หลังจากทนสู้ชีวิตผ่านวันเสาร์และวันอาทิตย์มาอย่างยากลำบาก ก็ถึงวันจันทร์ที่รอคอย ถึงแม้ต้องตื่นไปเรียนแต่ยังดีที่อย่างน้อยก็มีเรียนตอนเก้าโมง ร่างบางในชุดนักศึกษาเดินลงจากรถหรูแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังตึกเรียนของตัวเอง
“มีญ่า!” เธอหันไปมองเจ้าของเสียงที่เรียกตัวเองเมื่อครู่ พบว่าเป็นเฟย์ที่เดินโบกมือยิ้มให้มาแต่ไกล “ฉันว่าวันนี้ฝนตกแน่ๆ เลย แกมาเรียนเช้า” เฟย์แซวมีญ่า “ว่าแต่ฉัน แกก็ด้วยนั่นแหละ” “ฮ่าๆ ไม่งั้นเราจะเป็นเพื่อนกันได้เหรอ เป็นไง ไปดูงานสองวันที่ผ่านมา” เฟย์หัวเราะร่า ก่อนจะถามถึงการไปดูงานที่โรงพยาบาลของเพื่อนสนิทด้วยความอยากรู้ “ก็โอเค” เฟย์หันไปมองมีญ่า เมื่อได้ยินคำตอบที่ดูเหมือนจะดีแต่ก็ไม่เพราะฟังจากน้ำเสียงของเพื่อนสนิท “ไม่โอเคเหรอ?” “บอกไม่ถูก” เธอตอบ ยัยสองคนรู้แค่เธอไปนอนกับผู้ชายแต่ไม่รู้ว่าใครเธอไม่กล้าเล่าเรื่องคืนนั้นกับเพื่อนว่าคนที่ตัวเองไปนอนด้วยคืนวันเกิด คือ หมอไรอัน หากเป็นผู้ชายคนอื่นเธอคงกล้าเล่าให้ฟัง “หมอรวิกรเป็นไง พอได้ทำงานด้วย” “เก่ง ความรู้เยอะ” เฟย์ฟังแล้วถึงกับขมวดคิ้ว เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน เป็นหมอก็ต้องเก่งและมีความรู้เยอะอยู่แล้วหรือเปล่า แต่ดูท่าทางของเพื่อนแล้วไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไรจึงเลือกที่จะไม่ถามต่อ ทั้งสองคนเดินไปยังห้องเรียน นักศึกษาคนอื่นๆ ก็ทยอยเดินเข้าห้องเรียนเช่นเดียวกัน ในขณะที่มีญ่าพยายามตั้งใจฟังอาจารย์สอน แต่สมองกลับล่องลอยไปกับเรื่องของไรอัน ‘ไม่ได้ตั้งใจเหมือนคืนนั้นที่…เข้ามาขอจูบรึเปล่า’ ‘ฉันเก่งเรื่องจำมากนะ โดยเฉพาะจำเรื่องแบบนั้น’ ‘แต่ถ้าหากเธอลืม ฉันก็จะช่วยทบทวนความทรงจำให้ รับรองเลยว่ามันกลับมาแน่นอน’ เธอส่ายหัวแรงๆ หวังจะไล่ภาพเหล่านั้นออกจากหัว แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล ยิ่งพยายามไม่คิดยิ่งคิด จนตอนนี้เธอใกล้เป็นบ้าอยู่แล้ว ช่วงพักเที่ยง หลังจากหมดคาบแรก มีญ่าและเพื่อนสนิทสองคนออกมาหาอะไรกินที่โรงอาหาร เมื่อมีญ่าได้อาหารกลางวันแล้วจึงเดินกลับมายังโต๊ะที่จองเอาไว้ ธารน้ำกับเฟย์ก็เดินตามมาพร้อมกับอาหารของตัวเอง “อะ ซื้อมาให้ เห็นวันนี้แกดูอารมณ์เสีย” เฟย์พูดพร้อมกับยื่นน้ำหวานร้านประจำของมีญ่าไปให้ “รู้ใจจัง” เธอรับน้ำหวานแก้วนั้นมา ก่อนจะดูดน้ำหวานเข้าไปอึกใหญ่ ความหวานเย็นชื่นใจช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง “ฉันบอกแล้วว่าของหวานช่วยได้” เฟย์ยิ้มภูมิใจ “พวกแกๆ เห็นผู้ชายกลุ่มนั้นตอนเดินผ่านมะ หล่อมากเลย!” ธารน้ำพูด พลางชี้นิ้วไปยังผู้ชายหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาภายในโรงอาหาค “ใคร?” เฟย์รีบถามพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “คณะอะไร?” “ไม่แน่ใจนะ แต่ดูเหมือนจะเป็นวิศวะ” ธารน้ำพูด “หล่อจริงด้วย คนฝั่งขวาสุดหล่อนะ” เฟย์พูด “แต่ฉันชอบคนใส่แว่นอะ ดูอบอุ่น” ธารน้ำยิ้มกริ่ม “อบอุ่นหรือชอบเด็กเนิร์ด?” เฟย์แซวทันที “แกก็พูดไป!” ธารน้ำหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเริ่มกินข้าวของตัวเอง ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยหัวเราะกันอย่างออกรส มีญ่ากลับนั่งเงียบ มือถือช้อนอยู่แต่ไม่ได้แตะอาหารบนจาน นัยน์ตาคู่สวยดูเหม่อลอยราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ไกลๆ “นี่!” เฟย์เรียกเสียงดังพลางเขย่าแขนมีญ่าเบาๆ “วะ…ว่าไง” เมื่อได้สติ เธอรีบขานรับเพื่อนทันที “แกเป็นอะไร เห็นนั่งเหม่อลอยตั้งนานแล้ว” ธารน้ำถามพลางขมวดคิ้วมองเพื่อนสนิท “เปล่า ไม่มีอะไร” เธอส่ายหน้าพลางส่งยิ้มจางๆ ให้ “แน่ใจ? ฉันเห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่ในห้องเรียนแล้วนะ” เฟย์พูด “ไม่มีอะไรจริงๆ” เธอยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะตักข้าวเข้าปากเพื่อกลบเกลื่อน และพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ ธารน้ำและเฟย์หันมามองหน้ากัน ทั้งคู่เลือกที่จะไม่ถามมีญ่าต่อ “พรุ่งนี้อาจารย์ยกคลาส คืนนี้ออกกันไหม พักมาตั้งหลายอาทิตย์แล้ว” ธารน้ำเริ่มชวนเพื่อนไปดื่มคืนนี้ “เอาสิๆ” เฟย์ตอบอย่างรวดเร็ว “แกล่ะมีญ่า” คราวนี้สองสาวหันไปมองมีญ่าพร้อมกัน เป็นธารน้ำที่เอ่ยถาม “อือ ไปก็ไป” ดีเหมือนกัน คืนนี้จะดื่มให้เมาจนลืมหน้าคุณหมอรวิกรและเรื่องคืนนั้นไปเลยคอยดูสิ! “ดีล!” ธารน้ำพูดด้วยรอยยิ้มแล้วหันกลับมากินข้าวต่อ ••• เสียงเพลงดังสนั่นไปทั่วทั้งไนต์คลับ แสงไฟสลับสีสาดส่องเป็นจังหวะ ร่างบางของมีญ่าในชุดเดรสสีดำเข้ารูปกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะโซฟามุมหนึ่ง เธอถือแก้วเครื่องดื่มในมือพร้อมกับหัวเราะไปกับธารน้ำและเฟย์ที่กำลังพูดคุยถึงเรื่องราวไร้สาระอย่างสนุกสนาน “แกนี่มันร้ายจริงๆ เลยนะธารน้ำ! ได้ผู้ตลอด!” เฟย์แซวเพื่อน “ก็ผู้ชายคนนั้นมองฉันตั้งนานแล้ว ฉันก็แค่มองกลับทและเขาก็เดินมาขอไอจีเอง” ธารน้ำยักคิ้วเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ เธอขำไปกับเพื่อน พลางเอนตัวพิงเบาะโซฟา สายตาเหลือบมองไปรอบๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาจากทางประตู ไรอัน… เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำแถมยังปลดกระดุมลงมาสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกกำยำ ใบหน้ายังคงดูไร้อารมณ์เหมือนเดิม แต่กลับดึงดูดสายตาคนทั้งไนต์คลับได้ไม่ยาก ข้างกายเขามีผู้ชายอีกสองคนที่ดูจะเป็นเพื่อนสนิทกำลังหัวเราะคุยกันอย่างอารมณ์ดี มีญ่านั่งตัวแข็ง หัวใจเต้นแรงจนแทบไม่ได้ยินเสียงเพลงรอบข้าง เธอรีบหลบสายตาก้มลงจิบเครื่องดื่มในมืออย่างพยายามทำตัวให้ดูปกติ แต่แล้วเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ไรอันกลับยืนอยู่ตรงโต๊ะบาร์ ห่างจากโต๊ะของเธอเพียงไม่กี่ก้าว สายตาคมของเขากำลังมองมาทางเธอ… ดวงตาคมเข้มของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ เธอหลบสายตาแทบไม่ทัน ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกวุ่นวายในใจ ไรอันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ เขาหันกลับไปคุยกับเพื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลางเหลือบมองมีญ่าเป็นระยะ ทำไมเธอต้องเจอเขาที่นี่ด้วย แถมที่นี่ยังเป็น…จุดเริ่มต้นของคืนนั้นอีกด้วย กะจะมาดื่มให้เมาจนลืมเรื่องคืนนั้น แต่ดันกระตุ้นให้มันหนักกว่าเดิมเสียงเพลงภายในไนต์คลับยังคงดังก้องไปทั่ว แต่ในหัวของมีญ่ากลับวุ่นวายไม่แพ้กัน หญิงสาวนั่งอยู่กับเพื่อนสนิท แต่ความคิดกลับจดจ่ออยู่ที่ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ ซึ่งตอนนี้กำลังเดินตามการ์ดของร้านที่มีป้ายคำว่า ‘VVIP’ ติดอยู่ตรงอกเธอละสายตาไปจากเขา หันกลับมายกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาดื่มพลางพูดคุยกับเพื่อน พยายามทำตัวให้ปกติ แต่ทว่าสายตาก็อดเหลือบมองคุณหมอไรอันไม่ได้ การมาของเขาและเพื่อนสร้างความตื่นเต้นในแก่สาวๆ ที่นี่ไม่ใช่น้อยสาวๆ โต๊ะยืนข้างหน้าสะกิดกันให้มองไปยังโซนVVIP แล้วกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ คนใส่แว่นที่ดูเรียบร้อยแต่ท่าทางดูขัดกันเหมือนจะสนใจไรอัน เพราะชี้ไปยังคนที่นั่งทางขวาสุดซึ่งก็คือไรอัน ส่วนคนอื่นๆ ก็ชี้นิ้วจับจองกันอย่างสนุกสนาน“คนขวาสุดนั่นหล่อมาก!” เสียงผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ดังลอดเข้ามา“โอ๊ย! นั่นสิ หล่อยังกับเทพบุตร!” อีกคนเสริมเสียงตื่นเต้น“ฉันจองคนซ้ายสุด!”“งั้นฉันขอคนตรงกลาง”“คนขวาสุดดูนิ่งๆ แต่โคตรหล่อเลยอะ! ฉันจองนะ!”มีญ่ากำลังจะก้มหน้ามองโทรศัพท์ต่อ แต่สายตากลับเหลือบไปมองไรอัน เขากำลังเอนตัวพิงโซฟาหรูในโซน VVIP มือข้างหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่มแล้วพูดคุยกับเพื่อนป
“กลับไหวไหมมีญ่า” ธารน้ำเอ่ยถามมีญ่าด้วยความเป็นห่วง “ไหวๆ”“โอเคๆ งั้นเจอกันนะ ถึงคอนโดแล้วบอกด้วย”“อื้ม” เธอตอบธารน้ำสั้นๆ ก่อนจะตั้งสติแล้วเดินให้ตรงที่สุดไปยังรถของตัวเอง เมื่อมาถึงรถจึงนั่งยองๆ ข้างรถเพื่อให้ตัวเองหายมึนหัว แสงไฟในผับบวกกับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้รู้สึกเบลอไปหมด หลังจากทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติก็เริ่มเปิดกระเป๋าหากุญแจรถ“น้องมีญ่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ”เสียงนั้นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมอง“หากุญแจรถค่ะ” เธอตอบ พลางประคองตัวเองให้ลุกขึ้น“เมาเหรอ?”“เปล่าค่ะ” เธอปฏิเสธทันที ตั้งแต่ที่ซันทำท่าจะลวนลามเธอในผับ เธอก็เริ่มระแวงเขามากขึ้น“ถ้าเมาก็บอกพี่ตรงๆ ได้นะ”“แล้วพี่ซันล่ะคะ เมาไหม” เธอเลี่ยงตอบตรงๆ และเลือกที่จะถามเขากลับแทน“ไม่เท่าไรครับ”“อ๋ออ มีญ่าว่าจะกลับแล้ว เอ่อ…พี่ซันช่วยหลีกทางให้มีญ่าได้ไหมคะ” เธอบอกเขาที่ยืนขวางประตูฝั่งคนขับ“ให้พี่ไปส่งไหม” ซันพูดขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะ”“เมาขนาดนี้ ขับรถกลับเองมันอันตรายนะ”“มีญ่าไม่ได้เมา…”“พี่ดูออก” ซันสวนขึ้นมาทันทีที่มีญ่าพูดจบพรึ่บ!ซันฉวยโอกาสแย่งกุญแจรถในมือของมีญ่าไปอย่างอุกอาจโดยที่เจ้าของรถยังไม่ได้อน
“ฉันต้องการเหมือนคืนนั้น”หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งตามประโยคนั้นของเขา นั่นไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาไว้ว่าต้องจ่ายเพื่อปิดปากเขาไม่ให้บอกคุณพ่อ เขาต้องการเหมือนคืนนั้น…คำพูดนั้นยังคงลอยวนเวียนอยู่ในหัว ไอร้อนแผดเผาไปทั่วใบหน้าจนรู้สึกได้ คืนนั้น…เธอไม่เคยลืมเลยไม่คาดว่าเขาจะต้องการเหมือนคืนนั้นอีกครั้ง เธอคิดว่าเขาคงไม่ประทับใจเซ็กซ์ของเธอ เพราะนั่นเป็นครั้งแรกของเธอมือหนาจับตรงคางเรียวแล้วดันใบหน้าสวยหวานให้หันกลับมามองตัวเอง ดวงตาคมเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยจนมองเห็นความอ่อนไหว“เธอให้ฉันได้รึเปล่า”“คะ…คุณต้องการเหมือนคืนนั้นจริงๆ เหรอคะ”“ใช่”“ถ้ามีญ่าให้หมอ หมอจะบอกคุณพ่อไหมคะ”“อยากให้ฉันบอกไหม?”“มะ…ไม่ค่ะ”“และมันจะเป็นแบบนั้น”เธอหลุบตาต่ำลง ในหัวกำลังครุ่นคิดว่าจะยอมให้ในสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่ แต่ว่า…ก่อนหน้านี้เธอบอกจะยอมทำทุกอย่าง แค่เขาไม่บอกคุณพ่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ค่ะ ตกลงค่ะ มีญ่าจะให้หมอเหมือนคืนนั้น” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มันคงไม่เสียหายหรอก ก็แค่เซ็กซ์เอง…“เลือกได้ดี” เขายิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำตอบ“แต่หมอต้องสัญญานะคะว่าจะไม่บอกคุณพ่อเรื่องนี้จริงๆ”“หมอ
มีญ่าจ้องมองแก่นกายขนาดใหญ่ที่กำลังผงาดอยู่ต่อหน้า หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ส่วนหัวแดงก่ำบานหยัก ตรงลำโอบล้อมด้วยเส้นเลือดมากมายชวนใจสั่น ไร้ขนปกคลุม เนียนเกลี้ยงดูสะอาดตา“คืนนั้นเคยทำยังไง คืนนี้ก็ทำอย่างนั้น”“คะ…คืนนั้นมีญ่าเมามาก”“คืนนี้เธอก็เมา” เขาตอบตรงไปตรงมาเธอดึงสายตากลับมามองแก่นกายอีกครั้ง เริ่มเลื่อนมือไปจับแก่นกายอย่างสั่นๆ มันใหญ่มาก ใหญ่จน…มือของเธอจับมันไม่หมด ริมฝีปากสีระเรื่อครอบลงส่วนหัวเห็ดบานหยัก รูดปากลงมาถึงครึ่งลำก็ใช้มือช่วยชักรูด เธอช้อนสายตาขึ้นมองหมอรวิกร ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความกระสัน คล้ายกับต้องการกลืนกินเธอไปทั้งตัว“อึก…” เธออ้าปากรับขนาดที่ใหญ่โตอย่างยากลำบากจนแน่นไปทั่วโพรงปาก กดศีรษะลงจนแก่นกายเข้ามา ของเขาแข็งมาก แถมยังอุ่นมากอีกด้วย“อืมม” เขามองมีญ่าที่กำลังใช้ริมฝีปากปรนเปรอแก่นกายอย่างกระสัน พลางเปล่งเสียงในลำคอเบาๆ มือเลื่อนไปสัมผัสศีรษะทุยแล้วขยับเป็นจังหวะคืนนั้นมีญ่าก็ทำแบบนี้…ปากของเธอนุ่มเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด ดวงตาคู่สวยที่กำลังช้อนขึ้นมามองเป็นระยะดูเซ็กซี่เกินห้ามใจ แรงจากโพรงปากที่ดูดเลียแก่นกายทำเลือดในกาย
‘ชอบค่ะ’ เรียกรอยยิ้มมุมปากจากคนฟังได้ไม่ยาก คุณหมอหนุ่มตอกอัดแก่นกายเข้าใส่ร่องรักคับแคบอย่างหนักหน่วง จนเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นไปทั่วคอนโดหรู มือหนานวดเฟ้นหน้าอกขนาดใหญ่พร้อมกับเขี่ยเม็ดทับทิมสีสวยตามไปด้วย ปึก ปึก ปึกเธอโยกคลอนตามแรงกระแทก ใบหน้าซบลงกระจกใสพลางเผยอริมฝีปากครางอย่างทรมาน เขาตอกอัดเน้นๆ จนเธอเสียวสะท้านไปทั่วท้องน้อยเขาเอาดุมาก…เซ็กซ์ของเขายังคงเสมอต้นเสมอปลายเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด ภายนอกเขาดึงดูดเพศตรงข้าม หากสาวๆ เหล่านั้นได้ขึ้นเตียงกับเขา เชื่อเลยว่าคง ‘ติดใจ’ กันระนาว บทรักอันเร่าร้อนบรรเลงทั้งคืน เสร็จจากตรงนี้ก็ต่อที่เตียงนอน ร่างบางโยกไปมาบนร่างกายคุณหมอหนุ่ม อวดหุ่นผอมเพียวที่แอบมีน้ำมีนวลเล็กน้อยท่ามกลางสายตาของไรอันเซ็กซี่มาก… คุณหมอหนุ่มพูดในใจ มือหนาประคองเอวบางพลางช่วยขยับ หน้าอกขนาดใหญ่ทำให้คุณหมอหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือขึ้นไปนวดเฟ้น“อ๊า~”“เสียวเหรอ”“ค่ะ ทะ…ทำไมของคุณหมอใหญ่และยาวจัง” “มันค่อยเสียว” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเส่า ก่อนจะรั้งร่างบางลงมาหาแล้วกระแทกสวนขึ้นอย่างหนักหน่วงจนได้ยินเสียงดังตับๆ“มะ…หมอรวิกร มีญ่าเสียวอื๊อ!”“ฉัน
และในที่สุดเธอก็ยอมควักเงินสดสองร้อยเป็นค่าติดรถมากับหมอรวิกร ไปที่เดียวกันแท้ๆ ยังคิดค่าติดรถมาด้วย หมออะไรแล้งน้ำใจจริงๆระหว่างทางไปโรงพยาบาลรถค่อนข้างติดเล็กน้อย หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา และรถหรูของไรอันก็ขับต่อไป บรรยากาศภายในรถเงียบไปครู่หนึ่ง มีญ่านั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งไถหน้าจอโทรศัพท์ ส่วนอีกข้างถือแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อติดมือมาเอี๊ยด!“อ๊ะ!” เธออุทานร้องเสียงหลง จู่ๆ หมอรวิกรก็เบรกกะทันหันจนเธอแทบหัวทิ่ม เธอหันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ“ขับอะไรของหมอเนี่ย!”“คนวิ่งตัดหน้า”เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองนอกกระจก และก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเพิ่งวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถไปจริงๆ เธอชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าที่แสดงความไม่พอใจเมื่อครู่ค่อยๆ อ่อนลง“มีญ่าไม่รู้นิคะว่ามีคนวิ่งตัดหน้า”“มัวแต่เล่นโทรศัพท์จะไปเห็นอะไร” เขาพูดเสียงเรียบ สายตายังคงจับจ้องถนนเบื้องหน้า ส่วนเด็กนั่นก็เงียบไม่พูดอะไรกลับมามีญ่ายังคงรู้สึกหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ ที่เมื่อกี้เกือบทำกาแฟหกใส่เสื้อเพราะอีกฝ่ายเบรกกะทันหัน แต่พอรู้ว่าเป็นเพราะมีคนวิ่งตัดหน้าเธอก็เถียงอะไรมากไม่ได้•••โรงพยาบาลภูริธนากุล“นี่ค่ะ ค่าติดรถ
เขานั่งมองประตูที่เพิ่งปิดลง เด็กนั่นแสบใช่ย่อย คงกะเอาคืนเรื่องที่เขาเก็บค่าติดรถมาด้วย เขาถอนหายใจหนักๆ สายตามองขนมที่วางบนโต๊ะ นั่งคิดนานสองนานว่าจะเอาทิ้งดีไหมเพราะไม่ชอบกินขนม กำลังโยนลงถังขยะก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อนครืด ครืดเบอร์ที่โชว์หลาบนหน้าจอทำให้รู้ว่าคนเป็นพ่อโทรมา เขาวางขนมลงแล้วคว้าโทรศัพท์มากดรับสาย“ครับพ่อ”(ตอนนี้ว่างไหมไรอัน ภรรยาของเซอร์เวย์ป่วย แกเข้าไปที่บ้านเขาหน่อยนะ)“ได้ครับพ่อ”(หนูมีญ่าก็ศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลใช่ไหม ฝากบอกหนูมีญ่าหน่อยนะ พอดีเซอร์เวย์บอกว่าโทรหาลูกสาวไม่ติด)“ครับ” เขาวางสายจากคุณพ่อหยัดกายขึ้นเต็มความสูงเดินออกไปจากห้องทำงานเมื่อก่อนพ่อเป็นหมอประจำตระกูลคุณลุงเซอร์เวย์ แต่พอเขาเป็นหมอเต็มตัวจึงให้เข้ามารับหน้าที่ตรงนี้แทน ส่วนพ่อเกษียณอยู่บ้านคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขาเขาเดินออกมาก็เห็นมีญ่ากำลังยืนช่วยงานนิดอยู่อย่างตั้งใจ จึงเดินเข้าไปหา“คุณลุงเซอร์เวย์โทรมาบอกว่าแม่เธอไม่สบาย”มีญ่าที่กำลังช่วยงานนิดอยู่หยุดชะงัก ก่อนจะหันไปมองไรอันด้วยความตกใจ“แม่เป็นอะไรเหรอคะ”“แค่ป่วย ฉันกำลังไปบ้านเธอ พ่อเธอฝากฉันมาบอกเพราะเ
“พ่อว่าไรอันก็ดูโอเคนะ”เธอหยุดชะงัก เท้าที่ยกขึ้นชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะค่อยๆ หันไปมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งของบ้าน เซอร์เวย์เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นตามแบบฉบับของผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว“คุณพ่อหมายถึงอะไรคะ?”“พ่อกับแม่ชอบไรอันนะ ทำงานก็เก่ง แถมยังมีความรับผิดชอบ”เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ปกติคุณพ่อไม่ใช่คนที่ชมใครง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายที่เข้าใกล้ลูกสาวตัวเอง แต่คราวนี้กลับเอ่ยปากชมหมอรวิกรอย่างออกนอกหน้า“ทำไมมีญ่าไม่ลองคุยๆ กับไรอันดูล่ะ”ว่าแล้วเชียว…เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แทบอยากจะยกมือขึ้นกุมขมับ ทำไมเธอถึงเดาเรื่องนี้ได้แม่นนักก็ไม่รู้ ถ้าซื้อลอตเตอรี่ถูกแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย ที่แท้คุณพ่อก็อยากให้เธอลงเอยกับหมอรวิกรนี่เองคนเก่งๆ แบบหมอรวิกร ใครบ้างไม่อยากได้เป็นลูกเขย แต่คุณพ่อถามเธอก่อนหรือยังว่าได้เป็นผัวไหม“ฝั่งพ่อกับฝั่งรามิลแอบเชียร์อยู่นะ”“เขาแก่ขนาดนั้น มีญ่าไม่ชอบหรอกค่ะ”“ไรอันเหรอแก่?”“ค่ะ อีกหน่อยก็สามสิบ สักพักหัวก็คงงอกแล้ว มีญ่าไม่ชอบหรอกคนแก่” เธอเชิดหน้าใส่ ทำเหมือนว่าไรอันเป็นชายวัยกลางคนไปเ
ภายในห้องรับแขกของคอนโดธารน้ำ มีญ่านั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่กองเอกสารสำหรับทำรายงานตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ความคิดวนเวียนอยู่กับบทสนทนาของพยาบาลกลุ่มนั้น‘ได้ข่าวว่าหมอไรอันกับหมอมาริสาจะหมั้นกันเหรอ’หัวใจของเธอบีบรัดขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงมัน เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมถึงต้องรู้สึกแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างไป ทั้งที่ความจริงแล้วเธอและเขาไม่เคยเป็นอะไรกันด้วยซ้ำ“มีญ่า มีญ่า!”“ฮะๆ” เสียงของธารน้ำทำให้เธอสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เธอขานรับธารน้ำทันที“แกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่มาถึงแล้ว” ธารน้ำขมวดคิ้วถาม“ปะ…เปล่า”“แกมีเรื่องไม่สบายใจอะไรบอกฉันได้นะ อย่าลืมว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน”คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ ทำให้เธอรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังเรื่องความรู้สึกที่มีหมอรวิกรจากธารน้ำ ที่ผ่านมาเธอบอกเพื่อนมาโดยตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา“เรื่องของหมอไรอันใช่ไหม” ธารน้ำพอเดาออกว่าที่เพื่อนสนิทเป็นแบบนี้เพราะเรื่องอะไรราวกับคำพูดนั้นกระแทกเข้าตรงจุดสำคัญ หัวใจดวงน้อยไหววูบ ใบหน้าสวยหวานรีบเบือนสายตาหลบอย่างรู้ตัวว่าคงปิดบังอะไรไม่ได้“มีญ่า…” เพียงแค่เ
Empire Rich รถหรูจอดสนิทที่คอนโด เขาหันไปมองมีญ่ากายที่ตอนนี้หลับสนิท ใบหน้าสวยหวานซบอยู่กับเบาะ แขนทั้งสองกอดอยู่กับอก ท่าทางดูสงบเสงี่ยมต่างจากก่อนหน้านี้ที่ยังโวยวายใส่เขายับเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ จากนั้นก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของมีญ่า แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นอย่างง่ายดายตอนแรกเขาตั้งใจจะพาเธอไปส่งที่ห้องของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับเลือกพาเธอมาที่ห้องของเขาเองแทนเมื่อมาถึงห้องนอนเขาวางร่างของมีญ่าลงบนเตียงอย่างเบามือ เขาถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้าเล็ก คิ้วเข้มขมวดนิดๆ เมื่อเห็นรอยแดงที่เกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไปมือหนาลูบเบาๆ อย่างเผลอไผล ก่อนจะละสายตาแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่เสียงพึมพำแผ่วเบากลับทำให้เขาหยุดชะงัก“พี่ชาย…”ไรอันหันกลับมามองคนที่กำลังละเมอ“คิดถึง…”ร่างสูงยืนนิ่ง ดวงตาคมฉายแววซับซ้อนเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอละเมอออกมาจำได้ว่าครั้งหนึ่งมีญ่าเคยตามติดเขาไม่ห่าง เรียกเขาว่าพี่ชายทุกครั้งที่เจอกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเช่นกันริมฝีปากหยักยิ้มมุมปาก ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงเพลงในผับยังคงดังกระหึ่มไปทั่ว มีญ่าหัวเราะเสียงใส ขณะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชนกับหนุ่มหล่อที่เข้ามาทัก“ขอชนแก้วด้วยไหมครับ?” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากแล้วยื่นแก้วเข้ามาใกล้“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?” ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วขึ้น เคร้ง!เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นก่อนที่เธอจะกระดกเหล้าเข้าปาก กลิ่นแอลกอฮอล์แทรกซึมเข้ามาในลำคอร้อนวูบ แต่เธอกลับรู้สึกดี“ดื่มเก่งเหมือนกันนะครับ” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยชม“ไม่เก่งเท่าไรค่ะ”ในขณะที่มีญ่ากำลังยืนคุยกับหนุ่มหล่อ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีสายตาคมเข้มคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาอย่างไม่พอใจไรอันมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ มือข้างที่จับแก้วเหล้าแน่นขึ้นราวกับพยายามระงับอารมณ์“กูว่าอีกไม่นาน” คิรันหันไปกระซิบกับแม็กซ์ควินมีญ่ายังคงยืยหัวเราะคิกคักกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที บรรยากาศพาไปหรือเพราะแอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าขึ้น ด้านเพื่อนสนิทก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนมองมีญ่าคุยกับหนุ่มหล่อพลางหันไปยิ้มกันสองคน“ชื่ออะไรเหรอครับ?” “มีญ่าค่ะ แล้วคุณล่ะ?” เธอพยายามชวนเขาคุยให้มากที่สุด สายตาเหล่มองไปยังโต๊ะข้างๆ ว่าคนที่อยากให้เห็นภาพนี้มองมาห
หลายวันต่อมาช่วงนี้หมอรวิกรเงียบไปเลยจนผิดสังเกต ไม่มีการส่งข้อความมาหา แม้กระทั่งอยู่คอนโดเดียวกันยังไม่มีโอกาสเจอ อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้นเลย แค่รถของเขายังไม่เห็นจอดหลายวันแล้วเขาหายไปไหน…ตั้งแต่วันนั้นที่เธอกลับจากบ้านพักอากาศ เธอก็ไม่เห็นหมอรวิกรอีกเลย เธอนั่งส่องไอจีของเขาระหว่างรอเพื่อนไปสั่งเครื่องดื่ม นิ้วเรียวดึงหน้าจอลงหนึ่งครั้งอย่างไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อตรงรูปโพรไฟล์ปรากฏสตอรีขึ้นมาวินาทีนั้นหัวใจที่นิ่งสงบพลันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่มีความเคลื่อนไหวมาแล้วหลายวัน หากแต่วันนี้เพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว เธอกัดกลีบปากล่างเบาๆ ด้วยความลังเลว่าจะกดดูดีไหมเพราะอยากรู้ว่าเขาลงอะไร แน่นอนว่าถ้ากดดูแน่นอนเขารู้อยู่แล้วว่าเธอแอบส่องแต่อีกใจก็อยากรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ สุดท้ายรวบรวมความกล้าในการกดเข้าไปดูสตอรีเมื่อครู่เขาอยู่สนามแข่งT1บางทีเธอก็แอบหงุดหงิดเขาเหมือนกัน หายไปไม่บอกไม่กล่าวเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด แถมเขายังทำให้เธอสับสนในความสัมพันธ์อีกครั้ง สรุปแล้วต้องการยุติทุกอย่างลงหรือกำลังปั่นหัวเธอเล่นอยู่กันแน่ปากบอกไม่ให้เธอเข้าใกล้
เสียงฟ้าร้องดังสะท้านท้องฟ้า ฝนยังคงตกหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มีญ่ายืนตัวสั่นอยู่ใต้ชายคาหน้าบ้านพักตากอากาศของไรอัน ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปยังถนนที่เวิ้งว้างและมืดครึ้มทำไมเธอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้…ลมเย็นพัดผ่านร่างจนเธออดไม่ได้ที่จะกอดตัวเองแน่นขึ้น เปลือกตากะพริบถี่ไล่หยาดน้ำฝนที่ปลิวมากระทบใบหน้าเธอเหลือบมองหน้าจออีกครั้ง พลางคิดถึงคำพูดสุดท้ายของไรอัน‘ตามใจ’คำพูดนั้นเหมือนสะท้อนอยู่ในหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะกลับไปยังไง จะเปียกฝนหรือไม่จะปลอดภัยหรือเปล่า เขาแค่…ปล่อยเธอไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?LINEโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือทำให้เธอยกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่นทีที่ส่งข้อความมาหา หลังจากถูกหมอรวิกรตัดสายไปก่อนหน้านี้ เธอแค่ดึงหน้าจอลงมาอ่านโดยยังไม่กดเข้าไปอ่านโดยตรงนที : มีญ่าอยู่ไหนเธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออ่านข้อความจากพี่นที ผ่านไปประมาณสองนาทีเขาส่งกลับมาอีกครั้งว่า นที : ตอบพี่หน่อยได้ไหมพี่เป็นห่วง นิ้วเรียวสวยกำลังพิมพ์บอกพี่นทีแต่กลับต้องชะงักอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงเมื่อคิดว่าใครบางคนอาจจะไม่พอใจกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ก็เป็นได้ แต่สุด
ความสัมพันธ์ของเธอและหมอรวิกรเริ่มไม่ดีแล้ว ไม่รู้คิดไปเองไหมเพราะตั้งแต่เขาและพี่นทีเจอกัน เขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าไม่ใจร้ายแค่มีความรู้สึกว่าตอนนี้หนักกว่าตอนนี้ฝนกำลังตกหนักเพราะพายุเข้า มีญ่ายืนกอดอกมองสายฝนโปรยปรายจนมองไม่เห็นข้างนอก เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างสับสน แม้เสียงฝนจะดังสนั่นหากแต่ก็ไม่อาจดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดจนกระทั่ง…LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอละสายตาจากพายุฝนข้างนอกยกโทรศัพท์ในมือขึ้นดูก่อนจะพบว่าเป็นคุณพ่อที่ส่งข้อความมาหาเซอร์เวย์ : อยู่ไหนลูกเธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงเมื่ออ่านข้อความของคุณพ่อ สายตาเหลียวข้างหลังมองหาเจ้าของบ้านพักตากอากาศทว่าก็ไม่เจอ เธอดึงสายตากลับมาอ่านข้อความของคุณพ่ออีกครั้งแล้วพิมพ์ตอบกลับมีญ่า : คอนโดเพื่อนค่ะเซอร์เวย์ : เห็นลูกบอกเย็นๆ จะมาบ้าน พ่อไม่เห็นเลยไลน์มาถามว่าอยู่ไหนเซอร์เวย์ : ตอนนี้ฝนกำลังตก ถ้ามาไม่ได้ไม่ต้องมานะมันอันตรายคนเป็นพ่อเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกสาว ใจอยากให้มาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน มีญ่าบอกว่าจะชดเชยที่วันก่อนไม่ได้กลับบ้านมาทานข้าวเย็น แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มาเพ
ตุ้บ!“โอ๊ย!” แรงเหวี่ยงมหาศาลทำให้ร่างของเธอกระแทกลงเตียงอย่างแรง เธอหันไปมองหมอรวิกรด้วยแววตาหวาดกลัวพร้อมกับถอยหนีตามสัญชาตญาณทำไมเขาน่ากลัวจัง…ภาพหมอรวิกรคนเดิมหายไปในชั่วพริบตา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เท่าที่สังเกตเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอพี่นที อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าเขากับพี่นทีมีเรื่องบาดหมางกันเป็นการส่วนตัวไหม เพราะดูเขาโกรธทุกครั้งเวลาเธอพูดชื่อพี่นทีหมับ“อ๊ะ!” เธออุทานเสียงหลง หมอรวิกรจับข้อเท้าแล้วออกแรงกระชากจนเธอไถลกลับมานอนที่เดิม ไม่ทันได้หาทางหนีก็ถูกเขาตามมาคร่อมข้างบนเสียแล้ว“หมอ…ว๊าย!”ไรอันกระชากเสื้อนักศึกษาจนกระดุมเหล็กกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง มีญ่าส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกับการกระทำแสนป่าเถื่อน มือเล็กพยายามปัดป่ายอีกฝ่ายออกแต่กลับไม่เป็นผล“เสื้อมีญ่าขาดหมดแล้ว!”“ดี! ฉันชอบ”“ทำไมหมอป่าเถื่อนขนาดนี้!”“ฉันป่่าเถื่อนมากกว่าที่เธอรู้อีกมีญ่า” สิ้นคำพูดเขากดจูบลงริมฝีปากสีระเรื่อของมีญ่าอีกครั้ง รสจูบครั้งนี้ยังป่าเถื่อนเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด เขากัดกลีบปากบางเมื่อเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือจนยอมเผยอปากออกเล็กน้อยให้เขาได
ร่างบางค่อยๆ ย่องเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมหนี แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อเห็นไรอันยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกพอดี หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เริ่มมองหาทางอื่นที่พอหนีได้จนไปเจอประตูบานหนึ่ง เธอไม่รอช้าเดินตรงไปยังประตูบานนั้นทันที“จะไปไหน”เฮือก… เธอสะดุ้งอย่างตกใจและหยุดนิ่งอัตโนมัติ เสียงฝีเท้าของเขาที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา“ฉันถามว่าจะไปไหน” เขาหยุดอยู่ข้างหลังมีญ่าแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบคนตัวเล็กค่อยๆ หมุนตัวกลับมาหาไรอันด้วยท่าทางหวาดระแวง ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองคนตัวโตที่มองมาอย่างคาดเดาไม่ได้ว่าหลังจากนี้จะมีแผนการอะไร“มีญ่าจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” บางทีการโกหกอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้“ห้องน้ำไปทางนั้น”“อะ…อ๋อ ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะรีบเดินไปอีกทางที่หมอรวิกรชี้นิ้วบอก จะหนีก็ไม่ทันแล้วยัยมีญ่า ทำไมทุกอย่างดูเข้าทางเขาไปหมดเลยนะเธอยืนรอสักพัก จากนั้นหันไปแกล้งกดชักโครกทำเหมือนเข้าห้องน้ำจริงๆ เดินมาล้างมือทำทุกอย่างให้สมจริง เช็ดมือเสร็จสรรพแล้วเดินออกมาก็เจอเขายืนพิงผนังกำแพงรออยู่ข้า
“…ขอโทษ” เธอนิ่งชะงักลงไปเมื่อได้ยินคำขอโทษของหมอรวิกร เธอเบือนใบหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขาเพื่อซ่อนความอ่อนไหว“นะ…นี่ไม่ใช่ทางไปมหาลัยนิคะ” เธอเริ่มสังเกตว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่ทางไปมหาลัยจึงรีบหันไปบอกเขา“รู้” เขาตอบสั้นๆ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ“รู้แล้วทำไมยังขับไปทางนี้อีกคะ หมอจะพามีญ่าไปไหนกันแน่” เสียงหวานแฝงไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตากลมโตตวัดมองเขา แต่เขายังคงขับรถด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้”“นี่หมอลักพาตัวมีญ่าเหรอคะ?” “ฉันไม่เสียเวลาลักพาตัวเด็กอย่างเธอหรอก”คำพูดนั้นทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไม แต่ทุกครั้งที่เขาพูดจากวนประสาทแบบนี้เธออยากจะต่อยหน้าเขาแรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามสะกดกลั้นความโมโห “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”“เรื่องอะไรคะ คุยบนรถก็ได้”“ฉันไม่อยากคุยบนรถ”“ทำไมไม่ขอคุยตั้งแต่อยู่คอนโดคะ”“ตอนนั้นยังไม่มีเรื่องที่จะคุย แต่ตอนนี้ฉันมี”“หมอจอดรถเลยนะคะ มีญ่าจะไปเรียน”“อาจารย์ของเธอเพิ่งยกคลาส”“ไม่จริง หมอโกหก…”LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอชะงัก ก่อนจะหยิบขึ้นมาเสมอใบหน้าให้สแกนปลดล็อก เธออ่านข้อความที่ธ