เสียงเพลงภายในไนต์คลับยังคงดังก้องไปทั่ว แต่ในหัวของมีญ่ากลับวุ่นวายไม่แพ้กัน หญิงสาวนั่งอยู่กับเพื่อนสนิท แต่ความคิดกลับจดจ่ออยู่ที่ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ ซึ่งตอนนี้กำลังเดินตามการ์ดของร้านที่มีป้ายคำว่า ‘VVIP’ ติดอยู่ตรงอก
เธอละสายตาไปจากเขา หันกลับมายกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาดื่มพลางพูดคุยกับเพื่อน พยายามทำตัวให้ปกติ แต่ทว่าสายตาก็อดเหลือบมองคุณหมอไรอันไม่ได้ การมาของเขาและเพื่อนสร้างความตื่นเต้นในแก่สาวๆ ที่นี่ไม่ใช่น้อย สาวๆ โต๊ะยืนข้างหน้าสะกิดกันให้มองไปยังโซนVVIP แล้วกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ คนใส่แว่นที่ดูเรียบร้อยแต่ท่าทางดูขัดกันเหมือนจะสนใจไรอัน เพราะชี้ไปยังคนที่นั่งทางขวาสุดซึ่งก็คือไรอัน ส่วนคนอื่นๆ ก็ชี้นิ้วจับจองกันอย่างสนุกสนาน “คนขวาสุดนั่นหล่อมาก!” เสียงผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ดังลอดเข้ามา “โอ๊ย! นั่นสิ หล่อยังกับเทพบุตร!” อีกคนเสริมเสียงตื่นเต้น “ฉันจองคนซ้ายสุด!” “งั้นฉันขอคนตรงกลาง” “คนขวาสุดดูนิ่งๆ แต่โคตรหล่อเลยอะ! ฉันจองนะ!” มีญ่ากำลังจะก้มหน้ามองโทรศัพท์ต่อ แต่สายตากลับเหลือบไปมองไรอัน เขากำลังเอนตัวพิงโซฟาหรูในโซน VVIP มือข้างหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่มแล้วพูดคุยกับเพื่อน ปกติเห็นเขาในโหมดทำงาน เป็นคุณหมอในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา แต่พออยู่ภายใต้แสงสีในสถานที่แบบนี้เขาดูมีเสน่ห์มากเลยทีเดียว ทว่าในขณะเดียวกันดูอันตรายมีบางอย่างแอบแฝง… “แกเป็นอะไรมีญ่า ดูเหม่อๆ” เฟย์ถาม พลางยื่นหน้าเข้ามามอง “เปล่า ไม่มีอะไร” เธอปฏิเสธเสียงเบา แต่สีหน้าที่ไม่ปกติของเธอกลับทำให้เพื่อนทั้งสองเริ่มสงสัย “โอเคๆ แล้วเมื่อกี้ฉันเห็นแกมองไปทางVVIPทำไม อย่าบอกนะว่า…แกเล็งใครสักคนในนั้น” ธารน้ำยิ้มเจ้าเล่ห์ “บะ…บ้า ฉันจะไปเล็งผู้ชายโซนนั้นทำไม…” เธอตอบกลับเสียงแผ่วเบา “แกชอบใครในนั้นก็บอกพวกฉันมาตรงๆ จะได้ช่วยดีล แต่คนกลางแต่งงานแล้ว แกเล็งใครระหว่าง หมอรวิกรกับเพื่อนหมออีกคน” เฟย์พูดพร้อมกับไปยังโซนVVIP ก่อนจะดึงสายตากลับมามองมีญ่า “ฉันไม่ได้เล็งใครจริงๆ แค่มองเพราะในนั้นมีคนที่พวกเรารู้จัก” เธอตอบอย่างมีเหตุผล “ฉันเห็นหมอรวิกรมาผับบ่อยมากกับเพื่อน อยากจะบอกว่าเพื่อนหมอก็งานดีเหมือนกัน แต่น่าเสียดายคนกลางที่ชื่อแม็กซ์ควินแต่งงานแล้ว แต่อีกสองคนน่าจะยังโสด ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าใครจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น…” ธารน้ำพูดด้วยแววตาฝันหวาน “ฉันว่าพวกเขาน่าจะมีแฟนแล้วนะ โปรไฟล์ดีซะขนาดนั้น ไม่มีทางโสดหรอก” เฟย์เสริม มีญ่าก้มหน้าลงจิ้มน้ำแข็งในแก้วของตัวเอง หวังว่าเพื่อนจะเลิกพูดเรื่องไรอันกับเพื่อนสักที แต่เฟย์กับธารน้ำดูจะสนุกสนานเกินกว่าจะหยุดได้ ••• เธอเดินมาเข้าห้องน้ำคนเดียว หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับรู้สึกมึนเมาจากแสงไฟภายในไนต์คลับและแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปมากพอสมควร เธอเดินไปนั่งลงโซฟามุมหนึ่งเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น พลางเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปมา “น้องมีญ่า” ในขณะที่กำลังเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ไปมา ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกจากผู้ชายคนหนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นไปมอง “พี่ซัน” เธอเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นร่างสูงของผู้ชายที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงหน้า เขายิ้ม พลางมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง ซันคือรุ่นพี่ต่างคณะที่มหาลัย “มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ ดื่มเยอะไปเหรอ?” ซันถาม พลางนั่งลงข้างๆ “นิดหน่อยค่ะ แล้วพี่ซันมากับใครคะ” เธอถามกลับ น้ำเสียงดูอ่อนแรงเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ “มากับเพื่อนครับ” ซันตอบพร้อมกับยิ้มอบอุ่น “อ๋อค่ะ…” เธอพยักหน้าเบาๆ พยายามตั้งสติให้ดูปกติที่สุด ทั้งสองคุยกันอย่างเป็นกันเอง ซันถามไถ่เรื่องเรียนและชีวิตช่วงนี้ของมีญ่า “ไหวไหม?” ซันพูดแล้วขยับเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของเขายังดูอ่อนโยน แต่สายตากลับแฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้มีญ่ารู้สึกแปลกๆ “ไหวค่ะ…” เธอตอบเสียงเบา พลางขยับตัวออกห่างจากซันเล็กน้อย แต่ทว่าเขากลับเลื่อนมือมาวางลงบนต้นขาของเธอ เธอดันมือนั้นออก แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจ “พี่เป็นห่วงเรานะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม แต่แววตากลับเปลี่ยนไปจนน่ากลัว “ขอบคุณนะคะ มีญ่าจะกลับไปหาเพื่อนแล้ว” เธอรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วรีบกลับไปหาเพื่อน แต่ทว่า… หมับ ซันคว้าแขนของเธอเอาไว้ “จะรีบไปไหนล่ะ ก่อนพี่เดินมา เพื่อนของมีญ่ายังบอกให้พี่มาดูอยู่เลย” ซันบอก เพราะก่อนหน้านี้เฟย์เห็นเขา จึงบอกให้เขามาช่วยดูมีญ่า “มีญ่าจะกลับโต๊ะแล้วค่ะ” เธอไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูด แต่พยายามแกะมือที่จับแขนอยู่ออกอย่างเริ่มรู้สึกว่าโดนคุกคาม “ถ้างั้นเดินไปด้วยกันสิ” ซันยังคงจับแขนมีญ่าเอาไว้เหมือนไม่อยากปล่อย “เอ่อ…หมอรวิกรคะ” เธอหันไปเห็นหมอรวิกรที่กำลังเดินผ่านไปจึงตะโกนเรียกเขาเอาไว้ ไรอันหยุดชะงักแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงเรียกเมื่อครู่ ภาพมีญ่ากำลังถูกจับแขนบวกกับสายตาราวกับขอความช่วยเหลือทำให้สายตาคมเข้มปรายไปมองซันนิ่งๆ หญิงสาวขยับริมฝีปากเบาๆ โดยไม่ได้ออกเสียงว่า ‘ช่วยด้วย’ คุณหมอหนุ่มยืนมองอยู่สักพัก ก่อนจะยอมเดินเข้าไปหามีญ่า “บังเอิญจังเลยนะคะที่เจอหมอที่นี่” เธอทักทายเขาด้วยท่าทางปกติ ก่อนจะแกะมือซันที่เผลอคลายจากแขนออกอย่างแนบเนียน ไรอันพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะมองซัน “พี่ขอตัวก่อนนะ ไว้จะไปชนแก้วด้วยที่โต๊ะ” ซันหันไปบอกมีญ่าด้วยน้ำเสียงสุภาพกึ่งไม่พอใจ จากนั้นมองไรอันพร้อมกับยิ้มให้หนึ่งครั้งตามมารยาทแล้วเดินกลับโต๊ะไป “ขอบคุณนะคะ” “เรื่อง?” “ที่เดินมา” “อืม” เขาตอบสั้นๆ คนกำลังขอให้ช่วยถ้าเดินหนีก็คงดูใจจืดใจดำเกินไป “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” “รุ่นพี่ที่มหาลัยค่ะ” “หน้าตาก็ดูเหมือนเป็นคนดีนะ” “ตอนแรกมีญ่าก็คิดแบบนั้น แต่พอเห็นมีญ่าเมาก็คิดว่าจะทำอะไรก็ได้” “แล้วเมาจริงไหม?” เขาถามพร้อมกับมองมีญ่าอย่างพิจารณา “ก็…นิดหน่อยค่ะ” “เมาแล้วกลับไหวไหม?” “ไหวค่ะ มีญ่าว่าจะกลับโต๊ะแล้วค่ะ ออกมานานแล้ว” ป่านนี้เพื่อนคงถามหากันแล้ว ไรอันพยักหน้ารับเบาๆ เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะหันกลับเดินไปทางโต๊ะที่เพื่อนนั่งอยู่ แต่เพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกถึงเงาตามหลัง เมื่อหันกลับไป เห็นไรอันเดินตามมาด้วย เขาเดินตามเธอมาด้วย “ฉันจะกลับโต๊ะเหมือนกัน” เขาตอบเสียงเรียบ เมื่อมีญ่าเดินมามอง “อ๋อค่ะ งะ…งั้นก็เดินไปด้วยกัน” เธอตอบ ก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อโดยมีเขาเดินมาด้วย ทั้งสองก้าวเท้าเดินเคียงข้างกันเพื่อกลับไปที่โต๊ะของตัวเองท่ามกลางเสียงเพลงที่ยังดังระรัวและแสงไฟที่วูบวาบ ปึก! “อ๊ะ!” เธอหลุดร้องเบาๆ จู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาชนเธอเข้าอย่างจังจนเซถลาไปข้างหน้า แต่ก่อนที่ร่างของเธอจะล้มลงไปกับพื้น มือของไรอันก็เอื้อมมาจับรอบเอวบางของเธอไว้ไม่ให้ล้ม สัมผัสนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยพลันสั่นไหวได้ไม่ยาก “ขะ…ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่วแล้วขืนตัวออกจากเขา ไรอันไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้า เมื่อมาถึงโต๊ะ ธารน้ำและเฟย์หันมามองมีญ่าพร้อมกัน แต่สายตาของสาวๆ กลับมองตามไรอันที่เดินผ่านไปด้วย “แกไปห้องน้ำนานมากเลย!” ธารน้ำพูด “โทษที…” เธอตอบเพื่อน “ว่าแต่ทำไมแกถึงเดินมากับหมอไรอันได้” เฟย์ถาม พลางหันไปมองธารน้ำด้วย “นั่นสิ เล่ามาด่วนน” สองสาวนั่งลงขนาบข้างมีญ่า สายตามองอย่างอยากรู้ “บังเอิญเจอเขาหน้าห้องน้ำ” เธอตอบ “แค่นั้น?” “อื้ม แค่นั้น” ธารน้ำหันไปมองเฟย์ แล้วหันกลับไปมองมีญ่าอีกครั้งอย่างจับผิด ทำให้มีญ่ารีบแก้ต่างให้ตัวเองก่อนเพื่อนคิดไปไกล “จริงๆ แค่บังเอิญเจอกัน เขากำลังเดินกลับโต๊ะ ก็เลยเดินมาพร้อมกัน แล้วที่ฉันไปห้องน้ำนานเพราะ…ฉันแอบไปอ้วกมา” ถ้าไม่บอกแบบนี้ยัยสองคนก็คงไม่ยอมหยุด เธอเหลือบไปมองโต๊ะของซันที่เป็นVIPเหมือนกัน เขาพูดกับเพื่อนแล้วมองมาที่เธอ “ตอนฉันไปห้องน้ำเห็นพี่ซันด้วย เขาลวนลามฉัน” ธารน้ำและเฟย์ทำหน้าตกใจ ก่อนจะหันไปมองซันพร้อมกัน ซันที่รู้ว่ามีญ่าคงบอกเพื่อนเรื่องที่ตัวเองพยายามลวนลามก็รีบหลบสายตา “เลวมาก! ฉันจะไปด่ามัน” ธารน้ำของขึ้น “ใจเย็นก่อนธารน้ำ!” เฟย์คว้าข้อมือเพื่อนเอาไว้ ก่อนที่ธารน้ำจะลุกพรวดออกไป “เย็นไม่ได้! มันกล้าดียังไงลวนลามยัยมีญ่า!” ธารน้ำพูดด้วยความโมโห พร้อมจ้องไปทางโต๊ะของซันที่ตอนนี้เริ่มทำตัวลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นว่าพวกเธอกำลังมองมา “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โต” เธอบอกเพื่อน ใจก็โกรธแต่ไม่อยากมีปัญหาจนเรื่องมันใหญ่โต ธารน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะนั่งลงที่เดิม แต่ยังคงไม่วายมองไปทางโต๊ะของซันด้วยสายตาแข็งกร้าว “ถ้ามันทำอะไรแกอีกบอกฉันเลยนะเข้าใจไหม?” ธารน้ำพูดน้ำเสียงจริงจัง “อืม” เธอพยักหน้ารับเบาๆ ทางด้านไรอัน “ทำไมถึงเดินมากับลูกสาวคุณเซอร์เวย์ได้วะ” คิรันเอ่ยถาม หลังจากไรอันกลับมานั่งที่เดิมด้วยความสงสัย “บังเอิญเจอหน้าห้องน้ำ” เขาตอบคิรันเสียงเรียบ พลางยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันตรงหน้าขึ้นมาดื่ม “จำได้ว่าเห็นลูกสาวคุณเซอร์เวย์ล่าสุดยังเป็นเด็กอยู่เลย ตอนนี้โตเป็นสาวสวยสะพรั้งไปแล้ว ยิ่งโตยิ่งสวยจริงๆ” “มึงชอบ?” เขาหันไปถามคิรัน “คุณเซอร์เวย์หวงลูกสาวจะตาย ใครจะกล้าจีบ” “แต่พ่อมึงสนิทกับครอบครัวคุณเซอร์เวย์นิ ทำไมไม่ลองใช้โอกาสนี้จีบลูกสาวเขา” “ไม่ล่ะ กูไม่ชอบเด็ก” คิรันและแม็กซ์ควินมองหน้ากัน หลังจากไรอันบอกว่าไม่ชอบเด็ก แม็กซ์ควินยิ้มมุมปากแล้วขยับริมฝีปากพูดบางอย่าง “กินเด็กเป็นอมตะนะ” “นั่นดิ ไม่อยากเป็นโคแก่ที่กินหญ้าอ่อนเหรอวะ” เพื่อนในกลุ่มรู้ดีว่าไรอันไม่ชอบผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าแต่ก็ยังแซว เจ้าตัวลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างเอือมระอา หันมากระดกเครื่องดื่มในมือต่อ สายตามองมีญ่าที่กำลังสนุกกับเพื่อนอยู่โซนVIPแล้วละไปมองทางอื่น เด็กขนาดนั้นใครจะไปชอบ…“กลับไหวไหมมีญ่า” ธารน้ำเอ่ยถามมีญ่าด้วยความเป็นห่วง “ไหวๆ”“โอเคๆ งั้นเจอกันนะ ถึงคอนโดแล้วบอกด้วย”“อื้ม” เธอตอบธารน้ำสั้นๆ ก่อนจะตั้งสติแล้วเดินให้ตรงที่สุดไปยังรถของตัวเอง เมื่อมาถึงรถจึงนั่งยองๆ ข้างรถเพื่อให้ตัวเองหายมึนหัว แสงไฟในผับบวกกับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้รู้สึกเบลอไปหมด หลังจากทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติก็เริ่มเปิดกระเป๋าหากุญแจรถ“น้องมีญ่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ”เสียงนั้นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมอง“หากุญแจรถค่ะ” เธอตอบ พลางประคองตัวเองให้ลุกขึ้น“เมาเหรอ?”“เปล่าค่ะ” เธอปฏิเสธทันที ตั้งแต่ที่ซันทำท่าจะลวนลามเธอในผับ เธอก็เริ่มระแวงเขามากขึ้น“ถ้าเมาก็บอกพี่ตรงๆ ได้นะ”“แล้วพี่ซันล่ะคะ เมาไหม” เธอเลี่ยงตอบตรงๆ และเลือกที่จะถามเขากลับแทน“ไม่เท่าไรครับ”“อ๋ออ มีญ่าว่าจะกลับแล้ว เอ่อ…พี่ซันช่วยหลีกทางให้มีญ่าได้ไหมคะ” เธอบอกเขาที่ยืนขวางประตูฝั่งคนขับ“ให้พี่ไปส่งไหม” ซันพูดขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะ”“เมาขนาดนี้ ขับรถกลับเองมันอันตรายนะ”“มีญ่าไม่ได้เมา…”“พี่ดูออก” ซันสวนขึ้นมาทันทีที่มีญ่าพูดจบพรึ่บ!ซันฉวยโอกาสแย่งกุญแจรถในมือของมีญ่าไปอย่างอุกอาจโดยที่เจ้าของรถยังไม่ได้อน
“ฉันต้องการเหมือนคืนนั้น”หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งตามประโยคนั้นของเขา นั่นไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาไว้ว่าต้องจ่ายเพื่อปิดปากเขาไม่ให้บอกคุณพ่อ เขาต้องการเหมือนคืนนั้น…คำพูดนั้นยังคงลอยวนเวียนอยู่ในหัว ไอร้อนแผดเผาไปทั่วใบหน้าจนรู้สึกได้ คืนนั้น…เธอไม่เคยลืมเลยไม่คาดว่าเขาจะต้องการเหมือนคืนนั้นอีกครั้ง เธอคิดว่าเขาคงไม่ประทับใจเซ็กซ์ของเธอ เพราะนั่นเป็นครั้งแรกของเธอมือหนาจับตรงคางเรียวแล้วดันใบหน้าสวยหวานให้หันกลับมามองตัวเอง ดวงตาคมเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยจนมองเห็นความอ่อนไหว“เธอให้ฉันได้รึเปล่า”“คะ…คุณต้องการเหมือนคืนนั้นจริงๆ เหรอคะ”“ใช่”“ถ้ามีญ่าให้หมอ หมอจะบอกคุณพ่อไหมคะ”“อยากให้ฉันบอกไหม?”“มะ…ไม่ค่ะ”“และมันจะเป็นแบบนั้น”เธอหลุบตาต่ำลง ในหัวกำลังครุ่นคิดว่าจะยอมให้ในสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่ แต่ว่า…ก่อนหน้านี้เธอบอกจะยอมทำทุกอย่าง แค่เขาไม่บอกคุณพ่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ค่ะ ตกลงค่ะ มีญ่าจะให้หมอเหมือนคืนนั้น” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มันคงไม่เสียหายหรอก ก็แค่เซ็กซ์เอง…“เลือกได้ดี” เขายิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำตอบ“แต่หมอต้องสัญญานะคะว่าจะไม่บอกคุณพ่อเรื่องนี้จริงๆ”“หมอ
มีญ่าจ้องมองแก่นกายขนาดใหญ่ที่กำลังผงาดอยู่ต่อหน้า หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ส่วนหัวแดงก่ำบานหยัก ตรงลำโอบล้อมด้วยเส้นเลือดมากมายชวนใจสั่น ไร้ขนปกคลุม เนียนเกลี้ยงดูสะอาดตา“คืนนั้นเคยทำยังไง คืนนี้ก็ทำอย่างนั้น”“คะ…คืนนั้นมีญ่าเมามาก”“คืนนี้เธอก็เมา” เขาตอบตรงไปตรงมาเธอดึงสายตากลับมามองแก่นกายอีกครั้ง เริ่มเลื่อนมือไปจับแก่นกายอย่างสั่นๆ มันใหญ่มาก ใหญ่จน…มือของเธอจับมันไม่หมด ริมฝีปากสีระเรื่อครอบลงส่วนหัวเห็ดบานหยัก รูดปากลงมาถึงครึ่งลำก็ใช้มือช่วยชักรูด เธอช้อนสายตาขึ้นมองหมอรวิกร ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความกระสัน คล้ายกับต้องการกลืนกินเธอไปทั้งตัว“อึก…” เธออ้าปากรับขนาดที่ใหญ่โตอย่างยากลำบากจนแน่นไปทั่วโพรงปาก กดศีรษะลงจนแก่นกายเข้ามา ของเขาแข็งมาก แถมยังอุ่นมากอีกด้วย“อืมม” เขามองมีญ่าที่กำลังใช้ริมฝีปากปรนเปรอแก่นกายอย่างกระสัน พลางเปล่งเสียงในลำคอเบาๆ มือเลื่อนไปสัมผัสศีรษะทุยแล้วขยับเป็นจังหวะคืนนั้นมีญ่าก็ทำแบบนี้…ปากของเธอนุ่มเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด ดวงตาคู่สวยที่กำลังช้อนขึ้นมามองเป็นระยะดูเซ็กซี่เกินห้ามใจ แรงจากโพรงปากที่ดูดเลียแก่นกายทำเลือดในกาย
‘ชอบค่ะ’ เรียกรอยยิ้มมุมปากจากคนฟังได้ไม่ยาก คุณหมอหนุ่มตอกอัดแก่นกายเข้าใส่ร่องรักคับแคบอย่างหนักหน่วง จนเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นไปทั่วคอนโดหรู มือหนานวดเฟ้นหน้าอกขนาดใหญ่พร้อมกับเขี่ยเม็ดทับทิมสีสวยตามไปด้วย ปึก ปึก ปึกเธอโยกคลอนตามแรงกระแทก ใบหน้าซบลงกระจกใสพลางเผยอริมฝีปากครางอย่างทรมาน เขาตอกอัดเน้นๆ จนเธอเสียวสะท้านไปทั่วท้องน้อยเขาเอาดุมาก…เซ็กซ์ของเขายังคงเสมอต้นเสมอปลายเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด ภายนอกเขาดึงดูดเพศตรงข้าม หากสาวๆ เหล่านั้นได้ขึ้นเตียงกับเขา เชื่อเลยว่าคง ‘ติดใจ’ กันระนาว บทรักอันเร่าร้อนบรรเลงทั้งคืน เสร็จจากตรงนี้ก็ต่อที่เตียงนอน ร่างบางโยกไปมาบนร่างกายคุณหมอหนุ่ม อวดหุ่นผอมเพียวที่แอบมีน้ำมีนวลเล็กน้อยท่ามกลางสายตาของไรอันเซ็กซี่มาก… คุณหมอหนุ่มพูดในใจ มือหนาประคองเอวบางพลางช่วยขยับ หน้าอกขนาดใหญ่ทำให้คุณหมอหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือขึ้นไปนวดเฟ้น“อ๊า~”“เสียวเหรอ”“ค่ะ ทะ…ทำไมของคุณหมอใหญ่และยาวจัง” “มันค่อยเสียว” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเส่า ก่อนจะรั้งร่างบางลงมาหาแล้วกระแทกสวนขึ้นอย่างหนักหน่วงจนได้ยินเสียงดังตับๆ“มะ…หมอรวิกร มีญ่าเสียวอื๊อ!”“ฉัน
และในที่สุดเธอก็ยอมควักเงินสดสองร้อยเป็นค่าติดรถมากับหมอรวิกร ไปที่เดียวกันแท้ๆ ยังคิดค่าติดรถมาด้วย หมออะไรแล้งน้ำใจจริงๆระหว่างทางไปโรงพยาบาลรถค่อนข้างติดเล็กน้อย หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา และรถหรูของไรอันก็ขับต่อไป บรรยากาศภายในรถเงียบไปครู่หนึ่ง มีญ่านั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งไถหน้าจอโทรศัพท์ ส่วนอีกข้างถือแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อติดมือมาเอี๊ยด!“อ๊ะ!” เธออุทานร้องเสียงหลง จู่ๆ หมอรวิกรก็เบรกกะทันหันจนเธอแทบหัวทิ่ม เธอหันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ“ขับอะไรของหมอเนี่ย!”“คนวิ่งตัดหน้า”เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองนอกกระจก และก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเพิ่งวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถไปจริงๆ เธอชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าที่แสดงความไม่พอใจเมื่อครู่ค่อยๆ อ่อนลง“มีญ่าไม่รู้นิคะว่ามีคนวิ่งตัดหน้า”“มัวแต่เล่นโทรศัพท์จะไปเห็นอะไร” เขาพูดเสียงเรียบ สายตายังคงจับจ้องถนนเบื้องหน้า ส่วนเด็กนั่นก็เงียบไม่พูดอะไรกลับมามีญ่ายังคงรู้สึกหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ ที่เมื่อกี้เกือบทำกาแฟหกใส่เสื้อเพราะอีกฝ่ายเบรกกะทันหัน แต่พอรู้ว่าเป็นเพราะมีคนวิ่งตัดหน้าเธอก็เถียงอะไรมากไม่ได้•••โรงพยาบาลภูริธนากุล“นี่ค่ะ ค่าติดรถ
เขานั่งมองประตูที่เพิ่งปิดลง เด็กนั่นแสบใช่ย่อย คงกะเอาคืนเรื่องที่เขาเก็บค่าติดรถมาด้วย เขาถอนหายใจหนักๆ สายตามองขนมที่วางบนโต๊ะ นั่งคิดนานสองนานว่าจะเอาทิ้งดีไหมเพราะไม่ชอบกินขนม กำลังโยนลงถังขยะก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อนครืด ครืดเบอร์ที่โชว์หลาบนหน้าจอทำให้รู้ว่าคนเป็นพ่อโทรมา เขาวางขนมลงแล้วคว้าโทรศัพท์มากดรับสาย“ครับพ่อ”(ตอนนี้ว่างไหมไรอัน ภรรยาของเซอร์เวย์ป่วย แกเข้าไปที่บ้านเขาหน่อยนะ)“ได้ครับพ่อ”(หนูมีญ่าก็ศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลใช่ไหม ฝากบอกหนูมีญ่าหน่อยนะ พอดีเซอร์เวย์บอกว่าโทรหาลูกสาวไม่ติด)“ครับ” เขาวางสายจากคุณพ่อหยัดกายขึ้นเต็มความสูงเดินออกไปจากห้องทำงานเมื่อก่อนพ่อเป็นหมอประจำตระกูลคุณลุงเซอร์เวย์ แต่พอเขาเป็นหมอเต็มตัวจึงให้เข้ามารับหน้าที่ตรงนี้แทน ส่วนพ่อเกษียณอยู่บ้านคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขาเขาเดินออกมาก็เห็นมีญ่ากำลังยืนช่วยงานนิดอยู่อย่างตั้งใจ จึงเดินเข้าไปหา“คุณลุงเซอร์เวย์โทรมาบอกว่าแม่เธอไม่สบาย”มีญ่าที่กำลังช่วยงานนิดอยู่หยุดชะงัก ก่อนจะหันไปมองไรอันด้วยความตกใจ“แม่เป็นอะไรเหรอคะ”“แค่ป่วย ฉันกำลังไปบ้านเธอ พ่อเธอฝากฉันมาบอกเพราะเ
“พ่อว่าไรอันก็ดูโอเคนะ”เธอหยุดชะงัก เท้าที่ยกขึ้นชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะค่อยๆ หันไปมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งของบ้าน เซอร์เวย์เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นตามแบบฉบับของผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว“คุณพ่อหมายถึงอะไรคะ?”“พ่อกับแม่ชอบไรอันนะ ทำงานก็เก่ง แถมยังมีความรับผิดชอบ”เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ปกติคุณพ่อไม่ใช่คนที่ชมใครง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายที่เข้าใกล้ลูกสาวตัวเอง แต่คราวนี้กลับเอ่ยปากชมหมอรวิกรอย่างออกนอกหน้า“ทำไมมีญ่าไม่ลองคุยๆ กับไรอันดูล่ะ”ว่าแล้วเชียว…เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แทบอยากจะยกมือขึ้นกุมขมับ ทำไมเธอถึงเดาเรื่องนี้ได้แม่นนักก็ไม่รู้ ถ้าซื้อลอตเตอรี่ถูกแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย ที่แท้คุณพ่อก็อยากให้เธอลงเอยกับหมอรวิกรนี่เองคนเก่งๆ แบบหมอรวิกร ใครบ้างไม่อยากได้เป็นลูกเขย แต่คุณพ่อถามเธอก่อนหรือยังว่าได้เป็นผัวไหม“ฝั่งพ่อกับฝั่งรามิลแอบเชียร์อยู่นะ”“เขาแก่ขนาดนั้น มีญ่าไม่ชอบหรอกค่ะ”“ไรอันเหรอแก่?”“ค่ะ อีกหน่อยก็สามสิบ สักพักหัวก็คงงอกแล้ว มีญ่าไม่ชอบหรอกคนแก่” เธอเชิดหน้าใส่ ทำเหมือนว่าไรอันเป็นชายวัยกลางคนไปเ
“ไปเหอะว่ะ” ซันเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงหันไปบอกเพื่อน ที่ผ่านมาไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใคร หากแต่ไรอันเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของมาร์แอลคลับ ดีกรีเป็นถึงลูกชายมาเฟีย และไรอันคงไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพื่อนกันได้อย่างไรเพื่อนซันยอมถอย เพราะท่าทางไรอันดูเอาเรื่องไม่น้อย ยืนเฉยๆ ยังดูน่ากลัวแล้ว แม้อยากอัดซักหมัดสองหมัดแต่ก็ต้องห้ามใจเอาไว้“ทำไมมึงไม่ให้กูอัดหน้ามันก่อนเดินออกมา”“ถ้าเป็นคนอื่นกูคงไม่ห้าม มึงไม่รู้จักมันจริงๆ เหรอวะ?”“แล้วมันเป็นใคร”“มันชื่อไรอัน พ่อเป็นหมอแถมยังเป็นมาเฟีย”เพื่อนของซันนิ่งชะงัก แววตาค่อยๆ อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองเพิ่งท้าทายไปแท้จริงเป็นพวกมาเฟีย“แล้วเรื่องน้องมีญ่าล่ะ มึงจะเอายังไงต่อ”ซันนิ่งไป ก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปาก “กูไม่ถอดใจง่ายๆ หรอก”เพื่อนของเขาส่ายหน้ากับความบ้าระห่ำของซัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อทางด้านไรอัน เขากลับมานั่งที่โต๊ะเดิม ปรายตามองแก้วเครื่องดื่มของตัวเอง ก่อนจะยกมันขึ้นจิบอย่างใจเย็น“หายไปนานนะมึง ไปไหนมา?” คิรันเอ่ยถาม“สูบบุหรี่” เขาตอบเสียงเรียบ พลางหย่อนตัวนั่งลงที่เดิมของตัวเอง“เมื่อกี้กูเห็น
ภายในห้องรับแขกของคอนโดธารน้ำ มีญ่านั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่กองเอกสารสำหรับทำรายงานตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ความคิดวนเวียนอยู่กับบทสนทนาของพยาบาลกลุ่มนั้น‘ได้ข่าวว่าหมอไรอันกับหมอมาริสาจะหมั้นกันเหรอ’หัวใจของเธอบีบรัดขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงมัน เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมถึงต้องรู้สึกแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างไป ทั้งที่ความจริงแล้วเธอและเขาไม่เคยเป็นอะไรกันด้วยซ้ำ“มีญ่า มีญ่า!”“ฮะๆ” เสียงของธารน้ำทำให้เธอสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เธอขานรับธารน้ำทันที“แกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่มาถึงแล้ว” ธารน้ำขมวดคิ้วถาม“ปะ…เปล่า”“แกมีเรื่องไม่สบายใจอะไรบอกฉันได้นะ อย่าลืมว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน”คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ ทำให้เธอรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังเรื่องความรู้สึกที่มีหมอรวิกรจากธารน้ำ ที่ผ่านมาเธอบอกเพื่อนมาโดยตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา“เรื่องของหมอไรอันใช่ไหม” ธารน้ำพอเดาออกว่าที่เพื่อนสนิทเป็นแบบนี้เพราะเรื่องอะไรราวกับคำพูดนั้นกระแทกเข้าตรงจุดสำคัญ หัวใจดวงน้อยไหววูบ ใบหน้าสวยหวานรีบเบือนสายตาหลบอย่างรู้ตัวว่าคงปิดบังอะไรไม่ได้“มีญ่า…” เพียงแค่เ
Empire Rich รถหรูจอดสนิทที่คอนโด เขาหันไปมองมีญ่ากายที่ตอนนี้หลับสนิท ใบหน้าสวยหวานซบอยู่กับเบาะ แขนทั้งสองกอดอยู่กับอก ท่าทางดูสงบเสงี่ยมต่างจากก่อนหน้านี้ที่ยังโวยวายใส่เขายับเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ จากนั้นก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของมีญ่า แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นอย่างง่ายดายตอนแรกเขาตั้งใจจะพาเธอไปส่งที่ห้องของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับเลือกพาเธอมาที่ห้องของเขาเองแทนเมื่อมาถึงห้องนอนเขาวางร่างของมีญ่าลงบนเตียงอย่างเบามือ เขาถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้าเล็ก คิ้วเข้มขมวดนิดๆ เมื่อเห็นรอยแดงที่เกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไปมือหนาลูบเบาๆ อย่างเผลอไผล ก่อนจะละสายตาแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่เสียงพึมพำแผ่วเบากลับทำให้เขาหยุดชะงัก“พี่ชาย…”ไรอันหันกลับมามองคนที่กำลังละเมอ“คิดถึง…”ร่างสูงยืนนิ่ง ดวงตาคมฉายแววซับซ้อนเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอละเมอออกมาจำได้ว่าครั้งหนึ่งมีญ่าเคยตามติดเขาไม่ห่าง เรียกเขาว่าพี่ชายทุกครั้งที่เจอกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเช่นกันริมฝีปากหยักยิ้มมุมปาก ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงเพลงในผับยังคงดังกระหึ่มไปทั่ว มีญ่าหัวเราะเสียงใส ขณะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชนกับหนุ่มหล่อที่เข้ามาทัก“ขอชนแก้วด้วยไหมครับ?” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากแล้วยื่นแก้วเข้ามาใกล้“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?” ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วขึ้น เคร้ง!เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นก่อนที่เธอจะกระดกเหล้าเข้าปาก กลิ่นแอลกอฮอล์แทรกซึมเข้ามาในลำคอร้อนวูบ แต่เธอกลับรู้สึกดี“ดื่มเก่งเหมือนกันนะครับ” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยชม“ไม่เก่งเท่าไรค่ะ”ในขณะที่มีญ่ากำลังยืนคุยกับหนุ่มหล่อ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีสายตาคมเข้มคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาอย่างไม่พอใจไรอันมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ มือข้างที่จับแก้วเหล้าแน่นขึ้นราวกับพยายามระงับอารมณ์“กูว่าอีกไม่นาน” คิรันหันไปกระซิบกับแม็กซ์ควินมีญ่ายังคงยืยหัวเราะคิกคักกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที บรรยากาศพาไปหรือเพราะแอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าขึ้น ด้านเพื่อนสนิทก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนมองมีญ่าคุยกับหนุ่มหล่อพลางหันไปยิ้มกันสองคน“ชื่ออะไรเหรอครับ?” “มีญ่าค่ะ แล้วคุณล่ะ?” เธอพยายามชวนเขาคุยให้มากที่สุด สายตาเหล่มองไปยังโต๊ะข้างๆ ว่าคนที่อยากให้เห็นภาพนี้มองมาห
หลายวันต่อมาช่วงนี้หมอรวิกรเงียบไปเลยจนผิดสังเกต ไม่มีการส่งข้อความมาหา แม้กระทั่งอยู่คอนโดเดียวกันยังไม่มีโอกาสเจอ อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้นเลย แค่รถของเขายังไม่เห็นจอดหลายวันแล้วเขาหายไปไหน…ตั้งแต่วันนั้นที่เธอกลับจากบ้านพักอากาศ เธอก็ไม่เห็นหมอรวิกรอีกเลย เธอนั่งส่องไอจีของเขาระหว่างรอเพื่อนไปสั่งเครื่องดื่ม นิ้วเรียวดึงหน้าจอลงหนึ่งครั้งอย่างไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อตรงรูปโพรไฟล์ปรากฏสตอรีขึ้นมาวินาทีนั้นหัวใจที่นิ่งสงบพลันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่มีความเคลื่อนไหวมาแล้วหลายวัน หากแต่วันนี้เพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว เธอกัดกลีบปากล่างเบาๆ ด้วยความลังเลว่าจะกดดูดีไหมเพราะอยากรู้ว่าเขาลงอะไร แน่นอนว่าถ้ากดดูแน่นอนเขารู้อยู่แล้วว่าเธอแอบส่องแต่อีกใจก็อยากรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ สุดท้ายรวบรวมความกล้าในการกดเข้าไปดูสตอรีเมื่อครู่เขาอยู่สนามแข่งT1บางทีเธอก็แอบหงุดหงิดเขาเหมือนกัน หายไปไม่บอกไม่กล่าวเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด แถมเขายังทำให้เธอสับสนในความสัมพันธ์อีกครั้ง สรุปแล้วต้องการยุติทุกอย่างลงหรือกำลังปั่นหัวเธอเล่นอยู่กันแน่ปากบอกไม่ให้เธอเข้าใกล้
เสียงฟ้าร้องดังสะท้านท้องฟ้า ฝนยังคงตกหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มีญ่ายืนตัวสั่นอยู่ใต้ชายคาหน้าบ้านพักตากอากาศของไรอัน ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปยังถนนที่เวิ้งว้างและมืดครึ้มทำไมเธอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้…ลมเย็นพัดผ่านร่างจนเธออดไม่ได้ที่จะกอดตัวเองแน่นขึ้น เปลือกตากะพริบถี่ไล่หยาดน้ำฝนที่ปลิวมากระทบใบหน้าเธอเหลือบมองหน้าจออีกครั้ง พลางคิดถึงคำพูดสุดท้ายของไรอัน‘ตามใจ’คำพูดนั้นเหมือนสะท้อนอยู่ในหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะกลับไปยังไง จะเปียกฝนหรือไม่จะปลอดภัยหรือเปล่า เขาแค่…ปล่อยเธอไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?LINEโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือทำให้เธอยกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่นทีที่ส่งข้อความมาหา หลังจากถูกหมอรวิกรตัดสายไปก่อนหน้านี้ เธอแค่ดึงหน้าจอลงมาอ่านโดยยังไม่กดเข้าไปอ่านโดยตรงนที : มีญ่าอยู่ไหนเธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออ่านข้อความจากพี่นที ผ่านไปประมาณสองนาทีเขาส่งกลับมาอีกครั้งว่า นที : ตอบพี่หน่อยได้ไหมพี่เป็นห่วง นิ้วเรียวสวยกำลังพิมพ์บอกพี่นทีแต่กลับต้องชะงักอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงเมื่อคิดว่าใครบางคนอาจจะไม่พอใจกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ก็เป็นได้ แต่สุด
ความสัมพันธ์ของเธอและหมอรวิกรเริ่มไม่ดีแล้ว ไม่รู้คิดไปเองไหมเพราะตั้งแต่เขาและพี่นทีเจอกัน เขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าไม่ใจร้ายแค่มีความรู้สึกว่าตอนนี้หนักกว่าตอนนี้ฝนกำลังตกหนักเพราะพายุเข้า มีญ่ายืนกอดอกมองสายฝนโปรยปรายจนมองไม่เห็นข้างนอก เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างสับสน แม้เสียงฝนจะดังสนั่นหากแต่ก็ไม่อาจดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดจนกระทั่ง…LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอละสายตาจากพายุฝนข้างนอกยกโทรศัพท์ในมือขึ้นดูก่อนจะพบว่าเป็นคุณพ่อที่ส่งข้อความมาหาเซอร์เวย์ : อยู่ไหนลูกเธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงเมื่ออ่านข้อความของคุณพ่อ สายตาเหลียวข้างหลังมองหาเจ้าของบ้านพักตากอากาศทว่าก็ไม่เจอ เธอดึงสายตากลับมาอ่านข้อความของคุณพ่ออีกครั้งแล้วพิมพ์ตอบกลับมีญ่า : คอนโดเพื่อนค่ะเซอร์เวย์ : เห็นลูกบอกเย็นๆ จะมาบ้าน พ่อไม่เห็นเลยไลน์มาถามว่าอยู่ไหนเซอร์เวย์ : ตอนนี้ฝนกำลังตก ถ้ามาไม่ได้ไม่ต้องมานะมันอันตรายคนเป็นพ่อเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกสาว ใจอยากให้มาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน มีญ่าบอกว่าจะชดเชยที่วันก่อนไม่ได้กลับบ้านมาทานข้าวเย็น แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มาเพ
ตุ้บ!“โอ๊ย!” แรงเหวี่ยงมหาศาลทำให้ร่างของเธอกระแทกลงเตียงอย่างแรง เธอหันไปมองหมอรวิกรด้วยแววตาหวาดกลัวพร้อมกับถอยหนีตามสัญชาตญาณทำไมเขาน่ากลัวจัง…ภาพหมอรวิกรคนเดิมหายไปในชั่วพริบตา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เท่าที่สังเกตเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอพี่นที อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าเขากับพี่นทีมีเรื่องบาดหมางกันเป็นการส่วนตัวไหม เพราะดูเขาโกรธทุกครั้งเวลาเธอพูดชื่อพี่นทีหมับ“อ๊ะ!” เธออุทานเสียงหลง หมอรวิกรจับข้อเท้าแล้วออกแรงกระชากจนเธอไถลกลับมานอนที่เดิม ไม่ทันได้หาทางหนีก็ถูกเขาตามมาคร่อมข้างบนเสียแล้ว“หมอ…ว๊าย!”ไรอันกระชากเสื้อนักศึกษาจนกระดุมเหล็กกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง มีญ่าส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกับการกระทำแสนป่าเถื่อน มือเล็กพยายามปัดป่ายอีกฝ่ายออกแต่กลับไม่เป็นผล“เสื้อมีญ่าขาดหมดแล้ว!”“ดี! ฉันชอบ”“ทำไมหมอป่าเถื่อนขนาดนี้!”“ฉันป่่าเถื่อนมากกว่าที่เธอรู้อีกมีญ่า” สิ้นคำพูดเขากดจูบลงริมฝีปากสีระเรื่อของมีญ่าอีกครั้ง รสจูบครั้งนี้ยังป่าเถื่อนเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด เขากัดกลีบปากบางเมื่อเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือจนยอมเผยอปากออกเล็กน้อยให้เขาได
ร่างบางค่อยๆ ย่องเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมหนี แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อเห็นไรอันยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกพอดี หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เริ่มมองหาทางอื่นที่พอหนีได้จนไปเจอประตูบานหนึ่ง เธอไม่รอช้าเดินตรงไปยังประตูบานนั้นทันที“จะไปไหน”เฮือก… เธอสะดุ้งอย่างตกใจและหยุดนิ่งอัตโนมัติ เสียงฝีเท้าของเขาที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา“ฉันถามว่าจะไปไหน” เขาหยุดอยู่ข้างหลังมีญ่าแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบคนตัวเล็กค่อยๆ หมุนตัวกลับมาหาไรอันด้วยท่าทางหวาดระแวง ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองคนตัวโตที่มองมาอย่างคาดเดาไม่ได้ว่าหลังจากนี้จะมีแผนการอะไร“มีญ่าจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” บางทีการโกหกอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้“ห้องน้ำไปทางนั้น”“อะ…อ๋อ ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะรีบเดินไปอีกทางที่หมอรวิกรชี้นิ้วบอก จะหนีก็ไม่ทันแล้วยัยมีญ่า ทำไมทุกอย่างดูเข้าทางเขาไปหมดเลยนะเธอยืนรอสักพัก จากนั้นหันไปแกล้งกดชักโครกทำเหมือนเข้าห้องน้ำจริงๆ เดินมาล้างมือทำทุกอย่างให้สมจริง เช็ดมือเสร็จสรรพแล้วเดินออกมาก็เจอเขายืนพิงผนังกำแพงรออยู่ข้า
“…ขอโทษ” เธอนิ่งชะงักลงไปเมื่อได้ยินคำขอโทษของหมอรวิกร เธอเบือนใบหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขาเพื่อซ่อนความอ่อนไหว“นะ…นี่ไม่ใช่ทางไปมหาลัยนิคะ” เธอเริ่มสังเกตว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่ทางไปมหาลัยจึงรีบหันไปบอกเขา“รู้” เขาตอบสั้นๆ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ“รู้แล้วทำไมยังขับไปทางนี้อีกคะ หมอจะพามีญ่าไปไหนกันแน่” เสียงหวานแฝงไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตากลมโตตวัดมองเขา แต่เขายังคงขับรถด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้”“นี่หมอลักพาตัวมีญ่าเหรอคะ?” “ฉันไม่เสียเวลาลักพาตัวเด็กอย่างเธอหรอก”คำพูดนั้นทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไม แต่ทุกครั้งที่เขาพูดจากวนประสาทแบบนี้เธออยากจะต่อยหน้าเขาแรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามสะกดกลั้นความโมโห “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”“เรื่องอะไรคะ คุยบนรถก็ได้”“ฉันไม่อยากคุยบนรถ”“ทำไมไม่ขอคุยตั้งแต่อยู่คอนโดคะ”“ตอนนั้นยังไม่มีเรื่องที่จะคุย แต่ตอนนี้ฉันมี”“หมอจอดรถเลยนะคะ มีญ่าจะไปเรียน”“อาจารย์ของเธอเพิ่งยกคลาส”“ไม่จริง หมอโกหก…”LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอชะงัก ก่อนจะหยิบขึ้นมาเสมอใบหน้าให้สแกนปลดล็อก เธออ่านข้อความที่ธ