“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”
ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่
ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิว
ในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้น
บ้านเสิ่น
“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”
“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”
“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”
เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร
“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้ง
ป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ
ในขณะเดียวกัน
“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”
ร่างสูงของฟ่านหงเหวิน ยืนเหม่อมองออกนอกหน้าต่างแต่เอ่ยคำพูดเฉียบขาดจนท่านกวงจำต้องยอมจำนน
“ขอรับคุณชาย”
ตอบรับง่ายดายราวกับว่าหงเหวินคือคนที่ต้องย่ำเกรงกว่าบิดามารดาเสียอีก
“ท่านช่วยข้า ในครั้งนี้ การซื้อขายระหว่างเราเป็นท่านที่ข้ายอมให้ผูกขาดการขายชาดีของแคว้นฉีที่บ้านฟ่านขนเข้ามาที่นี่ทั้งหมด”
ท่านเกายิ้ม ประสานมือตรงหน้า
“ขอบคุณคุณชายอย่างยิ่งข้าน้อยยินดีรับใช้”
หงเหวินเอามือไพล่หลังเดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย คุ้นเคยกับการที่เป็นผู้กุมอำนาจทั้งปวง
บ้านเสิ่น
“คุณหนูเจ้าขา หญิงนางหนึ่งท่าที แปลกประหลาดราวกับคนในหอคณิกามาขอพบคุณหนูเจ้าค่ะ”
เปาหลิวลุกขึ้น ก้าวเดินยังห้องรับรองแขก
“คุณหนูเสิ่น”
ผู่หยงกล่าวทักทาย อดชื่นชมใบหน้าที่แสนจะงดงามแล้วเรือนร่างยังงดงาม ไม่แพ้กัน อกอูมอวบอิ่มดันผ้าแพรบางเบาออกมาเสียแทบจะล้นทะลัก ไล่มาถึงช่วงเอวกลับคอดกิ่ว สะโพกที่ก้มกลึง จนหญิงที่พบเห็นหญิงงามมากเช่นผู่หยงอดที่จะกลืนน้ำลายลงคอเสียไม่ได้
“ท่านน้ามีเรื่องใดกัน”
“คุณหนูอยากได้ทองสี่พันชั่งหรือไม่”ไม่อ้อมค้อม
“ท่านน้าหมายความว่าอย่างไร”
“ครั้งเดียว คืนเดียว พอเช้าก็รับทองสี่พันชั่งไปสบายๆ ไม่มีผูกมัดไม่มีเงื่อนไขอื่นใด มีใต้เท้าท่านหนึ่งต้องการตัวคุณหนู อยากเป็นคนแรกของคุณหนู ..แค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น”
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี ลุงกวงยิ้ม บางๆ“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วันเปาหลิวยิ้มเศร้าๆ“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน”“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยน
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิวที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้” หงเหวินปลดสายรัดเอวออกค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ เปาหลิวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หงเหวินกับใช้มือสองข้างดันขาเนียนให้แยกออกจากกันกดบั้นเอวลงไปเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความคับแ
“สำเร็จหรือไม่”หงเหวินเอ่ยปากถาม ลุงกวงเบาๆ ซีหยินยกจอกน้ำชายื่นส่งให้ตรงหน้าหงเหวินรับมาจิบช้าๆ“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชาย”“นางจะย้ายเข้าเมื่อไหร่กัน”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในใจตื่นเต้นไม่น้อย“ข้าน้อยได้ยินว่า จะย้ายเข้าไปทันที”“สามีชราของนางคงเสียดายแย่ นางเองก็คงเอือมสามีชราที่ไร้น้ำยาจึงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเผื่อว่าจะ มีบุรุษโง่งมสักคนหลงเข้าไป”ซีหยินย่อกายเดินออกจากห้องไป“คุณชาย ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำถึงเพียงนี้ บ้านหลังนั้นราคาไม่ถูกนักคุณชายกับไม่ยอมขายมัน แต่ยกให้ฮูหยินตู้เสียเปล่าๆ ”“ท่านลุงอย่ารู้เลย ข้ามีบางอย่างต้องสะสางกับนาง”หนึ่งปีก่อน“ คุณหนูเสิ่น แต่งเข้าบ้านตู้ในตำแหน่งฮูหยินที่สี่”ฟ่านหงเหวินยิ้มหยัน แม้จะรู้สึกเสียดายรสสวาทที่ฉ่ำหวานของเปาหลิว นางกับแก้เผ็ดเขาโดยการทอดกายให้กับใต้เท้าตู้ ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับบิดา ไม่รับทองคำที่เขาส่งไปยังบ้านเสิ่นคนที่นำทองคำไปที่บ้านเสิ่นบอกว่าพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวของและผู้คนหายไปจากบ้านเสิ่นไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่นานจึงได้ข่าวนางแต่งเข้าบ้านตู้ ตาแก่ตู้นั่นดีกว่าเขาตรงไหน ลีลาบนแท่นนอนดีกว่าเขาหร
“ตาแก่นั่นคงไร้น้ำยา ดูรึยังคับแน่นอยู่เหมือนเดิม”“หยาบคาย”สายคาดเอวมัดอีกคนติดกับแท่นนอนรอยยิ้ม ยียวนภายใต้เแสงไฟ“มารื้อฟื้นความหลังกัน” แหวกชายกระโปรงออกช้าๆ กดศีรษะลงไปลิ้นอุ่นซอกซอนที่กลีบบุปผาใช้ลิ้นอุ่นวน รอบๆ กระดกลิ้นรัวเร็วตรงกลางกลีบบุปผาจนเปาหลิวดิ้นพล่าน“ปล่อยข้านะ”“คนตาบอดยังรู้ว่าเจ้าเองก็ติดใจรสสวาทของข้า”“ไม่มีทาง”ลิ้นอุ่นยังซอกซอนกระดกเลีย จนน้ำหวานจากบุปผาฉ่ำเยิ้ม“อย่าปฏิเสธเลย เจ้าเองก็อยากให้ข้าทำแบบนี้”กดริมฝีปากลงบนปากบางบดเบียดเร่าร้อน เปาหลิวดิ้นรนเอาตัวรอด อุตส่าห์แต่งเข้าบ้านตู้ยังหนีไปไม่พ้นคนผู้นี้เอวหนากดลงบนกลีบบุปผาฉ่ำเยิ้มแต่คับแน่น“เห็นไหมแค่ทีสองทีก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ ข้ายินดีทุ้มเงินซื้อตัวเจ้าจากตาแก้ตู้นั่นคืน”“หยาบช้าไปให้พ้น ข้าเกลียดท่านท่านมันก็แค่คนมักมากปล่อยข้า”“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า ให้ข้าเชยชมอีกสักทีบางที เจ้าอาจติดใจ อย่าทำหยิ่งนัก ทองของข้าเจ้าก็ไม่ยอมรับหนีมาแต่งกับตาแก่นี่”“ข้าเกลียดท่าน ข้าไม่มีทางจะยอมญาติดีกับท่าน ท่านทำลายข้าแล้วทำให้ข้าอับอายแล้ว สมใจท่านแล้ว ยังจะตามรังควานข้าทำไมกั
“คุณหนูเจ้าขา คุณชายตู้ชวนซา อยากดื่มนมแล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาพาร่างจ่ำม่ำเข้าในบ้านเสิ่นที่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยเพราะเพิ่งจะขนของเข้ามาเปาหลิวเปิดเสื้อขึ้นให้นมทารกน้อยที่เพิ่งจะอยู่ในวัยสี่เดือนอ้วนจ่ำม่ำน่าเอ็นดู ส่งเสียงอ้อแอ้ ตากลมจ้องมองใบหน้าของเปาหลิวเปาหลิวก้มลงจุมพิตที่แก้มเบาๆ ร่างอ้วนดื่มนมอย่างหิวกระหาย“ลูกแม่” ดวงตากลมนั้นไม่อาจปฏิเสธว่าเปาหลิวหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ น้ำตาไหลรินเมื่อเห็นหน้าเขาในครั้งแรก ท่านตู้ร้อนรนอยู่ด้านนอก พอเห็นว่าคลอดออกมาเป็นทารกเพศชายท่านตู้ถึงกับจัดงานเลี้ยงเปิดตัวตู้ชวนซา เคยคิดว่าจะเกลียดเขาแต่เปาหลิวเมื่อเห็นดวงหน้าอ้วนป้อมก็อดที่จะหลงรักเสียไม่ได้ ใบหน้าอ้วนคิ้วดกหนาละม้ายฟ่านหงเหวินอย่างปฏิเสธไม่ได้เปาหลิวหวนคิดถึงอดีตที่มีทั้งสุขทุกข์ปะปนยิ้มให้กับความสุขแต่ความทุกข์ก็ไม่ลืมว่าเคยเกิดขึ้นก่อนจะส่งร่างอ้วนให้กับ ป้าเหยา“คุณหนูเจ้าขาท่านตู้จะแวะมาทานข้าวที่นี่วันพรุ่งนี้คุณหนูจะต้องให้เตรียมอะไรบ้าง”ป้าเหยาเอ่ยปาก“ท่านตู้ไม่ได้มากเรื่อง แค่แวะมาเล่นกับชวนซา คงคิดถึงเจ้าตัวอ้วนไม่น้อย ข้ามาอยู่ที่นี่สองวันแล้ว”“ท่านตู้ตามใจคุณหนูยิ่งนัก
“ลูก แวะไปหานางที่หอนางโลมได้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพาตัวเองมาถึงนี่ นางเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ลูกติดใจอะไรหนักหนา แค่เพียงครั้งสองครั้งก็พอ”ซีหยินสะอื้นเบาๆ“หงเหวินจะมากไปแล้ว”“ท่านแม่ ข้าไม่รับนางในฐานะเมีย อยากจะไล่นางเสียเดี๋ยวนี้”ซีหยินหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้น หงเยว่ส่ายหน้าไปมา“เจ้ามีหญิงที่หมายปองหรือไร หงเหวินบอกแม่มาหากเป็นเช่นนั้นข้าจะสู่ขอคนที่เจ้าหมายปองให้นางอยู่ในฐานะฮูหยินรอง อย่างน้อยนางก็น่าสงสาร”หงเหวินทำสีหน้าเรียบเฉย“ไม่มี ข้าไม่มีหญิงใดหมายปอง”ใจกลับคิดถึงเปาหลิวแต่ภาพความทรงจำที่ถูกนางปฏิเสธและเรื่องที่นางไม่เลือกเขาทั้งๆ ที่เป็นของเขาแล้วกลับไปเลือกชายชราคราวพ่อมาเป็นสามียิ่งทำให้ หงเหวินเจ็บแค้น“หรือจะให้แม่สู่ขอลูกสาวบ้านไหน”“ไม่ต้อง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น…”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ มารดาถอนหายใจยาวจ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปยังห้องทำงาน ซีหยิน ในร่างไร้อาภรณ์ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดจากทางด้านหลัง“ทำแบบนี้คิดว่าจะผูกใจข้าได้หรือ”“แค่คุณชายเมตตา”หงเหวินผลักร่างเล็กลงบนพื้น ไม่รอช้าบดจูบเร่าร้อน ซีหยินครางกระเส่า“เจ้ามันก็เหมาะแค่นางบำเรอ หญิงพิสุทธิ์น่าหลงใหลกว
