ทิฟฟานี่พุ่งเข้าหาชาร์ล็อตและยื่นแขนจับหล่อนไว้ ขณะที่เธอร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่สดใส อ่อนโยนและไพเราะของเธอสายตาของ “เหยื่อ” บนใบหน้าของทิฟฟานี่และมือที่ยื่นออกมากำลังดึงเธอเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความเกลียดชังที่หยั่งลึกไปถึงจุดต่ำสุด“อย่ามาแตะฉัน!” เธอตะคอกด้วยความรังเกียจ เงื้อมือขึ้นและตบไปที่หน้าของทิฟฟานี่เพียะ!เสียงตบที่ดังชัดเจนถูกขยายด้วยไม่โครโฟนในมือของทิฟฟานี่ ดังก้องอย่างชัดเจนไปทั่วทั้งศูนญ์การค้าขนาดใหญ่ตึง!ไมโครโฟนของทิฟฟานี่ร่วงลงบนพื้นหลังจากนั้น ชาร์ล็อตมองดูร่างอันบอบบางของทิฟฟานี่พริ้วไหวเหมือนกับหญ้าในสายลม ล้มลงพื้น และกลิ้งลงบันไดของเวที“โอ้ไม่! นี่แย่แล้ว!”“เธอตายแน่!”สมาชิกจากกลุ่มผู้ชมกรีดร้องจิตใจของชาร์ล็อตว่างเปล่าในตอนแรก เมื่อเธอคืนสติและละสายตาจากเวทีไป ทิฟฟานี่ก็นอนเหยียดอยู่บนพื้นได้ล่างเวทีเรียบร้อยแล้ว เธอนอนหงายหน้าขึ้นฟ้าโดยมีเลือดเป็นแอ่ง ๆ ที่ท้ายทอยของเธอ…“ทิฟฟ!”ณ จุดนี้ ไบรสันไม่สนใจคำขู่ของแซคคารีและวิ่งไปหาทิฟฟานี่“อ๊า! เธอเสียเลือดมาก เธอจะตายไหม?”“เธอร่วงลงจากเวทีสูงขนาดนี้ ฉันคิดว่า แม้ว่าเธอจะรอดด้วยปาฏิห
“เธอ…”ไบรสันโพล่งออกมาด้วยความโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาในตอนนี้บิดเบี้ยวมาจนดูไม่เหมือนเขาอีกต่อไป“ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์! จำเรื่องนี้ไว้ซะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ฉันจะทำให้เธอชดใช้”“โอ้ จริงเหรอ?”หัวใจของชาร์ล็อตเริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เธอยังคงบังคับตัวเองให้แน่วแน่ต่อไป“นายกลัวฉันจริงสินะ ไบรสัน นายได้ตายไปจากฉันตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องจองเวรใด ๆระหว่างเรา ถ้านายไม่ว่าอะไร นายช่วยอธิบายเรื่องหนึ่งให้ฉันฟังได้ไหม? นายวางแผนที่จะทำให้ฉันชดใช้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับทิฟฟานี่ยังไง?”“ถ้าทิฟฟานี่ตาย ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเธอตายด้วยเหมือนกัน เธอ นังฆาตกร” ชายคนนั้นที่ถูกกลืนกินด้วยความเศร้า ความโกรธ และความแค้นกำลังเปล่งเสียงออกมาทุกคำเหมือนคำสาป‘เฮะ…’ครั้งนี้ ชาร์ล็อตรู้สึกไม่เจ็บปวด ที่จริงแล้ว มุมปากของเธอม้วนเป็นการเย้ยหยัน “มันแปลกนะฉันไม่เคยรู้ตัวว่านายโง่มากแค่ไหน นายไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายทั่วไปเลยใช่ไหม? แม้ว่าเธอตายจริง อย่างมากสุด ฉันคงจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและถูกส่งตัวเข้าคุก ฉันคงไม่ได้รับโทษถึงตายอย่างแน่นอน”ไบรสันจ้องเธอด้วยสายตาที่เย็นชาที่คมเหมือนกับมีดและเยือกเย
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอเปิดประตูรถ ขณะที่เธอกำลังจะขึ้นรถ ก็มีเสียงเย็นเยือกน่าดึงดูดเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "เธอกำลังจะไปไหน?" “อ๊ะ!” ชาร์ล็อตร้องตกใจจนทำกุญแจตกลงพื้น เธอหมุนตัวไปรอบ ๆ เธอสั่นเกินกว่าจะก้มลงไปหยิบกุญแจ ตามที่คาดไว้ เธอได้เผชิญหน้ากับความเย็นเยือกที่เย็นยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็งของชายผู้นี้ แต่มันก็สง่างามยิ่งกว่าภูมิประเทศที่สวยงามทั้งหมดบนโลกใบนี้… “แซคคารี!” ชาร์ล็อตร้องเรียกชื่อของเขาด้วยความตื่นตระหนก “นายมายืนอยู่ข้างหลังฉันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย? นี่… นายสะกดรอยตามฉันงั้นเหรอ?” ดวงตาของแซคคารีเย็นชา เธอไม่เห็นร่องรอยของอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเขาไม่แยแสในขณะที่เขาพูด “บางครั้ง การมีคนสะกดรอยตามอาจเป็นสิ่งที่ดี แล้วมันก็อาจมีประโยชน์ เมื่อพูดถึงการป้องกันการต่อสู้แบบแก๊ง” ชาร์ล็อตเข้าสู่ความงุนงง จากนั้น เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเหล่าแฟน ๆ ของทิฟฟานี่ถึงได้ถอยหนีแทนที่จะโจมตีเธอ ราวกับว่ามีบางอย่างทำให้พวกเขาหวาดกลัว เป็นเพราะแซคคารีปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเธอนี่เอง มีคนไม่มากนักที่รู้จักแซคคารี แต่คนขี้ขลาดจะหวาดกลัวเมื่อได้เ
'ฮะ?' ชาร์ล็อตตัวแข็งทื่อ อย่างไรก็ตาม แซคคารีพูดต่อ "เธอต้องไปโรงพยาบาล" ชาร์ล็อตยิ่งสับสนเข้าไปเข้าอีก “ทิฟฟานี่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เธอต้องไปกับทิฟฟานี่” น้ำเสียงของแซคคารีเฉยเมยเหมือนอย่างเคย มันไม่มีอารมณ์ใด ๆ เลย ในทางกลับกัน ชาร์ล็อตโพล่งออกมาทันทีราวกับสิงโตตัวเมียที่ฉุนเฉียว “ไม่ ฉันไม่ไป! เธอทำตัวเอง ฉันไม่เสียใจที่ตบเธอเลยสักนิด! ฉันจะไม่ไปโรงพยาบาลกับเธอ และฉันจะไม่เอ่ยปากขอโทษเด็ดขาด!” ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้นโดยลืมความกลัวไปหมดสิ้น เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาที่เฉียบคมของแซคคารี แซคคารีไม่โกรธและหน้าก็ไม่ได้บูดบึ้ง มุมปากของเขากลับขดเป็นรอยยิ้มที่น่าพิศวงแทน “เธอหมายความว่า เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันงั้นสิ?” 'อะไรนะ? เขาไม่ได้จะลงโทษฉันที่ก่อปัญหาหรอกเหรอ? เขาจะช่วยฉันงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนฝันไป?' ชาร์ล็อตกระพริบตาปริบ ๆ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? แซคคารี… นายจะช่วยฉันงั้นเหรอ?” แซคคารีไม่ตอบ แต่ความเงียบของเขามันก็เพียงพอแล้ว “นี่คือการถ่ายทอดสดที่คนทั้งโลกกำลังจับตามอง ผู้คนหลายพันล้านคนเห็นเธอตบหน้าทิฟฟานี่ และคนเหล่านั้นก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าที่
'เขาเป็นซุปเปอร์แมนเหรอ? เขามีวิสัยทัศน์อย่างกับกล้องส่องทางไกลเลยรึไง?' “ฮ่า! สวัสดีนายหญิงของผม คุณมีเสียงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะครับ แต่คุณมีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า” คำอุทานที่ประจบประแจงอย่างมีความสุขมันเป็นการบอกการมาถึงลูคัส ชาร์ล็อตโบกมือให้ลูคัสและยิ้มอย่างรู้ทัน “เฮ้ สวัสดี!” สายตาของแซคคารีมืดลงอย่างน่ากลัว ชาร์ล็อตไม่ค่อยยิ้มให้เขา ถึงเธอจะยิ้มแต่มันก็เป็นร้อยยิ้มฝืน ๆ เหมือนถูกบังคับ แต่กับลูคัสมันตรงข้ามกันเลย เธอมักจะพูดกับลูคัสด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะเสมอและมีท่าทางเป็นกันเองและยิ้มง่าย... 'ดูเหมือนว่าฉันจะเตือนลูคัส และบอกให้เขาระวังตัวทุกครั้งที่เขาอยู่กับนายหญิงคอนเนอร์แล้วนะ!' “ครับ ผม… โอ้!” ลูคัสเสียงสูงเป๋ เมื่อเห็นแววตาอาฆาตในดวงตาของแซคคารี 'อ้อ เข้าใจแล้ว! นายหญิงคอนเนอร์อาจจะลืมไป แต่นายท่านรองนี่สิ หึงหวงจนตาขุ่นตาเขียวแล้ว แต่ลืมผู้ชายอย่างฉันไปได้เลย ฉันเกรงว่าถ้านายหญิงคอนเนอร์มีสัตว์เลี้ยงขึ้นมา นายท่านรองคงจะอิจฉาสัตว์เลี้ยงตัวนั้นมากด้วยเหมือนกัน ฉันว่าฉันน่าจะหยุดคุยกับนายหญิงคอนเนอร์ต่อหน้านายท่านรองนะ…’ ลูคัสลูบหัวรังนกสีทองเพื่อปลอบ
“เธอตบทิฟฟ์ตกจากเวทีและทำให้ชีวิตของเธออยู่ห่างจากความตายเพียงแค่เสี้ยวเดียว แต่เธอก็ยังทำตัวเย็นชาและไร้หัวใจได้ ตอนนี้ทิฟฟ์พ้นขีดอันตรายแล้ว เธอมาที่นี่เพื่อเยี่ยมทิฟฟ์งั้นเหรอ? หรือเธอกำลังเสแสร้ง?” ไบรสันโกรธจัดทันทีที่เห็นชาร์ล็อต ชาร์ล็อตขดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ “นายพูดถูก ฉันเสแสร้ง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ทิฟฟานี่เสแสร้งแกล้งใส่ร้ายฉันได้คนเดียวงั้นเหรอ? ฉันไม่มีสิทธิ์เสแสร้งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันงั้นเหรอ?” “เหอะ” ไบรสันหัวเราะทั้ง ๆ ที่เขาโกรธ ข้ออ้างของชาร์ล็อตเคยหลอกเขาได้ในอดีต เขาเคยคิดว่าเธอใสซื่อและจิตใจดี แม้ว่าชาร์ล็อตจะส่งคนกลุ่มหนึ่งมาทำร้ายทิฟฟานี่ ไบรสันก็ยังพยายามเข้าใจในจุดที่เธออยู่ บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกต่อเขาที่มันล้นหลาม นั่นคงเป็นเหตุผลที่เธอสูญเสียการควบคุมและโหดร้ายกับทิฟฟานี่… ตอนนี้เขาได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว ชาร์ล็อตเป็นคนใจดำเสมอมา มันไม่มีทางที่จะดีขึ้นได้! “โอ้ ไบรซ์ มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอมาที่นี่ทำไม แต่ฉันมีความสุขที่เธอมา อย่าพูดถึงเธอแบบนั้นสิ” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทิฟฟ์…” ใจของไบรสันละลายเมื่
“เธอรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร” น้ำเสียงของแซคคารีเย็นชา เขารู้ว่าทิฟฟานี่จะไม่สารภาพ ดังนั้น เขาจึงไม่โต้เถียงกับเธออีก เขากลับออกคำสั่งอย่างเลิศลอยแทน “เธอบอกว่าเธอจะไม่สารภาพ งั้น ฉันจะให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง แถลงต่อสาธารณะชนเพื่อชี้แจงความจริงโดยสมัครใจ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ใช่คนเดียวที่ต้องตาย ทั้งครอบครัวของเธอจะตายไปกับเธอด้วย” ทิฟฟานี่ได้ยินเสียงพึมพำในใจ ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา ไบรสันก็สูญเสียการควบคุมและลุกขึ้นยืน “มันมากเกินไปแล้วนะ แซคคารี คอนเนอร์! นายก็อยู่แถวหน้ากับฉันตอนที่ทิฟฟ์เกิดอุบัติเหตุ นายเห็นชาร์ล็อตตบทิฟฟ์เต็ม ๆ ตา ทิฟฟานี่ผ่านเรื่องพวกนี้มาไม่พองั้นเหรอ? แทนที่จะให้ชาร์ล็อตขอโทษทิฟฟ์ นายกลับกำลังบังคับให้เธอบิดเบือนข้อเท็จจริงและแก้ต่างให้ชาร์ล็อตงั้นเหรอ?” 'อะไรนะ? แซคคารีอยู่ที่คอนเสิร์ตด้วยงั้นเหรอ? เขาระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลงก่อนสมรสของเราว่า ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาใด ๆ ดังนั้น… เขาควรจะห้ามไม่ให้ฉันสร้างปัญหาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาไม่หยุดฉัน ทำไมเขาถึงอยู่แถวหน้าและเฝ้าดูเรื่องราวทั้งหมดล่ะ?' ชาร์ล็อตสับสนมาก แซคคารีจ้องไปที่ไบรสัน “นี่เ
“ชาร์ล็อต ฉันเตือนเธอแล้วนะ… บอกแซคคารีให้หยุดหรือ— อุ๊บ!” เทปพันสายไฟถูกพันเข้าที่ปากของไบรสันอย่างแน่นหนา มันทำให้เขาเงียบ ลูคัสปิดปากเขาไว้ และเอาเทปพันปากของเขา เขาดูปลื้มปริ่มกับตัวเองมาก “เก็บแรงของคุณไว้เถอะครับ นายท่านรองต้องการให้คุณเงียบปากและเพลิดเพลินกับการแสดง เพื่อประโยชน์ของคุณเอง นี่เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมากเลยนะครับ” ไบรสันไม่สามารถส่งเสียงได้ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คุ้มกันที่แข็งแรงสองคนล็อกแขนของเขาไว้คนละข้าง เขาจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย เขาทำได้แค่เบิกตากว้างเฝ้าดูทุกอย่าง 'ทิฟฟานี่ มิลเลอร์! ผู้หญิงที่ฉันรัก!' หลังจากที่ทิฟฟานี่โดนข่มขืน เขาเคยคุกเข่าลงตรงร่างที่บอบช้ำและมีแผลเต็มไปหมดของเธอ และสาบานด้วยน้ำตา นับตั้งแต่วันนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก แต่ในวันนี้ เขาถูกบังคับให้ได้แค่ยืนข้างเตียงของเธอและมองดูแซคคารีรังแกเธอ! 'ไม่! ชาร์ล็อตต้องจัดการแซคคารีในเรื่องนี้ ชาร์ล็อตเป็นคนอยู่เบื้องหลังความทุกข์ทรมานของทิฟฟ์! ชาร์ล็อตอีกแล้ว!' แซคคารีเหลือบมองไบรสันอย่างเฉยเมย จากนั้นหันก็กลับมามองทิฟฟานี่ เขาหรี่ตาลง “เธอได้ยินที่ฉัน
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา