"ขอบคุณนะ" แซคคารีมองมาที่เธอ โดยที่เขาซ่อนอารมณ์ของเขาไว้ หน้าของเธอแดงราวกับมะเขือเทศสุกในตอนนี้ เธอน่าเกลียดที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้น แซคคารีก็รู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอสวยงามกว่าทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในโลกเสียอีก “เอาล่ะ นายหญิงของผม คุณต้องการทำอะไรกับพวกเขาครับ?” ลูคัสถาม ชาร์ล็อตหันไปทางเด็กสาวสองคนในกรง “พวกเธอไม่รู้เหรอ ว่าสตูดิโอของฉันมีกล้องวงจรปิด? ใช้ส่วนในคลิปที่พวกเธอหลอกฉัน ตีฉัน และยัดยาลงไปในคอของฉัน ส่งไปให้ครูและครูใหญ่ของพวกเธอ จากนั้นโทรแจ้งตำรวจและปล่อยให้พวกเขาจัดการ” เด็กสาวร้องไห้เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นยิ่งกว่าที่เคย นักเรียนในวัยนี้ไม่กลัวพ่อแม่จะค้นพบความชั่วหรือผลที่ตามมา ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเธอคือครูและครูใหญ่ จากระดับความชั่วร้ายที่เลวร้ายนั้น ครูใหญ่ของพวกเธอจะเรียกพวกเขาออกมาในระหว่างการประชุมของโรงเรียน เขาจะขับไล่พวกเธอ และจะส่งพวกเธอไปยังศูนย์กักกันเด็กและเยาวชนอย่างแน่นอน พ่อแม่ของพวกเขาคงจะผิดหวังอย่างมากในตัวพวกเธอ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอจะต่างพากันเยาะเย้ย ชีวิตของพวกเธอจะจบลง... ลูคัสอดไม
ชาร์ล็อตพยักหน้า ลูคัสพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “วิกเตอร์พิการตั้งแต่คุณอัดเขา ผมก็เลยอยากรู้น่ะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนง่อยนั่น ถ้าผมบังคับให้เขาดื่มน้ำที่เขาให้คุณดื่ม?” ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ความขยะแขยงส่องประกายผ่านดวงตาของแซคคารี “ผมก็เลยคิดว่า… ทำไมไม่ใช้วิกเตอร์เป็นหนูทดลองล่ะ? ผมขังเขาไว้ในห้องที่เงียบสนิท เขาวิ่งไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวายใจแล้วก็หมดสติไปพร้อมกับน้ำลายฟูมปาก พอเขาตื่นขึ้นมา เราก็พบว่าเขากลายเป็นคนสติไม่ดีไปแล้ว” ชาร์ล็อตเม้มปาก แต่เธอไม่ได้รู้สึกสงสารเลย บางทีอาจเป็นเรื่องดีที่พวกขยะสังคมอย่างวิกเตอร์จะกลายเป็นคนสติไม่ดี เขาสมควรได้รับมัน ถ้าแซคคารีมาไม่ทันหลังจากที่ชาร์ล็อตโดนวางยา ผลของยานั้นคงทำให้เธอกลายเป็นเหมือนวิกเตอร์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทุบตีเธอจนตายก็ตาม “ผมคิดว่าขยะนั่นไปง่ายเกินไป ผมเตรียมการทรมานไว้ตั้ง 17 แบบ สำหรับคนอย่างเขา ผมต้องการลองพวกนั้นทั้งหมดกับเขาทีละอย่าง แต่ผมจัดการกับเขาได้แค่อย่างเดียว เขาก็กลายเป็นซากไปซะแล้ว ขยะไร้ประโยชน์” ลูคัสเล่นต่างหูห่วงทองอันใหญ่ด้วยความผิดหวัง “แต่ผมแน่ใจว่าผมจะม
