เมื่อคะนึงรักยกมือขึ้นเพื่อจะดันแผ่นอกแกร่งให้ห่างออก ก็ถูกมือหนาจับข้อมือสองข้างไว้ ดันขึ้นไปเหนือศีรษะ ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวรวบข้อมือเธอตรึงไว้ อีกมือหนึ่งเลิกเสื้อยืดและเสื้อชั้นในขึ้นไปกองไว้บนเนินอก ริมฝีปากร้อนจูบไล่เรื่อยที่เนินทรวงก่อนจะครอบครองปลายถัน
ความเสียวสะท้านแล่นปราดไปทั่วร่างเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลียรอบฐานทรวงจนชุ่ม จากนั้นดูดดึงปลายยอดจนหดเกร็งเป็นตุ่มไต เธอบิดกายเร่าคล้ายกระสับกระส่ายเพราะความวาบหวามและซ่านสยิวที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ
สักพักเขาก็ปล่อยข้อมือทั้งสองข้างเป็นอิสระ แต่คะนึงรักก็อ่อนปวกเปียกจนแทบจะทำอะไรไม่ไหว
ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออก ไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นในลูกไม้ตัวจ้อยบางเบา มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างและผิวกายเปลือยเปล่า
หญิงสาวรู้สึกเสียเปรียบที่โดนลอกคราบฝ่ายเดียว จึงเอื้อมมือไปถอดเสื้อเขาบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แผงอกแน่นตึงกับหน้าท้องขึ้นลอนเรียงสวยปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำเอาคะนึงรักอดเอื้อมมือไปลูบไล้เขาบ้างไม่ได้ อันที่จริงเธออยากจะลูบจะคลำตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นเขาที่สระว่ายน้ำแล้ว
ชายหนุ่มสบตาเธอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงร้อนเร่าที่พร้อมจะพาเธอพุ่งทะยานไปในกระแสธารแสนหฤหรรษ์ในคืนนี้
เขาใช้แขนข้างหนึ่งยันกายแกร่งไว้ มืออีกข้างกดต้นขาเธอให้แยกออก ดวงตาคมสานสบคล้ายจะตรึงเธอให้หยุดนิ่งเหมือนต้องมนต์ ชายหนุ่มไล้ข้อนิ้วขึ้นลงที่ปากทางรักฉ่ำชื้น เธอครางออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อความร้อนรุ่มที่มากกว่าเก่ากระจายไปทั่วเรือนร่าง
ร้อนปนทรมาน แต่ก็รู้สึกดีเหลือเกิน
นิ้วหัวแม่มือของชายหนุ่มคลึงเคล้นที่ปุ่มสวาท ทำเอาคะนึงรักเจียนคลั่ง น้ำหวานจากกายสาวเอ่อล้นเคลือบร่องสวาทไว้จนชุ่ม
“ชอบให้เลียไหม” เขากระซิบถาม
เลีย...คะนึงรักแตกตื่น เข้าใจได้ทันทีว่าชายหนุ่มหมายถึงเลียตรงไหน
“ไม่ ไม่ดีกว่า”
“ไม่อยากเสร็จก่อนซักรอบนึงเหรอ ผมทำให้ได้นะ”
ฟังชายหนุ่มพูดแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดภาษาต่างดาวกับเธอ เพราะเธอเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง คือเธอรู้ว่าเขาจะทำอะไรเพียงแต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำอย่างไร
“ไม่ต้องก็ได้”
“ตามใจครับ” เขาบอกง่ายๆ จากนั้นแกะกล่องถุงยางอนามัย ใช้ปากช่วยฉีกซองฟลอยออก สวมครอบลงบนแก่นกายที่แข็งขึงตั้งตระหง่าน
เมื่อนั้นแหละคะนึงรักถึงได้รู้ว่าหนุ่มน้อยของเธอเปลือยเปล่าและพร้อมรบแล้ว แถมอาวุธคู่กายเขายังใหญ่โตจนน่ากลัว
ชายหนุ่มกลับมาทาบทับบนเรือนร่างของเธออีกครั้ง หยอกเย้ากับกลีบดอกไม้กลางกายสาว จากนั้นจึงใช้นิ้วแข็งแหวกนำทางแล้วกดความใหญ่โตนั่นเข้าไปในร่องหลืบฉ่ำเยิ้ม ทว่าเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งลำเพราะหญิงสาวคับแน่นจนเขาต้องนิ่วหน้า
“คุณ...แน่นจัง”
“อือ...ก็ครั้งแรก” หญิงสาวอยากจะกระถดตัวหนีเพราะความเจ็บ “มันเจ็บจัง ไม่เคยคิดว่าจะเจ็บขนาดนี้”
คนที่ทาบทับอยู่พยายามจะประมวลความคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าเมื่อเขาเห็นรอยเลือดซึมออกมาน้อยๆ จากส่วนที่สอดประสาน ก็กอดเธอไว้แน่น
“อย่าบอกนะว่าคุณ... สัสเอ๊ย...” เขาสบถก่อนจะรีบแก้ตัว “ขอโทษ ผมไม่ได้สบถใส่คุณ ผมด่าตัวเองที่ไม่ทันระวัง”
“พอแล้วได้มั้ย ไม่เอาแล้ว”
“สั่งให้ผมไปตายยังง่ายกว่านะ”
“แต่มันเจ็บ...”
