“Wow this is so good”
สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์
“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?”
สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง
ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน
“Oh Something slips my mind !”
สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อนที่สนามบินทันทีที่ไปถึง
“เรียม ! แกคุยกับฉันแค่สองคน ไม่ต้องสปีกอิงลิงซ์ก็ได้ !”
เพื่อนสาวเริ่มหงุดหงิดเพราะเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบินข้ามภูเขาข้ามทะเลจากบ้านเกิดมาไกลถึงอีกซีกโลกหนึ่ง ต้องทนนั่งเครื่องบินนานกว่า 22 ชั่วโมง !
“I’m so sorry”
สาวผิวสีน้ำผึ้งรีบตะคุบปากตัวเองที่เผลอพูดภาษาอังกฤษออกมา เพื่อนสาวถึงกับส่งค้อนวงใหญ่ให้ แต่คนปากไวก็ลดเสียงลงพร้อมกับเอ่ยเป็นภาษาบ้านเกิดแทน
“โอ๋ ๆ ชะเอม หมู่ฮักหมู่แพง เฮาขอโทษ”
“ยะ ! แล้วกรุณาเรียกฉันว่า –เอ็มมี่- บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกชะเอม มันเชย !”
คนถูกเรียก “ชะเอม” ส่งค้อนให้เพื่อนตัวดีอีกรอบ โทษฐานที่ชอบเรียกชื่อเฉย ๆ ออกมา
แม้หล่อนจะเป็นคนอีสานเหมือนกับเพื่อนสาว แต่เมื่อเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ หล่อนก็บอกกับเพื่อนๆ ทุกคนว่าชื่อ “เอ็มมี่” และปฏิบัติตัวเยี่ยงคุณหนู ใช้ของแบรนด์เนม เดินห้างจับจ่ายซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแทบทุกสัปดาห์ นับตั้งแต่นั้นมา เอ็มมี่ก็ไม่เคยพูดภาษาอีสานอีกเลย
ซึ่งต่างจาก “นางสาวเรียม ขวัญนา” ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหล่อนก็ยังคงชอบพูดอีสานเหมือนเดิม รวมถึงการเป็นหญิงสาวที่มีพลังอย่างเหลือเฟือ
ร่างบอบบางผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดนั้นไม่รู้เจ้าหล่อนเก็บพลังไว้ที่ไหนมากมาย การเดินทางรอนแรมไม่ทำให้เพื่อนสาวแสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอที่อยากจะเข้าที่พักใจแทบขาด ยิ่งมองเห็นฝรั่งตัวโตทั้งผิวดำผิวขาวเดินกันขวักไขว่ละลาน ยิ่งทำให้รู้สึกมึนๆ ในหัว มองไปทางไหนก็มีแต่สิ่งที่ใหญ่โตกว่าบ้านเมืองที่หล่อนจากมา
“ป้าเดือนบอกว่า เอื้อยดาวสิมาฮับอยู่สนามบิน”
เสียงแจ้ว ๆ ภาษาอีสานของเรียมบอกกับเพื่อนให้วางใจ เพราะป้าเดือนเจ้าร้านขายน้ำปั่นที่อยู่ข้างร้านส้มตำของหล่อนเป็นคนแนะนำให้หล่อนและเพื่อนมาทำงานกับลูกสาวของตนที่อเมริกา
ป้าเดือนแกสาธยายไว้เสียเยอะว่า นังดาวมันส่งเงินกลับมาให้แกเดือนละหลายหมื่น ร้านใหม่ บ้านใหม่ ก็เพราะเงินของลูกสาวแก และเด็กสาวหลายๆ คนในหมู่บ้านที่ถูกชักชวนให้ไปทำงานกับลูกสาวแกก็เริ่มทยอยส่งเงินกลับมาให้พ่อแม่ที่บ้านนอก
ดังนั้น เมื่อเรียมจบปริญญาตรีแล้วยังหางานทำไม่ได้ แม่จึงฝากฝังหล่อนให้ไปทำงานกับลูกป้าเดือน โดยป้าเดือนจะเป็นคนดำเนินการให้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งเรื่องที่อยู่ที่กินที่อเมริกา
“ไหนหล่ะ ? พี่ดาว ฉันไม่เห็นใครจะหน้าตาเหมือนคนไทยสักคน มีแต่ฝรั่งตัวเหม็น ๆ”
เอ็มมี่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ นี่ถ้าอยู่เมืองไทยหล่อนคงจะแล่นกลับไปนอนตากแอร์ที่บ้านเสียนานแล้ว ถ้าไม่เพราะอยากจะได้ชื่อว่า “ได้ทำงานที่อเมริกา” หล่อนก็คงไม่เสนอตัว ขอมาทำงานเป็นเพื่อนยัยเรียมคนซื่อหรอก !
“ใจฮ่ม ๆ เด้อคุณเอ็มมี่ เอ๊ะ ! นั้น ! แมนเอื้อยดาวบ่ ? เอื้อยดาว ! เอื้อยดาว ! ทางนี้ ๆ”
เรียมโบกไม้โบกมือตะโกนเรียกสาวสวยสุดเซ็กซี่ในชุดลายเสือภายใต้เสื้อโค้ทหนังสีดำวาว
เอ็มมี่ยกมือขึ้นขยับแว่นตากันแดด แล้วก้าวห่างออกจากเพื่อนสาวที่ส่งสำเนียงอีสานตะโกนโหวกเหวก แม้ว่าจะอยู่ในอเมริกาที่ไม่มีใครรู้จักหล่อนก็ยังรู้สึกกระดากอายอยู่ดี หากต้องยืนใกล้ ๆ เพื่อนสาวที่ออกอาการราวกับบ้านนอกเข้าเมือง
“Hi ! เรียม !”
สาวผิวสีแทนออกคล้ำกว่า ทรวดทรงใหญ่โตมหึมากว่าสาวน้อยที่ยืนโบกมือ ส่งเสียงทักทายเมื่อเดินมาถึง
“เอื้อยดาว ! เอื้อยดาวอีหลีตั๋วนิ !”
เรียมโผเข้าจับมือเรียวที่เต็มไปด้วยแหวนทอง พลางเขย่าอย่างดีใจที่ได้พบคนบ้านเดียวกันในต่างแดน
“ยินดีต้อนรับสู่แดนศิวิไลซ์ ที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ! และทุกอย่างที่เราอยากได้ !”
ดาวยิ้มต้อนรับวางมืออีกข้างทับลงที่มือเด็กสาว ที่จะกลายเป็นพนักงานคนใหม่ของ “ร้านสปาแดนสรวง” ในอีกไม่กี่ชั่วโมง
“ขอบใจเอื้อยดาวหลายๆ ที่ให้ข้อยมาทำงานนำ”
เรียมยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็ก ๆ เรียงเป็นระเบียบ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ก็คนเป็นเดียวกัน มีอะไรดี ๆ พี่ก็อยากให้แนะนำน้อง ๆ ให้ทำด้วย เอ่อไหนว่ามากันสองคนแล้วอีกคนไหนหล่ะ ?”
“คาแต่ดีใจ ลืมไปเลยจ้า เอ้า ! เอ็มมี่มานี่ มานี่”
เรียมก้าวฉับ ๆ ไปดึงมือเพื่อนสาวให้เข้ามาอยู่ในวงสนทนา
“เอ็มมี่ ลูกสาวป้าชบาเจ้าของตลาดใช่ไหม ?”
“ค่ะ”
ลูกสาวเจ้าของตลาดตอบสั้น ๆ สำรวจคู่สนทนาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเบ้ปากพลางคิดในใจ –โถ ๆ มาอยู่อเมริกาตั้งนาน รสนิยมการแต่งตัวได้เท่านี้ ฉันยังดูดีกว่าตั้งเยอะ- หญิงสาวกระชับเสื้อคลุมสีน้ำตาลแต่งขนสัตว์ฟูฟ่อง เชิดหน้าขึ้น
“โตขึ้นแล้วหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวสวยเหมือนกันนะเรานิ”
สาวอาวุโสกว่าพินิจสาวน้อยที่แสนจะยโสตรงหน้า ก็สมควรอยู่หรอกที่หล่อนจะถือตัว เพราะเอ็มมี่เป็นถึงลูกสาวเจ้าของตลาด
“ขอบคุณค่ะ”
เอ็มมี่ยิ้มรับน้อย ๆ ชอบที่จะให้คนชมว่าสวย
“แต่ขาว ๆ แบบนี้ฝรั่งเขาไม่ชอบหรอกนะ เขาชอบผิวเข้ม ๆ แบบนางเรียมนี่”
ดาวเอ่ยต่อท้าย
เอ็มมี่แทบจะหุบรอยยิ้มแห่งความภูมิใจในความสวยไม่ทัน ปากบางเชิดขึ้น เม้นสนิทสะกดอารมณ์ที่อยากจะกรีดใส่หญิงสาวตรงหน้า อย่างไรเสียหล่อนก็ต้องพึ่งพาผู้หญิงคนนี้จนกว่าจะหางานที่ถูกใจได้ และหลอนจะทนแค่ไม่นาน คนอย่างเอ็มมี่ ลูกสาวเจ้าของตลาดจะไม่ยอมทำงานในร้าน สปาเป็นพนักงานชั้นต่ำเหมือนกับเรียมเป็นแน่ !
“ฮ่า ๆ เอื้อยดาวกะซ่างล้อเล่นเนาะ ถึงเรียมสิเป็นสเปกฝรั่ง แต่เรียมกะบ่มักเด้อ พวกฝรั่งขี้นก มักแต่เงิน ! เรียมสิฟ้าวทำงานเก็บเงินให้ได้หลาย ๆ ส่งไปให้แม่”เรียมสื่อสำเนียงอีสานอย่างแสนซื่อบริสุทธิ์หญิงสาวที่ชักนำนำน้อง ๆ ให้มาทำงานยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า“ขอเพียงทำตัวน่ารัก ๆ เชื่อฟังพี่ ๆ และตั้งใจทำงาน กี่หมื่นกี่แสนพวกเธอก็จะได้”“ฉันไม่ทำงานในร้านสปา !”เอ็มมี่ประกาศจุดยืนของตน“เอาเถอะ เธอจะทำหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ แต่ตอนนี้มันจะเย็นแล้ว พี่ว่าเราไปที่พักกันเลยดีกว่า”ดาวก้าวนำสองสาวออกมาจากสนามบิน โดยไม่ใส่ใจกับอาการเก้ ๆ กัง ๆ ลากกระเป๋าใบโตของลูกคุณหนูอย่างสาวเอ็มมี่เท่าใดนัก มีเพียงเพื่อนสาวที่คอยรอ รอช่วยลากกระเป๋าทั้งของตนและของเพื่อน และแล้วรถตู้ก็พาสองสาวจากแดนอีสาน มาถึงที่ร้านสปาแดนสรวง ตึกสูง 4 ชั้นเบียดตัวแทรกขึ้นกับตึกอื่นๆ บ่งบอกถึงการเป็นร้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้ ร้านสปาในรูปแบบไทยแท้ มีพนักงานเป็นคนไทย แต่เจ้าของตัวจริงคือชาวอเมริกัน ทันทีที่ลงจากรถ ดาวก็นำสองสาวเดินเข้าร้านชั้นหนึ่งเปิดเป็นร้านสปาและบริการนวด ผ่า
เรียมตวาดกลับสำเนียงภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ แม้หล่อนจะดูเป็นเด็กสาวใสซื่อ แต่เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม หล่อนก็ไม่ยอมให้ใครรังแกได้“ไม่ได้ขู่ แค่เล่าความจริงให้ฟัง ฮึ ฮึ”อีวานหยิบซิการ์ขึ้นมาพ่นต่ออย่างสบายใจ“เอื้อยดาว ! เรียมบ่เฮ็ด หัวเด็ดตีนขาดหนูกะบ่เฮ็ด !”เรียมหันไปบอกกับพี่สาวบ้านเดียวกัน เสียใจอย่างสุดซึ้งที่ถูกคนบ้านเดียวกันหลอกให้มาขายตัว“ถ้าไม่ทำ ก็คืนเงินค่าทำวีซ่า และค่าตั๋วมาทั้งหมดก็แสนกว่าบาทเอง”สาวที่นั่งไขว่ห้างพูดด้วยทีท่าสบายๆ เรียมกัดฟันจนเจ็บ! เจ็บใจที่ทั้งแม่และตนหลงเชื่อป้าเดือนที่ถูกพี่ดาวหลอกต่ออีกทอดว่าทำงานที่ร้านสปาหรูรายได้งาม ที่แท้พี่ดาวก็เป็นแม่เล้าคอยหาเด็กสาวๆ ป้อมเข้าสู่วงการค้ามนุษย์!!!“เงินแสนเดียว ! ฉันมีปัญญาจ่าย !”พูดจบเอ็มมี่ก็กระทืบเท้าแล้วหมุนตัวจะออกไปจากห้อง เรียมได้แค่ยืนนิ่ง มือชื้นไปด้วยเหงื่อ ครอบครัวของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับเอ็มมี่ หัวใจของเรียมเริ่มเต้นแรงหล่อนไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกคนใกล้ตัวหลอกมาขาย ถ้าหล่อนหนีไป แม่ก็ต้องมีหนี้เป็นแสน แต่ถ้าหล่อนขายตัวที่นี่หล่อนก็เท่ากับตายทั้งเป็น“เอื้อยดาว เห็นแก่คว
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เรียมออกแรงวิ่งหนีสุดชีวิต หัวใจของเธอมันแทบจะกระดอนออกมาด้านนอกหนีก็ตาย ไม่หนีก็ตายทั้งเป็น หล่อนจึงเลือกที่จะหนีอย่างน้อยก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรี!“หยุด ! หยุดเดี๋ยวนี้ !”เจ้ายักษ์ผิวหมึกพร้อมอาวุธปืนวิ่งตึง ๆ วิ่งไล่หลังมาเรื่อย ๆ ร่างปราดเปรียว ในชุดสุดเซ็กซี่วิ่งหายลับไปที่มุมทางเดิน หล่อนหันซ้ายหันขวาสองฝั่งทางเดินไม่มีทางให้หล่อนวิ่งหนีได้อีกต่อไปแล้ว เรียมหอบหายใจจนเจ็บหน้าอก เสียงฝีเท้ายิ่งดังใกล้เข้ามา หล่อนยิ่งใจระทึก ชั่ววินาทีนั้นหล่อนตัดสินใจผลักประตูห้องที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด เมื่อปิดประตูลง มือเรียวก็รีบลงกลอนด้านในประตูห้องทุกจุด แล้วหล่อนแนบหลังพิงประตูด้วยใจระทึก อย่างน้อยกว่าพวกมันจะพังประตูเข้ามาได้หล่อนอาจจะสามารถติดต่อกับคนภายนอกได้ ! เสียงฝีเท้าเจ้าหมึกยักษ์วิ่งไปมาอยู่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงสบถของคนอีกสองสามคน แสดงว่าทุกคนรู้แล้วว่าหล่อนหนีออกจากห้อง“เฮ้ย ! ห้องนี้ไม่ได้ ! ห้องวีไอพีห้ามเข้า”เสียงหนึ่งดังแว่ว ๆ ภายนอกห้อง เรียมพยายามเงี่ยหูฟังได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้า
ปากหนาบดจูบหนักหน่วง มือใหญ่ของชายหนุ่มช้อนเข้าที่ลำคอด้านหลังของหล่อน กดหล่อนให้แนบชิดเพื่อที่เขาจะได้จูบอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้นจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! “อืมมมมมมม อ่า”“อึก อ่า”หญิงสาวหลับตาพริ้มโดยอัตโนมัติ เธอเผยอปากรับลิ้นร้อนฉ่าของชายหนุ่มให้ซอกซอนรีดเอาความหวานในโพรงปากอุ่นอย่างฉ่ำใจ หล่อนเคลิบเคลิ้มไปกับความรัญจวนที่เขามอบให้ จนครางผะแผ่ว“อือ อ่อย”“จ๊วบ อืมมมมมมมมม อ่า”ชายหนุ่มคำรามในอกอย่างพึงพอใจ เมื่อลิ้มลองความหวานฉ่ำของกลีบปากบาง เลือดในกายบุรุษเดือนพล่านไปทั้งร่างเมื่ออกอวบๆ แนบชิดเสียดสีกับแผงอกกำยำ สองมือของเขาลูบไล้เล้าโลมร่างบางบนตักอย่างถ้วนทั่ว คอ ไหล่ หลัง เลื้อยลงต่ำแล้วช้อนแก้มก้นกลมกลึงของหล่อน มือหนาบีบเบา ๆ ก่อนจะลากกลับขึ้นข้างบน สัมผัสของเขาสร้างกระแสไฟสวาทให้ลามเลียร้อนผะผ่าวไปทั่วร่างอรชรจนหล่อนครางฮือในลำคอ“อือ อ่า”จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ !จูบของชายหนุ่มผู้ที่เธอเพิ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรก มันช่างเร่าร้อนยิ่งนัก สติที่มีเหลืออยู่อันน้อยนิดสั่งให้เธอผลักเขาออก แต่หล่อนก็ไม่อาจกระทำได้ดังที่สมองสั่ง เมื่อเสียงหัวใจของเธอมันเต้นระทึกยิ่งกว่าการวิ
เขาเกิดมาทั้งชีวิตไม่มีใครกล้าด่าเขาสักคน ! ผู้หญิงทุกคนล้วนพะเน้าพะนอเอาใจเปรียบเขาเป็นดั่งเทพบุตร อยากขึ้นเตียงกับเขาจนแทบดิ้น ! แต่สาวตุ๊กตาเอเชียคนนี้ นอกจากหล่อนจะผลักไสไล่ส่งราวกับหมู่กับหมาแล้ว ยังด่าเขาไม่เหลือชิ้นดี ! และเขาก็เป็นพวกชอบความท้าทายเสียด้วยสิ ! ยิ่งเกลียด ยิ่งขับไล่ เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ !“ฮ่า ๆ ใช่ ! ฉันไม่ใช่คนดีเท่าไหร่หรอกแม่ตุ๊กตาเอเชีย และคนเลว ๆ อย่างฉันจะพาเธอขึ้นสวรรค์จนแทบลืมโลกมนุษย์เชียวหล่ะ”ชายหนุ่มไล้มือตามแก้มเนียนต่ำเรื่อยลงมาจนถึงเนินอกที่ทะลักออกมาจากเกาะอกจนเห็นเป็นร่องนูนเบียดกันสองเนินอวบ ๆ มือหนาถึงกับสั่นระริก แก่นกายของเขามันร้อนฉ่าขึ้นทันที“นะ นายจะทำอะไรฉัน !”สาวน้อยถามเสียงสั่น พยายามเบี่ยงหลบเพื่อให้อกสล้างขยับห่างจากมือหนา แต่ร่างกลับไม่ขยับเพราะถูกเขาจับตรึงไว้“ก็ทำ..อย่างที่เธออยากให้ฉันเป็นอย่างไรเล่า ไอ้หื่นกาม !”เสียงทุ้มตวาดแรง พร้อมกับมือหนาที่กระชากเกาะอกสีดำออกจากเรือนร่างอรชรกรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ! ! !ร่างอรชรดีดขึ้นตามแรงกระชากเสื้อ แล้วหล่นกลับลงพื้นโต๊ะเมื่อเสื้อหลุดออก อกอวบๆ เด้งไหว
“ฮึ ฮึ ไอ้คนทุเรศ ๆ มันจะทำให้เธอรู้ว่าสวรรค์ชั้นแรกเป็นอย่างไร !” สิ้นเสียง ชายหนุ่มก็ถอนมือออก แล้วแทนที่ด้วยปากร้อนฉ่า ปลายลิ้นชื้นสากชำแรกลงที่รูหอย ตวัดเลียน้ำหวานของหล่อนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะกดปลายลิ้นร้อนลากปาดขึ้นด้านบนจนถึงตุ่มไตหอยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาใช้ปลายลิ้นทั้งร้อนทั้งสากสะกิดรัว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แผล็บ ! แผล็บ ! แผล็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จ๊วบ ! จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ อ๊ะ อ๊ะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อร้ายยยยยยยย” ลิ้นร้อนปาดป่ายไปทั่วเนื้อหอยฉ่ำเยิ้มราวกับลิ้นของอสรพิษที่ว่องไวอย่างร้ายกาจ ความเสียวซ่านแปลบปลาบมันแล่นไปทั่วกายสาวจนร่างอรชรบิดเร่า ๆ “อือออออออ อะ มะ ไม่ไหววววววว อื้อ”เรียมครางราวกับคนจับไข้ ทั้งปาก ทั้งลิ้นแลฟันของเขา มันเร้าอารมณ์ของหล่อนให้กระเจิดกระเจิง ความเสียวซ่านมากจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ แผล็บ ! แผล็บ ! แผล็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆจ๊วบ ! จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบสะโพกของหล่อนโยกส่ายขึ้นลงตามจังหวะลิ้นที่โรมรันเข้าดูดดื่มชำแรกหอยฉ่ำ ๆ น้ำหล่อนทะลักออกมาจนเลอะทั่
ชายหนุ่มค่อย ๆ ขยับสะโพก วนเบา ๆ คลึงสะโพกใส่ร่องหอยเพื่อให้กายสาวคุ้นเคยกับแก่นกายเขา จนร่องสวาทชื้นฉ่ำ เคลื่อนยับแก่นได้ง่ายขึ้น“อู้ยยยย ยะ หยุด อื้อ อ่า อ่อยยยย”เสียงครางครวญปนเสียงร้องห้ามผะแผ่วของเรียมดังขึ้นทันที ที่ชายหนุ่มละปากออกจากเธอ“ฮึ ฮึ สาวน้อยปากกับใจไม่ตรงกันเลยนะ เธอบอกให้ฉันหยุด แต่ดูหอยเธอสิกลืนกินแก่นของฉันจนหมดเลย โอ้วววววววว ซี้ดดดดดดดดดดดดดด อ่า”ชายหนุ่มถึงกับครางซู้ดปาก แก่นกายเขาแทรกเข้าในรูคับตรึงแน่นลึกล้ำยิ่งขึ้น เพราะแม่สาวน้อยหยัดสะโพกเสียดสีด้วยความเสียวซ่านที่เข้ามาแทนที่ความเจ็บปวด หล่อนถึงกับแปลกใจในความทรมานที่แสนจะสุขสมที่เกิดขึ้นนี้“ฟังฉัน แม่สาวน้อย อื้อ ชื่อฉัน มาร์ค”ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้น บังคับตัวเองไม่ให้เร่งรุดกระหน่ำใส่หล่อนตามที่ใจต้องการ กรามเป็นสันขบแน่นขณะที่บัญชากับสาวน้อยใต้ร่าง มือใหญ่ประคองหน้าคมสวยไว้ในอุ้งมือ บังคับให้ดวงตาปรือฉ่ำสุดเซ็กซี่นั้นมองที่เขา เพื่อให้หล่อนจนจำใบหน้าผู้ชายที่จะได้ลิ้มรสความสาวสดของเธอเป็นคนแรก“คนที่จะพาเธอสู่สรวงสวรรค์เป็นคนแรก !”เขายกขาเรียวข้างหนึ่งให้พาดบ่าแกร่งของตน มือซ้ายจับขาเ
แรงสะอื้นทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มเหยียด “ถ้าเธอไม่ดื้อ ปากเก่งกับฉันก่อน ครั้งแรกของสาวสวยอย่างเธอก็คงจะนุ่มนวลกว่านี้”เขาพูดราวกับว่าสิ่งที่เกิดเป็นเรื่องธรรมชาติ และการพรากความบริสุทธิ์ของหญิงสาวเป็นสิ่งที่เขากระทำอยู่บ่อย ๆ สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เธอยิ่งเกลียดผู้ชายตรงหน้าจนแทบอยากจะบีบคอเขาให้ตาย !“ไอ้สารเลว ! ไอ้ชั่ว ! ออกไป ออกไป๊”มือน้อยทั้งดัน ทั้งรัวทุบลงกลางแผ่นหลังชายหนุ่มอย่างสุดแรงเท่าที่เหลืออยู่ เพื่อให้เรือนร่างกำยำห่างออกจากร่างเธอ“ฮึ ! คำก็สารเลว สองก็สารเลว ฉันบอกว่าชื่อมาร์ค !”คนตัวใหญ่รวบมือคนก่นด่าเขา ตรึงไว้เหนือศีรษะ ที่ผมยาวดำขลับสยายออกจนเป็นแพรไหม“จะมาร์ค จะหมาที่ไหนฉันไม่สน ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ! ไอ้คนสกปรก !”แม้ร่างของเธอจะขยับไม่ได้ แต่ปากของเธอยังขยับได้ หล่อนจึงพ่นคำรุนแรงออกมาเป็นชุด“อะ อะ นอกจากจะปากจัดแล้ว ยังขี้ลืมอีกแล้วนะ ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยฟื้นความจำให้ว่าฉันชื่อมาร์ค !”สิ้นคำ ชายหนุ่มก็ช้อนสะโพกกลมกลึงของหล่อนยกขึ้นอุ้มกรี้ดดดดดดดดดดดคนปากดีกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ แขนสองข้างโอบรอบคอเขา