ซีหยิน ยืนหลบมุมมองไปยังประตูห้องพักรับรองแขกของบ้านฟ่านมือบางกำเข้าหากันจนรู้สึกเจ็บ กล้ำกลืนหยาดน้ำตาเสีย ซีหยินไม่มีทางหลั่งน้ำตาจะต้องทำทุกวิถีทางให้เป็นหนึ่งเสร็จกิจแล้วแค่เพียงกดจมูกโด่งลงที่แก้มบางของหรูหราน“คืนพรุ่งนี้ข้าจะแวะมา เจ้าแช่น้ำอบให้เรียบร้อย ข้าพึงใจเจ้ายิ่งนักอีกอย่างต้องสอนกันอีกมาก”หรูหรานยกมือขึ้นกอดรอบลำคอไว้“หรูหรานเป็นภรรยาท่านแล้วท่านยังจะส่งหรูหราน เข้าถวายตัวกับไท่จืออีกหรือ”“หืมมม เจ้ามาเพื่อการนี้ เพื่อถวายตัว ข้าไม่ได้บอกเจ้าหรือไรว่าสำหรับข้าในตอนนี้ยังไม่มีใครที่ข้าอยากให้เป็นภรรยา ทุกคนก็แค่คนที่ข้า…พึงใจ ข้ายังไม่ได้เลือกใครและอีกอย่างข้าต้องการเจ้า เจ้าเองก็ไม่ได้ขัดขืนอีกทั้งยังสุขสมไปด้วยกัน”หรูหราน ทำหน้าเศร้า“แต่หรูหรานชื่นชมท่านและๆ ทำเพื่อให้ท่านพอใจ”“ดีมาก เช่นนั้นถวายตัวกับไท่จือ ทำทุกวิถีทางให้เข้าโปรดปรานบางทีข้าอาจยอมใจอ่อนยกย่องเจ้าเป็นภรรยา แต่ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยเสียก่อน ระหว่างนี้ข้าจะหาทางพบเจ้า เรายังพบกันได้ แต่ไม่ควรจะบ่อยครั้งเพื่อแผนการจะได้สำเร็จ อดใจไว้ เรายังมีเวลาเสพสมอีกมาก”“หากแผนการสำเร็จคุณชายจะรับหรูหราน
“ข้าส่งคนคุ้มกันเจ้าดีไหม มือดีของบ้านตู้ที่คุ้มกันสินค้ามีไม่น้อย”เปาหลิวย่อกายลงช้าๆ“เปาหลิวขอบคุณ คุณชายด้วยใจจริง”“ท่านพี่ เจ้าเปลี่ยนคำเรียกขานข้าว่าท่านพี่ดีไหม จะได้คุ้นชินกันหากนับอายุเจ้าแล้วก็คงเป็นน้องข้า สักสามปีได้กระมัง”“ปีนี้เปาหลิวยี่สิบ”“หือ ข้า ยี่สิบห้าขวบปี เจ้าช่างไม่เหมือน หญิงอายุ20 ข้าเห็นว่าเจ้าวางตัว ได้ดีกว่าหญิงงามยี่สิบขวบปี”“คุณชายคิดว่า เปาหลิวแก่กว่าอายุหรือไร”ทำหน้าเง้า อี้ซายิ้ม“แน้ๆๆๆๆ ข้ายังไม่ได้พูดสักคำ แค่บอกว่าเจ้าวางตัวดี จนข้าแปลกใจ”เปาหลิวยิ้มทั้งสีหน้าและดวงตา“บางครั้งเปาหลิวก็อยากทำตามใจตัวเองดังเช่นหญิงทั่วไป แต่สิ่งที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าเปาหลิวควรจะโตได้เสียที ในเมื่อทุกคนในบ้านเสิ่นต้องการพึ่งพาเปาหลิว”“ต่อแต่นี้ข้าจะช่วยเจ้าแบ่งเบาเอง เจ้าไม่ต้องทำสีหน้าเคร่งขรึมอีกต่อไปแล้ว ข้า อยากเห็นเจ้ามีรอยยิ้มตลอดไป”เปาหลิวยิ้มบางๆ“ต่อไปต้องยิ้มบ่อยๆ เรื่องราวร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องพบกับความทุกข์อีกจากนี้ไป”วังหลวง“บ้านตู้สองสามวันก่อนจัดงานแซยิดของตู้อ้ายซา ราวกับงานพระราชสมภพของไท่จือ”ไท่จือ ฟงกัวฟาดตำราในมือลงบนโต๊ะเสี
“ซีหยิน ซีหยิน “เสียงตะโกนลั่นบ้านฟ่านของหงเหวินที่เมามายมาแต่ไกลซีหยินรีบลุกสวมเสื้อคลุมวิ่งมายังที่หงเหวิน ยืนโงนเงนอยู่ตรงเข้าประคอง“เจ้า ออกมาช้าต้องโดนทำโทษ”ดึงร่างบางไปกอดหอมที่แก้มเบาๆ“ข้ารักเจ้า”ซีหยินยิ้มหัวใจพองโต“ขารักเจ้า เปาหลิวถึงเจ้าจะไม่เคยสนใจข้าก็เถอะ ข้ารักเจ้ามาตั้งแต่แรกพบที่ไม่แต่งใครเพราะรอว่าเจ้าจะหันมองข้าบ้างได้ยินไหม ข้าทำแบบนั้นเพราะอยากให้เจ้าเป็นคนของข้าคนเดียว เปาหลิวอย่าใจร้ายกับข้านัก”คร่ำครวญราวกับ โลกทั้งใบถล่มลงไปแล้วในตอนนี้ซีหยินตัวชาเจ็บปวดในหัวใจแสนสาหัส จะต้องทำอะไร จะต้องทำแบบไหน หงเหวินถึงจะหันมอง ซีหยินที่ยืนอยู่ตรงนี้ แม้จะหวังสูงเพราะซีหยินเองก็แค่ลูกขอทานที่อาศัยขายร่างกายมาเพื่อแลกเงิน ไม่เคยพบกับความสุข ความสุขครั้งเดียวคือการที่ได้เป็นคู่นอนของฟ่านหงเหวิน“คุณชายไปนอนเถิด”ทั้งลากทั้งดึงให้เข้าไปในห้อง อากาศหนาวสิ้นดีแต่อีกคนกลับทิ้งตัวลงบนพื้น“เจ้ากีดกันข้าทุกทาง ปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าช่างใจกล้าทำกับข้าได้ลง เปาหลิวข้ารักเจ้าข้ารักเจ้าได้ยินไหม ลูกของเรา เจ้าไม่เคยเอ่ยปากบอกข้าสักคำข้าผิดมากใช่ไหม ทำกับเจ้ามากไปใช่ไหม
เปาหลิวเองอยากปฏิเสธความหวังดีแต่กลัวว่าจะเสียน้ำใจ ทั้งเห็นแก่ความดีของอี้ซาและความดีของท่านตู้ที่มีให้เสมอมาอี้ซาถือโอกาสนี้ รวบร่างบางมาแนบอก เปาหลิวดิ้นรนขัดขืนแต่เพียงครู่เดียวก็ยอมโอนอ่อน อี้ซากอดร่างบางไว้หลวมๆ ก้มลงมองสบตา“ข้า คงใจสลายหากว่าเจ้า…เป็นอันตราย” เปาหลิวยิ้ม อี้ซาโน้มตัวลงกดริมฝีปากกับปากบางเบาๆ เปาหลิวไม่ได้ขัดขืน เพราะไม่คิดว่าจูบจะรุกล้ำซอกซอน ลิ้นอุ่นลื่นตวัดรัดรึงซอกซอนควานหาความหวาน เปาหลิวขยับกายถอยห่างแต่อีกคนกับกอดรัดไว้แน่น ผลักรางบางให้ถอยหลังลงลงบนแท่นนอน ทาบทับไว้เสียเสียงหายใจหอบเหนื่อยของอี้ซาด้วยความรู้สึกภายในที่เปี่ยมล้น“ข้ารักเจ้าเปาหลิว รักเจ้าตั้งแต่แรกพบ ข้าต้องการเจ้าและไม่ยอมให้ใครแย่งเจ้าไปจากข้า”จูบหวานที่บรรจงมอบให้ เปาหลิวที่อยากจะขัดขืนแต่ก็ไม่อาจกระทำร่างกายไร้เรี่ยวแรง แต่ใจนั่นเล่าอยากจะปฏิเสธเขา ก็ในเมื่ออี้ซาดีเพียงนี้เปาหลิวจะทำให้เขาเสียใจไปเพื่ออะไรกัน มืออุ่นปลดอาภรณ์ของเปาหลิวออกช้าๆ ริมฝีปากยังทำหน้าที่ของมัน“คุณชายยยย”น้ำเสียงเบาหวิว ไม่อาจต้านทาน“ขอข้าเถอะเปาหลิว”เสียงสั่นกระเส่าอ้อนวอนจนเปาหลิวแทบจะใจอ่อน บดริมฝีปา
บ้านเสิ่น“เปาหลิว ขยับเสื้อผ้าให้เข้ารูปเข้ารอย นั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง อี้ซากุมมือไว้แน่น“ข้าขอโทษต่อไปข้าไม่ ..ข่มเหงเจ้าอีกแล้ว”เปาหลิวถอนหายใจยาว“เราสองคนยังไม่ได้แต่ง ท่านก็ไม่ได้ล่วงเกินอะไรข้า รอให้เราแต่งกันเสียก่อนตอนนี้ถึงแม้ข้าจะบอกว่าไม่ หากท่านเป็นคนที่ชอบข่มเหงก็ไม่มีทางจะยอมเลิกราคุณชายอย่าได้กังวลเราสองคนควรที่จะเรียนรู้กันไปทีละเล็กทีละน้อยดีไหม”พูดให้อี้ซาที่กำลังกังวลใจสบายใจขึ้น ความจริง หากเป็นคนอื่นก็คงจะไม่พอใจกับสิ่งที่เปาหลิวทำ เพราะเคยผ่านมือชายมาแล้วก็ยังถือตัวไม่ยอมให้ กับว่าที่สามีง่ายดายดังกับเป็นหญิงพรหมจรรย์อี้ซาก้มหน้าก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าช้าๆ“ข้าขอโทษจากใจ”คำพูดที่ออกมาจากใจ เช่นไรจะสัมผัสไม่ได้ ความจริงอารมณ์รักใคร่ล้วนไม่อาจระงับยับยั้ง หากปล่อยให้มาก มากจนระเบิดออกมา“ข้า จะแต่งเจ้าให้เร็วที่สุด ระหว่างนี้เปาหลิว ข้าจะให้คนมาตัดชุดแต่งงานให้เจ้าที่นี่ ส่วนพิธีการข้ารับอาสาดูแลเอง หวังว่าเจ้าคงไม่ปฏิเสธข้าอีก”เปาหลิวแค่เพียงยิ้มบางๆ จะปฏิเสธทำไมกัน ไม่ได้รอใคร ไม่ได้คาดหวังอะไรคนดีดีเช่นอี้ซา หาได้ง่ายดายหรือไร ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้านตู้ท
“คุณหนูเห็นใจข้าด้วย ทุกวันนี้คุณชาย มักจะอารมณ์ฉุนเฉียวและ เฉยชากับข้าหากมีเรื่องของท่านมากระทบความรู้สึกของคุณชาย คนที่ต้องรองรับอารมณ์ของคุณชายตคือข้าได้โปรดสงสารข้าด้วยเถิด”“เป็นท่าน เป็นท่านที่ยอมคนชั่วนั่นเอง”“คุณหนูท่าน ได้โปรดเถิดตอนนี้ข้ากำลังตั้งครรภ์หากคุณชายยังอารมณ์ฉุนเฉียวกับข้าแบบนี้ คิดว่าสงสารเราสองคนแม่ลูก ท่านเองก็มีลูกคงเข้าใจข้อนี้ดี”ยกมือขึ้นลูบท้องเบาๆ เปาหลิวถอนหายใจยาว“ข้า ข้าเห็นใจเจ้าเช่นนั้นสิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือ รีบแต่งกับคุณชายตู้เสียเจ้าจะได้สบายใจส่วนเขาเองจะได้ไม่ต้องมาข้องแวะกับข้าอีก” ซีหยินย่อกายจากไป เปาหลิวถอนหายใจยาวเหยียด สวมเสื้อคลุม ก้าวเดินออกจากบ้านเสิ่น“คุณหนูเจ้าขากำลังจะไปไหน”“ป้าเหยา เปาหลิวกำลังจะไปบ้านตู้ หารือเรื่องการแต่งงานเร่งวันแต่งงานระหว่างข้ากับคุณชายตู้ให้เร็วขึ้น”ป้าเหยายิ้ม“ดีจังเลยค่ะคุณหนูจะได้มีคนคอยปกป้องและอีกอย่างหญิงงามเช่นคุณหนูไม่ควรเป็นหม้ายนานๆ ”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆมีทางเดียวเท่านั้นที่ทำได้ในตอนนี้รถลาก แล่นมาเทียบตรงหน้า เปาหลิวก้าวขาขึ้นไปบนรถลาก“ไปบ้านตู้”เอ่ยปากเบาๆ“ขอรับ”รถเคลื่อนออกจากตัวบ้านเสิ่น
“หยุดรถ”เขาส่งเสียงดังลั่น คนลากรถหยุดชะงักในทันที ฟ่านหงเหวินกระโดดเข้าไปดึงตัวเปาหลิวที่จุกแอ่กให้ ลุกขึ้น“เกิดอะไรขึ้น”เสียงผู้คนเอ่ยปากถาม ฟ่านหงเหวิน ดึงเสื้อคลุมให้ปิดบังใบหน้าของเปาหลิว“ภรรยาข้าเราสองคนมีเรื่องบาดหมางกันนิดหน่อยนางจึง ตั้งใจกระโดดด้วยน้อยใจข้า ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงซินอ้ายเตอะ (ที่รัก) ข้าไม่ขัดใจแล้วเอาตามนี้ไปหออิงฟ้า เจ้าอยากจะอุ่นเตียงให้ข้าเวลากลางวัน ทำไมต้องเอาแต่ใจด้วย ข้ายอมเจ้าแล้ว เราไปนอนพักที่หออิงฟ้าจึงดี ที่นั่นงดงามยิ่งนัก”ทั้งดึงทั้งลากเปาหลิวให้ขึ้นไปบนรถลากที่จอดรออยู่เปาหลิวส่ายหน้าไปมารู้ว่าอีกคนโมโหแค่ไหน ดวงตาแข็งกร้าวที่สบตาน่ากลัวยิ่งนักอีกทั้งยังจุกจนพูดไปม่ออก ปล่อยให้หงเหวินลากตัวขึ้นไปบนรถลากคราวนี้กลายเป็นคีมเหล็กที่รั้งเอวบางไว้แน่นทั้งสองข้าง ดึงเข้าหาตัวจนเปาหลิวไม่อาจกระดิกกระเดี้ย“ปล่อยข้า ข้าหายใจไม่ออก”“อย่าใช้ลูกไม้เดิมๆ หากพูดมากข้าจะจูบเจ้า บนรถลากให้คนทั้งเมืองได้เห็น”เปาหลิวหลับตาปี๋ ยอมนั่งนิ่งไปจนรถลากมาถึงหออิงฟ้าที่เป็นที่พักคล้ายโรงเตี๊ยมห่างออกมานอกเขตวังหลวง ล้อมรอบด้วยดอกไม้นานาพันธ์ สะพานทอดยาดไปกลา
เปาหลิวหันมาฟาดมือลงบนใบหน้า ของหงเหวินอย่างแรงหงเหวินยิ้มหยัน“อย่าทำแบบนี้อีก”จ้องตา ด้วยสีหน้าดุดัน“ข้ากับ คุณชายตู้เราเป็นสามีภรรยากันแล้วถึงจะยังไม่ได้แต่งกันก็ตามแต่ข้ามอบกายให้เขาแล้ว หากไม่ยอมปล่อยข้าเท่ากับท่านเองก็โง่งมที่กินน้ำใต้ศอกคุณชายตู้เช่นกัน”“คนชั่วเช่นข้าหาถือสาไม่ อย่างไรเจ้าก็ยังเป็นของข้ามาก่อน ครั้งหรือสองครั้งข้าบอกแล้วว่าบุปผาของเจ้ามันก็ยังคง แน่นจนข้าสุขสมอยู่ดี”“หยาบคาย หยาบคายที่สุด” หงเหวินกระชากร่างบางลงบนแท่นนอนหนากลางห้องทิ้งตัวทาบทับ ล้วงมือเข้าไปในกระโปรงกี่เพ่าที่ รัดสะโพกกลมกลึง แต่แหกออกด้านข้างเพื่อเผยให้เห็นเรียวขาขาว มืออุ่นรุกล้ำเข้าไปในกลีบบุปผา สอดนิ้วเรียวเข้าไปในทันทีไม่ทันให้ได้หายใจหายคอ เปาหลิวขยับตัวคลานหนีอีกคนตะปบราวกับเสือร้าย ดึงซิปที่ต้นคอด้านหลังรูดลงมาจนเห็นแผ่นหลังขาวเนียนก้มลงใช้ลิ้นเลีย ไล่ลงมาตรงกลางแผ่นหลังดึงกี่เพ่าให้หลุดออกอย่างง่ายดายเมื่อซิปถูกรูดจนสุดที่เอวกิ่ว“ยังหอมหวานเหมือนเดิม”ดึงเอวบางให้ กระแทกเข้าที่เอวของเขา“กรี๊ด”มือบางไขว่คว้าหลบหลีก มือรั้งเอวบางให้แนบชิดเอวหนาของหงเหวินกระแทกเข้าที่บั้นท้ายงอนง
ด่านชายแดนร่างสูงของ ตู้อี้ซาก้าวขายาวๆ ยังค่าย ผู้ใช้แรงงานด่านชายแดน“ฟ่านหงเหวิน”ร่างผอมบางนอน อยู่แคร่ไม้ไผ่ ซูบผอมจนอี้ซาจำแทบไม่ได้เนื้อตัวมีแต่รอยแผลผุพองและรอยเลือดแห้งเกราะกรัง“อะอะอะ อี้ซา”“ข้า นำเงินมาไถ่ตัวท่าน อีกอย่างตอนนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีฮ่องเต้ไม่มีไท่จือทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันแล้ว ต่างชาติเข้ามาปกครองต้าชิงของเราจนสิ้น ฟ่านหงเหวินยิ้มเศร้าๆ“คงไม่ทันแล้วข้า คงไม่อาจกลับไปที่นั่น มิใช่แค่ไม่กล้าสู้หน้าเปาหลิวหากแต่แม้แต่ขยับกายข้ายังไม่อาจกระทำ ข้าทรมานเหลือเกินอี้ซาพูดกับนางแทนข้า บอกนางว่าข้าขอโทษ แค่กกก”เสียงหายใจหอบเหนื่อยอี้ซาลุกขึ้นมาชะโงกด้านหน้า“ใครก็ได้ตามท่านหมอข้ามีเงินทองมากมายตามท่านหมอมาตรวจดูอาการเขาที”คนติดตามมาประสานมือ“ท่านตู้ที่นี่ไร้หมอ อีกอย่าง”กระซิบข้างหูตู้อี้ซาเบาๆตู้อี้ซาหลับตาลงช้าๆ“มีเวลาอีกนานแค่ไหน”“อีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามขอรับ ตอนนี้คุณชายฟ่านกระอักเลือดสดๆ ออกมาตั้งแต่เมื่อวาน นี่ก็ถือว่ามีความอดทนที่สุดแล้ว คงเพื่อรอพบท่านตู้คุณชายฟ่านจึงยังอยู่ถึงตอนนี้”“แค่กๆๆๆ ”ข้าจะพาเขากลับต้าชิงพวกเจ้าหาเกี้ยวและคนเพื่อพาคุณชา
ดวงตาเบิกโพลง พ่นเลือดสดๆ ออกมาก่อนที่วิญญาณจะหลุดออกจากร่าง“ถอยไปถอยไป”ผู้คุมใช้ทวนในมือกันให้หงเหวินถอยห่างออกไป“ตายเสียแล้ว ขอรับนายท่าน”“เอาไปเผา ตอนนี้กำลังเกิดโรคระบาด เผาให้สิ้นซาก”หงเหวินทอดถอนใจเขตวังหลวงต้าชิง“นายหญิงเจ้าขา คุณชายน้อย กับท่านตู้กลับมาจากบ้านตู้แล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาเอ่ยปากเบาๆ เมื่อเห็นว่าเปาหลิวนั่งเหม่อมองไปไกล“ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับคุณชายด้วย อากาศข้างนอกหนาวเหน็บ ท่านตู้ตามใจคุณชายให้ออกไปตกปลาประจำ”“ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีน่าชื่นใจยิ่งนัก”“ป้าเหยา ข้าได้ยินว่าเกิดโรคระบาดด่านชายแดน”ป้าเหยายิ้มบางๆ“นายหญิงเจ้าขา อย่าห่วงเลยเจ้าค่ะโรคระบาดไม่มาถึงนี่”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆก่อนหน้านั้น“ เจ้าควรอภัยให้ฟ่านหงเหวินได้แล้ว เขารับกรรมที่ก่อไปแล้ว ต่อไปไม่แน่ว่าจะได้พบหน้ากันอีกหรือไม่ เขาฝากให้ข้าอี้ซาดูแลเจ้า แต่ทว่า เมื่อเจ้ายืนยันที่จะไม่แต่งกับข้าทางเดียวที่ทำได้คือ เราสองคนอยู่กันแบบสหายข้าสัญญาไม่มีทางทอดทิ้งโดดเดี่ยวเจ้า เงินทองที่เคยให้ก็ยังจุนเจือเหมือนเดิมที่ท่านพ่อเคยทำอย่างไรก็ยังอย่างนั้นเพราะเจ้าช่วยบ้านตู้ได้ไม่น้อยตอนนี้กิจการของบ้านตู้เป็น
“นี่เจ้า ตู้อี้ซาจะมากไปแล้วข้าเป็นถึงไท่จืออีกอย่างข้ากับฟงหงเหวินก็มีความสัมพันธ์อันดี ข้าจะให้ร้ายเขาได้อย่างไร”ตู้อี้ซายิ้มหยันหาได้รู้สึกหวาดกลัวในบารมีของฟงกัวไม่“ข้าได้ยินว่า ไท่จือยึดทรัพย์ของบ้านฟ่าน เป็นของตัวเองขับไล่มารดาของฟ่านหงเหวินออกจากแคว้นทรัพย์สินของบ้านฟ่านมีไม่น้อย แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วยังถึงกับจะตัดรากถอนโคนเชียวหรือ”ฮ่องเต้ชราโบกมือห้าม เพราะกลัวว่าไท่จือจะถูกเปิดโปงมากไปกว่านี้และจะทำให้ความศรัทธาลดน้อยลงไปฮ่องเต้ชราก้มลงกระซิบกับขันทีข้างกายที่ก้าวออกมายืนข้างหน้า“ละเว้นโทษตาย เนรเทศออกจากต้าชิง ให้ใช้แรงงานยังด่านชายแดน ส่วนทรัพย์สินที่ยึดไว้ส่งเข้าคลังหลวงทำนุบำรุงต้าชิงเสีย”อี้ซา ส่ายหน้าไปมา อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตของฟ่านหงเหวินไว้ได้หากเป็นก่อนนั้นคงถูกประหารทั้งๆ ที่ยังไม่ทันไต่สวนเดินไปข้างๆ ร่างผอมโซของฟ่านหงเหวินใบหน้าซีดเซียวหมดความองอาจที่ถูกจำกัดอิสรภาพโดยโซ่ตรวน“ข้าช่วยท่านได้แค่นี้จริงๆ คุณชายฟ่านขอให้ท่านโชคดี”“ข้า ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากด่านชายแดนได้หรือไม่ ข้า ..หวังเพียงว่านางจะอภัยให้ข้าและนางกับลูกของข้าจะมีความสุข อี้ซาดูแลน
ท้องพระโรง ฟ่านหงเหวินถูกคุมตัวมา ยังหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ขุนนางที่บ้านฟ่านเคยเกื้อหนุน ต่างถอนหายใจไม่อาจช่วยเหลือท่านตู้กับตู้อี้ซาสวมอาภรณ์แบบตะวันตก ท่านตู้ถือไม้เท้าพยุงตัวเหมือนแบบที่สมัยนิยม (ปีค.ศ1800ก่อนสงครามฝิ่น) ส่วนตู้อี้ซาสวมแว่นสายตาในมือถือไปป์“ตู้อ้ายซา ตู้อี้ซา ถวายพระพรฝ่าบาท”ฮ่องเต้ชราโบกมือให้ ทั้งสองคนลุกขึ้น ฟงกัวขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่พอใจ“ข้าน้อยสองคนเข้ามาฟังคำไต่สวน ความผิดของคุณชายฟ่านหงเหวิน” ฮ่องเต้ชรากระซิบกับขันทีชราข้างกายด้วยจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครคือฟ่านหงเหวินโบกมือให้ขันทีจีบปากจีบคอพูดแทน“ฟ่านหงเหวิน ความผิดลบหลู่เบื้องสูง กล้าส่งหญิงงามที่ด่างพร้อยมีรอยมลทินให้กับไท่จือประมุขตำหนักบูรพาด้วยหวังผลประโยชน์ในการส่งวัตถุดิบสำหรับห้องเครื่องเข้ามาในวังหลวงผูกขาดเพียงเจ้าเดียวมีความผิดมหันต์สมควรได้รับโทษตาย ประหารเจ็ดชั่วโครต แต่ด้วยพระบารมีและพระเมตตา จึงลดโทษให้แค่เพียงประหารตัวคนผิด คือฟ่านหงเหวินผู้ที่ทำการหลบลู่เบื้องสูงเท่านั้น”อี้ซา ยกไปป์ขึ้นจรดปากสูดควันเข้าไปเต็มปอดพ่นออกมาหนักหน่วง ไม่ได้สนใจสายตาของฮ่องเต้ ไท่จือหรือเหล่านางในที
“ทะทะไท่จือโปรดอภัยหรูหรานไม่ได้เป็นคนที่คิดจะหลอกลวงเบื้องสูง ตะตะแต่เป็นคุณชายฟ่าน ที่ ที่แอบพรากพรหมจรรย์ของข้าไปเสียก่อน” ฟงกัวยิ้มเย็น กระบี่ในมือเสียบเข้าที่ยอดอกของหรูหรานอย่างจัง“เลวที่สุดพวกเจ้ากล้า หลอกลวงเบื้องสูงกล้าหลอกลวงข้าคิดว่าข้าเป็นตัวตลกหรือไร”เช็ดรอยเลือดที่คมกระบี่ ก่อนจะก้าวขาจากไป“องครักษ์ส่งคนคุมตัวฟ่านหงเหวินมาที่ ตำหนักบูรพาข้าจะฆ่าเขาเสีย”กัดฟันจนเป็นสันนูน มิใช่แค่การเลี้ยงดูแต่ด้วยสันดานเดิมของ ฟงกัวที่ไม่เคยยอมใคร เขาจึงไม่ยอมให้ใครมาลูบคมได้ง่ายดายฟ่านหงเหวิน ป่านนี้คงเย้ยหยันที่เขา กินเศษเดนที่ฟ่านหงเหวินหยิบยื่นมาให้ฟ่านหงเหวิน กดริมฝีปากของกับปากบางของ เปาหลิวส่งต่อลมหายใจแบกร่างเล็กขึ้นบ่าวิ่งวนไปรอบๆ อี้ซาได้แต่ถอนหายใจ“แค่กๆๆๆ ”เปาหลิวส่งเสียงไอออกมาเบาๆ“คุณชายฟ่าน พานางไปที่ร้านหมอจะดีกว่า”อี้ซาเอ่ยปาก เมื่อเห็นว่าฟ่านหงเหวินทำอะไรไม่ถูก ด้วยความห่วงใยเปาหลิวฟ่านหงเหวินรีบอุ้มร่างบางของเปาหลิวยังร้านหมอแต่ไม่ทันจะก้าวเข้าไปในร้านหมอ ทหารนับสิบต่างวิ่งเข้ามารายล้อมรอบตัว“เกิดอะไรขึ้น”หงเหวินถามด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ“ฟ่านหงเหวินหลอกลวงเ
“ข้า ปักใจกับฟงหงเหวินก่อนที่จะถวายตัว เป็นฝ่าบาทที่ฝืนใจข้า และเป็นนางที่แย่งชิงเขาไป ข้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาใกล้ชิดข้า แม้ว่าเขาจะไม่มีใจให้ข้าก็ตาม”ฟงหงเหวินยิ้มหยันอี้ซายิ้มเศร้าเจ็บปวดใจอย่างที่สุดคำหวานของเปาหลิวที่ผ่านมา วนเวียนในหู นางล่อหลอกจนเขาตายใจเพื่อให้ฟงหงเหวินเข้ามาในวังหลวงอย่างแนบเนียน“เจ้ามีใจให้ฟงหงเหวินอย่างนั้นหรือ”“ข้ารักพี่ฟงรักเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยรักหลิวหลิวคนนี้ก็ตาม เราสองคนไม่ควรต้องจากกัน เราสองคนไม่ควรต้องหลบซ่อน”เสียงแหบพร่า ฟงหงเหวินตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน“เจ้า เลือกเขาใช่ไหม เปาหลิวเจ้าเลือกฟงหงเหวิน ไม่เสียใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใช่ไหมฮองเฮา”ฟงหงเหวินเองก็เจ็บที่ใจภาพความทรงจำที่ร่างเล็กของหลิวหลิววิ่งตามเขายามเยาว์วัยยังติดอยู่ในใจเปาหลิวก้มหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดเหมือนเป็นการตอบรับอี้ซายิ้มหยันชักกระบี่ข้างกายองครักษ์หมายจะเสียบคมกระบี่เข้าที่อกกว้างของฟงหงเหวินที่ถูกองครักษ์จับตัวไว้เสียให้ตายลงบัดนั้นทว่า“ฝ่าบาทอย่า”เปาหลิวถลาเข้าไปขวางคมกระบี่ที่คมกริบ ด้วยแรงโทสะคมกระบี่ในมือของอี้ซาเสียบทะลุอกขาวของเปาหลิวเลือดสีแดงไหลทะลักซ
เปาหลิวนิ่งงันหนึ่งปีผ่านไปไม่มีคืนไหนที่ไม่ร่วมรักกันแต่ทว่าก็ไม่เคยตั้งครรภ์ใครกันที่ร่างกายมีปัญหาเปาหลิวหรือว่าอี้ซา"รอให้เปาหลิวหายาบำรุงร่างกายที่ดีเพื่อเตรียมพร้อม แต่ฝ่าบาทแน่ใจหรือว่าหากเปาหลิวตั้งครรภ์แล้วฝ่าบาทจะจะไม่ปันใจให้หญิงอื่น”"ไม่มีทางข้าสัญญาให้ข้าตายลงตรงหน้าก็จะรักเจ้าตลอดไป"เปาหลิวยิ้มกับคำสาบานซีหยินยกถาดชาเข้ามาอี้ซามองตามสะโพกกลมกลึงกับรู้สึก กระสันขึ้นมาในทันทีหยุดนิ่งไม่ยอมสางผมให้กับเปาหลิว ที่ลอบมองอี้ซาผ่านบานกระจก"คืนนี้เปาหลิวรอฝ่าบาท ไม่ต้องส่งอาภรณ์ไปฝ่าบาทรู้แล้วเช่นนี้ต้องมาเพราะเปาหลิวไม่อาจรอได้นานๆ อากาศหนาวหากให้รอนานจะบั่นทอนหัวใจ"อี้ซายังนิ่งมองเสี้ยวหน้าและอกอิ่มของซีหยินที่ดันเสื้ออกมาคิดถึงร่างเปลือยเปล่าในน้ำอุ่นที่เขาเสพสมเมื่อไม่นานผ่านมาเปาหลิวยิ้มมุมปาก อยากจะให้อี้ซาหลงใหลซีหยินบัดนี้ได้ดั่งใจแล้วส่วนเปาหลิวก็แค่รอว่าหงเหวินจะเจ็บช้ำแล้วหันมามองเปาหลิวบ้างก็เท่านั้นค่ำคืนมืดมิดนางกำนัลเตรียมน้ำอุ่นใส่ผงหอมดอกไม้ในอ่างใหญ่ที่ทำขึ้นสำหรับเปาหลิวในตำหนักชิงหนิงกงเพื่อให้นางสำราญกับการแช่น้ำอุ่นที่นางชอบ ปลดอาภรณ์ออกจนเหลือเพียงร่
"พี่ฟงท่าน ช่วยข้าแก้แค้นนาง ช่วยข้า ข้าเกลียดนาง"สะอื้นกับอกกว้างราวว่าน้ำตาที่หลั่งรินนั้นยิ่งมากเท่าไหร่ฟงเหวินยิ่งต้องรับผิดชอบในความแค้นของซีหยิน"ให้ข้าทำอย่างไร"ซีหยินปาดน้ำตา"ท่าน ช่วยให้ฝ่าบาทโปรดปรานข้าแล้วลืมเลือนนางไปเสีย"หงเหวินนิ่งงันคลายอ้อมกอดออกช้าๆเหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าซีหยินคือคนของอี้ซาไปแล้ว"พี่ฟงได้โปรด"เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นแต่หงเหวินกลับเบี่ยงตัวหลบเสีย"เจ้าเป็นคนของฝ่าบาทแล้ว โปรดปรานหรือไม่ข้าไม่อาจช่วยได้ อย่าทำแบบนี้อีกส่วนเรื่องของเจ้าข้าสัญญาจะพูดกับฮองเฮาทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ. .ยอม..เป็นคนของฝ่าบาท เจ้าไม่ได้ต้องการจะแก้แค้นนางแต่เจ้าต้องการที่จะเป็นที่โปรดปรานซีหยินบอกข้ามาตามตรงเจ้า ยินดีที่เป็นคนของฝ่าบาทใช่หรือไม่” ซีหยินก้มหน้า“พี่ฟง ข้า ข้าข้าไม่อาจปฏิเสธว่าข้า แอบชื่นชมฝ่าบาทเมื่อครั้งที่เข้ามาที่นี่แต่ พี่ฟงนาง ทำให้ข้าต้องเป็นของฝ่าบาทง่ายดาย แล้วๆๆๆ ฝ่าบาทก็ยัง มีนางในใจไม่เหลียวแลข้าทั้งๆ ที่เพิ่งจะพรากพรหมจรรย์ของข้าไป”“เจ้าแค้นเคืองฝ่าบาทริษยานาง ซีหยิน เดิมเจ้าไม่ใช่คนแบบนี้ ซีหยินเจ้าลองตรองดูว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่”"
อ้อมแขนแข็งแรงของอี้ซาลูบไล้ร่างเปลือยก่อนรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน“ปะปปล่อยเพคะ”“ข้ากำลังจะทำโทษเจ้าที่บังอาจมาแช่น้ำอุ่นของข้ากับฮองเฮา กดจมูกโด่งลงบนแก้มใส เลื่อนริมฝีปากมาที่ปากบางบดเบียดทั้งๆที่ซีหยินตัวแข็งทื่อ มืออุ่นลื่นลงไปที่เอวบางลูบไล้เอวคอด ต่ำลงไปที่กลีบบุปผานุ่มมือ วนนิ้วมือไปมาไม่กล้าสอดล้วงเข้าไปเห็นได้ชัดว่าอีกคนตื่นกลัวเพียงใด“อ่าาา เจ้ายังไม่ต้องมือชาย ข้าต้องการเจ้า”กดเอวหนาถูไถเพิ่มความกระสัน“ฝ่าบาทอย่าเพคะเดี๋ยวฮองเฮาก็คงเข้ามา”หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย“นางบอกเจ้าอย่างนั้นหรือ”จมูกโด่งเลาะเล็มที่หลังใบหู ลมหายใจร้อนผ่าว“พะพะเพคะ ฝ่าบาทได้โปรดปล่อยซีหยินก่อน”แม้จะปฏิเสธแต่ใจกับรู้สึกว่าอยากให้อี้ซาทำมากกว่านั้น“ยะยะอย่าเพคะ”ส่งเสียงกระเส่า“หืมม กล้าห้ามข้าหรือ” พลิกร่างบางมาประชิดตัว ร่างเปลือยแนบชิดในน้ำอุ่น อี้ซาประกบริมฝีปากเข้ากับปากบางใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คิดถึงบทรักเร่าร้อนหอมหวานอาจจะยากไปหน่อยแต่ก็ทำให้คิดถึงครั้งแรกกับเปาหลิว ทำให้เขาคิดถึงเปาหลิวขึ้นมาในทันที ป่านนี้นางคงไปเปลือยกายรอเขาที่ห้องบรรทมของนาง รอเขาเสพสมกับซีหยินแล้วเขาก็คงจะต้อ