“ชาร์ล็อต ฉันเตือนเธอแล้วนะ… บอกแซคคารีให้หยุดหรือ— อุ๊บ!” เทปพันสายไฟถูกพันเข้าที่ปากของไบรสันอย่างแน่นหนา มันทำให้เขาเงียบ ลูคัสปิดปากเขาไว้ และเอาเทปพันปากของเขา เขาดูปลื้มปริ่มกับตัวเองมาก “เก็บแรงของคุณไว้เถอะครับ นายท่านรองต้องการให้คุณเงียบปากและเพลิดเพลินกับการแสดง เพื่อประโยชน์ของคุณเอง นี่เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมากเลยนะครับ” ไบรสันไม่สามารถส่งเสียงได้ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คุ้มกันที่แข็งแรงสองคนล็อกแขนของเขาไว้คนละข้าง เขาจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย เขาทำได้แค่เบิกตากว้างเฝ้าดูทุกอย่าง 'ทิฟฟานี่ มิลเลอร์! ผู้หญิงที่ฉันรัก!' หลังจากที่ทิฟฟานี่โดนข่มขืน เขาเคยคุกเข่าลงตรงร่างที่บอบช้ำและมีแผลเต็มไปหมดของเธอ และสาบานด้วยน้ำตา นับตั้งแต่วันนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก แต่ในวันนี้ เขาถูกบังคับให้ได้แค่ยืนข้างเตียงของเธอและมองดูแซคคารีรังแกเธอ! 'ไม่! ชาร์ล็อตต้องจัดการแซคคารีในเรื่องนี้ ชาร์ล็อตเป็นคนอยู่เบื้องหลังความทุกข์ทรมานของทิฟฟ์! ชาร์ล็อตอีกแล้ว!' แซคคารีเหลือบมองไบรสันอย่างเฉยเมย จากนั้นหันก็กลับมามองทิฟฟานี่ เขาหรี่ตาลง “เธอได้ยินที่ฉัน
“นางตัวสร้างปัญหา!” “นางลูกทรพี! ลูกไม่รักดี!" แม่ของทิฟฟานี่หยุดพูดทันที เพราะมีมีดแหลมจ่อที่คอของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดในขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอจ้องไปที่กล้องและร้องไห้ และมีมีดอีกสองเล่มจ่ออยู่ที่คอของพ่อและน้องชายของทิฟฟานี่พร้อมกัน ทิฟฟานี่ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสิ่งนี้ เธอตกใจมากจนลืมที่จะร้องไห้ไปเลย พ่อแม่ของทิฟฟานี่ปฏิบัติต่อเธอไม่ค่อยดีนัก เมื่อหลายปีก่อน พ่อแม่ของทิฟฟานี่บังคับให้เธอเลิกกับไบรสันและย้ายไปบูเรเซีย แต่เธอก็ดูแลพ่อแม่ของเธอเสมอ และยีนน้องชายของเธอเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกสำหรับเธอ ทิฟฟานี่ไม่เคยคิดว่าอำนาจของแซคคารีจะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสามารถจับครอบครัวของเธอที่อาศัยอยู่ห่างไกลออกไปอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว เขารู้จุดอ่อนของเธออย่างแม่นยำ… “เธอจะต้องเผชิญสองความเป็นไปได้ในหนึ่งชั่วโมง เธอจะแก้ข้อกล่าวหาเรื่องภรรยาของฉันแล้วครอบครัวของเธอจะปลอดภัย หรือปล่อยให้ภรรยาของฉันเสียชื่อเสียงต่อไปและครอบครัวของเธอจะต้องตาย แล้วเธอก็จะตามพวกเขาไปในอีกไม่ช้า” แซคคารีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จากนั้นก็หันหลังกลับเดินออกจากวอร์ด เขาคว้าข้อมือของชาร์ล็อตด้วยมืออั
ไบรสันเรียกประชุมกับทีมงานมืออาชีพ และให้พวกเขาถ่ายวิดีโอสั้นให้กับทิฟฟานี่ในวอร์ด ในวิดีโอ ทิฟฟานี่ยกมือสาบานอย่างจริงใจว่า “ฉันนอนไม่หลับเป็นเวลาสามคืนติดต่อกันเพื่อเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ ฉันฝืนใช้พลังงานมากในระหว่างคอนเสิร์ตน่ะค่ะ บางทีฉันก็รู้สึกเวียนหัว และตอนที่ฉันพยายามห้ามไม่ให้คาร์ลี่เดินลงจากเวทีไป ฉันรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะทรุด แล้วฉันก็หมดสติไปตอนที่คาร์ลี่ตบฉันพอดี นั่นหมายความว่า ถึงเธอจะไม่ได้ตบฉัน ฉันก็จะเป็นลมแล้วกลิ้งลงจากเวทีอยู่ดีค่ะ ดังนั้น คาร์ลี่จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย ฉันเข้าใจว่าแฟน ๆ ของฉันต่างพากันสาปแช่งคาร์ลี่ ฉันรู้สึกผิด แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่รอดชีวิตมาได้ ไม่ยังงั้นคาร์ลี่อาจต้องแบกรับข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงนี้ไปตลอดชีวิตของเธอ คาร์ลี่มาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลทันทีหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ได้โปรด หยุดต่อว่าเธอเถอะนะคะ” เรื่องนี้คงไม่มีใครเชื่อถ้ามาจากคนอื่น ทุกคนเชื่อเพียงเพราะมันมาจากทิฟฟานี่โดยตรง ในท้ายที่สุด ทิฟฟานี่ถือเป็นทั้งพยานบุคคลอันดับหนึ่งและทั้งเป็นเหยื่อ ชาร์ล็อตได้ทำให้เธอเสียชื่อเสียงบนเวที
