ที่ดินกว้างขว้างนี้ประกอบไปด้วยสนามแข่งม้า สนามกอล์ฟ สนามบาสเก็ตบอล สนามแบดมินตัน และลานบิน...แม้แต่แคทเธอรีนเองที่เคยเห็นแง่มุมของสังคมมาหลากหลายรูปแบบ ยังรู้สึกทึ่งกับสภาพแวดล้อมโดยรอบนี้เลยหลังจากจอดรถแล้ว พ่อบ้านก็พาทั้งสี่คนเข้าไปที่ตึกใหญ่ในห้องนั่งเล่นอันโออ่าสวยงาม คุณผู้หญิงฮิลล์และลูกสาวคนที่สามของเธอ วาเลรี่ นั่งอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง คุณฮิลล์และผู้ชายอีกหลายคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องดื่มชาที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งเมื่อทั้งสี่คนเข้าไป ทุกคนก็มองเป็นตาเดียวแคทเธอรีนที่สวมเสื้อแจ็กเก็ตย้อนยุคตัวเก๋ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ ริมฝีปากของเธอถูกฉาบด้วยลิปสติกสีแดง ผมสีดำขลับนั้นถูกม้วนเป็นลอนสวยระอยู่กับไหล่บาง ใบหน้าเรียวสวยของเธอประกอบด้วยจมูกได้รูปสวย และเรียวคิ้วโก่งดุจคันศร เธอมีผิวละเอียด และความสวยของเธอก็น่ามอง มีเสน่ห์ถัดไปจากเธอ เมลานี่ดูตัวเล็กและไร้เดียงสา ทุกคนต่างรู้ดีว่าเธอเป็นนางเอกของค่ำคืนนี้ ทว่าเธอกลับดูธรรมดาจนเกินไปคุณผู้หญิงฮิลล์เคยได้ยินเมลานี่พูดถึงแคทเธอรีนมาก่อน และไม่ค่อยชอบเธออยู่แล้ว ทว่าในตอนนี้ ท่านกลับยิ่งไม่ชอบเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก“คุณยูล คุณพ่อ และ
“งั้น บ่าวสาวอยากแต่งไหมล่ะ?” วาเลรี่หัวเราะออกมา “ก็ในเมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้แล้ว ทำไมเราไม่ทำพิธีให้เสร็จไปเลยล่ะคะ?”“แม่เองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” คุณผู้หญิงหันไปหาพ่อบ้าน “ไปเอากำไลข้อมือมาให้ฉันที” อีเว็ตต์ การ์ดเนอร์ ลูกสะใภ้ของท่าน ถามขึ้นด้วยความอิจฉา “คุณแม่หมายถึงกำไลข้อมือที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษเหรอคะ?”“ใช่น่ะสิ ก็ฌอนเป็นผู้สืบทอดของตระกูลฮิลล์ ดังนั้นกำไลข้อมือควรส่งต่อให้ภรรยาในอนาคตของเขาเป็นเรื่องธรรมดา” คุณผู้หญิงฮิลล์พูดพร้อมกับเผยยิ้มแคทเธอรีนหลุบตาลง เพราะทุกข์ใจเกินกว่าที่จะมองพวกเขาได้ที่ด้านข้าง เมลานี่และแม่ของเธอได้สูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความตื่นเต้นไปหลายครั้งแล้วในไม่ช้า กำไลข้อมือก็ถูกนำออกมา และคุณผู้หญิงฮิลล์ก็เรียกให้เมลานี่เข้ามาหา ขณะที่เธอกำลังยกมือของเมลานี่ขึ้นวางบนตักของเธอ จู่ ๆ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกทุกคนหันไปมองฌอนที่เดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทสีเทาราคาแพงกับเนคไทผ้าไหมแจ็คการ์ด เขาสวมนาฬิกาเรือนหรูเอาไว้ที่ข้อมือของเขา ยามเมื่อเขาเดินเข้ามาราวกับมีสปอตไลท์สาดส่องมาที่เขา ดูสูงศักดิ์ สง่างาม และดูพิเศษ“ทำอะไรกันอย
