ทะเลในยามค่ำคืนสวยแปลกตาแต่ก็ดูลึกลับน่ากลัว เหมือนชายหนุ่มตรงหน้าที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลแต่ก็ชวนหวั่นใจไปพร้อมกันคะนึงรักก้าวเรื่อยๆ ไปตามหาดทรายเคียงคู่กับวิณทร์วายุ แสงสีส้มจากโป๊ะไฟริมหาดส่องสว่างเป็นระยะๆ ทำให้ผืนทรายไม่น่ากลัวจนเกินไป เพราะที่นี่เป็นหาดส่วนตัวของรีสอร์ต มีระบบรักษาความปลอดภัยรัดกุม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากบุคคลภายนอก หรือถ้าจะอันตรายก็อันตรายจากคนภายในมากกว่า โดยเฉพาะคนที่เดินเรื่อยๆ อยู่ข้างเธอนี่แหละลมทะเลพัดโชยจนเรือนผมยาวสลวยปลิวมาเกะกะบริเวณกรอบหน้า หญิงสาวจึงใช้ยางรัดผมที่ข้อมือมารวบเอาไว้“ผู้หญิงชอบใส่ยางรัดผมไว้ที่ข้อมือเพราะอย่างนี้นี่เอง” จิตแพทย์หนุ่มชวนคุย“จริงๆ แล้วใช้เวลากินข้าวมากกว่าค่ะ โดยเฉพาะตอนไปกินหมูกระทะหรือบุฟเฟต์กับเพื่อนสาว แต่ก็ต้องดูแก๊งค์ด้วยว่าไปกับแก๊งค์ไหน เพราะบางคนก็สายกินจนท้องแตก แต่บางคนก็เป็นสายดื่มจนอ้วก”“แล้วคุณลี่ล่ะ สายไหน”“ลี่เดินทางสายกลางค่ะ ยึดหลักมัชฌิมาปฏิปทา จะได้ไปได้กับทุกกลุ่ม และไม่เคยอิ่มจนเดินไม่ไหวหรือเมาจนภาพตัดสักที” คนชอบทางสายกลางอวด“เป็นคนระวังตัวสินะ กลัวภาพลักษณ์เสีย” ชายหนุ่มเดายิ้มๆ ดันแ
วิณทร์วายุเดินมาส่งเธอถึงหน้าห้อง แต่เมื่อหญิงสาวโบกมือลาจะเข้าไปด้านใน เขาก็รั้งเธอไว้ด้วยสายตาเว้าวอน จากนั้นก็จับมือเธอแล้วจูงกึ่งลากไปที่ห้องของเขาซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนักแทน“จะไปไหนคะ”“ห้องผมไง ห้องคุณถุงยางหมดแล้ว” เขาตอบตามตรงแบบไม่มีกั๊ก“ไม่ได้ค่ะ เราสองคนจะทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้วนะคะคุณหมอ”“ทำไมจะไม่ได้ เมื่อเช้ายังได้อยู่เลย ถือว่าผมขอพรข้อที่เหลือได้มั้ย ไปห้องผมนะลี่”“แต่พรของจินนี่ บอสก็กำชับแล้วว่าจะต้องอยู่ในวิสัยที่ทำได้” หญิงสาวค้าน“ช่างหัวพรของไอ้บอสนั่นเถอะ พรของผมไม่ใช่แค่ขอพรแบบนั้นสักหน่อย ผมหมายถึงพรอีกอย่างต่างหาก พรที่สะกดเป็นภาษาอังกฤษว่า porn น่ะ คุณรู้จักไหม”คะนึงรักค้อนขวับ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่า porn หมายถึงหนังโป๊หญิงสาวหรี่ตาลงอย่างมีเลศนัย “สรุปว่าพรข้อที่สามของคุณ ก็คือขอให้ลี่ไปที่ห้องคุณใช่ไหม”“นะครับ” เขาอ้อน“ก็ได้ค่ะ”จิตแพทย์หนุ่มยิ้มกว้าง จูงมือเธอเดินกลับไปที่ห้องพัก หญิงสาวยอมตามเข้าไปให้ห้อง ยอมให้เขาประทับจูบร้อนรุ่มจนตัวเธอแทบละลายไปกับรสจูบเย้ายวนนั้นรสจูบที่ผสมผสานระหว่างความหวานของลูกอมรสมิ้นต์หลังมื้ออาหาร กับความขมปร่าแปร่งของเบียร์
อาณัติถอนใจหนักๆ แต่ก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ บอสหนุ่มหันมาทางเธอแล้วพูดเสียงขรึม “ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะคุณลี่ ที่มันเสียมารยาท คุณคงรู้จักเพื่อนผมแล้ว ผมคงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก”“ค่ะ คุณหมอวินเป็นจิตแพทย์ที่ให้เกียรติมาบรรยายเกี่ยวกับความรักในงานสัมมนาเมื่อวานนี้” หญิงสาวตอบเลี่ยงให้ไกลตัวมากที่สุดวิณทร์วายุฉีกยิ้ม “พูดเสียเหินห่างเลยนะครับ ลืมแล้วหรือคุณลี่ คุณเป็นจินนี่ของผมด้วยไง พรสามข้อ ถือว่าเราสนิทกันในระดับนึงนะ”คะนึงรักลอบค้อน ก็เขาขอพรไปครบแล้ว เธอไม่มีอะไรติดค้างกับเขาแล้วสักหน่อย ยังจะมาจินน่งจินนี่อยู่ได้ บ้าบอที่สุดเลยอาณัติผู้เคร่งขรึมเอ่ยเสริม “นอกจากหมอวิณทร์จะให้เกียรติมาบรรยายให้พวกเราฟังแล้ว เขายังเป็นหุ้นส่วนของเลิฟ เลิฟ การ์เดนด้วยนะ ถือหุ้นอยู่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้หรอก เพราะเขาแทบไม่เคยเข้ามาที่เลิฟ เลิฟ การ์เดนเลย”หญิงสาวสบตากับชายหนุ่มที่กำลังส่งรอยยิ้มนุบนิบใสซื่อมาให้ เธอยืนตัวแข็ง รู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังจะออกจากร่าง แต่จำต้องฉีกยิ้มโง่ๆ ให้เขาบอส...เจ้านายคนที่สองของเธอสินะ“แหม บอสใหญ่อยากให้ฉันเข้าบริษัทบ่อยๆ ก็ไม่บอกล่ะ งั้นหล
“คนไข้คนสุดท้ายแล้วค่ะหมอวิณทร์ วันนี้ไม่มีนัดแล้ว” จอมใจพยาบาลประจำห้องตรวจของวิณทร์วายุทักขึ้นเมื่อเห็นว่าจิตแพทย์หนุ่มยังคงนั่งอยู่หลังโต๊ะตรวจประจำของตน“อ้าวเหรอ” เขาเงยหน้ามองนาฬิกาติดผนัง “ห้าโมงเองเหรอเนี่ย ทำไมคนไข้หมดแล้วละ”“ก็คุณหมอเล่นตรวจโดยแทบจะไม่พักเลยนี่คะ ช่วงเที่ยงก็พักแค่ไปฉี่แป๊บเดียว”“เหรอ หมอทำแบบนั้นเหรอ”“ทำแบบนี้มาเกือบเดือนแล้วค่ะ” จอมใจบอกเกือบเดือนหรือ...อันที่จริงก็เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่เขากลับมาจากสัมมนาที่ทะเลในคราวนั้นพยาบาลสูงวัยเห็นเขาเงียบไปจึงเอ่ยถาม “แล้วนี่คุณหมอจะให้สั่งข้าวไปนั่งกินในห้องทำงานไหมคะ หรือจะกลับบ้านเลย”“หมอว่าหมอออกไปกินข้างนอกดีกว่า ขอบคุณมากครับพี่จอม”“พี่ว่าช่วงนี้คุณหมอแปลกๆ ไปนะคะ ไม่สบายหรือเปล่า ลองไปหาหมอหน่อยไหมคะ” จอมใจแนะนำ“หมอก็เป็นหมอนะ”“พี่รู้ค่ะ แต่ลองให้คุณหมอคนอื่นตรวจดูบ้างก็ดีนะคะ เผื่อๆ ไว้”“ได้ครับ หมอจะลองปรึกษาเพื่อนๆ ดู”จอมใจส่งยิ้มให้กำลังใจ ก่อนจะออกจากห้องตรวจไปทำงานอย่างอื่นต่อ ปล่อยเขาไว้ตามลำพังวิณทร์วายุยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความเหนื่อยอ่อน จะว่าไปหลังจากกลับมาจากสัมมนา ชายหนุ่มรู้สึกว่าตั
ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงห้าวทุ้มของใครบางคนก็ดังขึ้นด้านหลัง“เสร็จไปอีกงานแล้วนะครับคุณลี่”คะนึงรักหันไปตามเสียง แล้วก็พบกับหนุ่มใหญ่ ใบหน้าเคร่งขรึมทว่าแฝงความใจดีและอ่อนโยนอัคนีเป็นรองผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแห่งนี้ซึ่งคะนึงรักติดต่อด้วยตลอดการทำงาน และชายหนุ่มก็คอยช่วยเหลือทุกอย่างเป็นอย่างดี งานแต่งงานทุกงานที่จัดขึ้นที่โรงแรมหรูหราแห่งนี้จึงมักราบรื่นเสมอ“ต้องขอบคุณคุณนั่นแหละค่ะ คุณช่วยเหลือลี่มาตั้งหลายครั้ง งานของลี่ราบรื่นทุกครั้งก็เพราะคุณอัคนี”แม้ชื่อของหนุ่มใหญ่จะหมายถึงไฟ แต่คะนึงรักคิดว่าเขาเหมือนน้ำมากกว่า เป็นสายน้ำที่สดชื่น ฉ่ำเย็น และเป็นมิตร“ถ้าอยากขอบคุณผมจริงๆ วันนี้คุณลี่กินข้าวเย็นเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ กินคนเดียวทุกวันเบื่อมาก ห้องอาหารของโรงแรมก็ซ้ำ แต่จะทำยังไงได้ ผมออกไปกินที่อื่นในเวลางานไม่ได้จริงๆ”จริงๆ แล้วหญิงสาวตั้งใจจะปฏิเสธเพราะห้องอาหารของโรงแรมที่หนุ่มใหญ่หมายถึงก็คือห้องอาหารที่วิณทร์วายุเพิ่งเดินเข้าไป เธอไม่อยากเข้าไปใช้อากาศหายใจร่วมกับจิตแพทย์หนุ่มคนนั้นกับผู้หญิงของเขา แต่เมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างเป็นมิตรของอัคนี
บ้าไปแล้ว...เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คะนึงรักกล้าดียังไงไปเชียร์ให้เขาไป ‘ได้’ กับใครสักคน เธออยาก ‘ได้’ เขาเองต่างหาก แรดได้ใจจริงๆคะนึงรักโยนโทรศัพท์ที่เพิ่งคุยเสร็จส่งๆ ไว้ที่เบาะข้างคนขับ จ้องมองมันอีกครั้ง พลางตัดสินใจ หรือว่าเธอจะโทร.กลับไปหาเขาแล้วบอกว่า...เธอเปลี่ยนใจแล้ว อยากจะไปส่องเครื่องชงกาแฟที่คอนโดฯ เขา เผื่อว่าจะได้ชงกาแฟกันถึงเช้า ชงกาแฟกันให้หมดแรงกันไปข้างนึงในยามที่ร่างแกร่งกำยำควบขับอยู่บนร่างของเธอ ช่างเป็นช่วงเวลาที่สุขสมเกินจะบรรยาย และเธอไม่ติดเลยที่จะเกิดช่วงเวลาหวามๆ เสียวๆ แบบนั้นกับคุณหมอหนุ่มหน้าเด็กคนนั้นอีกสักครั้งหรือสองครั้ง ถ้าไม่กลัวว่าจะดูแรดจนเกินไป เธออยากจะผูกปิ่นโตกับเขาให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียด้วยซ้ำ ขอแค่สัปดาห์ละสองครั้ง คงยืดอายุเธอให้ยืนยาวออกไปได้อีกสักร้อยปีเป็นแน่บ้าจริง นี่เธอกลายเป็นผู้หญิงคลั่งเซ็กซ์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่แต่จู่ๆ ภาพของหญิงสาวดูดี เรียบร้อยและน่ารักซึ่งควงคู่มาดินเนอร์กับเขาก็ทำให้คะนึงรักได้สติ ไม่ว่าจะมองมุมไหน สองคนนั้นก็ไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาแน่นอนไม่ว่าจะแรดอย่างไร...คนเราไม่ควรยุ่งกับผู้ชายของคนอื่นคะนึงรักถอนใจหน
คะนึงรักกะพริบตาอยู่หลายครั้งตอนที่เห็นผู้หญิงสาวสวยคนเดียวกับที่วิณทร์วายุควงไปที่โรงแรมริมน้ำเมื่อหลายคืนก่อนก้าวเข้ามาในเลิฟ เลิฟ การ์เดนผู้หญิงคนที่ทำให้เธอตัดสินใจไม่ไปดูเครื่องชงกาแฟที่คอนโดฯ วิณทร์วายุนั่นแหละ“เลิฟ เลิฟ การ์เดนยินดีต้อนรับค่ะ มองหาแพ็กเกจแต่งงานดีๆ อยู่รึเปล่าคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”เวดดิงแพลนเนอร์สาวก้าวออกไปต้อนรับตามหน้าที่ เชิญให้เธอนั่งบริเวณโถงต้อนรับสีชมพูอ่อนของเลิฟ เลิฟ การ์เดน เมื่อลูกค้าคนใหม่นั่งเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยถาม“สนใจแพ็กเกจแต่งงานใช่ไหมคะ”“ก็...