แขกทั้งหลายเข้าไปในงานกันจนหมดแล้วเปาหลิวเดินกลับออกมาในงานที่เป็นห้องกว้างจัดโต๊ะอาหารไว้เป็นชุดนั่งดื่มกินแต่ที่มุมห้องนั้น หงเหวินกลับคว้ามือบางไว้“ลืม รสสวาทกันได้ลงคอ เจ้าคลอดลูกแล้วอยากจะลองเล่นรักกันดูอีกสักครั้งไหม”“หยาบช้าที่สุดข้าเกลียดท่านที่สุด ไปให้พ้นไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย”“ฮ่าาาาจะร้องต้องร้องครางด้วยไหม”ประกบริมฝีปากกับปากบางไว้เสีย กอดรัดดันร่างบางชิดมุมห้องไว้แน่น คนที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยร่างบางถูกบังไว้จนสิ้น“ปล่อยนะ” ขมเม้มริมฝีปากรสจูบยังติดตรึงใจไม่เปลี่ยน“อือกำลังสนุกจะปล่อยได้อย่างไร"บดเบียดริมฝีปากแน่นเปาหลิวกัดลิ้นอุ่นอย่างจัง“โอ๊ะ เจ้าอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะยอมแพ้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”ผละออกจากร่างบางของเปาหลิวที่วิ่งแน่บเข้าไปในงานฟ่านหงเหวินสบถเบาๆบรรยากาศในงานครึกครื้น ดื่มกินกันจนพอใจ ฟ่านหงเหวินเดินโซเซไปมา ดื่มไปไม่น้อย แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่เปาหลิวตลอดเวลาท่านตู้เดินขึ้นไปบนเวที ที่จัดไว้สำหรับนางงามมาร่ายรำและดนตรีขับกล่อม“ วันนี้วันมงคล ครบ72ปีของข้า อี้ซาเดินทางมาถึงแล้วในตอนนี้ อี้ซาขึ้นมานี่”อี้ซา ก้าวขายาวๆ
“โครมมมมม”ฟ่านหงเหวินกวาดข้าวของบนโต๊ะร่วงเกลื่อนพื้น ซีหยินวิ่งหน้าตื่นเข้ามา“คุณชาย”“ออกไปออกไปให้พ้นกลับไปที่หอนางโลมเจ้าเสีย ไปให้พ้น”ตวาดเสียงดังลั่น แต่ซีหยินกลับตรงเข้ากอดรอบเอวหนาไว้แน่น“คุณชายอย่าทำแบบนี้” ทุบมือลงบนโต๊ะอย่างแรง“บอกข้ามารสสวาทของข้าแย่เพียงนั้น ข้าไม่น่าตรึงใจเพียงนั้นหรือ”“ไม่เจ้าค่ะคุณชาย ไม่เป็นอย่างนั้นเลยคุณชายดีที่สุด ถึงใจที่สุด”“ไม่จริง ไม่จริงนั่นมันลูกของข้า ลูกข้ากับนางแต่นางไม่เอ่ยปากสักคำ เจ็บใจนักนั่นมันลูกของข้า นางจะต้องรับผิดชอบในเมื่อนั่นมันลูกของข้า”พูดรัวเร็วด้วยความรู้สึกทั้งหมดในใจ เขย่าร่างเล็กของซีหยินจนหัวสั่นหัวคลอน“นางจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดเพียงคนเดียวนางจะต้องรับผิดเพียงคนเดียว”ตวาดดังลั่น ซีหยินหูอื้อตาลาย ความเจ็บซ้ำแล่นเข้าสู้หัวใจทุกวันนี้ที่ทนอยู่เพราะตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไร ฟ่านหงเหวินก็จะกลับมาตายรัง ไม่ว่าอย่างไรซีหยินก็ยังเดินเข้าออกในบ้านฟ่าน อีกทั้งหงเยว่มารดาของหงเหวินเองก็เอ็นดูซีหยินไม่น้อย สักวันหงเหวินจะต้องยอมใจอ่อน แล้วสักวันหากมีลูก“ข้าสัญญาจะทำให้นางต้องคุกเข่าขอร้องข้า”บ้านตู้เปาหลิว นั่งอยู่บนโต๊ะ
ด่านชายแดนร่างสูงของ ตู้อี้ซาก้าวขายาวๆ ยังค่าย ผู้ใช้แรงงานด่านชายแดน“ฟ่านหงเหวิน”ร่างผอมบางนอน อยู่แคร่ไม้ไผ่ ซูบผอมจนอี้ซาจำแทบไม่ได้เนื้อตัวมีแต่รอยแผลผุพองและรอยเลือดแห้งเกราะกรัง“อะอะอะ อี้ซา”“ข้า นำเงินมาไถ่ตัวท่าน อีกอย่างตอนนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีฮ่องเต้ไม่มีไท่จือทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันแล้ว ต่างชาติเข้ามาปกครองต้าชิงของเราจนสิ้น ฟ่านหงเหวินยิ้มเศร้าๆ“คงไม่ทันแล้วข้า คงไม่อาจกลับไปที่นั่น มิใช่แค่ไม่กล้าสู้หน้าเปาหลิวหากแต่แม้แต่ขยับกายข้ายังไม่อาจกระทำ ข้าทรมานเหลือเกินอี้ซาพูดกับนางแทนข้า บอกนางว่าข้าขอโทษ แค่กกก”เสียงหายใจหอบเหนื่อยอี้ซาลุกขึ้นมาชะโงกด้านหน้า“ใครก็ได้ตามท่านหมอข้ามีเงินทองมากมายตามท่านหมอมาตรวจดูอาการเขาที”คนติดตามมาประสานมือ“ท่านตู้ที่นี่ไร้หมอ อีกอย่าง”กระซิบข้างหูตู้อี้ซาเบาๆตู้อี้ซาหลับตาลงช้าๆ“มีเวลาอีกนานแค่ไหน”“อีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามขอรับ ตอนนี้คุณชายฟ่านกระอักเลือดสดๆ ออกมาตั้งแต่เมื่อวาน นี่ก็ถือว่ามีความอดทนที่สุดแล้ว คงเพื่อรอพบท่านตู้คุณชายฟ่านจึงยังอยู่ถึงตอนนี้”“แค่กๆๆๆ ”ข้าจะพาเขากลับต้าชิงพวกเจ้าหาเกี้ยวและคนเพื่อพาคุณชา
ดวงตาเบิกโพลง พ่นเลือดสดๆ ออกมาก่อนที่วิญญาณจะหลุดออกจากร่าง“ถอยไปถอยไป”ผู้คุมใช้ทวนในมือกันให้หงเหวินถอยห่างออกไป“ตายเสียแล้ว ขอรับนายท่าน”“เอาไปเผา ตอนนี้กำลังเกิดโรคระบาด เผาให้สิ้นซาก”หงเหวินทอดถอนใจเขตวังหลวงต้าชิง“นายหญิงเจ้าขา คุณชายน้อย กับท่านตู้กลับมาจากบ้านตู้แล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาเอ่ยปากเบาๆ เมื่อเห็นว่าเปาหลิวนั่งเหม่อมองไปไกล“ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับคุณชายด้วย อากาศข้างนอกหนาวเหน็บ ท่านตู้ตามใจคุณชายให้ออกไปตกปลาประจำ”“ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีน่าชื่นใจยิ่งนัก”“ป้าเหยา ข้าได้ยินว่าเกิดโรคระบาดด่านชายแดน”ป้าเหยายิ้มบางๆ“นายหญิงเจ้าขา อย่าห่วงเลยเจ้าค่ะโรคระบาดไม่มาถึงนี่”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆก่อนหน้านั้น“ เจ้าควรอภัยให้ฟ่านหงเหวินได้แล้ว เขารับกรรมที่ก่อไปแล้ว ต่อไปไม่แน่ว่าจะได้พบหน้ากันอีกหรือไม่ เขาฝากให้ข้าอี้ซาดูแลเจ้า แต่ทว่า เมื่อเจ้ายืนยันที่จะไม่แต่งกับข้าทางเดียวที่ทำได้คือ เราสองคนอยู่กันแบบสหายข้าสัญญาไม่มีทางทอดทิ้งโดดเดี่ยวเจ้า เงินทองที่เคยให้ก็ยังจุนเจือเหมือนเดิมที่ท่านพ่อเคยทำอย่างไรก็ยังอย่างนั้นเพราะเจ้าช่วยบ้านตู้ได้ไม่น้อยตอนนี้กิจการของบ้านตู้เป็น
“นี่เจ้า ตู้อี้ซาจะมากไปแล้วข้าเป็นถึงไท่จืออีกอย่างข้ากับฟงหงเหวินก็มีความสัมพันธ์อันดี ข้าจะให้ร้ายเขาได้อย่างไร”ตู้อี้ซายิ้มหยันหาได้รู้สึกหวาดกลัวในบารมีของฟงกัวไม่“ข้าได้ยินว่า ไท่จือยึดทรัพย์ของบ้านฟ่าน เป็นของตัวเองขับไล่มารดาของฟ่านหงเหวินออกจากแคว้นทรัพย์สินของบ้านฟ่านมีไม่น้อย แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วยังถึงกับจะตัดรากถอนโคนเชียวหรือ”ฮ่องเต้ชราโบกมือห้าม เพราะกลัวว่าไท่จือจะถูกเปิดโปงมากไปกว่านี้และจะทำให้ความศรัทธาลดน้อยลงไปฮ่องเต้ชราก้มลงกระซิบกับขันทีข้างกายที่ก้าวออกมายืนข้างหน้า“ละเว้นโทษตาย เนรเทศออกจากต้าชิง ให้ใช้แรงงานยังด่านชายแดน ส่วนทรัพย์สินที่ยึดไว้ส่งเข้าคลังหลวงทำนุบำรุงต้าชิงเสีย”อี้ซา ส่ายหน้าไปมา อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตของฟ่านหงเหวินไว้ได้หากเป็นก่อนนั้นคงถูกประหารทั้งๆ ที่ยังไม่ทันไต่สวนเดินไปข้างๆ ร่างผอมโซของฟ่านหงเหวินใบหน้าซีดเซียวหมดความองอาจที่ถูกจำกัดอิสรภาพโดยโซ่ตรวน“ข้าช่วยท่านได้แค่นี้จริงๆ คุณชายฟ่านขอให้ท่านโชคดี”“ข้า ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากด่านชายแดนได้หรือไม่ ข้า ..หวังเพียงว่านางจะอภัยให้ข้าและนางกับลูกของข้าจะมีความสุข อี้ซาดูแลน
ท้องพระโรง ฟ่านหงเหวินถูกคุมตัวมา ยังหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ขุนนางที่บ้านฟ่านเคยเกื้อหนุน ต่างถอนหายใจไม่อาจช่วยเหลือท่านตู้กับตู้อี้ซาสวมอาภรณ์แบบตะวันตก ท่านตู้ถือไม้เท้าพยุงตัวเหมือนแบบที่สมัยนิยม (ปีค.ศ1800ก่อนสงครามฝิ่น) ส่วนตู้อี้ซาสวมแว่นสายตาในมือถือไปป์“ตู้อ้ายซา ตู้อี้ซา ถวายพระพรฝ่าบาท”ฮ่องเต้ชราโบกมือให้ ทั้งสองคนลุกขึ้น ฟงกัวขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่พอใจ“ข้าน้อยสองคนเข้ามาฟังคำไต่สวน ความผิดของคุณชายฟ่านหงเหวิน” ฮ่องเต้ชรากระซิบกับขันทีชราข้างกายด้วยจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครคือฟ่านหงเหวินโบกมือให้ขันทีจีบปากจีบคอพูดแทน“ฟ่านหงเหวิน ความผิดลบหลู่เบื้องสูง กล้าส่งหญิงงามที่ด่างพร้อยมีรอยมลทินให้กับไท่จือประมุขตำหนักบูรพาด้วยหวังผลประโยชน์ในการส่งวัตถุดิบสำหรับห้องเครื่องเข้ามาในวังหลวงผูกขาดเพียงเจ้าเดียวมีความผิดมหันต์สมควรได้รับโทษตาย ประหารเจ็ดชั่วโครต แต่ด้วยพระบารมีและพระเมตตา จึงลดโทษให้แค่เพียงประหารตัวคนผิด คือฟ่านหงเหวินผู้ที่ทำการหลบลู่เบื้องสูงเท่านั้น”อี้ซา ยกไปป์ขึ้นจรดปากสูดควันเข้าไปเต็มปอดพ่นออกมาหนักหน่วง ไม่ได้สนใจสายตาของฮ่องเต้ ไท่จือหรือเหล่านางในที
“ทะทะไท่จือโปรดอภัยหรูหรานไม่ได้เป็นคนที่คิดจะหลอกลวงเบื้องสูง ตะตะแต่เป็นคุณชายฟ่าน ที่ ที่แอบพรากพรหมจรรย์ของข้าไปเสียก่อน” ฟงกัวยิ้มเย็น กระบี่ในมือเสียบเข้าที่ยอดอกของหรูหรานอย่างจัง“เลวที่สุดพวกเจ้ากล้า หลอกลวงเบื้องสูงกล้าหลอกลวงข้าคิดว่าข้าเป็นตัวตลกหรือไร”เช็ดรอยเลือดที่คมกระบี่ ก่อนจะก้าวขาจากไป“องครักษ์ส่งคนคุมตัวฟ่านหงเหวินมาที่ ตำหนักบูรพาข้าจะฆ่าเขาเสีย”กัดฟันจนเป็นสันนูน มิใช่แค่การเลี้ยงดูแต่ด้วยสันดานเดิมของ ฟงกัวที่ไม่เคยยอมใคร เขาจึงไม่ยอมให้ใครมาลูบคมได้ง่ายดายฟ่านหงเหวิน ป่านนี้คงเย้ยหยันที่เขา กินเศษเดนที่ฟ่านหงเหวินหยิบยื่นมาให้ฟ่านหงเหวิน กดริมฝีปากของกับปากบางของ เปาหลิวส่งต่อลมหายใจแบกร่างเล็กขึ้นบ่าวิ่งวนไปรอบๆ อี้ซาได้แต่ถอนหายใจ“แค่กๆๆๆ ”เปาหลิวส่งเสียงไอออกมาเบาๆ“คุณชายฟ่าน พานางไปที่ร้านหมอจะดีกว่า”อี้ซาเอ่ยปาก เมื่อเห็นว่าฟ่านหงเหวินทำอะไรไม่ถูก ด้วยความห่วงใยเปาหลิวฟ่านหงเหวินรีบอุ้มร่างบางของเปาหลิวยังร้านหมอแต่ไม่ทันจะก้าวเข้าไปในร้านหมอ ทหารนับสิบต่างวิ่งเข้ามารายล้อมรอบตัว“เกิดอะไรขึ้น”หงเหวินถามด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ“ฟ่านหงเหวินหลอกลวงเ
“ข้า ปักใจกับฟงหงเหวินก่อนที่จะถวายตัว เป็นฝ่าบาทที่ฝืนใจข้า และเป็นนางที่แย่งชิงเขาไป ข้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาใกล้ชิดข้า แม้ว่าเขาจะไม่มีใจให้ข้าก็ตาม”ฟงหงเหวินยิ้มหยันอี้ซายิ้มเศร้าเจ็บปวดใจอย่างที่สุดคำหวานของเปาหลิวที่ผ่านมา วนเวียนในหู นางล่อหลอกจนเขาตายใจเพื่อให้ฟงหงเหวินเข้ามาในวังหลวงอย่างแนบเนียน“เจ้ามีใจให้ฟงหงเหวินอย่างนั้นหรือ”“ข้ารักพี่ฟงรักเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยรักหลิวหลิวคนนี้ก็ตาม เราสองคนไม่ควรต้องจากกัน เราสองคนไม่ควรต้องหลบซ่อน”เสียงแหบพร่า ฟงหงเหวินตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน“เจ้า เลือกเขาใช่ไหม เปาหลิวเจ้าเลือกฟงหงเหวิน ไม่เสียใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใช่ไหมฮองเฮา”ฟงหงเหวินเองก็เจ็บที่ใจภาพความทรงจำที่ร่างเล็กของหลิวหลิววิ่งตามเขายามเยาว์วัยยังติดอยู่ในใจเปาหลิวก้มหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดเหมือนเป็นการตอบรับอี้ซายิ้มหยันชักกระบี่ข้างกายองครักษ์หมายจะเสียบคมกระบี่เข้าที่อกกว้างของฟงหงเหวินที่ถูกองครักษ์จับตัวไว้เสียให้ตายลงบัดนั้นทว่า“ฝ่าบาทอย่า”เปาหลิวถลาเข้าไปขวางคมกระบี่ที่คมกริบ ด้วยแรงโทสะคมกระบี่ในมือของอี้ซาเสียบทะลุอกขาวของเปาหลิวเลือดสีแดงไหลทะลักซ
เปาหลิวนิ่งงันหนึ่งปีผ่านไปไม่มีคืนไหนที่ไม่ร่วมรักกันแต่ทว่าก็ไม่เคยตั้งครรภ์ใครกันที่ร่างกายมีปัญหาเปาหลิวหรือว่าอี้ซา"รอให้เปาหลิวหายาบำรุงร่างกายที่ดีเพื่อเตรียมพร้อม แต่ฝ่าบาทแน่ใจหรือว่าหากเปาหลิวตั้งครรภ์แล้วฝ่าบาทจะจะไม่ปันใจให้หญิงอื่น”"ไม่มีทางข้าสัญญาให้ข้าตายลงตรงหน้าก็จะรักเจ้าตลอดไป"เปาหลิวยิ้มกับคำสาบานซีหยินยกถาดชาเข้ามาอี้ซามองตามสะโพกกลมกลึงกับรู้สึก กระสันขึ้นมาในทันทีหยุดนิ่งไม่ยอมสางผมให้กับเปาหลิว ที่ลอบมองอี้ซาผ่านบานกระจก"คืนนี้เปาหลิวรอฝ่าบาท ไม่ต้องส่งอาภรณ์ไปฝ่าบาทรู้แล้วเช่นนี้ต้องมาเพราะเปาหลิวไม่อาจรอได้นานๆ อากาศหนาวหากให้รอนานจะบั่นทอนหัวใจ"อี้ซายังนิ่งมองเสี้ยวหน้าและอกอิ่มของซีหยินที่ดันเสื้ออกมาคิดถึงร่างเปลือยเปล่าในน้ำอุ่นที่เขาเสพสมเมื่อไม่นานผ่านมาเปาหลิวยิ้มมุมปาก อยากจะให้อี้ซาหลงใหลซีหยินบัดนี้ได้ดั่งใจแล้วส่วนเปาหลิวก็แค่รอว่าหงเหวินจะเจ็บช้ำแล้วหันมามองเปาหลิวบ้างก็เท่านั้นค่ำคืนมืดมิดนางกำนัลเตรียมน้ำอุ่นใส่ผงหอมดอกไม้ในอ่างใหญ่ที่ทำขึ้นสำหรับเปาหลิวในตำหนักชิงหนิงกงเพื่อให้นางสำราญกับการแช่น้ำอุ่นที่นางชอบ ปลดอาภรณ์ออกจนเหลือเพียงร่
"พี่ฟงท่าน ช่วยข้าแก้แค้นนาง ช่วยข้า ข้าเกลียดนาง"สะอื้นกับอกกว้างราวว่าน้ำตาที่หลั่งรินนั้นยิ่งมากเท่าไหร่ฟงเหวินยิ่งต้องรับผิดชอบในความแค้นของซีหยิน"ให้ข้าทำอย่างไร"ซีหยินปาดน้ำตา"ท่าน ช่วยให้ฝ่าบาทโปรดปรานข้าแล้วลืมเลือนนางไปเสีย"หงเหวินนิ่งงันคลายอ้อมกอดออกช้าๆเหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าซีหยินคือคนของอี้ซาไปแล้ว"พี่ฟงได้โปรด"เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นแต่หงเหวินกลับเบี่ยงตัวหลบเสีย"เจ้าเป็นคนของฝ่าบาทแล้ว โปรดปรานหรือไม่ข้าไม่อาจช่วยได้ อย่าทำแบบนี้อีกส่วนเรื่องของเจ้าข้าสัญญาจะพูดกับฮองเฮาทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ. .ยอม..เป็นคนของฝ่าบาท เจ้าไม่ได้ต้องการจะแก้แค้นนางแต่เจ้าต้องการที่จะเป็นที่โปรดปรานซีหยินบอกข้ามาตามตรงเจ้า ยินดีที่เป็นคนของฝ่าบาทใช่หรือไม่” ซีหยินก้มหน้า“พี่ฟง ข้า ข้าข้าไม่อาจปฏิเสธว่าข้า แอบชื่นชมฝ่าบาทเมื่อครั้งที่เข้ามาที่นี่แต่ พี่ฟงนาง ทำให้ข้าต้องเป็นของฝ่าบาทง่ายดาย แล้วๆๆๆ ฝ่าบาทก็ยัง มีนางในใจไม่เหลียวแลข้าทั้งๆ ที่เพิ่งจะพรากพรหมจรรย์ของข้าไป”“เจ้าแค้นเคืองฝ่าบาทริษยานาง ซีหยิน เดิมเจ้าไม่ใช่คนแบบนี้ ซีหยินเจ้าลองตรองดูว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่”"
อ้อมแขนแข็งแรงของอี้ซาลูบไล้ร่างเปลือยก่อนรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน“ปะปปล่อยเพคะ”“ข้ากำลังจะทำโทษเจ้าที่บังอาจมาแช่น้ำอุ่นของข้ากับฮองเฮา กดจมูกโด่งลงบนแก้มใส เลื่อนริมฝีปากมาที่ปากบางบดเบียดทั้งๆที่ซีหยินตัวแข็งทื่อ มืออุ่นลื่นลงไปที่เอวบางลูบไล้เอวคอด ต่ำลงไปที่กลีบบุปผานุ่มมือ วนนิ้วมือไปมาไม่กล้าสอดล้วงเข้าไปเห็นได้ชัดว่าอีกคนตื่นกลัวเพียงใด“อ่าาา เจ้ายังไม่ต้องมือชาย ข้าต้องการเจ้า”กดเอวหนาถูไถเพิ่มความกระสัน“ฝ่าบาทอย่าเพคะเดี๋ยวฮองเฮาก็คงเข้ามา”หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย“นางบอกเจ้าอย่างนั้นหรือ”จมูกโด่งเลาะเล็มที่หลังใบหู ลมหายใจร้อนผ่าว“พะพะเพคะ ฝ่าบาทได้โปรดปล่อยซีหยินก่อน”แม้จะปฏิเสธแต่ใจกับรู้สึกว่าอยากให้อี้ซาทำมากกว่านั้น“ยะยะอย่าเพคะ”ส่งเสียงกระเส่า“หืมม กล้าห้ามข้าหรือ” พลิกร่างบางมาประชิดตัว ร่างเปลือยแนบชิดในน้ำอุ่น อี้ซาประกบริมฝีปากเข้ากับปากบางใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คิดถึงบทรักเร่าร้อนหอมหวานอาจจะยากไปหน่อยแต่ก็ทำให้คิดถึงครั้งแรกกับเปาหลิว ทำให้เขาคิดถึงเปาหลิวขึ้นมาในทันที ป่านนี้นางคงไปเปลือยกายรอเขาที่ห้องบรรทมของนาง รอเขาเสพสมกับซีหยินแล้วเขาก็คงจะต้อ