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาปราศจากซึ่งความรู้สึกใด ๆ ทว่าคนที่รู้จักเขาดีต่างรู้กันว่านี่คือชนวนระเบิดของความโกรธคนรุ่นหลังกลั้นหายใจด้วยความหวาดหวั่น ทว่าผู้อาวุโสไม่กล้าพูดอะไรโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน นิโคลาเดือดดาลด้วยความโกรธ “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง...”“พอ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” วาเลรี่จ้องมองไปที่เธอ “เรากังวลมากไปเองจริง ๆ ก่อนอื่นหลานต้องเข้าใจถึงบุคลิกนิสัย และงานอดิเรกของอีกคนเสียก่อน หลานสองคนควรจะเดท ไปทานอาหารเย็น และดูหนังด้วยกันให้มากกว่านี้ มีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่บ้าน หลานไปดูหนังหลังจากรับประทานอาหารได้เลย”“ใช่ เป็นความคิดที่ดี” คุณผู้หญิงฮิลล์ยังเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปพูดถึงวัตถุดิบสดใหม่ที่ฌอนได้สั่งมาจากต่างประเทศเป็นพิเศษหลังจากที่รับประทานส้มเสร็จแล้ว ฌอนก็ไม่ได้ร่วมวงสนทนากับพวกผู้หญิงและหันหลังกลับหลังจากที่เขาออกไปได้ไม่นาน ชายหนุ่มอีกสองคนก็เข้ามา คนหนึ่งคือวิลลี่ ฮิลล์ ที่แคทเธอรีนเคยพบมาก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งสวมชุดสูทสีน้ำเงิน ผมสีดำสนิทของเขาปรกอยู่บนหน้าผากของเขา และคิ้วได้รูปของเขาทำให้เขาดูเย่อหยิ่งคุณผู้หญิงฮิลล์กวักมือเรียกให้พวกเขาเข้ามา “เลียม ทำไม
“นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง? เก็บของออกไปสิ” ฌอนใช้ผ้าขนหนูเช็ดนิ้วมือของเขาช้า ๆ อย่างถูกวิธี ทว่าคำพูดของเขาที่พูดออกมาราวกับประกาศิตที่ผู้คนต่างไม่กล้าฝ่าฝืนไม่นานก็มีคนเข้ามาและพาเชฟออกไป เชฟคนใหม่ก้าวเข้ามาในครัวเชฟคนถัดไปต้องระมัดระวังไม่ให้เสิร์ฟอาหารได้ไม่ดีพอ ด้วยเขาเกรงว่าจะทำให้นายน้อยโกรธแคทเธอรีนก้มลงตั้งใจรับประทานซาซิมิส่วนของเธอ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับมาจากฌอน และถึงทุกคนจะบอกว่าฌอนทำแบบนี้เพื่อเมลานี่และโจเอล ทว่าในใจของเธอกลับรู้สึกต่างออกไป...จู่ ๆ ในหัวใจของเธอก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา เธอกำลังคิดอะไรของเธออยู่? ตอนนี้เธอมีคู่หมั้นแล้ว และฌอนเองก็คบหากับเมลานี่เหมือนกัน...หลังจากช่วงเวลาอาหารเย็น พวกตระกูลฮิลล์ก็มองดูเมลานี่ด้วยความชื่นชมมากขึ้นไปอีกมีเพียงวิลลี่เท่านั้นที่รู้ทันไม่เหมือนคนอื่น คนพวกนี้โง่อะไรอย่างนี้! พวกเขาไม่รู้ว่าฌอนโกรธเพราะแคทเธอรีน เมลานี่เป็นใครสำหรับเขากัน?ในตอนนั้นเอง คุณผู้หญิงฮิลล์ก็พูดขึ้น “ฌอน พาเมลานี่ไปดูหนังที่ห้องดูภาพยนตร์ส่วนตัวสิ จะได้พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อกันฌอนหันไปมองทั่วห้องโถงและเห็นว่าแคทเธอรีนก้มหน้าลง เธอเอาแต่
เมื่อเธอโผล่ขึ้นมาจากน้ำ สาวใช้คนนั้นก็หายตัวไปเสียแล้ว สิ่งที่เชฟทำตอนที่รับประทานอาหารค่ำในคืนนี้ ทำให้เธอต้องคอยระวังตัวเอาไว้ ก่อนหน้านี้สาวใช้ก็ใช้คุณผู้หญิงเป็นข้ออ้างเพื่อให้เธอตามมา แต่เธอเริ่มบันทึกวีดิโอในโทรศัพท์ของเธอตอนที่พวกเธอกำลังเดินมาด้วยกันเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา มันตกลงไปในน้ำเสียแล้ว ทำให้จอโทรศัพท์เป็นสีดำมืดเธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ดังนั้นเธอจึงต้องออกไปให้เร็วที่สุด“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”ที่ด้านหลังป่าไผ่ จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาด้วยไหล่ที่เปลือยเปล่า ครึ่งล่างของเขาพันผ้าขนหนูเอาไว้ และเมื่อเห็นหน้า… เป็นวิลลี่ ฮิลล์ในตอนนั้นเอง แคทเธอรีนก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วหัวเราะออกมา“เห้ย คุณมาทำอะไรที่นี่?” วิลลี่ตกใจรีบยกมือขึ้นปิดแผ่นอก “รีบออกไปเลย ฌอนจะฆ่าผม ถ้าเขารู้เรื่องนี้” “ฉันถูกใครไม่รู้หลอกมาที่นี่” แคทเธอรีนตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ ผมของเธอเปียกโชก อีกทั้งเสื้อผ้าของเธอยังลู่แนบไปกับรูปร่างเพรียวสวยของเธอ ถ้าเป็นคนอื่น วิลลี่คงกลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้ว ทว่าเขาไม่กล้าทำอะไรจริง ๆ เมื่อเป็นแคทเธอรีน โจนส์“เสื้อผ้าขอ
ฌอนรีบกลับไปที่ห้อง ไม่มีไฟดวงใดถูกเปิดขึ้น มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องว่างเปล่าเขาตรงไปที่ห้องเก็บเสื้อผ้าและเปิดไฟขึ้น หญิงสาวที่กำลังสวมเสื้อผ้าของเขาอยู่ร้องขึ้นเสียงหลง และปกปิดร่างกายของเธอด้วยประตูตู้เสื้อผ้า ดวงตาสีเข้มของเธอทำให้เธอดูราวกับเป็นลูกกวางน้อยที่กำลังหวาดกลัว ทั้งใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอับอายริมฝีปากบางของเขายกยิ้มร้ายกาจ “อะไรกัน? นี่มีโจรบุกเข้ามาในห้องผมแล้วขโมยเสื้อผ้าของผม แถมยังกล้าจ้องมาที่ผมอีกเหรอ?”“ฉันไม่มีอารมณ์จะมาเถียงกับคุณนะคะ คนข้างนอกตามหาฉันให้ทั่วไปหมด”แคทเธอรีนรู้สึกกระวนกระวายใจ ทว่าเสื้อผ้าของเธอเปียกโชกรวมถึงผมของเธอก็เปียกไม่ต่างกัน เธอออกไปสภาพแบบนี้ไม่ได้ เธอจะดูน่าสงสัย“แล้ว... เกี่ยวอะไรกับผมด้วยล่ะ?” ฌอนพิงประตูอย่างไม่แยแส มองดูราวกับเขาไม่สนใจ“ฌอน ฮิลล์คะ...” ใบหน้าของแคทเธอรีนซีดเผือด เธอไม่อาจทำลายตระกูลยูลได้ นับประสาอะไรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณชายที่มีแต่เรื่องฉาวโฉ่อย่างวิลลี่ และปล่อยให้นิโคลาลอยนวลไปกับเรื่องนี้“คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยช่วยใครฟรี ๆ” แววตาของฌอนฉายแววลึกซึ้งแคทเธอรีนกัดริมฝีปากของเ
พวกเธอทั้งสองคนไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่เลียมซึ่งบังเอิญกำลังจะกลับไปที่ห้องของเขา เห็นแคทเธอรีนกำลังเดินออกมาจากห้องของฌอนอยู่ไม่ไกลเขายิ้มออกมาและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นในทันทีป้าจัสมินพาเธอไปที่ประตูหลักของบ้านใหญ่ การหายตัวไปของแคทเธอรีนทำให้สองครอบครัวมารวมตัวกัน... แม้แต่คุณฮิลล์และคุณผู้หญิงฮิลล์ก็ยังมาอีกด้วยเมื่อเห็นเธอกลับมาแล้ว นิโคลาก็รีบวิ่งเข้าหาด้วยความกังวลทันที “แคทเธอรีน ไปไหนมาไม่บอกไม่กล่าว? เธอไม่รับโทรศัพท์เลย เราตามหาเธอไปทั่ว เธอทำให้เราเป็นห่วงแทบตาย”คำพูดนั้นทำให้การแสดงออกของคุณผู้หญิงฮิลล์เปลี่ยนเป็นโกรธเคืองทันที เพราะเธอคิดว่าแคทเธอรีนเป็นคนไม่ใส่ใจคนรอบข้าง“เอ๊ะ? ทำไมตอนนี้เธอถึงสวมเสื้อผ้าไม่เหมือนเดิมล่ะ?” วาเลรี่ถามขึ้นทันทีแคทเธอรีนกะพริบตาและพูดด้วยความรู้สึกเสียใจ “ดิฉันไม่ทันได้ระวังตอนที่ดิฉันออกไปเดินเล่นข้างนอก เลยตกลงไปในสระน้ำค่ะ ป้าจัสมินเห็นว่าดิฉันตัวเปียกโชกไปหมดเลยพาดิฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเป่าผมให้ค่ะ ส่วนโทรศัพท์ของดิฉันก็ตกลงไปในสระน้ำเหมือนกัน ก็เลยใช้งานไม่ได้แล้วค่ะ”เธอนิ่งไปพลางขอโทษออกมา “ดิฉันขอโทษจริง ๆ นะคะ ดิฉั
โจเอลไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาได้รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาก็มองไปที่นิโคลานิโคลารู้สึกตกใจ “แคทเธอรีน เธอหมายความว่ายังไง? ฉันได้ยินกับหูของฉันเอง คนใช้ของตระกูลฮิลล์อ้างว่าเธอแอบไปที่บ่อน้ำพุร้อน ฉันคิดว่าเธอคิดจะไปยั่ววิลลี่ ความเลวทรามของวิลลี่ ทำให้ฉันเป็นห่วงเธอ ฉันเลยรีบ...”“ใช่ คุณอารีบไปที่นั่น ถ้าคุณอาเกิดเห็นว่าฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อย และวิลลี่ก็ยื้อยุดฉันอยู่ ชื่อเสียงของฉันคงจะพังย่อยยับ พวกตระกูลฮิลล์จะต้องมองว่าฉันทำตัวไม่ดีแน่ ๆ แล้วเขาจะยอมให้วิลลี่แต่งงานกับฉันอย่างนั้นเหรอคะ?"แคทเธอรีนถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณอานิโคลาคะ ถ้าคุณอาเป็นห่วงฉันจริง ๆ คงแอบไปที่นั่นเพียงคนเดียว และไม่ปล่อยให้คนทั้งครอบครัวไปที่นั่น คุณอาควรจะโล่งอกที่ไม่เจอฉัน แทนที่จะเปิดเผยด้วยการโวยวายขึ้นมาจนเป็นเรื่อง”เธอพูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำและใจเย็น ถึงโจเอลจะเป็นคนโง่ ทว่าเขาก็เข้าใจความจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่านิโคลาได้ทำบางสิ่งบางอย่างลงไป“นิโคลา เธอนี่มันเลวจริง ๆ” โจเอลสั่นไปทั้งร่างด้วยความโกรธ “ทำไมเธอถึงยังแค้นฝังใจกับเด็กผู้หญิงอย่างเธออยู่อีก? เธอกับเมลานี่ไ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก