“ใช่แล้ว ฉันก็รู้สึกแย่กับเธอด้วยเหมือนกัน” เมลานี่ย้ำ “นอกจากนี้ บางครั้งผู้ชายก็พูดในสิ่งที่พวกเขาต้องพูดเพื่อเห็นแก่ศักดิ์ศรี”“ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งสำคัญคือผู้ชายต้องรักษาชื่อเสียงของเขา อา คุณชายแคมโปส ตอนที่ฉันมาถึงแคนเบอร์ราครั้งแรก แล้วได้ยินเกี่ยวกับข่าวลือที่น่าอับอายเกี่ยวกับคุณและนักศึกษามหาวิทยาลัยหญิง ฉันคิดว่าเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนี้กำลังจะมีโชคชะตาที่เปลี่ยนไป ปรากฏว่าฉันคิดผิดสินะ”หลังจากหยุดชั่วครู่หนึ่ง แคทเธอรีนพูดอย่างจริงจังกับเมลานี่ว่า “น้องสาวของฉัน เพราะวันนี้เป็นงานหมั้นของเธอ ฉันอยากจะให้คำแนะนำอย่างชาญฉลาดแก่เธอ ผู้หญิงทุกคนย่อมแก่ลงหรือน่าเกลียดในวันหนึ่ง ผู้หญิงสวยมีอยู่ทุกที่ แต่ความงามภายในไม่เคยจางหาย นี่คือเคล็ดลับที่แท้จริงของการรักษาชีวิตคู่ให้ยืนยาว”“ถูกต้องที่สุด ภรรยาของผม”ฌอนพูดก่อนจะหันไปมองประธานทอมป์สัน “ผมพนันได้เลยว่าคุณเข้าใจเรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตาม ประธานทอมป์สัน คุณมักจะไล่ตามเด็กผู้หญิงอายุราว 18 ปีอยู่เสมอ ผมได้ยินมาว่าคุณพบเด็กสาวอีกคนเมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณนายทอมป์สันคงรู้ว่าตัวเองแก่แล้ว เธอจึงทำเป็นตาบอดต่อทุกสิ่ง เฮ้อ”ทันใดนั้น
“พ่อคะ นิโคลาเป็นคนทำให้ใบหน้าฉันเสียโฉม” แคทเธอรีนขัดจังหวะ “เมื่อไม่นานมานี้ ฉันถูกครอบครัวฮิลล์ขังไว้ในคุกใต้ดินของพวกเขา นิโคลาร่วมมือกับวาเลรี่และสั่งให้คนรับใช้วางยาพิษในข้าวต้มของฉันเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”“อะไรนะ?” โจเอลตกตะลึง เมื่อลองคิดตามแล้วมันฟังดูเหมือนบางอย่างที่นิโคลาจะทำ “พ่อจะไปหาผู้หญิงบ้าคนนั้น...”“พ่อคะ มีแขกผู้มีเกียรติหลายคนมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีหมั้นระหว่างครอบครัวยูลและแคมโปส มันไม่ใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่องนะคะ นอกจากนี้ คุณท่านฮิลล์ และคนอื่น ๆ เองก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ฉันแน่ใจค่ะ ว่าพวกเขาไม่เข้าข้างคุณ” เธอพยายามเปลี่ยนใจเขาโจเอลกำมือของเขาแน่น เขาโกรธมาก “แต่หน้าของลูก...”“คุณลุงโจเอล บางอย่างต้องใช้เวลา” ฌอนพูดด้วยเสียงต่ำ “ผมจะทำให้แน่ใจว่าคนที่ทำร้ายแคทเธอรีนจะต้องชดใช้สำหรับการกระทำของพวกเขา”โจเอลรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้งในอกของเขา เขามีความสุขกับชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมาตลอดชีวิตของเขา อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักแล้วว่าเขาเป็นหนี้ลูกสาวคนนี้มากมายเสียจนไม่สามารถชดเชยให้เธอได้ “เคธี่ พ่อตัดสินใจที่จะหย่ากับนิโคลาหลังจากการแต่งงานของเ
“เอาล่ะ ไปนั่งกันเถอะ” ฌอนพาแคทเธอรีนไปที่โต๊ะด้วยความสงบและเป็นกันเองผลไม้และถั่วต่าง ๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะแล้วเธอปอกถั่วเม็ดสนสองสามอัน แต่ก็ยอมแพ้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้น เพราะมันมีขั้นตอนให้ทำมากเกินไปเมื่อสังเกตเห็นแบบนั้น เขาก็แกะและวางถั่วเม็ดสนที่ปอกเปลือกแล้วไว้ข้างหน้าเธอเธอรู้สึกประทับใจกับท่าทางที่อ่อนหวานและรอบคอบนี้“เคธี่...”ทันใดนั้นเสียงอ่อนโยนของเวสลีย์ก็ดังขึ้นในหูของเธอเธอเงยหน้ามองไปยังต้นเสียง เวสลีย์ดูสง่างามในชุดสูทสีน้ำเงินและกางเกงสีขาวของเขา ดวงตาของเขาประกายไปด้วยความตกใจและสงสารเมื่อมองเธอเขาก้าวไปข้างหน้าและยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัวมีมือหนึ่งคว้ามือของเขาไว้กลางอากาศ ฌอนเลิกคิ้วของเขาขึ้น และกอดแคทเธอรีนไว้ใกล้เขามากขึ้น “เป็นอะไร? คุณวางแผนที่จะล่วงเกินภรรยาผมในที่สาธารณะงั้นเหรอ? นั่นไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ดีเท่าไร”“ฌอน ฮิลล์ คุณไม่ใช่คนเดิมกับที่เคยเป็นอีกต่อไป และผมจะเอาชนะใจแคทเธอรีนให้ได้ในไม่ช้า คุณไม่คู่ควรกับเธอ” หลังจากคำเตือน เขาก็หันไปหาเธอและพูดเบา ๆ ว่า “ขอเวลาให้ผมมากกว่านี้”“เวสลีย์ ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่ในว
“ฉัน...”“นายไม่ได้ยินหรือไง? ภรรยาของฉันอยากให้นายออกไป ผู้ชายที่ชอบแย่งเมียชาวบ้านหน้าด้านเหมือนนายทุกคนหรือเปล่า?” ฌอนกระชับกอดแคทเธอรีนให้เข้ามาใกล้และพูดขึ้นเบา ๆ “ที่รัก นั่งสิครับ ผมจะปอกเปลือกลูกสนให้คุณต่อเอง”มีบางอย่างฉายแววผ่านดวงตาของเวสลีย์ในขณะที่เขามองหญิงสาวที่แนบอิงกับแผ่นอกของผู้ชายคนอื่น ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความเคร่งขรึม ก่อนที่เขาจะหันหลังแคทเธอรีนลอบถอนหายใจเมื่อเธอเงยหน้ามองร่างของชายที่เดินห่างออกไป เธออยากให้เวสลีย์รีบไปเร็ว ๆเพราะเธอได้ตัดสินใจที่จะกลับไปอยู่เคียงข้างฌอนแล้ว เธอรู้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปกันใหญ่ในตอนนี้ที่เธอแต่งงานกับฌอนแล้ว “กินเมล็ดสนของคุณไปแล้วเลิกพูดถึงผู้ชายคนอื่น” เขาหันมามองหน้าเธอ “เวสลีย์เข้าใจยากกว่าที่คุณคิด...”“...”“ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าร่วมพิธีหมั้นนี้ได้ เขาไม่ใช่คนในเมืองแคนเบอร์ราและไม่ได้มีคนรู้จักมากนัก แต่ที่เขาสามารถมาปรากฏตัวที่นี่ในวันนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงการที่เขาได้นั่งร่วมโต๊ะที่สี่จากด้านหน้า คุณคิดว่าเขาหน่อมแน้มนักหรือไง?”แคทเธอรีนไม่มีอะไ
ผู้อำนวยการเออไวน์มองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครจากตระกูลฮิลล์อยากจะช่วยเหลือฌอน “ฉันก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลอะไร เพราะแกทำแขนฉันหัก วันนี้ฉันเลยจะให้แกชดใช้ นอกจากนั้น ภรรยาของฉันยังโกรธที่ภรรยาของแกพยายามยั่วฉัน แต่เราลืมเรื่องนี้ไปก็ได้ ถ้าแกปล่อยให้เธอตบหน้าภรรยาของแก”แคทเธอรีนหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น “คุณมีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าดิฉันพยายามยั่วคุณจริง ๆหรือเปล่าล่ะคะ? ดิฉันมั่นใจว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ ลองไปตรวจสอบภาพที่บันทึกไว้ดูสิคะ ว่าาดิฉันแตะต้องคุณจริง ๆ”ผู้อำนวยการเออร์ไวน์โกรธจัด “เธอหมายความว่ายังไง? ทำไมฉันจะต้องใส่ร้ายผู้หญิงน่าเกลียดอย่างเธอด้วย?”“ผู้อำนวยการเออร์ไวน์ผู้ทรงเกียรติไม่ต้องใส่ร้ายเธอหรอก เรื่องราวต่าง ๆ กลับกลายเป็นแย่ลง แต่เธอก็ยังจะปฏิเสธจะยอมรับการกระทำผิดของตัวเองอยู่อีก ผมคิดว่าการตบหน้าครั้งเดียวยังไม่พอด้วยซ้ำ” ดูเหมือนประธานทอมป์สันจะพยายามทำให้เรื่องแย่ลงเมลานี่แนะนำอย่างช่วยไม่ได้ “เคธี่ รีบขอโทษผู้ชายคนนั้นเร็วเข้าและสัญญาว่าเธอจะไม่ทำอย่างนั้นอีก”มุมปากของแคทเธอรีนเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มประชดประชัน “ดิฉันบอกได้เลยว่าพวกค
ฝูงชนแตกตื่นในความโกลาหลโดยเฉพาะสมาชิกในตระกูลฮิลล์ที่มองดูฌอนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง“อะไรกัน? แกเป็นคนก่อตั้งฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่น อย่างนั้นเหรอ?” คุณท่านเกรี้ยวกราด“ฌอน แกคิดอะไรของแกอยู่?” ลีอารู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อเหมือนกัน “แกเป็นประธานของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น แต่แกก็ยังแอบไปก่อตั้งฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่นอีกเหรอ? แกกล้าทรยศต่อตระกูลฮิลล์ได้ยังไง?!”“แกมันสารเลว ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของฉันคือปล่อยให้แกดูแลฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น!” คุณท่านฮิลล์อยากจะทุบหัวหลานชายของเขาเสียตอนนั้น“คุณพ่ออย่าโกรธค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บริษัทเล็ก ๆ อย่างฌอนนาราห์ 8’แข่งกับบริษัทเล็ก ๆของครอบครัวเราไม่ได้หรอกค่ะ” วาเลรี่พูดขึ้นอย่างเสียไม่ได้“ถูกแล้ว ฮิลล์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่นก็เป็นแค่เศษขยะเมื่อเทียบกับพวกเรา” ควีนนี่ตอบกลับอย่างยิ้ม ๆในที่สุดใบหน้าที่เคร่งเครียดของคุณท่านฮิลล์ก็คลายลงเล็กน้อย “ฌอน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในตระกูลฮิลล์อีกต่อไปแล้ว ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นจะทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มฌอนนาราห์ เลียม ตา
ทั้งผู้อำนวยการเออร์ไวน์และประธานทอมป์สันรู้สึกเข่าอ่อนเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาทั้งคู่ได้ฉีกหน้าฌอนไปก่อนหน้านี้ ไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะมาเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแล้วในตอนนี้“คุณชาย… คุณชายฮิลล์คนโต ผมมันมีตาหามีแวว ทำไมคุณไหมหักแขนผมเสียล่ะ?” ตอนนี้ผู้อำนวยการเออร์ไวน์เกือบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “หรือบางทีคุณตบหน้าผมก็ได้?”ฌอนเอื้อมมือไปจับแก้มที่มันย่องของผู้ชายคนนั้น “ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้แกจะอวดดีนักไม่ใช่เหรอ? แกพูดว่าภรรยาของฉันจับก้นแกใช่ไหม?”“คุณชายฮิลล์คนโต ผมขอโทษ” ชายคนนั้นคุกเข่าลงกับพื้น“ไปอ้อนวอนเลียมแทนสิ ดูท่าว่าเขาจะพัฒนาไมโครชิปตัวใหม่ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์เพื่อช่วยแกได้นะ”ริมฝีปากของเขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินจูงมือแคทเธอรีนไปที่ประตูในตอนนี้ไม่มีใครกล้าขวางเขาเอาไว้ แม้แต่ชาร์ลีและเมลานี่เองก็ยังรู้สึกร้อนรนและวิตกกังวลในขณะที่เขากำลังจะไปถึงประตู จู่ ๆ เขาก็หันกลับมามองผู้คนด้วยความเย็นชาก่อนที่สายตาจะมาหยุดที่ชาร์ลีในที่สุด “คุณชายแคมโปส ฉันจะจำเหตุการณ์ที่นายวางแผนจัดการฉันเอาไว้ตลอด”ริมฝีปากของชาร์ลีสั่นระริกอย่างไม่รู้ตัว ผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมายของเ
คุณท่านฮิลล์ถอนหายใจออกมายาวเหยียดหลังจากที่คนอื่น ๆ จากไปคุณผู้หญิงฮิลล์รินน้ำใส่แก้วให้ท่าน “นี่ค่ะ ในวัยแบบนี้ คุณอาจจะต้องสละอำนาจไปเหมือนกัน พูดตามตรงนะคะ ไม่มีหลานคนไหนที่มีความสามารถไปมากกว่าฌอน มันไม่คุ้มที่จะเสียชื่อเสียงตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดไปเพราะเรื่องนี้”“มันก็แค่ทำให้ฉันโกรธ ไอ้หลานคนนี้มันหัวรั้นนัก” ท่านลูบหน้าอกที่รู้สึกอึดอัดของตนเอง “แต่เขาโหดเหี้ยม นั่นก็จริงที่ว่าไม่มีใครในตระกูลเทียบเขาได้ ลีอามีศักยภาพ แต่เธอไม่มีอะไรเทียบกับเขาได้เลย”“เขาต้องโหดเหี้ยมเพื่อรักษาตำแหน่งของเขาในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศนะคะ”...ณ ที่จอดรถของโรงแรมเมื่อขึ้นไปบนรถ แคทเธอรีนอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองผู้ชายที่นั่งถัดไปจากเธอขณะที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยวันนี้เขาขับรถสปอร์ตรุ่นลิมิตเต็ด ที่นั่งฝั่งคนขับสุดเท่และไฮเทคโอบรับร่างแกร่งของเขาเอาไว้ เธอต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์มากเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่เขาพูดในพิธีหมั้นก่อนหน้านี้... ช่างมีเสน่ห์จริง ๆหญิงสาวเห็นใบหน้านี้ทุกวัน ทว่าความหล่อไม่มีที่ตินี้ยังคงทำให้เธอหัวใจเต้นแรงน่าหงุดหงิดอะไรอย่างนี้ทำอย่างไ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก