ชายเพิ่งจะเข้าใจคำว่า “Influencer*” ก็ตอนนี้เอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการทำอาหารของตนจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นไปได้อย่างมากมายเช่นนั้น จริงอยู่ว่าตัวเขาได้ปลุกกระแสอาหารปรุงสุกแนวใหม่ขึ้นมาแต่มันก็น่าจะทำได้เพียงกระตุ้นความชอบของผู้คน ไม่ใช่ทำให้ชีวิตที่สิ้นหวังของเด็กคนหนึ่งสว่างไสวขึ้นมาเช่นนี้
*(หมายถึงผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ มักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจหรือสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้แก่ผู้ติดตาม)
รีวิวเปลี่ยนชีวิต พลิกวิกฤติเป็นเงินล้าน
นั่นคือหนึ่งในหัวข้อข่าวที่ถูกส่งเขามาในกล่องข้อความของเขา ใจความหลักของข่าวไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าสองคนที่ถ่ายคลิปวิจารณ์ไข่ตุ๋นของเขาลงสตาร์ทูบแล้วได้รับรายได้ก้อนโต เพื่อให้ได้เนื้อหาที่มากขึ้นสำนักข่าวหลายแห่งถึงกับส่งข้อความขอสัมภาษณ์ความเห็นของชายต่อเรื่องนี้เลยทีเดียว
แน่นอนว่าชายไม่คิดจะให้สัมภาษณ์เพราะเขาไม่ถนัดเรื่องออกสื่อ อย่างไรก็ตามเถ้าแก่มือใหม่คนนี้ก็ไม่คิดจะเพิกเฉยต่อกระแสที่เกิดขึ้น สองพี่น้องในข่าวกำลังเป็นที่จับตามอง และเขาก็ถือเป็นผู้มีพระคุณทางอ้อมของเด็กๆ ดังนั้นชายย่อมไม่รู้สึกผิดอะไรหากจะหาประโยชน์จากพวกเขาสักเล็กน้อย
“เมื่อวานเด็กๆ รีวิวไปสองรส ถ้าอย่างนั้นก็ส่งรสที่สามไปให้ด้วยดีกว่า” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะใช้แอ๊บบี้ช่วยร่างจดหมายให้ เนื้อความนั้นเรียบง่าย แค่เสนอให้เด็กทั้งคู่ช่วยโฆษณาสินค้าทุกชิ้นของครัวคุณชายเท่านั้น แน่นอนว่าชายจะเป็นคนส่งสินค้าตัวอย่างพร้อมของสมนาคุณสำหรับผู้ชมไปให้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เด็กๆ ต้องทำก็แค่ถ่ายคลิปวิดีโอและวิจารณ์รสชาติอาหารของเขาอย่างตรงไปตรงมา ชายจะไม่จ่ายค่าโฆษณาให้พวกเขา และในขณะเดียวกันเขาก็จะไม่ขอมีส่วนร่วมในรายได้ในช่องของเด็กๆ ด้วย
“เป็นพวกผมจะดีหรือ?” โนเอลติดต่อกลับมาทันทีที่ได้รับข้อความ จริงๆ แล้วกล่องข้อความของเด็กหนุ่มก็ถูกโจมตีด้วยข้อความเป็นพันเหมือนกัน ทว่าชายติดต่อไปในนามของครัวคุณชายชื่อผู้ส่งจึงเด่นสะดุดตาพอๆ กับข้อความของพวกนักข่าว
“ดีสิ” ชายยิ้มตอบเด็กหนุ่มในภาพฉาย เพราะคุยกันผ่านวิดีโอคอลเขาจึงมองเห็นสีหน้าแสนสับสนของเด็กชายได้อย่างชัดเจน และนั่นก็ทำให้ทัศนคติของเขาต่อเด็กหนุ่มยิ่งดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
‘เด็กคนนี้ซื่อจริงๆ’
เห็นโนเอลทำหน้ายุ่งแบบนั้นแล้วชายก็อธิบายเพิ่มไปว่า “พวกเธอเพิ่งจะมีชื่อเสียงขึ้นมาไม่มีเบื้องหลังอะไร และไม่น่าจะใช่คนจำพวกที่จะเรียกร้องผลประโยชน์เยอะๆ น่าจะโน้มน้าวให้ตกลงได้ง่าย เพราะยังไงเสียก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอจะดังแบบนี้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน รับข้อเสนอของผมไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะอาหารของผมน่าจะเป็นกระแสไปอีกพักใหญ่เลย ในมุมของผมแล้วการเสียอาหารไม่กี่ชุดแต่ได้พื้นที่โฆษณานี่นับว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ว่ากันตามตรงราคาแบบนี้ไปเสนอที่อื่นเขาไม่รับหรอกนะ”
ฝ่ายโนเอลได้ฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนถามด้วยสีหน้ากึ่งลำบากใจว่า “คุณชายบอกผมมาทั้งหมดแบบนี้จะดีเหรอ?”
“ดีสิ” เป็นอีกครั้งที่ชายยืนยันอย่างหนักแน่นแล้วถามว่า “ผมอยากให้เราร่วมมือกันไปนานๆ ความตรงไปตรงมาย่อมดีกว่าจริงไหม?”
“นั่นมันก็จริง...” เด็กหนุ่มเริ่มคล้อยตาม
ชายได้ยินอย่างนั้นก็ตบเข่าฉาด ท่าทางเหมือนนักเลงโตผิดกับรูปลักษณ์บอบบางจนโนเอลถึงกับอึ้งไป เขาว่า “ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในการร่วมมือกันครั้งนี้เราต่างหากประโยชน์จากกันและกัน ผมได้พื้นที่โฆษณาโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ส่วนเธอก็สามารถทำเงินจากการรีวิวสินค้าของผมผ่านการรับบริจาคในช่อง แน่นอนว่าระหว่างนี้เธอจะรีวิวสินค้าของคนอื่นก็ได้ผมไม่ห้ามในเรื่องนี้ มันเป็นข้อตกลงที่ดีมากๆ เนอะ”
พอชายพูดถึงขนาดนี้โนเอลก็พยักหน้ารับ และการเจรจาก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี หากไม่ใช่เพราะว่าเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ แย้งขึ้นมาเสียก่อน “แต่ถ้าช่องอื่นรีวิวอาหารของพี่ชายเหมือนกันพวกเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรนี่คะ เหมือนโฆษณาให้พี่ชายเปล่าๆ เลยนะ”
“สำหรับเรื่องนั้นผมคงไปห้ามไม่ให้คนอื่นทำคลิปรีวิวไม่ได้หรอกนะ” เป็นอีกครั้งที่ชายยอมรับอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามยังขยายความต่อไปอีกนิดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กหญิงตัวน้อยที่ตั้งป้อมปกป้องพี่ชายอย่างเต็มที่ “แต่คนที่จะได้รับสินค้าตัวอย่างก่อนใครพร้อมของรางวัลสำหรับแจกผู้ชมจะมีแค่พวกเธอสองคนเท่านั้น คนอื่นถ้าจะทำคลิปรีวิวกินอาหารก็ต้องซื้อกันเอง อ้อ! ในช่องของผมเองก็จะไม่มีให้ทดลองกินอาหารสำเร็จรูปที่วางขายหรอกนะ อย่างมากก็แค่อาหารคล้ายๆ กันแต่สูตรต่างกันเท่านั้น”
“สูตรต่างกัน?” เด็กหญิงทวนคำหน้าฉงน ชายเห็นอย่างนั้นก็ยกตัวอย่างเพื่อไขข้อข้องใจให้แก่เธอ
“ก็อย่างเช่นไข่คนที่ผมเคยถ่ายทอดสดสอนวิธีทำไป วันหน้ามันอาจจะกลายมาเป็นอาหารสำเร็จรูปด้วย กรณีแบบนี้ว่ากันตามตรงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะอาหารปรุงสุกกับแบบที่ทำเป็นอาหารสำเร็จรูปย่อมต่างกันนิดหน่อยอยู่แล้ว”
“ไข่คนทำเป็นอาหารสำเร็จได้ด้วยเหรอ?” เด็กหญิงดูจะตื่นเต้นกับการยกตัวอย่างของชายหนุ่มจนลืมเรื่องคาใจก่อนหน้าไปเสียสนิท ดวงตากลมโตเป็นประกายเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังเสียจนชายพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
หลังจากตั้งสติได้ชายหนุ่มก็กระแอมไอเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ทำได้สิ แต่รสชาติมันอาจไม่ดีเท่าไข่คนที่ทำเสร็จใหม่ๆ เท่านั้นเอง เอาไว้ถ้าทำออกมาขายแล้วจะส่งไปให้ชิมนะ”
“อื้อ! หนูจะรอนะ!” คราวนี้น้องสาวผู้น่ารักของโนเอลเห็นด้วยกับข้อเสนอของชายอย่างไม่มีข้อกังขาแล้ว และนั่นก็ทำให้สองหนุ่มสามารถลงมือร่างสัญญากันได้เสียที ใช้เวลาราวสองชั่วโมงพวกเขาก็กลายเป็นผู้ร่วมงานกันอย่างเป็นทางการ
๐๐๐
๒
หลังจากจัดการเรื่องโฆษณาเสร็จเรียบร้อยชายก็กลับมาให้ความสนใจกับผลประกอบการวันแรกของตนเอง อาหารสำเร็จรูปที่ทำเมื่อวานนั้นขายหมดไปแล้ว และส่วนของวันนี้ก็เพิ่งถูกส่งออกไป อย่างไรก็ตามเถ้าแก่หนุ่มก็ทราบดีว่าทั้งหมดนี้คงไม่พอขาย
“ดูท่าว่าจะต้องขยายกิจการเร็วกว่าที่คิดเสียแล้วสิ” ชายพึมพำกับตัวเอง จริงอยู่ว่ามันเป็นความคิดที่เสี่ยงเพราะเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่ากระแสความนิยมในตอนนี้จะตกลงเมื่อไร ตัวอย่างของการเร่งขยายกิจการเพราะผลประกอบการลวงจากกระแสในช่วงแรกเปิดกิจการนั้นก็มีให้เห็นมากมาย แต่สำหรับครั้งนี้ชายกลับคิดว่าเขาพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะถึงอย่างไรการ “ขยาย” ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่การเปิดสาขาหรืออะไร เป็นแค่การซื้อหาเครื่องทุ่นแรงเท่านั้น
ใช่ เครื่องทุ่นแรง หากต้องการผลิตให้มากขึ้นก็แค่เพิ่มแขนขา และหากกระแสความนิยมเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตเขาก็สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้ แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่คิดจะจ้างคนงาน แต่เลือกที่จะทำตามค่านิยมของคนในโลกอนาคตนั่นคือการซื้อหุ่นยนต์
“มีหลายแบบเลยแฮะ” ชายพึมพำกับตัวเองขณะท่องไปในร้านค้าขายหุ่นยนต์ หุ่นพวกนี้มีให้เลือกเยอะเสียยิ่งกว่ายานพาหนะในโลกที่เขาจากมาเสียอีก มีทั้งหุ่นยนต์รูปทรงเรขาคณิตเน้นสีขาวและแถบแสงสีสดใส ทั้งหุ่นยนต์แบบโบราณที่ดูเก่าเสียยิ่งกว่าหุ่นยนต์ในยุคสมัยของชาย ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่ทำเลียนแบบสิ่งมีชีวิตได้เหมือนราวกับไม่ใช่หุ่นยนต์
ชายสบตากับหุ่นยนต์แมวเหมียวขนปุยแล้วก็พลันใจสั่นแทบจะกดซื้อมาเสียเดี๋ยวนั้น เขาต้องหักห้ามใจอยู่นานทีเดียว และเมื่อตั้งสติได้แล้วก็กดปิดการแสดงผลหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงออกไป จากนั้นก็ออกคำสั่งให้แอ๊บบี้ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของหุ่นยนต์รุ่นต่างๆ ขึ้นมา แต่แล้วเขาก็พบว่ามีข้อมูลมากมายเกินไป แอ๊บบี้นั้นสามารถประมวลผลได้ แต่ตัวเขากลับอ่านข้อมูลเหล่านั้นไม่ไหว
‘ให้คัดกรองเหลือสักห้าสิบรุ่นก็พอมั้ง?’ ชายบอกกับตัวเองก่อนจะเริ่มตั้งเงื่อนไข และเพราะเขาจริงจังกับการลงทุนในครั้งนี้มาก กว่าจะเลือกหุ่นยนต์ได้พระอาทิตย์ก็ตกดินไปเรียบร้อย
“ให้ตายสิ ป่านนี้แล้วเหรอ?” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองพลางลูบท้องที่เริ่มส่งเสียงร้อง วันนี้เขาขี้เกียจเกินกว่าจะทำอาหารกินเองดังนั้นซุปไข่ที่แช่แข็งเอาไว้จึงถูกนำออกมาอุ่น
พอกินซุปหมดไปชามหนึ่งหุ่นยนต์ที่สั่งไว้ก็มาถึงจึงได้เวลาทดสอบประสิทธิภาพรอบสุดท้ายก่อนจะยืนยันรับสินค้า
ชายซื้อหุ่นยนต์มาทั้งหมดสี่ตัว สามตัวแรกเป็นหุ่นช่วยงานในบ้านที่มีราคาไม่แพงนัก สัณฐานของพวกมันเป็นทรงกลม ไม่มีปีกแต่สามารถลอยได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนของ “ใบหน้า” ถูกออกแบบเป็นรูปหัวใจให้ความรู้สึกอ่อนโยนและเป็นมิตรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแถบแสงสามเส้นพาดผ่านกลางลำตัวของมันในแนวนอนเพื่อเพิ่มสีสันอีกด้วย อย่างไรก็ตามในตอนนี้หุ่นทั้งสามมีแถบแสงสีขาวเหมือนกันทั้งหมด
เมื่อสำรวจหุ่นยนต์สามตัวแรกจนพอใจแล้วชายก็หันไปให้ความสนใจกับหุ่นยนต์ตัวสุดท้าย หุ่นตัวนี้มีราคาแพงกว่าอีกสามตัวที่เหลือและคุณสมบัติของมันก็มากสมราคาด้วยเช่นกัน มันมีระบบตรวจจับความเป็นพิษและระบบตรวจจับแบคทีเรียซึ่งทำมาเพื่อการประกอบอาหารโดยเฉพาะ ชายวางแผนไว้ว่าจะให้เจ้าหุ่นตัวนี้เป็นฝ่ายตรวจสอบคุณภาพอาหารระหว่างกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันไม่ให้มีข้อผิดพลาดร้ายแรงจนต้องทิ้งสินค้าทั้งชุดไป
หุ่นยนต์ตัวที่สี่นี้มีรูปร่างคล้ายกับสามตัวแรกเพราะผลิตจากบริษัทเดียวกัน อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อแตกต่างเล็กน้อย อันดับแรกเลยก็คือขนาด เจ้าหุ่นตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าสามตัวที่เหลือถึงสองเท่า และยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นพาหนะได้อีกด้วย แน่นอนว่ามันไม่สามารถออกไปวิ่งในเส้นทางคมนาคมหลักร่วมกับพาหนะทั่วๆ ไปได้ แต่ก็สามารถใช้เดินทางบนบาทวิถีได้อย่างไม่ติดขัด
ชายตรวจสอบการทำงานเบื้องต้นของหุ่นทั้งสี่ตัวตามคู่มือที่ได้รับมา เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอะไรก็ทำเรื่องยืนยันรับสินค้า เพียงเท่านี้หุ่นยนต์ทั้งสี่ก็กลายเป็นสมบัติของเขาอย่างเป็นทางการ
“เอาล่ะ ต่อไปก็ตั้งชื่อสินะ” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างนึกสนุก เขากวักมือเรียกหนึ่งในหุ่นตัวเล็กเข้ามาใกล้ จากนั้นก็เปิดโปรแกรมปรับแต่งรูปลักษณ์ของมัน แน่นอนว่าพวกมันไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิมได้ แต่ก็สามารถปรับสีของแถบแสง และการแสดงผลใบหน้าได้
“มีให้เลือกเยอะเหมือนกันนะ” ชายพึมพำกับตัวเองเมื่อเปิดรายการตัวเลือกรูปแบบใบหน้าของหุ่นยนต์ขึ้นมา มันมีทั้งแบบที่เป็นภาพจำลองเหมือนจริง แบบการ์ตูนน่ารักๆ ไปจนถึงแบบที่แสดงผลเป็นอักษรและตัวเลขที่ดูเป็นทางการ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สะดุดตามากที่สุดกลับเป็นตัวเลือกปรับแต่งหน้าตาหุ่นยนต์ด้วยตัวเอง
ปกติแล้วการปรับแต่งหน้าตาหุ่นยนต์ด้วยตัวเองนี้ผู้คนมักจะนำเข้าตัวละครจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่นหน้าตาตัวละครจากเกมชื่อดังเป็นต้น แต่สำหรับมนุษย์โบราณที่เกิดความรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาเป็นพักๆ อย่างชาย เขากลับเลือกที่จะใช้การแสดงสีหน้าด้วยอักขระหรือที่เรียกว่า “อิโมจิ” มันลำบากเล็กน้อยที่เขาต้องมานั่งพิมพ์สัญลักษณ์ทีละชุดเพื่อให้หุ่นยนต์แสดงผลอารมณ์ได้อย่างถูกต้อง แต่ผลที่ออกมาก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียว
“^w^”
มองดูอักขระแสงสีชมพูสามตัวบนใบหน้ารูปหัวใจสีดำนั้นแล้วหัวใจของชายก็พลันอุ่นขึ้นมาราวกับได้กลับบ้านอย่างไรอย่างนั้น
“ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยมีหุ่นยนต์แท้ๆ” เขาส่ายหน้าให้กับความอ่อนไหวของตัวเอง นิ้วเรียวเอื้อมไปแตะบนหน้าจอสีดำวาวนั้นแล้วกล่าวว่า “จากนี้ไปเธอคือพิงค์นะ”
ใช่ แสงสีชมพูก็ชื่อพิงค์ ส่วนหุ่นตัวเล็กที่เหลือชื่อ ไวท์ กับบลู และสำหรับหุ่นยนต์ตัวใหญ่สุดเขาตั้งชื่อว่าบิ๊กแม้ว่าแถบแสงของมันจะเป็นสีทองก็ตาม
“ต่อไปก็ช่วงทดลองงานสินะ” จริงอยู่ว่าเขาตรวจสอบการทำงานเบื้องต้นของพวกมันแล้วแต่หุ่นเหล่านี้จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเขาได้หรือไม่นั้นยังไม่แน่ชัด การทดลองทำงานจริงจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ไข่ไก่ห้าร้อยฟองถูกสั่งซื้อเข้ามาพร้อมด้วยอุปกรณ์ครัวอีกสองสามอย่าง คราวนี้ชายไม่ได้เป็นคนไปรับของแต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบิ๊ก เจ้าหุ่นตัวโตลอยไปที่หน้าประตูที่เชื่อมกับท่าเทียบยานจากนั้นก็ขยายร่างกลายเป็นรถขนส่งขนาดเล็ก แขนกลสองข้างยื่นออกมาทำหน้าที่ยกและจัดของเข้าที่ก่อนจะนำมาวางไว้ตรงจุดที่ชายกำหนดไว้ ไม่นานการลำเลียงสินค้าออกจากยานขนส่งก็เสร็จเรียบร้อย
“เรื่องจัดสต๊อกของผ่าน” คนที่นั่งดูอยู่บนชั้นลอยพึมพำพลางใช้นิ้วเขียนเครื่องหมายถูกลงบนกระดานที่ลอยอยู่กลางอากาศ มันเป็นหนึ่งในลูกเล่นของแอ๊บบี้ที่ชายคิดว่าสะดวกมากทีเดียว
“ต่อไปก็ตอกไข่” สำหรับข้อนี้ชายค่อนข้างเป็นกังวล เพราะถึงแม้ว่าแขนกลของหุ่นยนต์ทั้งสี่จะสามารถทำงานละเอียดอ่อนได้แต่มันก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีเศษเปลือกไข่หลุดร่วงลงไป
ชายให้หุ่นยนต์สามตัวรับผิดชอบหม้อผสมสามใบ ส่วนเจ้าบิ๊กรับหน้าที่ต้มซุปกับหั่นเครื่องเคียง ดังนั้นในหัวข้อการตอกไข่จึงมีเพียงพิงค์ ไวท์ กับบลูเท่านั้นที่เข้ารับการประเมิน และแน่นอนว่าก่อนหน้านั้นชายจะต้องสอนพวกมันตอกไข่เสียก่อน แต่ถึงจะบอกว่าสอนเขาก็ไม่ได้คิดจะให้พวกมันตอกไข่ด้วยวิธีเดียวกันกับมนุษย์ หุ่นยนต์มีแขนกลในแบบของมัน วิธีตอกไข่ย่อมต้องปรับให้เข้ากับสรีระของพวกมัน
หลังจากนั่งศึกษามือจับแบบมาตรฐานของหุ่นอยู่พักหนึ่งชายก็ได้ข้อสรุปว่ามันสามารถใช้วิธีการตอกไข่แบบเครื่องจักรในยุคที่เขาจากมาได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วชายก็ป้อนข้อมูลลงไปจากนั้นก็ลองให้พวกมันลองทำงานดู
ทันทีที่ได้รับคำสั่งหุ่นยนต์สามเกลอก็ยืดแขนกลสองข้างออกมาจับไข่เอาไว้ ตัวแขนกลมีทั้งส่วนที่เป็นมือจับแบบสุญญากาศและส่วนที่เป็นนิ้วมือ พวกมันใช้สุญญากาศในการจับไข่ ส่วนนิ้วมือก็ใช้เพียงนิ้วโป้งสองข้างกดลงบนเปลือกไข่เบาๆ เมื่อตรวจพบว่าเปลือกไข่แตกแล้วมันก็จะแยกมือทั้งสองข้างออกจากกันทำให้ไข่ด้านในตกลงสู่หม้อที่รองอยู่
การทดลองครั้งแรกไม่มีเศษเปลือกไข่หลุดร่วงลงไปด้วย แต่แค่นี้ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ชายเฝ้ามองพวกมันตอกไข่ไปเรื่อยๆ แล้วสักพักเขาก็พบปัญหาเข้าจริงๆ
แรงกดของนิ้วที่มากเกิดไปทำให้เปลือกไข่แตกมากกว่าที่ควรจะเป็น และนั่นก็ทำให้เศษของเปลือกไข่จำนวนหนึ่งหล่นลงไปในหม้อ
“คงต้องปรับลดแรงลงหน่อย” ว่าแล้วเขาก็เพิ่มเงื่อนไขในการกดนิ้วของหุ่นยนต์ ปรับอยู่สักพักก็ได้แรงที่พอเหมาะ ส่วนเปลือกไข่ที่ปะปนอยู่ในส่วนผสมก็ถูกหยิบออกไปด้วยแขนกลทรงท่อเล็กๆ ที่ปกติแล้วจะเอาไว้ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องยนต์
หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของบิ๊กในการตรวจสอบไข่ในหม้อทั้งหมด เมื่อไม่พบสิ่งแปลกปลอม หุ่นสามเกลอก็ถูกสั่งให้ทำงานต่อ พวกมันจับตะกร้อมือเอาไว้แล้วออกแรงปั่นเบาๆ คนไปทั่วหม้อจนไข่แดงกับไข่ขาวผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
“เรื่องตีไข่ผ่าน ต่อไปก็ชั่งน้ำหนักไข่ให้เท่ากันสินะ” พอถึงตรงนี้ชายก็รู้สึกว่าขั้นตอนการทำงานของตนดูวกวนอย่างไม่จำเป็น จริงอยู่ว่าการชั่งน้ำหนักจำเป็นต่อการควบคุมคุณภาพอาหาร แต่ตอนแรกเขาแบ่งไข่เป็นสามส่วนแล้ว พอต้องมาชั่งและแบ่งอีกครั้งเพื่อให้เท่ากันจึงดูเป็นการทำงานซ้ำซ้อน
“ความเร็วตอนตอกไข่ก็ไม่ได้น้อย ตอกรวมกันไว้แต่แรกน่าจะดีกว่าแฮะ” ชายพยายามออกแบบขั้นตอนการผลิตขณะเดียวกันก็ออกคำสั่งให้หุ่นสามสหายทำงานต่อไป พวกมันแบ่งไข่ในหม้อให้มีน้ำหนักเท่ากันแล้วก็รับซุปจากบิ๊กมาผสม กรองส่วนผสมผ่านตะแกรงลงหม้ออีกใบเพื่อให้ได้เนื้อไข่เนียนนุ่ม จากนั้นก็นำส่วนผสมใส่ลงในเครื่องบรรจุอาหารสำเร็จรูป เสร็จแล้วก็นำไปนึ่ง
ขณะที่หุ่นสามเกลอทำงานกันอย่างแข็งขัน หุ่นพี่ใหญ่อย่างบิ๊กก็จัดการยกวัตถุดิบตกแต่งหน้าไข่ตุ๋นไปนึ่งตามที่ได้รับมอบหมาย ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ทำให้มันมีแขนถึงสี่ข้าง ความเร็วในการทำงานจึงมากขึ้นเป็นเท่าตัว
พอไข่ตุ๋นสุกเครื่องเคียงก็พร้อมที่จะนำมาวางแต่งหน้า ขั้นตอนนี้เป็นหน้าที่ของสามเกลอส่วนบิ๊กมีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพขั้นสุดท้ายและจบงานด้วยการนำบรรจุภัณฑ์เข้าไปปิดผนึกในเครื่องบรรจุอาหารอัตโนมัติอีกครั้งหนึ่ง
ผลงานการร่วมมือของหุ่นยนต์ทั้งสี่นับเป็นที่น่าพอใจ แต่มันจะดีกว่านี้หากเขาจัดระเบียบงานให้เป็นระบบมากขึ้น ดังนั้นหลังจากส่งอาหารสำเร็จรูปชุดที่สองออกไปแล้วชายก็นั่งร่างแผนการผลิตอย่างเคร่งเครียด ส่วนเครื่องครัวต่างๆ ก็ให้หุ่นยนต์ทั้งสี่จัดการให้เรียบร้อย
๐๐๐
๓
ระหว่างที่ชายกำลังหัวหมุนกับการปรับปรุงกระบวนการผลิตอาหาร ผู้คนในกาแล็กซีอันโดรเมดาก็กำลังตื่นเต้นกับอาหารสำเร็จรูปรูปแบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอาหารปรุงสุก
“มันเป็นรสชาติเลิศล้ำแบบที่ไม่คิดว่าจะหาได้ในเครื่องขายอาหารสำเร็จรูป” แลนดอน หลี่ นักวิจารณ์อาหารชื่อดังกล่าวกับผู้ดำเนินรายการในช่วงสัมภาษณ์พิเศษ
ชายวัยกลางคนหลับตาทำสีหน้าเพ้อฝันแล้วก็เล่าถึงรสชาติของอาหารสำเร็จรูปที่เขาประมูลมาได้
“เมื่อแรกที่กินเข้าไปสัมผัสเนียนนุ่มของไข่ตุ๋นให้ความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเจลลีอาหารก็จริง แต่เมื่อลองเคี้ยวดูคุณจะพบว่ามันแทบจะละลายในปากเลยทีเดียว รสชาติแฝงในเนื้อไข่ก็ยากที่จะบรรยาย ผมที่เคยกินบะหมี่ถ้วยในตำนานมาแล้วต้องขอบอกเลยว่ารสชาติมันกลมกล่อมว่าซุปของบะหมี่ถ้วยเสียอีก เครื่องเคียงที่วางเรียงไว้ด้านบนก็มีรสชาติดี เนื้อสัมผัสก็แตกต่างจากไข่ตุ๋นเนียนนุ่มทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเวลากิน นับว่าไข่ตุ๋นของครัวคุณชายตอบโจทย์คุณสมบัติของอาหารสำเร็จรูปได้อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว”
“แต่ผมได้ยินมาว่าคุณค่าทางโภชนาการของไข่ตุ๋นจากครัวคุณชายค่อนข้างต่ำ” ผู้ดำเนินรายการกล่าว เพื่อความเป็นกลางเขาไม่อาจละเลยประเด็นที่ผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูปติเตียนมาได้
“สารอาหารน้อยกว่าอาหารสำเร็จรูปยี่ห้ออื่นได้ยังไง?” แลนดอนขมวดคิ้ว เขาประกาศด้วยน้ำเสียงติดจะแข็งกร้าวเล็กน้อยว่า “ถ้ามันอร่อยขนาดนี้ให้กินวันละสิบถ้วยยังได้เลย”
“แต่กินอาหารซ้ำๆ กันมันจะไม่ดีต่อสุขภาพนะคุณหลี่”
“ใช่ เพราะฉะนั้นผมจะกินไข่ตุ๋นวันละถ้วยแล้วกินอาหารสำเร็จรูปชนิดอื่นอีกสองถ้วยก็ได้เหมือนกัน วันหนึ่งๆ คนเรากินอาหารแค่มื้อเดียวซะที่ไหนกันล่ะ”
พอหลี่พูดมาแบบนั้นผู้ดำเนินรายการก็ไร้เหตุผลจะโต้เถียงอีก เขากระแอมเบาๆ เพื่อเรียกสติก่อนออกความเห็นแก้เก้อเล็กน้อยว่า “แต่ถึงอย่างนั้นหากครัวคุณชายเติมสารอาหารเพิ่มลงไปในไข่ตุ๋นก็น่าจะดีนะ”
“ถ้ามันไม่ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ” คราวนี้หลี่ไม่คัดค้าน เขายังเสริมอีกว่า “และหากเป็นไปได้ผมก็อยากให้ครัวคุณชายเพิ่มจำนวนการผลิตให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นผลประโยชน์จะตกไปอยู่กับนักเก็งกำไรแทน”
“พูดถึงนักเก็งกำไร ได้ยินว่าราคาไข่ตุ๋นพุ่งขึ้นสูงมากเลยใช่ไหมคุณหลี่” พอแขกรับเชิญเปิดประเด็นขึ้นมาผู้ดำเนินรายการก็ดึงเข้าสู่ประเด็นใหม่ในทันที
“ใช่ ผมประมูลมันมาในราคาหลักหมื่นแต่ตอนที่ของมาถึงมือได้ยินว่ามันพุ่งไปถึงหลักแสนแล้ว”
“โอ้! แบบนั้นใครที่ซื้อทันนี่ถือว่าพลิกชีวิตได้เลยนะคุณหลี่” พิธีกรทำสีหน้าตื่นเต้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม และแขกรับเชิญก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เขาพยักหน้าแล้วยกยิ้มอย่างมีเลศนัย ทอดเวลาให้กล้องได้จับภาพเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “แต่ก็คงไม่เท่ากับสองพี่น้องปาฏิหาริย์หรอกนะ”
แล้วเนื้อหาในรายการก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องของสองพี่น้องผู้ได้รับโชคครั้งใหญ่จากการถ่ายทำคลิปวิดีโอสั้นๆ คลิปหนึ่ง
๐๐๐
อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนชอบก็ย่อมมีคนชังเป็นธรรมดา และบรรดาผู้ที่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับความโด่งดังของครัวคุณชายย่อมหนีไม่พ้นผู้ประกอบการขายอาหารสำเร็จรูป พวกเขาอาจจะไม่ได้ออกมารวมตัวกันก็จริงแต่ในตอนนี้กลับกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดประหนึ่งว่าบริษัทของตนกำลังจะล้มละลายอย่างไรอย่างนั้น
กลุ่มหนึ่งยังต่อสู้กันอยู่ในตลาดประมูล ราคาหลักแสนที่ แลนดอน หลี่ พูดถึงนั้นบัดนี้ทะยานขึ้นสู่หลักล้านแล้ว ส่วนผู้ประกอบการที่อยู่ในรัฐอดาเนียก็พากันไปเฝ้ารอที่ตู้ขายอาหารอัตโนมัติ
หากถามว่าพวกเขามาอุดหนุนคู่แข่งทางการค้าทำไมคำตอบนั้นง่ายดายยิ่ง มันเป็นเพราะว่าพวกเขากำลังแกะสูตรอาหารสำเร็จรูปของครัวคุณชายอยู่นั่นเอง และหนึ่งในกลุ่มคนที่เหนื่อยยากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นนักวิจัยอาหารและบรรดาพ่อครัว
ทานากะเป็นหนึ่งในนักวิจัยอาหารที่นั่งจ้องผลการวิเคราะห์ไข่ตุ๋นมาทั้งคืนแล้ว จริงอยู่ว่าเขาไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการทำตัวไข่ตุ๋นอย่างพวกฝ่ายครัว แต่กระนั้นการสร้างรสชาติสังเคราะห์ที่ดีกว่าไข่ตุ๋นของครัวคุณชายก็ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแหล่งข้อมูลของเขามีเพียงผลวิเคราะห์หนึ่งชุดกับไฟล์ห้าสัมผัสเท่านั้น
“ให้ตายเถอะ มันผิดที่ตรงไหนกันนะ” ชายหนุ่มขยุ้มผมตัวเองอย่างอับจน เขาทดลองทำผงปรุงรสมาหลายแบบแล้วแต่ก็ยังไม่เจอสูตรที่ใช่สักที หรืออันที่จริงคงต้องบอกว่ารสชาติที่ได้ยังไม่ถูกใจเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นต่างหาก
พอคิดถึงหัวหน้าฝ่ายประเมินคุณภาพทานากะก็พลันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะมีอคติต่อคนผู้นั้นเพราะอีกฝ่ายมักจะวิจารณ์ผงปรุงรสของเขาในเชิงไม่ดีอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เหมือนกันในขณะที่คนทั้งแผนกวิจัยบอกว่าผงปรุงรสที่เขาผสมออกมานั้นมีรสชาติเหมือนต้นฉบับทุกประการ แต่หัวหน้าฝ่ายประเมินคุณภาพกลับบอกว่ามันยังใช้ไม่ได้ หรือหากจะให้ทวนคำพูดของคนคนนั้นแล้วก็คงจะเป็น...
“ห่วยแตก” เสียงเรียบๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง กว่าทานากะจะรู้ตัวเขาก็พบว่าตนถูกกักอยู่ระหว่างสองแขนของผู้มาใหม่เสียแล้ว
ชายหนุ่มมองมือหนาที่กำลังวางช้อนชิมรสลงบนโต๊ะด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งประหลาดใจ ทั้งไม่พอใจ และอย่างหลังดูจะทรงอิทธิพลมากกว่า
“คุณมาทำอะไรที่นี่?” เขาถามเสียงแข็ง หัวคิ้วขมวดเข้าหากันตามอารมณ์ที่เริ่มจะติดลบ การทำงานล่วงเวลาภายใต้แรงกดดันมหาศาลนั้นไม่เป็นผลดีต่อจิตใจของเขา และตอนนี้ผลของมันก็เริ่มแสดงออกมาแล้ว
“จริงอยู่ว่าเราต้องเร่งทำสินค้าใหม่ออกมาแข่งกับไข่ตุ๋นของครัวคุณชาย แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องหักโหมหรอกนะ” อีกฝ่ายพูดเหมือนหวังดีทว่าประโยคที่ตามมานั้นกลับทำให้ทานากะยิ่งโมโห “คุณควรพักแล้วออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ บ้าง เผื่อจะเจอแนวทางที่ดีกว่านี้”
“คุณมีปัญหาอะไรกับผมก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า” ทานากะผลักคู่กรณีออกไปแล้วลุกขึ้นประกาศกร้าวอย่างเหลืออด
หัวหน้าฝ่ายประเมินคุณภาพดันแว่นตาของตนให้เข้าที่ก่อนกล่าวว่า “ผมไม่ได้มีปัญหากับคุณ”
“อย่ามาเฉไฉ ด่ากันขนาดนั้นจะบอกว่าไม่มีอะไรงั้นเหรอ?”
“ผมแค่ให้คำแนะนำ ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาเรื่องกันล่ะ?”
“คำว่า ‘ห่วยแตก’ กับ ‘เจอทางที่ดีกว่านี้’ มันถือเป็นคำแนะนำตรงไหนกัน” ทานากะขึ้นเสียง สองมือกำหมัดแน่นแทบจะชกอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไป
ด้านผู้ถูกกล่าวหาพอได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไป นัยน์ตาคมฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะจุดยิ้มบางๆ ที่มุมปาก “ผมคงเลือกใช้คำไม่ดีเท่าไหร่เลยทำให้คุณเข้าใจผิดไป เรื่องนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“นั่นคือ ‘เลือกใช้คำไม่ดีเท่าไหร่’ งั้นเหรอ?” ทานากะทวนคำ มือที่กำอยู่สั่นระริกและสีหน้าก็น่าเกลียดขึ้นทุกที ทว่าคู่กรณีกลับไม่มีท่าทีขุ่นเคืองแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขาสายตาที่มองมายังอ่อนโยนลงหลายส่วน และมุมปากก็ยังประดับรอยยิ้มอยู่เหมือนเดิม
ร่างสูงขยับเดินเข้าไปประชิดตัวทานากะ โน้มหน้าลงมาเล็กน้อยแล้วกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็กกว่าว่า “ของห่วยๆ ก็คือของห่วยๆ ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมหมายถึงอะไรก็ตามมาสิ” พูดจบเขาก็ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ยกยิ้มกวนๆ และส่งสายตาท้าทายไปหนึ่งทีก่อนจะหันหลังเดินออกไป
ท่าทีเช่นนั้นแน่นอนว่าย่อมกระตุ้นความอยากเอาชนะของทานากะได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนักวิจัยหนุ่มก็ยอมเก็บข้าวของแล้วตามหัวหน้าแผนกประเมินคุณภาพไป การทำเช่นนี้แน่นอนว่าจะต้องถูกตำหนิในภายหลังแน่ แต่เขาก็เตรียมใจเอาไว้แล้วสำหรับผลที่ตามมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมรสชาติสังเคราะห์ของเขาถึงได้ไม่ดีพอสำหรับหัวหน้าฝ่ายประเมินคุณภาพ
๐๐๐
“โลกอนาคตนนี่น่ากลัวจริงๆ เลยนะ” เช้าวันต่อมาชายก็ได้รับข่าวที่น่าประหลาดใจ บริษัทผู้ค้าอาหารสำเร็จรูปรายใหญ่แห่งรัฐอดาเนียทำไข่ตุ๋นออกมาขายแล้ว บทวิจารณ์บอกว่ามันมีเนื้อที่เด้งสู้ฟันมากกว่าไข่ตุ๋นของเขาเล็กน้อย และมีรสชาติอร่อยพอๆ กับบะหมี่ถ้วยในตำนาน สำหรับเครื่องเคียงที่ให้มาก็เป็นเครื่องเคียงสังเคราะห์แบบที่พบได้ทั่วไปในอาหารสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามสิ่งที่ส่งผลกระทบกับกิจการของครัวคุณชายมากที่สุดย่อมเป็นประเด็นเรื่องสารอาหาร เพราะใช้เครื่องเคียงสังเคราะห์ที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการของไข่ตุ๋นของคู่แข่งจึงชนะไข่ตุ๋นจากครัวคุณชายไปได้อย่างขาดลอยเพียงสองวันพวกเขาก็แกะสูตรออกมาได้นับว่าความสามารถของคนในโลกอนาคตไม่ธรรมดาเลยจริงๆ“เอายังไงดีนะ” ชายถามตัวเองพลางใช้นิ้วเคาะริมฝีปากอย่างครุ่นคิด กำลังผลิตของเขาในตอนนี้ไม่ถือว่ามากนัก และด้วยรสชาติที่ยังไม่มีใครเลียนแบบได้ก็ทำให้เขามีเปรียบอยู่เล็กน้อย แม้จะผ่านมาหลายพันปีแต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็ไม่เคยเปลี่ยน หากสถานการณ์เอื้ออำนวยพวกเขาย่อมให้ความสำคัญกับรสชาติมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ดังน
การเปิดตัวอาหารชุดทำให้สถานการณ์ของครัวคุณชายดีขึ้นมาก ด้วยราคาต่อชุดที่ไม่แพงและประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่ทำให้ไม่ว่าจะทำมาเท่าไรก็ขายหมด แต่กระนั้นชายก็ผลิตอาหารชุดออกมาไม่ได้มากนัก วันหนึ่งทำออกมาได้เพียงหนึ่งพันสองร้อยชุดเท่านั้น เมื่อรวมกับไข่ตุ๋นอีกแปดร้อยถ้วยก็เท่ากับว่าทุกๆ วันจะมีอาหารจำนวนสองพันชุดถูกผลิตขึ้นที่นี่ ชายหนุ่มจำต้องยอมรับว่าบ้านของเขาได้กลายเป็นโรงงานขนาดเล็กไปแล้วจริงๆ“ช่วงนี้เรียกว่าช่วงพีคสินะ” เถ้าแก่หนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะตรวจสอบยอดขายประจำวัน สินค้าของเขายังคงขายหมดทุกวัน นั่นก็ทำให้ชายมีรายได้ถึงหนึ่งแสนสตาร์ต่อวัน และแน่นอนว่าด้วยจำนวนเงินมากถึงขนาดนี้ทำให้ชายไม่ต้องกังวลอะไรไปสักพัก วันนี้เขาถึงกับหาวันหยุดให้ตัวเองเลยทีเดียวทว่ามนุษย์โบราณแบบชายย่อมไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในวันหยุดอย่างไร สุดท้ายเขาก็ให้แอ๊บบี้เปิดข่าวให้ดู เรื่องราวในโลกอนาคตนั้นเข้าใจได้ยาก เขาไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ และยิ่งสับสนกับข่าวการสำรวจทางอวกาศ แต่ในที่สุดเขาก็พบกับข่าวที่น่าสนใจชายมั่นใจว่าสาวงามผมทองในข่าวนั้นคือคนเดียวกันกับที่ถูกช่ว
ครัวคุณชายยังคงสร้างความแตกตื่นให้ผู้คนในกาแล็กซีอันโดรเมดาอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้ใส่ใจจะดูผลการกระทำของตนเลย หลังจากส่งของไปที่ศูนย์วิจัยกับลงคลิปวิดีโอห้าสัมผัสเรียบร้อยแล้ว ชายก็มานั่งกลุ้มว่าจะเอาขนมปังหนึ่งแถวที่มีอยู่ไปทำอะไรกิน“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไปปิกนิกหน่อยดีกว่า” นั่งคิดอยู่นานหลายนาทีในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ชายก็ยังไม่ได้ออกไปสำรวจละแวกใกล้เคียงเลย ตอนหาที่พักเขาจำได้ว่าใกล้ๆ มีสวนสาธารณะอยู่ แถมเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเสียด้วย ‘ทิวทัศน์ของสวนนั้นคงจะสวยมาก’ พอคิดแบบนี้แล้วชายก็ยิ่งกระตือรือร้นในการทำข้าวกล่องมากขึ้น“เอาเป็นแซนด์วิชอกไก่กับสลัดไข่ก็แล้วกัน” ตัดสินใจเรื่องเมนูหลักเสร็จชายก็เข้าไปช็อปปิ้งในร้านค้าเสมือนทันที เขาซื้อของเผื่อสำหรับทำผงปรุงรสมาด้วยเพราะหลังจากทำอาหารสำเร็จรูปเสร็จแล้วมันจะเป็นช่วงเวลาของการเตรียมผงปรุงรสเมื่อของมาถึงชายหนุ่มก็ตรงไปที่ครัวทันที เขาเริ่มจากการหมักไก่กับนมและเกลือพักไว้ จากนั้นก็เอาไข่สองฟองลงไปต้ม และนำฟองที่สามมาตีผสมกับน้ำมันและน้ำมะนาว กล
“...แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการให้เด็กๆ กินอาหารปรุงสุกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองถือเป็นความผิด”ประโยคสะเทือนขวัญนั้นทำให้หัวใจของชายแทบหยุดเต้น จริงอยู่ว่าเรือนจำในยุคนี้ไม่ได้น่ากลัว แต่การถูกจำกัดอิสรภาพก็เป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ยิ่งเมื่อคิดว่าเขาอาจจะถูกจับเพียงเพราะความมีน้ำใจแบบไม่ทันคิดก็เสียววาบไปทั้งตัวแล้ว“คุณพ่อ!” ขณะที่ชายกำลังตื่นตระหนก เด็กๆ กลับร้องทักผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม ฝ่ายชายเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตำรวจที่จะเข้ามาจับกุมก็พลันผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหันไปมองผู้มาใหม่แล้วก็ต้องตกตะลึงกับรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายใบหน้าคมคาย เรือนกายสูงใหญ่ เสื้อผ้าเนื้อดี และใบหูรูปสามเหลี่ยมปลายมนนั้นดึงดูดสายตาก็จริงแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับรัศมีความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัว อีกทั้งนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นก็ดุดันเสียจนไม่กล้าสบตาตรงๆชายลดสายตาลงมองที่หางยาวๆ สีดำของบุรุษตรงหน้า แล้วทำใจกล้าเจรจา “ผ—ผมขอโทษ ผมยังไม่คุ้นกับกฎหมายของรัฐอดาเนีย ต—แต่อาหารของผมปลอดภัยนะ ให้เจ้าบิ๊กยืนยันให้ก็ได้” แม
ชายไม่ได้ตอบตกลงกับข้อเสนอของนีลในทันที แม้มันจะเป็นข้อเสนอที่ฟังดูดีแต่ชายหนุ่มก็ทราบว่าตัวเองไม่ควรรีบตัดสินใจ นีลเองก็ไม่ได้ขัดใจอะไรกับเรื่องนี้ แต่กระนั้นเขาก็ยังเชื้อเชิญชายไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน อ้างว่าจะได้พูดคุยในรายละเอียดให้มากกว่านี้ แน่นอนว่าชายไม่ปฏิเสธคำเชิญนั้น อย่างไรก็ตามถึงจะพูดว่าเป็นการไปร่วมรับประทานอาหารแต่ท้ายที่สุดแล้วคนลงมือทำก็คือชาย ระหว่างเตรียมมื้อค่ำพวกเขาก็ถือโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับข้อเสนอของนีลไปด้วย ส่วนพวกเด็กๆ ก็ถูกไล่ไปทบทวนบทเรียนในห้องเพราะพวกเขาจะต้องสอบวัดระดับเพื่อย้ายโรงเรียนในอีกไม่กี่วัน“ยีสต์จะสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเมื่อได้รับน้ำตาล อุณหภูมิก็สำคัญอุ่นสักหน่อยจะดีกว่า ปกติแล้วเราจะใช้น้ำอุ่นผสมน้ำตาล แต่บางสูตรก็ใช้นมอุ่นกับน้ำตาลก็ได้ ครั้งนี้ผมจะทำแบบใช้น้ำเปล่านะ อยากให้ออกมาเหมาะกับอาหารคาวหน่อย” เมื่อเตรียมตัวเข้าครัวเรียบร้อยชายก็เริ่มอธิบาย พร้อมกันนั้นเขาก็หยิบถ้วยมาตวงน้ำอุ่นให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะ เติมน้ำตาลลงไปหนึ่งช้อนชา จากนั้นก็ใส่ยีสต์ลงไป หลังจากคนให้เข้ากันแล้วก็วางพักไว้“ผมกลับ
แม้จะมีความขุ่นข้องหมองใจกันบ้างแต่สุดท้ายการเจรจาธุรกิจกับนีลก็จบลงด้วยดี ชายไม่ได้ขอผลตอบแทนเพิ่ม แค่ขอให้กำหนดระยะเวลาในการร่วมมือกันไว้ที่สิบปี ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง เขาลองหาข้อมูลดูแล้วอดาเนียกรุปเป็นกลุ่มบริษัทที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก เดิมพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตเครื่องจักรสงคราม แต่เมื่อเปลี่ยนผู้นำพวกเขาก็เริ่มเข้ามาจับตลาดเกี่ยวกับอาหาร และคู่ค้ารายสำคัญก็คือกองทัพ นั่นหมายความว่าต่อให้อาหารที่ออกมาไม่เป็นที่ถูกใจของประชาชนทางกองทัพที่เบื่อข้าวต้มกับเปล่าแล้วก็คงเต็มใจซื้ออาหารของพวกเขาอยู่ดี เรียกว่าอย่างไรก็ขายได้ ดังนั้นชายจึงไม่ลังเลเลยที่จะคว้าโอกาสงามๆ นี้เอาไว้เมื่ออนาคตดูมั่นคงขึ้นมากแล้วชายก็ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส วันนี้เขาตื่นเร็วกว่าปกติเพราะต้องไปทำมื้อเช้าให้ครอบครัวอดาเนีย ใช่ เขาไม่เพียงแต่ต้องทำอาหารให้เด็กฝาแฝดเท่านั้นแต่ยังต้องทำให้นีลผู้เป็นพ่อด้วย อย่างไรก็ตามในสัญญาไม่ได้ระบุไว้ว่าเขาต้องทำอาหารให้นีลครบสามมื้อต่อวัน เสือดำหนุ่มเพียงบอกว่าหากเขาอยู่บ้านก็ทำอาหารเผื่อด้วยเท่านั้น‘แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วทำข
ขณะที่ชายกำลังวุ่นวายกับการเจรจาธุรกิจของตนข้างฝ่ายคุณพ่อเสือดำเองก็ต้องเผชิญหน้ากับคำถามมากมายของบรรดาบอร์ดบริหารและเหล่าผู้ถือหุ้น สาเหตุนั้นก็เนื่องมาจากการตัดสินใจโดยพลการของเขาเมื่อวานนี้ จริงอยู่ว่าด้วยตำแหน่งและจำนวนหุ้นในมือทำให้เขามีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในบริษัท สามารถลงนามในสัญญาที่ใช้งบประมาณไม่เกินร้อยละยี่สิบของเงินทุนบริษัทได้โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม อย่างไรก็ตามการตัดสินใจก่อนได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมก็สร้างความไม่พอใจให้กับหลายๆ คนอยู่ดี“หลายทศวรรษที่ผ่านมาแกไม่เคยเหลวไหลแบบนี้ หวังว่าจะมีคำอธิบายดีๆ ให้ฉันนะ” ทันทีที่นีลนั่งลงตรงตำแหน่งประธานบุรุษตาเดียวท่าทางสุขุมก็เปิดประเด็นขึ้นทันที เขามีใบหน้าละม้ายคล้ายนีลอยู่ถึงเจ็ดแปดส่วน จะต่างกันก็เพียงสีขนของใบหูและหางที่เป็นสีเหลืองแต้มดำอย่างเสือดาวเท่านั้น“ท่านนายพลก็กล่าวเกินไป ท่านประธานจะทำตัวเหลวไหลแบบนั้นได้อย่างไร เขาเป็นพ่อคนแล้วคงไม่ใจร้อนด่วนตัดสินใจผิดๆ เพราะถูกใจหนุ่มน้อยบางคนเข้าหรอก” ชายผมแดงพูดขึ้นบ้าง ใบหูรูปสามเหลี่ยมที่โผล่พ้นกลุ่มผมฟูฟ่องนั้น
“สวัสดีตอนเกือบเที่ยงนะทุกคน วันนี้ผมจะมาสอนทำมื้อกลางวันแบบง่ายๆ กันนะ จากคลิปทำขนมปังมีหลายคนบ่นว่าทำยากไป วันนี้ผมก็เลยเอาอีกเมนูที่ทำง่ายมาฝาก โดยจะเป็นการดัดแปลงเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่ปกติจะใช้ขนมปังมาเป็นการใช้ข้าวแทน” ชายกล่าวเปิดรายการที่ครัวของบ้านอดาเนีย เขาเคยคุยเรื่องนี้กับนีลไปแล้วซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร เงื่อนไขเดียวที่ตั้งไว้คือห้ามให้เด็กๆ ออกกล้องเท่านั้น-แฮมเบอร์เกอร์? เหมือนฉันจะเคยเห็นรูปในพิพิธภัณฑ์นะ-ที่เป็นรูปครึ่งเดียวแล้วก็เถียงกันมาเป็นร้อยปีว่ามันยาวแค่ไหนสินะ-มีเถียงกันเรื่องไส้ด้วย ที่เป็นชิ้นเหลี่ยมๆ เหมือนของสังเคราะห์นั่นน่ะ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร-ไม่แน่นะเชฟอาจจะรู้ก็ได้-จะบ้าเหรอ? ถึงเชฟจะรู้จักเมนูนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้จักเนื้อปริศนานั่นนะ-ไม่ลองฟังเชฟดูก่อนล่ะ?-นั่นสิ ถามเชฟดีกว่า เชฟรู้ไหมว่านี่คืออะไร (แนบรูป)รูปภาพที่โผล่มาในช่องแสดงความคิดเห็นดึงดูดสายตาของชายได้เป็นอย่างดี เขาโบกมือให้ช่องแสดงความเห็นหยุดนิ่งแล้วอ่านคำถามกับด
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ไม่เหมือนเคย ชายตระหนักถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาตื่นเต็มที่ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุ้ยเคยถูกแทนที่ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวอย่างหนึ่งที่ชวนให้นึกถึงแสงแดดและความนุ่มฟู‘ไม่สิ…มันนุ่มจริงๆ นี่นา’ คนที่เริ่มรู้สึกตัวขมวดคิ้วเมื่อประสาทสัมผัสเริ่มแจ่มชัด ชายหนุ่มพลันสะดุ้งลืมตา สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือกลุ่มขนสีดำมันวาว “หวา!” ร่างผอมผุดลุกขึ้นนั่งอย่างลนลาน ภาพความทรงจำเมื่อคืนฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าของเขาเห่อร้อนเจ้าของกลุ่มขนสีดำวาวขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะบิดขี้เกียจจนลำตัวโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว อ้าปากหาวจนเห็นเขี้ยวขาวสะดุดตา จากนั้นนัยน์ตาสีอำพันคู่งามก็จ้องเขม็งไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนแน่นอนว่าคนที่ถูกจ้องย่อมกลัวจนตัวแข็งค้างไม่กล้าขยับ“อ—เอ่อ…คุณรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” ชายพยายามทำใจดีสู้เสือแต่กระนั้นก็ทราบว่ารอยยิ้มของตนแข็งกระด้างเพียงใด มุมปากของเขาถึงกับกระตุกเพราะเกร็งมากไปด้วยซ้ำ แต่จะทำตัวตามสบายก็คงไม่ได้เพราะเมื่อคืนเขาก่อเรื่องเอาไว้มากเลยทีเดียว
ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ
ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ
กระแสการทำอาหารเหลวแบบโบราณทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ในสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ไม่เพียงแต่มันจะเป็นการปฏิวัติรสชาติของอาหารเหลวที่หากไม่หวานจนแสบคอก็ขมจนหน้าบี้ให้กลายเป็นรสชาติกลมกล่อมพอดี แต่มันยังทำให้คนกลุ่มหนึ่งมองเห็นช่องทางทำกินใหม่ๆ อีกด้วย เพียงชั่วข้ามคืนก็มีร้านค้าอิสระเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาอาจไม่สามารถวางขายอาหารของตนกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติหรือซูเปอร์มาเก็ตได้ แต่ก็ยังสามารถทำการค้าตัวต่อตัวกันได้ ตราบใดที่เครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหารบอกว่าปลอดภัยความนิยมในการทำอาหารตลอดจนตลาดขายอาหารปรุงสุกที่คึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น ทำให้สามารถกล่าวได้ว่าความพยายามมากมายตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาของสถาบันวิจัยอาหารโบราณได้พ่ายแพ้ให้กับพ่อครัวตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างราบคาบแม้การทำอาหารจะเป็นที่นิยมมากขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีครัวเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีเงินซื้อ แต่เป็นเพราะไม่มีสถานที่ติดตั้งครัวต่างหากทุกวันนี้กว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ของประชากรทั้งสมาพันธรัฐอันโดรเมดาอาศัยอยู่ในรังผึ้ง มันคือห้องเช่าราคาประหยัดที่มีเพียงเตียงกับโต๊ะแบบพับได้ให้ใช้เท่านั้น แม้แต
ท่ามกลางการรอคอยของใครหลายๆ คนในที่สุดชายก็เริ่มการถ่ายทอดสดช่วงบ่าย เขาจั่วหัวข้อเอาไว้ว่าเป็นการเตรียมชุดอาหารเย็น รายการวัตถุดิบตลอดจนอุปกรณ์ทั้งที่จะเป็นและแนะนำให้มีทั้งหมดถูกเขียนเอาไว้ในหน้าประกาศข่าวก่อนแล้วดังนั้นคนที่อยากทำตามย่อมมีความพร้อมเต็มที่“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ครัวคุณชาย วันนี้เราจะมาทำชุดอาหารเย็นสองแบบกันนะ และแน่นอนว่าผมมีสูตรอาหารโบราณที่คล้ายกับอาหารเหลวมาฝากทุกคนตามที่สัญญาไว้ด้วย” ชายกล่าวทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้ม“สูตรอาหารโบราณที่ใกล้เคียงอาหารเหลวมากที่สุดหากนับจากอาหารคาวแล้วก็น่าจะเป็นซุปนี่แหละ แต่อย่าเพิ่งคิดถึงซุปไข่หรืออื่นๆ ที่ผมเคยทำไปนะ ครั้งนี้จะเป็นซุปข้นที่ไม่ต้องเคี้ยวเลย ซุปข้นนี้จริงๆ ก็หลายสูตรทั้งซุปผักโขม ซุปแคร์รอต ซุปมันฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่วันนี้ผมจะเริ่มจากอะไรที่กินได้ง่ายอย่างฟักทอง” กล่าวแล้ววางมือลงบนฟักทองลูกโตที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์“ก่อนอื่นเลยคุณต้องล้างทำความสะอาดฟักทองให้ดี สมัยนี้ดีหน่อยฟักทองถูกปลูกแบบไร้ดินจึงสะอาดมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องพยายามขัดดินออกจากเป
หลังจากจบการถ่ายทอดสดตอนเช้าชายก็รีบทำข้าวกล่องสำหรับพ่อลูกบ้านอดาเนีย แป้งตอติญาสำเร็จรูปซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อการค้าซันชายน์ถูกนำไปย่างบนกระทะพอให้เหลือง เสร็จแล้วก็นำมาห่อไส้ที่เตรียมไว้ ชายเลือกใช้สลัด เนื้อปู และไส้กรอกจึงไม่เสียเวลามานักในการเตรียม ตอนที่สามพ่อลูกอดาเนียจะออกจากบ้านข้าวกล่องทั้งสามใบก็เสร็จเรียบร้อย“ไม่เห็นคุณสอนวิธีทำของพวกนี้เลยนะ” นีลทักตอนที่รับข้าวกล่องมาถือไว้ ชายบอกเขาแล้วว่าข้างในกล่องเป็นอะไรท่านประธานจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสดีในการโฆษณาสินค้า เพราะตั้งแต่สินค้าชุดใหม่ออกวางขายมีลูกค้าหลายคนที่ซื้อสินค้าไปทั้งๆ ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน หากมองในแง่ดีพวกเขาก็ยังได้กำไร แต่หากมองอีกมุมหนึ่งยอดขายจากกระแสความนิยมเช่นนี้ไม่ได้ยั่งยืนเลย“ถ้าถ่ายทอดสดไปด้วยผมกลัวว่าจะทำไม่ทันน่ะ” ชายอธิบาย “แต่ผมตั้งใจว่าจะทำคลิปวิดีโอง่ายๆ ให้พอเห็นคอนเซ็ปของการทำเบอร์ริโต คิดว่าน่าจะจุดประกายไอเดียให้ใครหลายๆ คนได้นะ”“ใช้ครัวบ้านผมแล้วกัน คุณสั่งของผ่านพ่อบ้านได้เลยถือเสียว่าเป็นการโฆษณาสินค้าของเรา”
ความพ่ายแพ้ต่อสถาบันวิจัยอาหารโบราณไม่ทำให้ชายรู้สึกแย่แต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยๆ มันก็ได้จุดกระแสความนิยมการกินเผ็ดและการกินขมขึ้นมาในหมู่ประชาชน นอกจากนี้มันก็ไม่ได้กระทบต่อกิจการของครัวคุณชายหรืออดาเนียกรุปด้วย กลับกันการออกอากาศที่ผ่านมานั้นทำให้ครัวคุณชายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรในสมาพันธรัฐอันโดรเมดารู้จักครัวคุณชาย ซึ่งนั่นนับเป็นจำนวนไม่น้อยเลย ส่วนความหนักใจเดียวของชายในตอนนี้ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องที่ผลิตสินค้าได้ไม่พอขาย‘ให้ตายสิ จำนวนผู้บริโภคต่างจากโลกเก่าลิบลับเลย’ พ่อครัวหนุ่มคิดขณะมองตัวเลขที่ต่อท้ายด้วยหน่วย “แสนล้านล้าน” ในรายงานคำร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องสินค้าขาดตลาด มันเป็นตัวเลขที่มากเสียจนเขาจินตนาการภาพไม่ออกเลย‘เอาเป็นว่าช่วงขาขึ้นก็รีบโกยก่อนแล้วกัน พอความนิยมเริ่มซาก็ค่อยลดอัตราการผลิต’ สุดท้ายมนุษย์โบราณก็ตัดสินใจง่ายๆ และหลังจากปัดปัญหาเรื่องของไม่พอขายไปได้แล้วเขาก็มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้าและข้าวกล่องของบ้านอดาเนียแทน“จำได้ว่าที่ห้องนั้นยั
การแข่งขันทำอาหารระหว่างครัวคุณชายกับสถาบันวิจัยอาหารโบราณเป็นที่จับตามองมาตั้งแต่แรก เมื่อถึงช่วงของการตัดสินที่นักวิจารณ์อาหารชื่อดังตลอดจนนักวิชาการด้านอาหารที่มีชื่อเสียงจำนวนผู้ชมก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐอดาเนีย จำนวนผู้ชมเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้วคิดเป็นเกือบร้อยละเจ็ดสิบ แทบจะเท่ากับการประชุมกำหนดแผนนโยบายประจำปีเลยทีเดียวหนึ่งในคณะกรรมการคือ แลนดอน หลี่ นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง เขาเป็นนักชิมกลุ่มแรกๆ ที่ได้กินไข่ตุ๋นครัวคุณชาย และตอนนี้เขาก็แทบจะอดใจรอที่จะได้ชิมอาหารปรุงสุกฝีมือพ่อครัวคนดังไม่ไหวแล้ว แต่น่าเสียดายที่อาหารของชายต้องใช้เวลาในการจัดส่ง ดังนั้นคณะกรรมการทั้งสามคนจะได้ชิมอาหารของเชฟรูดอล์ฟกันก่อน“จานแรกของผมมีชื่อว่า ‘พันบุปผา’ เป็นการจำลองทุ่งดอกไม้มาไว้บนจานหนึ่งใบ คุณจะได้สัมผัสทุ่งดอกไม้ที่เริ่มแย้มบานด้วยตัวของคุณเอง เพียงเปิดฝาครอบออกเท่านั้น” พ่อครัวเผ่าลีฟผู้มีผิวกายและสีผมคล้ายพฤกษาต้นหนึ่งกล่าวนำเสนอผลงานของตน เขาจงใจเริ่มมื้ออาหารด้วยดอกไม้นานาพันธุ์อันสื่อถึงพื้นเพของตนกรรมการทั้งสามสี
เนื่องจากตัดสินใจว่าจะชงกาแฟใส่ขิงชายจึงต้องสั่งเมล็ดกาแฟจากทางรายการมาเพิ่ม แน่นอนว่าการจัดส่งจากซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นรวดเร็วมาก ทว่าชายก็ไม่ได้รีบร้อนนำมาใช้เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้อบคุกกี้เลย นอกจากนี้เขาก็ลืมทำของหวานอีกอย่างที่ควรจะเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างไอศกรีมด้วย“ผลไม้...เอาเป็นอะไรดีนะ?” ชายพึมพำพลางนึกว่าอะไรที่กินคู่กับพริกเกลือแล้วอร่อยบ้าง รายการผักผลไม้มากมายพลันผุดขึ้นมาจนเลือกไม่ถูก เพราะโดยพื้นฐานแล้วผลไม้รสเปรี้ยวไม่ว่าชนิดไหนพอกินกับพริกเกลือก็อร่อยทั้งนั้น แม้แต่ผลไม้หวานๆ เองก็กินกับพริกเกลือได้เช่นกันหลังจากชั่งใจอยู่พักหนึ่งชายก็หยิบสับปะรด ราสเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เลมอน มะม่วงสุก เสาวรส และแตงโมออกมาจากลังวัตถุดิบ ผลไม้ทั้งหมดถูกล้างทำความสะอาดอย่างดี พวกเบอร์รีนั้นแค่ล้างและตัดขั้วออกก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนที่เหลือยังต้องปอกเปลือกและหั่นให้เรียบร้อยเสียก่อน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาชายจึงเอาเบอร์รีทั้งหมดไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็งพิเศษการแช่แข็งผลไม้แบบนี้เป็นวิธีประหยัดเวลาที่เขาเรียนรู้มาระหว่างที่ต้องรับผิดชอบขนมในงาน