Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2024-12-20 19:51:07

เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงจากดาว E5196 ไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ ชายจึงต้องไปต่อเครื่องที่สถานีอวกาศ J666 เสียก่อน การเดินทางครั้งนี้จึงกินเวลาถึงห้าชั่วโมงเต็ม หากไม่นับระยะทางที่ไกลหลายปีแสงแล้วเขาก็รู้สึกว่าการเดินทางในโลกอนาคตไม่ได้สะดวกสบายมากเท่าที่คิด

เมื่อมาถึงท่าอากาศยานของดาว D517 ชายก็มุ่งหน้าไปยังไอบ็อกซ์ทันที ตามแผนการเขาจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาเป็นอันดับแรกเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ คอมพิวเตอร์พกพานี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ABrain แต่ผู้คนนิยมเรียกมันว่า “แอ๊บบี้” คอมพิวเตอร์พกพาพวกนี้มีผู้ผลิตหลายเจ้าและรูปแบบของเครื่องก็หลากหลายมาก มันมีตั้งแต่การ์ดแผ่นบางๆ เหมือนกับบัตรประจำตัว หุ่นยนต์รูปร่างต่างๆ ไปจนถึงแผ่นแปะที่แนบสนิทไปกับผิวเหมือนรอยสัก แต่ชายอยากได้อะไรที่พกพาง่ายและให้ความรู้สึกคุ้นเคยเขาจึงเลือกแบบที่ดูเหมือนสมาร์ตวอชท์มาชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าฟังก์ชันการทำงานของมันย่อมต้องเป็นแบบพิเศษเพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาโบราณที่ไม่ใช่ภาษาพื้นฐานของระบบ ราคาของ ABrain ที่ชายซื้อมาจึงมีราคาสูงกว่าปกติ แถมยังผ่อนไม่ได้อีกต่างหาก

ไม่ใช่ว่ามันไม่มีระบบผ่อนชำระแต่เป็นเพราะเขายังไม่ได้สมัครบัญชีกับธนาคารใดๆ จึงไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทผ่อนชำระได้ ชายอาจมีบัตรที่อัดไปด้วยเงินหลักล้านก็จริงแต่มันก็ไม่ต่างอะไรจากเงินสดเลย เวลาจะซื้ออะไรก็ต้องชำระเต็มจำนวน ครั้นจะมุ่งไปธนาคารตอนนี้เขาก็ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีได้อยู่ดี ดังนั้นมนุษย์โบราณตัวน้อยจึงจำต้องกัดฟันจ่ายเงินห้าแสนสตาร์เป็นค่า ABrain อย่างไร้ทางเลือก

‘ตอนนี้เหลือแค่ 2,517,620 สตาร์สินะ’ คนกำลังเริ่มตั้งตัวคิดพลางเรียกข้อมูลเกี่ยวกับการฝากขายอาหารสำเร็จรูปขึ้นมาดูอีกรอบระหว่างรออุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการดำรงชีพ ความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องซื้อ ABrain มาก็ได้ แต่เพื่อความสะดวกในเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ต้องมีคอมพิวเตอร์พกพาชื่อเล่นน่ารักอย่างแอ๊บบี้เอาไว้

การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและที่สะดวกไปกว่านั้นก็คือชายไม่จำเป็นต้องออกจากไอบ็อกซ์เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาต้องทำคือหยิบสินค้าออกจากช่องรับของที่ติดตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งของไอบ็อกซ์เท่านั้น

‘รอแค่สามนาทีอย่างกับบะหมี่ถ้วยเลยแฮะ’ ชายจากอดีตคิดขณะสวมแอ๊บบี้เข้ากับข้อมือซ้าย ตัวเรือนสี่เหลี่ยมขอบมนกับสายเชือกถักสีขาวให้ความรู้สึกหรูหราและคุ้นเคย แต่พอนึกถึงส่วนหนึ่งในข้อความโฆษณาแล้วเขาก็อดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ “เรียบง่ายทรงเสน่ห์แบบโบราณ” ถ้าผู้ออกแบบสมาร์ตวอชท์ยอดนิยมในยุคของเขามาได้ยินคงปวดใจน่าดู

“ก่อนอื่นก็ต้องลงทะเบียน...” ชายพึมพำออกมาอย่างลืมตัวแล้วสมองกลอัจฉริยะทั้งสองก็ตอบรับมาพร้อมกัน

“ตรวจไม่พบภาษาของคุณ โปรดออกคำสั่งเสียงอีกครั้ง” คอมพิวเตอร์ในไอบ็อกซ์ขึ้นข้อความ

“กรุณาออกคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษตามค่าเริ่มต้น” แอ๊บบี้ส่งเสียงขึ้นมาบ้าง

ฝ่ายชายผู้เผลอพูดภาษาโบราณที่ไม่มีใครเข้าใจนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว เขาคงต้องใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียวกว่าจะคุ้นชินกับชีวิตใหม่นี้ ชายหนุ่มกดปิดข้อความแจ้งเตือนบนสองอุปกรณ์ จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนใช้งาน ABrain ให้เรียบร้อย มันกินเวลาไม่นานนัก ที่วุ่นวายหน่อยก็คือส่วนของการปรับแต่งหน้าจอและการแจ้งเตือนต่างๆ เพราะชายไม่ชินกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยี กว่าจะเจอการแจ้งเตือนแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ดวงแสงหรือข้อความวิ่งวนรอบตัวก็เล่นเอาเวียนหัวเลยทีเดียว

หลังจากจัดการเรื่องลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของที่พัก แน่นอนว่าการซื้อบ้านพร้อมลงทุนทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องเกินตัว เขาจึงเลือกเช่าห้องในตึกที่อนุญาตให้ทำอุตสาหกรรมระดับเล็กได้ แต่ทุกอย่างก็หาได้ราบรื่นไม่ ชายเพิ่งจะมีบัตรประจำตัวของสมาพันธรัฐอันโดรเมดาได้ไม่นาน ประวัติของเขาขาวสะอาดก็จริงแต่ก็ยากที่เจ้าของตึกจะวางใจ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าในทุกๆ ปีจะมีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในรัฐอดาเนียเป็นจำนวนมาก และคนเหล่านั้นมักจะก่อปัญหาขึ้นเสมอๆ ในปัจจุบันผู้ที่คิดมาเปิดธุรกิจในรัฐอดาเนียจึงมักจะพกเอกสารรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือมาด้วย ชายไม่มีเอกสารดังกล่าวเขาจึงถูกจำกัดตัวเลือกลงไปมาก อาคารที่ไม่มีปัญหากับผู้อพยพเข้ามาใหม่นั้นส่วนมากแล้วจะเป็นอาคารเก่าในทำเลที่ไม่ดีนัก จริงอยู่ว่าระบบขนส่งในปัจจุบันก้าวหน้าไปมากแต่ชายก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี เขาไม่ยอมอาศัยอยู่ในดงโรงงานอุตสาหกรรมไปอีกหลายปีแน่ แต่ตึกที่ดูดีขึ้นมาหน่อยก็มักจะเรียกร้องเงินประกันก้อนโต แม้ทางเจ้าของจะไม่สามารถโกงสัญญาได้แต่ชายก็ไม่อยากเอาเงินไปกองไว้เฉยๆ สองล้านสตาร์ที่มีอยู่สมควรจะถูกนำไปใช้ให้คุ้มค่าที่สุด

นั่งหาอยู่นานในที่สุดเขาก็พบอาคารที่ถูกใจ มันเป็นตึกกลางเก่ากลางใหม่ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างวงแหวนรอบที่สองและสามของเมือง สภาพห้องที่เห็นจากการเยี่ยมชมแบบสี่มิตินั้นดีมาก พื้นที่ใช้สอยภายในถูกแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยการทำเพดานสูงและยกชั้นลอยขึ้น ชั้นบนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและชั้นล่างทั้งชั้นเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องจักร มันถึงกับมีท่าเทียบยานขนส่งส่วนตัวเลยทีเดียวซึ่งนับว่าสะดวกมากสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ยิ่งไม่มีเงื่อนไขสำหรับผู้อพยพใหม่ด้วยแล้วชายยิ่งไม่ลังเลที่จะติดต่อขอเช่าห้อง

ค่าเช่าห้อง 50,000 สตาร์ต่อเดือนไม่มีค่ามัดจำ ราคานี้จะว่าถูกก็ถูก จะว่าแพงก็ใช่ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าชายก็ไม่นึกเสียดาย อย่างไรก็ตามเมื่อเขาแจ้งความประสงค์จะเช่าระยะยาวผู้ดูแลก็เสนอเงื่อนไขพิเศษมาให้

‘เช่าครึ่งปีลด 20% เช่าหนึ่งปีลด 40% เช่าสองปีลด 50% เหรอ? ใจป้ำไม่เบาแฮะ’ คิดแล้วชายหนุ่มก็ชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะเลือกเช่าแบบครึ่งปีไปก่อน เขายังรู้จักโลกใหม่แห่งนี้ไม่มากพอการมีเงินสำรองมากเข้าไว้ย่อมอุ่นใจกว่า อีกอย่างหากในอนาคตเขาอยากจะย้ายที่อยู่ขึ้นมาก็จะสามารถทำได้โดยสะดวก ไม่ต้องมากังวลกับเงินที่จ่ายล่วงหน้าไปด้วย

240,000 สตาร์ปลิวหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับแบบแปลนอย่างละเอียดของห้องที่ถูกส่งเข้ามาในแอ๊บบี้ประจำตัว ชายสามารถเปิดดูแบบแปลนแบบสามมิติและเลือกแบบจำลองเครื่องเรือนมาวางได้เหมือนกับกำลังเล่นเกม หลังจากงุนงงกับระบบร้านค้าอยู่สักพักเขาก็เริ่มตกแต่งห้องพัก อย่างแรกที่เขาซื้อคือเตียงพร้อมชุดเครื่องนอนและชุดสุขภัณฑ์ ตามด้วยชุดเครื่องครัว และสุดท้ายก็คือเครื่องจักรสำหรับธุรกิจขายอาหารสำเร็จรูปของตัวเอง

‘เริ่มจากเมนูง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน’ ชายบอกตัวเองแบบนั้นและเลือกซื้อสิ่งจำเป็นต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร หากไม่มีเจ้าเครื่องนี้เขาจะต้องส่งอาหารที่จะขายทั้งหมดไปยังศูนย์รับรองความปลอดภัยของเครื่องบริโภคซึ่งนับเป็นการเสียเวลาอย่างมาก และเนื่องจากชายต้องการขายอาหารในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูปไม่ใช่ข้าวกล่องตามสั่งดังนั้นเขาจะต้องมีเครื่องบรรจุอาหารอัตโนมัติด้วย ตอนแรกเขาก็หนักใจอยู่บ้างเพราะในยุคที่จากมาเครื่องจักรพวกนี้มักมีขนาดใหญ่และราคาแพง แต่เมื่อลองหาดูก็พบว่ามันมีเครื่องขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ด้วย แถมราคาก็ไม่แพง แค่ห้าหมื่นสตาร์เท่ากันกับเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร

‘ต่อไปก็วัตถุดิบกับบรรจุภัณฑ์’ ชายกำกับตัวเองในใจพลางออกคำสั่งค้นหาแก่แอ๊บบี้ ไม่ถึงอึดใจหน้าต่างร้านค้านับร้อยบานก็ปรากฏขึ้นมา เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มันมีทั้งร้านค้าวัตถุดิบไปจนถึงเครื่องเพาะวัตถุดิบเลยทีเดียว

ถูกแล้ว เครื่องเพาะวัตถุดิบ อย่างไข่ไก่ที่เขาต้องการขอแค่มีเครื่องนี้ไม่ต้องเลี้ยงไก่ก็มีไข่กินทุกวัน มันมีทั้งขนาดเล็กที่ผลิตไข่ได้วันละสิบฟองไปจนถึงเครื่องใหญ่ที่ผลิตไข่ได้เป็นพันฟองต่อวัน แถมไข่ที่กินไม่หมดก็สามารถนำไปทำเป็น “เซลล์ตั้งต้น” สำหรับผลิตไข่ชุดต่อๆ ไปได้ด้วย

‘สะดวกจนน่ากลัวเลยแฮะ’ แต่ถึงจะคิดแบบนั้นชายก็ตัดสินใจซื้อเครื่องเพาะไข่ขนาดห้าร้อยฟองมาเครื่องหนึ่ง ราคาของมันคือ 180,000 สตาร์ซึ่งนับว่าสูงทีเดียว ‘ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วซื้อเรือนกระจกมาด้วยก็แล้วกัน’ ชายคิดพลางกดซื้อเรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกมาหนึ่งหลัง ตามด้วยบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งอีกพันชิ้น จนถึงตอนนี้เขาเหลือเงินเพียงสองล้านต้นๆ เท่านั้น แม้จะดูเหมือนเยอะแต่พอพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ต้องเผชิญแล้วมันก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย

ชายใช้เวลาอีกห้านาทีในการวางตำแหน่งเครื่องเรือนและเครื่องจักรต่างๆ การขนย้ายตลอดจนการติดตั้งนั้นทางร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด หลังจากอนุมัติตำแหน่งที่แน่นอนแล้วเขาก็แค่ต้องรอสามสิบนาทีเท่านั้น ห้องเปล่าที่เช่าไว้ก็พร้อมสำหรับการเข้าอยู่

๐๐๐

ชายใช้บริการยานรับจ้างในการเดินทางไปยังบ้านหลังใหม่ของเขา คนขับยานเป็นบีสต์สายพันธุ์ฟีไลน์ที่มีหูรูปสามเหลี่ยมอยู่บนศีรษะ เมื่อแรกที่ได้เห็นทาสแมวจากอดีตแทบจะละสายตาไปจากหูฟูๆ คู่นั้นไม่ได้เลย จนพลขับหัวเราะแล้วถามว่า “เพิ่งเคยเห็นบีสต์หรือ?” นั่นแหละชายถึงได้รู้สึกตัว

“ผมเสียมารยาทแล้วต้องขออภัยจริงๆ ครับ”

“โอ้! มาจากชุมชนโบราณหรือไม่ก็เป็นผู้ฟื้นจากนิทราสินะ ไม่เป็นไรๆ ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไม่คุ้นชิน” พอได้ยินภาษาที่ไม่คุ้นเคยจากปากของชายคนขับก็พอจะสรุปที่มาของเขาได้ในทันที แน่นอนว่าเขาฟังภาษาอังกฤษไม่ออกแต่เป็นแอ๊บบี้ของชายที่ส่งเสียงแปลภาษาออกมาโดยอัตโนมัติ ความเร็วของปัญญาประดิษฐ์นั้นมากพอที่จะทำให้พวกเขาสนทนากันได้อย่างราบรื่น

“คุณเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่อยากจะดูคลิปแนะนำดาวของเราไหม?” คุณลุงแมวเหมียวเสนออย่างใจดี ภายในยานรับจ้างแบบนี้จะมีคลิปวิดีโอสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ชุดหนึ่ง มันมีทั้งแต่เรื่องราวทั่วไปของดวงดาว โฆษณาโรงแรม ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ธรรมดาแล้วหากรับผู้โดยสารต่างถิ่นขึ้นมาเขาก็จะเปิดคลิปวิดีโอพวกนี้ให้ดูเป็นปกติ

“ผมดูมาแล้ว ขอบคุณมากครับ” ชายปฏิเสธอย่างสุภาพ จริงอยู่ว่าจะดูซ้ำก็ไม่เสียหาย แต่เขาเป็นคนชอบนั่งรถเงียบๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วจึงไม่อยากดูอีก ยิ่งไปกว่านั้นทิวทัศน์สองข้างทางก็น่าสนใจกว่ามาก ไหนๆ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ดางดวงนี้แล้ว เด็กหนุ่มก็อยากสำรวจสถานที่ด้วยตาของตนเอง

“เตรียมตัวมาดีไม่เบานะ ว่าแต่ว่าหางานได้หรือยังล่ะ? ถ้ายังผมพอจะแนะนำงานสำหรับผู้อพยพให้ได้นะ” เป็นอีกครั้งที่สารถีมอบความหวังดีให้ ชายรู้สึกประทับใจในความเป็นมิตรของคนที่นี่ไม่น้อย

“ขอบคุณมากครับแต่ผมอยากลองทำอาหารขายดูก่อน” และก็เป็นอีกครั้งที่ชายต้องปฏิเสธอย่างสุภาพ หากเขายังมองไม่เห็นลู่ทางทำกินข้อเสนอของคุณลุงแมวเหมียวก็ฟังดูเข้าที แต่เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ชายก็อยากจะลองทำให้เต็มที่เสียก่อน หากล้มเหลวก็ค่อยขยับไปทำอย่างอื่น

“ทำอาหาร? คุณจะทำอาหารโบราณขายหรือ?” น้ำเสียงของคู่สนทนาฟังดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ใบหูรูปสามเหลี่ยมกระดิกไปมาล่อตาล่อใจจนสมาธิไขว้เขว

“เอ่อ...ครับ” ชายอึกอักเล็กน้อยเพราะยังไม่ชินกับคำว่าโบราณที่คนยุคนี้ใช้กัน

“โอ้! เยี่ยมไปเลย คุณต้องทำเงินได้มากแน่ๆ ว่าแต่ว่าคุณเปิดร้านที่ไหนหรือ? ถึงผมจะสู้ราคาอาหารโบราณไม่ไหวแต่ผมสามารถช่วยแนะนำคนให้ได้นะ” อันที่จริงแล้วสาถีขนฟูก็แค่อยากได้ “ทิป” เล็กๆ น้อยๆ จากผู้โดยสารที่เขาจะแนะนำร้านอาหารดีๆ ให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามชายไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้และมนุษย์โบราณก็ตอบไปอย่างพาซื่อว่า

“ผมไม่มีหน้าร้านหรอก แค่ฝากขายกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติเท่านั้นเอง”

“เครื่องขายอาหารอัตโนมัติ?” คนขับถึงกับหันกลับมามองหน้า นัยน์ตาสีเหลืองเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกับม่านตาที่ขยายกว้างอย่างน่ารักจนชายต้องพยายามข่มกลั้นความเป็นทาสแมวของตนอีกครั้ง “คุณจะบอกว่าอาหารโบราณขายในเครื่องขายอาหารอัตโนมัติได้เหรอ?”

“อ—อื้อ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” คนที่คุ้นชินกับอาหารแช่แข็งและแกงถุงขมวดคิ้ว ในสมัยที่เขาจากมาการขายอาหารปรุงสำเร็จเป็นอะไรที่พบเห็นได้ทั่วไป แกงถุงที่วางขายแบบไม่ใส่ตู้เย็นก็มีเกลื่อนแถมยังอร่อยด้วย ตัวแกงไม่เสียแม้จะอยู่มานานตั้งแต่เช้าจรดเย็นเสียด้วยซ้ำ แล้วจะมีปัญหาอะไรกับในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ดูอย่างเครื่องขายอาหารอัตโนมัติก็มีระบบรักษาอุณหภูมิสำหรับสินค้าแต่ละชนิดแยกกันเป็นเอกเทศ จะแช่เย็นหรือแช่แข็งก็ได้หมด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบอุ่นร้อนให้อีกด้วย แบบนี้แล้วจะขายอาหารปรุงสุกไม่ได้ได้อย่างไร?

“มันไม่เคยมีมาก่อนน่ะสิ!” คนขับยานขึ้นเสียง “อาหารโบราณเป็นอาหารชั้นสูงราคาแพงแถมยังต้องปรุงอย่างพิถีพิถัน มีแต่ภัตตาคารชั้นนำเท่านั้นที่จะมีเสิร์ฟ แถมถ้าปรุงทิ้งไว้นานๆ มันจะไม่อร่อยด้วย ผมได้ยินว่ามันต้องกินให้หมดภายในห้านาทีหลังปรุงเสร็จด้วยนะ”

“ห้านาที? คุณพูดถึงอะไรอยู่หรือ?” คนฟังเดาว่าเป็นไอศกรีมที่ต้องรีบกินก่อนละลาย หรือพวกโนริมากิที่ต้องรีบจัดการก่อนสาหร่ายจะหายกรอบ ทว่าคำตอบที่ได้กลับผิดคาดไปไกลลิบ

“ก็นู้ดเดิลคัพในตำนานยังไงล่ะ! ถ้าคุณไม่รีบกินเส้นจะพองเกินไปกินแล้วไม่อร่อย”

ชายพลันรู้สึกว่าสมองของเขาขาวโพลนไปหมด อะไรคือ “บะหมี่ถ้วยในตำนาน” ใช่อาหารเด็กหอราคาถ้วยละสิบกว่าบาทที่เขารู้จักหรือเปล่า? หรือจะเป็นแบบที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่างบะหมี่ถ้วยเครื่องเยอะเส้นเหนียวนุ่มอะไรพวกนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต่างจากอาหารระดับภัตตาคารอยู่ดี ‘หรือจะเป็นอาหารแนวอินโนเวทีฟไม่ก็โมเลคิวลาร์แกสโตรโนมี?’ ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลแต่เมื่อคนขับหวังดีเปิดภาพ “นู้ดเดิ้ลคัพ” ขึ้นมาให้ดูเขาก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับเลยทีเดียว

ถ้วยทรงสูงที่คุ้นเคยกับเส้นบะหมี่ที่ดูอย่างไรก็เคยผ่านการต้มและทอดมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง ทั้งสองอย่างนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมน้ำแกงก็ใสจนแทบจะเหมือนน้ำเปล่าดูไม่น่ากินเลยสักนิด

‘อย่างน้อยก็ขอรสต้มยำ หรือใส่เครื่องสักหน่อยได้ไหม?’ เด็กหนุ่มที่ผ่านช่วงเวลากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนอาหารจานหลักสามมื้อโอดครวญในใจ

“เป็นอย่างไร? น่ากินมากเลยใช่ไหม อาหารในตำนานแบบนี้แค่ไฟล์ห้าสัมผัสก็แพงเอาเรื่องแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอาหารที่กินได้จริงๆ เลย” คนขับยานโอ้อวดโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของผู้โดยสารเลยแม้แต่น้อย

“ไฟล์ห้าสัมผัส?” ชายไม่สนใจคำคุยโวของสารถีแล้ว แต่เขากลับสะดุดใจกับชื่อประเภทของไฟล์ที่ตนไม่คุ้นเคยแทน

“เป็นไฟล์เสมือนจริงทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แต่คุณต้องใช้อุปกรณ์พิเศษสักหน่อยนะ สำหรับตอนนี้ถ้าคุณกดเล่นจะได้แค่รูปกับกลิ่นเท่านั้น” คนขับรถอธิบายอย่างไม่นึกสงสัยอะไร เพราะผู้อพยพจากดาวล้าหลังหรือผู้ฟื้นจากนิทราก็มักจะตามเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ทันอยู่แล้ว นอกจากนี้เขายังเปิดไฟล์ดังกล่าวขึ้นมาให้ด้วย

“ผมกดดูได้หรือ?” เมื่อครู่อีกฝ่ายบอกว่าซื้อมาแพงชายจึงคิดว่าการขอดูแบบนี้จะถือเป็นการเอาเปรียบหรือไม่?

“ได้สิ หรือถ้าคุณเกรงใจก็ส่งอาหารสำเร็จรูปมาให้ผมสักชิ้นเป็นการแลกเปลี่ยนก็ได้นะ” คุณลุงแมวเหมียวพูดติดตลก ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร แต่คนที่กำลังกังวลกับเรื่องการโฆษณากลับตอบรับอย่างกระตือรือร้น

“ผมส่งให้หลายถ้วยเลยก็ได้ คุณจะได้ช่วยโปรโมตให้ผมไง” ชายกล่าวด้วยความคาดหวังเล็กๆ เครื่องขายอาหารอัตโนมัติมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ชนชั้นแรงงาน หากอาหารของเขากลายเป็นที่นิยมในหมู่คนขับยานรับจ้างขึ้นมาอนาคตของเขาย่อมต้องสดใสอย่างแน่นอน

ชายฝันหวานถึงอนาคตของตนอยู่ครู่ก็หันกลับมาสนใจไฟล์ห้าสัมผัสตรงหน้า เมื่อกดปุ่มเล่นที่ลอยอยู่กลางอากาศภาพนิ่งก็พลันเคลื่อนไหวพร้อมๆ กับกลิ่นที่โชยมาปะทะจมูก

มันเป็นกลิ่นที่จะว่าหอมก็ใช่แต่กลับชวนให้รู้สึกขัดๆ ในใจ ชายหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ท่าทางตั้งใจพิจารณาของเขาทำให้คนขับยานส่งเสียงมาว่า

“กลิ่นซุปกระดูกหอมมากใช่ไหม? ผมนี่น้ำลายสอเลย”

‘อา...กลิ่นซุปกระดูกนี่เองก็ว่าอยู่ว่ามันคุ้นๆ’ ชายบอกกับตัวเองขณะเดียวกันเขาก็ได้คำตอบของความคาใจก่อนหน้าแล้วว่าทำไมตนถึงรู้สึกอึดอัดกับกลิ่นของบะหมี่ถ้วยนี้ ‘ที่แท้ก็ปรุงแต่งมากไป’ ใช่ มันเป็นกลิ่นสังเคราะห์ที่หอมชวนให้รู้สึกอยากอาหารแต่ก็เข้มข้นเกินไปสำหรับคนโบราณอย่างเขา อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้คนขับยานต้องเสียน้ำใจชายจึงเอ่ยชมไปเล็กน้อย และเหมือนโชคเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงที่หมายทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามในการต่อบทสนทนาอีก

๐๐๐

Related chapters

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 5

    “ไม่เลวเลยแฮะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเมื่อก้าวเข้ามาในบ้านใหม่ของตน นัยน์ตาสีนิลมองสำรวจไปรอบๆ ขณะเมินเสียงรายงานเรื่องตรวจไม่พบภาษาของแอ๊บบี้ เครื่องจักรหน้าตาไม่คุ้นเคยถูกตั้งเอาไว้ตามจุดที่เขาระบุอย่างไม่ผิดเพี้ยน มันอาจให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยานอวกาศไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดอะไร ใกล้กับประตูระเบียงชั้นล่างมีเรือนกระจกขนาดเล็กตั้งอยู่ ภายในนั้นยังคงว่างเปล่ารอการปรับแต่งของผู้เป็นเจ้าของ“ลืมซื้อเมล็ดมานี่สิ งั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน” ชายพูดพลางยักไหล่ก่อนจะเดินไปสำรวจเครื่องจักรที่ซื้อมา แน่นอนว่าที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเครื่องเพาะไข่เพราะเขาลงทุนกับมันไปมากในสายตาของชายเครื่องเพาะไข่มีลักษณะเหมือนตู้เย็นขนาดใหญ่เครื่องหนึ่ง แม้แต่การแบ่งส่วนก็ยังเหมือนกัน ส่วนบนเป็นแผงควบคุมกับจอแสดงผลและด้านล่างมีประตูสำหรับหยิบไข่ที่พร้อมบริโภค ตอนนี้แถบแสงตรงที่จับประตูเป็นสีแดงหมายความว่ามันยังไม่พร้อม“คู่มือบอกว่าต้องรอยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าอย่างนั้นวันนี้คงได้แค่ลงทะเบียน” ชายตัดสินใจได้ในที่สุด หลังจากตรวจเครื่องจักรอื่นๆ โดยคร่าวแล้วเขาก็ขึ้นไปบนชั้นลอย ที่นั่นถูกจัดไว้

    Last Updated : 2024-12-20
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 6

    ท่านมีข้อความใหม่ 10,000 ข้อความเช้าวันแรกในบ้านหลังใหม่ของชายเริ่มต้นขึ้นด้วยเรื่องน่าตื่นตะลึง เขาจ้องข้อความแจ้งเตือนบนจอเล็กๆ ของแอ๊บบี้อยู่นานเท่าไรไม่ทราบได้ พอสติกลับคืนมาชายหนุ่มก็เปิดใช้งานการฉายหน้าจอเพื่อให้สามารถดูรายละเอียดได้ถนัดข้อความทั้งหนึ่งหมื่นนั้นอยู่ในระบบของสตาร์ทูบ ชายลองเลือกใช้คำสั่งจัดประเภทแล้วก็พบว่ามันถูกส่งมาจากหลากหลายแหล่ง มีทั้งบุคคลธรรมดา บริษัท และแน่นอนว่าต้องมีข้อความจากระบบสตาร์ทูบด้วย“งั้นก็ดูข้อความจากระบบก่อนก็แล้วกัน” ว่าแล้วชายก็ปัดหน้าต่างแจ้งเตือนเรื่องการตรวจไม่พบภาษาออกไป จากนั้นก็เรียกข้อความจากสตาร์ทูบขึ้นมายินดีด้วย! คุณได้รับชุดถ่ายทำ 5Senseแค่ข้อความแรกก็ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างแล้ว ‘เฮ้ๆ มันครบร้อยล้านวิวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’ ไวเท่าความสงสัยชายรีบเปิดเข้าไปดูคลิปวิดีโอที่ลงไว้เมื่อคืนก่อนจะต้องตกตะลึงแทบหัวใจวายเป็นครั้งที่สองของวันเมื่อยอดการเข้าชมทะลุหนึ่งร้อยล้านคนไปแล้วจริงๆ แถมยังมีผู้กดติดตามช่องมากกว่าหนึ่งล้านไปแล้ว ผู้คนแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม ชายลองอ่านดูคร่าวๆ ก็พบว่าส่วนใหญ่กำลังเรียกร้องอยากกินซุปไข่

    Last Updated : 2024-12-20
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 7

    ขณะที่คลิปวิดีโอสอนทำอาหารของชายกำลังถูกพูดถึงเป็นวงกว้างเจ้าของคลิปวิดีโอกลับกำลังวุ่นอยู่ในครัว ของรางวัลสิบที่ถูกส่งออกไปแล้ว และตอนนี้เขาก็กำลังเตรียมอาหารสำเร็จรูปสำหรับวางขาย เนื่องจากต้องคำนึงถึงความเคยชินของผู้บริโภคประกอบด้วยชายจึงตัดสินใจทำอาหารที่ให้สัมผัสคล้ายกับอาหารสำเร็จรูปที่วางขายกัน ความจริงมันมีอาหารมากมายที่คล้ายกับเจลลี่พวกนั้นแต่สุดท้ายแล้วหวยก็มาออกที่ไข่ตุ๋น และเนื่องจากเขาต้องการรสชาติที่เข้มข้นจึงเลือกใช้ซุปผสมกับไข่แทนที่จะเป็นน้ำเปล่า แต่จะให้มานั่งต้มกระดูกหมูหรือโครงไก่ก็กินเวลานานเกินไปผงปรุงรสจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แน่นอนว่าโลกอนาคตแห่งนี้มีผงปรุงรสสำเร็จรูปขาย แต่มันก็เป็นเพียงสารสังเคราะห์แถมยังมีราคาแพง ดังนั้นการทำผงปรุงรสขึ้นเองย่อมดีกว่าโชคดีที่สมัยก่อนชายมีงานอดิเรกเป็นการดูคลิปวิดีโอในอินเทอร์เน็ต หนึ่งในหมวดที่เขาชอบดูคือคลิปวิดีโอสอนทำอาหาร นั่นทำให้ชายพอจะรู้วิธีทำผงปรุงรสด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ หลักการคือทำวัตถุดิบให้แห้ง ปั่นเป็นผง จากนั้นก็นำมาผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสมปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือกับน้ำตาล เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยชายตัดสิ

    Last Updated : 2024-12-20
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 8

    ชายเพิ่งจะเข้าใจคำว่า “Influencer*” ก็ตอนนี้เอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการทำอาหารของตนจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นไปได้อย่างมากมายเช่นนั้น จริงอยู่ว่าตัวเขาได้ปลุกกระแสอาหารปรุงสุกแนวใหม่ขึ้นมาแต่มันก็น่าจะทำได้เพียงกระตุ้นความชอบของผู้คน ไม่ใช่ทำให้ชีวิตที่สิ้นหวังของเด็กคนหนึ่งสว่างไสวขึ้นมาเช่นนี้*(หมายถึงผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ มักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจหรือสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้แก่ผู้ติดตาม)รีวิวเปลี่ยนชีวิต พลิกวิกฤติเป็นเงินล้านนั่นคือหนึ่งในหัวข้อข่าวที่ถูกส่งเขามาในกล่องข้อความของเขา ใจความหลักของข่าวไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าสองคนที่ถ่ายคลิปวิจารณ์ไข่ตุ๋นของเขาลงสตาร์ทูบแล้วได้รับรายได้ก้อนโต เพื่อให้ได้เนื้อหาที่มากขึ้นสำนักข่าวหลายแห่งถึงกับส่งข้อความขอสัมภาษณ์ความเห็นของชายต่อเรื่องนี้เลยทีเดียวแน่นอนว่าชายไม่คิดจะให้สัมภาษณ์เพราะเขาไม่ถนัดเรื่องออกสื่อ อย่างไรก็ตามเถ้าแก่มือใหม่คนนี้ก็ไม่คิดจะเพิกเฉยต่อกระแสที่เกิดขึ้น สองพี่น้องในข่าวกำลังเป็นที่จับตามอง และเขาก็ถือเป็นผู้มีพระคุณทางอ้อมของเด็กๆ ดังนั้นชายย่อมไม่รู้สึกผิดอะไรหากจะหาประโยชน์จา

    Last Updated : 2024-12-31
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 9

    “โลกอนาคตนนี่น่ากลัวจริงๆ เลยนะ” เช้าวันต่อมาชายก็ได้รับข่าวที่น่าประหลาดใจ บริษัทผู้ค้าอาหารสำเร็จรูปรายใหญ่แห่งรัฐอดาเนียทำไข่ตุ๋นออกมาขายแล้ว บทวิจารณ์บอกว่ามันมีเนื้อที่เด้งสู้ฟันมากกว่าไข่ตุ๋นของเขาเล็กน้อย และมีรสชาติอร่อยพอๆ กับบะหมี่ถ้วยในตำนาน สำหรับเครื่องเคียงที่ให้มาก็เป็นเครื่องเคียงสังเคราะห์แบบที่พบได้ทั่วไปในอาหารสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามสิ่งที่ส่งผลกระทบกับกิจการของครัวคุณชายมากที่สุดย่อมเป็นประเด็นเรื่องสารอาหาร เพราะใช้เครื่องเคียงสังเคราะห์ที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการของไข่ตุ๋นของคู่แข่งจึงชนะไข่ตุ๋นจากครัวคุณชายไปได้อย่างขาดลอยเพียงสองวันพวกเขาก็แกะสูตรออกมาได้นับว่าความสามารถของคนในโลกอนาคตไม่ธรรมดาเลยจริงๆ“เอายังไงดีนะ” ชายถามตัวเองพลางใช้นิ้วเคาะริมฝีปากอย่างครุ่นคิด กำลังผลิตของเขาในตอนนี้ไม่ถือว่ามากนัก และด้วยรสชาติที่ยังไม่มีใครเลียนแบบได้ก็ทำให้เขามีเปรียบอยู่เล็กน้อย แม้จะผ่านมาหลายพันปีแต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็ไม่เคยเปลี่ยน หากสถานการณ์เอื้ออำนวยพวกเขาย่อมให้ความสำคัญกับรสชาติมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ดังน

    Last Updated : 2025-01-01
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 10

    การเปิดตัวอาหารชุดทำให้สถานการณ์ของครัวคุณชายดีขึ้นมาก ด้วยราคาต่อชุดที่ไม่แพงและประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่ทำให้ไม่ว่าจะทำมาเท่าไรก็ขายหมด แต่กระนั้นชายก็ผลิตอาหารชุดออกมาไม่ได้มากนัก วันหนึ่งทำออกมาได้เพียงหนึ่งพันสองร้อยชุดเท่านั้น เมื่อรวมกับไข่ตุ๋นอีกแปดร้อยถ้วยก็เท่ากับว่าทุกๆ วันจะมีอาหารจำนวนสองพันชุดถูกผลิตขึ้นที่นี่ ชายหนุ่มจำต้องยอมรับว่าบ้านของเขาได้กลายเป็นโรงงานขนาดเล็กไปแล้วจริงๆ“ช่วงนี้เรียกว่าช่วงพีคสินะ” เถ้าแก่หนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะตรวจสอบยอดขายประจำวัน สินค้าของเขายังคงขายหมดทุกวัน นั่นก็ทำให้ชายมีรายได้ถึงหนึ่งแสนสตาร์ต่อวัน และแน่นอนว่าด้วยจำนวนเงินมากถึงขนาดนี้ทำให้ชายไม่ต้องกังวลอะไรไปสักพัก วันนี้เขาถึงกับหาวันหยุดให้ตัวเองเลยทีเดียวทว่ามนุษย์โบราณแบบชายย่อมไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในวันหยุดอย่างไร สุดท้ายเขาก็ให้แอ๊บบี้เปิดข่าวให้ดู เรื่องราวในโลกอนาคตนั้นเข้าใจได้ยาก เขาไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ และยิ่งสับสนกับข่าวการสำรวจทางอวกาศ แต่ในที่สุดเขาก็พบกับข่าวที่น่าสนใจชายมั่นใจว่าสาวงามผมทองในข่าวนั้นคือคนเดียวกันกับที่ถูกช่ว

    Last Updated : 2025-01-02
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 11

    ครัวคุณชายยังคงสร้างความแตกตื่นให้ผู้คนในกาแล็กซีอันโดรเมดาอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้ใส่ใจจะดูผลการกระทำของตนเลย หลังจากส่งของไปที่ศูนย์วิจัยกับลงคลิปวิดีโอห้าสัมผัสเรียบร้อยแล้ว ชายก็มานั่งกลุ้มว่าจะเอาขนมปังหนึ่งแถวที่มีอยู่ไปทำอะไรกิน“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไปปิกนิกหน่อยดีกว่า” นั่งคิดอยู่นานหลายนาทีในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ชายก็ยังไม่ได้ออกไปสำรวจละแวกใกล้เคียงเลย ตอนหาที่พักเขาจำได้ว่าใกล้ๆ มีสวนสาธารณะอยู่ แถมเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเสียด้วย ‘ทิวทัศน์ของสวนนั้นคงจะสวยมาก’ พอคิดแบบนี้แล้วชายก็ยิ่งกระตือรือร้นในการทำข้าวกล่องมากขึ้น“เอาเป็นแซนด์วิชอกไก่กับสลัดไข่ก็แล้วกัน” ตัดสินใจเรื่องเมนูหลักเสร็จชายก็เข้าไปช็อปปิ้งในร้านค้าเสมือนทันที เขาซื้อของเผื่อสำหรับทำผงปรุงรสมาด้วยเพราะหลังจากทำอาหารสำเร็จรูปเสร็จแล้วมันจะเป็นช่วงเวลาของการเตรียมผงปรุงรสเมื่อของมาถึงชายหนุ่มก็ตรงไปที่ครัวทันที เขาเริ่มจากการหมักไก่กับนมและเกลือพักไว้ จากนั้นก็เอาไข่สองฟองลงไปต้ม และนำฟองที่สามมาตีผสมกับน้ำมันและน้ำมะนาว กล

    Last Updated : 2025-01-04
  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 12

    “...แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการให้เด็กๆ กินอาหารปรุงสุกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองถือเป็นความผิด”ประโยคสะเทือนขวัญนั้นทำให้หัวใจของชายแทบหยุดเต้น จริงอยู่ว่าเรือนจำในยุคนี้ไม่ได้น่ากลัว แต่การถูกจำกัดอิสรภาพก็เป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ยิ่งเมื่อคิดว่าเขาอาจจะถูกจับเพียงเพราะความมีน้ำใจแบบไม่ทันคิดก็เสียววาบไปทั้งตัวแล้ว“คุณพ่อ!” ขณะที่ชายกำลังตื่นตระหนก เด็กๆ กลับร้องทักผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม ฝ่ายชายเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตำรวจที่จะเข้ามาจับกุมก็พลันผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหันไปมองผู้มาใหม่แล้วก็ต้องตกตะลึงกับรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายใบหน้าคมคาย เรือนกายสูงใหญ่ เสื้อผ้าเนื้อดี และใบหูรูปสามเหลี่ยมปลายมนนั้นดึงดูดสายตาก็จริงแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับรัศมีความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัว อีกทั้งนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นก็ดุดันเสียจนไม่กล้าสบตาตรงๆชายลดสายตาลงมองที่หางยาวๆ สีดำของบุรุษตรงหน้า แล้วทำใจกล้าเจรจา “ผ—ผมขอโทษ ผมยังไม่คุ้นกับกฎหมายของรัฐอดาเนีย ต—แต่อาหารของผมปลอดภัยนะ ให้เจ้าบิ๊กยืนยันให้ก็ได้” แม

    Last Updated : 2025-01-05

Latest chapter

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 35

    บรรยากาศยามเช้าวันนี้ไม่เหมือนเคย ชายตระหนักถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาตื่นเต็มที่ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุ้ยเคยถูกแทนที่ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวอย่างหนึ่งที่ชวนให้นึกถึงแสงแดดและความนุ่มฟู‘ไม่สิ…มันนุ่มจริงๆ นี่นา’ คนที่เริ่มรู้สึกตัวขมวดคิ้วเมื่อประสาทสัมผัสเริ่มแจ่มชัด ชายหนุ่มพลันสะดุ้งลืมตา สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือกลุ่มขนสีดำมันวาว “หวา!” ร่างผอมผุดลุกขึ้นนั่งอย่างลนลาน ภาพความทรงจำเมื่อคืนฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าของเขาเห่อร้อนเจ้าของกลุ่มขนสีดำวาวขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะบิดขี้เกียจจนลำตัวโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว อ้าปากหาวจนเห็นเขี้ยวขาวสะดุดตา จากนั้นนัยน์ตาสีอำพันคู่งามก็จ้องเขม็งไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนแน่นอนว่าคนที่ถูกจ้องย่อมกลัวจนตัวแข็งค้างไม่กล้าขยับ“อ—เอ่อ…คุณรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” ชายพยายามทำใจดีสู้เสือแต่กระนั้นก็ทราบว่ารอยยิ้มของตนแข็งกระด้างเพียงใด มุมปากของเขาถึงกับกระตุกเพราะเกร็งมากไปด้วยซ้ำ แต่จะทำตัวตามสบายก็คงไม่ได้เพราะเมื่อคืนเขาก่อเรื่องเอาไว้มากเลยทีเดียว

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 34

    ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 34

    ขณะที่พี่ชายดีเด่นกำลังกลุ้มใจกับความเนื้อหอมของน้องสาว พ่อครัวผู้จุดกระแสข้าวกล่องก็กำลังยืนนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องอาหารบ้านอดาเนีย คิ้วที่ขมวดเป็นปมกับสีหน้าหนักใจของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังจะออกไปทำงานชะงักฝีเท้าแล้วหันเหทิศทางที่ก้าวเดินไปยังห้องอาหารแทน“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“ใกล้ถึงวันออกอากาศรายการใหม่ที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้โจทย์อะไรดี” รายการของไอเดนนั้นเป็นรายการสดดังนั้นอาหารที่ทำควรเป็นอะไรที่ใช้เวลาไม่นาน หรือสามารถใช้อุปกรณ์ครัวอันล้ำสมัยย่นระยะเวลาได้ ไลลาบอกว่าในการออกอากาศครั้งแรกอยากให้ชายเป็นผู้มอบโจทย์ด้วยตัวเอง ดังนั้นชายจึงตั้งใจมากกับการเลือกเมนูในครั้งนี้“คุณมีตัวเลือกในใจหรือเปล่า?”“ของคาวมีข้าวผัด พาสตาผัด กับ ไข่ตุ๋น แล้วก็พวกของหวานอย่างพุดดิ้ง ฝอยทอง ทองหยอด ไม่ก็ไอศกรีม”“ไอศกรีมได้รับความนิยมพอตัว คุณเคยสอนทำเชอร์เบทไปแล้ว คราวนี้สอนทำไอศกรีมแบบอื่นบ้างสิ”“มันจะไม่จำเจไปใช่ไหม?”“ไม่หรอก กลับกันพ

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 33

    กระแสการทำอาหารเหลวแบบโบราณทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ในสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ไม่เพียงแต่มันจะเป็นการปฏิวัติรสชาติของอาหารเหลวที่หากไม่หวานจนแสบคอก็ขมจนหน้าบี้ให้กลายเป็นรสชาติกลมกล่อมพอดี แต่มันยังทำให้คนกลุ่มหนึ่งมองเห็นช่องทางทำกินใหม่ๆ อีกด้วย เพียงชั่วข้ามคืนก็มีร้านค้าอิสระเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาอาจไม่สามารถวางขายอาหารของตนกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติหรือซูเปอร์มาเก็ตได้ แต่ก็ยังสามารถทำการค้าตัวต่อตัวกันได้ ตราบใดที่เครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหารบอกว่าปลอดภัยความนิยมในการทำอาหารตลอดจนตลาดขายอาหารปรุงสุกที่คึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น ทำให้สามารถกล่าวได้ว่าความพยายามมากมายตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาของสถาบันวิจัยอาหารโบราณได้พ่ายแพ้ให้กับพ่อครัวตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างราบคาบแม้การทำอาหารจะเป็นที่นิยมมากขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีครัวเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีเงินซื้อ แต่เป็นเพราะไม่มีสถานที่ติดตั้งครัวต่างหากทุกวันนี้กว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ของประชากรทั้งสมาพันธรัฐอันโดรเมดาอาศัยอยู่ในรังผึ้ง มันคือห้องเช่าราคาประหยัดที่มีเพียงเตียงกับโต๊ะแบบพับได้ให้ใช้เท่านั้น แม้แต

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 32

    ท่ามกลางการรอคอยของใครหลายๆ คนในที่สุดชายก็เริ่มการถ่ายทอดสดช่วงบ่าย เขาจั่วหัวข้อเอาไว้ว่าเป็นการเตรียมชุดอาหารเย็น รายการวัตถุดิบตลอดจนอุปกรณ์ทั้งที่จะเป็นและแนะนำให้มีทั้งหมดถูกเขียนเอาไว้ในหน้าประกาศข่าวก่อนแล้วดังนั้นคนที่อยากทำตามย่อมมีความพร้อมเต็มที่“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ครัวคุณชาย วันนี้เราจะมาทำชุดอาหารเย็นสองแบบกันนะ และแน่นอนว่าผมมีสูตรอาหารโบราณที่คล้ายกับอาหารเหลวมาฝากทุกคนตามที่สัญญาไว้ด้วย” ชายกล่าวทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้ม“สูตรอาหารโบราณที่ใกล้เคียงอาหารเหลวมากที่สุดหากนับจากอาหารคาวแล้วก็น่าจะเป็นซุปนี่แหละ แต่อย่าเพิ่งคิดถึงซุปไข่หรืออื่นๆ ที่ผมเคยทำไปนะ ครั้งนี้จะเป็นซุปข้นที่ไม่ต้องเคี้ยวเลย ซุปข้นนี้จริงๆ ก็หลายสูตรทั้งซุปผักโขม ซุปแคร์รอต ซุปมันฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่วันนี้ผมจะเริ่มจากอะไรที่กินได้ง่ายอย่างฟักทอง” กล่าวแล้ววางมือลงบนฟักทองลูกโตที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์“ก่อนอื่นเลยคุณต้องล้างทำความสะอาดฟักทองให้ดี สมัยนี้ดีหน่อยฟักทองถูกปลูกแบบไร้ดินจึงสะอาดมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องพยายามขัดดินออกจากเป

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 31

    หลังจากจบการถ่ายทอดสดตอนเช้าชายก็รีบทำข้าวกล่องสำหรับพ่อลูกบ้านอดาเนีย แป้งตอติญาสำเร็จรูปซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อการค้าซันชายน์ถูกนำไปย่างบนกระทะพอให้เหลือง เสร็จแล้วก็นำมาห่อไส้ที่เตรียมไว้ ชายเลือกใช้สลัด เนื้อปู และไส้กรอกจึงไม่เสียเวลามานักในการเตรียม ตอนที่สามพ่อลูกอดาเนียจะออกจากบ้านข้าวกล่องทั้งสามใบก็เสร็จเรียบร้อย“ไม่เห็นคุณสอนวิธีทำของพวกนี้เลยนะ” นีลทักตอนที่รับข้าวกล่องมาถือไว้ ชายบอกเขาแล้วว่าข้างในกล่องเป็นอะไรท่านประธานจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสดีในการโฆษณาสินค้า เพราะตั้งแต่สินค้าชุดใหม่ออกวางขายมีลูกค้าหลายคนที่ซื้อสินค้าไปทั้งๆ ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน หากมองในแง่ดีพวกเขาก็ยังได้กำไร แต่หากมองอีกมุมหนึ่งยอดขายจากกระแสความนิยมเช่นนี้ไม่ได้ยั่งยืนเลย“ถ้าถ่ายทอดสดไปด้วยผมกลัวว่าจะทำไม่ทันน่ะ” ชายอธิบาย “แต่ผมตั้งใจว่าจะทำคลิปวิดีโอง่ายๆ ให้พอเห็นคอนเซ็ปของการทำเบอร์ริโต คิดว่าน่าจะจุดประกายไอเดียให้ใครหลายๆ คนได้นะ”“ใช้ครัวบ้านผมแล้วกัน คุณสั่งของผ่านพ่อบ้านได้เลยถือเสียว่าเป็นการโฆษณาสินค้าของเรา”

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 30

    ความพ่ายแพ้ต่อสถาบันวิจัยอาหารโบราณไม่ทำให้ชายรู้สึกแย่แต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยๆ มันก็ได้จุดกระแสความนิยมการกินเผ็ดและการกินขมขึ้นมาในหมู่ประชาชน นอกจากนี้มันก็ไม่ได้กระทบต่อกิจการของครัวคุณชายหรืออดาเนียกรุปด้วย กลับกันการออกอากาศที่ผ่านมานั้นทำให้ครัวคุณชายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรในสมาพันธรัฐอันโดรเมดารู้จักครัวคุณชาย ซึ่งนั่นนับเป็นจำนวนไม่น้อยเลย ส่วนความหนักใจเดียวของชายในตอนนี้ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องที่ผลิตสินค้าได้ไม่พอขาย‘ให้ตายสิ จำนวนผู้บริโภคต่างจากโลกเก่าลิบลับเลย’ พ่อครัวหนุ่มคิดขณะมองตัวเลขที่ต่อท้ายด้วยหน่วย “แสนล้านล้าน” ในรายงานคำร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องสินค้าขาดตลาด มันเป็นตัวเลขที่มากเสียจนเขาจินตนาการภาพไม่ออกเลย‘เอาเป็นว่าช่วงขาขึ้นก็รีบโกยก่อนแล้วกัน พอความนิยมเริ่มซาก็ค่อยลดอัตราการผลิต’ สุดท้ายมนุษย์โบราณก็ตัดสินใจง่ายๆ และหลังจากปัดปัญหาเรื่องของไม่พอขายไปได้แล้วเขาก็มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้าและข้าวกล่องของบ้านอดาเนียแทน“จำได้ว่าที่ห้องนั้นยั

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 29

    การแข่งขันทำอาหารระหว่างครัวคุณชายกับสถาบันวิจัยอาหารโบราณเป็นที่จับตามองมาตั้งแต่แรก เมื่อถึงช่วงของการตัดสินที่นักวิจารณ์อาหารชื่อดังตลอดจนนักวิชาการด้านอาหารที่มีชื่อเสียงจำนวนผู้ชมก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐอดาเนีย จำนวนผู้ชมเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้วคิดเป็นเกือบร้อยละเจ็ดสิบ แทบจะเท่ากับการประชุมกำหนดแผนนโยบายประจำปีเลยทีเดียวหนึ่งในคณะกรรมการคือ แลนดอน หลี่ นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง เขาเป็นนักชิมกลุ่มแรกๆ ที่ได้กินไข่ตุ๋นครัวคุณชาย และตอนนี้เขาก็แทบจะอดใจรอที่จะได้ชิมอาหารปรุงสุกฝีมือพ่อครัวคนดังไม่ไหวแล้ว แต่น่าเสียดายที่อาหารของชายต้องใช้เวลาในการจัดส่ง ดังนั้นคณะกรรมการทั้งสามคนจะได้ชิมอาหารของเชฟรูดอล์ฟกันก่อน“จานแรกของผมมีชื่อว่า ‘พันบุปผา’ เป็นการจำลองทุ่งดอกไม้มาไว้บนจานหนึ่งใบ คุณจะได้สัมผัสทุ่งดอกไม้ที่เริ่มแย้มบานด้วยตัวของคุณเอง เพียงเปิดฝาครอบออกเท่านั้น” พ่อครัวเผ่าลีฟผู้มีผิวกายและสีผมคล้ายพฤกษาต้นหนึ่งกล่าวนำเสนอผลงานของตน เขาจงใจเริ่มมื้ออาหารด้วยดอกไม้นานาพันธุ์อันสื่อถึงพื้นเพของตนกรรมการทั้งสามสี

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   บทที่ 28

    เนื่องจากตัดสินใจว่าจะชงกาแฟใส่ขิงชายจึงต้องสั่งเมล็ดกาแฟจากทางรายการมาเพิ่ม แน่นอนว่าการจัดส่งจากซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นรวดเร็วมาก ทว่าชายก็ไม่ได้รีบร้อนนำมาใช้เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้อบคุกกี้เลย นอกจากนี้เขาก็ลืมทำของหวานอีกอย่างที่ควรจะเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างไอศกรีมด้วย“ผลไม้...เอาเป็นอะไรดีนะ?” ชายพึมพำพลางนึกว่าอะไรที่กินคู่กับพริกเกลือแล้วอร่อยบ้าง รายการผักผลไม้มากมายพลันผุดขึ้นมาจนเลือกไม่ถูก เพราะโดยพื้นฐานแล้วผลไม้รสเปรี้ยวไม่ว่าชนิดไหนพอกินกับพริกเกลือก็อร่อยทั้งนั้น แม้แต่ผลไม้หวานๆ เองก็กินกับพริกเกลือได้เช่นกันหลังจากชั่งใจอยู่พักหนึ่งชายก็หยิบสับปะรด ราสเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เลมอน มะม่วงสุก เสาวรส และแตงโมออกมาจากลังวัตถุดิบ ผลไม้ทั้งหมดถูกล้างทำความสะอาดอย่างดี พวกเบอร์รีนั้นแค่ล้างและตัดขั้วออกก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนที่เหลือยังต้องปอกเปลือกและหั่นให้เรียบร้อยเสียก่อน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาชายจึงเอาเบอร์รีทั้งหมดไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็งพิเศษการแช่แข็งผลไม้แบบนี้เป็นวิธีประหยัดเวลาที่เขาเรียนรู้มาระหว่างที่ต้องรับผิดชอบขนมในงาน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status