“พ่อว่าไรอันก็ดูโอเคนะ”เธอหยุดชะงัก เท้าที่ยกขึ้นชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะค่อยๆ หันไปมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งของบ้าน เซอร์เวย์เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นตามแบบฉบับของผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว“คุณพ่อหมายถึงอะไรคะ?”“พ่อกับแม่ชอบไรอันนะ ทำงานก็เก่ง แถมยังมีความรับผิดชอบ”เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ปกติคุณพ่อไม่ใช่คนที่ชมใครง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายที่เข้าใกล้ลูกสาวตัวเอง แต่คราวนี้กลับเอ่ยปากชมหมอรวิกรอย่างออกนอกหน้า“ทำไมมีญ่าไม่ลองคุยๆ กับไรอันดูล่ะ”ว่าแล้วเชียว…เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แทบอยากจะยกมือขึ้นกุมขมับ ทำไมเธอถึงเดาเรื่องนี้ได้แม่นนักก็ไม่รู้ ถ้าซื้อลอตเตอรี่ถูกแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย ที่แท้คุณพ่อก็อยากให้เธอลงเอยกับหมอรวิกรนี่เองคนเก่งๆ แบบหมอรวิกร ใครบ้างไม่อยากได้เป็นลูกเขย แต่คุณพ่อถามเธอก่อนหรือยังว่าได้เป็นผัวไหม“ฝั่งพ่อกับฝั่งรามิลแอบเชียร์อยู่นะ”“เขาแก่ขนาดนั้น มีญ่าไม่ชอบหรอกค่ะ”“ไรอันเหรอแก่?”“ค่ะ อีกหน่อยก็สามสิบ สักพักหัวก็คงงอกแล้ว มีญ่าไม่ชอบหรอกคนแก่” เธอเชิดหน้าใส่ ทำเหมือนว่าไรอันเป็นชายวัยกลางคนไปเ
“ไปเหอะว่ะ” ซันเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงหันไปบอกเพื่อน ที่ผ่านมาไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใคร หากแต่ไรอันเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของมาร์แอลคลับ ดีกรีเป็นถึงลูกชายมาเฟีย และไรอันคงไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพื่อนกันได้อย่างไรเพื่อนซันยอมถอย เพราะท่าทางไรอันดูเอาเรื่องไม่น้อย ยืนเฉยๆ ยังดูน่ากลัวแล้ว แม้อยากอัดซักหมัดสองหมัดแต่ก็ต้องห้ามใจเอาไว้“ทำไมมึงไม่ให้กูอัดหน้ามันก่อนเดินออกมา”“ถ้าเป็นคนอื่นกูคงไม่ห้าม มึงไม่รู้จักมันจริงๆ เหรอวะ?”“แล้วมันเป็นใคร”“มันชื่อไรอัน พ่อเป็นหมอแถมยังเป็นมาเฟีย”เพื่อนของซันนิ่งชะงัก แววตาค่อยๆ อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองเพิ่งท้าทายไปแท้จริงเป็นพวกมาเฟีย“แล้วเรื่องน้องมีญ่าล่ะ มึงจะเอายังไงต่อ”ซันนิ่งไป ก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปาก “กูไม่ถอดใจง่ายๆ หรอก”เพื่อนของเขาส่ายหน้ากับความบ้าระห่ำของซัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อทางด้านไรอัน เขากลับมานั่งที่โต๊ะเดิม ปรายตามองแก้วเครื่องดื่มของตัวเอง ก่อนจะยกมันขึ้นจิบอย่างใจเย็น“หายไปนานนะมึง ไปไหนมา?” คิรันเอ่ยถาม“สูบบุหรี่” เขาตอบเสียงเรียบ พลางหย่อนตัวนั่งลงที่เดิมของตัวเอง“เมื่อกี้กูเห็น
คุณหมอหนุ่มคร่อมร่างบางที่อยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสุดเซ็กซี่ จมูกโด่งสันลากไล้ไปตามหัวไหล่ กลิ่นหอมคล้ายแป้งเด็กแสนคุ้นเคยจากตัวมีญ่า กระตุ้นอารมณ์กระสันในกายคนตัวโตได้ไม่ยาก“อึก…” รสสัมผัสจากหมอรวิกรทำหัวใจเต้นรัว เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง พลางเบือนใบหน้าไปอีกทางในจังหวะที่ใบหน้าของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ลำคอเธอเปิดทางให้เขาโดยไม่รู้ตัว…“ตัวเธอหอมมากมีญ่า”เธอแทบหยุดหายใจไปตามสัมผัสจากมือหยาบ เขาลูบไล้ต้นขาของเธอขึ้นมายังเนินสามเหลี่ยม ลูบตรงนั้นเบาๆ จนร่างกายเธอเกร็งกระตุกอย่างเห็นได้ชัด “มะ…หมอ…”“หืม?” เขาขานรับเบาๆ ในลำคอ พลางเลื่อนใบหน้ามามองมีญ่าที่กำลังใช้มือดันแผงอก สีหน้าเวลาทรมานของเธอดูเซ็กซี่มากไม่ใช่น้อย เขาใช้นิ้วหัวแม่มือปาดไล้ริมฝีปากสีระเรื่อไปมาอย่างหลงใหล“ทำไมเหรอหืม”“มีญ่าทรมาน…”“ทรมานมากไหม?”เธอพยักหน้าเป็นคำตอบเบาๆ ไรอันยกยิ้มอย่างร้ายกาจ สายตาคมกริบหลุบมองยอดปทุมถันที่ดันชุดนอนขึ้นมาอย่างชัดเจน ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะครอบลงแล้วดูดเบาๆ กระแสเสียวซ่านพลันวิ่งปราดไปทั่วคนใต้ร่างจนเผลอแอ่นอกรับสัมผัสนั้นจากคุณหมอหนุ่ม“อ๊า~” แรงดูดเลียจากอุ
มหาวิทยาลัยร่างบางในชุดนักศึกษาก้าวลงจาก Porsch คันหรู มีญ่าเดินขึ้นตึกคณะ ท่ามกลางสายตานักศึกษาคนอื่นๆ ที่มองอย่างให้ความสนใจ แม้ว่าคนถูกมองจะรู้สึกประหม่าแต่ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ มองเห็นใครแล้วสบตากันพอดีก็ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ใครๆ ต่างอยากเป็นมีญ่าทั้งนั้น เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องลำบาก มีเงินเดือนจากที่บ้านเดือนละหกหลักให้ได้ ขับรถหรู ใช้บัตรเครดิตพ่อแม่จ่ายเวลาชอปปิง เที่ยวต่างประเทศได้ทุกเมื่อเท่าที่ต้องการ กระนั้นมีญ่าก็ไม่ชอบออกงานสังคมเพราะวางตัวเวลาอยู่ท่ามกลางนักธุรกิจหรือคนดังไม่ถูก แต่ถ้าเป็นปาร์ตี้ที่ผับขอแค่บอก ไม่มีคำว่าไม่อยากไป เธอเดินเข้ามายังห้องเรียน ตอนนี้คนอื่นๆ ทยอยมาถึงเกือบหมด เธอหย่อนตัวนั่งลงที่ประจำของตัวเอง ข้างๆ เป็นธารน้ำ“แล้วเฟย์ล่ะ” เธอเอ่ยถามธารน้ำ พลางวางกระเป๋าลงเก้าอี้ว่างข้างกาย“น่าจะยังไม่มามั้ง”“ทำไมวันนี้มาสาย ปกติไม่เคยมาสาย”“เมื่อคืนคงหนักมั้ง”“หนัก?”“อือ เมื่อคืนโทรมาชวนฉันไปผับ แต่ฉันไม่ว่าง”เธอพยักหน้ารับเบาๆ เมื่อคืนเฟย์ไม่ได้โทรมาชวนเธอ แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดเล็กน้อยเพราะเพื่อนรู้อยู่แล้วว่าเธอกลับบ้าน เธอหยิบไอแพดขึ้
Empire Rich มีญ่าดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถหรู ร่างบางกำลังเดินเข้าไปในล็อบบี้ หากแต่ต้องชะงักลงไปเมื่อสายตาพลันเห็นรถหรูคุ้นเคยขับเข้ามาจอดข้างๆ รถตัวเอง เธอหยุดมองอย่างเปิดเผยจนเจ้าของรถลงมาคุณหมอหนุ่มเดินถือเสื้อกาวน์ตรงมาหามีญ่า เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนมองจึงหยุดอยู่ต่อหน้า และมองกลับเช่นเดียวกัน“มีอะไรรึเปล่า” เขาเอ่ยถามมีญ่าที่ยืนมองราวกับมีเรื่องอยากคุยด้วย“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป ตอนแรกเหมือนมีอะไรอยากพูด แต่พอเขามายืนใกล้ๆ กลับคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรไรอันเดินตามมีญ่าเข้าไปในลิฟต์ ตัวเลขลิฟต์เลื่อนขึ้นบอกชั้นท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุม มีญ่ายืนเล่นโทรศัพท์ ส่วนไรอันยืนเอามือล้วงกระเป๋านิ่งๆติ่ง…เสียงลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่มีญ่าอาศัยอยู่ หญิงสาวก้าวเดินออกมาทันทีโดยไม่มองหน้าไรอัน ทว่าเสียงฝีเท้าที่ดังตามมากลับทำให้คนตัวเล็กชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมอง“หมอตามมีญ่าทำไมคะ”“ฉันลืมของไว้ที่ห้องเธอ”“อ๋อ…” เธอตอบแค่นั้นแล้วก้าวเท้าเดินต่อจนกระทั่งถึงห้องตัวเอง เธอจัดการกดรหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป และยืนขวางประตูไม่ให้หมอรวิกรเข้ามา“หมอรอตรงนี้แหละค่ะ หม
“ถึงขั้นนี้แล้วเหรอวะ” เสียงแม็กซ์ควินพูดขึ้นไม่คาดคิดว่าไรอันจะกล้าทำแบบนั้นอย่างเปิดเผย ที่ผ่านมาเพื่อนคนนี้ไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน หากแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นไรอันทำอะไรแบบนี้ ตอนเห็นยังตกใจอยู่เลย พวกเขาคุยกันว่าใช่ไหม ใช่จริงๆ ไหม แต่ภาพทุกอย่างยืนยันชัดเจนหมดแล้ว“กูเห็นมีญ่าลื่นตกบันได ก็แค่ช่วยในฐานะหมอ”แม็กซ์ควินกับคิรันหันหน้ามองกันแล้วยิ้มส่ายหน้าไปมา ราวกับคำพูดของไรอันมันฟังไม่ขึ้น“พวกกูรู้ว่ามึงช่วยในฐานะหมอ แต่ไอ้ที่เห็นอุ้มมาเนี่ย อุ้มในฐานะหมอด้วยไหมวะ” คิรันพูดแล้วยิ้มกริ่ม“กูเห็นมีญ่าเดินไม่ไหว”“เพื่อนกูเป็นหมอที่ดีจริงๆ เลย สมแล้วที่เป็นหมอประจำตระกูลคุณเซอร์เวย์”“ถ้าคนนี้จริงจัง พวกกูเชียร์นะ” คิรันพูดแล้วไปมองแม็กซ์ควิน“กูบอกแล้วไงไม่ชอบเด็ก”“ไอ้ไม่ชอบนี่แหละตัวดี อย่าให้เห็นนะว่าสุดท้ายมึงหลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น” แม็กซ์ควินพูด“ไร้สาระ” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะมองออกไปยังสนามตรงหน้าเพื่อดูการแข่งขันต่อหลังจากการแข่งขันเสร็จ ธารน้ำประคองมีญ่าออกจากโซน VIP ระหว่างนั้นเองสองสาวพลันมองเห็นเฟย์ที่เป็นเพื่อนสนิทกำลังเดินมากับซัน รุ่นพี่ที่มหาวิท
เธอนั่งมองถุงยานานสองนานพลางคิดเรื่องวันนี้ตามไปด้วย ตั้งแต่เหตุการณ์เธอลื่นหน้าห้องน้ำ หมอรวิกรอุ้ม พามาส่งที่คอนโด ประคบเย็นให้ และเอายามาให้หลังจากกลับออกไปนานพอสมควร“ก็เขาเป็นหมอประจำตระกูล ไม่แปลกหรอกถ้าจะทำแบบนี้” เธอนั่งมองถุงยาพร้อมกับขยับริมฝีปากพูดตามไปด้วย หมอรวิกรไม่มีทางมีเหตุผลอื่นนอกจากทำตามหน้าที่ และประโยคที่เขาตอนอยู่บนรถชัดเจนเลยว่าเขาทำในฐานะหมอไม่ต้องคิดมากไปหรอกมีญ่า คนอย่างหมอรวิกรไม่มีวันมาชอบเด็กอย่างเธอหรอก หรือถ้าชอบเธอก็คงไม่ชอบคนแก่อย่างเขาอยู่ดีทั้งที่เคยบอกไม่ชอบคนแก่ แต่ทำไมยังนึกถึงการกระทำต่างๆ ที่เขาปฏิบัติด้วย ทั้งอ่อนโยน…ทั้งชวนทำให้ใจสั่น…อีกทั้งยัง…ดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกกรี๊ดดด ไม่นะมีญ่า! อย่าคิดแบบนั้น เธอไม่ชอบคนแก่ท่องเอาไว้! เธอสะบัดหน้าแรงๆ ไล่ความคิดพวกนั้นออกไปจากหัว ก่อนจะหยิบยาแก้ปวดออกจากถุงมาป้อนเข้าปาก เพราะตอนนี้เริ่มปวดจนทนไม่ไหวแล้ว หลังจากกินยาเสร็จเธอหยัดกายขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนด้านไรอันคุณหมอหนุ่มนั่งทำงานหน้าแมคบุ๊คพร้อมกับใส่แว่นตากรองแสงอย่างจริงจัง พลางเปิดเอกสารต่างๆ กำกับตามไปด้วยติ่งต่อง…เสียงออดที่ดังข
หลายวันต่อมาโรงพยาบาลภูริธนากุลวันเสาร์มาถึงไวเหมือนโกหก เธอจำได้ว่ามันเพิ่งวันจันทร์เองนะ สองเท้าตวัดเดินเข้าไปภายในโรงพยาบาลในช่วงแปดโมงกว่า สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างจากซอมบี้เดินได้เพราะเมื่อคืนเล่นเกมจนดึกไม่ยอมนอน กว่าจะยอมนอนปาไปเกือบตีสาม เธอเดินไปพลางดูดกาแฟตามไปด้วย พอได้กาแฟก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อยเมื่อไหร่จะถึงเวลาเลิกงาน อยากกลับแล้ว…“ไม่ได้นอนเหรอน้องมีญ่า” เสียงของนิดพูดกับมีญ่า“เล่นเกมจนดึกค่ะพี่นิด”“ช่วงนี้ติดเกมเหรอหืม”“นิดหน่อยค่ะ เล่นคลายเครียด”นิดอมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดู ส่วนมีญ่านั่งลงเก้าอี้แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาดูด ดวงตาคู่สวยพลันเห็นไรอันในเสื้อกาวน์สีขาวกำลังเดินตรงมาทางนี้ พอเห็นเขาก็รีบหันไปทางอื่นทันทีเรื่องวันนั้นยังคงคั่งค้างในใจ ตั้งแต่วันนั้นเธอพยายามหลบหน้าเขาทุกครั้งที่มีโอกาส เขาเองเงียบไปเช่นเดียวกัน บทสนทนาที่เคยมีผ่านไลน์ก็พลอยเงียบไปด้วยต่างกันคนต่างเงียบ…ไรอันเดินผ่านมีญ่าไปพลางปรายสายตามองอีกฝ่ายเพียงนิด ขาเรียวยาวตวัดเข้าไปในห้องทำงาน เมื่อประตูปิดลงมีญ่าจึงหันไปมองตามสัญชาตญาณ“ช่วงนี้หมอไรอันดูแปลกๆ เนอะ”“มีญ่าก็ว่าอย่าง
ภายในห้องรับแขกของคอนโดธารน้ำ มีญ่านั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่กองเอกสารสำหรับทำรายงานตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ความคิดวนเวียนอยู่กับบทสนทนาของพยาบาลกลุ่มนั้น‘ได้ข่าวว่าหมอไรอันกับหมอมาริสาจะหมั้นกันเหรอ’หัวใจของเธอบีบรัดขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงมัน เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมถึงต้องรู้สึกแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างไป ทั้งที่ความจริงแล้วเธอและเขาไม่เคยเป็นอะไรกันด้วยซ้ำ“มีญ่า มีญ่า!”“ฮะๆ” เสียงของธารน้ำทำให้เธอสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เธอขานรับธารน้ำทันที“แกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่มาถึงแล้ว” ธารน้ำขมวดคิ้วถาม“ปะ…เปล่า”“แกมีเรื่องไม่สบายใจอะไรบอกฉันได้นะ อย่าลืมว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน”คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ ทำให้เธอรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังเรื่องความรู้สึกที่มีหมอรวิกรจากธารน้ำ ที่ผ่านมาเธอบอกเพื่อนมาโดยตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา“เรื่องของหมอไรอันใช่ไหม” ธารน้ำพอเดาออกว่าที่เพื่อนสนิทเป็นแบบนี้เพราะเรื่องอะไรราวกับคำพูดนั้นกระแทกเข้าตรงจุดสำคัญ หัวใจดวงน้อยไหววูบ ใบหน้าสวยหวานรีบเบือนสายตาหลบอย่างรู้ตัวว่าคงปิดบังอะไรไม่ได้“มีญ่า…” เพียงแค่เ
Empire Rich รถหรูจอดสนิทที่คอนโด เขาหันไปมองมีญ่ากายที่ตอนนี้หลับสนิท ใบหน้าสวยหวานซบอยู่กับเบาะ แขนทั้งสองกอดอยู่กับอก ท่าทางดูสงบเสงี่ยมต่างจากก่อนหน้านี้ที่ยังโวยวายใส่เขายับเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ จากนั้นก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของมีญ่า แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นอย่างง่ายดายตอนแรกเขาตั้งใจจะพาเธอไปส่งที่ห้องของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับเลือกพาเธอมาที่ห้องของเขาเองแทนเมื่อมาถึงห้องนอนเขาวางร่างของมีญ่าลงบนเตียงอย่างเบามือ เขาถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้าเล็ก คิ้วเข้มขมวดนิดๆ เมื่อเห็นรอยแดงที่เกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไปมือหนาลูบเบาๆ อย่างเผลอไผล ก่อนจะละสายตาแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่เสียงพึมพำแผ่วเบากลับทำให้เขาหยุดชะงัก“พี่ชาย…”ไรอันหันกลับมามองคนที่กำลังละเมอ“คิดถึง…”ร่างสูงยืนนิ่ง ดวงตาคมฉายแววซับซ้อนเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอละเมอออกมาจำได้ว่าครั้งหนึ่งมีญ่าเคยตามติดเขาไม่ห่าง เรียกเขาว่าพี่ชายทุกครั้งที่เจอกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเช่นกันริมฝีปากหยักยิ้มมุมปาก ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงเพลงในผับยังคงดังกระหึ่มไปทั่ว มีญ่าหัวเราะเสียงใส ขณะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชนกับหนุ่มหล่อที่เข้ามาทัก“ขอชนแก้วด้วยไหมครับ?” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากแล้วยื่นแก้วเข้ามาใกล้“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?” ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วขึ้น เคร้ง!เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นก่อนที่เธอจะกระดกเหล้าเข้าปาก กลิ่นแอลกอฮอล์แทรกซึมเข้ามาในลำคอร้อนวูบ แต่เธอกลับรู้สึกดี“ดื่มเก่งเหมือนกันนะครับ” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยชม“ไม่เก่งเท่าไรค่ะ”ในขณะที่มีญ่ากำลังยืนคุยกับหนุ่มหล่อ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีสายตาคมเข้มคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาอย่างไม่พอใจไรอันมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ มือข้างที่จับแก้วเหล้าแน่นขึ้นราวกับพยายามระงับอารมณ์“กูว่าอีกไม่นาน” คิรันหันไปกระซิบกับแม็กซ์ควินมีญ่ายังคงยืยหัวเราะคิกคักกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที บรรยากาศพาไปหรือเพราะแอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าขึ้น ด้านเพื่อนสนิทก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนมองมีญ่าคุยกับหนุ่มหล่อพลางหันไปยิ้มกันสองคน“ชื่ออะไรเหรอครับ?” “มีญ่าค่ะ แล้วคุณล่ะ?” เธอพยายามชวนเขาคุยให้มากที่สุด สายตาเหล่มองไปยังโต๊ะข้างๆ ว่าคนที่อยากให้เห็นภาพนี้มองมาห
หลายวันต่อมาช่วงนี้หมอรวิกรเงียบไปเลยจนผิดสังเกต ไม่มีการส่งข้อความมาหา แม้กระทั่งอยู่คอนโดเดียวกันยังไม่มีโอกาสเจอ อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้นเลย แค่รถของเขายังไม่เห็นจอดหลายวันแล้วเขาหายไปไหน…ตั้งแต่วันนั้นที่เธอกลับจากบ้านพักอากาศ เธอก็ไม่เห็นหมอรวิกรอีกเลย เธอนั่งส่องไอจีของเขาระหว่างรอเพื่อนไปสั่งเครื่องดื่ม นิ้วเรียวดึงหน้าจอลงหนึ่งครั้งอย่างไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อตรงรูปโพรไฟล์ปรากฏสตอรีขึ้นมาวินาทีนั้นหัวใจที่นิ่งสงบพลันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่มีความเคลื่อนไหวมาแล้วหลายวัน หากแต่วันนี้เพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว เธอกัดกลีบปากล่างเบาๆ ด้วยความลังเลว่าจะกดดูดีไหมเพราะอยากรู้ว่าเขาลงอะไร แน่นอนว่าถ้ากดดูแน่นอนเขารู้อยู่แล้วว่าเธอแอบส่องแต่อีกใจก็อยากรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ สุดท้ายรวบรวมความกล้าในการกดเข้าไปดูสตอรีเมื่อครู่เขาอยู่สนามแข่งT1บางทีเธอก็แอบหงุดหงิดเขาเหมือนกัน หายไปไม่บอกไม่กล่าวเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด แถมเขายังทำให้เธอสับสนในความสัมพันธ์อีกครั้ง สรุปแล้วต้องการยุติทุกอย่างลงหรือกำลังปั่นหัวเธอเล่นอยู่กันแน่ปากบอกไม่ให้เธอเข้าใกล้
เสียงฟ้าร้องดังสะท้านท้องฟ้า ฝนยังคงตกหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มีญ่ายืนตัวสั่นอยู่ใต้ชายคาหน้าบ้านพักตากอากาศของไรอัน ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปยังถนนที่เวิ้งว้างและมืดครึ้มทำไมเธอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้…ลมเย็นพัดผ่านร่างจนเธออดไม่ได้ที่จะกอดตัวเองแน่นขึ้น เปลือกตากะพริบถี่ไล่หยาดน้ำฝนที่ปลิวมากระทบใบหน้าเธอเหลือบมองหน้าจออีกครั้ง พลางคิดถึงคำพูดสุดท้ายของไรอัน‘ตามใจ’คำพูดนั้นเหมือนสะท้อนอยู่ในหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะกลับไปยังไง จะเปียกฝนหรือไม่จะปลอดภัยหรือเปล่า เขาแค่…ปล่อยเธอไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?LINEโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือทำให้เธอยกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่นทีที่ส่งข้อความมาหา หลังจากถูกหมอรวิกรตัดสายไปก่อนหน้านี้ เธอแค่ดึงหน้าจอลงมาอ่านโดยยังไม่กดเข้าไปอ่านโดยตรงนที : มีญ่าอยู่ไหนเธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออ่านข้อความจากพี่นที ผ่านไปประมาณสองนาทีเขาส่งกลับมาอีกครั้งว่า นที : ตอบพี่หน่อยได้ไหมพี่เป็นห่วง นิ้วเรียวสวยกำลังพิมพ์บอกพี่นทีแต่กลับต้องชะงักอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงเมื่อคิดว่าใครบางคนอาจจะไม่พอใจกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ก็เป็นได้ แต่สุด
ความสัมพันธ์ของเธอและหมอรวิกรเริ่มไม่ดีแล้ว ไม่รู้คิดไปเองไหมเพราะตั้งแต่เขาและพี่นทีเจอกัน เขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าไม่ใจร้ายแค่มีความรู้สึกว่าตอนนี้หนักกว่าตอนนี้ฝนกำลังตกหนักเพราะพายุเข้า มีญ่ายืนกอดอกมองสายฝนโปรยปรายจนมองไม่เห็นข้างนอก เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างสับสน แม้เสียงฝนจะดังสนั่นหากแต่ก็ไม่อาจดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดจนกระทั่ง…LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอละสายตาจากพายุฝนข้างนอกยกโทรศัพท์ในมือขึ้นดูก่อนจะพบว่าเป็นคุณพ่อที่ส่งข้อความมาหาเซอร์เวย์ : อยู่ไหนลูกเธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงเมื่ออ่านข้อความของคุณพ่อ สายตาเหลียวข้างหลังมองหาเจ้าของบ้านพักตากอากาศทว่าก็ไม่เจอ เธอดึงสายตากลับมาอ่านข้อความของคุณพ่ออีกครั้งแล้วพิมพ์ตอบกลับมีญ่า : คอนโดเพื่อนค่ะเซอร์เวย์ : เห็นลูกบอกเย็นๆ จะมาบ้าน พ่อไม่เห็นเลยไลน์มาถามว่าอยู่ไหนเซอร์เวย์ : ตอนนี้ฝนกำลังตก ถ้ามาไม่ได้ไม่ต้องมานะมันอันตรายคนเป็นพ่อเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกสาว ใจอยากให้มาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน มีญ่าบอกว่าจะชดเชยที่วันก่อนไม่ได้กลับบ้านมาทานข้าวเย็น แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มาเพ
ตุ้บ!“โอ๊ย!” แรงเหวี่ยงมหาศาลทำให้ร่างของเธอกระแทกลงเตียงอย่างแรง เธอหันไปมองหมอรวิกรด้วยแววตาหวาดกลัวพร้อมกับถอยหนีตามสัญชาตญาณทำไมเขาน่ากลัวจัง…ภาพหมอรวิกรคนเดิมหายไปในชั่วพริบตา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เท่าที่สังเกตเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอพี่นที อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าเขากับพี่นทีมีเรื่องบาดหมางกันเป็นการส่วนตัวไหม เพราะดูเขาโกรธทุกครั้งเวลาเธอพูดชื่อพี่นทีหมับ“อ๊ะ!” เธออุทานเสียงหลง หมอรวิกรจับข้อเท้าแล้วออกแรงกระชากจนเธอไถลกลับมานอนที่เดิม ไม่ทันได้หาทางหนีก็ถูกเขาตามมาคร่อมข้างบนเสียแล้ว“หมอ…ว๊าย!”ไรอันกระชากเสื้อนักศึกษาจนกระดุมเหล็กกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง มีญ่าส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกับการกระทำแสนป่าเถื่อน มือเล็กพยายามปัดป่ายอีกฝ่ายออกแต่กลับไม่เป็นผล“เสื้อมีญ่าขาดหมดแล้ว!”“ดี! ฉันชอบ”“ทำไมหมอป่าเถื่อนขนาดนี้!”“ฉันป่่าเถื่อนมากกว่าที่เธอรู้อีกมีญ่า” สิ้นคำพูดเขากดจูบลงริมฝีปากสีระเรื่อของมีญ่าอีกครั้ง รสจูบครั้งนี้ยังป่าเถื่อนเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด เขากัดกลีบปากบางเมื่อเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือจนยอมเผยอปากออกเล็กน้อยให้เขาได
ร่างบางค่อยๆ ย่องเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมหนี แต่แล้วก็ต้องชะงักลงไปเมื่อเห็นไรอันยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกพอดี หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เริ่มมองหาทางอื่นที่พอหนีได้จนไปเจอประตูบานหนึ่ง เธอไม่รอช้าเดินตรงไปยังประตูบานนั้นทันที“จะไปไหน”เฮือก… เธอสะดุ้งอย่างตกใจและหยุดนิ่งอัตโนมัติ เสียงฝีเท้าของเขาที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา“ฉันถามว่าจะไปไหน” เขาหยุดอยู่ข้างหลังมีญ่าแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบคนตัวเล็กค่อยๆ หมุนตัวกลับมาหาไรอันด้วยท่าทางหวาดระแวง ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองคนตัวโตที่มองมาอย่างคาดเดาไม่ได้ว่าหลังจากนี้จะมีแผนการอะไร“มีญ่าจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” บางทีการโกหกอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้“ห้องน้ำไปทางนั้น”“อะ…อ๋อ ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะรีบเดินไปอีกทางที่หมอรวิกรชี้นิ้วบอก จะหนีก็ไม่ทันแล้วยัยมีญ่า ทำไมทุกอย่างดูเข้าทางเขาไปหมดเลยนะเธอยืนรอสักพัก จากนั้นหันไปแกล้งกดชักโครกทำเหมือนเข้าห้องน้ำจริงๆ เดินมาล้างมือทำทุกอย่างให้สมจริง เช็ดมือเสร็จสรรพแล้วเดินออกมาก็เจอเขายืนพิงผนังกำแพงรออยู่ข้า
“…ขอโทษ” เธอนิ่งชะงักลงไปเมื่อได้ยินคำขอโทษของหมอรวิกร เธอเบือนใบหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขาเพื่อซ่อนความอ่อนไหว“นะ…นี่ไม่ใช่ทางไปมหาลัยนิคะ” เธอเริ่มสังเกตว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่ทางไปมหาลัยจึงรีบหันไปบอกเขา“รู้” เขาตอบสั้นๆ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ“รู้แล้วทำไมยังขับไปทางนี้อีกคะ หมอจะพามีญ่าไปไหนกันแน่” เสียงหวานแฝงไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตากลมโตตวัดมองเขา แต่เขายังคงขับรถด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้”“นี่หมอลักพาตัวมีญ่าเหรอคะ?” “ฉันไม่เสียเวลาลักพาตัวเด็กอย่างเธอหรอก”คำพูดนั้นทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไม แต่ทุกครั้งที่เขาพูดจากวนประสาทแบบนี้เธออยากจะต่อยหน้าเขาแรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามสะกดกลั้นความโมโห “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”“เรื่องอะไรคะ คุยบนรถก็ได้”“ฉันไม่อยากคุยบนรถ”“ทำไมไม่ขอคุยตั้งแต่อยู่คอนโดคะ”“ตอนนั้นยังไม่มีเรื่องที่จะคุย แต่ตอนนี้ฉันมี”“หมอจอดรถเลยนะคะ มีญ่าจะไปเรียน”“อาจารย์ของเธอเพิ่งยกคลาส”“ไม่จริง หมอโกหก…”LINEเสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้เธอชะงัก ก่อนจะหยิบขึ้นมาเสมอใบหน้าให้สแกนปลดล็อก เธออ่านข้อความที่ธ