ไบรสันเคยเป็นคู่หมั้นของเธอมาสี่ปี ดังนั้น เขาจึงรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าชาร์ล็อตไม่ใช่คู่หมั้นที่ดีไปซะทุกเรื่อง เธอจะตอบโต้และจัดการผู้อื่นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เธอจะจัดการเฉพาะคนที่เธอเกลียดจริง ๆ เท่านั้น ตอนนี้เธอได้จัดการเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้เคยวางเขาไว้บนแท่น เธอเคยนึกถึงเขาตลอดเวลา และรักเขาเข้ากระดูกเป็นเวลาสี่ปี… แต่ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นสิ่งที่เธอเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง… “นายเห็นว่าแซคคารีสามีของฉันข่มขู่ทิฟฟานี่ นายเห็นทั้งหมดด้วยตาของนายเอง แล้วเธอก็หันกลับมา แล้วบอกนายว่าเธอเต็มใจทำ นายเชื่อเธองั้นเหรอ? ฮะ…” ชาร์ล็อตหัวเราะอย่างเหยียดหยามทุกครั้งที่เธอรู้สึกว่า ไบรสันสูญเสียความคิดความอ่านไปโดยสิ้นเชิง เขาฟังทุกอย่างที่ทิฟฟานี่โกหก และเขาก็เชื่อทุกอย่างที่เธอพูด “ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ไมเคิลบอกว่านายก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในมือของทิฟฟานี่ สมน้ำหน้า ไบรสัน! มันสมควรแล้วที่นายจะโดนทิฟฟานี่นางงูพิษนั่นหลอก โดนเธอหลอกจนไม่ยอมรับความจริงจากน้องชายของตัวเอง” สายตาของไบรสันรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกราวกับว่ามีมืออันใหญ่บีบหัวใจของเขาไว้แน่น เมื่อชาร์ล็อตพูดอย่างภ
เธอเห็นใบหน้าของไบรสันกลายเป็นสีม่วงคล้ำ เขาพยายามกะเกียกตะกาย แต่ดวงตาของแซคคารีเป็นเหมือนดั่งมีดและไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยเขาไป ชาร์ล็อตเอาแขนของเธอโอบไว้รอบแขนของแซคคารีที่ใช้บีบคอไบรสันด้วยความตื่นตระหนก “แซคคารี ตั้งสติหน่อย ปล่อยเถอะ... ปล่อยเขา!” เธอใช้แรงทั้งหมดที่เธอมี แต่เธอไม่สามารถขยับเขาได้เลยแม้แต่น้อย แซคคารีแข็งแกร่งมากอย่างกับเขาทำมาจากเหล็ก เหงื่อเย็นเฉียบของชาร์ล็อตเริ่มไหล เธอดึงความกล้าออกมาและเตรียมจะกัดหลังมือของแซคคารี ขณะที่เธออ้าปากแซคคารีก็ปล่อยมือออก “เฮือก… แค่ก แค่ก แค่ก !” ไบรสันขดตัวกลม เขาหายใจเข้าลึก ๆ อัตราการเต้นของหัวใจของเขาที่ช้าลงจนเกือบจะหยุดนิ่ง กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เขารู้โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าแซคคารีจะบีบคอเขาจนตาย ถ้าชาร์ล็อตไม่หยุดยั้งเขา “ฉันจะให้นายมีชีวิตอยู่… ในตอนนี้” น้ำเสียงเย็นเยือกผ่านริมฝีปากของแซคคารี “ฉันเคยเตือนนายแล้ว ถ้านายแตะต้องภรรยาของฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่เอามือของนายไว้” ชาร์ล็อตยังคงสั่นเครือ ตอนนี้ร่างกายของเธอปั่นปวนอีกครั้ง แน่นอน ว่าหัวใจของเธอไม่ได้ห่วงไบรสัน ไบรสันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนแปลกหน้าบ
หนึ่งคนในนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “จะยื่นมือออกมาเอง หรือจะให้เราจัดการ” ไบรสันเลิกคิ้วและหัวเราะ "มาสิ มาดูกันว่าใครจะได้เป็นจ่าฝูง!” ผู้คุ้มกันสองคนเข้าหาไบรสันด้วยจิตสังหาร และหนึ่งในนั้นก็หยิบมีดสั้นออกมา เมื่อได้เห็นฉากนี้ ชาร์ล็อตก็กลัวจนขาของเธออ่อนแรง แต่เธอยังคงรวบรวมความกล้าที่จะก้าวออกไป “อย่าทำร้ายไบรสันนะ!” ผู้คุ้มกันที่ดุดันทั้งคู่หยุดเชื่อฟังในทันที พวกเขากำลังปฏิบัติตามคำสั่งของประธานคอนเนอร์ และไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาการทำงานของพวกเขาได้ ยกเว้นชาร์ล็อต! ชาร์ล็อตคือใคร? ประธานคอนเนอร์ได้ออกคำสั่งเฉพาะเจาะจงกับผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขาว่า พวกเขาต้องเชื่อฟังชาร์ล็อตอย่างไม่มีเงื่อนไข ไบรสันตกใจเล็กน้อย จากนั้น เขาก็มองไปที่ดวงตาของชาร์ล็อตและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นในขณะที่รู้สึกตกใจ ในขณะนั้นเอง ฝีเท้าของแซคคารีก็หยุดลงชั่ววินาที เขารู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างกะทันหันราวกับมีเข็มสักกำมือหนึ่งทิ่มแทงเขา จากนั้น เขาก็ก้าวต่อไปข้างหน้า ดวงตาของเขาดูราวกับถูกน้ำแข็งปกคลุม และไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา “แซคคารี เดี๋ยวก่อน!” ชาร์ล็อตพูดอย่างกังวล เธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปให
ชาร์ล็อตจ้องมองไปที่แซคคารีด้วยความงุนงง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เพื่อให้แซคคารีปล่อยมือ ชาร์ล็อตถึงขั้นจะกัดแขนของเขา เธอจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ “เหอะ” แซคคารีผู้สง่างามและมีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เขาแสยะยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นมันดูเฉยเมยและแดกดัน เพียงแวบเดียวของรอยยิ้มนั้นก็สามารถกระชากจิตวิญญาณของใครต่อใครได้ และมันเกินจะต้านทาน และนั่นเอง! ผู้หญิงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรักจริง ๆ ! ชาร์ล็อตกลัวเขามากจนเธอสั่นสะท้านทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขา แต่เพื่อช่วยไบรสัน เธอไม่กลัวแม้แต่จะกัดเขา และตอนนี้ เธอมองตรงเข้าไปยังดวงตาที่เคร่งขรึมของเขาอย่างกล้าหาญ และอ้อนวอนให้ไบรสัน... ผู้หญิงคนนี้คงไม่รู้ ตราบใดที่เขาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างไปแล้ว ใครหน้าไหนจะวิงวอนมันก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป แต่ทำไมใจที่ไม่แยแสของเขาถึงละลายเมื่อเขาจ้องไปที่รูปลักษณ์ที่จองหองแต่น่ายั่วยวนของชาร์ล็อต และการจ้องมองที่มาจากดวงตาอันอ้อนวอนของเธอ? เธอเพิ่งขออะไรที่มันเกินไป แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธเธออย่างโหดร้ายได้! ลูกกระเดือกของแซคคารีขยับเล็กน้อย และโทนเสียงกลาง ๆ ก็ลอดออกมาระหว่างริมฝีป
ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นกับแซคคารีมาก่อนเลย ผู้คุ้มกันคนอื่นไม่สามารถฟื้นจากภวังค์ได้ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาว “นายท่านรองรับปากกับคุณซิมม่อนส์ไปแล้ว เราจะพูดอะไรได้อีก? ไปกันเถอะ" ทั้งสองเพิกเฉยต่อการอยู่ของไบรสันและจากไปพร้อมกัน ในชั่วพริบตา มีเพียงไบรสันเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ข้างน้ำพุที่เคยอึกทึก ชาร์ล็อตยืนอยู่ข้างน้ำพุ จ้องมองที่ด้านหลังของแซคคารีด้วยความงุนงง ขณะที่ไบรสันจ้องมองเธออย่างว่างเปล่า คุณคอนเนอร์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของรอธเซย์ คำสั่งใด ๆ ที่ออกจากปากของเขานั้นเปรียบเสมือนคำสั่งของราชาเสมอ ซึ่งมันจะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน และมันก็ไร้ประโยชน์สำหรับทุกคนที่จะวิงวอน ดังนั้น ตอนที่ชาร์ล็อตพยายามอ้อนวอนแซคคารี ไบรสันเชื่อว่าเธอจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน แต่ผลที่ได้ทำให้เขาต้องตกใจ! เขาได้ตรวจสอบพวกเขาแล้ว แซคคารีกับชาร์ล็อตแต่งงานกันเพราะข้อตกลง และแซคคารีไม่เคยรักชาร์ล็อต แต่ถึงอย่างนั้น ไบรสันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่แซคคารีอนุญาตให้ชาร์ล็อตเข้าไปป่วนบนเวทีในคอนเสิร์ตของทิฟฟ์ และในตอนนี้ ตอนที่แซคคา
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา