เมื่อได้สติ แคทเธอรีนรีบหมุนพวงมาลัย รถยนต์แล่นลงไปตามเส้นทางของถนนที่คดเคี้ยวด้วยความเร็วสูงเพราะเบรกไม่สามารถใช้งานได้ทันใดนั้นเอง รถเบนท์ลีย์ก็ปรากฏอยู่ที่ข้างหน้าเธอตัดสินใจอย่างฉับพลันด้วยการขับรถปาดไปอีกด้านของถนนอย่างหวุดหวิดคนขับรถเบนท์ลีย์รู้สึกตกใจมาก “คนนั้นเสียสติไปหรือเปล่าคุณชายรอง? เธอกำลังขับรถด้วยความเร็ว 150 ถึง 160 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำอย่างกับว่ากำลังแข่งรถอยู่อย่างนั้นแหละ”เลียมเงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นรถสปอร์ตคันสีขาวแล่นไปตามเส้นทางภูเขาอย่างเร็ว ดูเหมือนว่าคนขับไม่ได้เหยียบเบรกเลยแม้แต่น้อย ถึงจะผ่านทางโค้งไปหลายครั้งแล้วก็ตามแม้แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าขับแบบรถสปอร์ตคันนั้น“มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับรถคันนั้น ตามรถคันนั้นไป”คนขับรถจึงขับไล่ตามไป คนขับรถและเลียมรู้สึกตกใจ ตอนนี้รถสปอร์ตคันสีขาวแล่นไปตามถนนบนภูเขาด้วยความเร็วเกือบ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง เมื่อสุดท้ายรถกำลังจะเสียหลัก แคทเธอรีนจึงรีบขับรถไปที่เส้นทางที่เป็นโคลนซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ เกิดเสียงดังปังขึ้นเมื่อรถทางด้านขวาชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่เลียมรีบเปิดประตูรถออกไปอย่างรวดเร็ว ถุงลมนิรภัยกางออก หญิงส
เลียมหรี่ตามอง ผู้บริหารพวกนั้นแกล้งทำเป็นเชื่อฟังคำสั่งของเขาตลอดมา โดยที่พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามจริง ๆ เลย ทว่าพวกเขากลับอ่อนน้อมถ่อมตนยามอยู่ต่อหน้าฌอนริมฝีปากบางของเลียมกระตุกขึ้นอย่างร้ายกาจ “พี่ชายครับ”ฌอนมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ฉันว่าจะไปหานายอยู่ เมื่อเช้านี้นายไม่มาเข้าประชุม”“พี่ชายครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะขาดการประชุม” เลียมตอบอย่างไร้หนทาง “ตอนที่ผมมาจากภูเขาเชอร์แมนเมื่อเช้านี้ ผมเจออุบัติเหตุเข้า ผมเลยส่งผู้ประสบอุบัติเหตุไปที่โรงพยาบาล”“คราวหน้านายต้องแจ้งกับบริษัทถึงนายจะไม่มาก็ตาม” ฌอนก้าวขายาวของเขาเดินเข้าไปในห้องส่วนตัว“ได้ครับพี่ชาย แล้ว พี่อยากไปเยี่ยมคนที่ประสบอุบัติเหตุไหมครับ? เธอเป็นคุณหนูจากตระกูลยูล เป็นคนที่เพิ่งกลับมาน่ะครับ ที่ไม่ใช่เมลานี่” จริงทีเดียว ฌอนชะงักนิ่งไปทันทีหลังจากที่เลียมพูดจบฌอนหันกลับมา แล้วดวงตาสีเข้มของเขาก็จ้องมองไปที่เลียม แววตาที่จ้องมองมาของเขาดูเหมือนกับจะสื่อถึงความรู้สึกที่สับสนของเขา “แคทเธอรีนเหรอ?”“ครับ” ใบหน้าของเลียมฉายแววความเห็นอกเห็นใจฌอนสอดมือขวาของเขาเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางขบริมฝีปากของเขาเอาไว้ “เธอได
ฌอนยืนอยู่ที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วย เขากำมือแน่นจนเส้นเลือดที่แขนภายใต้แขนเสื้อปูดขึ้นมา จู่ ๆ เขาก็รู้สึกราวกับคนโง่ที่เป็นห่วงแคทเธอรีนและรีบมาตลอดทางจนถึงที่นี่คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมลเบิร์นก่อนหน้านี้ เขาโดนเธอหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอแสร้งทำเป็นไม่มีพิษภัยและขี้อายตลอดยามที่อยู่ต่อหน้าเขา ทว่าลับหลังเขาเธอกลับพูดคุยกับเวสลีย์ราวกับรักกันมากแล้วเธอจะทำให้เขาเข้าใจผิดไปเพื่ออะไร?แววตาของเขาฉายแววเย็นชาออกมาฌอนทนฟังบทสนทนาระหว่างแคทเธอรีนและเวสลีย์ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปที่ลิฟต์โจเอลเพิ่งออกมาจากลิฟต์ เขาตกใจที่บังเอิญเจอฌอนเข้า “คุณชายฮิลล์ ไปไงมาไงถึงมาที่นี่ได้ครับ?”“พอดีเพื่อนของผมรักษาตัวอยู่ที่นี่น่ะครับ ผมเลยมาเยี่ยมเขา” ฌอนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างขอไปที ก่อนที่เขาจะเข้าไปในลิฟต์ความเย็นชาของเขาทำให้โจเอลพูดอะไรไม่ออกเมื่อโจเอลเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย เวสลีย์กำลังป้อนน้ำให้แคทเธอรีนดื่ม โจเอลถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงอย่างโล่งอกพลางพูดขึ้น “เวสลีย์ดูแลลูกได้ดีจริง ๆ เขาโทรหาพ่อเมื่อเช้านี้หลังจากที่เขาติดต่อลูกไม่ได้ ตอนที่เขารู้ว
“เอาล่ะ พอได้แล้ว ชีวิตของเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน”ฌอนสตาร์ทรถแล้วขับออกไป ด้วยรถที่แล่นอยู่บนถนนเร็วดังจรวด เฮดลีย์กลัวมากจนจับที่จับเหนือศีรษะเอาไว้เมื่อฌอนขับรถมาถึงออฟฟิศ เขาก็ตรงไปขึ้นบันไดทันทีเฮดลีย์รินกาแฟใส่ถ้วยให้กับเขา ในขณะที่เขาหันหลังเพื่อจะออกไป จู่ ๆ ฌอนก็เรียกเขาเอาไว้ “หยุดก่อน นายไปสืบรู้อะไรมาบ้าง?”“...”ผู้ชายอะไรอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างนี้เฮดลีย์หันกลับมาแล้วรายงานเขาด้วยท่าทางจริงจัง “มีคนจากตระกูลยูลไปยุ่งกับรถยนต์ครับ เป็นฝีมือของคนทำสวน เขาได้รับเงินก้อนหนึ่งจาก โบรดี้ จาร์เรตต์ ผู้รับผิดชอบพื้นที่ในเมืองแฟล็กสตาฟ เท่าที่ผมทราบ โบรดี้และเฟอร์กัสออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง หลังจากที่สืบเรื่องนี้ดูแล้ว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเฟอร์กัสจะไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ครับ”“เรื่องนั้นก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะเฟอร์กัสทำเรื่องชั่ว ๆ มามาก เขาเลยค่อนข้างมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้” ฌอนยกถ้วยกาแฟขั้นแล้วเป่าให้คลายร้อน “โจเอลรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องแล้วบ้าง?”“เขาทำการตรวจสอบรถแล้วครับ แต่รถถูกเผาไหม้ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีกล้องวงจรในที่เกิดเหตุ ผมเลยเดาว่
เลียมตกใจไปครู่หนึ่ง ท่าทางของเขาดูแปลก ๆ “ผมไม่ทราบว่าคุณโจนส์มีคู่หมั้นแล้ว”แคทเธอรีนตอบกลับ “อื้ม ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่คุณช่วยชีวิตฉันเอาไว้ในวันนั้นนะคะ คุณชายฮิลล์คนรอง”“ด้วยความยินดีครับ ผมรู้สึกว่าฝีมือการขับรถของคุณน่าทึ่งมากเลยนะ”เลียมขยิบตาให้กับเธอ “ดูจากเมื่อหลายวันก่อน”“คุณขับรถเก่งมากเลยเหรอครับ?” เวสลีย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย“อืม… ที่ฝีมือการขับรถของฉันดีกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะฉันพยายามรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้น่ะค่ะ” แคทเธอรีนไหวไหล่ขณะที่ฝืนยิ้มออกมาพวกเขาทั้งสามคนพูดคุยกันเพียงสั้น ๆ หลังจากนั้นเลียมก็กล่าวลาพวกเขาและกลับไปความเงียบเข้ามาแทนที่ภายในห้องพักผู้ป่วย คิ้วของเวสลีย์ขมวดเข้าหากันด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน “เคธี่ครับ คุณเสียใจหรือเปล่าที่หมั้นกับผมที่เมลเบิร์น?”“คุณเป็นอะไรไปคะ?” แคทเธอรีนรู้สึกไม่เข้าใจเวสลีย์มองไปที่เธอด้วยท่าทางเศร้าใจ “ผมเคยเป็นคนเก่งตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อผมมาที่แคนเบอร์รา ผมจึงได้รู้ว่าผมไม่ได้เรื่องแค่ไหน คุณชายฮิลล์คนรองเป็นคนชั้นสูงท่ามกลางหมู่คนชนชั้นสูง จู่ ๆ ผมก็รู้สึกว่าผมไม่คู่ควรที่จะอยู่กับคุณ”แคทเธอรีนเผย
แคทเธอรีนไม่ได้ปริปากออกไปลึก ๆ แล้ว เธอคิดว่าในเมื่อนิโคลาสามารถสั่งให้เฟอร์กัสฆ่าเธอได้ง่าย ๆ เช่นนั้นแม่ของเธอก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับตอนนี้ จนกระทั่งในวันนี้ที่โจเอลเพิ่งได้รู้ถึงความชั่วร้ายของนิโคลา เขาอาจจะไม่เคยสงสัยว่านิโคลามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ของเธอ“อย่ากังวลไปเลยเคธี่ คราวนี้พ่อจะบังคับให้เธอหย่า” หลังจากที่พูดกับแคทเธอรีนอย่างจริงจังแล้ว โจเอลก็กลับไปที่บ้านและเริ่มจัดการกับเรื่องหย่าร้างของเขาเวสลีย์พูดขึ้น “คุณพ่อของคุณหย่ากับเธอไม่ได้หรอก”“ใช่ค่ะ” แคทเธอรีนเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตระกูลยูลและตระกูลวิคส์ที่ทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว แถมเมลานี่ยังเป็นแฟนสาวของคุณชายฮิลคนโตอีกด้วย ตระกูลฮิลล์จะไม่ยอมรับผู้หญิงที่มาจากตระกูลที่แตกหัก แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว คุณปู่คุณย่าของฉันและทุก ๆ คนในตระกูลยูลจะไม่อนุญาตให้พวกเขาหย่ากันอย่างแน่นอนค่ะ”ความเห็นอกเห็นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ “แล้วครั้งนี้...”“เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะศัตรูได้ในคราวเดียวค่ะ” แคทเธอรีนหลุบตาลง มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ตระกูลยูลจะยอมให
“หลานไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วนะ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่ยายจะได้พบหลาน” คุณผู้หญิงฮิลล์พูดจาเหน็บแนมฌอน“เมลานี่มาหาคุณยายทุกวันใช่ไหมล่ะครับ?” ฌอนเองก็เหน็บคุณผู้หญิงฮิลล์กลับคืนพลางนั่งลงข้าง ๆ เธอ เธอสวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงินเข้มและและเสื้อเบลาส์ ดวงตาที่ล้ำลึกของเธอมักจะเฉียบคมพอที่จะสังเกตเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง“หลานรู้ก็ดีแล้ว เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาหายาย เธอมาหาหลาน” คุณผู้หญิงฮิลล์พูดด้วยความรำคาญ “เธอค่อนข้างน่าสงสาร ครอบครัวของเธอมีความสุขมาโดยตลอด แต่ตอนนี้โจเอลยืนกรานที่จะหย่าหลังจากที่ลูกสาวนอกสมรสของเขากลับมา เขาแก่แล้วเหรอ? เขาหย่ากับภรรยาของเขาแบบนั้นได้อย่างไร?”ฌอนลูบคางของเขา “หึ ดูเหมือนเมลานี่จะใช้วิธีเกลี้ยกล่อมคุณยายให้เข้าข้างเธอนะครับ”“เธอจำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมยายด้วยเหรอ? ยายเคยเห็นวิธีสกปรกที่พวกตระกูลรวย ๆ ใช้กันมาเยอะแล้ว” คุณผู้หญิงฮิลล์ถอนหายใจ “เหมือนกับการหย่าร้างของพ่อกับแม่ของหลาน ยายเองก็ไม่เห็นด้วย”ฌอนหยิบบุหรี่ขึ้นมา เขาไม่ได้จุดบุหรี่ขึ้นในทันทีทว่าเล่นกับมันก่อน คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น ให้ความรู้สึกเย็นชาที่แผ่ออกมาคุณผู้หญิงฮิลล์ถอนหา
เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไรกัน? มันหมายความว่าฌอนพร้อมที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์กับเมลานี่ต่อหน้าทุกคนในไม่ช้าเมลานี่จะได้แต่งงานกับฌอน ด้วยเหตุนั้น ตระกูลวิคส์จะมีสถานภาพสูงกว่ามาก“นี่ เมลานี่ ทำไมหลานถึงไม่บอกปู่ล่ะ ว่าคุณชายฮิลล์คนโตกลับมาแล้ว?” นายท่านยูลรีบไปหาเมลานี่ด้วยท่าทางอิ่มเอมมีความสุขฌอนและเมลานี่ถูกผู้คนห้อมล้อมอยู่ และเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากของบรรดาแขกเรื่อ พวกแขกที่มาพยายามประจบประแจงพวกเขา“คุณชายฮิลล์ คุณกับเมลานี่เหมาะสมกันมากจริง ๆ”“คุณชายฮิลล์ เป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้พบคุณ”“คุณหญิงยูล คุณนี่โชคดีจริง ๆ ที่มีลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้”“...”ในทางกลับกัน ไม่แขกคนไหนพูดคุยกับแคทเธอรีนเลย ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ “เคธี่ครับ เขาคือ...”“ใช่ค่ะ” แคทเธอรีนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอพยักหน้ารับและขมวดคิ้วเข้าหากันเธอคิดไม่ถึงว่าฌอนจะมาร่วมงานวันเกิดของคุณปู่พร้อมกับเมลานี่ขณะที่โจเอลและนิโคลากำลังจะหย่าร้างกันในตอนนี้ ฌอนกลับมาพร้อมกับคนจากตระกูลวิคส์ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าเขาสนับสนุนเมลานี่คราวก่อนเฟอร์กัสเกือบจะฆ่าแคทเธอรีน
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก