“...”ใจของเธอสะท้านในอกเหมือนนกน้อยในกรงที่สั่นกลัว ขณะที่ความมั่นใจและความกล้าของเธอที่เคยมีค่อย ๆ จางหายไปช้า ๆ ขณะที่เธอรับความรุนแรงของออร่ากำลังวัตต์สูงของแซคคารี ฟันและปากของเธอกำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ เธอพูดไม่ได้แม้แต่พยางค์เดียว“ได้โปรธอย่าโกรธคาร์ลี่เลยค่ะ คุณคอนเนอร์ ฉันก็อยู่ที่นั่นในตอนที่อุบัติเหตุเกิดขึ้น เพราะงั้น ฉันยืนยันได้ คนที่ให้มิมี่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่เธอแต่เป็นเพื่อนรักของเธอ โครอลไลน์ เธอคงห่วงว่าคุณจะกลับไปหาโครอลไลน์ เพราะงั้นเธอถึงรับผิดแทนหล่อน” ทิฟฟานี่พูดแทรกขณะที่เธอยิ้มให้ชาร์ล็อตอย่างมั่นใจชาร์ล็อตแสยะอยู่ในใจ เธอไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อว่าทิฟฟานี่จะปกป้องเธอ ด้วยเหตุนั้นแล้ว ทิฟฟานี่คงรู้ว่าถ้าเธอได้รับเลือก เธอคงอยากจะรับความโกรธของแซคคารีด้วยตัวเธอเองมันเป็นเพียงแค่ว่าเธอไม่รู้ว่าแซคคารีกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้ที่จริงแล้วผู้ชายทุก ๆ คนที่เดินดินคงจะตกหลุมรักผผู้หญิงตัวเล็กบอบบางอย่างทิฟฟานี่ และชาร์ล็อตก็มั่นใจว่าแซคคารีก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันเธอรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะคิดถึงเรื่องแบบนี้ แต่เธอห้ามตัวเองไม่ให้สนใจเรื่องท่าทีของแซคคารีต่
แซคคารีรับรายงานและเปิดซองชาร์ล็อตชูคอมองที่รายงานด้วยเช่นกัน และคำที่เขียนในบรรทัดด้วยสีแดงระบุว่า “กระดูกขาส่วนล่างหัก ระดับความพิการ: รุนแรง” คำเหล่านั้นแทงเข้าไปในตาเธอเธอนึกถึงตอนที่โครอลไลน์ผลักมิแรนด้า และเธอสงสัยว่าโครอลไลน์ได้ผลักเธอแรงขนาดนั้นจริง ๆ ท่าทีของแซคคารีเคร่งขรึมกว่าเดิมขณะที่เขาอ่านรายงาน แม้ว่าชาร์ล็อตยืนอยู่ห่างจากเขาครึ่งเมตร เธอก็รู้ได้ว่าเขาโกรธแล้วตอนนี้“หมอบอกว่าฉันจะออกจากเตียงนี้ไม่ได้อย่างน้อยสามเดือน แม้ว่าฉันจะลุกขึ้นได้จริง ๆ หลังจากสามเดือนนี้ ฉันจะต้องอยู่ในวีลแชร์ และมันจะใช่เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่ฉันจะเดินได้ ยังไงก็เถอะ ฉันจะไม่ยืดหยุ่นเท่ากับที่เป็นก่อนหน้านี้” หลังจากนั้นมิแรนด้ากล่าวด้วยเสียงสะอื้นขณะที่น้ำตาเริ่มไหลนองหน้าของเธอ “ทิฟบอกพี่แล้วว่าใครเป็นคนทำนะแแซค เพราะงั้นพี่...พี่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฉันนะ”แซคคารีนั่งอยู่ด้านข้างเตียงและใช่มือขวาเช็ดน้ำตาของเธอออก ในตอนนั้น แววตาที่ไร้ความรู้สึกอยู่เสมอแสดงให้เห็นถึงสัญญานของความอบอุ่นและความรักขณะที่เขาถามว่า “งั้นเธออยากให้พี่ทำอะไรกับหล่อนดีล่ะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่ชาร์ล็อ
ชาร์ล็อตกลืนน้ำลายอย่างแรงด้วยความกลัว“ฉันจะให้เวลาเธอสามวินาที คืนโทรศัพท์ฉันมา แล้วฉันจะทำเหมือนว่าเธอกำลังละเมออีกครั้งหนึ่ง” แซคคารีกล่าวขณะที่ยื่นมือขวาไปหาชาร์ล็อตมิแรนด้าจ้องไปที่แซคคารีอย่างไม่อยากจะเชื่อ กำลังสงสัยว่าหูของเธอจะฝาดไปเขาคือแซคคารี คอนเนอร์ ชายที่ไม่มีความอดทนต่อการต่อต้านใดเลยชาร์ล็อตขัดขวางเขาอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เขากำลังออกคำสั่งกับลูกน้อง และเธอยังบอกลูกน้องของเขาแม้กระทั่งว่าเขาละเมอ ถ้าไม่ใช่การแสดงท่าทีขัดขืน งั้นจะเป็นอะไรไปได้? แล้วตอนนี้ พี่ชายของเธอยังตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรกับเธอแล้วเพิ่งจะขอให้เธอคืนโทรศัพท์ด้วยงั้นเหรอ?“ฉันจะให้โทรศัพท์นายคืนก็ได้ แต่นายต้องสัญญากับฉันว่า นายจะไม่ส่งใครไปหาโครอลไลน์” ชาร์ล็อตจับมือถือของแซคคารีขณะที่เธอมองไปที่เขาอย่างอาจหาญ ทำให้เกิดความรู้สึกประหลาดใจทางสีหน้าที่ไร้ที่ติของแซคคารีอย่างไรก็ตาม ความรู้สึกประหลาดใจก็อยู่บนใบหน้าของเขาได้ไม่นาน ไม่นานเขาก็สงบลงและพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “งั้น ฉันควรจะถือว่านี่คือการแบล็คเมลใช่ไหม?”แซคคารียกเท้าขึ้นและเริ่มเดินด้วยก้าวใหญ่พร้อมความมั่นใจมายังชาร์ล็อตความกด
“อย่าทำอีกล่ะ”แซคคารีต่อสายอื่นขณะที่เขาพูดชาร์ล็อตรู้ว่าเธอโชคดีขนาดไหนที่แซคคารีปล่อยเธอ ไม่ว่าเธอจะมีความกล้ามาแค่ไหน เธอก็ไม่กล้าที่จะยั่วโมโหมังกรอันเลื่องชื่อ อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ขาของโครอลไลน์จะถูกหักได้จากการโทรเพียงครั้งเดียวของแซคคารี มันทำให้แววตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความว่างเปล่า“แกมันก็แค่ตัวตลก ไม่ว่าแกจะพยายามขนาดไหน ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม รอก่อนเถอะ แกจะได้เห็นเพื่อนรักของแกทรมาน” มิแรนด้าเย้ยหยันอย่างอิ่มเอมใจชาร์ล็อตจ้องไปที่หน้าที่อิ่มเอมใจของมิแรนด้าและนึกถึงทุก ๆ รายละเอียดของเหตุการณ์นั้น เธอเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรีบเข้าไปที่เตียงผู้ป่วย รวบรวมแรงทั้งหมดของเธอและตบไปที่หน้าของมิแรนด้าเพี๊ยะ!เสียงตบดังจนได้ยินจากระยะไกลเธอไม่คิดว่าชาร์ล็อตจะบ้าพอที่จะตบเธอต่อหน้าแซคคารี มิแรนด้าจ้องชาร์ล็อตด้วยความงุนงง แต่เธอก็อ้าปากช้า ๆ ในสองวินาทีต่อมา “แ-แก..แกเป็นบ้าอะไร? แกตบฉันทำไม?”เหตุการณ์พลิกผันอย่างกะทันหันทำให้แซคคารีหยุดเดิน“คุณคอนเนอร์ มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?” คนที่อยู่อีกฝั่งของสายถาม อย่างไรก็ตาม แซคคารีปิดปากเงียบและไม่ตอบกลับชาร์ล็
“นายเป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่ดี คุณคอนเนอร์ ตอนนี้ความจริงก็เปิดเผยแล้ว โคร่าบริสุทธิ์ ฉันมั่นใจว่านานจะไม่ทำร้ายเธออีกแล้ว ใช่ไหม คุณคอนเนอร์?” ชาร์ล็อตกล่าวอย่างสงบ ถอนหายใจอย่างโล่งอกเธอยอมเสี่ยงตบมิแรนด้าถ้าเธอสามารถยั่วมิแรนด้าได้มากพอจนเธอเสียสติไป ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ถ้ามิแรนด้าฉลาดกว่านี้อีกหน่อยและยังคงนิ่งแม้จะถูกตบและสาดน้ำมะนาวใส่ ไม่ใช่แค่แผนของชาร์ล็อตจะล้มเหลว แต่แซคคารีจะทำโทษเธอเป็นสองเท่าอีกด้วย ท้ายที่สุด เธอก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ…ชาร์ล็อตเชื่อว่าแผนของเธอมีโอกาสสำเร็จสูง ขณะที่เธอเชื่อว่ายัยบ้าเอาแต่ใจอย่างมิแรนด้าคงจะทนกับอุปสรรคเช่นนี้ไม่ได้“ฉันไม่ทำ” แซคคารีกล่าว“อื้ม” ชาร์ล็อตพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ฉันเชื่อว่านายอยากจะคุยกับน้องสาวของนายส่วนตัวนะ คุณคอนเนอร์ งั้นฉันจะปล่อยเป็นเรื่องของนายนะ” เธอกล่าวก่อนที่จะเดินออกจากประตูแซคคารียังคงเงียบ แต่คิ้วอันคมเข้มของเขาขมวดมากว่าเดิมไม่มีใครในรอธเซย์ นอกจากญาติพี่น้องของเขามีความกล้าที่จะเรียกของด้วยชื่อต้น อย่างไรก็ตาม ชาร์ล็อตก็กล้าเรียกเขาว่า “แซคคารี” ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาพบกัน เขาไม่เคย
'ฉันไม่ยอมให้ชาร์ล็อตรอดจากเรื่องนี้ไปแน่!' “ป้องป้องเธองั้นเหรอ?” เขาพูดผ่านริมฝีปากอันเรียวบางของเขา “เธอพยายามจะบีบคอพี่ แล้วจะให้พี่ป้องป้องเธอเนี่ยนะ?” มิแรนด้าตกตะลึง “แซค ฉันเป็นคนครอบครัวนะ พี่คงจะไม่โกรธฉันเพียงเพราะฉันทำร้ายพี่โดยไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม แล้วเราจะมีความแค้นต่อกันได้ยังไง?” แซคคารีเลิกคิ้ว “ชาร์ล็อตก็เป็นคนในครอบครัวเหมือนกัน เธอเป็นภรรยาของพี่ ทำไมพี่ต้องทำร้ายเธอด้วย?” มิแรนด้าถึงกับพูดไม่ออก จากนั้นแซคคารีก็ตบไหล่มิแรนด้าเบา ๆ “จำไว้นะมิมี่ เธอทั้งคู่มีความสำคัญกับพี่เท่ากัน ถ้าเธอทะเลาะกันแบบนี้อีก พี่จะไม่ช่วยทั้งคู่” 'อะไรนะ?' 'ชายที่น่าเกรงขามคนนี้ตาบอดหรือไงกัน? เขาไม่เห็นหรือไงว่าชาร์ล็อตไม่คู่ควรที่จะมาสู้กับเธอ? ถ้าเขาปฏิเสธที่จะช่วย นั่นก็หมายความว่า เขาแค่จะยืนดูคนชั้นต่ำทุบตีฉันสินะ!' มิแรนด้าเริ่มทบทวนชีวิตของเธอ แซคคารีเดินไปถึงประตูทางเข้า เมื่อเธอฟื้นคืนสติได้ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง มุมริมฝีปากของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา และมันโค้งเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “หยุดล้อเล่นสักทีเถอะ แซค อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าพี่มีเหตุผลอะไรถึงแต่งงานกับช
ชาร์ล็อตขมวดคิ้วอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เธอไม่ได้มีความสุขมากขึ้น ที่ได้เห็นแซคคารีโหดร้ายกับโครอลไลน์งั้นเหรอ?” “คาร์ลี่ ฉันกำลังแสดงความเป็นห่วงนะ ทำไมเธอต้องประชดประชันด้วย?” ทิฟฟานี่กัดริมฝีปากล่างด้วยความเศร้า ดวงตากลมโตของเธอเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา โดยปกติ การได้รับความเห็นอกเห็นใจด้วยวิธีนี้จะมีความเสี่ยงอย่างมาก หากเคลื่อนไหวผิดปกติเพียงครั้งเดียว อาจทำให้มันย้อนกลับไปหาเธอและฝ่ายตรงข้ามจะมองว่าเธอเสแสร้ง และมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่แย่ได้ แต่ทิฟฟานี่แตกต่างออกไป เธอเป็นภรรยาที่น่ารักและละเอียดอ่อนพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอ การได้รับความเห็นอกเห็นใจคือจุดแข็งของเธอ และเธอได้รับผลประโยชน์มากมายด้วยวิธีนี้ การกระทำที่เปราะบางและน่าสมเพชของเธอ ได้รับความเห็นใจอย่างล้นเหลือมาโดยตลอด รอยยิ้มของชาร์ล็อตยิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการถากถางและดูถูกมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอเห็นสีหน้าของทิฟฟานี่ “ขอโทษนะ หัวใจของฉันมันเย็นชาและโหดร้ายน่ะ รูปลักษณ์นกน้อยที่บาดเจ็บและน่าสงสารมันไม่ได้ผลกับฉัน อันที่จริงมันทำให้ฉันสะอิดสะเอียนด้วยซ้ำ” เธอเปิดประตูรถ และพยายามจะเข้าไปในรถ “ทิฟฟ์ได้รับความเ
มือของทิฟฟานี่แข็งทื่อขณะที่เธอกำลังจะแตะมือของชาร์ล็อต การแสดงออกของไบรสันดูขุ่นมัวและมืดครึ้ม สายตาของเขากลายเป็นน้ำแข็ง ในขณะที่เขาจ้องไปที่ชาร์ล็อต แต่ถึงอย่างนั้น ชาร์ล็อตก็ไม่ได้สนใจ สายตาของเธอไม่เคยหยุดนิ่งบนใบหน้าของไบรสันเลย “เธอกำลังขวางทางฉันอยู่ ฉันต้องขึ้นรถ ช่วยหลบหน่อย” เธอพูดเรียบ ๆ ทิฟฟานี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ไบรสันยังคงยืนอยู่ตรงหน้ารถ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและลึกล้ำ “ฉันได้ยินเรื่องของเธอกับแซคคารี” ชาร์ล็อตยิ้มเยาะ “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันจะพูดอีกครั้งนะ คุณขวางทางฉันอยู่ หลีกทางด้วย!" ไบรสันตอบว่า “ทุกคนในแวดวงนี้รู้ดีว่า แซคคารี คอนเนอร์เย็นชาและไร้ความปราณีแค่ไหน” จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำกว่าเดิม “เขาเป็นปีศาจที่ถูกปลุกขึ้นมา ถ้าเธอทำให้เขาขุ่นเคือง เธอจะเหมือนตายทั้งเป็น” “ฮะ!” เขาไปแตะต้องกับแผลที่เจ็บแสบที่สุดเข้าให้แล้ว ในตอนแรก ชาร์ล็อตหัวเราะเยาะเย้ย จากนั้นเธอก็หันไปทางไบรสันและพูดสวนกลับไป “ไบรสัน ตอนที่ฉันเพิ่งคลอดลูก ฉันไปที่บ้านของคุณและรอคุณจนเกือบจะแข็งตาย แล้วคุณทำอะไรเมื่อคุณมาถึง ฉั