้าว ที่จริงแล้วโรงแรมนี้เป็นของชาร์ลี! ฉันได้ยินมาว่าผลประกอบการในปีนี้ของโรงแรมติดหนึ่งในสามของโรงแรมทั้งหมดในออสเตรเลีย น่าประทับใจมาก”“ใช่แล้วค่ะ” เมลานี่หันมองไปทางชาร์ลีที่ถูกรายล้อมไปด้วยฝูงชน ชายหนุ่มค่อนข้างน่าดึงดูด แม้ว่าจะไม่ได้หล่อเหลาหรือเหมาะสมเท่าคุณชายใหญ่ฮิลล์ก็ตาม นอกจากนี้ อนาคตของเขาก็ยังเต็มไปด้วยโอกาสและศักยภาพทุกคนในครอบครัวฮิลล์ปรากฏตัวในวันนี้ ไม่ต้องพูดถึงชื่อผู้มีอิทธิพลคนอื่น ๆ ในแวดวงการเมืองและธุรกิจ เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่มีแขกเหล่านี้ในพิธีหมั้นของเธอนี่คืองานแต่งงานที่เธอฝันถึงฌอนจะต้องเสียใจกับการเลือกของเขาอย่างแน่นอนเมื่อเขามาถึงในภายหลัง มันเป็นความผิดของเขาที่ไม่อยากแต่งงานกับเธออีกทั้งแคทเธอรีนก็ด้วยเช่นกัน ผู้หญิงเสียโฉมคนนั้นจะต้องอิจฉาเธอมาก“ดูสิ คุณชายฮิลล์คนโตก็อยู่ที่นี่ด้วย! เขามากับแคทเธอรีน โจนส์”จู่ ๆ อาไอรีนก็ตะโกนออกมาทุกคนซึ่งอยู่ที่ชายหาดส่วนตัวหันศีรษะของพวกเขาไปที่ทางเข้า ฌอนเข้ามาในชุดทักซิโด้สีขาว เขาไม่ค่อยปรากฏตัวในงานสาธารณะด้วยชุดสีขาว แต่ในตอนนั้น เขาดูเหมือนเจ้าชายทรงเสน่ห์ที่หลุดมาจากเทพนิยายทั้งหมด แ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก