“ลูก แวะไปหานางที่หอนางโลมได้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพาตัวเองมาถึงนี่ นางเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ลูกติดใจอะไรหนักหนา แค่เพียงครั้งสองครั้งก็พอ”ซีหยินสะอื้นเบาๆ
“หงเหวินจะมากไปแล้ว”
“ท่านแม่ ข้าไม่รับนางในฐานะเมีย อยากจะไล่นางเสียเดี๋ยวนี้”
ซีหยินหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้น หงเยว่ส่ายหน้าไปมา
“เจ้ามีหญิงที่หมายปองหรือไร หงเหวินบอกแม่มาหากเป็นเช่นนั้นข้าจะสู่ขอคนที่เจ้าหมายปองให้นางอยู่ในฐานะฮูหยินรอง อย่างน้อยนางก็น่าสงสาร”หงเหวินทำสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่มี ข้าไม่มีหญิงใดหมายปอง”
ใจกลับคิดถึงเปาหลิวแต่ภาพความทรงจำที่ถูกนางปฏิเสธและเรื่องที่นางไม่เลือกเขาทั้งๆ ที่เป็นของเขาแล้วกลับไปเลือกชายชราคราวพ่อมาเป็นสามียิ่งทำให้ หงเหวินเจ็บแค้น
“หรือจะให้แม่สู่ขอลูกสาวบ้านไหน”
“ไม่ต้อง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น…”
น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ
มารดาถอนหายใจยาว
จ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปยังห้องทำงาน ซีหยิน ในร่างไร้อาภรณ์ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดจากทางด้านหลัง
“ทำแบบนี้คิดว่าจะผูกใจข้าได้หรือ”
“แค่คุณชายเมตตา”
หงเหวินผลักร่างเล็กลงบนพื้น ไม่รอช้าบดจูบเร่าร้อน ซีหยินครางกระเส่า
“เจ้ามันก็เหมาะแค่นางบำเรอ หญิงพิสุทธิ์น่าหลงใหลกว่าเจ้าหาได้มากมายที่หอนางโลม”
ซีหยินสะอื้นเบาๆ เอวหนากระแทกลงอย่างหนักไม่สนใจรอยน้ำตา ซีหยินส่งเสียงร้องครางด้วยความเสียวกระสันและอยากเอาใจฟ่านหงเหวิน แต่เจ็บปวดใจเจ็บปวดที่รักคนผิดทำไมไม่เป็นคนอื่นทำไมต้องเป็นหงเหวินที่ร้ายกาจคนนี้ด้วย
เสร็จกิจ ก็ทำเป็นนิ่งเฉยปล่อยให้ ซีหยินทำความสะอาดรอยเปรอะเปื้อน
“ คุณชาย”
ลุงกวงเข้ามา ในห้อง เหลือบตามองซีหยินที่ย่อกายจากไป
“เดี๋ยวไม่ต้องยกน้ำชามา ข้ากำลังจะออกไปข้างนอก”ออกปากสั่งซีหยิน
ที่รีบทำตัวลีบออกจากห้องไป
“ฮูหยินที่สี่ บ้านตู้นางย้ายเข้าไปอาศัยในบ้านเสิ่นแล้ว” หงเหวินขมวดคิ้ว
“อย่าเรียกนางว่า ฮูหยินที่สี่ ข้าไม่ชอบใจเรียกนางคุณหนูเสิ่นเช่นเดิม”
“ขอรับ”ลุงกวงรับคำอย่างว่าง่าย
“ตู้อี้ซาจะกลับมา นางคงลดแรงเสียดทาน ลูกรักของท่านตู้กลับมาย่อมมีผลกับนาง”
วิเคราะห์ตามข่าวที่ได้ยินมาตู้อี้ซาคนนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน
“อีกไม่กี่วันจะแซยิดของท่านตู้ คุณชายจะไปร่วมงานหรือไม่”
“ไม่อยากพลาด ข้าเพิ่งได้รับเทียบเชิญ ขวบปีมานี้ข้าสามารถทำให้ท่านตู้วางใจข้าได้นับว่ายากไม่น้อย”
ตั้งใจไปดูหน้าเปาหลิวอยากรู้นักว่าเห็นหน้าเขาจะรู้สึกเช่นไร
“คุณชาย คุณชายกับ คุณหนูเสิ่นมีความสัมพันธ์ใดกัน”
“อย่ารู้เลย รู้แค่เพียงข้าจะต้องให้นางมาคุกเข่าแทบเท้าข้า”
เจ็บแค้นที่นางไม่เลือกเขาถึงสองครั้งสองครานั่นต่างหากคือความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกใคร
แซยิด 72ปีของท่านตู้ ผู้คนมากมายต่างนำของขวัญมามอบให้ด้วยความเคารพ ท่านตู้ในอาภรณ์สีทอง ยืนเคียงข้างฮูหยินทั้งสี่ ที่ล้วนสวมอาภรณ์งดงามไม่แพ้กัน เปาหลิวฮูหยินที่สี่ในอาภรณ์สีชมพูกี่เพ่าสวยหวานงดงาม จนหนุ่มน้อยใหญ่ต่างกลืนน้ำลายอิจฉาท่านตู้ที่มีฮูหยินที่สี่ยังสาวยังสวยเพียงนี้
ฟ่านหงเหวินก้าวเดินเข้ามาในงานด้วยกี่เพ่าในแบบบุรุษหนุ่มสีเข้ม ฝีเท้าที่มั่นคงไม่ได้มีความรู้สึกประหม่า
“โอ้ คุณชายฟ่านมาแล้ว”ท่านตู้เอ่ยปากทักทาย
“ท่านลุง นี่ของขวัญยื่นกล่องสีทองในมือให้ท่านตู้ที่ยิ้มกว้าง
“ฮ่าๆๆๆ เกรงใจเสียจริง ของขวัญของคุณชายฟ่านจะต้องไม่ธรรมดาแน่ เด็กๆ นำไปเก็บไว้เป็นพิเศษ”
“แค่เพียงนาฬิกาของเมืองฝรั่งที่ข้านำทองหลายพันช่างไปแลกมาก็เท่านั้น”พูดไป
ฟ่านหงเหวินเหลือบตามองเปาหลิวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าร่างอ้อนแอ้นเอวคอดกิ่วกับอกอูม ทำเขาต้องกลืนน้ำลาย คิดถึงรสสวาทที่ผ่านๆ มา ในใจกลับบอกตัวเองว่า อีกไม่นานหรอก แต่เปาหลิวหาได้สนใจเขาไม่ หันไปยิ้มให้กับแขกคนอื่นไม่สนใจจะมองหน้าเขาด้วยซ้ำไป
“ฮูหยินที่สี่”
ฟ่านหงเหวินยื่นมืออกไปตรงหน้า เปาหลิวมองมือทำสีหน้าเรียบเฉย
“เปาหลิว รู้จักคุณชายฟ่าน”
ท่านตู้เตือนดังๆ เปาหลิวเอื้อมมือแต่กลายเป็น หงเหวินที่คว้ามือบางบีบอย่างแรงจะดึงมือหนีก็กลัวว่า ท่านตู้จะผิดสังเกต
“รู้จักกันไว้ กิจการสองบ้านต้องพึ่งพากัน เจ้าต่อไปจะต้องช่วยอี้ซาดูแลกิจการแทนข้า”
ท่านตู้เอ่ยปาก ฟ่านหงเหวินยิ้มมุมปากก้มลงโค้งคำนับตรงหน้าเปาหลิวท่าทียียวน
“ยินดี ที่ได้รับใช้ต่อไปเราคงต้อง สานความสัมพันธ์กันมากกว่านี้”
บีบมือแรงๆ เปาหลิว ชักมือออก
“ไม่รบกวนดีกว่า ข้าไม่ชอบคบค้ากับบ้านฟ่านแต่ไหนแต่ไรแล้ว”ท่านตู้เลิกคิ้ว
“อือ เปาหลิวมีมารยาทหน่อย แม้ว่าบิดาเจ้าจะไม่ชอบพอกับคนบ้านฟ่านแต่เจ้าแต่งเข้าบ้านตู้แล้ว บ้านฟ่านถือว่าเป็นคู่ค้าที่ดี”
ท่านตู้เอ่ยปากตำหนิต่อหน้าหงเหวินที่เอาแต่ยิ้ม
“ท่านตู้เปาหลิวขอตัว ชวนซาคงอยากจะดื่มนมแล้ว”
ย่อกายจากไปท่านตู้ยิ้มสดใส
“เฮ้ออย่าถือสา เปาหลิวนางไปไหนได้ไม่นาน นางห่วงชวนซาต้องไม่ไกลกันแม้แต่ข้าบางทียังถูกลืม” ฟ่านหงเหวินหน้าตึงรู้สึกริษยาท่านตู้ไม่น้อย
แขกทั้งหลายเข้าไปในงานกันจนหมดแล้วเปาหลิวเดินกลับออกมาในงานที่เป็นห้องกว้างจัดโต๊ะอาหารไว้เป็นชุดนั่งดื่มกินแต่ที่มุมห้องนั้น หงเหวินกลับคว้ามือบางไว้“ลืม รสสวาทกันได้ลงคอ เจ้าคลอดลูกแล้วอยากจะลองเล่นรักกันดูอีกสักครั้งไหม”“หยาบช้าที่สุดข้าเกลียดท่านที่สุด ไปให้พ้นไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย”“ฮ่าาาาจะร้องต้องร้องครางด้วยไหม”ประกบริมฝีปากกับปากบางไว้เสีย กอดรัดดันร่างบางชิดมุมห้องไว้แน่น คนที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยร่างบางถูกบังไว้จนสิ้น“ปล่อยนะ” ขมเม้มริมฝีปากรสจูบยังติดตรึงใจไม่เปลี่ยน“อือกำลังสนุกจะปล่อยได้อย่างไร"บดเบียดริมฝีปากแน่นเปาหลิวกัดลิ้นอุ่นอย่างจัง“โอ๊ะ เจ้าอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะยอมแพ้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”ผละออกจากร่างบางของเปาหลิวที่วิ่งแน่บเข้าไปในงานฟ่านหงเหวินสบถเบาๆบรรยากาศในงานครึกครื้น ดื่มกินกันจนพอใจ ฟ่านหงเหวินเดินโซเซไปมา ดื่มไปไม่น้อย แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่เปาหลิวตลอดเวลาท่านตู้เดินขึ้นไปบนเวที ที่จัดไว้สำหรับนางงามมาร่ายรำและดนตรีขับกล่อม“ วันนี้วันมงคล ครบ72ปีของข้า อี้ซาเดินทางมาถึงแล้วในตอนนี้ อี้ซาขึ้นมานี่”อี้ซา ก้าวขายาวๆ
เสิ่นเปาหลิวถอนหายใจผู่หยงดึงมือเปาหลิวให้ขึ้นไปนั่งบนเกี้ยว ซีหยินมองตามร่างอ้อนแอ้นของเปาหลิวไม่วางตาเปาหลิวขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวบีบมือไปมา อากาศค่อนข้างหนาว พรุ่งนี้เช้าจึงได้กลับ ห้องที่ล็อกจากด้านในคงพอให้ป้าเหยาคิดว่าเปาหลิวอยู่ในนั้นทั้งคืน พรุ่งนี้จะต้องรีบกลับตั้งแต่รุ่งสาง กันความสังสัยเกี้ยวถูกหามลัดเลาะ ผ่านบ้านเรือนออกไปนอกย่านบ้านเรือนจนกระทั่งไปถึงสองข้างทางที่เป็นป่ารก เปาหลิวบีบมือของตัวเองที่เย็นเฉียบ บางคราความคิดก็สับสนอยากจะเลิกเสียกลางคันบอกให้เกี้ยวหันหลังกลับบางครั้งก็คิดว่ายอมๆ ไปเสียพรุ่งนี้จึงจะมีทอง มาใช้หนี้ทั้งยังเหลือทำทุนได้อีกไม่น้อย พอเลี้ยงคนบ้านเสิ่นที่ตั้งใจอยู่ช่วยกันบางส่วน คิดไปก็ยิ้มไป ก่อนที่จะเห็นแสงไฟท่ามกลางดงไผ่หนาทึบมีบ้านหลังใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในนั้นหากมองเผินๆ คงไม่เห็นแต่เมื่อเกี้ยวหยุดลงจึงรู้ว่าบ้านหลังนี้ ใหญ่โตเพียงใด“คุณหนูพรุ่งนี้ช่วงปลายๆ ของยามอิ๋น (03.00.04.59) เกี้ยวจะมารอรับ”คนหามเกี้ยวเอ่ยปากด้วยความนอบน้อมเสิ่นเปาหลิวหยิบก้อนเงินส่งให้คนหามเกี้ยว แล้วยืนนิ่งไม่ไหวติง“คุณหนูรีบเข้าไปเถิดข้างนอกหมาป่าและงูพิษมีมากมาย ในบ้านก็อ
จะเอื้อมมือดึงแขนแต่กลับพบสายตาตำหนิของคนถือตัว เฒ่าแก่เนี๋ยที่เพิ่งจะผ่านวัยสาวไปไม่กี่ปีก็หดมือเสีย คุณชายฟ่านผู้หยิ่งทะนงจะยิ้มหัวก็ไม่ มาที่นี่เพื่อหาความสำราญกับเรือนร่างหญิงงามที่พิสุทธิ์ผุดผ่องไม่นิยมกินของเหลือเดนของใคร“เชิญคุณชาย ซีหยิน เตรียมชงชา”ดวงตาเศร้าเงยขึ้นช้าๆ มองไปยังร่างสูงที่ เคยเห็นแทบจะทุกวันแต่ไม่เคยได้เข้าใกล้ด้วยมิใช่หญิงพิสุทธิ์อย่างที่ คุณชายฟ่านต้องการหลุบตามองพื้นก้าวเดินผ่านร่างสูงที่คว้าข้อมือบางไว้“เดี๋ยว”หัวใจบางๆ รู้สึกพองโต“ข้าขอเปลี่ยนเป็นสุราอุ่น”ดวงตางอนงามเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเแต่เพียงครู่เดียวก็ก้มหน้าดังเดิม“ได้หยินไหมเล่าซีหยิน คุณชายอยากได้สุราอุ่นเจ้าไปที่หอบ่มสุราให้เขายกสุราที่เพิ่งกลั่นเสร็จอุ่นๆ มาที่นี่”ชีหยิน ย่อกายก้าวเดินไป ฟ่านหงเหวินมองตามร่างอ้อนแอ้นอ่อนหวานนั้นจนลับตา“นางน่าสงสารเจ้าค่ะถูกขายตั้งแต่สิบสี่ ป่านนี้ยังไถ่ตัวเองไม่หมด ความจริงซีหยินนางต้องการออกไปทำการค้าเล็กๆ เลี้ยงตัว”ฟ่านหงเหวิน ทำหูทวนลมเสีย“เชิญคุณชาย”นั่งลงบนพื้นที่จัดไว้ ด้านหน้าเป็นโต๊ะตัวเตี้ย ชีหยินยกจอกสุรามาวางลงข้างๆ คุกเข่ารินสุราให้อย่า
“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิวในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้นบ้านเสิ่น“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้งป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ ในขณะเดียวกัน“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”ร่
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี ลุงกวงยิ้ม บางๆ“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วันเปาหลิวยิ้มเศร้าๆ“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน”“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยน
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิวที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้” หงเหวินปลดสายรัดเอวออกค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ เปาหลิวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หงเหวินกับใช้มือสองข้างดันขาเนียนให้แยกออกจากกันกดบั้นเอวลงไปเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความคับแ
“สำเร็จหรือไม่”หงเหวินเอ่ยปากถาม ลุงกวงเบาๆ ซีหยินยกจอกน้ำชายื่นส่งให้ตรงหน้าหงเหวินรับมาจิบช้าๆ“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชาย”“นางจะย้ายเข้าเมื่อไหร่กัน”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในใจตื่นเต้นไม่น้อย“ข้าน้อยได้ยินว่า จะย้ายเข้าไปทันที”“สามีชราของนางคงเสียดายแย่ นางเองก็คงเอือมสามีชราที่ไร้น้ำยาจึงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเผื่อว่าจะ มีบุรุษโง่งมสักคนหลงเข้าไป”ซีหยินย่อกายเดินออกจากห้องไป“คุณชาย ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำถึงเพียงนี้ บ้านหลังนั้นราคาไม่ถูกนักคุณชายกับไม่ยอมขายมัน แต่ยกให้ฮูหยินตู้เสียเปล่าๆ ”“ท่านลุงอย่ารู้เลย ข้ามีบางอย่างต้องสะสางกับนาง”หนึ่งปีก่อน“ คุณหนูเสิ่น แต่งเข้าบ้านตู้ในตำแหน่งฮูหยินที่สี่”ฟ่านหงเหวินยิ้มหยัน แม้จะรู้สึกเสียดายรสสวาทที่ฉ่ำหวานของเปาหลิว นางกับแก้เผ็ดเขาโดยการทอดกายให้กับใต้เท้าตู้ ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับบิดา ไม่รับทองคำที่เขาส่งไปยังบ้านเสิ่นคนที่นำทองคำไปที่บ้านเสิ่นบอกว่าพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวของและผู้คนหายไปจากบ้านเสิ่นไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่นานจึงได้ข่าวนางแต่งเข้าบ้านตู้ ตาแก่ตู้นั่นดีกว่าเขาตรงไหน ลีลาบนแท่นนอนดีกว่าเขาหร
“ตาแก่นั่นคงไร้น้ำยา ดูรึยังคับแน่นอยู่เหมือนเดิม”“หยาบคาย”สายคาดเอวมัดอีกคนติดกับแท่นนอนรอยยิ้ม ยียวนภายใต้เแสงไฟ“มารื้อฟื้นความหลังกัน” แหวกชายกระโปรงออกช้าๆ กดศีรษะลงไปลิ้นอุ่นซอกซอนที่กลีบบุปผาใช้ลิ้นอุ่นวน รอบๆ กระดกลิ้นรัวเร็วตรงกลางกลีบบุปผาจนเปาหลิวดิ้นพล่าน“ปล่อยข้านะ”“คนตาบอดยังรู้ว่าเจ้าเองก็ติดใจรสสวาทของข้า”“ไม่มีทาง”ลิ้นอุ่นยังซอกซอนกระดกเลีย จนน้ำหวานจากบุปผาฉ่ำเยิ้ม“อย่าปฏิเสธเลย เจ้าเองก็อยากให้ข้าทำแบบนี้”กดริมฝีปากลงบนปากบางบดเบียดเร่าร้อน เปาหลิวดิ้นรนเอาตัวรอด อุตส่าห์แต่งเข้าบ้านตู้ยังหนีไปไม่พ้นคนผู้นี้เอวหนากดลงบนกลีบบุปผาฉ่ำเยิ้มแต่คับแน่น“เห็นไหมแค่ทีสองทีก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ ข้ายินดีทุ้มเงินซื้อตัวเจ้าจากตาแก้ตู้นั่นคืน”“หยาบช้าไปให้พ้น ข้าเกลียดท่านท่านมันก็แค่คนมักมากปล่อยข้า”“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า ให้ข้าเชยชมอีกสักทีบางที เจ้าอาจติดใจ อย่าทำหยิ่งนัก ทองของข้าเจ้าก็ไม่ยอมรับหนีมาแต่งกับตาแก่นี่”“ข้าเกลียดท่าน ข้าไม่มีทางจะยอมญาติดีกับท่าน ท่านทำลายข้าแล้วทำให้ข้าอับอายแล้ว สมใจท่านแล้ว ยังจะตามรังควานข้าทำไมกั
แขกทั้งหลายเข้าไปในงานกันจนหมดแล้วเปาหลิวเดินกลับออกมาในงานที่เป็นห้องกว้างจัดโต๊ะอาหารไว้เป็นชุดนั่งดื่มกินแต่ที่มุมห้องนั้น หงเหวินกลับคว้ามือบางไว้“ลืม รสสวาทกันได้ลงคอ เจ้าคลอดลูกแล้วอยากจะลองเล่นรักกันดูอีกสักครั้งไหม”“หยาบช้าที่สุดข้าเกลียดท่านที่สุด ไปให้พ้นไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย”“ฮ่าาาาจะร้องต้องร้องครางด้วยไหม”ประกบริมฝีปากกับปากบางไว้เสีย กอดรัดดันร่างบางชิดมุมห้องไว้แน่น คนที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยร่างบางถูกบังไว้จนสิ้น“ปล่อยนะ” ขมเม้มริมฝีปากรสจูบยังติดตรึงใจไม่เปลี่ยน“อือกำลังสนุกจะปล่อยได้อย่างไร"บดเบียดริมฝีปากแน่นเปาหลิวกัดลิ้นอุ่นอย่างจัง“โอ๊ะ เจ้าอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะยอมแพ้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”ผละออกจากร่างบางของเปาหลิวที่วิ่งแน่บเข้าไปในงานฟ่านหงเหวินสบถเบาๆบรรยากาศในงานครึกครื้น ดื่มกินกันจนพอใจ ฟ่านหงเหวินเดินโซเซไปมา ดื่มไปไม่น้อย แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่เปาหลิวตลอดเวลาท่านตู้เดินขึ้นไปบนเวที ที่จัดไว้สำหรับนางงามมาร่ายรำและดนตรีขับกล่อม“ วันนี้วันมงคล ครบ72ปีของข้า อี้ซาเดินทางมาถึงแล้วในตอนนี้ อี้ซาขึ้นมานี่”อี้ซา ก้าวขายาวๆ
“ลูก แวะไปหานางที่หอนางโลมได้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพาตัวเองมาถึงนี่ นางเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ลูกติดใจอะไรหนักหนา แค่เพียงครั้งสองครั้งก็พอ”ซีหยินสะอื้นเบาๆ“หงเหวินจะมากไปแล้ว”“ท่านแม่ ข้าไม่รับนางในฐานะเมีย อยากจะไล่นางเสียเดี๋ยวนี้”ซีหยินหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้น หงเยว่ส่ายหน้าไปมา“เจ้ามีหญิงที่หมายปองหรือไร หงเหวินบอกแม่มาหากเป็นเช่นนั้นข้าจะสู่ขอคนที่เจ้าหมายปองให้นางอยู่ในฐานะฮูหยินรอง อย่างน้อยนางก็น่าสงสาร”หงเหวินทำสีหน้าเรียบเฉย“ไม่มี ข้าไม่มีหญิงใดหมายปอง”ใจกลับคิดถึงเปาหลิวแต่ภาพความทรงจำที่ถูกนางปฏิเสธและเรื่องที่นางไม่เลือกเขาทั้งๆ ที่เป็นของเขาแล้วกลับไปเลือกชายชราคราวพ่อมาเป็นสามียิ่งทำให้ หงเหวินเจ็บแค้น“หรือจะให้แม่สู่ขอลูกสาวบ้านไหน”“ไม่ต้อง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น…”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ มารดาถอนหายใจยาวจ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปยังห้องทำงาน ซีหยิน ในร่างไร้อาภรณ์ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดจากทางด้านหลัง“ทำแบบนี้คิดว่าจะผูกใจข้าได้หรือ”“แค่คุณชายเมตตา”หงเหวินผลักร่างเล็กลงบนพื้น ไม่รอช้าบดจูบเร่าร้อน ซีหยินครางกระเส่า“เจ้ามันก็เหมาะแค่นางบำเรอ หญิงพิสุทธิ์น่าหลงใหลกว
“คุณหนูเจ้าขา คุณชายตู้ชวนซา อยากดื่มนมแล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาพาร่างจ่ำม่ำเข้าในบ้านเสิ่นที่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยเพราะเพิ่งจะขนของเข้ามาเปาหลิวเปิดเสื้อขึ้นให้นมทารกน้อยที่เพิ่งจะอยู่ในวัยสี่เดือนอ้วนจ่ำม่ำน่าเอ็นดู ส่งเสียงอ้อแอ้ ตากลมจ้องมองใบหน้าของเปาหลิวเปาหลิวก้มลงจุมพิตที่แก้มเบาๆ ร่างอ้วนดื่มนมอย่างหิวกระหาย“ลูกแม่” ดวงตากลมนั้นไม่อาจปฏิเสธว่าเปาหลิวหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ น้ำตาไหลรินเมื่อเห็นหน้าเขาในครั้งแรก ท่านตู้ร้อนรนอยู่ด้านนอก พอเห็นว่าคลอดออกมาเป็นทารกเพศชายท่านตู้ถึงกับจัดงานเลี้ยงเปิดตัวตู้ชวนซา เคยคิดว่าจะเกลียดเขาแต่เปาหลิวเมื่อเห็นดวงหน้าอ้วนป้อมก็อดที่จะหลงรักเสียไม่ได้ ใบหน้าอ้วนคิ้วดกหนาละม้ายฟ่านหงเหวินอย่างปฏิเสธไม่ได้เปาหลิวหวนคิดถึงอดีตที่มีทั้งสุขทุกข์ปะปนยิ้มให้กับความสุขแต่ความทุกข์ก็ไม่ลืมว่าเคยเกิดขึ้นก่อนจะส่งร่างอ้วนให้กับ ป้าเหยา“คุณหนูเจ้าขาท่านตู้จะแวะมาทานข้าวที่นี่วันพรุ่งนี้คุณหนูจะต้องให้เตรียมอะไรบ้าง”ป้าเหยาเอ่ยปาก“ท่านตู้ไม่ได้มากเรื่อง แค่แวะมาเล่นกับชวนซา คงคิดถึงเจ้าตัวอ้วนไม่น้อย ข้ามาอยู่ที่นี่สองวันแล้ว”“ท่านตู้ตามใจคุณหนูยิ่งนัก
“ตาแก่นั่นคงไร้น้ำยา ดูรึยังคับแน่นอยู่เหมือนเดิม”“หยาบคาย”สายคาดเอวมัดอีกคนติดกับแท่นนอนรอยยิ้ม ยียวนภายใต้เแสงไฟ“มารื้อฟื้นความหลังกัน” แหวกชายกระโปรงออกช้าๆ กดศีรษะลงไปลิ้นอุ่นซอกซอนที่กลีบบุปผาใช้ลิ้นอุ่นวน รอบๆ กระดกลิ้นรัวเร็วตรงกลางกลีบบุปผาจนเปาหลิวดิ้นพล่าน“ปล่อยข้านะ”“คนตาบอดยังรู้ว่าเจ้าเองก็ติดใจรสสวาทของข้า”“ไม่มีทาง”ลิ้นอุ่นยังซอกซอนกระดกเลีย จนน้ำหวานจากบุปผาฉ่ำเยิ้ม“อย่าปฏิเสธเลย เจ้าเองก็อยากให้ข้าทำแบบนี้”กดริมฝีปากลงบนปากบางบดเบียดเร่าร้อน เปาหลิวดิ้นรนเอาตัวรอด อุตส่าห์แต่งเข้าบ้านตู้ยังหนีไปไม่พ้นคนผู้นี้เอวหนากดลงบนกลีบบุปผาฉ่ำเยิ้มแต่คับแน่น“เห็นไหมแค่ทีสองทีก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ ข้ายินดีทุ้มเงินซื้อตัวเจ้าจากตาแก้ตู้นั่นคืน”“หยาบช้าไปให้พ้น ข้าเกลียดท่านท่านมันก็แค่คนมักมากปล่อยข้า”“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า ให้ข้าเชยชมอีกสักทีบางที เจ้าอาจติดใจ อย่าทำหยิ่งนัก ทองของข้าเจ้าก็ไม่ยอมรับหนีมาแต่งกับตาแก่นี่”“ข้าเกลียดท่าน ข้าไม่มีทางจะยอมญาติดีกับท่าน ท่านทำลายข้าแล้วทำให้ข้าอับอายแล้ว สมใจท่านแล้ว ยังจะตามรังควานข้าทำไมกั
“สำเร็จหรือไม่”หงเหวินเอ่ยปากถาม ลุงกวงเบาๆ ซีหยินยกจอกน้ำชายื่นส่งให้ตรงหน้าหงเหวินรับมาจิบช้าๆ“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชาย”“นางจะย้ายเข้าเมื่อไหร่กัน”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในใจตื่นเต้นไม่น้อย“ข้าน้อยได้ยินว่า จะย้ายเข้าไปทันที”“สามีชราของนางคงเสียดายแย่ นางเองก็คงเอือมสามีชราที่ไร้น้ำยาจึงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเผื่อว่าจะ มีบุรุษโง่งมสักคนหลงเข้าไป”ซีหยินย่อกายเดินออกจากห้องไป“คุณชาย ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำถึงเพียงนี้ บ้านหลังนั้นราคาไม่ถูกนักคุณชายกับไม่ยอมขายมัน แต่ยกให้ฮูหยินตู้เสียเปล่าๆ ”“ท่านลุงอย่ารู้เลย ข้ามีบางอย่างต้องสะสางกับนาง”หนึ่งปีก่อน“ คุณหนูเสิ่น แต่งเข้าบ้านตู้ในตำแหน่งฮูหยินที่สี่”ฟ่านหงเหวินยิ้มหยัน แม้จะรู้สึกเสียดายรสสวาทที่ฉ่ำหวานของเปาหลิว นางกับแก้เผ็ดเขาโดยการทอดกายให้กับใต้เท้าตู้ ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับบิดา ไม่รับทองคำที่เขาส่งไปยังบ้านเสิ่นคนที่นำทองคำไปที่บ้านเสิ่นบอกว่าพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวของและผู้คนหายไปจากบ้านเสิ่นไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่นานจึงได้ข่าวนางแต่งเข้าบ้านตู้ ตาแก่ตู้นั่นดีกว่าเขาตรงไหน ลีลาบนแท่นนอนดีกว่าเขาหร
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิวที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้” หงเหวินปลดสายรัดเอวออกค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ เปาหลิวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หงเหวินกับใช้มือสองข้างดันขาเนียนให้แยกออกจากกันกดบั้นเอวลงไปเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความคับแ
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี ลุงกวงยิ้ม บางๆ“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วันเปาหลิวยิ้มเศร้าๆ“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน”“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยน
“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิวในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้นบ้านเสิ่น“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้งป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ ในขณะเดียวกัน“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”ร่
จะเอื้อมมือดึงแขนแต่กลับพบสายตาตำหนิของคนถือตัว เฒ่าแก่เนี๋ยที่เพิ่งจะผ่านวัยสาวไปไม่กี่ปีก็หดมือเสีย คุณชายฟ่านผู้หยิ่งทะนงจะยิ้มหัวก็ไม่ มาที่นี่เพื่อหาความสำราญกับเรือนร่างหญิงงามที่พิสุทธิ์ผุดผ่องไม่นิยมกินของเหลือเดนของใคร“เชิญคุณชาย ซีหยิน เตรียมชงชา”ดวงตาเศร้าเงยขึ้นช้าๆ มองไปยังร่างสูงที่ เคยเห็นแทบจะทุกวันแต่ไม่เคยได้เข้าใกล้ด้วยมิใช่หญิงพิสุทธิ์อย่างที่ คุณชายฟ่านต้องการหลุบตามองพื้นก้าวเดินผ่านร่างสูงที่คว้าข้อมือบางไว้“เดี๋ยว”หัวใจบางๆ รู้สึกพองโต“ข้าขอเปลี่ยนเป็นสุราอุ่น”ดวงตางอนงามเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเแต่เพียงครู่เดียวก็ก้มหน้าดังเดิม“ได้หยินไหมเล่าซีหยิน คุณชายอยากได้สุราอุ่นเจ้าไปที่หอบ่มสุราให้เขายกสุราที่เพิ่งกลั่นเสร็จอุ่นๆ มาที่นี่”ชีหยิน ย่อกายก้าวเดินไป ฟ่านหงเหวินมองตามร่างอ้อนแอ้นอ่อนหวานนั้นจนลับตา“นางน่าสงสารเจ้าค่ะถูกขายตั้งแต่สิบสี่ ป่านนี้ยังไถ่ตัวเองไม่หมด ความจริงซีหยินนางต้องการออกไปทำการค้าเล็กๆ เลี้ยงตัว”ฟ่านหงเหวิน ทำหูทวนลมเสีย“เชิญคุณชาย”นั่งลงบนพื้นที่จัดไว้ ด้านหน้าเป็นโต๊ะตัวเตี้ย ชีหยินยกจอกสุรามาวางลงข้างๆ คุกเข่ารินสุราให้อย่า