“ลองใหม่นะ”
ชายหนุ่มเลื่อนมือลงต่ำ หยอกเย้ากับปุ่มเกสรกลางกาย สร้างความซ่านเสียวจนหญิงสาวครางกระเส่า เธอบดเบียดกึ่งกลางกายเข้าหาท่อนลำของเขาที่ยังปักค้างอย่างลืมตัว
“อย่างนั้นแหละคนเก่ง ดีแล้ว ค่อยๆ นะครับ ไม่ต้องรีบ”
คนสอนกดสะโพกเข้าหาอีกนิด เพื่อตอกตรึงความแข็งขึงร้อนฉ่าเข้าหาเธออีกหน่อย นิ้วร้ายยังปัดป่ายปุ่มสวาทที่เริ่มบวมเป่ง ความเสียวซ่านแล่นขึ้นมาเป็นระลอก ยิ่งเธอครวญคราง เขาก็ยิ่งขยี้ที่ติ่งเนื้อน้อยพร้อมกับค่อยๆ ขยับแก่นกายใหญ่โตเข้ามาเติมเต็มเรื่อยๆ ก่อนจะบีบบี้รัวเร็วพร้อมๆ กับดันท่อนลำเข้ามาจนสุดทาง
คะนึงรักกรีดร้องอย่างลืมตัว สมองขาวโพลนเมื่อความสุขสมแล่นปราดไปทั่วร่าง ปลายถันกดเกร็ง ช่องทางรักตอดกระตุกรัวเร็วทำเอาชายหนุ่มครางหนักๆ ในลำคอ
“เสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถาม
“อืม”
“ตอดซะผมเกือบเสร็จตามแน่ะ”
เขาลูบไล้ผิวกายเธอเบาๆ เหมือนจะปลอบประโลม ก่อนจะเริ่มขยับแก่นกายเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อให้เธอปรับตัว ดวงตาเรียวรีคอยจับสังเกตสีหน้าเธอไปด้วย
“เจ็บอยู่มั้ย”
“ไม่ค่อยแล้ว เสียวมากกว่า เวลาน้องขยับ”
“คุณมาถูกทางแล้ว” เขายิ้มน่ารัก
ชายหนุ่มจับเรียวขาเธอให้โอบกระหวัดรอบเอวเขาไว้ คะนึงรักรู้สึกได้ว่าความแข็งขึงร้อนฉ่านั้นแทรกลึกเข้ามาได้มากกว่าเดิม และกำลังล่อลวงให้เธอตกอยู่ในห้วงหฤหรรษ์แสนหวานปนทรมานนั่นอีกครั้ง
แต่ใครจะปฏิเสธลงล่ะ เพราะเมื่อเขากดสะโพกซ้ำๆ ความเสียวสะท้านก็ก่อตัวขึ้นอีกระลอกใหญ่ ในวินาทีนี้ เธอต้องการเขาอีกแล้ว
สะโพกแกร่งตอกตรึงเธอไว้ใต้ร่าง ทั้งแรงและรัวเร็วจนคะนึงรักแทบจะจมหายไปกับฟูก เสียวเสียจนหูอื้อตาลาย หนุ่มน้อยที่มากับความอ่อนโยน นุ่มฟูเมื่อแรกพบอันตรธานไปสิ้น เหลือเพียงชายหนุ่มที่ชอบมีเซ็กซ์แบบดิบๆ และพร้อมจะทำให้คู่นอนของเขาลอยละล่องไปถึงสวรรค์ในทุกรูปแบบ
เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องที่จะเหนียมอาย เซ็กซ์เป็นเรื่องที่ควรจะเปิดใจต่อกันมากที่สุด
เขาจับขาเธอกดแนบกับทรวงอก ก่อนจะกระแทกความเป็นชายเข้าหาซ้ำๆ อีกหลายครั้ง แล้วเอ่ยถามเสียงพร่าสั่น
“แบบนี้เสียวกว่าไหม”
“เสียวมาก แต่รู้สึก...แปลกๆ เหมือนปวดฉี่ด้วย” เธอตอบไปตามตรง
“เขาเรียกว่าน้ำ...” เขาก้มลงมากระซิบข้างหูเหมือนสอน
คำพูดตรงๆ ติดจะหยาบโลนนิดๆ ทำเอาคะนึงรักเสียววูบมากขึ้นที่ท้องน้อย อย่างนี้สินะ หลายคนถึงชอบใช้ภาษาดิบๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับเซ็กซ์ของตนเอง
“อย่าฝืนนะ ปล่อยออกมาได้เลย ผมโอเค”
เขากระแทกแก่นกายเข้าหาเธอซ้ำๆ ผลักดันเธอให้ลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะคว้าดาวบนท้องฟ้ามาครอบครองได้ วินาทีที่เอื้อมไปแตะดวงดาวได้นั้น ดวงดาวก็แตกกระจายกลายเป็นเกล็ดดาวนับร้อยนับพัน ทำเอาเธอสั่นสะท้านจนต้องผวากอดผู้ชายตรงหน้าไว้แนบแน่น
น้ำรักไหลลงมาตามต้นขาจนถึงข้อพับพร้อมๆ กับที่ร่างบางกระตุกเกร็งด้วยความสุขสมเป็นรอบที่สอง
ชายหนุ่มครางแหบต่ำ บดเบียดที่จุดสอดประสานรัวเร็ว ก่อนจะเกร็งไปทั้งตัวเมื่อตามเธอไปยังจุดเดียวกัน
คะนึงรักทิ้งตัวลงกับฟูก หมดพลังชีวิตมากมายไปกับความซ่านเสียวจากเซ็กซ์ครั้งแรกในชีวิต คิดว่าหนุ่มน้อยสุดหื่นของเธอจะทิ้งตัวตามมานอนข้างกัน แต่เขากลับหยัดตัวขึ้นนั่ง ถอดถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วออกทิ้งลงถังขยะ แล้วหันมาถามด้วยหน้าตาใสซื่อแต่น้ำเสียงคาดหวัง
“ผมขอต่อรอบสองได้ไหม”
หญิงสาวเงยหน้ามองเขา แววตาเขาไม่ได้ล้อเล่นสักนิด
เอาวะ เกิดมาครั้งเดียว จะเสียวอีกสักครั้งก็คงไม่ผิดอะไร เมื่อตัดสินใจได้แล้วเธอก็พยักหน้า
หนุ่มน้อยยิ้มให้ ก่อนจะหยิบซองถุงยางมาฉีกออก แล้วเริ่มบรรเลงบทเพลงรักร้อนๆ อีกครั้ง
คะนึงรักตื่นขึ้นจากเสียงสายน้ำกระทบผนังที่ดังมาจากในห้องน้ำ หญิงสาวรีบหันไปดูข้างกายซึ่งมีแต่ความว่างเปล่า ไร้เงาร่างสูงใหญ่ แต่ผิวกายเรียบลื่นที่เธอซุกซบอยู่ทั้งคืน เธอแอบอายนิดๆ เมื่อหนุ่มน้อยสุดฮอตคนนั้นตื่นก่อนเธอ เพราะไม่รู้ว่าเธอนอนหลับในท่าน่าอายบ้างหรือเปล่า แต่เมื่อมาทบทวนดูแล้ว ท่าทางน่าอายตอนเธอหลับคงเทียบไม่ได้กับสารพัดท่าที่เธอกับเขา ‘จัด’ กันมาเมื่อคืนเป็นแน่ประโยคแรกหลังจากตื่นนอนมาเจอหน้ากันในตอนเช้า หลังจากที่โรมรันกันทั้งคืนควรเป็นอะไรดีนะ แต่น่าจะไม่ใช่คำว่า ‘อรุณสวัสดิ์ ตื่นแล้วเหรอ’ หรือ ‘เมื่อคืนหลับสบายไหม’ แน่ๆเสียงน้ำกระทบผนังเงียบลง จากนั้นคนในห้องน้ำจึงออกมา เขาใช้ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่พันท่อนล่างไว้ ส่วนผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอีกผืนหนึ่งเช็ดที่เรือนผมเปียกน้ำ เมื่อเขาเห็นว่าเธอตื่นแล้วก็ส่งยิ้มละลายใจมาทักทาย แถมยังเอ่ยประโยคที่เธอเพิ่งคิดว่าไม่เข้าท่าเสียเกือบครบ“ตื่นแล้วเหรอครับ เมื่อคืนหลับสบายไหม”ใครจะไปคิดว่าหนุ่มน้อยจะเอ่ยทักแบบนี้ คะนึงรักดึงผ้าห่มขึ้นปิดทรวงอก พยักหน้าน้อยๆ “ก็หลับสบายดี หลับเหมือนซ้อมตาย ไม่ได้หลับสนิทแบบนี้มานานแล้ว”“แสดงว่าคุณไม่ค่
เธอลืมตาขึ้นและเห็นใบหน้าขาวหล่อเหลาในระยะใกล้ หล่อจนเธอแทบจะขึ้นสวรรค์อีกรอบ ดวงตาคมกำลังจับจ้องเธออยู่ไม่วางตา มือหนาที่เคยทรมานเธอลูบไล้เพียงแผ่วเบาบ้าจริง! เธอเสร็จสมกับปลายนิ้วที่เขาเล้าโลม ทั้งที่เขายังไม่ได้สอดใส่เข้ามาสักนิด และเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่นชายหนุ่มเปิดผ้าห่มออก แววตาทอประกายร้อนแรงเมื่อเห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอใต้ผ้าห่ม รวมถึงของเหลวเหนียวใสที่เปรอะเปื้อนที่ต้นขาด้านใน“พี่ว่าพี่ต้องไปอาบน้ำแล้วละ”“ได้ ผมอาบให้ละกันนะ”“หวังอะไรหรือเปล่า”“มาขนาดนี้แล้ว ถ้าตอนนี้ไม่ได้ไปต่อ โลกไม่สงบสุขแน่นอน”ชายหนุ่มพูดจบก็ช้อนตัวเธอขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วจนคะนึงรักต้องโอบรอบคอเขาไว้โดยอัตโนมัติ จากนั้นเขาก็ก้าวยาวๆ ไปที่ห้องน้ำพิมรดาตักไข่ดาวและเบคอนกับผลไม้อีกสองสามชนิด ตั้งใจจะอวดแฟนหนุ่มอีกสักรอบให้คะนึงรักหน้าหงาย หญิงสาวรู้ดีว่าจุดอ่อนเพียงเรื่องเดียวของคู่ปรับคนนี้คือการไม่มีแฟน ถ้าเธอโจมตีจุดอ่อนนี้บ่อยๆ ก็น่าจะทำให้คนมั่นใจเกินร้อยอย่างคะนึงรักเสียศูนย์ได้บ้าง ไม่แน่ว่าอาจกระทบใจจนกระทบถึงงานของอีกฝ่ายไม่มากก็น้อยแต่พอมาถึงโต๊
“ขออีกรอบนะครับ คุณน่าเอาสุดๆ”“เด็กบ้า ดูพูดจาเข้า ลามก”“เดี๋ยวคนลามกคนนี้จะเอาให้ร้องเลย”เขาจับขาเธอข้างหนึ่งยกขึ้นแล้ววางบนขอบอ่างอาบน้ำ เพื่อเปิดทางให้รุกล้ำง่ายขึ้น จับตัวตนมาจ่อและหมุนวนที่โพรงดอกไม้ ชโลมน้ำหวานเคลือบจนทั่วแล้วจึงดันท่อนลำเสยเข้าไปจนมิด“ยังเจ็บอยู่ไหมครับ”“เจ็บ แต่เสียวมากกว่า” หญิงสาวตอบตรงๆ“งั้นไปต่อนะ” เขาบอกเหมือนจะขออนุญาตก่อนจะขยับสะโพกช้าๆ แขนแกร่งโอบกระชับรอบเอวคอด ส่วนอีกข้างหนึ่งเลื่อนมาด้านหน้า ใช้นิ้วสากไล้วนที่ปุ่มกระสัน“อื้อ...” คะนึงรักเสียวจนตาพร่าเสียวทั้งติ่งเนื้อที่โดนขยี้ เสียวทั้งร่องหลืบที่ถูกฝากฝังรุนแรงและเมื่อชายหนุ่มตอกตรึงด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น เธอก็ครางไม่ได้ศัพท์ สอดประสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่รัวเร็วและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ใคร่เพียงพริบตา หญิงสาวก็เสร็จสมพร้อมๆ กับชายหนุ่มที่โอบกอดเธอไว้ทางด้านหลัง“ดีจังเลย เป็นเช้าที่ดีมากๆ คุณว่าไหม”“อืม”“ถ้าไม่ติดงาน อยากจะจัดอีกสักสองสามรอบ” เขาบ่นพึมพำคะนึงรักเงยหน้ามองเพดานตาลอย สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ รู้สึกเหมือนวิญญาณของตัวเองยังไม่กลับเข้าร่าง ต้องปล่อยให้คนตรงหน้าช่
“อึ้งไปเลยละสิน้องลี่ พี่ได้ยินมาว่าหมอวิณทร์คนนี้น่ะ เขาฮ็อตมากที่โรงพยาบาล คิวคนไข้สาวๆ งี้แน่นเชียว แถมพยาบาลยังแวะเวียนมาชื่นชมความหล่อของหมอวิณทร์แบบไม่ขาดสาย เรียกว่าตั้งแต่หมอวิณทร์มาประจำที่แผนกจิตเวชของโรงพยาบาลนรินทร์รัตน์เนี่ย คนแน่นตลอดเลย”“เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าปกติด้วยหรือเปล่าคะ คนเลยแน่น” คะนึงรักตั้งข้อสังเกตก่อนจะพูดต่อ “ว่าแต่...เมื่อกี้พี่แป้นบอกว่าโรงพยาบาลนรินทร์รัตน์ใช่มั้ยคะ”“ใช่จ้ะ”“ทำไมชื่อโรงพยาบาลเหมือนนามสกุลหมอล่ะคะ” ถามจบ หญิงสาวก็ชี้ที่ชื่อผู้บรรยายในแฟ้ม“ก็เจ้าของโรงพยาบาลคืออาจารย์หมอที่เป็นปู่ของคุณหมอวิณทร์ไง มีลูกมีหลานออกมา ก็เป็นหมอกันทั้งตระกูล เรียนเฉพาะทางกันไปตามที่ตัวเองถนัด เรียกว่าแทบจะครองทุกโรงพยาบาลเลยละ ลูกหลานก็มีหุ้นส่วนอยู่ในโรงพยาบาลของพ่อแม่และเครือญาติ มากน้อยต่างกันตามสายของตระกูล”จู่ๆ ปราณีก็หยุดอธิบายต่อ หันมามองที่เธอแล้วบอก“นี่พี่ตาฝาดหรือเปล่านะ เมื่อกี้พี่เห็นหมอวินทร์เขาเหมือนจะยิ้มให้ลี่แน่ะ”คะนึงรักสะดุ้งก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำจนใบหน้าแทบจะติดโต๊ะสัมมนา ยกแฟ้มขึ้นมาตั้งเพื่อไม่ให้คนที่ยืนอยู่บนโพเดียมมองเห
หญิงสาวตาเหลือก เหลือบมองรอบตัวลนลาน ละล่ำละลักบอก “ปล่อยก่อนค่ะ”“ทำไม จับแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอครับ ไม่ได้เพิ่งรู้จักกันซักหน่อย” ทีเมื่อเช้าเธอยังกำอย่างอื่นของเขาไว้เสียแน่น จับแค่ข้อมือแค่นี้ ทำไมต้องหวง ทีเขายังไม่หวงสักนิด“อย่าพูดเหมือนเราสนิทกันสิคะ ฉันเพิ่งเคยเจอคุณหมอครั้งแรกเมื่อเช้าหน้าห้องบรรยายเองค่ะ คงไม่กล้าตีสนิทถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้”“คุณไม่รู้จักผมมาก่อนการบรรยายครั้งนี้หรือครับ” เขาจงใจใช้เสียงอ้อนๆ เหมือนกับที่พูดกับเธอเมื่อคืน“ใช่ค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณหมอมาก่อน เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกตอนเช้านี้เลย”ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นครุ่นคิด “งั้นเหรอ เราไม่เคยพบกันมาก่อนเลยหรือ”“ไม่ค่ะ ไม่เคย”“คุณแน่ใจนะ” เขาถามพร้อมหยิบบัตรพนักงานขึ้นมาอ่านชื่อ “คุณคะนึงรัก”“แน่ใจค่ะ”วิณทร์วายุรวบร่างบางแล้วดันเข้าไปในช่องระหว่างพาร์ติชันหรือฉากกั้นสำหรับแบ่งห้องในโรงแรม ยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้เธอ“อย่านะคะ” เธอขู่ชายหนุ่มก้มลงจูบเธอเหมือนที่เพิ่งทำเมื่อเช้า ละเลียดที่กลีบปากอ่อนนุ่มทั้งบนและล่าง แต่ยั้งใจไม่ใช้ลิ้นอุ่นเกี่ยวกระหวัดมากนัก ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะลากเธอขึ้นไปบนห้องพักอีกรอบต
“จูบครั้งแรกที่ไหน” น้ำทิพย์อ่านคำถาม จากนั้นก็ยื่นถังโจรสลัดไปที่เป้าหมาย “หมอวิณทร์เสียบมีดเลยค่ะ”“ผมก่อนเลยเหรอ” วิณทร์วายุถามแต่ก็เสียบมีดโดยไม่รีรอ เจ้าโจรสลัดก็ยังนอนนิ่ง สร้างความผิดหวังให้สาวๆ หลายคน จากนั้นถังโจรสลัดถูกส่งมาเรื่อยๆ จนมาถึงเธอ คะนึงรักไม่ได้หวั่นใจอะไรแต่ทว่าคราวนี้ โจรสลัดหน้ามึนดันดีดตัวขึ้นมาเท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องของเพื่อนร่วมโต๊ะ“ลี่เอ๊ย รอดมาได้ตั้งนาน มาโดนคำถามเด็ดเลย” ปราณีปรบมือชอบใจคะนึงรักรู้ว่าคนถูกถามจะต้องตอบตามความจริงเท่านั้น ส่วนคนอื่นจะเป็นคนทาย ถ้าใครทายถูกจะมีสิทธิ์ออกคำสั่งกับเธอสามข้อ แต่เธอไม่คิดว่าจะมีใครในที่นี้ตอบถูกแล้วก็เป็นไปตามคาด แม้แต่ปราณีซึ่งถือว่าสนิทกับคะนึงรักมากที่สุดก็ยังทายไม่ถูก เพราะส่วนใหญ่จะคิดว่าจูบครั้งแรกของหญิงสาวน่าจะเกิดขึ้นสมัยเรียน เกือบทุกคนจึงทายว่าเป็นที่มหาลัย โรงเรียน สวนสนุก หรือแม้กระทั่งที่บ้าน ส่วนพิมรดาซึ่งรู้จักคะนึงรักมาตั้งแต่สมัยเรียนตอบอย่างมั่นใจว่าหญิงสาวไม่เคยมีจูบแรก“ไม่มีใครตอบถูกเลย ถือว่าพี่ลี่ชนะ เอ้า...ทุกคน ดื่มให้พี่ลี่หนึ่งแก้ว” น้ำทิพย์สรุป“เฉลยด้วยสิจ๊ะ” ปราณีทวง“ต้องเ
“มีเซ็กซ์ครั้งล่าสุดที่ไหน”โชคดีที่คราวนี้โจรสลัดไม่เล่นงานเธอ หญิงสาวผ่านไปได้อย่างฉิวเฉียด เหลือช่องให้เสียบอีกแค่สองช่อง ถ้าไม่ใช่อาณัติก็คงเป็นวิณทร์วายุนี่แหละ ที่ต้องตอบคำถามนี้และแล้วแจ๊กพ็อตก็ออกที่วิณทร์วายุจนได้ ทำเอาเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วบริเวณสาวๆ ต่างเดากันไปต่างๆ นานา สรรหาสถานที่ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้มาตอบ แต่ไม่มีใครทายถูกสักคน แม้แต่อาณัติเองก็ทายไม่ถูก“เหลือใครยังไม่ได้ทายอีกไหม เร็วๆ ถ้าทายถูก จะขอพรจากคุณหมอได้สามข้อเลยนะ”“หนูขอทายซ้ำได้มั้ย” น้ำทิพย์รีบยกมือ“ไม่ได้จ้ะ ทายแล้ว ห้ามทายอีก” ปราณีห้าม ทำเอาน้ำทิพย์ชักสีหน้าทันทีแม้คะนึงรักจะยังไม่ได้ทาย แต่เธอไม่อยากขอพรใดๆ จากจิตแพทย์หนุ่ม เพราะอยากอยู่ห่างจากเขามากที่สุด หญิงสาวจึงเลือกที่จะเงียบ ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น“คุณลี่ไงครับคุณแป้น ลี่ยังไม่ได้ทายเลย”“นั่นสินะ ลี่ยังไม่ได้ทายเลย” ปราณีเออออแล้วหันมาหา “ทายมาเร็วสิลี่ โอกาสสุดท้ายแล้ว”หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เซ็กซ์ครั้งล่าสุดของคุณหมอหนุ่มสุดหล่อจะเป็นที่ไหนได้อีก ถ้าไม่ใช่เมื่อเช้านี้ เธอพยายามนึกคำตอบให้ไกลตัวมากที่สุดก่อนจะโพล
ทะเลในยามค่ำคืนสวยแปลกตาแต่ก็ดูลึกลับน่ากลัว เหมือนชายหนุ่มตรงหน้าที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลแต่ก็ชวนหวั่นใจไปพร้อมกันคะนึงรักก้าวเรื่อยๆ ไปตามหาดทรายเคียงคู่กับวิณทร์วายุ แสงสีส้มจากโป๊ะไฟริมหาดส่องสว่างเป็นระยะๆ ทำให้ผืนทรายไม่น่ากลัวจนเกินไป เพราะที่นี่เป็นหาดส่วนตัวของรีสอร์ต มีระบบรักษาความปลอดภัยรัดกุม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากบุคคลภายนอก หรือถ้าจะอันตรายก็อันตรายจากคนภายในมากกว่า โดยเฉพาะคนที่เดินเรื่อยๆ อยู่ข้างเธอนี่แหละลมทะเลพัดโชยจนเรือนผมยาวสลวยปลิวมาเกะกะบริเวณกรอบหน้า หญิงสาวจึงใช้ยางรัดผมที่ข้อมือมารวบเอาไว้“ผู้หญิงชอบใส่ยางรัดผมไว้ที่ข้อมือเพราะอย่างนี้นี่เอง” จิตแพทย์หนุ่มชวนคุย“จริงๆ แล้วใช้เวลากินข้าวมากกว่าค่ะ โดยเฉพาะตอนไปกินหมูกระทะหรือบุฟเฟต์กับเพื่อนสาว แต่ก็ต้องดูแก๊งค์ด้วยว่าไปกับแก๊งค์ไหน เพราะบางคนก็สายกินจนท้องแตก แต่บางคนก็เป็นสายดื่มจนอ้วก”“แล้วคุณลี่ล่ะ สายไหน”“ลี่เดินทางสายกลางค่ะ ยึดหลักมัชฌิมาปฏิปทา จะได้ไปได้กับทุกกลุ่ม และไม่เคยอิ่มจนเดินไม่ไหวหรือเมาจนภาพตัดสักที” คนชอบทางสายกลางอวด“เป็นคนระวังตัวสินะ กลัวภาพลักษณ์เสีย” ชายหนุ่มเดายิ้มๆ ดันแ
ประตูห้องรักษาเปิดออก พร้อมกับร่างสูงกำยำของวิณทร์วายุที่ก้าวเข้าไปนั่งสบายๆ บนเก้าอี้โซฟาเดี่ยว ส่วนที่โต๊ะทำงานซึ่งห่างออกไป มีหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกำลังจัดแฟ้มงานบนโต๊ะอยู่พินทุอรเป็นนักศึกษาแพทย์รุ่นเดียวกับเขา ไปเป็นอินเทิร์นหรือแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่เธอเลือกเรียนต่อเฉพาะทางเลย จึงเข้าเป็นเรสซิเดนท์ก่อน ต่างกับเขาซึ่งทำงานอยู่ระยะหนึ่งก่อนเพื่อค้นหาตัวตนให้แน่ใจแล้วค่อยต่อเฉพาะทาง ทำให้หญิงสาวกลายเป็นจิตแพทย์รุ่นพี่“ขอปรึกษาหมออิงหน่อย เรื่องด่วน”เมื่อจิตแพทย์สาวเห็นว่าเป็นใครก็ถามเสียงเนือย “นัดล่วงหน้ามาหรือเปล่าคะ ไม่รู้หรือคะว่าจิตแพทย์ที่นี่ไม่รับนัดวอล์กอินนะ”“กำลังจะทำนัดอยู่นี่ไง นัดกับหมอนี่แหละ นัดเลย คุยเลย อย่าลีลา” ชายหนุ่มหยิบหมอนอิงบนเก้าอี้มากอด เอนหลังในท่าที่สบายขึ้น“ไปหาหมอคนอื่น ฉันไม่รับ”“เดี๋ยวเลี้ยงข้าวที่แคนทีน”“ไม่ว่าง แกไปหาหมอน็อตสิ” พินทุอรหมายถึงจิตแพทย์รุ่งน้องอีกคนซึ่งจะมาตรวจที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละครั้ง“ไม่เอา อายไอ้น็อตมัน”“แล้วกับฉันไม่อายเหรอไอ้วิณทร์ ฉันเป็นหมอสาวแสนสวยนะ”“ไม่อาย แกนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าไอ้น็อตอีก
“คุณเปิดไฟทำไม”“ผมปลอมตัวเป็นหิ่งห้อย เปล่งแสงหาคู่ไง”คะนึงรักหลุดขำออกมานิดหนึ่ง แสงนวลจากดวงไฟดวงเล็กส่งให้ใบหน้าสวยหวานดูผุดผ่องเรืองรอง รอยยิ้มน้อยๆ จากริมฝีปากอิ่มทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบการที่เขาใจเต้นเมื่อตอนบ่ายวันก่อนที่ได้จูบคะนึงรักนั้น วิณทร์วายุไม่แปลกใจหรือเอะใจเลยสักนิด เขาคิดว่ามันคือความตื่นเต้น เพราะใจคิดไปถึงเรื่องหวานๆ หื่นๆ ครั้งก่อนและกำลังดีใจที่มันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งก็เหมือนตอนที่เขากำลังจะลากผู้หญิงฮ็อตๆ สักคนขึ้นเตียงนั่นแหละ ทั้งหวั่นไหวและคาดหวังถึงเซ็กซ์ที่เผ็ดร้อน หัวใจเขาจึงเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่แต่การที่เขากำลังใจเต้นอยู่ตอนนี้นี่สิ...แปลก เพราะเขายังไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดหญิงสาวแม้แต่น้อย“ผู้ชายอย่างคุณหมอวิณทร์ ไม่ต้องเปล่งแสงหรอก แค่มองแล้วยิ้ม ก็เรียกผู้หญิงเข้าไปหาได้นับสิบๆ คนแล้วมั้ง แทบจะไม่ต้องพยายามเลยด้วยซ้ำ”“คุณก็พูดเกินไป”“ลี่พูดในสิ่งที่คุณเองรู้อยู่แล้วนั่นแหละ”คะนึงรักกดปิดไฟฉาย จากนั้นยื่นผ้าห่มผืนบางขนาดย่อมมาให้ “อากาศไม่หนาว แต่ก็มีลม มีน้ำค้าง แม่ลี่บอกว่าคนกรุงเทพฯ อย่างคุณน่าจะกระหม่อมบาง เดี๋ยวจะไม่สบาย”“คุณห่มเถอะ
เพชรพร้อมมองชายหนุ่มหน้าขาวใสประหนึ่งโบกบีบีครีมครึ่งหลอดบนใบหน้า กำลังมองตามร่างบางของคะนึงรักไป ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มน้อยๆ ดวงตาเรียวรีทอประกายเจิดจ้า“คุณมีอะไรในใจกับน้องผมหรือเปล่า”“มีอะไรนะครับ...”“มีอะไรในใจ” เพชรพร้อมย้ำ“ผม...” อีกฝ่ายกะพริบตาช้าๆ สามสี่ที ดูดน้ำมะพร้าวอีกอึกใหญ่ ก่อนจะบอกตรง “ไม่แน่ใจ ไม่รู้สิครับ”“ถ้าไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ ก็อย่ามองแบบนั้น”“เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ด้วยเหรอครับ ตอนนี้ผมไม่รู้ ไม่แน่ใจ ผมก็ตอบตามตรงเท่านั้นเอง”“ผมมีน้องสาวคนเดียว ทั้งรักทั้งหวง ถ้าคุณมาหลอกน้องสาวผม รับรองว่าผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ผมจะอัดคุณให้จมดินเลย” หนุ่มร่างยักษ์พูดพลางหยิบท่อนไม้ขนาดเกือบเท่าแขนเด็กมาหักเล่นชายหนุ่มหน้าขาวยิ้มอ่อนโยน ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูอ่อนเยาว์ “คุณจะต่อยผมก็ได้ แต่ก่อนจะมีวันนั้น ผมต้องบอกคุณเสียก่อนว่าตอนเด็กๆ ผมเคยได้เหรียญเงินเทควันโดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาก่อน ส่วนปัจจุบันนี้ ผมฝึกยูโดจนได้สายดำ และกีฬาที่โปรดปรานอีกอย่างก็คือมวยไทย”“ฝึกไปทำไมเยอะแยะ” เพชรพร้อมขมวดคิ้ว“เพราะผมหน้าอ่อนไงคุณ แถมยังผิวขาว ดูยังไงก็ไม่พ้นไอ้ไก่อ่อน แต่ผมดันหล
เช้าวันรุ่งขึ้น เจ็ดโมงเช้าไม่ขาดไม่เกิน วิณทร์วายุก็ลงมาที่โต๊ะอาหารซึ่งครอบครัวสาลี่โฮมสเตย์อยู่พร้อมหน้า อาหารเช้าในวันนี้เป็นโจ๊กหมูใส่ตับ ฝีมือของคุณนายรำพึง ส่วนปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้นั้น พฤกษ์ซื้อมาจากตลาดเช้าของหมู่บ้านหลังจากกินอาหารเช้าและพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว คะนึงรักก็นำจิตแพทย์หนุ่มไปยังท่าน้ำเพื่อเดินทางไปสวนมะพร้าว“ลี่จะพายเรือไปเองเหรอ”“พี่เพชรจะมารับเราตอนเก้าโมง” หญิงสาวตอบ“พี่เพชร?”“ลูกพี่ลูกน้องของลี่เอง พี่เพชรเป็นลูกชายลุง พี่ชายแท้ๆ ของแม่ค่ะ นั่นไง พี่เพชรมารอแล้ว” ประโยคสุดท้ายเธอพูดพร้อมชี้ไปทางท่าน้ำซึ่งมีเรือลำเล็กลอยลำรออยู่ภายในเรือลำน้อยมีชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่น ผิวสีแทนค่อนไปทางคล้ำ ผมยาวระต้นคอ แถมยังไม่ค่อยชอบโกนหนวดโกนเครา ทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูเหมือนพวกโจรป่าที่ชอบมาดักปล้นพรหมจรรย์นางเอก“สวัสดีพี่เพชรย้อม” คะนึงรักทักทายด้วยชื่อแปร่งหูที่มีแต่เธอเท่านั้นเป็นคนเรียก แม้กล้ามแขนที่โผล่พ้นเสื้อยืดย้วยๆ สีเทาของเพชรพร้อมน่าจะหักคอเธอได้ด้วยมือเปล่า แต่หญิงสาวไม่เคยนึกกลัวเพชรพร้อมลุกขึ้นยืนเท้าเอว เอียงคอมองเหมือนพร้อมมีเรื่อง“มาถึง
เสียงเคาะประตูหน้าห้องของคะนึงรักดังขึ้นราวสามทุ่ม หญิงสาวสวมชุดนอนตัวเก่งเดินมาเปิดประตู แล้วก็เห็นพ่อกับแม่แต่งตัวเต็มยศเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก คืนนี้คุณนายรำพึงยิ่งสวยกว่าปกติ เพราะนางม้วนผมเป็นลอนสวย แถมยังตีโป่งตั้งกระบังแบบมองเห็นได้จากหน้าเวทีลิเกเลยทีเดียว“แม่กับพ่อจะออกไปดูลิเก ตอนแรกเห็นว่ามีแขกวีไอพีมาพัก เลยตัดใจแล้ว โชคดีที่ลี่กลับมาพอดี ช่างเป็นอภิชาตบุตรของแม่เหลือเกิน”คะนึงรักมองบิดา “พระเอกคนนี้ที่แม่ตามคล้องพวงมาลัยใช่ไหมพ่อ”“ใช่ พ่อเลยต้องตามไปด้วย กลัวกลับดึกแล้วจะอันตราย” คนเป็นพ่อตอบ“ไม่ใช่ตามไปคุมเหรอ ขี้หึง” คุณนายรำพึงหลิ่วตาพฤกษ์นิ่วหน้า “ใครหึง ไม่มี้”หญิงสาวอมยิ้ม เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พ่อเธอก็ยังรักยังหลงแม่เธอไม่เคยเปลี่ยน “ไปเถอะค่ะ เที่ยวให้สนุกนะ ไม่ต้องกังวล ลี่ดูแลแขกให้เอง แต่คิดว่าคุณวิณทร์เขาคงนอนแล้วแหละ”“ส่วนพรุ่งนี้เช้า ตามโปรแกรมของสาลี่โฮมสเตย์ หลังกินข้าวเช้าแล้ว แขกจะได้นั่งเรือเที่ยวสวนมะพร้าวตอนเก้าโมง แวะกินข้าวเที่ยงที่ตลาด แล้วกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัยที่บ้านตอนบ่าย” มารดาสาธยาย“บ้านเรามีสวนมะพร้าวที่ไหนกัน เห็นมีแต่พวกผลไม
“กลับมาแล้วเหรอลี่” เสียงของคุณนายรำพึงดังมาก่อนตัวคะนึงรักลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าว วิ่งเข้าไปสวมกอดมารดาโดยมีบิดาตามเข้ามาห่างๆ เมื่อกอดมารดาเสร็จก็โผไปกอดบิดาต่อสายตาของคุณนายรำพึงมองเลยไปเห็นคนตัวสูงนั่งหน้าแป้นอยู่ที่โต๊ะกินข้าวก็ตกใจ “ตายจริง มัวแต่ดีใจ ลืมไปเลยว่าวันนี้บ้านเรามีแขกวีไอพี”“เขาลงมาจากห้องแล้วเหรอ” พฤกษ์ถามแล้วหันไปมองตาม“ลงมาตั้งนานแล้วแม่ เปี๊ยกไม่ได้บอกเหรอ”“ไม่ได้บอกน่ะสิ บอกแค่ลี่ให้มาตาม ไอ้เด็กคนนี้ ใช้ไม่ได้เลย” บิดาบ่นคุณนายรำพึงกุลีกุจอเข้าไปหาแขกคนสำคัญ “ขอโทษทีนะพ่อคุณ เบื่อแย่เลย”“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมนั่งคุยเล่นกับคุณลี่เพลินๆ ชวนกันทำโน่นทำนี่ ไม่เบื่อครับ”เห็นสายตาที่มีคำถามของมารดาแล้ว คะนึงรักจึงรีบอธิบาย “โลกกลมมากแม่ คุณวิณทร์เป็นเพื่อนสนิทของบอสลี่เอง เราสองคนรู้จักกันมาก่อน”“สนิทกันด้วยครับ” วิณทร์วายุเสริม“จริงเหรอ” คุณนายรำพึงถาม“จริงครับแม่”คะนึงรักส่งสายตาดุๆ ไปให้ ‘ลูก’ ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้น อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเธอไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ใจไม่กล้าพอเพราะกลัวคำตอบของจิตแพทย์หนุ่ม ก็ถ้าเกิดเขาโพล่งออกไปว่าเธอกับเขาสนิทกัน
คะนึงรักสวมเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงขาสั้น นั่งเอายาดมตราโป๊ยเซียนของคุณนายรำพึงยัดรูจมูก นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาเสียท่าให้วิณทร์วายุตอนกลางวันแสกๆ ในห้องซึ่งเคยเป็นนอนของตัวเองหลังจากที่หญิงสาวลากกระเป๋าแผ่นแน่บอกมาจากห้องเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะจับเธอกินอีกเป็นครั้งที่สอง เธอก็เจอเปี๊ยกและได้รู้ว่าตอนนี้บ้านของเธอกลายเป็น ‘สาลี่โฮมสเตย์’ และห้องนอนกลายเป็นห้องพักแขกไปเรียบร้อยแล้ว เธอจึงต้องย้ายขึ้นไปนอนที่ห้องใต้หลังคา แถมวิณทร์วายุยังกลายเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักแห่งนี้เสียอีกนี่โลกกลมหรือพรหมลิขิตกันนะตอนนี้ทั้งคู่ลงมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในฐานะของแขกกับลูกสาวเจ้าของที่พัก“ให้ผมออกไปตามลุงกับป้าที่อยู่ในสวนให้มั้ยครับพี่ รับรองไม่เกินสิบห้านาที” เปี๊ยกถามเมื่อเห็นแขกวีไอพีนั่งจิบน้ำมะตูมที่เริ่มละลายอยู่ที่โต๊ะรับแขก“ไม่เป็นไรเปี๊ยก พี่ลี่ของเปี๊ยกดูแลฉันได้”‘พี่ลี่’ ค้อนขวับแต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร ทำเพียงหันไปสั่งเด็กชายวัยรุ่น “ไปบอกหน่อยก็ดี เผื่อแขกต้องการอะไรแล้วพี่หาให้ไม่ได้”“ได้เลยพี่ลี่” รับคำเสร็จ เปี๊ยกก็วิ่งปรู๊ดหายไป“คุณใส่แว่นแบบนี้แปลกตาดีนะ น่ารักไปอีกแบบ” วิณทร์วายุบ
หญิงสาวแหงนใบหน้าไปด้านหลังยามที่กระตุ้นเร้าลึกซึ้ง เธอร้องครวญครางจนลืมอายเมื่อคลื่นความหฤหรรษ์ก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและกำลังจะแตกกระจายในไม่ช้า“คุณวิณทร์...” เธอเรียกเขาเสียงหวานเพื่อร้องขออะไรบางอย่างที่มีแต่เขาที่ให้ได้“รู้แล้วคนเก่ง” เขากระซิบตอบ พร้อมกระแทกนิ้วแข็งตอกย้ำเร็วๆ หลายครั้งคะนึงรักกระตุกเกร็ง สมองหมุนคว้าง ล่องลอยอยู่ในห้วงความสุขสม กึ่งกลายกายเต้นตุบๆ และตอดรัดนิ้วของวิณทร์วายุอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาถอดถอนออกไปแล้วนั่นละ หญิงสาวจึงเห็นว่าทั้งต้นขาและพื้นห้องเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรักของเธอ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำความสะอาดได้” เขาพูดเหมือนปลอบราวกับล่วงรู้ถึงสิ่งที่เธอกังวล“น่าอายจัง”“ไม่น่าอาย เดี๋ยวดูผมนะ ผมจะทำเลอะให้เต็มตัวคุณเลย” พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นแล้วก้าวไปที่เตียงวิณทร์วายุวางเธอบนเตียงกว้าง ถอดกางเกงอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ก้าวขึ้นมาทาบทับ ใช้แก่นกายแข็งขึงร้อนฉ่าเบียดกับความเป็นหญิงของเธอเหมือนจงใจ ชายหนุ่มก้มลงจูบเธออีกครั้ง ขบเม้มริมฝีปากและดูดดึงลิ้นเธออย่างเร่าร้อน มือหนากดส่วนปลายซึ่งตอนนี้มีน้ำใสๆ เคลือบอยู่หมุนวนที่ติ่งเนื้อบวมเบ่งจากการเสร็จสมใน
“เฮ้ย!”“กรี๊ด...”วิณทร์วายุรวบร่างบางเปลือยเปล่าเข้ามากอด ใช้เรือนกายของตนเองบังไว้ ยกมือขึ้นปิดปากเธอเสียแน่นพร้อมบอก“อย่าร้องสิคุณ เดี๋ยวใครจะนึกว่าคุณโดนผมปล้ำ”ได้ยินคำว่า ‘ปล้ำ’ หญิงสาวก็เริ่มดิ้นรนให้หลุดออกจากอ้อมกอด และนั่นยิ่งทำให้ร่างกายกึ่งเปลือยของทั้งคู่เสียดสีกันอย่างช่วยไม่ได้ หน้าอกอวบอิ่มเบียดอัดกับแผงอกและหน้าท้องเขา ไหนจะเนื้อตัวนุ่มนิ่มที่กำลังขยับไปมาที่กึ่งกลางกายอีกต่างหากนี่เจ้าหล่อนแค้นอะไรนักหนา ตั้งใจจะฆ่ากันให้ตายวันนี้เลยใช่ไหมชายหนุ่มหายใจสะดุด พยายามควบคุมสถานการณ์โดยรวบตัวเธอไว้แน่นขึ้น ไม่รู้ว่าจับอะไรไปบ้าง ขอแค่แม่เจ้าประคุณหยุดดิ้นแบบนี้ก่อน“คุณลี่ หยุดดิ้นก่อน คือผม...”“คุณจับก้นลี่” เธอโวยวายทั้งที่ยังโดนมือเขาปิดปากวิณทร์วายุสะดุ้งเล็กน้อยก่อนเลื่อนมือขึ้นจากบั้นท้ายมาจับไว้ที่แผ่นหลัง นั่นกลับเหมือนเขาใช้ฝ่ามือลากไล้ไปตามเนื้อตัวเธอ ผิวเนื้อนวลเนียนที่ได้สัมผัสทำให้ชายหนุ่มอดนึกถึงคืนนั้นของเขากับเธอไม่ได้ เขาลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ก่อนบอกเสียงแหบพร่า“ฟังนะ ถ้าผมปล่อย คุณห้ามร้องโวยวายเด็ดขาด”“อืม”“สัญญานะ”คะนึงรักพยักหน้า ชายหนุ่