คงประมาณนั้นแหละค่ะ คือมิ้นต์ไม่ได้ตั้งใจมาเองหรอกนะคะ พี่วิณทร์แนะนำให้มาที่นี่”ได้ยินชื่อ ‘วิณทร์’ จากปากคนตรงหน้า คะนึงรักก็ชะงักไปเล็กน้อยเพราะจะมีวิณทร์ไหนได้อีก นอกจากวิณทร์ที่เพิ่งไปดินเนอร์กันมานั่นแหละ แถมยังแนะนำให้มาดูแพ็กเกจแต่งงานอีก หญิงสาวเดาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้โดยไม่ต้องสืบเลยสักนิด ยอมรับว่าใจหายหน่อยๆ“แล้วว่าที่เจ้าบ่าวไม่มาด้วยหรือคะ”“คะ? ว่าที่เจ้าบ่าว ต้องมีด้วยเหรอคะ ไม่ค่ะ ฉันหมายถึงต้องพามาด้วยเลยหรือคะ”คะนึงรักลอบถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ ที่วิณทร์วายุไม่ได้มาด้วย ไม่อย่
“แต่คุณมิ้นต์กำลัง...ทำความรู้จักกับหมอวิณทร์อยู่ไม่ใช่หรือคะ”“หมอวิณทร์?” ดวงตาของคนตรงหน้าว่างเปล่าราวกับลืมไปแล้วว่าวิณทร์วายุคือใคร“คุณวิณทร์วายุน่ะค่ะ คนที่แนะนำคุณมิ้นต์มาที่นี่” คะนึงรักเตือนความจำ“อ้อ...พี่วิณทร์ จริงๆ แล้วพี่วิณทร์ไม่ได้แนะนำให้มาที่นี่หรอกค่ะ มิ้นต์ก็หาข้ออ้างไปอย่างนั้นเอง อย่างที่บอกไปว่าเราไม่ได้สนิทกันมากมาย มิ้นต์ก็แค่ต้องออกไปเจอกันตามที่ผู้ใหญ่บอกน่ะค่ะ พี่วิณทร์เองก็คงลำบากใจกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แค่มองตาก็รู้แล้วว่าเราสองคนไม่มีวันสปาร์กกันแบบคู่รักได้แน่นอน”“ทำไมล่ะคะ” คะนึงรักถาม“คุณลี่คิดดูสิคะ อยู่ด้วยกันคงมีแต่คุยเรื่องคนไข้ จับมือก็ได้กลิ่นถุงมือยาง ถ้ากอดกันก็เจอเสื้อกาวน์อีก ถอดเสื้อออกก็ยังเจอกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มิ้นต์ทนไม่ไหวหรอกค่ะ มิ้นต์อยู่กับคนที่เป็นหมอมาตลอดทั้งวันแล้ว ถ้าแต่งกันไป กลับบ้านยังต้องเจอหมออีกเหรอคะ” นัธธิมาหยุดหายใจนิดหนึ่งก่อนจะพร่างพรูความคิดของเธอต่อ “คุณลี่รู้ไหมคะ มิ้นต์โตมาในโรงพยาบาล ธุรกิจครอบครัวของพี่เขาก็คือโรงพยาบาลเหมือนกับธุรกิจครอบครัวของมิ้นต์อีก มีลูกมีหลานก็คงไม่พ้นต้องเป็นหมอ ชาตินี้มิ้นต์จ
ประตูห้องรักษาเปิดออก พร้อมกับร่างสูงกำยำของวิณทร์วายุที่ก้าวเข้าไปนั่งสบายๆ บนเก้าอี้โซฟาเดี่ยว ส่วนที่โต๊ะทำงานซึ่งห่างออกไป มีหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกำลังจัดแฟ้มงานบนโต๊ะอยู่พินทุอรเป็นนักศึกษาแพทย์รุ่นเดียวกับเขา ไปเป็นอินเทิร์นหรือแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่เธอเลือกเรียนต่อเฉพาะทางเลย จึงเข้าเป็นเรสซิเดนท์ก่อน ต่างกับเขาซึ่งทำงานอยู่ระยะหนึ่งก่อนเพื่อค้นหาตัวตนให้แน่ใจแล้วค่อยต่อเฉพาะทาง ทำให้หญิงสาวกลายเป็นจิตแพทย์รุ่นพี่“ขอปรึกษาหมออิงหน่อย เรื่องด่วน”เมื่อจิตแพทย์สาวเห็นว่าเป็นใครก็ถามเสียงเนือย “นัดล่วงหน้ามาหรือเปล่าคะ ไม่รู้หรือคะว่าจิตแพทย์ที่นี่ไม่รับนัดวอล์กอินนะ”“กำลังจะทำนัดอยู่นี่ไง นัดกับหมอนี่แหละ นัดเลย คุยเลย อย่าลีลา” ชายหนุ่มหยิบหมอนอิงบนเก้าอี้มากอด เอนหลังในท่าที่สบายขึ้น“ไปหาหมอคนอื่น ฉันไม่รับ”“เดี๋ยวเลี้ยงข้าวที่แคนทีน”“ไม่ว่าง แกไปหาหมอน็อตสิ” พินทุอรหมายถึงจิตแพทย์รุ่งน้องอีกคนซึ่งจะมาตรวจที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละครั้ง“ไม่เอา อายไอ้น็อตมัน”“แล้วกับฉันไม่อายเหรอไอ้วิณทร์ ฉันเป็นหมอสาวแสนสวยนะ”“ไม่อาย แกนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าไอ้น็อตอีก
“คุณเปิดไฟทำไม”“ผมปลอมตัวเป็นหิ่งห้อย เปล่งแสงหาคู่ไง”คะนึงรักหลุดขำออกมานิดหนึ่ง แสงนวลจากดวงไฟดวงเล็กส่งให้ใบหน้าสวยหวานดูผุดผ่องเรืองรอง รอยยิ้มน้อยๆ จากริมฝีปากอิ่มทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบการที่เขาใจเต้นเมื่อตอนบ่ายวันก่อนที่ได้จูบคะนึงรักนั้น วิณทร์วายุไม่แปลกใจหรือเอะใจเลยสักนิด เขาคิดว่ามันคือความตื่นเต้น เพราะใจคิดไปถึงเรื่องหวานๆ หื่นๆ ครั้งก่อนและกำลังดีใจที่มันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งก็เหมือนตอนที่เขากำลังจะลากผู้หญิงฮ็อตๆ สักคนขึ้นเตียงนั่นแหละ ทั้งหวั่นไหวและคาดหวังถึงเซ็กซ์ที่เผ็ดร้อน หัวใจเขาจึงเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่แต่การที่เขากำลังใจเต้นอยู่ตอนนี้นี่สิ...แปลก เพราะเขายังไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดหญิงสาวแม้แต่น้อย“ผู้ชายอย่างคุณหมอวิณทร์ ไม่ต้องเปล่งแสงหรอก แค่มองแล้วยิ้ม ก็เรียกผู้หญิงเข้าไปหาได้นับสิบๆ คนแล้วมั้ง แทบจะไม่ต้องพยายามเลยด้วยซ้ำ”“คุณก็พูดเกินไป”“ลี่พูดในสิ่งที่คุณเองรู้อยู่แล้วนั่นแหละ”คะนึงรักกดปิดไฟฉาย จากนั้นยื่นผ้าห่มผืนบางขนาดย่อมมาให้ “อากาศไม่หนาว แต่ก็มีลม มีน้ำค้าง แม่ลี่บอกว่าคนกรุงเทพฯ อย่างคุณน่าจะกระหม่อมบาง เดี๋ยวจะไม่สบาย”“คุณห่มเถอะ
เพชรพร้อมมองชายหนุ่มหน้าขาวใสประหนึ่งโบกบีบีครีมครึ่งหลอดบนใบหน้า กำลังมองตามร่างบางของคะนึงรักไป ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มน้อยๆ ดวงตาเรียวรีทอประกายเจิดจ้า“คุณมีอะไรในใจกับน้องผมหรือเปล่า”“มีอะไรนะครับ...”“มีอะไรในใจ” เพชรพร้อมย้ำ“ผม...” อีกฝ่ายกะพริบตาช้าๆ สามสี่ที ดูดน้ำมะพร้าวอีกอึกใหญ่ ก่อนจะบอกตรง “ไม่แน่ใจ ไม่รู้สิครับ”“ถ้าไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ ก็อย่ามองแบบนั้น”“เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ด้วยเหรอครับ ตอนนี้ผมไม่รู้ ไม่แน่ใจ ผมก็ตอบตามตรงเท่านั้นเอง”“ผมมีน้องสาวคนเดียว ทั้งรักทั้งหวง ถ้าคุณมาหลอกน้องสาวผม รับรองว่าผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ผมจะอัดคุณให้จมดินเลย” หนุ่มร่างยักษ์พูดพลางหยิบท่อนไม้ขนาดเกือบเท่าแขนเด็กมาหักเล่นชายหนุ่มหน้าขาวยิ้มอ่อนโยน ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูอ่อนเยาว์ “คุณจะต่อยผมก็ได้ แต่ก่อนจะมีวันนั้น ผมต้องบอกคุณเสียก่อนว่าตอนเด็กๆ ผมเคยได้เหรียญเงินเทควันโดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาก่อน ส่วนปัจจุบันนี้ ผมฝึกยูโดจนได้สายดำ และกีฬาที่โปรดปรานอีกอย่างก็คือมวยไทย”“ฝึกไปทำไมเยอะแยะ” เพชรพร้อมขมวดคิ้ว“เพราะผมหน้าอ่อนไงคุณ แถมยังผิวขาว ดูยังไงก็ไม่พ้นไอ้ไก่อ่อน แต่ผมดันหล
เช้าวันรุ่งขึ้น เจ็ดโมงเช้าไม่ขาดไม่เกิน วิณทร์วายุก็ลงมาที่โต๊ะอาหารซึ่งครอบครัวสาลี่โฮมสเตย์อยู่พร้อมหน้า อาหารเช้าในวันนี้เป็นโจ๊กหมูใส่ตับ ฝีมือของคุณนายรำพึง ส่วนปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้นั้น พฤกษ์ซื้อมาจากตลาดเช้าของหมู่บ้านหลังจากกินอาหารเช้าและพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว คะนึงรักก็นำจิตแพทย์หนุ่มไปยังท่าน้ำเพื่อเดินทางไปสวนมะพร้าว“ลี่จะพายเรือไปเองเหรอ”“พี่เพชรจะมารับเราตอนเก้าโมง” หญิงสาวตอบ“พี่เพชร?”“ลูกพี่ลูกน้องของลี่เอง พี่เพชรเป็นลูกชายลุง พี่ชายแท้ๆ ของแม่ค่ะ นั่นไง พี่เพชรมารอแล้ว” ประโยคสุดท้ายเธอพูดพร้อมชี้ไปทางท่าน้ำซึ่งมีเรือลำเล็กลอยลำรออยู่ภายในเรือลำน้อยมีชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่น ผิวสีแทนค่อนไปทางคล้ำ ผมยาวระต้นคอ แถมยังไม่ค่อยชอบโกนหนวดโกนเครา ทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูเหมือนพวกโจรป่าที่ชอบมาดักปล้นพรหมจรรย์นางเอก“สวัสดีพี่เพชรย้อม” คะนึงรักทักทายด้วยชื่อแปร่งหูที่มีแต่เธอเท่านั้นเป็นคนเรียก แม้กล้ามแขนที่โผล่พ้นเสื้อยืดย้วยๆ สีเทาของเพชรพร้อมน่าจะหักคอเธอได้ด้วยมือเปล่า แต่หญิงสาวไม่เคยนึกกลัวเพชรพร้อมลุกขึ้นยืนเท้าเอว เอียงคอมองเหมือนพร้อมมีเรื่อง“มาถึง
เสียงเคาะประตูหน้าห้องของคะนึงรักดังขึ้นราวสามทุ่ม หญิงสาวสวมชุดนอนตัวเก่งเดินมาเปิดประตู แล้วก็เห็นพ่อกับแม่แต่งตัวเต็มยศเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก คืนนี้คุณนายรำพึงยิ่งสวยกว่าปกติ เพราะนางม้วนผมเป็นลอนสวย แถมยังตีโป่งตั้งกระบังแบบมองเห็นได้จากหน้าเวทีลิเกเลยทีเดียว“แม่กับพ่อจะออกไปดูลิเก ตอนแรกเห็นว่ามีแขกวีไอพีมาพัก เลยตัดใจแล้ว โชคดีที่ลี่กลับมาพอดี ช่างเป็นอภิชาตบุตรของแม่เหลือเกิน”คะนึงรักมองบิดา “พระเอกคนนี้ที่แม่ตามคล้องพวงมาลัยใช่ไหมพ่อ”“ใช่ พ่อเลยต้องตามไปด้วย กลัวกลับดึกแล้วจะอันตราย” คนเป็นพ่อตอบ“ไม่ใช่ตามไปคุมเหรอ ขี้หึง” คุณนายรำพึงหลิ่วตาพฤกษ์นิ่วหน้า “ใครหึง ไม่มี้”หญิงสาวอมยิ้ม เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พ่อเธอก็ยังรักยังหลงแม่เธอไม่เคยเปลี่ยน “ไปเถอะค่ะ เที่ยวให้สนุกนะ ไม่ต้องกังวล ลี่ดูแลแขกให้เอง แต่คิดว่าคุณวิณทร์เขาคงนอนแล้วแหละ”“ส่วนพรุ่งนี้เช้า ตามโปรแกรมของสาลี่โฮมสเตย์ หลังกินข้าวเช้าแล้ว แขกจะได้นั่งเรือเที่ยวสวนมะพร้าวตอนเก้าโมง แวะกินข้าวเที่ยงที่ตลาด แล้วกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัยที่บ้านตอนบ่าย” มารดาสาธยาย“บ้านเรามีสวนมะพร้าวที่ไหนกัน เห็นมีแต่พวกผลไม
“กลับมาแล้วเหรอลี่” เสียงของคุณนายรำพึงดังมาก่อนตัวคะนึงรักลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าว วิ่งเข้าไปสวมกอดมารดาโดยมีบิดาตามเข้ามาห่างๆ เมื่อกอดมารดาเสร็จก็โผไปกอดบิดาต่อสายตาของคุณนายรำพึงมองเลยไปเห็นคนตัวสูงนั่งหน้าแป้นอยู่ที่โต๊ะกินข้าวก็ตกใจ “ตายจริง มัวแต่ดีใจ ลืมไปเลยว่าวันนี้บ้านเรามีแขกวีไอพี”“เขาลงมาจากห้องแล้วเหรอ” พฤกษ์ถามแล้วหันไปมองตาม“ลงมาตั้งนานแล้วแม่ เปี๊ยกไม่ได้บอกเหรอ”“ไม่ได้บอกน่ะสิ บอกแค่ลี่ให้มาตาม ไอ้เด็กคนนี้ ใช้ไม่ได้เลย” บิดาบ่นคุณนายรำพึงกุลีกุจอเข้าไปหาแขกคนสำคัญ “ขอโทษทีนะพ่อคุณ เบื่อแย่เลย”“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมนั่งคุยเล่นกับคุณลี่เพลินๆ ชวนกันทำโน่นทำนี่ ไม่เบื่อครับ”เห็นสายตาที่มีคำถามของมารดาแล้ว คะนึงรักจึงรีบอธิบาย “โลกกลมมากแม่ คุณวิณทร์เป็นเพื่อนสนิทของบอสลี่เอง เราสองคนรู้จักกันมาก่อน”“สนิทกันด้วยครับ” วิณทร์วายุเสริม“จริงเหรอ” คุณนายรำพึงถาม“จริงครับแม่”คะนึงรักส่งสายตาดุๆ ไปให้ ‘ลูก’ ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้น อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเธอไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ใจไม่กล้าพอเพราะกลัวคำตอบของจิตแพทย์หนุ่ม ก็ถ้าเกิดเขาโพล่งออกไปว่าเธอกับเขาสนิทกัน
คะนึงรักสวมเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงขาสั้น นั่งเอายาดมตราโป๊ยเซียนของคุณนายรำพึงยัดรูจมูก นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาเสียท่าให้วิณทร์วายุตอนกลางวันแสกๆ ในห้องซึ่งเคยเป็นนอนของตัวเองหลังจากที่หญิงสาวลากกระเป๋าแผ่นแน่บอกมาจากห้องเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะจับเธอกินอีกเป็นครั้งที่สอง เธอก็เจอเปี๊ยกและได้รู้ว่าตอนนี้บ้านของเธอกลายเป็น ‘สาลี่โฮมสเตย์’ และห้องนอนกลายเป็นห้องพักแขกไปเรียบร้อยแล้ว เธอจึงต้องย้ายขึ้นไปนอนที่ห้องใต้หลังคา แถมวิณทร์วายุยังกลายเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักแห่งนี้เสียอีกนี่โลกกลมหรือพรหมลิขิตกันนะตอนนี้ทั้งคู่ลงมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในฐานะของแขกกับลูกสาวเจ้าของที่พัก“ให้ผมออกไปตามลุงกับป้าที่อยู่ในสวนให้มั้ยครับพี่ รับรองไม่เกินสิบห้านาที” เปี๊ยกถามเมื่อเห็นแขกวีไอพีนั่งจิบน้ำมะตูมที่เริ่มละลายอยู่ที่โต๊ะรับแขก“ไม่เป็นไรเปี๊ยก พี่ลี่ของเปี๊ยกดูแลฉันได้”‘พี่ลี่’ ค้อนขวับแต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร ทำเพียงหันไปสั่งเด็กชายวัยรุ่น “ไปบอกหน่อยก็ดี เผื่อแขกต้องการอะไรแล้วพี่หาให้ไม่ได้”“ได้เลยพี่ลี่” รับคำเสร็จ เปี๊ยกก็วิ่งปรู๊ดหายไป“คุณใส่แว่นแบบนี้แปลกตาดีนะ น่ารักไปอีกแบบ” วิณทร์วายุบ
หญิงสาวแหงนใบหน้าไปด้านหลังยามที่กระตุ้นเร้าลึกซึ้ง เธอร้องครวญครางจนลืมอายเมื่อคลื่นความหฤหรรษ์ก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและกำลังจะแตกกระจายในไม่ช้า“คุณวิณทร์...” เธอเรียกเขาเสียงหวานเพื่อร้องขออะไรบางอย่างที่มีแต่เขาที่ให้ได้“รู้แล้วคนเก่ง” เขากระซิบตอบ พร้อมกระแทกนิ้วแข็งตอกย้ำเร็วๆ หลายครั้งคะนึงรักกระตุกเกร็ง สมองหมุนคว้าง ล่องลอยอยู่ในห้วงความสุขสม กึ่งกลายกายเต้นตุบๆ และตอดรัดนิ้วของวิณทร์วายุอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาถอดถอนออกไปแล้วนั่นละ หญิงสาวจึงเห็นว่าทั้งต้นขาและพื้นห้องเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรักของเธอ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำความสะอาดได้” เขาพูดเหมือนปลอบราวกับล่วงรู้ถึงสิ่งที่เธอกังวล“น่าอายจัง”“ไม่น่าอาย เดี๋ยวดูผมนะ ผมจะทำเลอะให้เต็มตัวคุณเลย” พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นแล้วก้าวไปที่เตียงวิณทร์วายุวางเธอบนเตียงกว้าง ถอดกางเกงอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ก้าวขึ้นมาทาบทับ ใช้แก่นกายแข็งขึงร้อนฉ่าเบียดกับความเป็นหญิงของเธอเหมือนจงใจ ชายหนุ่มก้มลงจูบเธออีกครั้ง ขบเม้มริมฝีปากและดูดดึงลิ้นเธออย่างเร่าร้อน มือหนากดส่วนปลายซึ่งตอนนี้มีน้ำใสๆ เคลือบอยู่หมุนวนที่ติ่งเนื้อบวมเบ่งจากการเสร็จสมใน
“เฮ้ย!”“กรี๊ด...”วิณทร์วายุรวบร่างบางเปลือยเปล่าเข้ามากอด ใช้เรือนกายของตนเองบังไว้ ยกมือขึ้นปิดปากเธอเสียแน่นพร้อมบอก“อย่าร้องสิคุณ เดี๋ยวใครจะนึกว่าคุณโดนผมปล้ำ”ได้ยินคำว่า ‘ปล้ำ’ หญิงสาวก็เริ่มดิ้นรนให้หลุดออกจากอ้อมกอด และนั่นยิ่งทำให้ร่างกายกึ่งเปลือยของทั้งคู่เสียดสีกันอย่างช่วยไม่ได้ หน้าอกอวบอิ่มเบียดอัดกับแผงอกและหน้าท้องเขา ไหนจะเนื้อตัวนุ่มนิ่มที่กำลังขยับไปมาที่กึ่งกลางกายอีกต่างหากนี่เจ้าหล่อนแค้นอะไรนักหนา ตั้งใจจะฆ่ากันให้ตายวันนี้เลยใช่ไหมชายหนุ่มหายใจสะดุด พยายามควบคุมสถานการณ์โดยรวบตัวเธอไว้แน่นขึ้น ไม่รู้ว่าจับอะไรไปบ้าง ขอแค่แม่เจ้าประคุณหยุดดิ้นแบบนี้ก่อน“คุณลี่ หยุดดิ้นก่อน คือผม...”“คุณจับก้นลี่” เธอโวยวายทั้งที่ยังโดนมือเขาปิดปากวิณทร์วายุสะดุ้งเล็กน้อยก่อนเลื่อนมือขึ้นจากบั้นท้ายมาจับไว้ที่แผ่นหลัง นั่นกลับเหมือนเขาใช้ฝ่ามือลากไล้ไปตามเนื้อตัวเธอ ผิวเนื้อนวลเนียนที่ได้สัมผัสทำให้ชายหนุ่มอดนึกถึงคืนนั้นของเขากับเธอไม่ได้ เขาลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ก่อนบอกเสียงแหบพร่า“ฟังนะ ถ้าผมปล่อย คุณห้ามร้องโวยวายเด็ดขาด”“อืม”“สัญญานะ”คะนึงรักพยักหน้า ชายหนุ่