ชาร์ล็อตกลืนน้ำลายอย่างประหม่า เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ สามครั้งเพื่อเรียกเสียงของเธอ “เฮ้… อย่าโกรธกันนะ ลุคบอกว่านายจะช่วยฉันหาตัวคนร้ายตัวจริง ฉันไม่ต้องการให้นายเสียเวลาเปล่า ฉันเลยต้องบอกความจริงกับนาย ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย ว่าไม่ใช่ไบรสันอย่างแน่นอน” ความหลงใหลในตัวไบรสันของเธอไม่ได้เกิดขึ้นจากรูปลักษณ์อันโดดเด่นของเขาเท่านั้น เธอสนใจในอุปนิสัยของเขาด้วย อันที่จริง ไบรสันดีกับเธอมากตลอดสี่ปีที่อยู่ด้วยกัน เขายอมเธอทุกอย่างและไม่เคยโกหกเธอ ครั้งเดียวที่เขาโกหกก็เพราะทิฟฟานี่… นั่นเป็นครั้งเดียวเท่านั้น! ใบหน้าของแซคคารีเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างกับก้นหม้อที่อังไฟไว้จนไหม้ เขาจ้องไปที่เธออย่างเย็นชาและนิ่งเงียบสนิท “ฮี่ฮี่…” ชาร์ล็อตบังคับมุมปากของเธอให้ยืมฝืน ๆ แล้วจ้องไปที่แซคคารี “ฉันยังไม่ได้ขอบคุณนายเลย ดังนั้น… ขอบคุณนะ ขอบคุณจากก้นบึ้งในหัวใจของฉันเลย” แซคคารีช่วยชีวิตเธอไว้ถึงสองครั้ง แถมเขายังช่วยพ่อของเธอและตระกูลซิมม่อนส์ด้วย แต่สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้เพื่อเป็นการตอบแทนคือการขอบคุณเขา แซคคารีเปิดปากขณะที่เขาตอบอย่างสงบ "ยินดี" “ถ้าอย่างนั้น… ฉันขอตัวก่อนนะ”
“โอบรอบคอฉันสิ” เสียงเย็นเยือกของเขาดังขึ้นอีกครั้ง “โอ้…” ณ จุดนี้ ชาร์ล็อตได้แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ซึ่งถูกตั้งโปรแกรมมาให้ฟังคำสั่งเพียงอย่างเดียว เธอเอามือออกจากเอวของแซคคารี เธอเขย่งเท้า แล้วเอาแขนโอบรอบคอของเขาแทน แซคคารีก้มหน้าลงเล็กน้อย ริมฝีปากเรียวบางและลมหายใจอันอบอุ่นของเขาค่อย ๆ เข้ามาจนเกือบจะบรรจบกับริมฝีกปากของชาร์ล็อต จิตใจของชาร์ล็อตว่างเปล่าในทันที เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมันกำลังจะกระโดดออกมาจากท้องของเธอแล้ว… 'เขาจะจูบฉันไหมนะ?' ชาร์ล็อตเคยอยู่ในจุด ๆ นี้เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เธออดไม่ได้ที่จะคล้อยตามและจูบเขา 'ครั้งนี้… เขาจะจูบฉันเหรอ?' อย่างไรก็ตาม ริมฝีปากของแซคคารีไม่ได้สัมผัสเธอ เขาใช้แก้มแตะปลายจมูกของเธอแทน จากนั้นเขาก็โน้มลงอีกแล้วอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา แซคคารีอุ้มชาร์ล็อตไว้ในอ้อมแขนแล้วและเดินไปเรื่อย ๆ ทั้งที่เธอรู้สึกตัว 'เขาไม่ได้ต้องการจูบฉัน เขาต้องการอุ้มฉันต่างหาก!' ชาร์ล็อตรู้สึกผิดหวังในตอนแรก จากนั้นเธอก็เริ่มเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกผิดหวังของเธอมันช่างป็นเรื่องตลกสิ้นดี… 'เธอไม่เห็นรึไงว่าแซคคารีเย็นชาแค่ไหน?' เขาออกจ
ลูคัสพลิกดูหน้าอื่น ขณะที่เขาอ่านออกเสียง “หนึ่งในหกคนที่ร่ำรวยที่สุดในรอธเซย์ ก็คือแอนโธนี่ ไมเคิล และเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของนายหญิงคอนเนอร์ เชอร์แมน เพอร์รี วิทแมน...” "พอแล้ว!" แซคคารีตัดบทลูคัสทันที “บอกมาว่ามีทั้งหมดกี่คน” “ได้ครับ ผมจะคำนวณโดยเริ่มจากตอนนายหญิงนายคอนเนอร์อายุ 13 ปีนะครับ ภายในเจ็ดปี เธอมีคนมาจีบ 87 คน ถ้าให้รวมถึงคนที่เขียนจดหมายรักให้เธอ มอบดอกไม้ให้เธอ และสารภาพความรู้สึกของพวกเขากับเธอ ผมยังสามารถกรองสุภาพบุรุษสองสามคนที่อาจจะแอบชื่นชมเธอและแอบซุ่มอยู่รอบ ๆ เธอ เหมือนกับที่เซนิออสเคยทำในอดีต ซึ่งทำให้เรามียอดรวม 239…” ดวงตาของแซคคารีเย็นลงจนดูเหมือนว่าสายตาพวกนั้นสามารถแช่แข็งวัตถุทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ “แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกนะครับ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่นายหญิงคอนเนอร์เริ่มมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับไบรสัน เธอปฏิเสธคนที่มาจีบคนอื่น ๆ ของเธอทั้งหมดแล้ว ภัยคุกคามที่แท้จริงของคุณนอกเหนือจากจากเซนิออส ก็คือสุภาพบุรุษที่ผมเพิ่งพูดถึงไป เฟอร์ดินานด์ อาลอนโซ แอนโทนี่ ไมเคิล มาร์คัส บรู๊ค และคนอื่น ๆ รวมแล้วมีทั้งหมด 5 คน พวกเขาทั้งหมดถือเป็
“มันยากที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดทางโทรศัพท์ ผมจะรอพี่อยู่ข้างหน้าสตูดิโอศิลปของพี่นะ พี่คาร์ลี่ มาเจอผมหน่อย” ชาร์ล็อตไม่ได้ปฏิเสธเขาในครั้งนี้ รถที่แซคคารีมอบให้เธอจอดอยู่ที่เฉลียงรถหน้าบ้าน เธอกระโดดขึ้นรถและขับตรงไปยังสตูดิโอศิลปของเธอ ไมเคิลกำลังรอเธออยู่หน้าสตูดิโอศิลปของเธอ เขาตื่นตากับซุปเปอร์คาร์สุดเท่ที่ปรากฏในวิสัยทัศน์ของเขา เมื่อเขาเห็นชาร์ล็อตออกมาจากรถ เขาก็ขยี้ตาแล้วเดินเข้ามาหาเธอ “พี่คาร์ลี่ ผมรู้ว่านางงูพิษทิฟฟานี่เธอเจ้าเล่ห์ ผมจึงได้สอบสวนเธอ และในที่สุดวันนี้ผมก็รู้ทุกอย่าง ทิฟฟานี่ เธอ--” “ไมเคิล เข้าไปในสตูดิโอกันก่อน” ชาร์ล็อตขัดจังหวะ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เด็กสาวสองคนทุบเธอจนล้มลงไป และวิกเตอร์มาหาเธออีกคน หลังจากที่เธอมาถึงสตูดิโอศิลปะเมื่อวันก่อน เธอระแวงว่าจะมีคนตามเธอมาอย่างเงียบ ๆ ดังนั้น เธอจึงคิดว่าเป็นการดีกว่าสำหรับพวกเขาที่จะนำบทสนทนาของพวกเขาไปคุยในห้องที่ไม่มีใครได้ยิน นี่เป็นครั้งแรกที่ชาร์ล็อตมาที่สตูดิโอศิลป นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น ตอนที่แซคคารีมาช่วยเธอ เขาได้เตะประตูเดิมหลุดไป ตอนนี้ได้เปลี่ยนประตูใหม่แล้ว พ่อของชา
ทิฟฟานี่ดูบอบบางและจิตใจดีมาก เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะทำสิ่งชั่วร้ายแบบนี้ได้? “อย่าตัดสินหนังสือจากปกของมัน พี่คาร์ลี่ นั่นยังน้อยไป ยังมีอีกมากมายที่จะตามมา พี่ยังไม่รู้ว่าทำไมพี่ชายผมถึงเกลียดพี่และคุณซิมม่อนส์ใช่ไหม? นี่เป็นเพราะพี่ชายของผมคิดว่าพี่และคุณซิมม่อนส์สั่งคนให้ไปข่มขืนทิฟฟานี่!” 'อะไรนะ!?' เธอไม่รู้จักทิฟฟานี่เลยจนกระทั่งวันที่เธอคลอดลูก ในวันเดียวกันเธอก็รู้ว่าทิฟฟานี่กลับมาที่รอธเซย์ก่อนจะแต่งงานกับไบรสัน และทิฟฟานี่ได้อยู่กับเขามาสิบเดือนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเธอจะรู้ว่าทิฟฟานี่อยู่ในรอธเซย์ล่วงหน้า แต่เธอก็คงจะไม่มีทางที่จะทำสิ่งชั่วร้ายแบบนี้ได้ “ทิฟฟานี่เป็นรักแรกของพี่ชายผม ตอนที่เธอถูกครอบครัวบังคับให้ย้ายไปบูเรเซีย พี่ชายของผมยังเป็นเด็กยากจน เขารู้สึกผิดมาตลอดที่ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้ เพราะงั้น พอทิฟฟานี่กลับมาที่รอธเซย์ในวันแต่งงานของพี่ เขาจึงซื้อบ้านให้กับเธอ…” “พ่อของพี่ก็รู้เรื่องนี้ในที่สุด แต่ตอนนั้นพี่ท้องได้เดือนกว่าแล้ว คุณซิมม่อนส์ไม่อยากให้เธอมากระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับพี่ชายของผม ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่อยากให้พี่เป็นกังวลด้วย
“เฮ้อ! พี่คาร์ลี่ พี่รู้อะไรไหม? ถึงทิฟฟานี่จะเป็นรักแท้ของพี่ชายของผมในตอนนั้น แต่ความตั้งใจของพี่ที่จะมีลูกให้กับคนแปลกหน้า มันทำให้เขาประทับใจจริง ๆ เขาให้คำมั่นว่าจะเลิกรากับทิฟฟานี่อย่างเด็ดขาด และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อดูแลพี่ไปตลอดชีวิต แต่พอรู้สิ่งที่พี่และคุณซิมม่อนส์ทำกับทิฟฟานี่ เขาก็--” “หยุด ไมเคิล ฉันลืมเขาไปหมดแล้ว!” ชาร์ล็อตขัดจังหวะอย่างเฉยเมย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “นายรับประกันได้ไหมว่าทุกสิ่งที่นายพูดเป็นความจริง? นายมีหลักฐานมาสนับสนุนรึเปล่า?” “พูดตามตรงเลยนะ พี่คาร์ลี่ ผมเคยโกหกพี่บ้างไหม? และยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีทางที่ผมจะเอาเรื่องร้ายแรงมาล้อเล่นแบบนี้!” ไมเคิลพูดด้วยสีหน้าจริงจังและกระวนกระวายใจ “ผมสาบานต่อพระเจ้าเลย ทุกสิ่งที่ผมพูดในวันนี้เป็นเรื่องจริงที่ผมสืบมา! ผมว่านางงูพิษนั่นต้องคอยสังเกตผมอย่างลับ ๆ แน่ หลังจากที่ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้ ชายสวมหน้ากากก็บุกเข้ามาในบ้านของผมและทำร้ายผมจนสลบเมื่อคืนนี้ พอผมตื่นมา หลักฐานทั้งหมดก็ถูกทำลายไปแล้ว ผมแน่ใจว่าทิฟฟานี่เป็นคนที่ส่งชายใส่หน้ากากนั่นมา!” รอยยิ้มเย็นเยือกปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของชา
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา