“โลกอนาคตนนี่น่ากลัวจริงๆ เลยนะ” เช้าวันต่อมาชายก็ได้รับข่าวที่น่าประหลาดใจ บริษัทผู้ค้าอาหารสำเร็จรูปรายใหญ่แห่งรัฐอดาเนียทำไข่ตุ๋นออกมาขายแล้ว บทวิจารณ์บอกว่ามันมีเนื้อที่เด้งสู้ฟันมากกว่าไข่ตุ๋นของเขาเล็กน้อย และมีรสชาติอร่อยพอๆ กับบะหมี่ถ้วยในตำนาน สำหรับเครื่องเคียงที่ให้มาก็เป็นเครื่องเคียงสังเคราะห์แบบที่พบได้ทั่วไปในอาหารสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามสิ่งที่ส่งผลกระทบกับกิจการของครัวคุณชายมากที่สุดย่อมเป็นประเด็นเรื่องสารอาหาร เพราะใช้เครื่องเคียงสังเคราะห์ที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการของไข่ตุ๋นของคู่แข่งจึงชนะไข่ตุ๋นจากครัวคุณชายไปได้อย่างขาดลอย
เพียงสองวันพวกเขาก็แกะสูตรออกมาได้นับว่าความสามารถของคนในโลกอนาคตไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“เอายังไงดีนะ” ชายถามตัวเองพลางใช้นิ้วเคาะริมฝีปากอย่างครุ่นคิด กำลังผลิตของเขาในตอนนี้ไม่ถือว่ามากนัก และด้วยรสชาติที่ยังไม่มีใครเลียนแบบได้ก็ทำให้เขามีเปรียบอยู่เล็กน้อย แม้จะผ่านมาหลายพันปีแต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็ไม่เคยเปลี่ยน หากสถานการณ์เอื้ออำนวยพวกเขาย่อมให้ความสำคัญกับรสชาติมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้นชายจึงมั่นใจว่าสินค้าของตนจะยังคงขายได้ แต่ครั้นจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก
‘ยังไงก็คิดจะทำหลายๆ อย่างอยู่แล้ว ทำออกมาเร็วหน่อยคงไม่เป็นไร’ ชายบอกตัวเองแบบนั้นแล้วก็เริ่มลงมือทันที
วัตถุดิบหลักของอาหารชนิดใหม่ยังคงเป็นไข่ไก่ ด้วยเหตุนี้การผลิตอาหารอย่างที่สองจึงไม่กระทบต่อกระบวนการผลิตที่ตั้งไว้มากนัก เจ้าบลูแค่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม จากที่ต้องเตรียมไข่ไก่หนึ่งพันฟองก็กลายเป็นหนึ่งพันห้าร้อยฟอง เจ้าพิงค์ที่ได้รับมอบหมายให้เตรียมเนื้อก็รับภาระมากขึ้น ส่วนเจ้าไวท์จากที่เคยเป็นผู้ช่วยของบิ๊กก็ถูกโยกมาทำหน้าที่หุงข้าวโดยเฉพาะ
ใช่ อาหารชนิดใหม่นอกจากจะมีไข่เป็นวัตถุดิบหลักแล้วยังมีข้าวอีกด้วย เพราะสิ่งที่ชายตั้งใจจะทำก็คือ “ข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง” และครั้งนี้เขาตั้งใจจะทำออกมาถึงหกรสชาติ
อย่างไรก็ตามถึงจะเรียกว่าหกรสชาติแต่วัตถุดิบนั้นไม่ได้มากมายอะไรเลย อันที่จริงมันเป็นแบบเดียวกันกับไข่ตุ๋นเสียด้วยซ้ำ มีแค่ หมู ไก่ และแคร์รอต แต่ที่มีถึงหกแบบเป็นเพราะการจับคู่กันของวัตถุดิบเหล่านี้ในรูปแบบที่ต่างกันเท่านั้น โดยชายตั้งพื้นฐานเอาไว้สามอย่างประกอบด้วย ไข่เจียวธรรมดา ไข่เจียวหมูสับ และไข่เจียวไก่สับ จากนั้นเมื่อเติมแคร์รอตเข้าไปในไข่เจียวทั้งสามแบบก็จะได้ไข่เจียวทั้งหมดหกแบบ แน่นอนว่าจะต้องมีคนบ่นเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ แต่ชายก็คิดว่ามันน่าจะแก้ไขได้ด้วยการตั้งราคา และต่อไปเขาอาจจะขายเครื่องเคียงสำหรับกินคู่กับข้าวไข่เจียวเพิ่มอีก
‘เอ หรือจะทำเครื่องเคียงออกมาพร้อมกันเลยดีนะ?’ เถ้าแก่มือใหม่เริ่มคิดหนัก ในหัวมีรายการเครื่องเคียงที่สามารถทำได้ง่ายๆ อยู่หลายอย่าง เป็นต้นว่าซุปไข่ หรือสลัดที่เพียงปรุงน้ำสลัดให้อร่อยก็เป็นอันใช้ได้ เรื่องการเก็บรักษาก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะเทคโนโลยีของโลกอนาคตก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ขอแค่อาหารของเขาบรรจุอยู่ในภาชนะที่ปิดสนิทและแจ้งรูปแบบการเก็บรักษาที่ถูกต้องให้ผู้ประกอบการเครื่องขายอาหารอัตโนมัติก็เป็นอันเรียบร้อย
‘ขอดูผลการผลิตก่อนก็แล้วกัน’ ชายบอกตัวเองแบบนั้นแล้วก็หันไปให้ความสนใจกับการทำงานของหุ่นยนต์ต่อ
เมื่อมีอาหารชนิดใหม่เพิ่มมากระบวนการผลิตจึงต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่ง เขาให้ไวท์เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการทำไข่เจียวเพียงตัวเดียวเพราะขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อนอะไร มันสามารถเริ่มงานด้วยการหุงข้าว ระหว่างนั้นบลูก็แบ่งส่วนผสมใส่หม้อมาไว้ให้แล้ว สิ่งที่เจ้าไวท์ต้องทำคือไปรับวัตถุดิบที่ถูกหั่นและสับเรียบร้อยแล้วมาจากพิงค์กับบิ๊ก จากนั้นก็เริ่มทอดไข่ ความจริงชายอยากใช้วิธีผสมเครื่องทั้งหมดลงไปก่อนจะตักแบ่งมาทอด แต่เมื่อคำนึงถึงมาตรฐานของอาหารสำเร็จรูปเขาก็จำต้องให้ไวท์ค่อยๆ ผสมส่วนผสมทีละกระทะแทนเพื่อให้ได้ปริมาณเครื่องที่เท่ากันทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเพราะไวท์เป็นหุ่นยนต์การทำงานของมันจึงแม่นยำและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชายเตรียมกระทะไฟฟ้าเอาไว้ถึงสิบเอ็ดใบ ผิวหน้าของกระทะเคลือบสารกันติดอย่างดีเอาไว้ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำมันเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และพลิกไข่เมื่อถึงเวลาเพียงเท่านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันชายจึงให้ไวท์ใช้วิธีประกบกระทะแล้วคว่ำ ไม่ได้ให้มันร่อนกระทะหรือใช้ตะหลิวตามวิธีปกติ การทำเช่นนี้อาจจะทำให้เสียเตาและกระทะไปเปล่าๆ หนึ่งใบแต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นที่น่าพอใจ
ไวท์ทำงานอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด มันสามารถทำไข่เจียวได้ทีละสิบจาน คุณภาพของอาหารที่ออกมาก็นับว่าใช้ได้เลยทีเดียว นับว่าผลการทำงานในวันนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
ส่วนทางด้านหุ่นยนต์อีกสามตัว เพราะพวกมันต้องรอเวลาชายจึงตัดสินใจเพิ่มงานในส่วนของการทำเครื่องเคียงให้พวกมันอีกนิด งานที่เพิ่มมาคือการเตรียมสลัดผักกับซุปสำหรับซดให้คล่องคอ พิงค์มีหน้าที่จัดการกับเครื่องเคียงอยู่ก่อนแล้วมันจึงรับหน้าที่เตรียมผักที่จะใส่ในสลัดไปทั้งหมด โดยผักที่ชายเลือกประกอบด้วย กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส และมะเขือเทศเชอร์รี ซึ่งทั้งหมดนับเป็นผักที่กินง่ายน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการกินผักสดมาก่อน
สำหรับน้ำสลัดชายตั้งใจให้เป็นหน้าที่ของบิ๊กแต่ก่อนหน้านั้นเขาจะต้องสอนวิธีทำให้มันเสียก่อน
‘ของไม่ครบแฮะ...เอาเท่าที่ทำได้ก่อนแล้วกัน’ ชายบอกกับตัวเองหลังจากค้นหาวัตถุดิบในร้านค้ามาพักใหญ่ พอได้ของมาแล้วเขาก็เข้าครัวเตรียมทำน้ำสลัดทันที
สำหรับน้ำสลัดในคราวนี้ชายเลือกใช้น้ำสลัดครีมเพราะคิดว่าน่าจะถูกปากผู้บริโภค
“แต่แบบนี้ใช้ไข่เยอะเหมือนกันแฮะ” พอนั่งทบทวนสูตรน้ำสลัดแล้วชายก็พบว่าเขายังต้องใช้ไข่อีกจำนวนหนึ่ง แต่พอคิดดูแล้วว่าวันๆ หนึ่งเขาจะมีไข่ส่วนที่ไม่ได้ใช้อยู่เพราะแบ่งแล้วไม่ลงตัว ชายก็คิดว่าเขาสามารถนำไข่ส่วนนั้นมาใช้ได้
“คงต้องคำนวณให้ดีกว่านี้แฮะ” เขาบอกกับตัวเองระหว่างรอของมาส่ง ที่ผ่านมาชายไม่ใส่ใจกับไข่ส่วนที่เป็นเศษเหลือมากนัก แต่ในตอนนี้เขาคิดว่าควรจะคำนวณให้ละเอียดกว่าเดิม เพื่อที่ว่าในแต่ละวันจะได้ใช้ไข่ให้หมด
“เอาล่ะบิ๊ก ดูให้ดีแล้วก็จำปริมาณส่วนผสมเอาไว้ด้วยนะ” เมื่อวัตถุดิบสำหรับทำน้ำสลัดมาครบแล้วชายก็ออกคำสั่งกับหุ่นยนต์ผู้ช่วยทันที
เหตุที่ต้องสั่งให้บิ๊กประเมินปริมาณส่วนผสมเอาเองก็เป็นเพราะว่าชายไม่มั่นใจในความทรงจำของตัวเอง เขากะว่าจะค่อยๆ ปรับไปจนได้ส่วนผสมที่ลงตัวดังนั้นเพื่อให้ได้อัตราส่วนที่ชัดเจนบิ๊กจะต้องวิเคราะห์ในจุดนี้ออกมาให้ได้
ชายตอกไข่ใส่ชามโดยแยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน เขาใช้วิธีง่ายๆ คือการแยกไข่ด้วยเปลือกไข่ แต่เมื่อให้หุ่นยนต์ลงมือทำเขาคงต้องให้พวกมันใช้หัวดูดแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวในภายหลัง
ชายใช้ตะกร้อมือตีไข่แดงจนเนียนแล้วก็ปรุงรสด้วยเกลือกับน้ำตาล จากนั้นก็ค่อยๆ เติมน้ำมันพืชลงไป เขาเทน้ำมันลงมาเป็นสายขณะที่มือก็คนไม่หยุด พอส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็ใส่น้ำมะนาวปิดท้าย ชิมรสจนมั่นใจว่ากลมกล่อมก็หยุดมือ ความจริงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จแล้วแต่ชายไม่มั่นใจกับการใช้ไข่ดิบที่ไม่ผ่านความร้อนเขาจึงตัดสินใจที่จะทำต่ออีกขั้นตอนหนึ่ง
หม้อน้ำใบเล็กถูกนำมาตั้งบนเตา พอน้ำเดือดชายก็วางชามผสมลงไปด้านบนแล้วก็คนส่วนผสมไปเรื่อยๆ “ขั้นตอนนี้ระวังอย่าให้ไข่สุกจนเป็นก้อนนะ” เขากำชับบิ๊กพร้อมกับใช้ไม้พายปาดน้ำสลัดตรงขอบไปรวมกับส่วนอื่นๆ ทำแบบนี้อยู่ราวๆ ห้านาทีก็ยกชามผสมลงจากหม้อ
“เอาล่ะ! ทีนี้นายลองทำดู” ชายกล่าวกับบิ๊ก เจ้าหุ่นตัวโตรับคำแล้วก็เข้ามาแทนที่ผู้เป็นนาย การเคลื่อนไหวของมันลื่นไหลไม่มีสะดุด ทั้งยังทำการผสมน้ำสลัดได้เร็วกว่าชายเสียอีก ตอนยกน้ำสลัดขึ้นเหนือหม้อน้ำมันก็สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและเนื้อสัมผัสของน้ำสลัดได้อย่างไร้ที่ติ น้ำสลัดในตอนท้ายมีเนื้อเนียนไม่มีไข่ที่สุดจนจับตัวเป็นก้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
เท่ากับสลัดไม่มีปัญหาสินะ ชายบอกกับตัวเองแล้วก็ปล่อยให้พิงค์กับบิ๊กทำงานต่อไป พวกมันยังต้องบรรจุสลัดกับน้ำสลัดใส่บรรจุภัณฑ์อีก ระหว่างนี้เขาก็หันไปจัดการกับซุปเป็นอย่างสุดท้าย
บลูเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องซุปเครื่องเคียง หน้าที่ของมันก็แค่เอาผงปรุงรสมาผสมกับน้ำแล้วเอาไปต้มเท่านั้น และเพื่อให้เข้ากันกับชนิดของไข่ ชายจึงให้ทำซุปออกมาสามแบบ เหมือนกันกับที่ใช้ในไข่ตุ๋น เขาตั้งใจว่าวันต่อๆ ไปจะให้หุ่นต้มซุปในครั้งเดียวไปเลย ไม่ต้องมาทำซ้ำให้วุ่นวายแบบนี้อีก
“ก็มีทางไปรอดเหมือนกันแฮะ” ชายบอกกับตัวเองหลังจากเห็นผลลัพธ์ที่ออกมา วันนี้อาจจะขลุกขลักไปบ้าง แต่วันต่อๆ ไปย่อมราบรื่นกว่านี้แน่
๐๐๐
๒
เย็นวันนั้นโนเอลก็ได้รับพัสดุจากครัวคุณชาย เด็กหญิงเนอาถือกล่องมาหาพี่ชายด้วยสีหน้าตื่นเต้น วันนี้ทั้งคู่ยังไม่ได้กินอาหารเย็นและดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลายเป็นมื้อพิเศษไปแล้ว
“คุณชายออกเมนูใหม่มาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” โนเอลผู้ที่ยังลุกจากเตียงไม่ได้เอ่ยถามอย่างฉงน ครัวคุณชายเพิ่งออกสินค้าใหม่มาไม่ถึงสัปดาห์แต่กลับออกสินค้าตัวต่อไปมาแล้ว ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เร็วเกินไป
“สงสัยเพราะถูกเลียนแบบแน่ๆ เลย” เนอาออกความเห็น เรื่องที่บริษัทกู๊ดมีลทำไข่ตุ๋นออกมาแข่งกับครัวคุณชายเป็นที่รู้กันทั่ว แถมพวกเขายังผลิตออกมาในปริมาณมากเสียจนใครๆ ก็ซื้อได้ โนเอลเองก็เพิ่งจะทำคลิปวิจารณ์ไข่ตุ๋นกู๊ดมีลไปเมื่อตอนเที่ยงนี้เอง
“นั่นสินะ” เด็กหนุ่มระลึกถึงรสสัมผัสของไข่ตุ๋นเมื่อตอนกลางวันแล้วก็คล้อยตามความเห็นของน้องสาวอย่างง่ายดาย
สองคนพี่น้องช่วยกันตั้งโต๊ะและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้าที่ เมื่อพร้อมแล้วพวกเขาก็เปิดกล่องพัสดุออกดูเพื่อที่จะได้รู้ว่าสินค้าใหม่ของครัวคุณชายคืออะไร
“ว้าว!” เนอาอุทานเมื่อเห็นอาหารกล่องใหญ่กว่าปกติ ดูภายนอกแล้วมันเหมือนกับชุดอาหารสำเร็จรูปสำหรับหนึ่งวันที่นิยมขายกันในตู้ขายอาหารอัตโนมัติ ตัวบรรจุภัณฑ์ประกอบด้วยถ้วยอาหารสำเร็จรูปขนาดกลางหนึ่งใบกับถ้วยขนาดเล็กอีกสองถ้วยวางซ้อนกันมาสองชั้นและรัดรวมกันด้วยพลาสติกที่ทำจากแป้ง
“อาหารชุด?” โนเอลอ่านข้อความบนฉลากพลางขมวดคิ้วสงสัย และตอนนั้นเองที่มีเสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นพอดี เด็กหนุ่มตั้งค่าการแจ้งเตือนไว้กับผู้ส่งไม่กี่คนเท่านั้นและนั่นก็ทำให้เขารีบเข้าไปตรวจดูกล่องข้อความเข้าทันที
“คุณชายส่งมาเหรอพี่?”
“ใช่ อธิบายเกี่ยวกับอาหารชุดใหม่น่ะ”
“ต้องอธิบายด้วยเหรอ?” เนอาขมวดคิ้ว อาหารที่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมแบบนี้ชวนให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนอาคิดว่าอาหารควรจะเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ง่าย แค่กินและมีความสุขกับมันก็พอแล้ว
“ก็นะ มันมีตั้งหกแบบนี่นา คุณชายคงคิดว่าทำคลิปห้าสัมผัสทั้งหมดจะวุ่นวายเกินไปก็เลยเขียนอธิบายมาให้เราเลือก”
“หกแบบ? ก็ทำหกคลิปก็ได้นี่นา”
“ใช่ แต่คงต้องค่อยๆ ทำล่ะนะ” โนเอลกล่าว เขาเองก็อยากทำคลิปวิดีโอของอาหารชุดทั้งหมด แต่ก็ทราบดีว่าหากเปิดอาหารชุดทั้งหมดแล้วย่อมกินไม่หมดแน่
“นั่นสิ...” เนอาคิดตามพี่ชายแล้วก็ทำหน้ามุ่ย ทว่าไม่นานเธอตบมือเสียงดังเมื่อนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ “ถ้างั้นเราก็เชิญลุงเคิร์ตกับคนอื่นๆ มากินข้าวที่บ้านสิ มีหกแบบก็หกคน มีหนู พี่โนเอล ลุงเคิร์ต แล้วอีกสามคนก็ครอบครัวของลุงเคิร์ตก็ได้นี่นา เราขอกินแค่คำสองคำแรกเท่านั้นเองไม่น่าจะเป็นอะไรนะ”
ข้อเสนอของเนอาฟังดูเข้าทีดังนั้นโนเอลจึงรีบติดต่อหาเคิร์ตทันที แน่นอนว่าอีกฝ่ายก็ตอบรับโดยไม่เสียเวลาคิดนานนัก และแล้วการถ่ายทอดสดชมอาหารของโนเอลก็เปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“รีวิวอาหารชุดแบบใหม่ของครัวคุณชาย”
ชื่อการถ่ายทอดสดเรียกความสนใจจากผู้คนในสตาร์เน็ตเวิร์กได้เป็นอย่างดี โนเอลยังกล่าวเปิดรายการไม่ทันจบตัวเลขผู้ชมก็ทะลุหลักล้านไปแล้ว
“ครั้งนี้ครัวคุณชายออกอาหารชุดมาถึงหกแบบ แตกต่างกันไปตามไข่เจียวที่เป็นอาหารจานหลัก แต่โดยรวมแล้วไม่นับว่าต่างกันมากนัก วันนี้ผมจะรีวิวให้ครบทั้งหกแบบ โดยจะเริ่มจากไข่เจียวธรรมดา”
พร้อมกับพูดเด็กหนุ่มก็หยิบอาหารชุดมาวางในพื้นที่ออกอากาศ เขาแกะแถบรัดพลาสติกออกไปก่อนแล้ว และระหว่างจัดเรียงกล่องอาหารทั้งหมดบนโต๊ะเขาก็วิจารณ์ว่า “อาหารสำเร็จรูปชุดนี้ไม่ค่อยเหมาะที่จะกินระหว่างเดินทางสักเท่าไหร่ ผมแนะนำให้คุณหาโต๊ะนั่งกินดีๆ”
แน่นอนสิหลายกล่องแบบนี้ถือกินในยานคงวุ่นวายน่าดู
แต่ถ้ายานส่วนตัวมีโต๊ะเล็กก็ไม่น่าเป็นปัญหานะ
ถ้ามีอาหารเป็นชุดแบบนี้ฉันไม่รีบร้อนกินหรอกนะ มันต้องจัดโต๊ะแล้วนั่งกินสวยๆ สิ
เฮ้! ทำไมมั่นใจจังว่าอาหารหลายกล่องแบบนี้จะดี
นั่นสิ มันไม่มากไปหน่อยเหรอ? ปกติกินแค่กล่องเดียวก็อิ่มแล้วนะ
ครัวคุณชายเน้นอาหารโบราณนี่ ผมเคยได้ยินว่าคนโบราณบางกลุ่มชอบกินอาหารหลายๆ อย่างในมื้อเดียว
กินหลายๆ อย่างในมือเดียว? ฟังดูวุ่นวายนะ
นั่นสิ เสียเวลาแย่เลย
ฉันเรียนประวัติศาสตร์อาหาร มันเป็นเรื่องจริงที่คนโบราณจะกินอาหารหลายอย่างในหนึ่งมื้อ บางกลุ่มจะกินคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักแล้วมีเครื่องเคียงเป็นเนื้อสัตว์ ผัก และอื่นๆ ให้ได้สารอาหารครบ
ฟังดูโบราณจังเลย
ก็นั่นมันวิถีชีวิตโบราณนี่นา
แล้วแบบนี้มันจะดีเหรอที่เอาวิธีกินแบบโบราณมาให้พวกเรากินน่ะ
ผู้ชมเริ่มถกเถียงกันด้วยมุมมองของตนเองซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่แปลกอะไรนักเพราะพวกเขาคุ้นชินกับการกินอาหารแบบง่ายๆ หากไม่ติดว่าพวกเขาต้องบริหารกรามและฟันบางคนก็อยากจะกินอาหารเหลวไปตลอดเลยด้วยซ้ำ
“เราจะเริ่มกันด้วยชุดไข่เจียวธรรมดา อ้อ! ผมลืมบอกไป ก่อนกินแนะนำให้นำกล่องอาหารที่มีจุดแดงบนฉลากไปอุ่นร้อนก่อนนะ” พร้อมกับพูดโนเอลก็เปิดฝากล่องที่ใหญ่ที่สุดออก ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมาจากด้านในทำให้อาหารนั้นดูน่ากินขึ้นหลายเท่า
หอมมาก! มันดูธรรมดาแต่กลิ่นหอมแบบนี้ทำให้โคตรหิวเลย
นั่นไข่คนหรือเปล่า?
นั่นสิเชฟชายเคยทำให้ดูนี่นา แต่มันแบนไปหน่อยนะ
“นี่เรียกว่าไข่เจียว” โนเอลอธิบาย จากนั้นก็เพิ่มเติมความคิดเห็นของตนไปว่า “ผมว่ามันคล้ายไข่คนนะ แต่ดูสิ มันติดกันเป็นแผ่นเดียวเลย แล้วก็มีรอยเกรียมมากกว่าด้วย”
จริงด้วยมันเป็นแผ่นเดียวกันเลย แล้วก็ดูแบนกว่าไข่คนจริงๆ
โอ้! พี่สาวไดแอนมาแล้ว ฉันรอรีวิวของพี่นะ!
แน่นอน ถ้ามันวางขายเมื่อไหร่ฉันต้องซื้อมารีวิวแน่!
ว่าแต่ว่าไข่เจียวแผ่นบางแบบนี้แล้วข้างในมีอะไรล่ะ?
นั่นมันข้าวนี่นา!
พร้อมกับที่ผู้ชมสังเกตเห็นสิ่งที่อยู่ใต้ไข่เจียว โนเอลก็อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น “โอ้! ข้างใต้นี้มีข้าวด้วย เมื่อกี้มีคนบอกว่าคนโบราณมักจัดอาหารโดยมีคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักใช่ไหม? ผมว่าครั้งนี้ครัวคุณชายคงจัดชุดอาหารแบบนั้น”
ไม่ผิดเลย ที่ฉันเรียนมาเป็นแบบนี้ล่ะ มีข้าวเป็นจานหลัก แล้วก็มีกับแยกต่างหาก ได้ยินว่าปัจจุบันในค่ายทหารก็ยังใช้ข้าวเป็นแหล่งพลังงานหลักนะ
ไม่จริงน่า ทหารควรจะฝังสารอาหารสิ
ใช่ๆ จะมาเสียเวลากินได้ยังไง
สารอาหารจะฝังแค่ช่วงที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ ตอนอยู่ในกองทัพพวกเราต้องกินอาหารตามปกติ
ใช่ๆ ไม่อย่างนั้นฟันและกรามของพวกเราคงเสื่อมสภาพไปแล้ว
โอ้! พลทหารมาเองเลย พวกคุณมีเวลาว่างเหมือนกันสินะ
แต่ข้าวรสชาติมันแย่ไม่ใช่เหรอ?
อย่าให้พูดเลยคุณ ฝันร้ายชัดๆ รสชาติเหมือนแป้งดิบ แล้วข้างในก็แข็งกว่ากระดูกอ่อนอีก
คำวิจารณ์ของพลทหารที่ถูกบังคับให้กินข้าวเป็นอาหารหลักฟังดูน่ากลัวก็จริง แต่เมื่อชายพับไข่เจียวไปด้านข้างเพื่อให้เห็นข้าวได้ถนัด ทุกคนก็พบว่าหน้าตาของมันไม่ได้แย่ เม็ดข้าวสีขาวคละกับสีแดงเข้มดูเต่งตึงน่ารับประทาน อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยออกมาอีกด้วย
“ผมเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าข้าวไม่ค่อยอร่อย แต่การคาดเดาย่อมไม่ใช่วิธีการหาคำตอบที่ดี เรามาชิมกันดีกว่า” ว่าแล้วโนเอลก็แบ่งข้าวกับไข่เจียวคำเล็กๆ ส่งให้น้องสาวที่อยู่นอกระยะการมองเห็นของกล้อง เด็กหญิงมีหน้าที่นำตัวอย่างอาหารใส่ลงในเครื่องจำลองรสชาติเพื่อให้ผู้ชมได้ร่วมชิมไปพร้อมกัน
ขณะที่เครื่องจำลองรสชาติกำลังทำงานโนเอลก็ตักข้าวเปล่าคำหนึ่งเข้าปาก ทันทีที่ข้าวสัมผัสกับลิ้นเด็กหนุ่มก็เบิกตากว้าง กลิ่นหอมของข้าวอบอวลในโพรงปาก และรสชาติของข้าวก็ไม่ได้เหมือนแป้งดิบอย่างที่ใครหลายคนเคยพรรณนาไว้
ในตอนแรกข้าวนั้นเหมือนจะไม่มีรสชาติแต่เมื่อโนเอลเคี้ยวไปเรื่อยๆ ความหวานของข้าวก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก สัมผัสของข้าวที่รู้สึกได้จากการเคี้ยวก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด มันนุ่มก็จริงแต่บางครั้งก็รู้สึกถึงความกรุบกรอบ โนเอลอยากจะหยิบข้าวในปากออกมาดูด้วยซ้ำว่าทำไมมันถึงให้รสสัมผัสต่างกัน เพราะเท่าที่รู้สึกได้เขาไม่คิดว่ามันสุกไม่ทั่ว แต่เป็นลักษณะเฉพาะของข้าวมากว่า
“ข้าวนี่รสชาติไม่เลวเลยนะ เอาล่ะ ผมจะลองกินไข่เจียวดูบ้าง” เด็กหนุ่มวิจารณ์แล้วก็ตักไข่เจียวคำเล็กๆ เข้าปาก ไข่นั้นมีรสเค็ม ผิวนอกแข็งเล็กน้อยแต่ด้านในนุ่มแม้มันจะดูบางก็ตาม เมื่อลองกินพร้อมกับข้าวรสชาติที่ได้ก็เข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
ทำไมข้าวนี่มันรสชาติไม่ห่วยเหมือนที่ค่ายล่ะ!
นั่นสิ ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน แปลกจริง
ฉันว่ารสสัมผัสมันไม่เท่ากันนะ บางเม็ดนิ่มบางเม็ดแข็งๆ หน่อย มันสุกไม่ทั่วหรือเปล่า?
ผมว่ามันสุกนะ เพราะข้างในไม่มีแกนแข็งๆ เลย
มันเป็นธรรมดาของข้าวที่ยิ่งเคี้ยวจะยิ่งมีรสหวานเพราะน้ำลายย่อยแป้งเป็นน้ำตาลไงล่ะ ส่วนที่มันให้สัมผัสที่ต่างกันฉันคิดว่าคงเป็นเพราะพวกมันเป็นข้าวคนละแบบ
ผมไปค้นข้อมูลจากสถาบันมา ข้าวสีแดงคือข้าวที่ไม่ได้ขัดเปลือกหุ้มชั้นกลางออก เมื่อหุงออกมาแล้วมันจะแข็งกว่าข้าวขาว
“โอ้! สีแดงๆ นี่คือข้าวที่ไม่ได้ขัดเอาเปลือกหุ้มออกสินะ ผมเองก็เพิ่งรู้เลย” โนเอลผู้ได้อ่านข้อความของผู้ชมพูดอย่างประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับข้าวนานนักเพราะยังเหลือเครื่องเคียงที่ยังไม่ได้เปิดอีก “เอาล่ะ ต่อไปเรามาดูเครื่องเคียงกันดีกว่า” พูดจบเขาก็เปิดฝาถ้วยอาหารที่เหลือ
ถ้วยแรกเป็นซุปใสที่มีเห็ดหอมกับแคร์รอตอยู่สองสามชิ้น และอีกถ้วยมีผักหลายชนิดใส่เอาไว้พร้อมด้วยซองบรรจุของเหลวหนึ่งซอง
โนเอลชี้ไปที่ถ้วยใส่สลัด บอกว่า “นี่เรียกว่าสลัดผัก มันเป็นอาหารอย่างเดียวที่ไม่ต้องอุ่นร้อน ในฉลากเขียนไว้ว่าคุณแค่ต้องราดซอสที่เรียกว่าน้ำสลัดลงไปแล้วก็กินได้เลย มันดูง่ายใช่ไหม? ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละแต่เดี๋ยวเราจะมาลองชิมรสชาติกัน”
เด็กหนุ่มแบ่งน้ำสลัดใส่ถ้วยเล็กที่เตรียมไว้ พร้อมกับแบ่งผักอย่างละชนิดใส่ลงไปด้วย จากนั้นก็ทำแบบเดียวกันกับซุปเห็ดหอมแล้วมอบให้เป็นหน้าที่ของเนอา ส่วนตัวเองก็คลุกน้ำสลัดกับผักให้เข้ากันและเริ่มชิม
กลิ่นหอมแบบผลไม้และรสชาติเปรี้ยวนำของน้ำสลัดทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ผักสดที่คิดว่าจะขมก็กลับหวานอย่างน่าประหลาด ส่วนมะเขือเทศเชอร์รี่นั้นแน่นอนว่ามีรสเปรี้ยวอมหวาน มันค่อนข้างจะเข้มข้นไปสักหน่อย แต่พอลองกินสลับกับข้าวไข่เจียวเขาก็พบว่ามันเข้ากันได้ดีมากๆ ส่วนซุปนั้นเมื่อกินแล้วก็ทำให้รู้สึกคล่องคอขึ้น ไม่ต้องพูดถึงรสชาติกลมกล่อมและหอมกลิ่นเห็ดหอมเลยด้วยซ้ำ
“ตอนนี้ผมเริ่มจะเข้าใจความหมายของอาหารชุดแล้วล่ะ” โนเอลกล่าวกับผู้ชมของเขา หลังจากชิมอาหารครบทั้งหมด “ข้าวไข่เจียว สลัด และซุป แต่ละอย่างมีรสชาติเฉพาะของตัวเอง ผมว่าทุกคนที่ได้ชิมก็คงทราบแล้ว แต่อาหารเหล่านี้เมื่อกินสลับกันไปมาจะยิ่งอร่อยขึ้น เรียกว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ไม่รู้จบ ต่อให้มื้อต่อไปผมต้องกินอาหารชุดนี้อีก แต่หากเปลี่ยนลำดับการกินประสบการณ์ที่ได้รับย่อมไม่เหมือนเดิม”
ฉันเห็นด้วยกับโนเอลนะ ไข่เจียวค่อนข้างเค็มพอกินพร้อมข้าวแล้วรสชาติกลับกลมกล่อมกำลังดี แต่เพราะมันเป็นของแห้งกินมากๆ น่าจะฝืดคอมีน้ำซุปอร่อยๆ มาให้กินด้วยนับว่าดีมาก แล้วก็รสชาติเปรี้ยวของสลัดฉันว่ามันเอาไว้กินล้างปากตบท้ายมื้ออาหารได้ดีเลย
พี่ไดแอนสุดยอดไปเลย แค่ไฟล์ห้าสัมผัสพี่ก็วิจารณ์ได้ขนาดนี้แล้ว
ใช่ๆ สลัดนี่เหมือนจะง่ายไปหน่อยแต่น้ำสลัดมันอร่อยและทำให้สดชื่นมากๆ เลย ขอแค่มีซอสนี่ฉันก็ทำอาหารกินเองได้แล้ว
นั่นสิ น้ำสลัดนี่ดูทำไม่ง่ายเลยนะ อยากให้มีขายจัง
เอาสลัดไปคลุกกับข้าวก็น่าจะอร่อยนะ
โอ้! สหายนายคิดได้ยังไง ฉันเองก็อยากลองทำบ้าง
พอเหล่าผู้ชมถูกจุดประกายด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ในการกินพวกเขาก็ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก และคลิปวิดีโอวิจารณ์อาหารของโนเอลก็กลายเป็นดาวเด่นในสตาร์เน็ตเวิร์กอีกครั้ง แน่นอนว่าครัวคุณชายย่อมได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ถึงขั้นที่ว่าชายต้องซื้อหุ่นยนต์ตัวเล็กมาเพิ่มอีกสี่ตัวกลายเป็นขบวนการสายรุ้งไปเลยทีเดียว
๐๐๐
การเปิดตัวอาหารชุดทำให้สถานการณ์ของครัวคุณชายดีขึ้นมาก ด้วยราคาต่อชุดที่ไม่แพงและประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่ทำให้ไม่ว่าจะทำมาเท่าไรก็ขายหมด แต่กระนั้นชายก็ผลิตอาหารชุดออกมาไม่ได้มากนัก วันหนึ่งทำออกมาได้เพียงหนึ่งพันสองร้อยชุดเท่านั้น เมื่อรวมกับไข่ตุ๋นอีกแปดร้อยถ้วยก็เท่ากับว่าทุกๆ วันจะมีอาหารจำนวนสองพันชุดถูกผลิตขึ้นที่นี่ ชายหนุ่มจำต้องยอมรับว่าบ้านของเขาได้กลายเป็นโรงงานขนาดเล็กไปแล้วจริงๆ“ช่วงนี้เรียกว่าช่วงพีคสินะ” เถ้าแก่หนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะตรวจสอบยอดขายประจำวัน สินค้าของเขายังคงขายหมดทุกวัน นั่นก็ทำให้ชายมีรายได้ถึงหนึ่งแสนสตาร์ต่อวัน และแน่นอนว่าด้วยจำนวนเงินมากถึงขนาดนี้ทำให้ชายไม่ต้องกังวลอะไรไปสักพัก วันนี้เขาถึงกับหาวันหยุดให้ตัวเองเลยทีเดียวทว่ามนุษย์โบราณแบบชายย่อมไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในวันหยุดอย่างไร สุดท้ายเขาก็ให้แอ๊บบี้เปิดข่าวให้ดู เรื่องราวในโลกอนาคตนั้นเข้าใจได้ยาก เขาไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ และยิ่งสับสนกับข่าวการสำรวจทางอวกาศ แต่ในที่สุดเขาก็พบกับข่าวที่น่าสนใจชายมั่นใจว่าสาวงามผมทองในข่าวนั้นคือคนเดียวกันกับที่ถูกช่ว
ครัวคุณชายยังคงสร้างความแตกตื่นให้ผู้คนในกาแล็กซีอันโดรเมดาอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้ใส่ใจจะดูผลการกระทำของตนเลย หลังจากส่งของไปที่ศูนย์วิจัยกับลงคลิปวิดีโอห้าสัมผัสเรียบร้อยแล้ว ชายก็มานั่งกลุ้มว่าจะเอาขนมปังหนึ่งแถวที่มีอยู่ไปทำอะไรกิน“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไปปิกนิกหน่อยดีกว่า” นั่งคิดอยู่นานหลายนาทีในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ชายก็ยังไม่ได้ออกไปสำรวจละแวกใกล้เคียงเลย ตอนหาที่พักเขาจำได้ว่าใกล้ๆ มีสวนสาธารณะอยู่ แถมเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเสียด้วย ‘ทิวทัศน์ของสวนนั้นคงจะสวยมาก’ พอคิดแบบนี้แล้วชายก็ยิ่งกระตือรือร้นในการทำข้าวกล่องมากขึ้น“เอาเป็นแซนด์วิชอกไก่กับสลัดไข่ก็แล้วกัน” ตัดสินใจเรื่องเมนูหลักเสร็จชายก็เข้าไปช็อปปิ้งในร้านค้าเสมือนทันที เขาซื้อของเผื่อสำหรับทำผงปรุงรสมาด้วยเพราะหลังจากทำอาหารสำเร็จรูปเสร็จแล้วมันจะเป็นช่วงเวลาของการเตรียมผงปรุงรสเมื่อของมาถึงชายหนุ่มก็ตรงไปที่ครัวทันที เขาเริ่มจากการหมักไก่กับนมและเกลือพักไว้ จากนั้นก็เอาไข่สองฟองลงไปต้ม และนำฟองที่สามมาตีผสมกับน้ำมันและน้ำมะนาว กล
“...แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการให้เด็กๆ กินอาหารปรุงสุกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองถือเป็นความผิด”ประโยคสะเทือนขวัญนั้นทำให้หัวใจของชายแทบหยุดเต้น จริงอยู่ว่าเรือนจำในยุคนี้ไม่ได้น่ากลัว แต่การถูกจำกัดอิสรภาพก็เป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ยิ่งเมื่อคิดว่าเขาอาจจะถูกจับเพียงเพราะความมีน้ำใจแบบไม่ทันคิดก็เสียววาบไปทั้งตัวแล้ว“คุณพ่อ!” ขณะที่ชายกำลังตื่นตระหนก เด็กๆ กลับร้องทักผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม ฝ่ายชายเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตำรวจที่จะเข้ามาจับกุมก็พลันผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหันไปมองผู้มาใหม่แล้วก็ต้องตกตะลึงกับรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายใบหน้าคมคาย เรือนกายสูงใหญ่ เสื้อผ้าเนื้อดี และใบหูรูปสามเหลี่ยมปลายมนนั้นดึงดูดสายตาก็จริงแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับรัศมีความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัว อีกทั้งนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นก็ดุดันเสียจนไม่กล้าสบตาตรงๆชายลดสายตาลงมองที่หางยาวๆ สีดำของบุรุษตรงหน้า แล้วทำใจกล้าเจรจา “ผ—ผมขอโทษ ผมยังไม่คุ้นกับกฎหมายของรัฐอดาเนีย ต—แต่อาหารของผมปลอดภัยนะ ให้เจ้าบิ๊กยืนยันให้ก็ได้” แม
ชายไม่ได้ตอบตกลงกับข้อเสนอของนีลในทันที แม้มันจะเป็นข้อเสนอที่ฟังดูดีแต่ชายหนุ่มก็ทราบว่าตัวเองไม่ควรรีบตัดสินใจ นีลเองก็ไม่ได้ขัดใจอะไรกับเรื่องนี้ แต่กระนั้นเขาก็ยังเชื้อเชิญชายไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน อ้างว่าจะได้พูดคุยในรายละเอียดให้มากกว่านี้ แน่นอนว่าชายไม่ปฏิเสธคำเชิญนั้น อย่างไรก็ตามถึงจะพูดว่าเป็นการไปร่วมรับประทานอาหารแต่ท้ายที่สุดแล้วคนลงมือทำก็คือชาย ระหว่างเตรียมมื้อค่ำพวกเขาก็ถือโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับข้อเสนอของนีลไปด้วย ส่วนพวกเด็กๆ ก็ถูกไล่ไปทบทวนบทเรียนในห้องเพราะพวกเขาจะต้องสอบวัดระดับเพื่อย้ายโรงเรียนในอีกไม่กี่วัน“ยีสต์จะสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเมื่อได้รับน้ำตาล อุณหภูมิก็สำคัญอุ่นสักหน่อยจะดีกว่า ปกติแล้วเราจะใช้น้ำอุ่นผสมน้ำตาล แต่บางสูตรก็ใช้นมอุ่นกับน้ำตาลก็ได้ ครั้งนี้ผมจะทำแบบใช้น้ำเปล่านะ อยากให้ออกมาเหมาะกับอาหารคาวหน่อย” เมื่อเตรียมตัวเข้าครัวเรียบร้อยชายก็เริ่มอธิบาย พร้อมกันนั้นเขาก็หยิบถ้วยมาตวงน้ำอุ่นให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะ เติมน้ำตาลลงไปหนึ่งช้อนชา จากนั้นก็ใส่ยีสต์ลงไป หลังจากคนให้เข้ากันแล้วก็วางพักไว้“ผมกลับ
แม้จะมีความขุ่นข้องหมองใจกันบ้างแต่สุดท้ายการเจรจาธุรกิจกับนีลก็จบลงด้วยดี ชายไม่ได้ขอผลตอบแทนเพิ่ม แค่ขอให้กำหนดระยะเวลาในการร่วมมือกันไว้ที่สิบปี ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง เขาลองหาข้อมูลดูแล้วอดาเนียกรุปเป็นกลุ่มบริษัทที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก เดิมพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตเครื่องจักรสงคราม แต่เมื่อเปลี่ยนผู้นำพวกเขาก็เริ่มเข้ามาจับตลาดเกี่ยวกับอาหาร และคู่ค้ารายสำคัญก็คือกองทัพ นั่นหมายความว่าต่อให้อาหารที่ออกมาไม่เป็นที่ถูกใจของประชาชนทางกองทัพที่เบื่อข้าวต้มกับเปล่าแล้วก็คงเต็มใจซื้ออาหารของพวกเขาอยู่ดี เรียกว่าอย่างไรก็ขายได้ ดังนั้นชายจึงไม่ลังเลเลยที่จะคว้าโอกาสงามๆ นี้เอาไว้เมื่ออนาคตดูมั่นคงขึ้นมากแล้วชายก็ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส วันนี้เขาตื่นเร็วกว่าปกติเพราะต้องไปทำมื้อเช้าให้ครอบครัวอดาเนีย ใช่ เขาไม่เพียงแต่ต้องทำอาหารให้เด็กฝาแฝดเท่านั้นแต่ยังต้องทำให้นีลผู้เป็นพ่อด้วย อย่างไรก็ตามในสัญญาไม่ได้ระบุไว้ว่าเขาต้องทำอาหารให้นีลครบสามมื้อต่อวัน เสือดำหนุ่มเพียงบอกว่าหากเขาอยู่บ้านก็ทำอาหารเผื่อด้วยเท่านั้น‘แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วทำข
ขณะที่ชายกำลังวุ่นวายกับการเจรจาธุรกิจของตนข้างฝ่ายคุณพ่อเสือดำเองก็ต้องเผชิญหน้ากับคำถามมากมายของบรรดาบอร์ดบริหารและเหล่าผู้ถือหุ้น สาเหตุนั้นก็เนื่องมาจากการตัดสินใจโดยพลการของเขาเมื่อวานนี้ จริงอยู่ว่าด้วยตำแหน่งและจำนวนหุ้นในมือทำให้เขามีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในบริษัท สามารถลงนามในสัญญาที่ใช้งบประมาณไม่เกินร้อยละยี่สิบของเงินทุนบริษัทได้โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม อย่างไรก็ตามการตัดสินใจก่อนได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมก็สร้างความไม่พอใจให้กับหลายๆ คนอยู่ดี“หลายทศวรรษที่ผ่านมาแกไม่เคยเหลวไหลแบบนี้ หวังว่าจะมีคำอธิบายดีๆ ให้ฉันนะ” ทันทีที่นีลนั่งลงตรงตำแหน่งประธานบุรุษตาเดียวท่าทางสุขุมก็เปิดประเด็นขึ้นทันที เขามีใบหน้าละม้ายคล้ายนีลอยู่ถึงเจ็ดแปดส่วน จะต่างกันก็เพียงสีขนของใบหูและหางที่เป็นสีเหลืองแต้มดำอย่างเสือดาวเท่านั้น“ท่านนายพลก็กล่าวเกินไป ท่านประธานจะทำตัวเหลวไหลแบบนั้นได้อย่างไร เขาเป็นพ่อคนแล้วคงไม่ใจร้อนด่วนตัดสินใจผิดๆ เพราะถูกใจหนุ่มน้อยบางคนเข้าหรอก” ชายผมแดงพูดขึ้นบ้าง ใบหูรูปสามเหลี่ยมที่โผล่พ้นกลุ่มผมฟูฟ่องนั้น
“สวัสดีตอนเกือบเที่ยงนะทุกคน วันนี้ผมจะมาสอนทำมื้อกลางวันแบบง่ายๆ กันนะ จากคลิปทำขนมปังมีหลายคนบ่นว่าทำยากไป วันนี้ผมก็เลยเอาอีกเมนูที่ทำง่ายมาฝาก โดยจะเป็นการดัดแปลงเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่ปกติจะใช้ขนมปังมาเป็นการใช้ข้าวแทน” ชายกล่าวเปิดรายการที่ครัวของบ้านอดาเนีย เขาเคยคุยเรื่องนี้กับนีลไปแล้วซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร เงื่อนไขเดียวที่ตั้งไว้คือห้ามให้เด็กๆ ออกกล้องเท่านั้น-แฮมเบอร์เกอร์? เหมือนฉันจะเคยเห็นรูปในพิพิธภัณฑ์นะ-ที่เป็นรูปครึ่งเดียวแล้วก็เถียงกันมาเป็นร้อยปีว่ามันยาวแค่ไหนสินะ-มีเถียงกันเรื่องไส้ด้วย ที่เป็นชิ้นเหลี่ยมๆ เหมือนของสังเคราะห์นั่นน่ะ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร-ไม่แน่นะเชฟอาจจะรู้ก็ได้-จะบ้าเหรอ? ถึงเชฟจะรู้จักเมนูนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้จักเนื้อปริศนานั่นนะ-ไม่ลองฟังเชฟดูก่อนล่ะ?-นั่นสิ ถามเชฟดีกว่า เชฟรู้ไหมว่านี่คืออะไร (แนบรูป)รูปภาพที่โผล่มาในช่องแสดงความคิดเห็นดึงดูดสายตาของชายได้เป็นอย่างดี เขาโบกมือให้ช่องแสดงความเห็นหยุดนิ่งแล้วอ่านคำถามกับด
“ตอนบ่ายพี่ชายจะทำอะไรเหรอ? ออซทำด้วยได้ไหม?”“ผมก็อยากทำอาหาร”ทันทีที่ชายปิดการถ่ายทอดสดฝาแฝดตัวน้อยก็วิ่งเข้ามาเกาะขาออดอ้อน พวกเขาดูการถ่ายทอดสดครั้งล่าสุดด้วยจึงทราบว่าพี่ชายคนเก่งจะทำอาหารง่ายๆ ที่เหมาะกับการให้เด็กๆ ทดลองทำ“พี่จะทำข้าวปั้น เดี๋ยวจะให้ออซซี่กับเฮคเตอร์ลองทำด้วยก็ได้ แต่ตอนนี้ไปรอในห้องนั่งเล่นก่อนนะ” ชายไม่อยากให้เด็กๆ เข้ามาในครัวตอนนี้เพราะยังมีกระทะที่ตั้งน้ำมันร้อนเอาไว้อยู่ ถึงจะมีหุ่นยนต์คอยช่วยเหลืออยู่หลายตัวก็ใช่ว่าจะวางใจได้ “จริงสิ พวกเรากินกลางวันกันอิ่มหรือเปล่า อยากได้เพิ่มอีกสักชิ้นไหม?”“อิ่มแล้ว แต่ผมอยากชิมข้าวจี่” เด็กชายเฮคเตอร์พูดพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนมาให้ เห็นแบบนั้นแล้วชายก็ยิ้มอ่อน เขาหยิบข้าวจี่ใส่จานแล้วมอบให้กับพวกเด็กๆ บอกว่า “เอาไปแบ่งกันกินนะ พี่ยังไม่ให้กินเยอะเพราะเดี๋ยวเราจะทำข้าวปั้นกันอีก”“รับทราบ!” ฝาแฝดรับคำอย่างแข็งขันแล้วก็พากันออกไปที่ห้องนั่งเล่นเมื่อเด็กๆ ออกจากครัวไปแล้วชายก็รีบทำงานที่ค้า
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ไม่เหมือนเคย ชายตระหนักถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาตื่นเต็มที่ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุ้ยเคยถูกแทนที่ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวอย่างหนึ่งที่ชวนให้นึกถึงแสงแดดและความนุ่มฟู‘ไม่สิ…มันนุ่มจริงๆ นี่นา’ คนที่เริ่มรู้สึกตัวขมวดคิ้วเมื่อประสาทสัมผัสเริ่มแจ่มชัด ชายหนุ่มพลันสะดุ้งลืมตา สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือกลุ่มขนสีดำมันวาว “หวา!” ร่างผอมผุดลุกขึ้นนั่งอย่างลนลาน ภาพความทรงจำเมื่อคืนฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าของเขาเห่อร้อนเจ้าของกลุ่มขนสีดำวาวขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะบิดขี้เกียจจนลำตัวโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว อ้าปากหาวจนเห็นเขี้ยวขาวสะดุดตา จากนั้นนัยน์ตาสีอำพันคู่งามก็จ้องเขม็งไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนแน่นอนว่าคนที่ถูกจ้องย่อมกลัวจนตัวแข็งค้างไม่กล้าขยับ“อ—เอ่อ…คุณรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” ชายพยายามทำใจดีสู้เสือแต่กระนั้นก็ทราบว่ารอยยิ้มของตนแข็งกระด้างเพียงใด มุมปากของเขาถึงกับกระตุกเพราะเกร็งมากไปด้วยซ้ำ แต่จะทำตัวตามสบายก็คงไม่ได้เพราะเมื่อคืนเขาก่อเรื่องเอาไว้มากเลยทีเดียว
ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ
ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ
กระแสการทำอาหารเหลวแบบโบราณทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ในสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ไม่เพียงแต่มันจะเป็นการปฏิวัติรสชาติของอาหารเหลวที่หากไม่หวานจนแสบคอก็ขมจนหน้าบี้ให้กลายเป็นรสชาติกลมกล่อมพอดี แต่มันยังทำให้คนกลุ่มหนึ่งมองเห็นช่องทางทำกินใหม่ๆ อีกด้วย เพียงชั่วข้ามคืนก็มีร้านค้าอิสระเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาอาจไม่สามารถวางขายอาหารของตนกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติหรือซูเปอร์มาเก็ตได้ แต่ก็ยังสามารถทำการค้าตัวต่อตัวกันได้ ตราบใดที่เครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหารบอกว่าปลอดภัยความนิยมในการทำอาหารตลอดจนตลาดขายอาหารปรุงสุกที่คึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น ทำให้สามารถกล่าวได้ว่าความพยายามมากมายตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาของสถาบันวิจัยอาหารโบราณได้พ่ายแพ้ให้กับพ่อครัวตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างราบคาบแม้การทำอาหารจะเป็นที่นิยมมากขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีครัวเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีเงินซื้อ แต่เป็นเพราะไม่มีสถานที่ติดตั้งครัวต่างหากทุกวันนี้กว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ของประชากรทั้งสมาพันธรัฐอันโดรเมดาอาศัยอยู่ในรังผึ้ง มันคือห้องเช่าราคาประหยัดที่มีเพียงเตียงกับโต๊ะแบบพับได้ให้ใช้เท่านั้น แม้แต
ท่ามกลางการรอคอยของใครหลายๆ คนในที่สุดชายก็เริ่มการถ่ายทอดสดช่วงบ่าย เขาจั่วหัวข้อเอาไว้ว่าเป็นการเตรียมชุดอาหารเย็น รายการวัตถุดิบตลอดจนอุปกรณ์ทั้งที่จะเป็นและแนะนำให้มีทั้งหมดถูกเขียนเอาไว้ในหน้าประกาศข่าวก่อนแล้วดังนั้นคนที่อยากทำตามย่อมมีความพร้อมเต็มที่“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ครัวคุณชาย วันนี้เราจะมาทำชุดอาหารเย็นสองแบบกันนะ และแน่นอนว่าผมมีสูตรอาหารโบราณที่คล้ายกับอาหารเหลวมาฝากทุกคนตามที่สัญญาไว้ด้วย” ชายกล่าวทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้ม“สูตรอาหารโบราณที่ใกล้เคียงอาหารเหลวมากที่สุดหากนับจากอาหารคาวแล้วก็น่าจะเป็นซุปนี่แหละ แต่อย่าเพิ่งคิดถึงซุปไข่หรืออื่นๆ ที่ผมเคยทำไปนะ ครั้งนี้จะเป็นซุปข้นที่ไม่ต้องเคี้ยวเลย ซุปข้นนี้จริงๆ ก็หลายสูตรทั้งซุปผักโขม ซุปแคร์รอต ซุปมันฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่วันนี้ผมจะเริ่มจากอะไรที่กินได้ง่ายอย่างฟักทอง” กล่าวแล้ววางมือลงบนฟักทองลูกโตที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์“ก่อนอื่นเลยคุณต้องล้างทำความสะอาดฟักทองให้ดี สมัยนี้ดีหน่อยฟักทองถูกปลูกแบบไร้ดินจึงสะอาดมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องพยายามขัดดินออกจากเป
หลังจากจบการถ่ายทอดสดตอนเช้าชายก็รีบทำข้าวกล่องสำหรับพ่อลูกบ้านอดาเนีย แป้งตอติญาสำเร็จรูปซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อการค้าซันชายน์ถูกนำไปย่างบนกระทะพอให้เหลือง เสร็จแล้วก็นำมาห่อไส้ที่เตรียมไว้ ชายเลือกใช้สลัด เนื้อปู และไส้กรอกจึงไม่เสียเวลามานักในการเตรียม ตอนที่สามพ่อลูกอดาเนียจะออกจากบ้านข้าวกล่องทั้งสามใบก็เสร็จเรียบร้อย“ไม่เห็นคุณสอนวิธีทำของพวกนี้เลยนะ” นีลทักตอนที่รับข้าวกล่องมาถือไว้ ชายบอกเขาแล้วว่าข้างในกล่องเป็นอะไรท่านประธานจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสดีในการโฆษณาสินค้า เพราะตั้งแต่สินค้าชุดใหม่ออกวางขายมีลูกค้าหลายคนที่ซื้อสินค้าไปทั้งๆ ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน หากมองในแง่ดีพวกเขาก็ยังได้กำไร แต่หากมองอีกมุมหนึ่งยอดขายจากกระแสความนิยมเช่นนี้ไม่ได้ยั่งยืนเลย“ถ้าถ่ายทอดสดไปด้วยผมกลัวว่าจะทำไม่ทันน่ะ” ชายอธิบาย “แต่ผมตั้งใจว่าจะทำคลิปวิดีโอง่ายๆ ให้พอเห็นคอนเซ็ปของการทำเบอร์ริโต คิดว่าน่าจะจุดประกายไอเดียให้ใครหลายๆ คนได้นะ”“ใช้ครัวบ้านผมแล้วกัน คุณสั่งของผ่านพ่อบ้านได้เลยถือเสียว่าเป็นการโฆษณาสินค้าของเรา”
ความพ่ายแพ้ต่อสถาบันวิจัยอาหารโบราณไม่ทำให้ชายรู้สึกแย่แต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยๆ มันก็ได้จุดกระแสความนิยมการกินเผ็ดและการกินขมขึ้นมาในหมู่ประชาชน นอกจากนี้มันก็ไม่ได้กระทบต่อกิจการของครัวคุณชายหรืออดาเนียกรุปด้วย กลับกันการออกอากาศที่ผ่านมานั้นทำให้ครัวคุณชายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรในสมาพันธรัฐอันโดรเมดารู้จักครัวคุณชาย ซึ่งนั่นนับเป็นจำนวนไม่น้อยเลย ส่วนความหนักใจเดียวของชายในตอนนี้ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องที่ผลิตสินค้าได้ไม่พอขาย‘ให้ตายสิ จำนวนผู้บริโภคต่างจากโลกเก่าลิบลับเลย’ พ่อครัวหนุ่มคิดขณะมองตัวเลขที่ต่อท้ายด้วยหน่วย “แสนล้านล้าน” ในรายงานคำร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องสินค้าขาดตลาด มันเป็นตัวเลขที่มากเสียจนเขาจินตนาการภาพไม่ออกเลย‘เอาเป็นว่าช่วงขาขึ้นก็รีบโกยก่อนแล้วกัน พอความนิยมเริ่มซาก็ค่อยลดอัตราการผลิต’ สุดท้ายมนุษย์โบราณก็ตัดสินใจง่ายๆ และหลังจากปัดปัญหาเรื่องของไม่พอขายไปได้แล้วเขาก็มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้าและข้าวกล่องของบ้านอดาเนียแทน“จำได้ว่าที่ห้องนั้นยั
การแข่งขันทำอาหารระหว่างครัวคุณชายกับสถาบันวิจัยอาหารโบราณเป็นที่จับตามองมาตั้งแต่แรก เมื่อถึงช่วงของการตัดสินที่นักวิจารณ์อาหารชื่อดังตลอดจนนักวิชาการด้านอาหารที่มีชื่อเสียงจำนวนผู้ชมก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐอดาเนีย จำนวนผู้ชมเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้วคิดเป็นเกือบร้อยละเจ็ดสิบ แทบจะเท่ากับการประชุมกำหนดแผนนโยบายประจำปีเลยทีเดียวหนึ่งในคณะกรรมการคือ แลนดอน หลี่ นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง เขาเป็นนักชิมกลุ่มแรกๆ ที่ได้กินไข่ตุ๋นครัวคุณชาย และตอนนี้เขาก็แทบจะอดใจรอที่จะได้ชิมอาหารปรุงสุกฝีมือพ่อครัวคนดังไม่ไหวแล้ว แต่น่าเสียดายที่อาหารของชายต้องใช้เวลาในการจัดส่ง ดังนั้นคณะกรรมการทั้งสามคนจะได้ชิมอาหารของเชฟรูดอล์ฟกันก่อน“จานแรกของผมมีชื่อว่า ‘พันบุปผา’ เป็นการจำลองทุ่งดอกไม้มาไว้บนจานหนึ่งใบ คุณจะได้สัมผัสทุ่งดอกไม้ที่เริ่มแย้มบานด้วยตัวของคุณเอง เพียงเปิดฝาครอบออกเท่านั้น” พ่อครัวเผ่าลีฟผู้มีผิวกายและสีผมคล้ายพฤกษาต้นหนึ่งกล่าวนำเสนอผลงานของตน เขาจงใจเริ่มมื้ออาหารด้วยดอกไม้นานาพันธุ์อันสื่อถึงพื้นเพของตนกรรมการทั้งสามสี
เนื่องจากตัดสินใจว่าจะชงกาแฟใส่ขิงชายจึงต้องสั่งเมล็ดกาแฟจากทางรายการมาเพิ่ม แน่นอนว่าการจัดส่งจากซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นรวดเร็วมาก ทว่าชายก็ไม่ได้รีบร้อนนำมาใช้เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้อบคุกกี้เลย นอกจากนี้เขาก็ลืมทำของหวานอีกอย่างที่ควรจะเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างไอศกรีมด้วย“ผลไม้...เอาเป็นอะไรดีนะ?” ชายพึมพำพลางนึกว่าอะไรที่กินคู่กับพริกเกลือแล้วอร่อยบ้าง รายการผักผลไม้มากมายพลันผุดขึ้นมาจนเลือกไม่ถูก เพราะโดยพื้นฐานแล้วผลไม้รสเปรี้ยวไม่ว่าชนิดไหนพอกินกับพริกเกลือก็อร่อยทั้งนั้น แม้แต่ผลไม้หวานๆ เองก็กินกับพริกเกลือได้เช่นกันหลังจากชั่งใจอยู่พักหนึ่งชายก็หยิบสับปะรด ราสเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เลมอน มะม่วงสุก เสาวรส และแตงโมออกมาจากลังวัตถุดิบ ผลไม้ทั้งหมดถูกล้างทำความสะอาดอย่างดี พวกเบอร์รีนั้นแค่ล้างและตัดขั้วออกก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนที่เหลือยังต้องปอกเปลือกและหั่นให้เรียบร้อยเสียก่อน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาชายจึงเอาเบอร์รีทั้งหมดไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็งพิเศษการแช่แข็งผลไม้แบบนี้เป็นวิธีประหยัดเวลาที่เขาเรียนรู้มาระหว่างที่ต้องรับผิดชอบขนมในงาน